Share

บทที่ 239

Author: เจียงหนานเยียน
“มันก็นับว่าใจเด็ด ถึงกับแบ่งร่างวิญญาณของตนเป็นสองส่วน ถูกข้าเก็บไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนีไปแล้ว”

เยียนเซียวหราน “…”

เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า บนโลกนี้ยังมีเรื่องเช่นนี้อีก

ซือเจ๋อเยว่ถอนใจยาวออกมาอีกครั้ง “ครั้งนี้ข้าปล่อยมันออกมาโดยไม่ทันระวัง ด้วยนิสัยของมัน ต้องก่อความปั่นป่วนไปทั่วเมืองหลวงแน่”

“ตอนนี้สภาพร่างกายของข้าไม่ค่อยดี คิดจะจับมันกลับมาไม่ง่ายเลย”

“ถ้ามันไปกินวิญญาณเพิ่มจนแข็งแกร่งกว่าเดิม ก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก”

เรื่องนี้เกินกำลังของเยียนเซียวหราน ต่อให้เขาอยากช่วยก็ช่วยไม่ได้

เขาใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ท่านก็อย่าเพิ่งร้อนใจไป ในเมื่อพลังของมันลดลงไปมาก คิดว่าคงไม่อาจก่อปัญหาอะไรมาก”

“ท่านดูแลร่างกายตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยไปหามัน”

ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “เจ้าพูดไม่ผิด ที่สำคัญคือตัวข้าในสภาพเช่นนี้ ต่อให้ตอนนี้ในใจข้าร้อนใจเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์”

เมื่อครู่ตอนนางมาที่นี่ ก็ใช้คาถาไปมากมายคิดจะทำลายคาถาตรึงร่างของมัน แต่กลับไม่สำเร็จเลย

ตอนนี้นางเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ ย่อมไม่มีทางจะไปจับไป๋จื้อเซียนได้

เรื่องนี้หากให้พวกท่านอาจารย์รู้เข้า นางต้องถูกตำหนิอี
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 240

    แม้นางก็มีความประหม่าของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าเยียนเซียวหรานที่หน้าแดงน่ารักอย่างมากมุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย “พวกเราประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลธรรม ไม่จำเป็นต้องกลัวคำครหาของผู้อื่น”เยียนเซียวหรานเหล่ตามองนางทีหนึ่ง แม้เขาจะมิได้กล่าวสิ่งใด แต่กลับแสดงความหมายออกมาอย่างชัดเจนอย่างมากว่าพวกเขาในตอนนี้ เกรงว่าว่าจะไร้ความเกี่ยวข้องกับ ‘ประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลผิดธรรม’ อะไรนั่นเลยซือเจ๋อเยว่ “…”นางคิดดูแล้ว เพื่อความอยู่รอดในอนาคต นางอาจยังต้องกอดเขา จูบเขาอีก แถมมีความเป็นไปได้ที่จะต้องนอนกับเขาด้วยเมื่อคิดถึงความฐานะความสัมพันธ์ในนามของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยถูกต้องจริงๆนางพยายามแก้ต่างให้ตัวเองว่า “ข้าแค่คิดว่าร่างกายของข้าไม่ค่อยดี ถ้าข้าอาการกำเริบขึ้นมาเหนียนเหนียนอาจช่วยไม่ได้ ยังต้องเป็นเจ้า”เยียนเซียวหรานมองนางอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม มิได้เอ่ยวาจาเมื่อซือเจ๋อเยว่สบเข้ากับสายตานี้ของเขา ก็ยิ่งรู้สึกประหม่าในความผิดแล้วเพราะประโยชน์สูงสุดที่เขาอยู่ข้างกายนาง ก็คือการเป็นเครื่องยืดอายุ และการยืดอายุขัยยังต้องใช้วิธีที่วาบหวิวที่ส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 241

    อวิ๋นเยว่หยาง "…"ก่อนหน้านี้เขาคิดมาเสมอ หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กลับมาที่เมืองหลวง สิ่งเดียวที่นางสามารถพึ่งพาได้คือจวนหนิงกั๋วกงของพวกเขาเมื่อนางอยู่ต่อหน้าพวกเขา ต้องก้มต่ำทำตัวอ่อนน้อม ขอความเมตตาจากพวกเขา พวกเขาจึงจะพิจารณาว่าจะให้ผลประโยชน์เล็กน้อยแก่นางหรือไม่แต่ท่าทางของนางในยามนี้ ดูคล้ายว่านางไม่เห็นจวนหนิงกั๋วกงอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยเขามองไปที่ซือเจ๋อเยว่แล้วเอ่ยขึ้น "องค์หญิงเพิ่งกลับมาที่เมืองหลวง อาจจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของเมือง"ซือเจ๋อเยว่ยิ้มหัวเราะเสียงเบาแล้วเอ่ยขึ้น "ข้าเป็นถึงองค์หญิงของแคว้น จำเป็นต้องดูสถานการณ์อันใดหรือ?"ริมฝีปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "ข้าก็คือผู้กำหนดสถานการณ์!"อวิ๋นเยว่หยางได้ยินคำนี้รู้สึกว่านางรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!แม้นางจะเป็นองค์หญิง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่พ่อเสียชีวิต ไม่มีตระกูลแม่คอยสนับสนุน นางก็ไม่มีค่าอันใดเขาหัวเราะเยาะ "หวังว่าองค์หญิงจะไม่เสียใจในภายหลัง!"ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจเสียงเบา "บังเอิญเสียจริง ข้าไม่เคยเสียใจเลย""การที่วันนี้ท่านกล้าที่จะเอ่ยเช่นนี้กับข้า แท้จริงแล้วก็นับว่าช

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 242

    นางเอ่ยถึงตรงนี้แล้วเอ่ยต่อ "ไม่สิ ใช่ว่าเขาจะไม่เอาความ""เขาส่งท่านมาฆ่าข้า แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงในการฆ่าข้ากับท่าน"ใบหน้าของอวิ๋นเยว่หยางเปลี่ยนไปอีกครั้งซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจยาว "หากคุณชายรองอยากรู้เรื่องพวกนี้ สามารถมาหาข้าที่จวนเยียนอ๋องได้ในวันอื่น""น้องสาม ปล่อยเขาไปเถอะ พวกเรากลับกัน"เยียนเซียวหรานมองไปที่ใบหน้าของอวิ๋นเยว่หยางด้วยสายตาที่เย็นชา เก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วขึ้นไปนั่งบนคานรถม้าครั้งนี้อวิ๋นเยว่หยางไม่ได้ขวางพวกเขาอีกเพราะคำถามของซือเจ๋อเยว่แทงลึกเข้าไปในหัวใจของเขาวันนี้เขาวางแผนที่จะฆ่าซือเจ๋อเยว่ เดิมทีเพียงแค่ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำตอบแก่หนิงกั๋วกงหลังจากการลอบสังหารล้มเหลวเขาก็เปลี่ยนใจ อยากจะโน้มน้าวให้ซือเจ๋อเยว่อยู่ข้างเขา แล้วให้นางคิดแผนการเพื่อฆ่าคนในจวนเยียนอ๋องทั้งหมดแต่คำกล่าวของเขายังไม่ได้เอ่ยออกมา ก็ถูกเยียนเซียวหรานขัดจังหวะอย่างหยาบคายจากนั้นทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดคิด เขายืนอยู่ที่เดิมชั่วครู่ ก่อนจะรีบกลับไปที่จวนหนิงกั๋วกง เขาไปไถ่ถามหนิงกั๋วกงอย่างไม่อ้อมค้อม "ท่านพ่อ เมื่อวานนี้เกิดอันใดขึ้นในจวนกันแน่?"ห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 243

    การไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นนี้ เป็นเรื่องที่ทรมานสำหรับซือเจ๋อเยว่ เพราะร่างกายส่วนบนเคลื่อนไหวได้ แต่ส่วนล่างไม่สามารถทำได้ ทำให้นางต้องนอนอยู่บนเตียง ไม่สามารถไปที่ใดได้นางให้สาวใช้หาตำรามาให้นางอ่านเพื่อคลายความเบื่อนางเพิ่งจะอ่านไปได้สักพัก สาวใช้ก็ล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรงซือเจ๋อเยว่ตกใจอย่างยิ่ง เมื่อหันไปก็เห็นไป๋จื้อเซียนที่ยืนอยู่ในห้อง สีหน้าของนางจึงพลันเปลี่ยนไปอย่างมากนางรีบร่ายคาถา ไป๋จื้อเซียนยืนกอดอก มองนางอย่างอ่อนหวานด้วยสายตาที่เย้ายวน "นักพรตหญิงตัวน้อย อย่ากลัวเลย ข้าไม่ได้มาฆ่าเจ้า"ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าแม้ว่าเขาจะมีพลังเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ยังนับว่าเป็นผู้ที่ทรงพลังมากนางเอ่ยด้วยเสียงที่เย็นชา "เจ้ามาทำอันใด?"ไป๋จื้อเซียนมองห้องของนางอย่างสนใจ "คนที่บำเพ็ญเพียรอาศัยอยู่ในห้องที่หรูหราเช่นนี้ จะไม่ส่งผลต่อจิตใจหรือ?"แท้จริงแล้วห้องของนางในยามนี้นับว่าเรียบง่ายอย่างยิ่ง แต่เมื่อเทียบกับห้องที่นางที่เคยอยู่ในสำนักเต๋า มันก็นับว่าดูหรูหรากว่ามากซือเจ๋อเยว่วาดมือร่ายคาถา เอ่ยออกมาเสียงเบา "การบำเพ็ญเพียรคือการฝึกจิตใจ ไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง"ไป๋จ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 244

    ไป๋จื้อเซียนโจมตีด้วยความรวดเร็ว ในสถานการณ์ปกติ หากซือเจ๋อเยว่จะร่ายคาถาก็คงไม่มีเวลาป้องกันตัวได้ทัน ในดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความโหดเหี้ยม และความตื่นเต้นที่ล้นหลาม แต่เมื่อเขาใกล้เข้ามา ซือเจ๋อเยว่กลับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ดวงตาของนางก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเบื้องหลังยิ้มนั้นคือความมุ่งมั่นในการฆ่า ทั้งสองสบตากันชั่วครู่ แล้วต่างก็หรี่ตาเล็กลง ไป๋จื้อเซียนคิดจะถอย แต่กลับรู้สึกว่าอาจจะถูกนางหลอกอีกครั้ง ถึงอย่างไร ทั้งสองเคยปะทะกันมากี่ครั้ง เขาก็ถูกนางหลอกเท่านั้น ต้องเสียเปรียบนางเท่านั้นดังนั้นคราวนี้เขาจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อย จู่โจมตรงไปยังหัวใจของนางโดยตรง เล็บของเขาคมกริบ เพียงแค่สัมผัสก็สามารถเจาะลึกเข้าสู่ร่างได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เล็บของเขากำลังจะเจาะเข้าไปที่หน้าอกของนาง กระบี่ไม้ท้อเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาที่ฝ่ามือของเขาโดยตรงภาพเช่นนี้ราวกับว่าเขาถือกระบี่ไม้ท้อเอาไว้ในมือซึ่งมือข้างที่สัมผัสกับกระบี่ไม้ท้อข้างนั้นก็เริ่มมีควันลอยคลุ้งขึ้นมาแท้จริงแล้วในขณะที่ซือเจ๋อเยว่ปล่อยมือจากการร่ายคาถา ก็ได้ดึงกระบี่ไม้ท้อออกมาจากใต้หมอนแล้ว นางต่อกรกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 245

    ไป๋จื้อเซียนมองไปที่ซือเจ๋อเยว่แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นี่คือวิญญาณร้ายที่ท่านปล่อยออกมาโดยไม่ระวังหรือ?” ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ใช่! เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้มันโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง! เจ้าต้องระวังให้ดี!” ไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหรานที่กำลังปกป้องซือเจ๋อเยว่ เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอ่ยถามซือเจ๋อเยว่ “นี่คือคนที่เจ้าชอบใช่หรือไม่?” แน่นอนว่าในยามนี้ซือเจ๋อเยว่ไม่ยอมรับเพราะหากนางยอมรับไป จากที่นางรู้จักไป๋จื้อเซียน เขาคนนี้ต้องไปสร้างปัญหากับเยียนเซียวหรานแน่ เยียนเซียวหรานไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวิญญาณร้ายที่ฝึกฝนมาหลายพันปีอย่างไป๋จื้อเซียน นางจึงตอบไป “แน่นอนว่าไม่ใช่ เขาก็แค่ผู้ติดตามของข้าเท่านั้น” หลังจากนั้นนางก็ร่ายคาถาใส่ไปไป๋จื้อเซียนมองนางแล้วหันไปมองเยียนเซียวหราน ก่อนที่จะยกมือปัดป้องการโจมตีของนาง “ไม่ถูกต้อง เจ้าทั้งสองคนมีความผูกพันลึกซึ้งต่อกัน” “ถึงแม้เจ้าไม่ชอบเขา แต่เขาก็คงชอบเจ้า” ซือเจ๋อเยว่ “…” เยียนเซียวหรานชอบนาง? นี่มันเป็นไปไม่ได้! เพราะเยียนเซียวหรานเป็นคนที่มีมารยาทและจิตใจดีเยี่ยม สถานะของทั้งสองต่างก็เป็นที่ประจักษ์ เขาคงไม่มีทางหลงรักนางแน่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 246

    เขาอุ้มนางขึ้นเตียงพลางเอ่ยขึ้น “ท่านจงพักเสียแต่เนิ่น ๆ” เมื่อเอ่ยจบเขาก็จะเดินออกไป แต่ซือเจ๋อเยว่กลับรั้งข้อมือเขาไว้อย่างกะทันหันพลางเอ่ยขึ้น “คืนนี้เจ้าไม่ไปได้หรือไม่?” เยียนเซียวหราน “…” หากสตรีคนอื่นกล่าวกับเขาเช่นนี้ เขาคงตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง แต่เมื่อนางกล่าวเช่นนั้นกับเขา เขาก็รู้ดีว่าแท้จริงแล้วนางเพียงอยากให้เขาต่ออายุขัยให้เท่านั้น ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะขุ่นมัวหดหู่เล็กน้อย หันกลับมามองนางแววตาฉายความไม่อ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย พอซือเจ๋อเยว่ถูกสายตาเช่นนี้ของเขาจับจ้อง ก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ นางจึงค่อย ๆ ดึงมือกลับไป นางเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้าไม่ได้คิดจะหมายถึงเรื่องอื่น…” นางwไม่ได้อธิบายก็ดีแล้ว แต่ยิ่งอธิบายกลับยิ่งทำให้บรรยากาศดูประหลาดขึ้นไปอีก จึงรีบเอ่ยเสริม “ข้าก็แค่อยากลองดู ว่าพอจะทำลายคาถาของไป๋จื้อเซียนได้หรือไม่” “ไม่เช่นนั้น หากเขาบุกมาอีกหน ข้าไม่อาจเคลื่อนไหวได้ก็เสียเปรียบมากนัก” เยียนเซียวหรานไม่ได้เอ่ยอันใด แต่เดินไปอุ้มสาวใช้ที่สลบในห้องออกไป แล้วจึงลงกลอนประตู เมื่อเขากลับมานั่งลงข้างเตียงของซือเจ๋อเยว่ ถามขึ้น “แล้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 247  

    เขายิ้มเยาะเย้ยตนเองในใจ “ข้ากำลังมุ่งหวังอันใดอยู่กัน?” “คาดหวังให้นางบอกว่านางชอบข้า ยอมอยู่ร่วมกับข้าหรือ?” “หรือคาดหวังให้นางเกิดความรู้สึกบางอย่างในความสัมพันธ์ แล้วเราก็ต้องทนทุกข์ไปด้วยกัน?” เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว ทั้งสองอย่างนี้ไม่มีทางเหมาะสมสำหรับพวกเขา เขารู้ดีว่า การตัดสินใจของนางนั้นถูกต้อง แต่เดิมพวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้เหมาะกับคำว่ารัก ซือเจ๋อเยว่วาดยันต์จนดึกดื่นค่อนคืนจึงหยุดพัก ขณะที่เยียนเซียวหรานยืนใต้หน้าต่างนางตลอดทั้งราตรีโดยไม่ขยับไปที่ใด เช้าวันต่อมา ซือเจ๋อเยว่ถูกเยียนเหนียนเหนียนอุ้มออกจากห้องไปทานอาหารเช้า นางหันมองรอบห้องแต่ก็ไม่เห็นเยียนเซียวหราน อยากเอ่ยปากถามสุดท้ายก็รู้ว่าไม่ควร แม้ในนามฐานะของนางจะสามารถถามได้ แต่นางกลับรู้สึกประหม่าในใจ พระชายาเยียนอ๋องบอกกับสาวใช้ “เจ้าจงสั่งคนในครัว ให้พวกเขาทำอาหารจานโปรดของเซียวเอ๋อร์ในช่วงเที่ยง” ซือเจ๋อเยว่หันมามองพระชายาเยียนอ๋องด้วยความสงสัย พระชายาแย้มยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “เช้านี้เซียวเอ๋อร์ออกไปหาซูเซียงแล้ว” “จวนเยียนอ๋องเราขึ้นมาด้วยบารมีการสงคราม บัดนี้ฝ่าบาทยังไม่ได้ลงพระราชโองการให้เซียวเ

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 363

    ไป๋จื้อเซียนเห็นว่านางมองเขา สุดท้ายแล้วเขาก็อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่อยากให้ฆ่าสังหารผู้คน ข้าไม่สังหารก็สิ้นเรื่อง”ที่เขาสังหารคนก็เพราะว่าในใจของเขาไม่มีความสุข คนทั่วไปสำหรับเขาเป็นเหมือนมดแมลง สามารถบีบให้ตายได้ตามใจชอบซือเจ๋อเยว่ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ก็ลูบจมูกเบา ๆ ทีหนึ่ง ถามเขา “เพราะฉะนั้น ข้าเป็นสหายเก่าเมื่อหนึ่งพันปีก่อนของเจ้าจริง ๆ หรือ?”ไป๋จื้อเซียนพยักหน้า “ถูกต้อง เจ้าให้สัญญากับข้าว่าจะเจอกันหนึ่งพันปีหลังจากนั้น”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก “ต้องขออภัยจริง ๆ เรื่องพวกนั้นข้าจำมันไม่ได้แล้ว”“ข้ารู้” ไป๋จื้อเซียนกล่าวเสียงราบเรียบ “ตอนนี้ข้าได้สาบานกับสวรรค์แล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่หรือไม่?”ครึ่งประโยคหลังเขายังไม่ได้พูด เขายังไม่รู้ว่า เมื่อหนึ่งพันปีก่อนนางใส่ใจเขามาก ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเหลือความทรงจำเมื่อหนึ่งพันปีช่วงนั้นเอาไว้มีเพียงเพราะหมกมุ่นมากถึงได้เก็บความทรงจำเอาไว้นานขนาดนี้ตอนนี้นางจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะค่อย ๆ ทำให้นางจำเขาให้ได้ก่อนหน้านี้นางมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อเขาก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 362

    เขาถึงขนาดคิดว่า ในใจของนาง เขาก็เป็นคนที่พิเศษคนนั้นเช่นกันเมื่อเขาคิดเช่นนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเขาหยิบสิ่งของอย่างหนึ่งออกมา พลังชั่วร้ายพวกนั้นทั้งหมดถูกดูดไปอย่างสะอาดหมดจดแล้ว จากนั้นก็ลอยจากท้องฟ้ามาที่ตรงหน้าของสีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือถือกระบี่ไม้ท้อก้าวไปข้างหน้า มือของซือเจ๋อเยว่กดที่บนมือของเขาจนถึงตอนนี้ ความแตกต่างของความสามารถระหว่างพวกเขามีมากเกินไป ไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลยวันนี้หากต้องลงมือกันจริง ๆ เกรงว่าพวกเขาจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่ทั้งหมด แล้วก็สังหารไป๋จื้อเซียนไม่ได้อีกด้วยในเรื่องการกำจัดปีศาจ ซือเจ๋อเยว่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ตลอดครั้งนี้เอาชนะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าค่อยหาตัวช่วยที่จะทำให้เสมอกัน แล้วค่อยหาโอกาสลงมือกับเขาอีกครั้งการกระทำนี้ของนางทำให้ไป๋จื้อเซียนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ยกมือขึ้น แล้วโบกมือใส่เยียนเซียวหรานทันทีเยียนเซียวหรานถือกระบี่ไม้ท้อขวางเอาไว้ จึงต้านทานการโจมตีครั้งนี้ของไป๋จื้อเซียนได้ เพียงแต่เขาก็ถอยหลังไปหลายก้าวเช่นกันไป๋จื้อเซียนมีความประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้ ไอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 361

    นางเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งสำนักเต๋า ดังนั้นการร่ายคาถาก็เหมือนกับกินข้าวกินน้ำ แต่สำหรับคนในสำนักเต๋าทั่วไปแล้ว กลับเป็นเรื่องที่ยากมากทว่าตอนนี้เยียนเซียวหรานไม่เพียงเคยเห็นนางร่ายคาถาไม่กี่ครั้ง ก็สามารถร่ายคาถาได้แล้ว นี่ถึงจะเรียกว่าผู้มีพรสวรรค์!นางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้าร่ายคาถาเป็น เช่นนั้นพวกเรามาเผชิญหน้าด้วยกัน!”เยียนเซียวหรานพยักหน้าหลังจากที่เขารู้จักนาง ถึงได้เข้าใจเรื่องพวกนี้ทั้งหมดก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจคาถาเต๋า แต่ตอนหลังเขาได้ไปเรียนรู้ดาววิบัติดวงนั้นเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาตั้งรับเตรียมพร้อมตอนที่ห่างจากพวกเขาไปประมาณสิบกว่าจั้ง เยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงปราณชั่วร้ายที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่ปราณชั่วร้ายกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด คมราวกับมีด ก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อพัดโดนหน้าซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาปกป้องร่างกายของพวกเขาเอาไว้ ตอนที่เตรียมที่จะพุ่งตัวเข้าไปต่อสู้ด้วยนั้น ข้าง ๆ ก็มีสีแดงปรากฏขึ้นแวบหนึ่งจากนั้นพลังชั่วร้ายที่เย็นยะเยือกที่เดิมทีรุนแรงมากก็สลายหายไปภายในชั่วพริบตาเยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 360

    วิธีการพูดแบบนี้ของซือเจ๋อเยว่ อันที่จริงเป็นคำศัพท์เฉพาะของสำนักเต๋าคำศัพท์นี้หมายถึงไม่ใช่ดาวฤกษ์ที่อยู่บนท้องฟ้า ทว่าใช้ทักษะชั่วร้ายมารวมตัวกันจนกลายเป็นพลังชั่วร้ายพลังชั่วร้ายประเภทนี้ไม่ใช่วิญญาณทั่วไปที่ตายด้วยความโกรธแค้นจนกลายเป็นพลังชั่วร้าย แต่เป็นพลังชั่วร้ายที่ก่อตัวมาจากความคิดชั่วร้ายและวิญญาณชั่วร้ายที่สะสมของโลกใบนี้หลังจากที่บรรดาเต๋าสายดำตามหาพลังชั่วร้ายประเภทนี้จนเจอ ค่อยใช้การฝึกพลังเฉพาะสกัดให้บริสุทธิ์ แล้วนำพวกมันมารวมไว้ด้วยกัน ก็เหมือนกับสิ่งที่เห็นอยู่ในตอนนี้พลังชั่วร้ายประเภทนี้หลังจากที่ถูกเจ้าของฝึกฝนมานาน ก็จะกลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในมือของเต๋าสายดำเมื่อเจ้าของของพลังชั่วร้ายตอนที่สั่งให้พวกมันไปจัดการคนคนหนึ่ง พวกมันก็สามารถกลืนกินคนคนนั้นได้จากนั้นพวกเขาค่อยให้มนุษย์เกิดความคิดชั่วร้าย แล้วค่อยใช้ความคิดชั่วร้ายเป็นอาหารบำรุงพวกมัน ทว่าคนที่อยู่ที่นั่น ได้กลายเป็นหุ่นเชิดที่มีชีวิต มีพวกเขาคอยควบคุมซือเจ๋อเยว่จ้องมองดาววิบัติที่เข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยดาววิบัติดวงนี้ใหญ่กว่าที่นางเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ ในเวลาเด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 359

    นั่นเป็นเพราะหลังจากที่ตอนนั้นเขาเข้าไปในค่ายกลแล้ว ตกอยู่ในภาพลวงตา เหมือนเช่นเยียนเซียวหรานในตอนนี้ตัวประหลาดนั่นโหดเหี้ยมน่ากลัวเกินไป ภายในร่างกายกักขังเศษวิญญาณเอาไว้มากมายขนาดนั้นนางไม่จำเป็นต้องเดา เศษวิญญาณที่ตัวประหลาดกักขังเอาไว้ภายในร่างกายพวกนั้น เกรงว่าทั้งหมดจะเป็นองครักษ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อเมื่อนางนึกถึงเรื่องศพอันไม่สมบูรณ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ถูกขนกลับมายังจวนเยียนอ๋อง เกรงว่าจะไม่ได้โดนสัตว์ป่ากัดเอา ทว่าถูกตัวประหลาดนี้ฉีกนางไม่สามารถจินตนาการได้ เยียนอ๋องซื่อจื่อและกลุ่มคนถูกขังอยู่ภายในค่ายกลนี้ ตอนที่ถูกตัวประหลาดฉีกกินทั้งเป็น จะน่าเวทนาและหมดหนทางมากขนาดไหน!ทว่าเรื่องทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงแค่ต้องการฆ่าปิดปากพวกเขา จากนั้นก็ทำเป็นตาค่ายกล ถูกกักขังระหว่างหยินกับหยางตลอดไป กลับชาติมาเกิดใหม่ไม่ได้ต่อให้วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์จะหนีไปแล้วกลับชาติมาเกิดใหม่ หากไม่โง่ ปัญญาอ่อน ก็จะอายุสั้น เพราะดวงวิญญาณไม่สมบูรณ์ ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะกลับชาติมาเกิดคนผู้นี้จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ทำให้รู้สึกโกรธมากจริง ๆ!พวกเขาวิ่งไปข้างหน้าอยู่ครู่หนึ่งถึงได้หยุดลงแล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 358

    ตัวประหลาดจับลูกธนูดอกนั้นไว้แล้วโยนใส่พวกเขาเยียนเซียวหรานหลบด้วยความรวดเร็ว ธนูดอกนั้นลอยเฉียดหัวของเขาไปซือเจ๋อเยว่ส่งเสียงร้องประหลาดใจออกมาเบา ๆ พลังสังหารของตัวประหลาดตัวนี้มากเสียจนน่าหวาดกลัวสีหน้าของเยียนเซียวหรานเองก็ค่อนข้างดูแย่เช่นกัน หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปอยากจะยิงให้ถูกตัวประหลาดอีกก็คงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากตอนที่ซือเจ๋อเยว่เห็นตัวประหลาดไล่ตามมา พลังชั่วร้ายสีดำที่แผ่ซ่านออกมาจากมือ นางจึงมีวิธีการแล้วนางหยิบลูกธนูดอกหนึ่งขึ้นมาแล้วติดยันต์ที่ด้านบน ให้เยียนเซียวหรานยิงอีกครั้งตัวประหลาดในเวลานี้อยู่ใกล้กับพวกเขามาก เยียนเซียวหรานทำได้เพียงหลบไปก่อน แล้วค่อยยิงธนูดอกนั้นออกไปตัวประหลาดตัวนั้นมองเห็นการเคลื่อนไหวนี้ของเขา ในดวงตาปรากฏความเหยียดหยามขึ้นมาแวบหนึ่ง ใช้วิธีการเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อจับธนูดอกนั้นเพียงแต่ครั้งนี้ตอนที่มันจับลูกธนูดอกนั้นเอาไว้ ทันใดนั้นยันต์ห้าอัสนีบาตรก็ทำงาน ภายในชั่วพริบตา เสียงฟ้าร้องคำรามลั่น ฟ้าผ่ามันจนไหม้เกรียมเยียนเซียวหรานแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าทำแบบนี้น่าจะผ่าจนตัวประหลาดตายแล้ว ทว่าครู่ต่อมา ตัวประหลาดก็ขยับอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status