แชร์

บทที่ 77

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
ในความคิดของบิดาลู่และมารดาลู่ นี่เป็นโอกาสดียิ่งที่จะได้เข้าหาจวนหนิงกั๋วกงจริง ๆ

ก่อนหน้านี้พวกเขาเสียแรงไปมากมายถึงทำให้ลู่จิ่นเหนียงแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องได้ เดิมทีหวังว่าจะได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้

ผลปรากฏว่าเยียนอ๋องเป็นคนยุติธรรมมาก ไม่เล่นพรรคเล่นพวก ไม่ให้จวนลู่อาศัยอำนาจบารมีใด ๆ ด้วยเหตุนี้ บิดาลู่กับมารดาลู่จึงค่อนข้างรู้สึกไม่พอใจ

หลังจากที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง ทั้งคู่ก็อกสั่นขวัญแขวน กลัวว่าจะถูกลู่จิ่นเหนียงดึงเข้าไปพัวพันด้วย อีกทั้งยังเคยคิดจะตัดขาดความสัมพันธ์กับลู่จิ่นเหนียง

ดังนั้นในช่วงเวลานี้พวกเขาจึงไม่เคยไปจวนเยียนอ๋อง ยิ่งไม่เคยไปเยี่ยมลู่จิ่นเหนียงเลย

เมื่อวานนี้เอง คนของจวนหนิงกั๋วกงมาหา บอกว่าคุณชายรองของพวกเขาชอบลู่จิ่นเหนียง ขอเพียงลู่จิ่นเหนียงออกจากจวนเยียนอ๋องก็ยินดีแต่งงานกับนาง

เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากราวกับหล่นลงมาจากสวรรค์สำหรับบิดาลู่กับมารดาลู่จริง ๆ

หลังจากนั้นเหล่าไท่จวินส่งคนมามอบจดหมายเชิญให้พวกเขา ให้พวกเขาไปจวนเยียนอ๋องเพื่อหารือเรื่องการอยู่หรือไปของลู่จิ่นเหนียง พวกเขาก็รู้สึกยินดีปรีดาจริง ๆ

แม้ว่าเรื่องลู่จิ่นเห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 78

    เดิมทีผู้อาวุโสในจวนเยียนอ๋องล้วนไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ เยียนซื่อต้องอ้อนวอนอย่างหนักถึงทำให้พวกเขาใจอ่อน ลู่จิ่นเหนียงถึงได้แต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องสมปรารถนา เนื่องจากวิธีการที่นางแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องไม่ค่อยเหมาะสมนัก นางจึงรู้สึกใจไม่เป็นสุขเล็กน้อย ดังนั้นเลยใส่ใจเรื่องฐานะเป็นพิเศษหลังจากที่ลู่จิ่นเหนียงแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแล้ว บรรดาผู้อาวุโสในจวนปฏิบัติต่อนางดีมากเสมอมาจริง ๆ แต่ตัวนางกลับคิดเปรียบเทียบเรื่องต่าง ๆ นานา กลัวว่าจะถูกปฏิบัติแตกต่างออกไป นางคิดเล็กคิดน้อยมากเกินไป เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมานั่งเปรียบเทียบหมด จนทำให้นางคิดเสมอว่าบรรดาผู้อาวุโสในจวนเยียนอ๋องไม่เมตตานางนางถามมารดาลู่ว่า “ท่านแม่ ท่านบอกว่าคุณชายรองรู้จักข้า? เหตุใดข้าถึงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาเลยสักนิดเดียวเล่า?”มารดาลู่พยักหน้า “ใช่แล้ว พ่อบ้านของจวนกั๋วกงบอกไว้เช่นนี้ คิดว่าเป็นเรื่องจริง”“เจ้าจำไม่ได้อาจเป็นเพราะเคยเจอกันในงานเลี้ยงที่มีคนมากมาย เขาเห็นเจ้า แต่เจ้าไม่สังเกตเห็นเขา”นางมองลู่จิ่นเหนียงแล้วเอ่ยว่า “อาเหนียงของข้างดงามเพียงนี้ จะถูกคนเฝ้าคิดถึงก็เป็นเรื่องปก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 79

    นางดูเหมือนทั้งรักทั้งชังอาจารย์ทั้งเก้าของนาง ปากนางเอ่ยคำพูดที่รุนแรง แต่ในใจเหมือนใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกเขามาก เขาจึงเอ่ยว่า “ได้ เช่นนั้นก็บอกตามความจริง” ระหว่างที่เอ่ย รถม้าก็มาถึงศาลต้าหลี่แล้ว ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานลงจากรถม้าด้วยกัน หลังจากที่เดินไปถึงหน้าประตูแล้วเอ่ยกับข้าราชการชั้นผู้น้อยที่เฝ้าประตู ข้าราชการชั้นผู้น้อยก็เข้าไปรายงานไม่นาน ข้าราชการชั้นผู้น้อยก็ออกมาอีกครั้งแล้วพาพวกเขาไปที่ห้องทำงานของเหวยอิ้งหวนเหวยอิ้งหวนดูเหมือนเพิ่งกลับมาถึงศาลต้าหลี่ มีดินเปรอะเปื้อนตัวของเขาไม่น้อย ศีรษะก็ถูกลมพัดจนกระเซอะกระเซิงเล็กน้อย ดูยุ่งเหยิงอยู่บ้างเพียงแต่สีหน้าของเขายังคงเยือกเย็นสงบนิ่งพันปีไม่เปลี่ยนแปลง “คุณชายสามมาพอดี ข้ากำลังจะไปหาท่านที่จวนอ๋องอยู่เลย”เยียนเซียวหรานประสานมือคารวะเขาแล้วก็ถามว่า “ใต้เท้าเหวยหาข้าเพราะเรื่องสุสานหลวงใช่หรือไม่?”“ดูท่าทางของใต้เท้าเหวย เพิ่งจะกลับมาจากสุสานหลวงสินะ?”เหวยอิ้งหวนพยักหน้า “ถูกต้อง ข้าเพิ่งกลับมาจากสุสานหลวง ในใจมีข้อสงสัยบางอย่าง อยากสอบถามคุณชายสาม”เยียนเซียวหรานถามเขาว่า “ใต้เท้าได้เห็นศพคนชุดดำพว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 80

    เหวยอิ้งหวนยังคงตอบว่า “นางเองก็ไม่รู้ฐานะตัวตนของคนผู้นั้น รู้เพียงว่าคนผู้นั้นจ่ายหนักมาก” ซือเจ๋อเยว่ไม่ค่อยแปลกใจกับคำตอบนี้ ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการทำร้ายจวนเยียนอ๋องจะต้องซ่อนฐานะของตัวเองไว้อย่างแน่นอน ไม่ทางโผล่หัวออกมาไวขนาดนั้นเหวยอิ้งหวนกล่าวอีกว่า “การลอบสังหารคุณชายสามเมื่อคืนเป็นเรื่องใหญ่นัก ข้าจะกราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาท” เยียนเซียวหรานเอ่ยถามว่า “จำเป็นต้องให้ข้าเข้าวังกับใต้เท้าหรือไม่?”เหวยอิ้งหวนพยักหน้า “หากร่างกายของคุณชายสามไม่เป็นอันใด เข้าวังพร้อมกับข้าย่อมเหมาะสมที่สุด” ยิ่งสืบคดีเยียนอ๋องพ่ายแพ้ในการศึก ยิ่งมีข้อสงสัยมากขึ้น แม้เหวยอิ้งหวนเป็นผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ เป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดในการตัดสินโทษของต้าฉู่ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าเรื่องราวภายในเรื่องนี้ซับซ้อนมากต่อให้เป็นเขาก็รับผิดชอบไม่ไหว จำเป็นต้องให้ฮ่องเต้เจาหมิงตัดสินเรื่องนี้ด้วยตนเองทั้งสามคนปรึกษาหารือเรื่องเข้าเฝ้ากันคร่าว ๆ โดยจะให้เหวยอิ้งหวนยื่นฎีกาก่อน หลังจากที่กำหนดเวลาได้แล้วค่อยแจ้งให้เยียนเซียวหรานทราบแม้ว่าเยียนเซียวหรานจะเป็นคุณชายของจวนเยียนอ๋อง แต่เขาไม่ใช่เยียนอ๋อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 81

    “ขออภัยด้วย ขออภัย ข้าแค่เดาส่งเดชเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะเดาถูกด้วย” เหวยอิ้งหวน “...”เขาถลึงตาใส่ซือเจ๋อเยว่แวบหนึ่งแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ใครก็ได้ ส่งแขก!”ซือเจ๋อเยว่เขยิบเข้าไปใกล้เบื้องหน้าเขาแล้วกระซิบเบา ๆ ว่า “หากใต้เท้าเหวยอยากรีบร้อนแต่งภรรยามาอุ่นเตียงจริง ๆ บางทีข้าอาจจะช่วยคิดหาทางให้ท่านได้นะ” เหวยอิ้งหวนเอ่ยด้วยเสียงเข้มว่า “ต่อไปองค์หญิงโปรดระวังคำพูดด้วย”“องค์หญิงเอ่ยเรื่องที่ไม่ค่อยดีพวกนั้นมากไป หลังจากนั้นก็เป็นจริงขึ้นมาทั้งหมด เกรงว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์หญิงได้” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางเอ่ยว่า “เสื่อมเสียชื่อเสียงของข้า? ข้ามีชื่อเสียงอันใดอีกหรือ?” นางกล่าวจบก็เดินออกจากศาลต้าหลี่ไปพร้อมกับเยียนเซียวหราน เหวยอิ้งหวนชะงักไปครู่หนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าหลังจากที่นางเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว ก็มีข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับนางแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงต่อมาเรื่องราวต่าง ๆ ที่นางได้แต่งงงานเข้าจวนเยียนอ๋องทำให้ข่าวลือพวกนั้นทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น บัดนี้ผู้คนมากมายล้วนกล่าวว่านางเป็นตัวซวย เหวยอิ้งหวนประสบปัญหาด้านการแต่งงานมากจนได้ชื่อว่ามีดวงข่มภรรยาเช่นก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 82

    หลังจากที่นางเข้าวังครั้งก่อนก็ตัดข้อสงสัยนี้ไปแล้ว หากเรื่องนี้เป็นฝีมือของพระองค์จริง ๆ ทุกคนในจวนเยียนอ๋องคงหมดทางรอดไปนานแล้วบัดนี้ทุกคนในจวนเยียนอ๋องยังมีชีวิตอยู่กันหมด นั่นก็หมายความว่าอย่างน้อยพระองค์ไม่คิดจะกวาดล้างจวนเยียนอ๋องให้สิ้นซาก เพียงแต่ว่าต่อให้ฮ่องเต้เจาหมิงทราบดีแก่ใจว่าผู้ใดเป็นคนกระทำเรื่องนี้ นั่นก็คือพระโอรสของพระองค์ เกรงว่าพระองค์คงจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้นเรื่องเยียนอ๋องรบจนตัวตาย พวกเขาก็ดำเนินการตามขั้นตอนที่ควรทำในฉากหน้า ทว่าหากต้องการค้นหาความจริงล้างแค้นให้เยียนอ๋อง ก็ได้แต่อาศัยตัวพวกเขาเอง นางนึกถึงอีกเรื่องหนึ่ง “เสด็จพ่อกับซื่อจื่อล้วนไม่อยู่แล้ว จวนเยียนอ๋องเหลือเพียงท่านที่เป็นบุรุษผู้เดียว ท่านสามารถสืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋องได้ใช่หรือไม่?”นัยน์ตาของเยียนเซียวหรานหรี่ลงเล็กน้อย “เรื่องนี้ยังได้รับการเห็นชอบจากฮ่องเต้” “ส่วนผู้บงการเบื้องหลังที่ลงมือกับจวนเยียนอ๋อง พวกเขาคงไม่ปล่อยให้ข้าได้สืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋อง” ซือเจ๋อเยว่แค่ขบคิดถึงตรรกะในเรื่องนี้สักเล็กน้อยก็เข้าใจได้แล้ว พวกเขากลัวว่าเยียนเซียวหรานจะล้างแค้น ดังนั้นถึงไม่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 83

    แต่เด็กชายกลับไม่ยอมทำตามคำพูดนางมากนัก เขาเอามือข้างหนึ่งปัดมือของนางออก “ข้าไม่อยากกินขนม ข้าอยากเล่น!” เขากล่าวจบก็ถลึงตาใส่อวิ๋นไท่เฟยแล้วกล่าวว่า “ทุกครั้งที่ข้ามาที่นี่ ท่านก็ให้ข้ากิน ๆ ๆ ข้าไม่ใช่หมูนะ จะเอาแต่กินตลอดได้ที่ไหนกันเล่า!”อวิ๋นไท่เฟยถูกเขาโต้แย้งเช่นนี้ก็ไม่ได้โกรธ นางยังคงกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เช่นนั้นก็ได้ เจ้าบอกข้ามาสิว่าเจ้าอยากทำสิ่งใด ข้าตามใจเจ้าทุกอย่าง” เด็กชายมองไปรอบ ๆ เห็นซือเจ๋อเยว่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู ดวงตาของเขาก็ส่องประกาย “ให้นางหมอบลงกับพื้นเป็นม้าให้ข้าขี่”อวิ๋นไท่เฟยเห็นซือเจ๋อเยว่เช่นกันจึงเอ่ยว่า “ยังจะอึ้งอยู่ทำไม ยังไม่รีบหมอบลงอีก?” ซือเจ๋อเยว่ยิ้ม แล้วกวักนิ้วให้เด็กชายก่อนจะถามว่า “เจ้ามีนามว่าอะไร?” เด็กชายเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “นังทาสสุนัข เจ้ากล้าดีนักนะที่กล้าถามนามของข้า!” “ให้เจ้าหมอบลง เจ้าก็รีบหมอบลงให้ข้าเสีย มิฉะนั้นข้าจะเฆี่ยนเจ้า!” “โอ้!” ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยสีหน้าสนุกสนานว่า “ยังจะเฆี่ยนข้าด้วย ช่างร้ายกาจเสียจริง!” เด็กชายเอ่ยอย่างลำพองใจว่า “แน่สิ! ข้าคือองค์ชายเก้าที่เสด็จพ่อทรงรักเอ็นดูมากที่สุด ข้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 84

    องค์ชายเก้าร้องไห้ “แงๆ” เสียงดัง “เจ้ามีสิทธิอะไรมาตีข้า! ข้าจะส่งเจ้าไปที่กรมราชทัณฑ์ ข้าจะลงโทษเจ้า!” ซือเจ๋อเยว่มองเขาพลางเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ได้ เจ้ามาลงโทษข้าเลยสิ!”องค์ชายเก้ามองข้ารับใช้ในวังที่คุกเข่าลงกับพื้น นอกจากนี้อวิ๋นไท่เฟยที่ปกติคอยปกป้องเขาทุกเรื่อง เวลานี้กลับยืนโง่งมอยู่ตรงนั้น เขาก็ตะลึงงันอยู่ตรงนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าเมื่อคนเหล่านี้ไม่เชื่อฟังคำพูดของเขา เช่นนั้นเขาก็เป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ใครจะมารังแกก็ได้ทั้งนั้น แตกต่างกันมากเกินไปจริง ๆ จิตใจของเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เขากลัวนิดหน่อยแล้ว ทำได้เพียงร้องไห้สักพัก ไม่เอ่ยแม้กระทั่งคำพูดที่รุนแรง ซือเจ๋อเยว่ยื่นมือไปบิดหูของเขา “เมื่อครู่นี้อวดเก่งมากไม่ใช่หรือ? อวดเก่งต่อไปสิ!”องค์ชายเก้าเม้มปากกล่าวว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่?” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มน้อย ๆ “เมื่อครู่นี้บอกไปแล้วไม่ใช่หรือ ข้าคือพี่สาวของเจ้า” องค์ชายเก้าเบิกตามองนางโดยที่มีน้ำตาคลอ “เจ้าคือพี่สาวของข้า? เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน?” ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับว่า “นั่นเป็นเพราะข้าไม่ได้อยู่ในวังหลวงมาตั้งแต่เด็ก แต่อยู่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 85

    เขาหันหน้าไปมองซือเจ๋อเยว่แล้วเอ่ยว่า “อารามเต๋าสนุกหรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับว่า “ในความคิดของข้า สนุกกว่าวังหลวงมากนัก สามารถเล่นไปทั่วได้อย่างเต็มที่และไม่มีคนคอยคุม”“ฤดูใบไม้ผลิเก็บหน่อไม้ ฤดูร้อนจับตัวอ่อนจักจั่น ฤดูใบไม้ร่วงเก็บผลไม้ ฤดูหนาวเล่นเลื่อนหิมะ สนุกมาก ๆ เลย”“นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ยังสามารถทำเรื่องอะไรก็ได้ที่ตนเองอยากทำ เรียนรู้ทักษะที่สนุกสนานมากมาย”นางกล่าวจบก็หยิบกระดาษออกมาหนึ่งแผ่น ดูเหมือนพับส่งเดช แต่ก็พับออกมาเป็นกบกระดาษตัวหนึ่ง นางให้องค์ชายเก้ากดลงไปที่ก้นของกบกระดาษ จากนั้นกบกระดาษก็กระโดดไปข้างหน้าทันทีองค์ชายเก้าเบิกตาโต รู้สึกประหลาดใจไม่ไหวแล้ว ก่อนจะไปกดที่ก้นของกบกระดาษอีกครั้ง เล่นอย่างเบิกบานใจมาก เขาเล่นไปพลาง ตะโกนไปพลางว่า “พี่หญิง กบตัวนี้น่าสนุกเกินไปแล้ว ท่านทำได้อย่างไร?”อวิ๋นไท่เฟยมองซือเจ๋อเยว่ด้วยแววตาซับซ้อนมา นางไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด แม้ว่านายจะพยายามใช้วิธีการทุกอย่างเอาใจองค์ชายเก้า แต่องค์ชายเก้าไม่ค่อยสนิทสนมกับนางนัก อย่างไรก็ตามวันนี้ซือเจ๋อเยว่ทั้งตีทั้งดุด่าองค์ชายเก้า แต่องค์ชายเก้ากลับดูสนิทสนม

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 350

    คำพูดประโยคนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไรเพียงแต่เขายังจับใจความสำคัญได้อย่างหนึ่ง “วันแต่งงานวันนั้นท่านก็อยากจะลูบคลำข้าแล้ว?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวแก้ไข “ไม่ใช่ว่าอยากลูบคลำเจ้า เพียงแค่คิดว่าขาของเจ้าทั้งยาวทั้งตรง น่าดูจริง ๆ จึงอยากจะลูบสักครั้ง”เยียนเซียวหราน “...เขาคิดว่านางเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอีกครั้ง “ตอนหลังจำเจ้าได้ กลัวว่าเจ้าจะเอามีดฟันข้า ต่อให้ในใจมีความคิดมากกว่านี้ ก็ทำได้เพียงข่มเอาไว้เท่านั้น”เยียนเซียวหรานกล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านทำเรื่องแบบนั้นออกมาแล้ว ไม่คิดเลยว่ายังจะกลัวข้าลงมืออีก”“ต่อให้ข้าลงมือ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกกระมัง? เรื่องแบบนั้นอย่างไรเสียก็น่าอาย ข้าไม่สามารถบอกใครได้ ก็เหลือแค่อดทนไว้เท่านั้น”ซือเจ๋อเยว่เม้มริมฝีปากยิ้มบาง ๆ ทีหนึ่ง “พูดถูกต้อง แต่หลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นเจ้าก็ดุจริง ๆ นี่นา!”เยียนเซียวหรานค้อนนางทีหนึ่ง “หากมีคนฉวยโอกาสตอนท่านไม่ระวังตัว ทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน ท่านจะไม่โมโหหรือ?”ซือเจ๋อเยว่หดคอ “โมโหนั่นเป็นเรื่องแน่อยู่แล้ว ข้า...

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 349

    “สิ่งชั่วร้ายนั่นไม่มายังพอไหว ทันทีที่มาก็จะเอาชีวิตของพวกมันเสีย”นางมีความมั่นใจต่อค่ายกลที่ตนเองวาดมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ พวกเขายิ่งต้องเก็บสะสมพลังงานเอาไว้เยียนเซียวหรานพยักหน้าเบา ๆ ทีหนึ่ง นอนลงไปแล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆนางเงยหน้าขึ้นหันหน้ามองเขา เขากล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านนอนให้สบายเถอะ รักษาสุขภาพให้ดีขึ้น เรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างก็ต้องพึ่งพาท่าน”นับตั้งแต่เขาสารภาพรักกับนางครั้งก่อน ตอนที่ซือเจ๋อเยว่อยู่ตามลำพังกับเขาก็มักจะมีความไม่สบายใจเกิดขึ้นบัดนี้นางคิดว่าเขาได้ช่วยชีวิตนางมาหลายครั้งแล้ว ทั้งสองคนเคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามาก่อนเช่นกัน หากนางเขินอายจนเกินไปก็จะยากที่จะพูดนางคิดว่าไม่สู้ถือโอกาสในคืนนี้คุยเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยนางจึงกล่าว “คือว่า...ชีวิตของข้าในตอนนี้ผูกไว้กับเจ้า หากพูดว่าชอบเจ้าในเวลานี้ เหมือนว่ากำลังพยายามประจบเอาใจเจ้า”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบใครมาก่อน ไม่รู้ว่าการชอบเป็นความรู้สึกแบบใด”“แต่ว่ามีข้อหนึ่งที่ข้าสามารถแน่ใจได้ ข้าไม่ได้รังเกียจที่ใกล้ชิดกับเจ้า บางทีนี่อาจจะเป็นความชอบก็ได้”“สุขภาพของข้าเป็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status