Share

บทที่ 244

Author: เจียงหนานเยียน
ไป๋จื้อเซียนโจมตีด้วยความรวดเร็ว ในสถานการณ์ปกติ หากซือเจ๋อเยว่จะร่ายคาถาก็คงไม่มีเวลาป้องกันตัวได้ทัน

ในดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความโหดเหี้ยม และความตื่นเต้นที่ล้นหลาม

แต่เมื่อเขาใกล้เข้ามา ซือเจ๋อเยว่กลับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ดวงตาของนางก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเบื้องหลังยิ้มนั้นคือความมุ่งมั่นในการฆ่า

ทั้งสองสบตากันชั่วครู่ แล้วต่างก็หรี่ตาเล็กลง

ไป๋จื้อเซียนคิดจะถอย แต่กลับรู้สึกว่าอาจจะถูกนางหลอกอีกครั้ง

ถึงอย่างไร ทั้งสองเคยปะทะกันมากี่ครั้ง เขาก็ถูกนางหลอกเท่านั้น ต้องเสียเปรียบนางเท่านั้น

ดังนั้นคราวนี้เขาจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อย จู่โจมตรงไปยังหัวใจของนางโดยตรง

เล็บของเขาคมกริบ เพียงแค่สัมผัสก็สามารถเจาะลึกเข้าสู่ร่างได้อย่างง่ายดาย

ในขณะที่เล็บของเขากำลังจะเจาะเข้าไปที่หน้าอกของนาง กระบี่ไม้ท้อเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาที่ฝ่ามือของเขาโดยตรง

ภาพเช่นนี้ราวกับว่าเขาถือกระบี่ไม้ท้อเอาไว้ในมือ

ซึ่งมือข้างที่สัมผัสกับกระบี่ไม้ท้อข้างนั้นก็เริ่มมีควันลอยคลุ้งขึ้นมา

แท้จริงแล้วในขณะที่ซือเจ๋อเยว่ปล่อยมือจากการร่ายคาถา ก็ได้ดึงกระบี่ไม้ท้อออกมาจากใต้หมอนแล้ว

นางต่อกรกั
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 245

    ไป๋จื้อเซียนมองไปที่ซือเจ๋อเยว่แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นี่คือวิญญาณร้ายที่ท่านปล่อยออกมาโดยไม่ระวังหรือ?” ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ใช่! เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้มันโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง! เจ้าต้องระวังให้ดี!” ไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหรานที่กำลังปกป้องซือเจ๋อเยว่ เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอ่ยถามซือเจ๋อเยว่ “นี่คือคนที่เจ้าชอบใช่หรือไม่?” แน่นอนว่าในยามนี้ซือเจ๋อเยว่ไม่ยอมรับเพราะหากนางยอมรับไป จากที่นางรู้จักไป๋จื้อเซียน เขาคนนี้ต้องไปสร้างปัญหากับเยียนเซียวหรานแน่ เยียนเซียวหรานไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวิญญาณร้ายที่ฝึกฝนมาหลายพันปีอย่างไป๋จื้อเซียน นางจึงตอบไป “แน่นอนว่าไม่ใช่ เขาก็แค่ผู้ติดตามของข้าเท่านั้น” หลังจากนั้นนางก็ร่ายคาถาใส่ไปไป๋จื้อเซียนมองนางแล้วหันไปมองเยียนเซียวหราน ก่อนที่จะยกมือปัดป้องการโจมตีของนาง “ไม่ถูกต้อง เจ้าทั้งสองคนมีความผูกพันลึกซึ้งต่อกัน” “ถึงแม้เจ้าไม่ชอบเขา แต่เขาก็คงชอบเจ้า” ซือเจ๋อเยว่ “…” เยียนเซียวหรานชอบนาง? นี่มันเป็นไปไม่ได้! เพราะเยียนเซียวหรานเป็นคนที่มีมารยาทและจิตใจดีเยี่ยม สถานะของทั้งสองต่างก็เป็นที่ประจักษ์ เขาคงไม่มีทางหลงรักนางแน่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 246

    เขาอุ้มนางขึ้นเตียงพลางเอ่ยขึ้น “ท่านจงพักเสียแต่เนิ่น ๆ” เมื่อเอ่ยจบเขาก็จะเดินออกไป แต่ซือเจ๋อเยว่กลับรั้งข้อมือเขาไว้อย่างกะทันหันพลางเอ่ยขึ้น “คืนนี้เจ้าไม่ไปได้หรือไม่?” เยียนเซียวหราน “…” หากสตรีคนอื่นกล่าวกับเขาเช่นนี้ เขาคงตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง แต่เมื่อนางกล่าวเช่นนั้นกับเขา เขาก็รู้ดีว่าแท้จริงแล้วนางเพียงอยากให้เขาต่ออายุขัยให้เท่านั้น ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะขุ่นมัวหดหู่เล็กน้อย หันกลับมามองนางแววตาฉายความไม่อ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย พอซือเจ๋อเยว่ถูกสายตาเช่นนี้ของเขาจับจ้อง ก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ นางจึงค่อย ๆ ดึงมือกลับไป นางเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้าไม่ได้คิดจะหมายถึงเรื่องอื่น…” นางwไม่ได้อธิบายก็ดีแล้ว แต่ยิ่งอธิบายกลับยิ่งทำให้บรรยากาศดูประหลาดขึ้นไปอีก จึงรีบเอ่ยเสริม “ข้าก็แค่อยากลองดู ว่าพอจะทำลายคาถาของไป๋จื้อเซียนได้หรือไม่” “ไม่เช่นนั้น หากเขาบุกมาอีกหน ข้าไม่อาจเคลื่อนไหวได้ก็เสียเปรียบมากนัก” เยียนเซียวหรานไม่ได้เอ่ยอันใด แต่เดินไปอุ้มสาวใช้ที่สลบในห้องออกไป แล้วจึงลงกลอนประตู เมื่อเขากลับมานั่งลงข้างเตียงของซือเจ๋อเยว่ ถามขึ้น “แล้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 247  

    เขายิ้มเยาะเย้ยตนเองในใจ “ข้ากำลังมุ่งหวังอันใดอยู่กัน?” “คาดหวังให้นางบอกว่านางชอบข้า ยอมอยู่ร่วมกับข้าหรือ?” “หรือคาดหวังให้นางเกิดความรู้สึกบางอย่างในความสัมพันธ์ แล้วเราก็ต้องทนทุกข์ไปด้วยกัน?” เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว ทั้งสองอย่างนี้ไม่มีทางเหมาะสมสำหรับพวกเขา เขารู้ดีว่า การตัดสินใจของนางนั้นถูกต้อง แต่เดิมพวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้เหมาะกับคำว่ารัก ซือเจ๋อเยว่วาดยันต์จนดึกดื่นค่อนคืนจึงหยุดพัก ขณะที่เยียนเซียวหรานยืนใต้หน้าต่างนางตลอดทั้งราตรีโดยไม่ขยับไปที่ใด เช้าวันต่อมา ซือเจ๋อเยว่ถูกเยียนเหนียนเหนียนอุ้มออกจากห้องไปทานอาหารเช้า นางหันมองรอบห้องแต่ก็ไม่เห็นเยียนเซียวหราน อยากเอ่ยปากถามสุดท้ายก็รู้ว่าไม่ควร แม้ในนามฐานะของนางจะสามารถถามได้ แต่นางกลับรู้สึกประหม่าในใจ พระชายาเยียนอ๋องบอกกับสาวใช้ “เจ้าจงสั่งคนในครัว ให้พวกเขาทำอาหารจานโปรดของเซียวเอ๋อร์ในช่วงเที่ยง” ซือเจ๋อเยว่หันมามองพระชายาเยียนอ๋องด้วยความสงสัย พระชายาแย้มยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “เช้านี้เซียวเอ๋อร์ออกไปหาซูเซียงแล้ว” “จวนเยียนอ๋องเราขึ้นมาด้วยบารมีการสงคราม บัดนี้ฝ่าบาทยังไม่ได้ลงพระราชโองการให้เซียวเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 248  

    ซือเจ๋อเยว่รู้สึกอย่างแท้จริงจากก้นบึ้งหัวใจ ว่าฮ่องเต้เจาหมิงเป็นบุรุษที่ไม่รักษาสัจจะ! เมื่อวันนั้นพระองค์ยังเอ่ยไว้ว่าจะให้นางเข้าเฝ้าวังให้น้อยลง เพราะไม่ต้องการพบเห็นหน้านาง แต่เวลานี้กลับส่งคนมาเรียกให้นางเข้าเฝ้าอีก นี่พระองค์ประสงค์จะก่อเรื่องอันใดกัน? ซือเจ๋อเยว่จึงให้เยียนเหนียนเหนียนอุ้มนางออกไปพบขันทีจากวัง แล้วกล่าวตอบไปอย่างเรียบเฉยว่าวันนั้นระหว่างทางข้ากลับจากวัง เผลอพลัดตกจนขาข้าได้รับบาดเจ็บ บัดนี้ไม่อาจเดินได้ ขันทีเห็นนางในสภาพนี้ก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดมาก ได้แต่รีบกลับไปรายงานสถานการณ์เช่นที่เป็น ครั้งนี้ผู้ที่ส่งคนมาเชิญซือเจ๋อเยว่คืออวิ๋นไท่เฟย เมื่อทราบว่าขันทีนำตัวซือเจ๋อเยว่มาไม่ได้ นางก็โมโหจนด่าทอเสียยกใหญ่ พร้อมขว้างปาสิ่งของจนแตกกระจาย อวิ๋นไท่เฟยไม่ได้คิดว่าซือเจ๋อเยว่จะขาพลิกจริง นางมั่นใจว่านางหาเรื่องปฏิเสธไม่ยอมเข้าเฝ้า เพื่อจงใจทำให้นางและองค์หญิงสามต้องขายหน้า ใช่แล้ว ครั้งนั้นแม้เจ้าอาวาสแห่งวัดเป้ากั๋วถูกเชิญเข้าวังมา กลับไม่อาจคลายคาถาลัทธิเต๋าที่พันธนาการองค์หญิงสามได้ บัดนี้เมื่อใดที่องค์หญิงสามกล่าววาจา ก็ยังคงเปล่งเสียงเป็น "กะต๊าก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 249

    เขากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ "บัดนี้คดีของจวนเยียนอ๋องยังไม่ได้ข้อยุติ หากเรามีพระราชโองการตำหนิซือเจ๋อเยว่ เหล่าขุนนางในราชสำนักย่อมมองว่าเราต้องการให้จวนเยียนอ๋องล่มสลาย" "หากเป็นเช่นนั้น จะนำพาผลกระทบตามมาอีกมาก และจวนเยียนอ๋องก็อาจประสบเหตุร้ายใหญ่หลวง นางอาจถึงแก่ชีวิต" อวิ๋นไท่เฟยกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม "นางไร้กตัญญูถึงเพียงนี้ หากไม่ได้ลิ้มรสความลำบากเสียบ้าง นางจะเข้าใจได้อย่างไรว่าผู้ที่รักและใกล้ชิดที่สุดในชีวิตนี้คือตัวหม่อมฉัน" "ส่วนเรื่องของจวนเยียนอ๋อง หม่อมฉันได้ยินจากพี่ชายว่าเยียนอ๋องเกือบเสียช่องเขากรงเสือไป แม้เขาตายในสนามรบเรื่องนี้ก็ควรถูกสอบสวนและรับผิดชอบ" "หากปล่อยให้ผู้เสียแผ่นดินแล้วหนีความผิดด้วยการตาย ต่อไปขุนนางคนอื่นจะยังเกรงกลัวพระบารมีอีกหรือ?" ฮ่องเต้เจาหมิงเมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้ากลับเยือกเย็นขึ้น พระองค์จ้องมองอวิ๋นไท่เฟยอย่างเย็นชา สายตานั้นทำให้อวิ๋นไท่เฟยรู้สึกสะท้าน นางรีบพิงกายเข้าไปใกล้เขา "ฝ่าบาท โปรดอย่ามองหม่อมฉันเช่นนี้ หม่อมฉันรู้สึกกลัวเหลือเกิน!" แต่ครั้งนี้ฮ่องเต้เจาหมิงหาได้โอบกอดนางดังเดิม แต่ก็ไม่ได้ผลักไสนางให้ออกห่าง เ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 250  

    ในพระราชวัง จวนหนิงกั๋วกงมีเพียงอวิ๋นไท่เฟยเท่านั้นที่สามารถใช้ตำแหน่งใกล้ชิดฮ่องเต้เจาหมิงเพื่อกระซิบบอกหรือโน้มน้าวพระองค์ได้ หากนางถูกฮ่องเต้เจาหมิงรังเกียจ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับจวนย่อมมหาศาล ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องอื่น เพียงแค่การส่งข่าวสารในพระราชวังย่อมช้าลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้น หากในภายภาคหน้าพวกเขาต้องการบรรลุเป้าหมายใด การให้อวิ๋นไท่เฟยกระซิบบอกฮ่องเต้เจาหมิงก็จะยิ่งเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าเดิม หนิงกั๋วกงเอ่ยจากที่นั่งถัดลงมา "ท่านพ่อ พวกเราต้องรีบซ่อมแซมค่ายกลให้เสร็จโดยเร็วที่สุด" หนิงกั๋วกงผู้เฒ่ายกมือขึ้นกดที่ขมับด้วยความเหนื่อยล้า ค่ายกลนั้นถูกซือเจ๋อเยว่ทำลายไปได้เพียงไม่กี่วัน แต่จวนหนิงกั๋วกงกลับประสบปัญหามากมาย เขากังวลว่าอานุภาพที่หลงเหลือของค่ายกลอาจไม่สามารถคงอยู่ได้อีกนาน หากเป็นเช่นนั้น บรรดาบุคคลสำคัญในจวนที่เคยได้รับผลจากการบูชาค่ายกล อาจต้องเผชิญกับผลกระทบย้อนกลับจนเสียหาย เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ใครก็ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ทรัพยากรมากเพียงใด จงไปตามหาราชครูสวรรค์โดยเร็วที่สุด!" หัวหน้าผู้ดูแลรับคำทันที "พ่ะย่ะค่ะ!" การตามหาราชค

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 251

    เหล่าไท่จวินยิ้ม กล่าวกับนาง “อวิ๋นไท่เฟยถูกลงโทษ เจ้าเป็นบุตรสาวของนาง ถึงอย่างไรก็ต้องแสดงความกตัญญูเสียหน่อย”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ท่านย่าเอ่ยปากเช่นนี้ ข้าจะแสดงความกตัญญูให้เต็มที่เลยเจ้าค่ะ!”ตอนบ่ายวันนั้นนางก็มอบหมายให้คนนำภาพวาดไปส่งให้แก่อวิ๋นไท่เฟยภาพวาดภาพนั้นเป็นภาพของนักวาดของราชวงศ์ก่อน เป็นวิญญาณดวงหนึ่งที่นางเคยช่วยเหลือเอาไว้ก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายมอบให้นางเป็นสิ่งตอบแทนตอนแรกที่อวิ๋นไท่เฟยได้ยินว่าซือเจ๋อเยว่ถูกลงโทษเพราะนาง จึงมอบหมายให้คนนำของขวัญมาให้นาง นางรู้สึกว่าซือเจ๋อเยว่ยังนับว่ารู้คุณอยู่บ้างเพียงแต่ตอนที่นางเปิดภาพวาดนั้นออก มองเห็นบนภาพเป็นฝูงแม่ไก่กำลังหาอาหารอยู่บนพื้น มีเพียงตัวเดียวที่เงยหน้าขึ้น ราวกับหงส์ที่กำลังบินข้ามขอบฟ้าด้านข้างยังมีประโยคหนึ่ง ‘ฟ้าดินกลับตาลปัตร แม่ไก่อยากเป็นหงส์’ประโยคนี้ขอเพียงแค่ไม่ใช่คนโง่ก็สามารถเข้าใจได้ ความหมายเย้ยหยันในนั้นชัดเจนเป็นอย่างยิ่งเดิมทีอวิ๋นไท่เฟยก็เป็นคนที่เย่อหยิ่งจองหอง เมื่อเห็นประโยคนี้ก็โมโหจนฉีกภาพวาดทิ้งซีหลิ่วขัดขวางนางเอาไว้ พลางกล่าว “ไท่เฟย นี่เป็นภาพวาดจริงของราชวงศ์ก่อน มีค่ามาก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 252

    เพียงแต่ทันทีที่ซือเจ๋อเยว่นึกถึงว่าตอนนี้ยังไม่สามารถแก้คาถาที่ไป๋จื้อเซียนทำใส่นางได้ ก็ปวดหัวทันทีหลายวันมานี้ตอนที่นางว่าง ได้ทดลองวิธีมากมาย แต่ส่วนมากไม่ได้ผลมีความเป็นไปได้ที่จะได้ผล จะต้องใช้วิชาเต๋าของนางอย่างมหาศาล ของสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่ออายุขัยของนางโดยตรงหรือว่าต่อไปจะต้องใช้วิธีการเป็นอัมพาตครึ่งตัวเพื่อไปพบเจอผู้คน?นางยื่นมือออกไปนวดคลึงหว่างคิ้ว เมื่อเยียนเหนียนเหนียนเห็นท่าทางกลัดกลุ้มของนางจึงถาม “องค์หญิง ท่านเป็นอะไรหรือ?”ซือเจ๋อเยว่กำลังจะส่ายหน้าบอกว่านางไม่เป็นไร ก็เห็นเยียนเซียวหรานเดินมาจากอีกด้านนางกล่าวอย่างหมดแรงทันที “รู้สึกแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก พักผ่อนสักเดี๋ยวก็คงหาย”เยียนซุ่ยซุ่ยอยากจะจับชีพจรให้นาง เมื่อนึกขึ้นได้ว่านางไม่มีชีพจรจึงเก็บมือเยียนซุ่ยซุ่ยถามด้วยความเป็นกังวลเล็กน้อย “อาการป่วยขององค์หญิง ไม่มีวิธีการรักษาหรือ?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาการป่วยของข้าต้องดูว่าสวรรค์จะมารับข้าไปตอนไหน หากเมื่อใดเขาพูดว่า ข้าอยากให้เจ้ามาอยู่เป็นเพื่อนข้าแล้ว คาดว่าวันนั้นข้าก็คงจะจากไปทันที”นางพูดอย่างสบาย ๆ เยียนเหนียนเหนียนกับเยี

Pinakabagong kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status