แชร์

บทที่ 241

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
อวิ๋นเยว่หยาง "…"

ก่อนหน้านี้เขาคิดมาเสมอ หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กลับมาที่เมืองหลวง สิ่งเดียวที่นางสามารถพึ่งพาได้คือจวนหนิงกั๋วกงของพวกเขา

เมื่อนางอยู่ต่อหน้าพวกเขา ต้องก้มต่ำทำตัวอ่อนน้อม ขอความเมตตาจากพวกเขา พวกเขาจึงจะพิจารณาว่าจะให้ผลประโยชน์เล็กน้อยแก่นางหรือไม่

แต่ท่าทางของนางในยามนี้ ดูคล้ายว่านางไม่เห็นจวนหนิงกั๋วกงอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

เขามองไปที่ซือเจ๋อเยว่แล้วเอ่ยขึ้น "องค์หญิงเพิ่งกลับมาที่เมืองหลวง อาจจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของเมือง"

ซือเจ๋อเยว่ยิ้มหัวเราะเสียงเบาแล้วเอ่ยขึ้น "ข้าเป็นถึงองค์หญิงของแคว้น จำเป็นต้องดูสถานการณ์อันใดหรือ?"

ริมฝีปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "ข้าก็คือผู้กำหนดสถานการณ์!"

อวิ๋นเยว่หยางได้ยินคำนี้รู้สึกว่านางรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!

แม้นางจะเป็นองค์หญิง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่พ่อเสียชีวิต ไม่มีตระกูลแม่คอยสนับสนุน นางก็ไม่มีค่าอันใด

เขาหัวเราะเยาะ "หวังว่าองค์หญิงจะไม่เสียใจในภายหลัง!"

ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจเสียงเบา "บังเอิญเสียจริง ข้าไม่เคยเสียใจเลย"

"การที่วันนี้ท่านกล้าที่จะเอ่ยเช่นนี้กับข้า แท้จริงแล้วก็นับว่าช
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 242

    นางเอ่ยถึงตรงนี้แล้วเอ่ยต่อ "ไม่สิ ใช่ว่าเขาจะไม่เอาความ""เขาส่งท่านมาฆ่าข้า แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงในการฆ่าข้ากับท่าน"ใบหน้าของอวิ๋นเยว่หยางเปลี่ยนไปอีกครั้งซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจยาว "หากคุณชายรองอยากรู้เรื่องพวกนี้ สามารถมาหาข้าที่จวนเยียนอ๋องได้ในวันอื่น""น้องสาม ปล่อยเขาไปเถอะ พวกเรากลับกัน"เยียนเซียวหรานมองไปที่ใบหน้าของอวิ๋นเยว่หยางด้วยสายตาที่เย็นชา เก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วขึ้นไปนั่งบนคานรถม้าครั้งนี้อวิ๋นเยว่หยางไม่ได้ขวางพวกเขาอีกเพราะคำถามของซือเจ๋อเยว่แทงลึกเข้าไปในหัวใจของเขาวันนี้เขาวางแผนที่จะฆ่าซือเจ๋อเยว่ เดิมทีเพียงแค่ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำตอบแก่หนิงกั๋วกงหลังจากการลอบสังหารล้มเหลวเขาก็เปลี่ยนใจ อยากจะโน้มน้าวให้ซือเจ๋อเยว่อยู่ข้างเขา แล้วให้นางคิดแผนการเพื่อฆ่าคนในจวนเยียนอ๋องทั้งหมดแต่คำกล่าวของเขายังไม่ได้เอ่ยออกมา ก็ถูกเยียนเซียวหรานขัดจังหวะอย่างหยาบคายจากนั้นทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดคิด เขายืนอยู่ที่เดิมชั่วครู่ ก่อนจะรีบกลับไปที่จวนหนิงกั๋วกง เขาไปไถ่ถามหนิงกั๋วกงอย่างไม่อ้อมค้อม "ท่านพ่อ เมื่อวานนี้เกิดอันใดขึ้นในจวนกันแน่?"ห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 243

    การไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นนี้ เป็นเรื่องที่ทรมานสำหรับซือเจ๋อเยว่ เพราะร่างกายส่วนบนเคลื่อนไหวได้ แต่ส่วนล่างไม่สามารถทำได้ ทำให้นางต้องนอนอยู่บนเตียง ไม่สามารถไปที่ใดได้นางให้สาวใช้หาตำรามาให้นางอ่านเพื่อคลายความเบื่อนางเพิ่งจะอ่านไปได้สักพัก สาวใช้ก็ล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรงซือเจ๋อเยว่ตกใจอย่างยิ่ง เมื่อหันไปก็เห็นไป๋จื้อเซียนที่ยืนอยู่ในห้อง สีหน้าของนางจึงพลันเปลี่ยนไปอย่างมากนางรีบร่ายคาถา ไป๋จื้อเซียนยืนกอดอก มองนางอย่างอ่อนหวานด้วยสายตาที่เย้ายวน "นักพรตหญิงตัวน้อย อย่ากลัวเลย ข้าไม่ได้มาฆ่าเจ้า"ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าแม้ว่าเขาจะมีพลังเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ยังนับว่าเป็นผู้ที่ทรงพลังมากนางเอ่ยด้วยเสียงที่เย็นชา "เจ้ามาทำอันใด?"ไป๋จื้อเซียนมองห้องของนางอย่างสนใจ "คนที่บำเพ็ญเพียรอาศัยอยู่ในห้องที่หรูหราเช่นนี้ จะไม่ส่งผลต่อจิตใจหรือ?"แท้จริงแล้วห้องของนางในยามนี้นับว่าเรียบง่ายอย่างยิ่ง แต่เมื่อเทียบกับห้องที่นางที่เคยอยู่ในสำนักเต๋า มันก็นับว่าดูหรูหรากว่ามากซือเจ๋อเยว่วาดมือร่ายคาถา เอ่ยออกมาเสียงเบา "การบำเพ็ญเพียรคือการฝึกจิตใจ ไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง"ไป๋จ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 244

    ไป๋จื้อเซียนโจมตีด้วยความรวดเร็ว ในสถานการณ์ปกติ หากซือเจ๋อเยว่จะร่ายคาถาก็คงไม่มีเวลาป้องกันตัวได้ทัน ในดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความโหดเหี้ยม และความตื่นเต้นที่ล้นหลาม แต่เมื่อเขาใกล้เข้ามา ซือเจ๋อเยว่กลับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ดวงตาของนางก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเบื้องหลังยิ้มนั้นคือความมุ่งมั่นในการฆ่า ทั้งสองสบตากันชั่วครู่ แล้วต่างก็หรี่ตาเล็กลง ไป๋จื้อเซียนคิดจะถอย แต่กลับรู้สึกว่าอาจจะถูกนางหลอกอีกครั้ง ถึงอย่างไร ทั้งสองเคยปะทะกันมากี่ครั้ง เขาก็ถูกนางหลอกเท่านั้น ต้องเสียเปรียบนางเท่านั้นดังนั้นคราวนี้เขาจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อย จู่โจมตรงไปยังหัวใจของนางโดยตรง เล็บของเขาคมกริบ เพียงแค่สัมผัสก็สามารถเจาะลึกเข้าสู่ร่างได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เล็บของเขากำลังจะเจาะเข้าไปที่หน้าอกของนาง กระบี่ไม้ท้อเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาที่ฝ่ามือของเขาโดยตรงภาพเช่นนี้ราวกับว่าเขาถือกระบี่ไม้ท้อเอาไว้ในมือซึ่งมือข้างที่สัมผัสกับกระบี่ไม้ท้อข้างนั้นก็เริ่มมีควันลอยคลุ้งขึ้นมาแท้จริงแล้วในขณะที่ซือเจ๋อเยว่ปล่อยมือจากการร่ายคาถา ก็ได้ดึงกระบี่ไม้ท้อออกมาจากใต้หมอนแล้ว นางต่อกรกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 245

    ไป๋จื้อเซียนมองไปที่ซือเจ๋อเยว่แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นี่คือวิญญาณร้ายที่ท่านปล่อยออกมาโดยไม่ระวังหรือ?” ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ใช่! เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้มันโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง! เจ้าต้องระวังให้ดี!” ไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหรานที่กำลังปกป้องซือเจ๋อเยว่ เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอ่ยถามซือเจ๋อเยว่ “นี่คือคนที่เจ้าชอบใช่หรือไม่?” แน่นอนว่าในยามนี้ซือเจ๋อเยว่ไม่ยอมรับเพราะหากนางยอมรับไป จากที่นางรู้จักไป๋จื้อเซียน เขาคนนี้ต้องไปสร้างปัญหากับเยียนเซียวหรานแน่ เยียนเซียวหรานไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวิญญาณร้ายที่ฝึกฝนมาหลายพันปีอย่างไป๋จื้อเซียน นางจึงตอบไป “แน่นอนว่าไม่ใช่ เขาก็แค่ผู้ติดตามของข้าเท่านั้น” หลังจากนั้นนางก็ร่ายคาถาใส่ไปไป๋จื้อเซียนมองนางแล้วหันไปมองเยียนเซียวหราน ก่อนที่จะยกมือปัดป้องการโจมตีของนาง “ไม่ถูกต้อง เจ้าทั้งสองคนมีความผูกพันลึกซึ้งต่อกัน” “ถึงแม้เจ้าไม่ชอบเขา แต่เขาก็คงชอบเจ้า” ซือเจ๋อเยว่ “…” เยียนเซียวหรานชอบนาง? นี่มันเป็นไปไม่ได้! เพราะเยียนเซียวหรานเป็นคนที่มีมารยาทและจิตใจดีเยี่ยม สถานะของทั้งสองต่างก็เป็นที่ประจักษ์ เขาคงไม่มีทางหลงรักนางแน่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 246

    เขาอุ้มนางขึ้นเตียงพลางเอ่ยขึ้น “ท่านจงพักเสียแต่เนิ่น ๆ” เมื่อเอ่ยจบเขาก็จะเดินออกไป แต่ซือเจ๋อเยว่กลับรั้งข้อมือเขาไว้อย่างกะทันหันพลางเอ่ยขึ้น “คืนนี้เจ้าไม่ไปได้หรือไม่?” เยียนเซียวหราน “…” หากสตรีคนอื่นกล่าวกับเขาเช่นนี้ เขาคงตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง แต่เมื่อนางกล่าวเช่นนั้นกับเขา เขาก็รู้ดีว่าแท้จริงแล้วนางเพียงอยากให้เขาต่ออายุขัยให้เท่านั้น ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะขุ่นมัวหดหู่เล็กน้อย หันกลับมามองนางแววตาฉายความไม่อ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย พอซือเจ๋อเยว่ถูกสายตาเช่นนี้ของเขาจับจ้อง ก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ นางจึงค่อย ๆ ดึงมือกลับไป นางเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้าไม่ได้คิดจะหมายถึงเรื่องอื่น…” นางwไม่ได้อธิบายก็ดีแล้ว แต่ยิ่งอธิบายกลับยิ่งทำให้บรรยากาศดูประหลาดขึ้นไปอีก จึงรีบเอ่ยเสริม “ข้าก็แค่อยากลองดู ว่าพอจะทำลายคาถาของไป๋จื้อเซียนได้หรือไม่” “ไม่เช่นนั้น หากเขาบุกมาอีกหน ข้าไม่อาจเคลื่อนไหวได้ก็เสียเปรียบมากนัก” เยียนเซียวหรานไม่ได้เอ่ยอันใด แต่เดินไปอุ้มสาวใช้ที่สลบในห้องออกไป แล้วจึงลงกลอนประตู เมื่อเขากลับมานั่งลงข้างเตียงของซือเจ๋อเยว่ ถามขึ้น “แล้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 247  

    เขายิ้มเยาะเย้ยตนเองในใจ “ข้ากำลังมุ่งหวังอันใดอยู่กัน?” “คาดหวังให้นางบอกว่านางชอบข้า ยอมอยู่ร่วมกับข้าหรือ?” “หรือคาดหวังให้นางเกิดความรู้สึกบางอย่างในความสัมพันธ์ แล้วเราก็ต้องทนทุกข์ไปด้วยกัน?” เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว ทั้งสองอย่างนี้ไม่มีทางเหมาะสมสำหรับพวกเขา เขารู้ดีว่า การตัดสินใจของนางนั้นถูกต้อง แต่เดิมพวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้เหมาะกับคำว่ารัก ซือเจ๋อเยว่วาดยันต์จนดึกดื่นค่อนคืนจึงหยุดพัก ขณะที่เยียนเซียวหรานยืนใต้หน้าต่างนางตลอดทั้งราตรีโดยไม่ขยับไปที่ใด เช้าวันต่อมา ซือเจ๋อเยว่ถูกเยียนเหนียนเหนียนอุ้มออกจากห้องไปทานอาหารเช้า นางหันมองรอบห้องแต่ก็ไม่เห็นเยียนเซียวหราน อยากเอ่ยปากถามสุดท้ายก็รู้ว่าไม่ควร แม้ในนามฐานะของนางจะสามารถถามได้ แต่นางกลับรู้สึกประหม่าในใจ พระชายาเยียนอ๋องบอกกับสาวใช้ “เจ้าจงสั่งคนในครัว ให้พวกเขาทำอาหารจานโปรดของเซียวเอ๋อร์ในช่วงเที่ยง” ซือเจ๋อเยว่หันมามองพระชายาเยียนอ๋องด้วยความสงสัย พระชายาแย้มยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “เช้านี้เซียวเอ๋อร์ออกไปหาซูเซียงแล้ว” “จวนเยียนอ๋องเราขึ้นมาด้วยบารมีการสงคราม บัดนี้ฝ่าบาทยังไม่ได้ลงพระราชโองการให้เซียวเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 248  

    ซือเจ๋อเยว่รู้สึกอย่างแท้จริงจากก้นบึ้งหัวใจ ว่าฮ่องเต้เจาหมิงเป็นบุรุษที่ไม่รักษาสัจจะ! เมื่อวันนั้นพระองค์ยังเอ่ยไว้ว่าจะให้นางเข้าเฝ้าวังให้น้อยลง เพราะไม่ต้องการพบเห็นหน้านาง แต่เวลานี้กลับส่งคนมาเรียกให้นางเข้าเฝ้าอีก นี่พระองค์ประสงค์จะก่อเรื่องอันใดกัน? ซือเจ๋อเยว่จึงให้เยียนเหนียนเหนียนอุ้มนางออกไปพบขันทีจากวัง แล้วกล่าวตอบไปอย่างเรียบเฉยว่าวันนั้นระหว่างทางข้ากลับจากวัง เผลอพลัดตกจนขาข้าได้รับบาดเจ็บ บัดนี้ไม่อาจเดินได้ ขันทีเห็นนางในสภาพนี้ก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดมาก ได้แต่รีบกลับไปรายงานสถานการณ์เช่นที่เป็น ครั้งนี้ผู้ที่ส่งคนมาเชิญซือเจ๋อเยว่คืออวิ๋นไท่เฟย เมื่อทราบว่าขันทีนำตัวซือเจ๋อเยว่มาไม่ได้ นางก็โมโหจนด่าทอเสียยกใหญ่ พร้อมขว้างปาสิ่งของจนแตกกระจาย อวิ๋นไท่เฟยไม่ได้คิดว่าซือเจ๋อเยว่จะขาพลิกจริง นางมั่นใจว่านางหาเรื่องปฏิเสธไม่ยอมเข้าเฝ้า เพื่อจงใจทำให้นางและองค์หญิงสามต้องขายหน้า ใช่แล้ว ครั้งนั้นแม้เจ้าอาวาสแห่งวัดเป้ากั๋วถูกเชิญเข้าวังมา กลับไม่อาจคลายคาถาลัทธิเต๋าที่พันธนาการองค์หญิงสามได้ บัดนี้เมื่อใดที่องค์หญิงสามกล่าววาจา ก็ยังคงเปล่งเสียงเป็น "กะต๊าก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 249

    เขากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ "บัดนี้คดีของจวนเยียนอ๋องยังไม่ได้ข้อยุติ หากเรามีพระราชโองการตำหนิซือเจ๋อเยว่ เหล่าขุนนางในราชสำนักย่อมมองว่าเราต้องการให้จวนเยียนอ๋องล่มสลาย" "หากเป็นเช่นนั้น จะนำพาผลกระทบตามมาอีกมาก และจวนเยียนอ๋องก็อาจประสบเหตุร้ายใหญ่หลวง นางอาจถึงแก่ชีวิต" อวิ๋นไท่เฟยกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม "นางไร้กตัญญูถึงเพียงนี้ หากไม่ได้ลิ้มรสความลำบากเสียบ้าง นางจะเข้าใจได้อย่างไรว่าผู้ที่รักและใกล้ชิดที่สุดในชีวิตนี้คือตัวหม่อมฉัน" "ส่วนเรื่องของจวนเยียนอ๋อง หม่อมฉันได้ยินจากพี่ชายว่าเยียนอ๋องเกือบเสียช่องเขากรงเสือไป แม้เขาตายในสนามรบเรื่องนี้ก็ควรถูกสอบสวนและรับผิดชอบ" "หากปล่อยให้ผู้เสียแผ่นดินแล้วหนีความผิดด้วยการตาย ต่อไปขุนนางคนอื่นจะยังเกรงกลัวพระบารมีอีกหรือ?" ฮ่องเต้เจาหมิงเมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้ากลับเยือกเย็นขึ้น พระองค์จ้องมองอวิ๋นไท่เฟยอย่างเย็นชา สายตานั้นทำให้อวิ๋นไท่เฟยรู้สึกสะท้าน นางรีบพิงกายเข้าไปใกล้เขา "ฝ่าบาท โปรดอย่ามองหม่อมฉันเช่นนี้ หม่อมฉันรู้สึกกลัวเหลือเกิน!" แต่ครั้งนี้ฮ่องเต้เจาหมิงหาได้โอบกอดนางดังเดิม แต่ก็ไม่ได้ผลักไสนางให้ออกห่าง เ

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 274

    นางสวมรองเท้ามือเป็นระวิง เพียงแต่ยิ่งลนลาน ก็ยิ่งทำได้ไม่ดีเดิมทีรองเท้าที่สวมได้อย่างง่ายดายมากเป็นเพราะนางตกตะลึงสวมห้าหกครั้งก็ยังไม่เข้าเยียนเซียวหรานยื่นมือออกไปจับข้อเท้าของนางเอาไว้ นางหันหน้าไปมองเขา เขากลับไม่ได้มองนาง แต่ยกรองเท้าข้างหนึ่งขึ้นมา ค่อย ๆ สวมเข้าไปที่เท้าของนางซือเจ๋อเยว่ “...”นางรู้สึกว่าตนเองในเวลานี้โง่นิด ๆหลังจากเยียนเซียวหรานสวมรองเท้าในนางเสร็จข้างหนึ่งแล้ว ก็สวมอีกข้างอีกให้นางนางกระโดดลงจากเตียงอย่างว่องไว “ลำบากเจ้าแล้ว”นางพูดจบคิดจะหนี กลับถูกเยียนเซียวหรานจับข้อมือขาวเล็กเอาไว้นางมองเขาแล้วถาม “ยังมีธุระอะไรอีกหรือ?”เยียนเซียวหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยื่นมือออกไปแล้วช่วยติดจัดปกคอเสื้อให้นาง ช่วยนางปรับสายคาดเอวให้เรียบร้อย ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”นางหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเยียนเซียวหรานหวีผมให้นางอีก กล่าวเสียงเรียบ “เสร็จแล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเขา ดวงตาของเขาล้ำลึกตามเดิม นางมองเห็นเงาสะท้อนของตนเองในดวงตาของเขาการเต้นของหัวใจนางเริ่มเต้นรัวขึ้นอีกครั้ง นางรู้ว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่เข้าท่า จึงรีบกระโดดหนีออกทางหน้าต่า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 273

    ตอนนี้สมองของซือเจ๋อเยว่ไม่พอใช้แล้ว เมื่อได้ยินเขาถามแบบนี้ นางตอบว่า‘อืม’ทีหนึ่ง ไม่ได้เข้าใจความหมายของเขาจริง ๆเยียนเซียวหรานจับมือของนาง ดึงแขนเสื้อของนางขึ้น เส้นแดงที่อยู่ภายในก็ปรากฏขึ้นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าว “ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”ในที่สุดซือเจ๋อเยว่ก็เข้าใจความหมายของเขา นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลับกล่าวขึ้น “อาจจะเป็นเพราะห่างกันไปหน่อย”ครู่ต่อมา มือของเขาประคองเอวนาง ทันทีที่ออกแรงเพียงเล็กน้อย ก็อุ้มนางขึ้นมาวางไว้บนต้นขาของเขาซือเจ๋อเยว่ “...”ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”อยู่ ๆ เขากลายเป็นคนที่เร่าร้อนจนเกินไป นางรับมือไม่ค่อยไหว!เยียนเซียวหรานสูงกว่านางมาก แล้วก็แข็งแรงกว่านางมาก ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน ชุดนอนของเขาคลุมไว้แค่ครึ่งเดียว นางรู้สึกเหมือนกับถูกฝังอยู่ในอ้อมอกของเขาภายในหัวใจของซือเจ๋อเยว่มีความตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร ทั้งยังจูบลงมาบนริมฝีปากนางนางใช้มือดันแผ่นออกของเขาอย่างไม่รู้ตัว เขาหันไปมองนาง ภายในดวงตาที่ดำขลับคู่นั้นสะท้อนให้เห็นถึงแววตาที่เขามองไม่ออกน้ำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย “มีขั้นตอนไหนที่ข้าทำไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 272

    ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ถาม “เจ้ามีธุระอะไรอีกอย่างนั้นหรือ?”มุมปากของเยียนเซียวหรานยกขึ้นเล็กน้อย “ไหน ๆ คืนนี้องค์หญิงก็มาแล้ว ไม่เติมอายุขัยสักหน่อยแล้วค่อยไปหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางร้อง‘หา’ทีหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้สติอยู่ครู่หนึ่งเยียนเซียวหรานเหลือบตาขึ้น สายตาจดจ้องไปที่นางกล่าว “องค์หญิงอยากจะอายุยืนยาวร้อยปีไม่ใช่หรือ?”“ข้าเกรงว่าข้าไม่ให้ความร่วมมือ วันข้างหน้าองค์หญิงจะมาหาเรื่องข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางคิดว่าเขาค่อนข้างผูกพยาบาทวันนั้นนางก็แค่พูดเล่นกับเขาต่อหน้าของเหล่าไท่จวินเท่านั้น เขากลับจำได้อย่างแม่นยำในเวลานี้นางรู้ว่านางมีตัวเลือกอยู่สองข้อ ข้อแรกคืออยู่ต่อเสียเลย ข้อสองคือรีบหนีไปอย่างแรกจะน่าอายเกินไปหน่อย อย่างหลังจะขี้ขลาดเกินไปหน่อยนางครุ่นคิดครู่หนึ่ง คิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะเริ่มจากทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของตัวเองหากทำตัวขี้ขลาดในเวลาแบบนี้ ต่อไปนางจะมาหาเขาได้อย่างไร? ต่อให้มาหาเขาด้วยอย่างหน้าด้านอีก คิดว่าก็อาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะเอาได้ดังนั้นนางจึงถอดรองเท้า แล้วกระโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 271

    ตอนที่นางได้ยินก็ไม่ได้ประหลาดใจมากเท่าใดนัก ดวงสมรสของลู่จิ่นเหนียง นั่นก็ทำได้เพียงเป็นอนุของคนอื่นเท่านั้นปกติการเป็นอนุ ขอเพียงแค่ฝั่งผู้ชายชอบนาง ทุกอย่างจะปรากฏขึ้นในดวงสมรสสิ่งเหล่านี้สามารถยืนยันได้ว่า อวิ๋นเยว่หยางรับลู่จิ่นเหนียงเป็นอนุเพราะมีจุดประสงค์อื่น เขาไม่ได้ชอบลู่จิ่นเหนียงเมื่อซือเจ๋อเยว่นึกถึงท่าทางที่หยิ่งผยองเกินความเป็นจริงของลู่จิ่นเหนียง รู้ว่าหากครั้งนี้ลู่จิ่นเหนียงไม่เอาชีวิตไปทิ้งที่จวนหนิงกั๋วกง ก็ต้องได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจเพียงแต่เรื่องนี้ตามที่เหล่าไท่จวินได้กล่าว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนอ๋องแล้ว นางก็คร้านจะช่วยเป็นธุระให้ลู่จิ่นเหนียงบัดนี้สิ่งที่นางเป็นกังวลยิ่งกว่าก็คือเรื่องที่อวิ๋นเยว่หยางขโมยดวงชะตาของเยียนเซียวหรานไปสองครั้งก่อนนางได้ตามหาค่ายกลนั่นแต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว แล้วก็ตามหาค่ายกลอันนั้นไม่เจออีก เกรงว่าดวงชะตาของเยียนเซียวหรานจะถูกขโมยไปจนหมดแล้วหลายวันมานี้ซือเจ๋อเยว่คิดอยู่หลายวิธี หลังจากตัดออกไปจำนวนหนึ่ง ก็รู้สึกว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้หรือว่าแบบนั้น ความเสี่ยงก็มากทั้งนั้นนางคิดอยู่หลายตลบ คิดว่าบางทีอาจจะสาม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 270

    ซุ่ยซุ่ยของนางยังไม่ออกเรือน สถานการณ์ของจวนเยียนอ๋องเป็นแบบนี้ นางต้องปลุกใจให้ฮึกเหิมเสียหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ควรเป็นภาระของพวกเขาเหล่าไท่จวินที่อยู่ข้าง ๆ กล่าว “แม้ว่าวันนี้เวินชิงจะรับปากองค์หญิง ต้องทำตามที่รับปาก”“ต่อไปเจ้ามีเวลาว่าง ก็มาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่อย่างข้า”เบ้าตาของจู้อี๋เหนียงแดงเล็กน้อย คุกเข่าลงบนพื้นกล่าวเสียงเบา “ลูกอกตัญญู ทำให้เหล่าไท่จวินต้องเป็นห่วง”เหล่าไท่จวินยื่นมือออกไปประคองนางลุกขึ้น จับมือของนางแล้วตบเบา ๆ “เรื่องในอดีตก็ให้ผ่านไป พวกเราต้องมองไปข้างหน้า”จู้อี๋เหนียงเช็ดน้ำตากล่าว “ข้าเชื่อฟังเหล่าไท่จวิน”ซือเจ๋อเยว่ชอบบรรยากาศของจวนเยียนอ๋องที่สุด เหล่าไท่จวินเป็นคนชราที่เฉลียวฉลาด ถึงแม้คนในจวนจะมากมาย แต่นางกลับน่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งตอนที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง คนที่ได้รับความกระทบกระเทือนมากที่สุดไม่ใช่เหล่าไท่จวิน แล้วก็ไม่ใช่พระชายาเยียนอ๋อง แต่ทว่าเป็นจู้อี๋เหนียงก่อนหน้านี้จู้อี๋เหนียงเป็นคนอมทุกข์มาตลอด ออกจากเรือนน้อยมากเหล่าไท่จวินไปปลอบใจจู้อี๋เหนียงเป็นประจำในจวนมีของของดีอะไร เหล่าไท่จวินก็จะคิดถึงนาง ไม่ใช่เพราะว่านางเป็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 269

    “อย่างไรเสียจวนหนิงกั๋วกงก็ดีกว่าจวนเยียนอ๋อง สิ่งที่เรียกว่าชื่อเสียงของจวนเยียนอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินดีช่วยพี่ชายของเจ้าให้เลื่อนตำแหน่ง”“ตามที่ข้ามอง จวนเยียนอ๋องที่ไม่มีน้ำใจ ไม่รู้จักปรับตัวเช่นนี้ก็สมควรล่มสลาย!”ลู่จิ่นเหนียงได้ฟังคำพูดพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกมีตรงไหนผิดปกติ เดิมทีจวนเยียนอ๋องก็ยึดติดกับหลักการมากเกินไปต่อให้เยียนซื่อจะปฏิบัติต่อนางดีมากแค่ไหน ทันทีที่นางพูดเรื่องที่ให้เขาช่วยเหลือ เขาก็จะชักสีหน้าทันทีเมื่อเปรียบเทียบกัน จวนหนิงกั๋วกงมีความเปิดกว้างมากกว่า แล้วก็เต็มไปด้วยความจริงใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีเรื่องนี้ เมื่อนางมองเห็นเครื่องประดับและผ้าเหล่านี้ ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นแบบเก่าอีกแล้วลู่ฮูหยินกล่าวอีกว่า “คุณชายรองให้ความสำคัญกับเจ้าเป็นอย่างมาก อยากจะให้เจ้ารีบเจ้าจวนเร็วหน่อย”“วันนี้ข้าได้ปรึกษากับท่านพ่อของเจ้าแล้ว พรุ่งนี้จะส่งตัวเจ้าเข้าจวนหนิงกั๋วกง ตามความต้องการของจวนกั๋วกง”ลู่จิ่นเหนียงตกตะลึงไปทันที “ไปจวนหนิงกั๋วกงวันพรุ่งนี้? นี่มันจะรีบเกินไปหน่อยหรือไม่?”ลู่ฮูหยินตอบ “รีบที่ไหนกัน นี่เห็นได้ชัดเจนว่าจวนหนิงกั๋วกงให้ความสำคัญกับ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 268

    นางพ่นลมหายใจกล่าว “องค์หญิงอย่างไรเสียก็จัดการเรื่องของตนเองให้ดีเถอะ เลิกริษยาคนอื่น ใจกว้าง บางทีอาจจะสามารถมีชีวิตได้ถึงสิบแปดปี!”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดถากถางของลู่จิ่นเหนียงไม่เพียงไม่โกรธ ทั้งยังรู้สึกน่าขันเล็กน้อยนางทำอะไรด้วยใจมาตลอด ในเวลานี้เตือนสติลู่จิ่นเหนียงก็เป็นเพราะเยียนซื่อแต่น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ความคิดบิดเบี้ยวตั้งแต่ภายใน กระเสือกกระสนรนหาที่ตาย ต่อให้เทพต้าหลัวมาที่นี่ เกรงว่าก็คงจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ได้นางพยักหน้ากล่าว “ข้าคิดว่าที่เจ้าพูดนั้นมีเหตุผลมาก คนที่จิตใจคับแคบ จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานจริง ๆ”นางพูดจบก็คร้านจะสนใจลู่จิ่นเหนียงอีก กล่าวกับเยียนเซียวหราน “น้องสาม พวกเราไปกันเถอะ!”ลู่จิ่นเหนียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก เยียนเซียวหรานมองนางด้วยสายตาเย็นยะเยือกแวบหนึ่งสายตานั้นเย็นยะเยือกเข้ากระดูก ความน่าสะพรึงกลัวเต็มเปี่ยม ลู่จิ่นเหนียงเห็นก็รู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง คำพูดที่กำลังจะพูดออกมาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นนางก็พบว่า เยียนเซียวหรานแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง บนร่างกายของเขามีพลังอำนาจอันแข็งแกร่ง ที่ไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 267

    นางกับเยียนเซียวหรานตรงไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งด้านในร้านมีผ้าหลากหลายที่สุดเยียนเซียวหรานกลัวว่านางจะเกิดเรื่อง จึงเดินตามหลังนางตลอดทุกฝีก้าวซือเจ๋อเยว่เลือกผ้าให้แต่ละคน รวมกันทั้งหมดสิบกว่าพับ พวกเขาไม่สะดวกถือไปด้วย จึงให้เถ้าแก่มอบหมายให้คนส่งไปที่จวนเยียนอ๋องทันทีที่ซือเจ๋อเยว่จ่ายเงินเสร็จ ก็เห็นลู่จิ่นเหนียงพาสาวใช้เดินเข้ามาหา ทั้งสองคนพบกันโดยบังเอิญ จึงมีความประหลาดใจเล็กน้อยลู่จิ่นเหนียงเป็นเพราะครั้งก่อนซือเจ๋อเยว่เคยฉีกหน้านาง นางจึงไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เป็นอย่างยิ่งในเวลานี้เมื่อเจอกัน นางยังคงกล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม “องค์หญิง ไม่เจอกันนานเลย”ซือเจ๋อเยว่คุ้นเคยกับการมองหน้านางแวบหนึ่ง ใต้ตาของนางดำคล้ำ คาดว่านางน่าจะเอาเด็กออกแล้ว ต่อไปก็คงจะไม่มีลูกของตัวเองอีกนอกจากนี้แล้ว ชีวิตในวังหลวงของนางมีเต็มความซับซ้อน เมื่อเห็นฉากนี้ ต่อไปลู่จิ่นเหนียงคงจะใช้ชีวิตอย่างค่อนข้างขรุขระสีหน้าของนางยังนับว่าพอถูไถไปได้ ใบหน้าเหมือนว่ายังพอมีความสุขอยู่บ้างในเมื่ออีกฝ่ายยอมรับผิดแล้วก็ย่อมให้อภัย ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตอบ ตั้งใจที่จะออกไปพร้อมกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 266

    ซือเจ๋อเยว่ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยหมดสติไปเพราะตื่นเต้นเกินไป พวกท่านส่งนางกลับไปเถอะ”คำพูดที่นางพูดกับอวิ๋นไท่เฟยเมื่อครู่นี้ บรรดาคนในวังหลวงที่อยู่ใกล้ต่างก็ได้ยินกันหมดพวกเขามองซือเจ๋อเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในเวลานี้มีคนหลายคนร่วมแรงกันประคองอวิ๋นไท่เฟยขึ้นมา แล้วรีบวิ่งออกไปคนของวังหลวงที่ถูกวิญญาณรายล้อมคนนั้น ในเวลานี้วิญญาณปล่อยนางไปแล้ว ทันทีที่นางได้รับอิสระ ก็รีบวิ่งหนีอย่างโซซัดโซเซกลางวันแสก ๆ เลยนะ!พวกเขาเจอเรื่องแบบนี้ น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ!ฮองเฮามองไม่เห็นวิญญาณ เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้อวิ๋นไท่เฟยตกใจจนหมดสติไปทันที จากนั้นกลุ่มคนก็วิ่งหนีกันฉี่ราดสารรูปเช่นนี้ของพวกเขา ตอนที่มาอวดดีมากขนาดไหน ตอนกลับไปก็ดูไม่จืดมากเท่านั้นฮองเฮากับอวิ๋นไท่เฟยประมือกันมาหลายครั้ง ถึงแม้นางจะชนะมากกว่าแพ้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการสู้กันด้วยวาจา ไฉนเลยจะมีความสุขเท่าครั้งนี้?นางมองซือเจ๋อเยว่กล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าทำอะไรพวกเขา?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “หม่อมฉันก็อาศัยอยู่ในสำนักเต๋ามาเป็นเวลานาน ถึงอย่างไรก็ยังพอมีความสามารถเป็นของ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status