แชร์

บทที่ 238

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
ลู่จิ่นเหนียงไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดประโยคนี้ นางโมโหจนหน้าแดง “เหตุใดคุณชายจึงได้เหยียดหยามคนเช่นนี้ แถมยังกล่าววาจากลับกลอกอีก?”

อวิ๋นเยว่หยางมองนางดั่งมองหญิงเสียสติ แล้วกล่าวว่า “ตั้งแต่แรกที่ข้าพูดก็คือรับเจ้าเป็นอนุ แล้วจะกลับกลอกได้อย่างไร?”

สีหน้าของลู่จิ่นเหนียงไม่น่ามองอย่างมาก นางยังคิดจะกล่าวสิ่งใดอีก แต่ลู่ฮูหยินรีบมาขวางนางไว้ “ล้วนเป็นความเข้าใจผิด! เป็นความเข้าใจผิด!”

“จิ่นเหนียงรบกวนคุณชายรองแล้ว ข้าขออภัยคุณชายรองไว้ ณ ที่นี้ด้วย”

อวิ๋นเยว่หยางแค่นเสียงเบาๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อจากไป

สภาพแบบนี้ ยังคิดจะเป็นภรรยาของเขา?

ช่างฝันเฟื่องเสียเหลือเกิน!

น้ำตาของลู่จิ่นเหนียงแทบจะไหลออกมาแล้ว “ท่านแม่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

ลู่ฮูหยินเห็นว่ารอบข้างมีคนรายล้อมเข้ามา จึงรีบดึงนางขึ้นรถม้า จากนั้นจึงกล่าวว่า “ที่พวกเราทำเช่นนี้ ก็เพื่อช่วยเจ้าทั้งนั้น!”

“จวนเยียนอ๋องก็จะตกอยู่ในอันตรายเต็มที หากแม่ไม่บอกว่าคุณชายรองเต็มใจแต่งเจ้าเป็นภรรยา แล้วเจ้าจะเต็มใจออกจากจวนเยียนอ๋องได้อย่างไร?”

ลู่จิ่นเหนียงตะลึงไปแล้ว “ดังนั้น ท่านรู้แต่แรกแล้วว่าคุณชายรองเพียงต้องก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
นางเอกเหมือนหมองูเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 239

    “มันก็นับว่าใจเด็ด ถึงกับแบ่งร่างวิญญาณของตนเป็นสองส่วน ถูกข้าเก็บไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนีไปแล้ว”เยียนเซียวหราน “…”เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า บนโลกนี้ยังมีเรื่องเช่นนี้อีกซือเจ๋อเยว่ถอนใจยาวออกมาอีกครั้ง “ครั้งนี้ข้าปล่อยมันออกมาโดยไม่ทันระวัง ด้วยนิสัยของมัน ต้องก่อความปั่นป่วนไปทั่วเมืองหลวงแน่”“ตอนนี้สภาพร่างกายของข้าไม่ค่อยดี คิดจะจับมันกลับมาไม่ง่ายเลย”“ถ้ามันไปกินวิญญาณเพิ่มจนแข็งแกร่งกว่าเดิม ก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก”เรื่องนี้เกินกำลังของเยียนเซียวหราน ต่อให้เขาอยากช่วยก็ช่วยไม่ได้เขาใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ท่านก็อย่าเพิ่งร้อนใจไป ในเมื่อพลังของมันลดลงไปมาก คิดว่าคงไม่อาจก่อปัญหาอะไรมาก”“ท่านดูแลร่างกายตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยไปหามัน”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “เจ้าพูดไม่ผิด ที่สำคัญคือตัวข้าในสภาพเช่นนี้ ต่อให้ตอนนี้ในใจข้าร้อนใจเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์”เมื่อครู่ตอนนางมาที่นี่ ก็ใช้คาถาไปมากมายคิดจะทำลายคาถาตรึงร่างของมัน แต่กลับไม่สำเร็จเลยตอนนี้นางเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ ย่อมไม่มีทางจะไปจับไป๋จื้อเซียนได้เรื่องนี้หากให้พวกท่านอาจารย์รู้เข้า นางต้องถูกตำหนิอี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 240

    แม้นางก็มีความประหม่าของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าเยียนเซียวหรานที่หน้าแดงน่ารักอย่างมากมุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย “พวกเราประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลธรรม ไม่จำเป็นต้องกลัวคำครหาของผู้อื่น”เยียนเซียวหรานเหล่ตามองนางทีหนึ่ง แม้เขาจะมิได้กล่าวสิ่งใด แต่กลับแสดงความหมายออกมาอย่างชัดเจนอย่างมากว่าพวกเขาในตอนนี้ เกรงว่าว่าจะไร้ความเกี่ยวข้องกับ ‘ประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลผิดธรรม’ อะไรนั่นเลยซือเจ๋อเยว่ “…”นางคิดดูแล้ว เพื่อความอยู่รอดในอนาคต นางอาจยังต้องกอดเขา จูบเขาอีก แถมมีความเป็นไปได้ที่จะต้องนอนกับเขาด้วยเมื่อคิดถึงความฐานะความสัมพันธ์ในนามของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยถูกต้องจริงๆนางพยายามแก้ต่างให้ตัวเองว่า “ข้าแค่คิดว่าร่างกายของข้าไม่ค่อยดี ถ้าข้าอาการกำเริบขึ้นมาเหนียนเหนียนอาจช่วยไม่ได้ ยังต้องเป็นเจ้า”เยียนเซียวหรานมองนางอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม มิได้เอ่ยวาจาเมื่อซือเจ๋อเยว่สบเข้ากับสายตานี้ของเขา ก็ยิ่งรู้สึกประหม่าในความผิดแล้วเพราะประโยชน์สูงสุดที่เขาอยู่ข้างกายนาง ก็คือการเป็นเครื่องยืดอายุ และการยืดอายุขัยยังต้องใช้วิธีที่วาบหวิวที่ส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 241

    อวิ๋นเยว่หยาง "…"ก่อนหน้านี้เขาคิดมาเสมอ หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กลับมาที่เมืองหลวง สิ่งเดียวที่นางสามารถพึ่งพาได้คือจวนหนิงกั๋วกงของพวกเขาเมื่อนางอยู่ต่อหน้าพวกเขา ต้องก้มต่ำทำตัวอ่อนน้อม ขอความเมตตาจากพวกเขา พวกเขาจึงจะพิจารณาว่าจะให้ผลประโยชน์เล็กน้อยแก่นางหรือไม่แต่ท่าทางของนางในยามนี้ ดูคล้ายว่านางไม่เห็นจวนหนิงกั๋วกงอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยเขามองไปที่ซือเจ๋อเยว่แล้วเอ่ยขึ้น "องค์หญิงเพิ่งกลับมาที่เมืองหลวง อาจจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของเมือง"ซือเจ๋อเยว่ยิ้มหัวเราะเสียงเบาแล้วเอ่ยขึ้น "ข้าเป็นถึงองค์หญิงของแคว้น จำเป็นต้องดูสถานการณ์อันใดหรือ?"ริมฝีปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "ข้าก็คือผู้กำหนดสถานการณ์!"อวิ๋นเยว่หยางได้ยินคำนี้รู้สึกว่านางรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!แม้นางจะเป็นองค์หญิง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่พ่อเสียชีวิต ไม่มีตระกูลแม่คอยสนับสนุน นางก็ไม่มีค่าอันใดเขาหัวเราะเยาะ "หวังว่าองค์หญิงจะไม่เสียใจในภายหลัง!"ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจเสียงเบา "บังเอิญเสียจริง ข้าไม่เคยเสียใจเลย""การที่วันนี้ท่านกล้าที่จะเอ่ยเช่นนี้กับข้า แท้จริงแล้วก็นับว่าช

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 242

    นางเอ่ยถึงตรงนี้แล้วเอ่ยต่อ "ไม่สิ ใช่ว่าเขาจะไม่เอาความ""เขาส่งท่านมาฆ่าข้า แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงในการฆ่าข้ากับท่าน"ใบหน้าของอวิ๋นเยว่หยางเปลี่ยนไปอีกครั้งซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจยาว "หากคุณชายรองอยากรู้เรื่องพวกนี้ สามารถมาหาข้าที่จวนเยียนอ๋องได้ในวันอื่น""น้องสาม ปล่อยเขาไปเถอะ พวกเรากลับกัน"เยียนเซียวหรานมองไปที่ใบหน้าของอวิ๋นเยว่หยางด้วยสายตาที่เย็นชา เก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วขึ้นไปนั่งบนคานรถม้าครั้งนี้อวิ๋นเยว่หยางไม่ได้ขวางพวกเขาอีกเพราะคำถามของซือเจ๋อเยว่แทงลึกเข้าไปในหัวใจของเขาวันนี้เขาวางแผนที่จะฆ่าซือเจ๋อเยว่ เดิมทีเพียงแค่ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำตอบแก่หนิงกั๋วกงหลังจากการลอบสังหารล้มเหลวเขาก็เปลี่ยนใจ อยากจะโน้มน้าวให้ซือเจ๋อเยว่อยู่ข้างเขา แล้วให้นางคิดแผนการเพื่อฆ่าคนในจวนเยียนอ๋องทั้งหมดแต่คำกล่าวของเขายังไม่ได้เอ่ยออกมา ก็ถูกเยียนเซียวหรานขัดจังหวะอย่างหยาบคายจากนั้นทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดคิด เขายืนอยู่ที่เดิมชั่วครู่ ก่อนจะรีบกลับไปที่จวนหนิงกั๋วกง เขาไปไถ่ถามหนิงกั๋วกงอย่างไม่อ้อมค้อม "ท่านพ่อ เมื่อวานนี้เกิดอันใดขึ้นในจวนกันแน่?"ห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 243

    การไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นนี้ เป็นเรื่องที่ทรมานสำหรับซือเจ๋อเยว่ เพราะร่างกายส่วนบนเคลื่อนไหวได้ แต่ส่วนล่างไม่สามารถทำได้ ทำให้นางต้องนอนอยู่บนเตียง ไม่สามารถไปที่ใดได้นางให้สาวใช้หาตำรามาให้นางอ่านเพื่อคลายความเบื่อนางเพิ่งจะอ่านไปได้สักพัก สาวใช้ก็ล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรงซือเจ๋อเยว่ตกใจอย่างยิ่ง เมื่อหันไปก็เห็นไป๋จื้อเซียนที่ยืนอยู่ในห้อง สีหน้าของนางจึงพลันเปลี่ยนไปอย่างมากนางรีบร่ายคาถา ไป๋จื้อเซียนยืนกอดอก มองนางอย่างอ่อนหวานด้วยสายตาที่เย้ายวน "นักพรตหญิงตัวน้อย อย่ากลัวเลย ข้าไม่ได้มาฆ่าเจ้า"ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าแม้ว่าเขาจะมีพลังเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ยังนับว่าเป็นผู้ที่ทรงพลังมากนางเอ่ยด้วยเสียงที่เย็นชา "เจ้ามาทำอันใด?"ไป๋จื้อเซียนมองห้องของนางอย่างสนใจ "คนที่บำเพ็ญเพียรอาศัยอยู่ในห้องที่หรูหราเช่นนี้ จะไม่ส่งผลต่อจิตใจหรือ?"แท้จริงแล้วห้องของนางในยามนี้นับว่าเรียบง่ายอย่างยิ่ง แต่เมื่อเทียบกับห้องที่นางที่เคยอยู่ในสำนักเต๋า มันก็นับว่าดูหรูหรากว่ามากซือเจ๋อเยว่วาดมือร่ายคาถา เอ่ยออกมาเสียงเบา "การบำเพ็ญเพียรคือการฝึกจิตใจ ไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง"ไป๋จ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 244

    ไป๋จื้อเซียนโจมตีด้วยความรวดเร็ว ในสถานการณ์ปกติ หากซือเจ๋อเยว่จะร่ายคาถาก็คงไม่มีเวลาป้องกันตัวได้ทัน ในดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความโหดเหี้ยม และความตื่นเต้นที่ล้นหลาม แต่เมื่อเขาใกล้เข้ามา ซือเจ๋อเยว่กลับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ดวงตาของนางก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเบื้องหลังยิ้มนั้นคือความมุ่งมั่นในการฆ่า ทั้งสองสบตากันชั่วครู่ แล้วต่างก็หรี่ตาเล็กลง ไป๋จื้อเซียนคิดจะถอย แต่กลับรู้สึกว่าอาจจะถูกนางหลอกอีกครั้ง ถึงอย่างไร ทั้งสองเคยปะทะกันมากี่ครั้ง เขาก็ถูกนางหลอกเท่านั้น ต้องเสียเปรียบนางเท่านั้นดังนั้นคราวนี้เขาจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อย จู่โจมตรงไปยังหัวใจของนางโดยตรง เล็บของเขาคมกริบ เพียงแค่สัมผัสก็สามารถเจาะลึกเข้าสู่ร่างได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เล็บของเขากำลังจะเจาะเข้าไปที่หน้าอกของนาง กระบี่ไม้ท้อเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาที่ฝ่ามือของเขาโดยตรงภาพเช่นนี้ราวกับว่าเขาถือกระบี่ไม้ท้อเอาไว้ในมือซึ่งมือข้างที่สัมผัสกับกระบี่ไม้ท้อข้างนั้นก็เริ่มมีควันลอยคลุ้งขึ้นมาแท้จริงแล้วในขณะที่ซือเจ๋อเยว่ปล่อยมือจากการร่ายคาถา ก็ได้ดึงกระบี่ไม้ท้อออกมาจากใต้หมอนแล้ว นางต่อกรกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 245

    ไป๋จื้อเซียนมองไปที่ซือเจ๋อเยว่แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นี่คือวิญญาณร้ายที่ท่านปล่อยออกมาโดยไม่ระวังหรือ?” ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ใช่! เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้มันโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง! เจ้าต้องระวังให้ดี!” ไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหรานที่กำลังปกป้องซือเจ๋อเยว่ เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอ่ยถามซือเจ๋อเยว่ “นี่คือคนที่เจ้าชอบใช่หรือไม่?” แน่นอนว่าในยามนี้ซือเจ๋อเยว่ไม่ยอมรับเพราะหากนางยอมรับไป จากที่นางรู้จักไป๋จื้อเซียน เขาคนนี้ต้องไปสร้างปัญหากับเยียนเซียวหรานแน่ เยียนเซียวหรานไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวิญญาณร้ายที่ฝึกฝนมาหลายพันปีอย่างไป๋จื้อเซียน นางจึงตอบไป “แน่นอนว่าไม่ใช่ เขาก็แค่ผู้ติดตามของข้าเท่านั้น” หลังจากนั้นนางก็ร่ายคาถาใส่ไปไป๋จื้อเซียนมองนางแล้วหันไปมองเยียนเซียวหราน ก่อนที่จะยกมือปัดป้องการโจมตีของนาง “ไม่ถูกต้อง เจ้าทั้งสองคนมีความผูกพันลึกซึ้งต่อกัน” “ถึงแม้เจ้าไม่ชอบเขา แต่เขาก็คงชอบเจ้า” ซือเจ๋อเยว่ “…” เยียนเซียวหรานชอบนาง? นี่มันเป็นไปไม่ได้! เพราะเยียนเซียวหรานเป็นคนที่มีมารยาทและจิตใจดีเยี่ยม สถานะของทั้งสองต่างก็เป็นที่ประจักษ์ เขาคงไม่มีทางหลงรักนางแน่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 246

    เขาอุ้มนางขึ้นเตียงพลางเอ่ยขึ้น “ท่านจงพักเสียแต่เนิ่น ๆ” เมื่อเอ่ยจบเขาก็จะเดินออกไป แต่ซือเจ๋อเยว่กลับรั้งข้อมือเขาไว้อย่างกะทันหันพลางเอ่ยขึ้น “คืนนี้เจ้าไม่ไปได้หรือไม่?” เยียนเซียวหราน “…” หากสตรีคนอื่นกล่าวกับเขาเช่นนี้ เขาคงตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง แต่เมื่อนางกล่าวเช่นนั้นกับเขา เขาก็รู้ดีว่าแท้จริงแล้วนางเพียงอยากให้เขาต่ออายุขัยให้เท่านั้น ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะขุ่นมัวหดหู่เล็กน้อย หันกลับมามองนางแววตาฉายความไม่อ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย พอซือเจ๋อเยว่ถูกสายตาเช่นนี้ของเขาจับจ้อง ก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ นางจึงค่อย ๆ ดึงมือกลับไป นางเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้าไม่ได้คิดจะหมายถึงเรื่องอื่น…” นางwไม่ได้อธิบายก็ดีแล้ว แต่ยิ่งอธิบายกลับยิ่งทำให้บรรยากาศดูประหลาดขึ้นไปอีก จึงรีบเอ่ยเสริม “ข้าก็แค่อยากลองดู ว่าพอจะทำลายคาถาของไป๋จื้อเซียนได้หรือไม่” “ไม่เช่นนั้น หากเขาบุกมาอีกหน ข้าไม่อาจเคลื่อนไหวได้ก็เสียเปรียบมากนัก” เยียนเซียวหรานไม่ได้เอ่ยอันใด แต่เดินไปอุ้มสาวใช้ที่สลบในห้องออกไป แล้วจึงลงกลอนประตู เมื่อเขากลับมานั่งลงข้างเตียงของซือเจ๋อเยว่ ถามขึ้น “แล้

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 294

    "ไม่มีคำว่าแต่อันใดทั้งนั้น" นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน "หากท่านไม่รีบออกไป อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!" ซือเจ๋อเยว่ "…" เมื่อคืนที่ผ่านมานางได้ยินเยียนเซียวหรานบอกว่าราชครูไม่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น และไม่ชอบพบเจอคนแปลกหน้า นางคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้น อย่างน้อยก็การที่เขาเร่งเดินทางไกลกลับมาเพื่อใช้กระบี่ฟันไป๋จื้อเซียนครั้งนั้น ก็หมายความว่าเขาหาใช่คนที่เพิกเฉยต่อปัญหาของผู้คนโดยสิ้นเชิง นางยังคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้ เมื่อเขาเดาเจตนาของนางได้ เขากลับส่งนักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวที่ดุดันมาไล่นางออกไป หากเรื่องนี้เกิดขึ้นที่อื่น นางคงจะบุกขึ้นเขาไปถามเขาให้รู้เรื่อง แต่ที่นี่คือเมืองหลวง อีกทั้งกระบี่ของเขาคราวก่อนทรงพลังจนเกินคาด ราชครูผู้นี้คงเป็นยอดฝีมือที่นางไม่อยากขัดแย้งด้วย ดังนั้น นางจึงทำได้แค่พาเยียนเซียวหรานเดินออกจากค่ายกลไปอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่พวกเขาก้าวออกจากค่ายกล นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวก็รีบปิดซุ้มประตูที่เชิงเขาทันที ซึ่งปกติแทบไม่เคยปิด เขาปิดประตูอย่างรุนแรงจนซือเจ๋อเยว่ที่เดินช้ากว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 293

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงไม่มีความจำเป็นต้องถามอีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า” ครั้งนี้เยียนเซียวหรานไม่ได้หันกลับมามองนางอีก และนางก็ไม่ได้รั้งเขาไว้ นางหมุนตัวแล้วเดินจากไป เยียนเซียวหรานมองเปลวเทียนที่ลุกไหวอยู่ในศาลบรรพชน ก่อนจะถอนหายใจเสียงยาว เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมาที่ห้อง นางครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเยียนเซียวหรานในปีนี้ นางคิดหลายตลบก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด ในสถานการณ์เช่นนี้ คำอธิบายเดียวที่ดูคล้ายจะสมเหตุสมผล คืออาจเป็นเพราะลุงเขยของเยียนเซียวหรานมาเยือน จึงทำให้เขาอารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ นางยักไหล่เล็กน้อย ไม่ใส่ใจจะคิดต่อ และหันไปวางแผนว่าหากได้พบกับราชครูในวันรุ่งขึ้น นางจะเกลี้ยกล่อมให้เขาช่วยจัดการไป๋จื้อเซียนได้อย่างไร เช้าวันรุ่งขึ้น เยียนเซียวหรานมาตามที่นัดไว้ เขาพานางไปยังหอพยากรณ์ดวงดาวเพื่อพบกับราชครู แม้จะเรียกว่าหอ แต่ที่แท้แล้วคือกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ที่อดีตฮ่องเต้สร้างขึ้นเพื่อราชครู ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งที่แห่งนั้น ก็สามารถเฝ้าดูดวงดาวและทำนา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 292

    แท้จริงแล้วราชครูมีการไปมาหาสู่กับเยียนอ๋อง ในเมืองหลวงเขาแทบไม่มีสหายที่ใด เยียนอ๋องกลับเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว ครั้งล่าสุดก่อนที่เยียนอ๋องจะออกศึก ราชครูเคยมาพบเยียนอ๋องครั้งหนึ่ง ส่วนพวกเขาหารือเรื่องใดกันนั้น เยียนเซียวหรานไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่ได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกันในห้องหนังสือ หลังจากจวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง ราชครูก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ในค่ำคืนนั้นเมื่อเยียนเซียวหรานพบราชครูที่เรือนพักในจวนหนิงกั๋วกง เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกในความทรงจำของเยียนเซียวหราน ที่ราชครูยอมเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ ปกติเมื่อเขาอยู่ในเมืองหลวง ก็มักจะพำนักอยู่ในหอพยากรณ์ดวงดาว ไม่ว่าจะมีเรื่องใดที่ไม่สำคัญจริง เขาจะไม่มีทางออกมา ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความกังวล “แต่ไป๋จื้อเซียนนั้นเป็นภัยใหญ่ ทั้งยังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย” “เกรงว่าไม่นานเกินรอเขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยิ่งจัดการยากขึ้น” “ไม่ว่าราชครูจะยินยอมพบข้าหรือไม่ ข้าคงต้องหาวิธีพบเขาให้ได้” เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะไปกับท่าน” ซือเจ๋อเยว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 291

    เขานึกถึงภาพในช่วงหลายวันที่ผ่านมายามนางนอนอยู่บนเตียงโดยไม่มีวี่แววของลมหายใจใด ๆ หัวใจเขาเจ็บปวดราวกับถูกบีบคั้นจนแทบทนไม่ได้ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่เสมอว่าสภาพร่างกายของนางไม่แข็งแรง แต่ทุกครั้งที่เขาได้พบนาง นางกลับมีรอยยิ้มเปี่ยมล้นบนใบหน้า ร่างกายของนางดูเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เขาไม่เคยคิดว่านางเป็นคนที่กำลังจะสิ้นลม และไม่เคยคิดว่าสภาพร่างกายของนางจะแย่ถึงเพียงนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับเตือนเขา ว่านางบอบบางยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิดไว้มากนัก เขาเอ่ยเสียงเบา “เรื่องนี้ข้าจัดการเองได้ องค์หญิงพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนให้ดีเถอะ”ซือเจ๋อเยว่หัวเราะเสียงเบา “สภาพร่างกายของข้า ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?” “เมื่อมีเจ้าอยู่ข้างกาย ข้าอาจอยู่ได้นานขึ้นอีกสักหน่อย แต่หากเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะตายเร็วขึ้นกว่าเดิม” เยียนเซียวหรานขมวดคิ้วแน่น บัดนี้เขาไม่อยากได้ยินคำว่า ‘ตาย’ อีกแล้ว ซือเจ๋อเยว่นั่งลงข้างเขา ใช้มือทั้งสองประคองคางของตนเองไว้พลางเอ่ยขึ้น “อีกอย่าง ไป๋จื้อเซียนนั่นเป็นข้าที่ปล่อยออกมาเอง” “เรื่องครั้งนี้จะไปโทษเจ้าไม่ได้หรอก หากจะโทษก็ต้องโทษข้า” “

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 290

    เยียนเซียวหรานหลุบตาลง “ท่านย่าสั่งสอนได้ถูกต้อง ครั้งนี้เป็นข้าที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตอนนี้องค์หญิงฟื้นแล้ว ท่านย่าลงโทษข้าเถิดขอรับ”เหล่าไท่จวินพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ท่านย่า เรื่องนี้โทษน้องสามไม่ได้จริง ๆ หากจะโทษก็ต้องโทษที่ตอนนั้นสถานการณ์พิเศษ”“ข้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอเข้ากับไป๋จื้อเซียนที่นั่น หากไม่ใช่เพราะน้องสามปกป้องข้าจนสุดชีวิตละก็ ข้าก็คงตายไปแล้ว”“ดังนั้นท่านย่าอย่าได้ลงโทษน้องสามเลย เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน”เหล่าไท่จวินถอนหายใจ “องค์หญิงไม่ต้องร้องขอความเมตตาแทนเขา เขาเป็นบุรุษ เดิมทีก็ควรปกป้องญาติผู้หญิงในครอบครัวอยู่แล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเยียนเซียวหราน เขายืนหน้านิ่งยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นนางมองมา ก็สบตากับนางแวบหนึ่ง แล้วก็เก็บสายตาคืนกลับมาซือเจ๋อเยว่รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “วันนั้นข้าเห็นเหนียนเหนียนหมดสติไปเช่นกัน เหนียนเหนียนไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เยียนเหนียนเหนียนโผล่หน้าออกมาจากทางด้านหลังของเหล่าไท่จวิน “ข้าไม่เป็นไร แค่หมดสติเป็นครู่เดียวเท่านั้น ในไม่ช้าก็หายดีแล้ว”“ร่างกายของข้าแข็งแรง องค์หญิ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 289

    ตอนที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นยันต์พวกนั้นก็หรี่ตาลงทันที เมื่อตระหนักได้ว่าทรงพลัง ก็โยกหลบอย่างรวดเร็วซือเจ๋อเยว่ฉวยโอกาสยื่นนิ้วออกไป ยันต์พวกนั้นก็ไล่ตามไป๋จื้อเซียนไป ร่างกายของเขามียันต์ห้าอัสนีบาตแผ่นหนึ่งแปะอยู่เขาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มองไปทางด้านนอกห้องแวบหนึ่ง รู้ว่าหากวันนี้ไม่หนีไป เกรงว่าจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ จึงวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วตอนที่เขาวิ่งหนี เมฆฝนก่อตัวขึ้น ไล่ตามเขาภายในชั่วพริบตา ทั่วทั้งเรือนเต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้อง ผู้ดูแลพาท่านหมอเดินเข้ามาพอดี ทันทีที่เห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนลูกตาเกือบถลนออกมาถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นไป๋จื้อเซียน แต่เขามองเห็นสายฟ้าบนท้องฟ้า เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสายฟ้าหน้าตาแบบนี้ทันทีที่ไป๋จื้อเซียนวิ่งหนี ห้องก็กลับคืนสู่สภาพปกติ ตะเกียงน้ำมันที่มุมห้องยังคงสว่างอยู่ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้น ทันทีที่หันหน้าไปมอง ก็เห็นว่าคนที่ฟันกระบี่ใส่ไป๋จื้อเซียนก็คือเยียนเหนียนเหนียนนางรู้สึกผิดปกติ ต่อให้นางแปะยันต์แผ่นหนึ่งบนกระบี่ของเยียนเหนียนเหนียน กระบี่เล่มนั้นของนางร้ายกาจกว่ากระบี่ทั่วไปเล็กน้อย ก็ไม่มีทางทำลายอาณาเขตที่ไป๋จื้อเซียนวางเอาเม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 288

    ครู่ต่อมา ซือเจ๋อเยว่หยิบอาวุธเวทย์อีกชิ้นหนึ่งออกมา เพียงแต่นางยังไม่ทันเข้าไปหา ก็ถูกเส้นผมสีดำของเขากวาดลอยกระเด็นออกไปเยียนเซียวหรานอยากจะเข้ามาช่วย แต่กลับถูกผ้าต่วนสีแดงรัดลำคอเอาไว้เขากล่าวอย่างยากลำบาก “องค์หญิง!”ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้นกระอักเลือดออกมา ไป๋จื้อเซียนไม่ได้เขยิบเข้าไปใกล้ตรงหน้าของนางพอดีเลือดพ่นใส่มือของไป๋จื้อเซียน มือของเขาเป็นรูทันทีเขาค่อนข้างประหลาดใจ “นักพรตหญิงน้อย ร่างกายของเจ้ามีความพิเศษนี่นา!”ปากเขาพูดไป มือกลับบีบลำคอของนางเอาไว้ “กินตบะของเจ้า จะต้องบำรุงมากแน่!”ร่างกายของซือเจ๋อเยว่ เป็นวิญญาณมาหนึ่งพันปี เป็นครั้งแรกที่ได้เจอร่างกายอย่างนางเขาเคยเห็นในหนังสือเล่มหนึ่ง หากได้กินวิญญาณของนาง เท่ากับเป็นการบำเพ็ญตบะห้าร้อยปีถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเคยประมือกับนางมาก่อน แต่ครั้งก่อนนางไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก เขาไม่รู้ว่านางจะมีร่างกายที่พิเศษเช่นนี้บัดนี้ค้นพบแล้ว ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันทีเพียงแต่คนที่มีร่างกายเช่นนาง เนื่องจากร่างกายพิเศษมากเกินไป ดังนั้นอยากจะกลืนกินนางก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซือเจ๋อเยว่ใช้มือปาดเลือดที่มุมปาก ยื่นมื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 287

    พวกเขาร่วมมือกันอยากจะจับตัวไป๋จื้อเซียนเอาไว้เป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งเรื่องหนึ่งเขารู้ว่าในเวลานี้ไม่มีเวลาห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนาง นางก็ต้องเป็นคนจบเรื่องนางพูดกับเยียนเซียวหรานเบา ๆ “เจ้าถ่วงเวลาเขาไว้สักสิบวินาที”เยียนเซียวหรานพยักหน้า มือของซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาอย่างรวดเร็วไป๋จื้อเซียนเห็นสัญลักษณ์มือของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้ายังจะจับตัวข้าเอาไว้อีกอย่างนั้นหรือ?”เขาพูดจบก็พุ่งตัวเข้ามาหานาง พุ่งตรงเข้ามาควักหัวใจของนางกระบี่ไม้ท้อในมือของเยียนเซียวหรานพันเข้าใส่ไป๋จื้อเซียนทันทีทั้งสองอย่างปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไป๋จื้อเซียนหัวเราะเบา ๆ “ฮ่า น่าสนุก! แต่วันนี้ ที่ตรงนี้เป็นถิ่นของข้า ข้าเป็นใหญ่!”เส้นผมสีดำของเขาแผ่สยาย ผ้าต่วนสีแดงบนร่างกายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว พุ่งเข้าใส่เยียนเซียวหรานที่แฝงไปด้วยเจตนาสังหารต่อให้วิชากระบี่ของเยียนเซียวหรานจะดีแค่ไหน กระบี่ไม้ท้อไม่ใช่อาวุธแหลมที่สามารถตัดโลหะหรือหยกได้ จึงถูกพันธนาการเอาไว้ทันทีเขารีบชักกระบี่ติดตัวของตนเองที่อยู่บริเวณเอวของตนเองออกมา ฟันเข้าใส่เส้นผมสี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 286

    ค่ำคืนนี้ ซือเจ๋อเยว่มาตามที่คาดไว้!เขามองเยียนเซียวหรานด้วยสายตาเย็นยะเยือก หันหน้ากลับไปมองค่ายกลที่ได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วแวบหนึ่ง ยิ้มอย่างชั่วร้ายเขาเฝ้าอยู่ที่ เป็นเพราะกลิ่นอายจากตัวของซือเจ๋อเยว่กับค่ายกลนั่นค่อนข้างคล้ายคลึงกับกลิ่นอายที่เคลื่อนตัวอยู่บนร่างกายหของอวิ๋นเยว่หยางครั้งก่อนที่เขาเจอกับเยียนเซียวหรานแบบรีบร้อนเกินไปหน่อย ประกอบกับซือเจ๋อเยว่ก็อยู่ตรงนั้นด้วย ดังนั้นเขาจำไม่ได้ในทันทีว่ากลิ่นอายบนตัวของอวิ๋นเยว่หยางคือกลิ่นอายของเยียนเซียวหรานในเวลานี้ทันทีที่ค่ายกลถูกทำลาย กลิ่นอายพวกนั้นก็ไหลย้อนกลับ เขาจึงสัมผัสได้อย่างชัดเจนความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนค่อนข้างเกิดความสนใจเป็นเพราะเขารู้ว่า เป็นการยากที่คนคนหนึ่งจะมีกลิ่นอายของคนอื่นติดอยู่อย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันก็เป็นไปไม่ได้หากติดแล้ว นั่นก็แสดงว่าโชคชะตาของทั้งสองคนรวมเข้าด้วยกันแล้วไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหราน กล่าว “น่าสนุก”เขาหันหน้าไปมองซือเจ๋อเยว่อีกครั้ง “นักพรตหญิงน้อย เจ้าหมอนี่ดีกับเจ้าเหลือเกินนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีชะตาชีวิตร่วมกันกับเจ้า”เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status