Share

บทที่ 247  

Author: เจียงหนานเยียน
เขายิ้มเยาะเย้ยตนเองในใจ “ข้ากำลังมุ่งหวังอันใดอยู่กัน?”

“คาดหวังให้นางบอกว่านางชอบข้า ยอมอยู่ร่วมกับข้าหรือ?”

“หรือคาดหวังให้นางเกิดความรู้สึกบางอย่างในความสัมพันธ์ แล้วเราก็ต้องทนทุกข์ไปด้วยกัน?”

เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว ทั้งสองอย่างนี้ไม่มีทางเหมาะสมสำหรับพวกเขา

เขารู้ดีว่า การตัดสินใจของนางนั้นถูกต้อง แต่เดิมพวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้เหมาะกับคำว่ารัก

ซือเจ๋อเยว่วาดยันต์จนดึกดื่นค่อนคืนจึงหยุดพัก ขณะที่เยียนเซียวหรานยืนใต้หน้าต่างนางตลอดทั้งราตรีโดยไม่ขยับไปที่ใด

เช้าวันต่อมา ซือเจ๋อเยว่ถูกเยียนเหนียนเหนียนอุ้มออกจากห้องไปทานอาหารเช้า

นางหันมองรอบห้องแต่ก็ไม่เห็นเยียนเซียวหราน อยากเอ่ยปากถามสุดท้ายก็รู้ว่าไม่ควร

แม้ในนามฐานะของนางจะสามารถถามได้ แต่นางกลับรู้สึกประหม่าในใจ

พระชายาเยียนอ๋องบอกกับสาวใช้ “เจ้าจงสั่งคนในครัว ให้พวกเขาทำอาหารจานโปรดของเซียวเอ๋อร์ในช่วงเที่ยง”

ซือเจ๋อเยว่หันมามองพระชายาเยียนอ๋องด้วยความสงสัย พระชายาแย้มยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “เช้านี้เซียวเอ๋อร์ออกไปหาซูเซียงแล้ว”

“จวนเยียนอ๋องเราขึ้นมาด้วยบารมีการสงคราม บัดนี้ฝ่าบาทยังไม่ได้ลงพระราชโองการให้เซียวเ
Locked Chapter
Patuloy ang Pagbabasa sa GoodNovel
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 248  

    ซือเจ๋อเยว่รู้สึกอย่างแท้จริงจากก้นบึ้งหัวใจ ว่าฮ่องเต้เจาหมิงเป็นบุรุษที่ไม่รักษาสัจจะ! เมื่อวันนั้นพระองค์ยังเอ่ยไว้ว่าจะให้นางเข้าเฝ้าวังให้น้อยลง เพราะไม่ต้องการพบเห็นหน้านาง แต่เวลานี้กลับส่งคนมาเรียกให้นางเข้าเฝ้าอีก นี่พระองค์ประสงค์จะก่อเรื่องอันใดกัน? ซือเจ๋อเยว่จึงให้เยียนเหนียนเหนียนอุ้มนางออกไปพบขันทีจากวัง แล้วกล่าวตอบไปอย่างเรียบเฉยว่าวันนั้นระหว่างทางข้ากลับจากวัง เผลอพลัดตกจนขาข้าได้รับบาดเจ็บ บัดนี้ไม่อาจเดินได้ ขันทีเห็นนางในสภาพนี้ก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดมาก ได้แต่รีบกลับไปรายงานสถานการณ์เช่นที่เป็น ครั้งนี้ผู้ที่ส่งคนมาเชิญซือเจ๋อเยว่คืออวิ๋นไท่เฟย เมื่อทราบว่าขันทีนำตัวซือเจ๋อเยว่มาไม่ได้ นางก็โมโหจนด่าทอเสียยกใหญ่ พร้อมขว้างปาสิ่งของจนแตกกระจาย อวิ๋นไท่เฟยไม่ได้คิดว่าซือเจ๋อเยว่จะขาพลิกจริง นางมั่นใจว่านางหาเรื่องปฏิเสธไม่ยอมเข้าเฝ้า เพื่อจงใจทำให้นางและองค์หญิงสามต้องขายหน้า ใช่แล้ว ครั้งนั้นแม้เจ้าอาวาสแห่งวัดเป้ากั๋วถูกเชิญเข้าวังมา กลับไม่อาจคลายคาถาลัทธิเต๋าที่พันธนาการองค์หญิงสามได้ บัดนี้เมื่อใดที่องค์หญิงสามกล่าววาจา ก็ยังคงเปล่งเสียงเป็น "กะต๊าก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 249

    เขากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ "บัดนี้คดีของจวนเยียนอ๋องยังไม่ได้ข้อยุติ หากเรามีพระราชโองการตำหนิซือเจ๋อเยว่ เหล่าขุนนางในราชสำนักย่อมมองว่าเราต้องการให้จวนเยียนอ๋องล่มสลาย" "หากเป็นเช่นนั้น จะนำพาผลกระทบตามมาอีกมาก และจวนเยียนอ๋องก็อาจประสบเหตุร้ายใหญ่หลวง นางอาจถึงแก่ชีวิต" อวิ๋นไท่เฟยกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม "นางไร้กตัญญูถึงเพียงนี้ หากไม่ได้ลิ้มรสความลำบากเสียบ้าง นางจะเข้าใจได้อย่างไรว่าผู้ที่รักและใกล้ชิดที่สุดในชีวิตนี้คือตัวหม่อมฉัน" "ส่วนเรื่องของจวนเยียนอ๋อง หม่อมฉันได้ยินจากพี่ชายว่าเยียนอ๋องเกือบเสียช่องเขากรงเสือไป แม้เขาตายในสนามรบเรื่องนี้ก็ควรถูกสอบสวนและรับผิดชอบ" "หากปล่อยให้ผู้เสียแผ่นดินแล้วหนีความผิดด้วยการตาย ต่อไปขุนนางคนอื่นจะยังเกรงกลัวพระบารมีอีกหรือ?" ฮ่องเต้เจาหมิงเมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้ากลับเยือกเย็นขึ้น พระองค์จ้องมองอวิ๋นไท่เฟยอย่างเย็นชา สายตานั้นทำให้อวิ๋นไท่เฟยรู้สึกสะท้าน นางรีบพิงกายเข้าไปใกล้เขา "ฝ่าบาท โปรดอย่ามองหม่อมฉันเช่นนี้ หม่อมฉันรู้สึกกลัวเหลือเกิน!" แต่ครั้งนี้ฮ่องเต้เจาหมิงหาได้โอบกอดนางดังเดิม แต่ก็ไม่ได้ผลักไสนางให้ออกห่าง เ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 250  

    ในพระราชวัง จวนหนิงกั๋วกงมีเพียงอวิ๋นไท่เฟยเท่านั้นที่สามารถใช้ตำแหน่งใกล้ชิดฮ่องเต้เจาหมิงเพื่อกระซิบบอกหรือโน้มน้าวพระองค์ได้ หากนางถูกฮ่องเต้เจาหมิงรังเกียจ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับจวนย่อมมหาศาล ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องอื่น เพียงแค่การส่งข่าวสารในพระราชวังย่อมช้าลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้น หากในภายภาคหน้าพวกเขาต้องการบรรลุเป้าหมายใด การให้อวิ๋นไท่เฟยกระซิบบอกฮ่องเต้เจาหมิงก็จะยิ่งเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าเดิม หนิงกั๋วกงเอ่ยจากที่นั่งถัดลงมา "ท่านพ่อ พวกเราต้องรีบซ่อมแซมค่ายกลให้เสร็จโดยเร็วที่สุด" หนิงกั๋วกงผู้เฒ่ายกมือขึ้นกดที่ขมับด้วยความเหนื่อยล้า ค่ายกลนั้นถูกซือเจ๋อเยว่ทำลายไปได้เพียงไม่กี่วัน แต่จวนหนิงกั๋วกงกลับประสบปัญหามากมาย เขากังวลว่าอานุภาพที่หลงเหลือของค่ายกลอาจไม่สามารถคงอยู่ได้อีกนาน หากเป็นเช่นนั้น บรรดาบุคคลสำคัญในจวนที่เคยได้รับผลจากการบูชาค่ายกล อาจต้องเผชิญกับผลกระทบย้อนกลับจนเสียหาย เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ใครก็ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ทรัพยากรมากเพียงใด จงไปตามหาราชครูสวรรค์โดยเร็วที่สุด!" หัวหน้าผู้ดูแลรับคำทันที "พ่ะย่ะค่ะ!" การตามหาราชค

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 251

    เหล่าไท่จวินยิ้ม กล่าวกับนาง “อวิ๋นไท่เฟยถูกลงโทษ เจ้าเป็นบุตรสาวของนาง ถึงอย่างไรก็ต้องแสดงความกตัญญูเสียหน่อย”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ท่านย่าเอ่ยปากเช่นนี้ ข้าจะแสดงความกตัญญูให้เต็มที่เลยเจ้าค่ะ!”ตอนบ่ายวันนั้นนางก็มอบหมายให้คนนำภาพวาดไปส่งให้แก่อวิ๋นไท่เฟยภาพวาดภาพนั้นเป็นภาพของนักวาดของราชวงศ์ก่อน เป็นวิญญาณดวงหนึ่งที่นางเคยช่วยเหลือเอาไว้ก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายมอบให้นางเป็นสิ่งตอบแทนตอนแรกที่อวิ๋นไท่เฟยได้ยินว่าซือเจ๋อเยว่ถูกลงโทษเพราะนาง จึงมอบหมายให้คนนำของขวัญมาให้นาง นางรู้สึกว่าซือเจ๋อเยว่ยังนับว่ารู้คุณอยู่บ้างเพียงแต่ตอนที่นางเปิดภาพวาดนั้นออก มองเห็นบนภาพเป็นฝูงแม่ไก่กำลังหาอาหารอยู่บนพื้น มีเพียงตัวเดียวที่เงยหน้าขึ้น ราวกับหงส์ที่กำลังบินข้ามขอบฟ้าด้านข้างยังมีประโยคหนึ่ง ‘ฟ้าดินกลับตาลปัตร แม่ไก่อยากเป็นหงส์’ประโยคนี้ขอเพียงแค่ไม่ใช่คนโง่ก็สามารถเข้าใจได้ ความหมายเย้ยหยันในนั้นชัดเจนเป็นอย่างยิ่งเดิมทีอวิ๋นไท่เฟยก็เป็นคนที่เย่อหยิ่งจองหอง เมื่อเห็นประโยคนี้ก็โมโหจนฉีกภาพวาดทิ้งซีหลิ่วขัดขวางนางเอาไว้ พลางกล่าว “ไท่เฟย นี่เป็นภาพวาดจริงของราชวงศ์ก่อน มีค่ามาก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 252

    เพียงแต่ทันทีที่ซือเจ๋อเยว่นึกถึงว่าตอนนี้ยังไม่สามารถแก้คาถาที่ไป๋จื้อเซียนทำใส่นางได้ ก็ปวดหัวทันทีหลายวันมานี้ตอนที่นางว่าง ได้ทดลองวิธีมากมาย แต่ส่วนมากไม่ได้ผลมีความเป็นไปได้ที่จะได้ผล จะต้องใช้วิชาเต๋าของนางอย่างมหาศาล ของสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่ออายุขัยของนางโดยตรงหรือว่าต่อไปจะต้องใช้วิธีการเป็นอัมพาตครึ่งตัวเพื่อไปพบเจอผู้คน?นางยื่นมือออกไปนวดคลึงหว่างคิ้ว เมื่อเยียนเหนียนเหนียนเห็นท่าทางกลัดกลุ้มของนางจึงถาม “องค์หญิง ท่านเป็นอะไรหรือ?”ซือเจ๋อเยว่กำลังจะส่ายหน้าบอกว่านางไม่เป็นไร ก็เห็นเยียนเซียวหรานเดินมาจากอีกด้านนางกล่าวอย่างหมดแรงทันที “รู้สึกแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก พักผ่อนสักเดี๋ยวก็คงหาย”เยียนซุ่ยซุ่ยอยากจะจับชีพจรให้นาง เมื่อนึกขึ้นได้ว่านางไม่มีชีพจรจึงเก็บมือเยียนซุ่ยซุ่ยถามด้วยความเป็นกังวลเล็กน้อย “อาการป่วยขององค์หญิง ไม่มีวิธีการรักษาหรือ?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาการป่วยของข้าต้องดูว่าสวรรค์จะมารับข้าไปตอนไหน หากเมื่อใดเขาพูดว่า ข้าอยากให้เจ้ามาอยู่เป็นเพื่อนข้าแล้ว คาดว่าวันนั้นข้าก็คงจะจากไปทันที”นางพูดอย่างสบาย ๆ เยียนเหนียนเหนียนกับเยี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 253

    ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเกลียดนางมากก็ได้!หลังจากตกค่ำ นางก็นั่งวาดยันต์อยู่บนเตียงต่อให้นางต้องตายจริง ๆ นางก็จะต้องจับตัวไป๋จื้อเซียนกลับมาให้ได้ จะให้เขาสร้างหายนะให้เมืองหลวงไม่ได้อย่างเด็ดขาดยันต์ที่นางเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ใช้ไปจนเกือบหมดตอนที่ไปจวนหนิงกั๋วกงแล้ว หลายวันมานี้นางไม่มีอะไรทำ จึงวาดเอาไว้ไม่น้อยเพียงแต่เพราะผลกระทบของร่างกายนาง ยันต์แต่ละแผ่นที่วาดทำให้นางสูญเสียพลังงาน แต่ไม่นับว่ารวดเร็วนางวาดแผ่นหนึ่งก็ต้องพักผ่อนครู่หนึ่ง เพื่อให้กำลังกายฟื้นฟูเล็กน้อยตอนนี้นางเพิ่งวาดยันต์ห้าอัสนีบาตรเสร็จหนึ่งแผ่น ก็บิดขี้เกียจทีหนึ่ง ก็เห็นสาวใช้ที่รับใช้นางเป็นลมอยู่บนพื้นนางตกใจมาก คิดว่าไป๋จื้อเซียนมาอีกแล้ว ทันทีที่หันหน้าไป กลับเห็นเยียนเซียวหรานนางประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้ามาทำไม?”เยียนเซียวหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงดึงมือของนางเข้าไปหา พบว่าเส้นสีแดงบนมือของนางสั้นเหลือเพียงแค่เล็กน้อยแล้วหว่างคิ้วของเขาขมวดเล็กน้อยนางชักมือกลับ หัวเราะเบา ๆ “มนุษย์เมื่อถึงวันหนึ่งก็ต้องตาย เจ้าไม่ต้องฝืนตัวเอง”เมื่อเยียนเซียวหรานได้ยินประโยคนี้ในใจก็รู้สึกแย่ นางยอมตาย แต่ไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 254

    นางกล่าวอย่างหยั่งเชิง “คืนนี้ลำบากเจ้าแล้วจริง ๆ ข้ารู้สึกว่าตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว”“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนดีหรือไม่?”สายตาที่เยียนเซียวหรานจ้องนางลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิมเมื่อนางเห็นสายตาของเขาก็คิดว่าตนเองเป็นผู้หญิงชั่วที่จูบ กอด ลูบคลำชาวบ้านแล้ว ไม่ยอมรับผิดชอบนั่นเป็นรสชาติที่โหดร้ายไปหน่อยนางจำต้องกล่าวอีกว่า “ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่นนะ...”หลังจากนางกลืนน้ำลายก็กล่าวขึ้นอีกว่า “หากเจ้ากลัวว่ามืดแล้วเดินทางไม่สะดวก ไม่อย่างนั้นก็ค้างที่นี่สักคืนเป็นอย่างไร?”“ได้” เยียนเซียวหรานตอบเสียงเรียบซือเจ๋อเยว่ “...”ต่อให้นางจะหัวช้าแค่ไหน แต่ในเวลานี้ก็สามารถสัมผัสความหมายอื่นได้นางมองเขาอีกครั้ง แล้วกล่าว “ถ้าอย่างนั้น...พวกเรา...นอนกันดีหรือไม่?”ถึงแม้นางจะรู้ว่าถึงพวกเขาจะกอดกันนอนหลับไปแบบนี้ก็ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่การนอนบนเตียงเดียวกัน ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องที่คลุมเครือเรื่องหนึ่งนางพูดจบก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อยเยียนเซียวหรานกลับกล่าว “ช้าก่อน”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเขา “เจ้าจะกลับไปนอนหรือ? ถ้าอย่างนั้นเจ้าเดินทางปลอดภัย ข้าเคลื่อน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 255

    เมื่อนางพูดจบก็เริ่มเตะขาไปมาเนื่องจากนางไม่ได้เดินมาหลายวัน ดังนั้นในเวลานี้การไหลเวียนของเลือดจึงติดขัดเล็กน้อย การเคลื่อนไหวไม่ค่อยคล่องตัวเท่าใดนัก แต่ว่าคาถาถูกทำลายแล้วจริง ๆเยียนเซียวหรานกล่าวเสียงเบา “ดีใจด้วย”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยอารมณ์ทอดถอนใจบางอย่าง “ก่อนหน้านี้ตอนที่สามารถกระโดดได้ไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไร”“เดินไม่ได้มาหลายวัน รู้สึกว่าไม่สะดวกไปเสียทุกอย่าง”“บัดนี้อะไรก็หายดีแล้ว จึงรู้สึกดีใจมาก”“ที่แท้นี่ก็คือความรู้สึกของการสูญเสียบางอย่างไปแล้วได้กลับคืนมา ไม่เลวเลยจริงๆ!”เยียนเซียวหรานจ้องมองใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มนั้นของนาง ภายในใจมีความรู้สึกสะเทือนอารมณ์เล็กน้อยดูเหมือนว่านางจะเป็นคนที่รู้จักพอกับอะไรง่าย ๆ เป็นพิเศษ เรื่องแค่เพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้นางพอใจมากได้ซือเจ๋อเยว่เตะขาบนเตียงสองครั้งแล้วแต่ยังรู้สึกไม่พอ จึงลงจากเตียงแล้วเดินต่ออีกหลายก้าว ท่าทางดีใจราวกับเด็กน้อยเยียนเซียวหรานที่กำลังเอนตัวพิงเตียงจ้องมองกระโดดไปกระโดดมาอยู่ตรงนั้น ความอบอุ่นในดวงตาก็เพิ่มมากขึ้นหลังจากที่นางกระโดดเสร็จก็กระโจนขึ้นเตียงอีกครั้ง มองเขากล่าว “ก่อนหน

Pinakabagong kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 274

    นางสวมรองเท้ามือเป็นระวิง เพียงแต่ยิ่งลนลาน ก็ยิ่งทำได้ไม่ดีเดิมทีรองเท้าที่สวมได้อย่างง่ายดายมากเป็นเพราะนางตกตะลึงสวมห้าหกครั้งก็ยังไม่เข้าเยียนเซียวหรานยื่นมือออกไปจับข้อเท้าของนางเอาไว้ นางหันหน้าไปมองเขา เขากลับไม่ได้มองนาง แต่ยกรองเท้าข้างหนึ่งขึ้นมา ค่อย ๆ สวมเข้าไปที่เท้าของนางซือเจ๋อเยว่ “...”นางรู้สึกว่าตนเองในเวลานี้โง่นิด ๆหลังจากเยียนเซียวหรานสวมรองเท้าในนางเสร็จข้างหนึ่งแล้ว ก็สวมอีกข้างอีกให้นางนางกระโดดลงจากเตียงอย่างว่องไว “ลำบากเจ้าแล้ว”นางพูดจบคิดจะหนี กลับถูกเยียนเซียวหรานจับข้อมือขาวเล็กเอาไว้นางมองเขาแล้วถาม “ยังมีธุระอะไรอีกหรือ?”เยียนเซียวหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยื่นมือออกไปแล้วช่วยติดจัดปกคอเสื้อให้นาง ช่วยนางปรับสายคาดเอวให้เรียบร้อย ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”นางหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเยียนเซียวหรานหวีผมให้นางอีก กล่าวเสียงเรียบ “เสร็จแล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเขา ดวงตาของเขาล้ำลึกตามเดิม นางมองเห็นเงาสะท้อนของตนเองในดวงตาของเขาการเต้นของหัวใจนางเริ่มเต้นรัวขึ้นอีกครั้ง นางรู้ว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่เข้าท่า จึงรีบกระโดดหนีออกทางหน้าต่า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 273

    ตอนนี้สมองของซือเจ๋อเยว่ไม่พอใช้แล้ว เมื่อได้ยินเขาถามแบบนี้ นางตอบว่า‘อืม’ทีหนึ่ง ไม่ได้เข้าใจความหมายของเขาจริง ๆเยียนเซียวหรานจับมือของนาง ดึงแขนเสื้อของนางขึ้น เส้นแดงที่อยู่ภายในก็ปรากฏขึ้นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าว “ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”ในที่สุดซือเจ๋อเยว่ก็เข้าใจความหมายของเขา นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลับกล่าวขึ้น “อาจจะเป็นเพราะห่างกันไปหน่อย”ครู่ต่อมา มือของเขาประคองเอวนาง ทันทีที่ออกแรงเพียงเล็กน้อย ก็อุ้มนางขึ้นมาวางไว้บนต้นขาของเขาซือเจ๋อเยว่ “...”ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”อยู่ ๆ เขากลายเป็นคนที่เร่าร้อนจนเกินไป นางรับมือไม่ค่อยไหว!เยียนเซียวหรานสูงกว่านางมาก แล้วก็แข็งแรงกว่านางมาก ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน ชุดนอนของเขาคลุมไว้แค่ครึ่งเดียว นางรู้สึกเหมือนกับถูกฝังอยู่ในอ้อมอกของเขาภายในหัวใจของซือเจ๋อเยว่มีความตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร ทั้งยังจูบลงมาบนริมฝีปากนางนางใช้มือดันแผ่นออกของเขาอย่างไม่รู้ตัว เขาหันไปมองนาง ภายในดวงตาที่ดำขลับคู่นั้นสะท้อนให้เห็นถึงแววตาที่เขามองไม่ออกน้ำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย “มีขั้นตอนไหนที่ข้าทำไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 272

    ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ถาม “เจ้ามีธุระอะไรอีกอย่างนั้นหรือ?”มุมปากของเยียนเซียวหรานยกขึ้นเล็กน้อย “ไหน ๆ คืนนี้องค์หญิงก็มาแล้ว ไม่เติมอายุขัยสักหน่อยแล้วค่อยไปหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางร้อง‘หา’ทีหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้สติอยู่ครู่หนึ่งเยียนเซียวหรานเหลือบตาขึ้น สายตาจดจ้องไปที่นางกล่าว “องค์หญิงอยากจะอายุยืนยาวร้อยปีไม่ใช่หรือ?”“ข้าเกรงว่าข้าไม่ให้ความร่วมมือ วันข้างหน้าองค์หญิงจะมาหาเรื่องข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางคิดว่าเขาค่อนข้างผูกพยาบาทวันนั้นนางก็แค่พูดเล่นกับเขาต่อหน้าของเหล่าไท่จวินเท่านั้น เขากลับจำได้อย่างแม่นยำในเวลานี้นางรู้ว่านางมีตัวเลือกอยู่สองข้อ ข้อแรกคืออยู่ต่อเสียเลย ข้อสองคือรีบหนีไปอย่างแรกจะน่าอายเกินไปหน่อย อย่างหลังจะขี้ขลาดเกินไปหน่อยนางครุ่นคิดครู่หนึ่ง คิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะเริ่มจากทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของตัวเองหากทำตัวขี้ขลาดในเวลาแบบนี้ ต่อไปนางจะมาหาเขาได้อย่างไร? ต่อให้มาหาเขาด้วยอย่างหน้าด้านอีก คิดว่าก็อาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะเอาได้ดังนั้นนางจึงถอดรองเท้า แล้วกระโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 271

    ตอนที่นางได้ยินก็ไม่ได้ประหลาดใจมากเท่าใดนัก ดวงสมรสของลู่จิ่นเหนียง นั่นก็ทำได้เพียงเป็นอนุของคนอื่นเท่านั้นปกติการเป็นอนุ ขอเพียงแค่ฝั่งผู้ชายชอบนาง ทุกอย่างจะปรากฏขึ้นในดวงสมรสสิ่งเหล่านี้สามารถยืนยันได้ว่า อวิ๋นเยว่หยางรับลู่จิ่นเหนียงเป็นอนุเพราะมีจุดประสงค์อื่น เขาไม่ได้ชอบลู่จิ่นเหนียงเมื่อซือเจ๋อเยว่นึกถึงท่าทางที่หยิ่งผยองเกินความเป็นจริงของลู่จิ่นเหนียง รู้ว่าหากครั้งนี้ลู่จิ่นเหนียงไม่เอาชีวิตไปทิ้งที่จวนหนิงกั๋วกง ก็ต้องได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจเพียงแต่เรื่องนี้ตามที่เหล่าไท่จวินได้กล่าว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนอ๋องแล้ว นางก็คร้านจะช่วยเป็นธุระให้ลู่จิ่นเหนียงบัดนี้สิ่งที่นางเป็นกังวลยิ่งกว่าก็คือเรื่องที่อวิ๋นเยว่หยางขโมยดวงชะตาของเยียนเซียวหรานไปสองครั้งก่อนนางได้ตามหาค่ายกลนั่นแต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว แล้วก็ตามหาค่ายกลอันนั้นไม่เจออีก เกรงว่าดวงชะตาของเยียนเซียวหรานจะถูกขโมยไปจนหมดแล้วหลายวันมานี้ซือเจ๋อเยว่คิดอยู่หลายวิธี หลังจากตัดออกไปจำนวนหนึ่ง ก็รู้สึกว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้หรือว่าแบบนั้น ความเสี่ยงก็มากทั้งนั้นนางคิดอยู่หลายตลบ คิดว่าบางทีอาจจะสาม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 270

    ซุ่ยซุ่ยของนางยังไม่ออกเรือน สถานการณ์ของจวนเยียนอ๋องเป็นแบบนี้ นางต้องปลุกใจให้ฮึกเหิมเสียหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ควรเป็นภาระของพวกเขาเหล่าไท่จวินที่อยู่ข้าง ๆ กล่าว “แม้ว่าวันนี้เวินชิงจะรับปากองค์หญิง ต้องทำตามที่รับปาก”“ต่อไปเจ้ามีเวลาว่าง ก็มาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่อย่างข้า”เบ้าตาของจู้อี๋เหนียงแดงเล็กน้อย คุกเข่าลงบนพื้นกล่าวเสียงเบา “ลูกอกตัญญู ทำให้เหล่าไท่จวินต้องเป็นห่วง”เหล่าไท่จวินยื่นมือออกไปประคองนางลุกขึ้น จับมือของนางแล้วตบเบา ๆ “เรื่องในอดีตก็ให้ผ่านไป พวกเราต้องมองไปข้างหน้า”จู้อี๋เหนียงเช็ดน้ำตากล่าว “ข้าเชื่อฟังเหล่าไท่จวิน”ซือเจ๋อเยว่ชอบบรรยากาศของจวนเยียนอ๋องที่สุด เหล่าไท่จวินเป็นคนชราที่เฉลียวฉลาด ถึงแม้คนในจวนจะมากมาย แต่นางกลับน่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งตอนที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง คนที่ได้รับความกระทบกระเทือนมากที่สุดไม่ใช่เหล่าไท่จวิน แล้วก็ไม่ใช่พระชายาเยียนอ๋อง แต่ทว่าเป็นจู้อี๋เหนียงก่อนหน้านี้จู้อี๋เหนียงเป็นคนอมทุกข์มาตลอด ออกจากเรือนน้อยมากเหล่าไท่จวินไปปลอบใจจู้อี๋เหนียงเป็นประจำในจวนมีของของดีอะไร เหล่าไท่จวินก็จะคิดถึงนาง ไม่ใช่เพราะว่านางเป็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 269

    “อย่างไรเสียจวนหนิงกั๋วกงก็ดีกว่าจวนเยียนอ๋อง สิ่งที่เรียกว่าชื่อเสียงของจวนเยียนอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินดีช่วยพี่ชายของเจ้าให้เลื่อนตำแหน่ง”“ตามที่ข้ามอง จวนเยียนอ๋องที่ไม่มีน้ำใจ ไม่รู้จักปรับตัวเช่นนี้ก็สมควรล่มสลาย!”ลู่จิ่นเหนียงได้ฟังคำพูดพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกมีตรงไหนผิดปกติ เดิมทีจวนเยียนอ๋องก็ยึดติดกับหลักการมากเกินไปต่อให้เยียนซื่อจะปฏิบัติต่อนางดีมากแค่ไหน ทันทีที่นางพูดเรื่องที่ให้เขาช่วยเหลือ เขาก็จะชักสีหน้าทันทีเมื่อเปรียบเทียบกัน จวนหนิงกั๋วกงมีความเปิดกว้างมากกว่า แล้วก็เต็มไปด้วยความจริงใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีเรื่องนี้ เมื่อนางมองเห็นเครื่องประดับและผ้าเหล่านี้ ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นแบบเก่าอีกแล้วลู่ฮูหยินกล่าวอีกว่า “คุณชายรองให้ความสำคัญกับเจ้าเป็นอย่างมาก อยากจะให้เจ้ารีบเจ้าจวนเร็วหน่อย”“วันนี้ข้าได้ปรึกษากับท่านพ่อของเจ้าแล้ว พรุ่งนี้จะส่งตัวเจ้าเข้าจวนหนิงกั๋วกง ตามความต้องการของจวนกั๋วกง”ลู่จิ่นเหนียงตกตะลึงไปทันที “ไปจวนหนิงกั๋วกงวันพรุ่งนี้? นี่มันจะรีบเกินไปหน่อยหรือไม่?”ลู่ฮูหยินตอบ “รีบที่ไหนกัน นี่เห็นได้ชัดเจนว่าจวนหนิงกั๋วกงให้ความสำคัญกับ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 268

    นางพ่นลมหายใจกล่าว “องค์หญิงอย่างไรเสียก็จัดการเรื่องของตนเองให้ดีเถอะ เลิกริษยาคนอื่น ใจกว้าง บางทีอาจจะสามารถมีชีวิตได้ถึงสิบแปดปี!”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดถากถางของลู่จิ่นเหนียงไม่เพียงไม่โกรธ ทั้งยังรู้สึกน่าขันเล็กน้อยนางทำอะไรด้วยใจมาตลอด ในเวลานี้เตือนสติลู่จิ่นเหนียงก็เป็นเพราะเยียนซื่อแต่น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ความคิดบิดเบี้ยวตั้งแต่ภายใน กระเสือกกระสนรนหาที่ตาย ต่อให้เทพต้าหลัวมาที่นี่ เกรงว่าก็คงจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ได้นางพยักหน้ากล่าว “ข้าคิดว่าที่เจ้าพูดนั้นมีเหตุผลมาก คนที่จิตใจคับแคบ จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานจริง ๆ”นางพูดจบก็คร้านจะสนใจลู่จิ่นเหนียงอีก กล่าวกับเยียนเซียวหราน “น้องสาม พวกเราไปกันเถอะ!”ลู่จิ่นเหนียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก เยียนเซียวหรานมองนางด้วยสายตาเย็นยะเยือกแวบหนึ่งสายตานั้นเย็นยะเยือกเข้ากระดูก ความน่าสะพรึงกลัวเต็มเปี่ยม ลู่จิ่นเหนียงเห็นก็รู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง คำพูดที่กำลังจะพูดออกมาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นนางก็พบว่า เยียนเซียวหรานแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง บนร่างกายของเขามีพลังอำนาจอันแข็งแกร่ง ที่ไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 267

    นางกับเยียนเซียวหรานตรงไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งด้านในร้านมีผ้าหลากหลายที่สุดเยียนเซียวหรานกลัวว่านางจะเกิดเรื่อง จึงเดินตามหลังนางตลอดทุกฝีก้าวซือเจ๋อเยว่เลือกผ้าให้แต่ละคน รวมกันทั้งหมดสิบกว่าพับ พวกเขาไม่สะดวกถือไปด้วย จึงให้เถ้าแก่มอบหมายให้คนส่งไปที่จวนเยียนอ๋องทันทีที่ซือเจ๋อเยว่จ่ายเงินเสร็จ ก็เห็นลู่จิ่นเหนียงพาสาวใช้เดินเข้ามาหา ทั้งสองคนพบกันโดยบังเอิญ จึงมีความประหลาดใจเล็กน้อยลู่จิ่นเหนียงเป็นเพราะครั้งก่อนซือเจ๋อเยว่เคยฉีกหน้านาง นางจึงไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เป็นอย่างยิ่งในเวลานี้เมื่อเจอกัน นางยังคงกล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม “องค์หญิง ไม่เจอกันนานเลย”ซือเจ๋อเยว่คุ้นเคยกับการมองหน้านางแวบหนึ่ง ใต้ตาของนางดำคล้ำ คาดว่านางน่าจะเอาเด็กออกแล้ว ต่อไปก็คงจะไม่มีลูกของตัวเองอีกนอกจากนี้แล้ว ชีวิตในวังหลวงของนางมีเต็มความซับซ้อน เมื่อเห็นฉากนี้ ต่อไปลู่จิ่นเหนียงคงจะใช้ชีวิตอย่างค่อนข้างขรุขระสีหน้าของนางยังนับว่าพอถูไถไปได้ ใบหน้าเหมือนว่ายังพอมีความสุขอยู่บ้างในเมื่ออีกฝ่ายยอมรับผิดแล้วก็ย่อมให้อภัย ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตอบ ตั้งใจที่จะออกไปพร้อมกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 266

    ซือเจ๋อเยว่ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยหมดสติไปเพราะตื่นเต้นเกินไป พวกท่านส่งนางกลับไปเถอะ”คำพูดที่นางพูดกับอวิ๋นไท่เฟยเมื่อครู่นี้ บรรดาคนในวังหลวงที่อยู่ใกล้ต่างก็ได้ยินกันหมดพวกเขามองซือเจ๋อเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในเวลานี้มีคนหลายคนร่วมแรงกันประคองอวิ๋นไท่เฟยขึ้นมา แล้วรีบวิ่งออกไปคนของวังหลวงที่ถูกวิญญาณรายล้อมคนนั้น ในเวลานี้วิญญาณปล่อยนางไปแล้ว ทันทีที่นางได้รับอิสระ ก็รีบวิ่งหนีอย่างโซซัดโซเซกลางวันแสก ๆ เลยนะ!พวกเขาเจอเรื่องแบบนี้ น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ!ฮองเฮามองไม่เห็นวิญญาณ เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้อวิ๋นไท่เฟยตกใจจนหมดสติไปทันที จากนั้นกลุ่มคนก็วิ่งหนีกันฉี่ราดสารรูปเช่นนี้ของพวกเขา ตอนที่มาอวดดีมากขนาดไหน ตอนกลับไปก็ดูไม่จืดมากเท่านั้นฮองเฮากับอวิ๋นไท่เฟยประมือกันมาหลายครั้ง ถึงแม้นางจะชนะมากกว่าแพ้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการสู้กันด้วยวาจา ไฉนเลยจะมีความสุขเท่าครั้งนี้?นางมองซือเจ๋อเยว่กล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าทำอะไรพวกเขา?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “หม่อมฉันก็อาศัยอยู่ในสำนักเต๋ามาเป็นเวลานาน ถึงอย่างไรก็ยังพอมีความสามารถเป็นของ

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status