แชร์

บทที่ 251

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เหล่าไท่จวินยิ้ม กล่าวกับนาง “อวิ๋นไท่เฟยถูกลงโทษ เจ้าเป็นบุตรสาวของนาง ถึงอย่างไรก็ต้องแสดงความกตัญญูเสียหน่อย”

ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ท่านย่าเอ่ยปากเช่นนี้ ข้าจะแสดงความกตัญญูให้เต็มที่เลยเจ้าค่ะ!”

ตอนบ่ายวันนั้นนางก็มอบหมายให้คนนำภาพวาดไปส่งให้แก่อวิ๋นไท่เฟย

ภาพวาดภาพนั้นเป็นภาพของนักวาดของราชวงศ์ก่อน เป็นวิญญาณดวงหนึ่งที่นางเคยช่วยเหลือเอาไว้ก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายมอบให้นางเป็นสิ่งตอบแทน

ตอนแรกที่อวิ๋นไท่เฟยได้ยินว่าซือเจ๋อเยว่ถูกลงโทษเพราะนาง จึงมอบหมายให้คนนำของขวัญมาให้นาง นางรู้สึกว่าซือเจ๋อเยว่ยังนับว่ารู้คุณอยู่บ้าง

เพียงแต่ตอนที่นางเปิดภาพวาดนั้นออก มองเห็นบนภาพเป็นฝูงแม่ไก่กำลังหาอาหารอยู่บนพื้น มีเพียงตัวเดียวที่เงยหน้าขึ้น ราวกับหงส์ที่กำลังบินข้ามขอบฟ้า

ด้านข้างยังมีประโยคหนึ่ง ‘ฟ้าดินกลับตาลปัตร แม่ไก่อยากเป็นหงส์’

ประโยคนี้ขอเพียงแค่ไม่ใช่คนโง่ก็สามารถเข้าใจได้ ความหมายเย้ยหยันในนั้นชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง

เดิมทีอวิ๋นไท่เฟยก็เป็นคนที่เย่อหยิ่งจองหอง เมื่อเห็นประโยคนี้ก็โมโหจนฉีกภาพวาดทิ้ง

ซีหลิ่วขัดขวางนางเอาไว้ พลางกล่าว “ไท่เฟย นี่เป็นภาพวาดจริงของราชวงศ์ก่อน มีค่ามาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Yimmy Vanna
อัพเยอะๆหน่อยค่ะ 2ตอนมันเหมือนใจจะขาด 4ตอนกำลังดีค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 252

    เพียงแต่ทันทีที่ซือเจ๋อเยว่นึกถึงว่าตอนนี้ยังไม่สามารถแก้คาถาที่ไป๋จื้อเซียนทำใส่นางได้ ก็ปวดหัวทันทีหลายวันมานี้ตอนที่นางว่าง ได้ทดลองวิธีมากมาย แต่ส่วนมากไม่ได้ผลมีความเป็นไปได้ที่จะได้ผล จะต้องใช้วิชาเต๋าของนางอย่างมหาศาล ของสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่ออายุขัยของนางโดยตรงหรือว่าต่อไปจะต้องใช้วิธีการเป็นอัมพาตครึ่งตัวเพื่อไปพบเจอผู้คน?นางยื่นมือออกไปนวดคลึงหว่างคิ้ว เมื่อเยียนเหนียนเหนียนเห็นท่าทางกลัดกลุ้มของนางจึงถาม “องค์หญิง ท่านเป็นอะไรหรือ?”ซือเจ๋อเยว่กำลังจะส่ายหน้าบอกว่านางไม่เป็นไร ก็เห็นเยียนเซียวหรานเดินมาจากอีกด้านนางกล่าวอย่างหมดแรงทันที “รู้สึกแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก พักผ่อนสักเดี๋ยวก็คงหาย”เยียนซุ่ยซุ่ยอยากจะจับชีพจรให้นาง เมื่อนึกขึ้นได้ว่านางไม่มีชีพจรจึงเก็บมือเยียนซุ่ยซุ่ยถามด้วยความเป็นกังวลเล็กน้อย “อาการป่วยขององค์หญิง ไม่มีวิธีการรักษาหรือ?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาการป่วยของข้าต้องดูว่าสวรรค์จะมารับข้าไปตอนไหน หากเมื่อใดเขาพูดว่า ข้าอยากให้เจ้ามาอยู่เป็นเพื่อนข้าแล้ว คาดว่าวันนั้นข้าก็คงจะจากไปทันที”นางพูดอย่างสบาย ๆ เยียนเหนียนเหนียนกับเยี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 253

    ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเกลียดนางมากก็ได้!หลังจากตกค่ำ นางก็นั่งวาดยันต์อยู่บนเตียงต่อให้นางต้องตายจริง ๆ นางก็จะต้องจับตัวไป๋จื้อเซียนกลับมาให้ได้ จะให้เขาสร้างหายนะให้เมืองหลวงไม่ได้อย่างเด็ดขาดยันต์ที่นางเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ใช้ไปจนเกือบหมดตอนที่ไปจวนหนิงกั๋วกงแล้ว หลายวันมานี้นางไม่มีอะไรทำ จึงวาดเอาไว้ไม่น้อยเพียงแต่เพราะผลกระทบของร่างกายนาง ยันต์แต่ละแผ่นที่วาดทำให้นางสูญเสียพลังงาน แต่ไม่นับว่ารวดเร็วนางวาดแผ่นหนึ่งก็ต้องพักผ่อนครู่หนึ่ง เพื่อให้กำลังกายฟื้นฟูเล็กน้อยตอนนี้นางเพิ่งวาดยันต์ห้าอัสนีบาตรเสร็จหนึ่งแผ่น ก็บิดขี้เกียจทีหนึ่ง ก็เห็นสาวใช้ที่รับใช้นางเป็นลมอยู่บนพื้นนางตกใจมาก คิดว่าไป๋จื้อเซียนมาอีกแล้ว ทันทีที่หันหน้าไป กลับเห็นเยียนเซียวหรานนางประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้ามาทำไม?”เยียนเซียวหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงดึงมือของนางเข้าไปหา พบว่าเส้นสีแดงบนมือของนางสั้นเหลือเพียงแค่เล็กน้อยแล้วหว่างคิ้วของเขาขมวดเล็กน้อยนางชักมือกลับ หัวเราะเบา ๆ “มนุษย์เมื่อถึงวันหนึ่งก็ต้องตาย เจ้าไม่ต้องฝืนตัวเอง”เมื่อเยียนเซียวหรานได้ยินประโยคนี้ในใจก็รู้สึกแย่ นางยอมตาย แต่ไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 254

    นางกล่าวอย่างหยั่งเชิง “คืนนี้ลำบากเจ้าแล้วจริง ๆ ข้ารู้สึกว่าตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว”“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนดีหรือไม่?”สายตาที่เยียนเซียวหรานจ้องนางลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิมเมื่อนางเห็นสายตาของเขาก็คิดว่าตนเองเป็นผู้หญิงชั่วที่จูบ กอด ลูบคลำชาวบ้านแล้ว ไม่ยอมรับผิดชอบนั่นเป็นรสชาติที่โหดร้ายไปหน่อยนางจำต้องกล่าวอีกว่า “ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่นนะ...”หลังจากนางกลืนน้ำลายก็กล่าวขึ้นอีกว่า “หากเจ้ากลัวว่ามืดแล้วเดินทางไม่สะดวก ไม่อย่างนั้นก็ค้างที่นี่สักคืนเป็นอย่างไร?”“ได้” เยียนเซียวหรานตอบเสียงเรียบซือเจ๋อเยว่ “...”ต่อให้นางจะหัวช้าแค่ไหน แต่ในเวลานี้ก็สามารถสัมผัสความหมายอื่นได้นางมองเขาอีกครั้ง แล้วกล่าว “ถ้าอย่างนั้น...พวกเรา...นอนกันดีหรือไม่?”ถึงแม้นางจะรู้ว่าถึงพวกเขาจะกอดกันนอนหลับไปแบบนี้ก็ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่การนอนบนเตียงเดียวกัน ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องที่คลุมเครือเรื่องหนึ่งนางพูดจบก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อยเยียนเซียวหรานกลับกล่าว “ช้าก่อน”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเขา “เจ้าจะกลับไปนอนหรือ? ถ้าอย่างนั้นเจ้าเดินทางปลอดภัย ข้าเคลื่อน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 255

    เมื่อนางพูดจบก็เริ่มเตะขาไปมาเนื่องจากนางไม่ได้เดินมาหลายวัน ดังนั้นในเวลานี้การไหลเวียนของเลือดจึงติดขัดเล็กน้อย การเคลื่อนไหวไม่ค่อยคล่องตัวเท่าใดนัก แต่ว่าคาถาถูกทำลายแล้วจริง ๆเยียนเซียวหรานกล่าวเสียงเบา “ดีใจด้วย”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยอารมณ์ทอดถอนใจบางอย่าง “ก่อนหน้านี้ตอนที่สามารถกระโดดได้ไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไร”“เดินไม่ได้มาหลายวัน รู้สึกว่าไม่สะดวกไปเสียทุกอย่าง”“บัดนี้อะไรก็หายดีแล้ว จึงรู้สึกดีใจมาก”“ที่แท้นี่ก็คือความรู้สึกของการสูญเสียบางอย่างไปแล้วได้กลับคืนมา ไม่เลวเลยจริงๆ!”เยียนเซียวหรานจ้องมองใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มนั้นของนาง ภายในใจมีความรู้สึกสะเทือนอารมณ์เล็กน้อยดูเหมือนว่านางจะเป็นคนที่รู้จักพอกับอะไรง่าย ๆ เป็นพิเศษ เรื่องแค่เพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้นางพอใจมากได้ซือเจ๋อเยว่เตะขาบนเตียงสองครั้งแล้วแต่ยังรู้สึกไม่พอ จึงลงจากเตียงแล้วเดินต่ออีกหลายก้าว ท่าทางดีใจราวกับเด็กน้อยเยียนเซียวหรานที่กำลังเอนตัวพิงเตียงจ้องมองกระโดดไปกระโดดมาอยู่ตรงนั้น ความอบอุ่นในดวงตาก็เพิ่มมากขึ้นหลังจากที่นางกระโดดเสร็จก็กระโจนขึ้นเตียงอีกครั้ง มองเขากล่าว “ก่อนหน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 256

    ซือเจ๋อเยว่ “...”เหมือนว่านางจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว แต่ยังถาม “เจ้าทำร้ายพวกเขาหรือ?”ริมฝีปากของเยียนเซียวหรานเปื้อนไปด้วยความเย้ยหยัน “ใช่นะสิ ไม่เพียงทำร้ายพวกเขา ยังทำร้ายพวกเขาจนสภาพดูไม่ได้อีกด้วย”“จากนั้นพวกเขาก็พบว่านอกจากจะด่าไม่ชนะข้าแล้ว ยังต่อยตีไม่ชนะข้าอีกด้วย จึงทำให้พวกเขาโมโหมาก”“ดังนั้นพวกเขาจึงวิ่งไปฟ้องท่านพ่อ...”“ท่านพ่อลงโทษเจ้าหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ถามด้วยความสงสัยเยียนเซียวหรานพยักหน้า “ทั้งลงโทษ แล้วก็ไม่ได้ลงโทษ”ซือเจ๋อเยว่ก็ยิ่งสงสัย “อะไรคือทั้งลงโทษแล้วก็ไม่ลงโทษ?”เยียนเซียวหรานตอบ “ตอนนั้นพวกเขายังพากับนักเรียนของสำนักศึกษาหลวงเกือบร้อยคนมาก่อเรื่องวุ่นวายที่จวนเยียนอ๋อง พูดว่าข้าดูหมิ่นนักกวี ลงมือทำร้าย”“ท่านพ่อจึงถามเหตุผล พวกเขาก็รู้สึกขายหน้าอีก เลี่ยงที่จะพูดถึงประเด็นสำคัญและพูดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องบางอย่าง”“หลังจากที่ท่านพ่อฟังจบก็ถามข้าว่าเป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่ ข้าจึงนำบทกลอนที่ตอนนั้นข้าแต่งขึ้นเพื่อโต้ตอบ นำมาอ่านต่อหน้าของทุกคนอีกครั้ง”“คนพวกนั้นคงจะคิดไม่ถึงว่าข้าจะยังเก็บรักษาของพวกนี้เอาไว้อยู่ ตอนที่ข้านำมาพูดอีกครั้งพ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 257

    “หากพี่ใหญ่ยังอยู่ละก็ เขาจะต้องทำได้ดีกว่าข้าแน่นอน”ซือเจ๋อเยว่ไม่ค่อยอยากได้ยินเขาพูดเช่นนี้ “ข้ารู้ว่าซื่อจื่อดีมาก แต่ว่าเจ้าไม่ต้องปฏิเสธตัวเองขนาดนี้”“หลังจากที่ข้ามาถึงจวนเยียนอ๋อง ข้าได้เห็นความพยายามที่เจ้าทำเพื่อจวนเยียนอ๋องด้วยตนเอง”“ข้าคิดว่าต่อให้ซื่อจื่อยังมีชีวิตอยู่ ก็สู้เจ้าไม่ได้”เยียนเซียวหรานคิดไม่ถึงว่าจะพูดเช่นนี้ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หันหน้าไปมองนาง “ท่านกำลังปลอบใจข้าหรือ?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่ ข้าปลอบใจใครไม่เป็น ข้าเพียงแค่พูดถึงสิ่งที่ข้าเห็นเท่านั้น”“คุณชายเยียนซานมีความสามารถมีความรับผิดชอบ จะต้องปกป้องญาติทุกคนได้ ฟื้นคืนความรุ่งโรจน์ของจวนเยียนอ๋องให้กลับมาอีกครั้ง!”ริมฝีปากของเยียนเซียวหรานยกขึ้นโดยไม่รู้ตัวซือเจ๋อเยว่กล่าวอีก “เจ้าให้ความสำคัญกับทุกคนในจวนอ๋อง โดยเฉพาะข้า”หัวใจของเยียนเซียวหรานเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย นางกล่าวต่อ “คนอื่นจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่ข้าไม่รู้ แต่ตอนนี้หากข้าไร้เจ้า ก็คงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้”เยียนเซียวหราน “...”เยียนเซียวหราน “!!!!!!”คำพูดประโยคนี้ของนางอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง เมื่อฟังอย่า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 258

    นางหลับโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ตอนที่เขาหันตัวมาหา ยังมุดเข้าไปในอ้อมอกของเขาอีกด้วยเยียนเซียวหรานแอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ทีหนึ่ง ความเข้าใจที่นางมีต่อบุรุษยังน้อยมากเกินไป ไม่กังวลเลยว่าเขาจะทำอะไรบางอย่างกับนางหรือไม่?เขากลับไม่รู้ว่าภายในใจของซือเจ๋อเยว่เขากลับเป็นบุรุษที่มีความน่าเชื่อถือที่สุดเนื่องจากเป็นเพราะเรื่องนั้นที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อน อันที่จริงนางก็กังวลใจว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่นางกลับไม่ได้เสียเปรียบเดิมทีเขาก็ไม่ค่อยได้นอนหลับสักเท่าใดนัก หลังจากกอดนางหลวม ๆ เขาก็พบว่าตนรู้สึกง่วงขึ้นมาเล็กน้อยแล้วมือของเขาวางลงบนบริเวณเอวของนางโดยไม่รู้ตัว คางวางไว้ที่บนศีรษะของนาง หัวใจก็รู้สึกสงบโดยไม่รู้ตัวตอนที่ซือเจ๋อเยว่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฟ้าก็สว่างแล้ว ไม่รู้ว่าเยียนเซียวหรานออกไปตอนไหนเมื่อคืนนี้นางนอนหลับสนิทเป็นอย่างยิ่ง บิดขี้เกียจยกใหญ่แม้ว่าการกระทำของทั้งสองคนในเวลานี้ จะเหมือนกำลังลักลอบคบชู้กัน แต่ขอเพียงแค่สามารถต่อชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบคบชู้หรือรักษาอาการป่วย ล้วนไม่สำคัญสาวใช้ผิงเอ๋อร์ยื่นมือออกมานวดลำคอเดินเข้ามาหาพร้อมกล่าว “เหตุใดเมื่อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 259

    ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงคุยกันด้วยอย่างมีความสุขตอนที่มาถึงหน้าประตูตำหนักขององค์หญิงสาม พวกเขาได้คุยถึงเรื่องวิธีการย่างน่องไก่วิธีที่หนึ่งร้อยหนึ่งแล้ว ทั้งสองคนสร้างมิตรภาพที่ลึกซึ้งผ่านอาหารคนของวังหลวงคนนั้นกล่าวเตือนนางเบา ๆ “อารมณ์ขององค์หญิงสามไม่ค่อยดี องค์หญิงระวังตัวหน่อย”เรื่องนี้ไม่ต้องให้เขาเตือน ซือเจ๋อเยว่ก็รู้ดีถึงอย่างไรองค์หญิงสามก็ไม่ชอบหน้าตนเป็นอย่างมาก ทั้งยังทำเรื่องน่าอับอายแบบนั้นต่อหน้านางอีก ถ้าอารมณ์ดีก็คงจะเห็นผีเพียงแต่หลังจากนางเดินเข้าไป พบว่าฮองเฮาก็ทรงประทับอยู่ด้วยเช่นกันเมื่อฮองเฮาเห็นนางเดินเข้ามา ก็ขยิบตาให้นางทีหนึ่ง จากนั้นก็ถามอย่างสนิทสนมและอบอุ่น “ขาของเจ๋อเยว่ดีขึ้นบ้างแล้วหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “ขอบคุณฮองเฮาที่ประทานยาให้เพคะ หากไม่ได้ยาพวกนั้น ในเวลานี้ข้าคงจะยังไม่ดีขึ้นแน่นอนเพคะ”ฮองเฮาอมยิ้มกล่าว “ยาพวกนั้นมีประโยชน์ต่อองค์หญิงก็ดี”หลังซือเจ๋อเยว่กับฮองเฮายิ้มให้กันและกัน นางถึงหันหน้าไปมององค์หญิงสาม จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยหลายวันมานี้องค์หญิงสามถูกทรมานไม่น้อย สีหน้าดูค่อนข้างแย่ เพียงแต่ฮองเฮาทรงอยู่ด้วย นาง

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 363

    ไป๋จื้อเซียนเห็นว่านางมองเขา สุดท้ายแล้วเขาก็อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่อยากให้ฆ่าสังหารผู้คน ข้าไม่สังหารก็สิ้นเรื่อง”ที่เขาสังหารคนก็เพราะว่าในใจของเขาไม่มีความสุข คนทั่วไปสำหรับเขาเป็นเหมือนมดแมลง สามารถบีบให้ตายได้ตามใจชอบซือเจ๋อเยว่ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ก็ลูบจมูกเบา ๆ ทีหนึ่ง ถามเขา “เพราะฉะนั้น ข้าเป็นสหายเก่าเมื่อหนึ่งพันปีก่อนของเจ้าจริง ๆ หรือ?”ไป๋จื้อเซียนพยักหน้า “ถูกต้อง เจ้าให้สัญญากับข้าว่าจะเจอกันหนึ่งพันปีหลังจากนั้น”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก “ต้องขออภัยจริง ๆ เรื่องพวกนั้นข้าจำมันไม่ได้แล้ว”“ข้ารู้” ไป๋จื้อเซียนกล่าวเสียงราบเรียบ “ตอนนี้ข้าได้สาบานกับสวรรค์แล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่หรือไม่?”ครึ่งประโยคหลังเขายังไม่ได้พูด เขายังไม่รู้ว่า เมื่อหนึ่งพันปีก่อนนางใส่ใจเขามาก ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเหลือความทรงจำเมื่อหนึ่งพันปีช่วงนั้นเอาไว้มีเพียงเพราะหมกมุ่นมากถึงได้เก็บความทรงจำเอาไว้นานขนาดนี้ตอนนี้นางจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะค่อย ๆ ทำให้นางจำเขาให้ได้ก่อนหน้านี้นางมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อเขาก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 362

    เขาถึงขนาดคิดว่า ในใจของนาง เขาก็เป็นคนที่พิเศษคนนั้นเช่นกันเมื่อเขาคิดเช่นนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเขาหยิบสิ่งของอย่างหนึ่งออกมา พลังชั่วร้ายพวกนั้นทั้งหมดถูกดูดไปอย่างสะอาดหมดจดแล้ว จากนั้นก็ลอยจากท้องฟ้ามาที่ตรงหน้าของสีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือถือกระบี่ไม้ท้อก้าวไปข้างหน้า มือของซือเจ๋อเยว่กดที่บนมือของเขาจนถึงตอนนี้ ความแตกต่างของความสามารถระหว่างพวกเขามีมากเกินไป ไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลยวันนี้หากต้องลงมือกันจริง ๆ เกรงว่าพวกเขาจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่ทั้งหมด แล้วก็สังหารไป๋จื้อเซียนไม่ได้อีกด้วยในเรื่องการกำจัดปีศาจ ซือเจ๋อเยว่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ตลอดครั้งนี้เอาชนะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าค่อยหาตัวช่วยที่จะทำให้เสมอกัน แล้วค่อยหาโอกาสลงมือกับเขาอีกครั้งการกระทำนี้ของนางทำให้ไป๋จื้อเซียนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ยกมือขึ้น แล้วโบกมือใส่เยียนเซียวหรานทันทีเยียนเซียวหรานถือกระบี่ไม้ท้อขวางเอาไว้ จึงต้านทานการโจมตีครั้งนี้ของไป๋จื้อเซียนได้ เพียงแต่เขาก็ถอยหลังไปหลายก้าวเช่นกันไป๋จื้อเซียนมีความประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้ ไอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 361

    นางเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งสำนักเต๋า ดังนั้นการร่ายคาถาก็เหมือนกับกินข้าวกินน้ำ แต่สำหรับคนในสำนักเต๋าทั่วไปแล้ว กลับเป็นเรื่องที่ยากมากทว่าตอนนี้เยียนเซียวหรานไม่เพียงเคยเห็นนางร่ายคาถาไม่กี่ครั้ง ก็สามารถร่ายคาถาได้แล้ว นี่ถึงจะเรียกว่าผู้มีพรสวรรค์!นางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้าร่ายคาถาเป็น เช่นนั้นพวกเรามาเผชิญหน้าด้วยกัน!”เยียนเซียวหรานพยักหน้าหลังจากที่เขารู้จักนาง ถึงได้เข้าใจเรื่องพวกนี้ทั้งหมดก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจคาถาเต๋า แต่ตอนหลังเขาได้ไปเรียนรู้ดาววิบัติดวงนั้นเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาตั้งรับเตรียมพร้อมตอนที่ห่างจากพวกเขาไปประมาณสิบกว่าจั้ง เยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงปราณชั่วร้ายที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่ปราณชั่วร้ายกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด คมราวกับมีด ก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อพัดโดนหน้าซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาปกป้องร่างกายของพวกเขาเอาไว้ ตอนที่เตรียมที่จะพุ่งตัวเข้าไปต่อสู้ด้วยนั้น ข้าง ๆ ก็มีสีแดงปรากฏขึ้นแวบหนึ่งจากนั้นพลังชั่วร้ายที่เย็นยะเยือกที่เดิมทีรุนแรงมากก็สลายหายไปภายในชั่วพริบตาเยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 360

    วิธีการพูดแบบนี้ของซือเจ๋อเยว่ อันที่จริงเป็นคำศัพท์เฉพาะของสำนักเต๋าคำศัพท์นี้หมายถึงไม่ใช่ดาวฤกษ์ที่อยู่บนท้องฟ้า ทว่าใช้ทักษะชั่วร้ายมารวมตัวกันจนกลายเป็นพลังชั่วร้ายพลังชั่วร้ายประเภทนี้ไม่ใช่วิญญาณทั่วไปที่ตายด้วยความโกรธแค้นจนกลายเป็นพลังชั่วร้าย แต่เป็นพลังชั่วร้ายที่ก่อตัวมาจากความคิดชั่วร้ายและวิญญาณชั่วร้ายที่สะสมของโลกใบนี้หลังจากที่บรรดาเต๋าสายดำตามหาพลังชั่วร้ายประเภทนี้จนเจอ ค่อยใช้การฝึกพลังเฉพาะสกัดให้บริสุทธิ์ แล้วนำพวกมันมารวมไว้ด้วยกัน ก็เหมือนกับสิ่งที่เห็นอยู่ในตอนนี้พลังชั่วร้ายประเภทนี้หลังจากที่ถูกเจ้าของฝึกฝนมานาน ก็จะกลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในมือของเต๋าสายดำเมื่อเจ้าของของพลังชั่วร้ายตอนที่สั่งให้พวกมันไปจัดการคนคนหนึ่ง พวกมันก็สามารถกลืนกินคนคนนั้นได้จากนั้นพวกเขาค่อยให้มนุษย์เกิดความคิดชั่วร้าย แล้วค่อยใช้ความคิดชั่วร้ายเป็นอาหารบำรุงพวกมัน ทว่าคนที่อยู่ที่นั่น ได้กลายเป็นหุ่นเชิดที่มีชีวิต มีพวกเขาคอยควบคุมซือเจ๋อเยว่จ้องมองดาววิบัติที่เข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยดาววิบัติดวงนี้ใหญ่กว่าที่นางเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ ในเวลาเด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 359

    นั่นเป็นเพราะหลังจากที่ตอนนั้นเขาเข้าไปในค่ายกลแล้ว ตกอยู่ในภาพลวงตา เหมือนเช่นเยียนเซียวหรานในตอนนี้ตัวประหลาดนั่นโหดเหี้ยมน่ากลัวเกินไป ภายในร่างกายกักขังเศษวิญญาณเอาไว้มากมายขนาดนั้นนางไม่จำเป็นต้องเดา เศษวิญญาณที่ตัวประหลาดกักขังเอาไว้ภายในร่างกายพวกนั้น เกรงว่าทั้งหมดจะเป็นองครักษ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อเมื่อนางนึกถึงเรื่องศพอันไม่สมบูรณ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ถูกขนกลับมายังจวนเยียนอ๋อง เกรงว่าจะไม่ได้โดนสัตว์ป่ากัดเอา ทว่าถูกตัวประหลาดนี้ฉีกนางไม่สามารถจินตนาการได้ เยียนอ๋องซื่อจื่อและกลุ่มคนถูกขังอยู่ภายในค่ายกลนี้ ตอนที่ถูกตัวประหลาดฉีกกินทั้งเป็น จะน่าเวทนาและหมดหนทางมากขนาดไหน!ทว่าเรื่องทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงแค่ต้องการฆ่าปิดปากพวกเขา จากนั้นก็ทำเป็นตาค่ายกล ถูกกักขังระหว่างหยินกับหยางตลอดไป กลับชาติมาเกิดใหม่ไม่ได้ต่อให้วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์จะหนีไปแล้วกลับชาติมาเกิดใหม่ หากไม่โง่ ปัญญาอ่อน ก็จะอายุสั้น เพราะดวงวิญญาณไม่สมบูรณ์ ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะกลับชาติมาเกิดคนผู้นี้จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ทำให้รู้สึกโกรธมากจริง ๆ!พวกเขาวิ่งไปข้างหน้าอยู่ครู่หนึ่งถึงได้หยุดลงแล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 358

    ตัวประหลาดจับลูกธนูดอกนั้นไว้แล้วโยนใส่พวกเขาเยียนเซียวหรานหลบด้วยความรวดเร็ว ธนูดอกนั้นลอยเฉียดหัวของเขาไปซือเจ๋อเยว่ส่งเสียงร้องประหลาดใจออกมาเบา ๆ พลังสังหารของตัวประหลาดตัวนี้มากเสียจนน่าหวาดกลัวสีหน้าของเยียนเซียวหรานเองก็ค่อนข้างดูแย่เช่นกัน หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปอยากจะยิงให้ถูกตัวประหลาดอีกก็คงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากตอนที่ซือเจ๋อเยว่เห็นตัวประหลาดไล่ตามมา พลังชั่วร้ายสีดำที่แผ่ซ่านออกมาจากมือ นางจึงมีวิธีการแล้วนางหยิบลูกธนูดอกหนึ่งขึ้นมาแล้วติดยันต์ที่ด้านบน ให้เยียนเซียวหรานยิงอีกครั้งตัวประหลาดในเวลานี้อยู่ใกล้กับพวกเขามาก เยียนเซียวหรานทำได้เพียงหลบไปก่อน แล้วค่อยยิงธนูดอกนั้นออกไปตัวประหลาดตัวนั้นมองเห็นการเคลื่อนไหวนี้ของเขา ในดวงตาปรากฏความเหยียดหยามขึ้นมาแวบหนึ่ง ใช้วิธีการเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อจับธนูดอกนั้นเพียงแต่ครั้งนี้ตอนที่มันจับลูกธนูดอกนั้นเอาไว้ ทันใดนั้นยันต์ห้าอัสนีบาตรก็ทำงาน ภายในชั่วพริบตา เสียงฟ้าร้องคำรามลั่น ฟ้าผ่ามันจนไหม้เกรียมเยียนเซียวหรานแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าทำแบบนี้น่าจะผ่าจนตัวประหลาดตายแล้ว ทว่าครู่ต่อมา ตัวประหลาดก็ขยับอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status