แชร์

บทที่ 233

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
“ก็คือที่พูดกันว่าฮ่องเต้ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางไม่อาจไม่ตายนั่นแหละเพคะ”

นางกล่าวจบก็ถามเขาอีกว่า “เสด็จอา พระองค์คงมิได้กลัวจวนหนิงกั๋วกงกระมัง?”

ฮ่องเต้เจาหมิง “…”

คำถามนี้ ดุจดั่งการแทงดาบเข้าสู่หัวใจของเขา

เรื่องเช่นนี้ เขาไม่มีทางยอมรับต่อหน้าผู้เยาว์คนหนึ่งเป็นแน่

เขากล่าวด้วยสีหน้าดำคล้ำว่า “หากเจ้าไม่ใช่สายเลือดเพียงคนเดียวของเสด็จพี่ แค่คำพูดนี้ของเจ้า ข้าก็สามารถประทานโทษตายให้เจ้าแล้ว”

ซือเจ๋อเยว่หดคอกล่าวว่า “ตั้งแต่เด็กหม่อมฉันเติบโตมาในอารามเต๋า จึงไม่รู้เรื่องในเมืองหลวง”

“เพราะหม่อมฉันได้ยินเสด็จอาตรัสเช่นนั้น เลยรู้สึกสงสัย ถามไปอย่างนั้นเองเพคะ”

“ก็ใช่ เสด็จอาทรงเก่งกาจเพียงนั้น จะทรงกลัวจวนหนิงกั๋วกงได้อย่างไร?”

“หากเสด็จอาทรงอยากลงโทษพวกเขา ก็แค่ราชโองการฉบับเดียวเท่านั้น”

เพลานี้ ฮ่องเต้เจาหมิงไม่มีปัญญาจะพูดกับนางว่า ราชโองการไม่อาจออกส่งเดชได้

เขารู้สึกว่าที่ตนกล่าวกับนางนั้น ไม่เพียงไม่ได้ยินข้อมูลจากปากนาง แต่กลับถูกนางควบคุมอีกด้วย

เขาจึงกล่าวเสียงเย็นว่า “หากเจ้าไม่มีเรื่องอื่น ก็จงออกจากวังไปเถอะ!”

ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าวว่า “หม่อมฉันยังมีเรื่อง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 234

    ทว่าเถ้าแก่ร้านกลับขวางอยู่ที่ด้านหลังของนาง “แม่นาง ในเมื่อมาแล้ว ก็จงรั้งอยู่ที่นี่เถิด!”เขากล่าวจบ ก็หยิบดาบเล่มหนึ่งออกมาแทงเข้าใส่นางซือเจ๋อเยว่ระวังอยู่ก่อนแล้ว เพียงกลิ้งตัวลงบนพื้นก็หลบดาบนั้นไปได้แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็กลับไปอยู่ในร้านอีกครั้ง ชายฉกรรจ์ถือดาบห้าหกคนรุมล้อมนางไว้ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วบางๆ ทีหนึ่ง “ที่พวกเจ้าเปิดเป็นร้านโจรสินะ?”ในดวงตาของเถ้าแก่ร้านเต็มไปด้วยความดุร้าย ไม่ปกปิดอีกต่อไป “วันนี้เจ้าตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”ซือเจ๋อเยว่ส่ายหัว “วันนี้ตอนที่ข้าเข้ามา ได้ตรวจดูใบหน้าให้เจ้า ยามที่เจ้าถือกำเนิด ราศีที่ปรากฏขึ้น ณ ขอบฟ้าทางทิศตะวันออกดำมืดไปหมด นั่นเป็นลักษณะของความตายอย่างกะทันหัน”“ดังนั้นวันนี้ผู้ที่จะตายคือเจ้า ไม่ใช่ข้า”เถ้าแก่ร้านเย้นหยันต่อคำพูดของนางว่า “อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าจะดูว่าวันนี้เจ้าจะหนีไปได้อย่างไร แล้วจะสังหารข้าได้อย่างไร”เขาเพิ่งกล่าวจบ ก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังบีบคอเขาอยู่สีหน้าของเขาไม่น่ามองอย่างมาก เมื่อชายฉกรรจ์หลายคนที่อยู่ด้านข้างได้เห็นฉากนี้ก็ตะลึงค้างอยู่ตรงนั้น ภาพเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้าเกินกว่าคว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 235

    ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ได้สิ เจ้าฆ่าคนพวกนั้นก่อน แล้วข้าจะตายไปอยู่กับเจ้าเอง”“เรื่องนี้ง่ายมาก” ดวงตาแวววาวดุจคลื่นน้ำของไป๋จื้อเซียนหมุนวน นิ้วทั้งห้าแปรเป็นกรงเล็บอันแหลมคม สังหารชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ที่ล้อมซือเจ๋อเยว่อยู่ไปในทันทีซือเจ๋อเยว่ “…”นางรู้มาตลอดว่าเขาโหดเหี้ยมมาก แต่เขาถูกขังอยู่ในอาวุธเวทย์มานานถึงเพียงนี้แล้วกลับยังดุร้ายเช่นนี้อีก ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยเดิมนางคิดว่าเขายังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยในการฆ่าชายพวกนั้น นางจะได้ใช้อาวุธเวทย์เก็บเขาเข้าไปเขากลับดีนัก นางเพียงกะพริบตาครั้งเดียว เขาก็จัดการเรื่องราวเรียบร้อยแล้วเมื่อเขาหันศีรษะมา ก็เห็นซือเจ๋อเยว่ชูอาวุธเวทย์ขึ้นมาพอดีรอยยิ้มในก้นบึ้งดวงตาของเขาจึงสลายไปอย่างสิ้นเชิง กล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเสแสร้งว่า “เจ้ายังคงเจ้าเล่ห์เหมือนเมื่อก่อนเลย”“เจ้าขังข้ามานานหลายปีขนาดนี้ ทันทีที่ปล่อยข้าออกมาก็จะหลอกข้าอีก บัญชีนี้เจ้าจะคิดอย่างไร?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่ยกเจ้านี่ขึ้นมากล่าวคำทักทายเจ้าเฉยๆ น่ะ”มุมปากของไป๋จื้อเซียนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 236

    เพียงแต่ซือเจ๋อเยว่ก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องขึ้นมาอีก นางยื่นมือไปหยิบหยกที่อาจารย์ใหญ่มอบให้ออกมา ยามนี้หยกชิ้นนั้นได้แตกลงแล้วหยกชิ้นนี้ ตอนที่เจอเงาดำนั่นก็เกิดรอยร้าวขึ้นมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะถูกฝ่ามือเดียวของไป๋จื้อเซียนซัดจนแตกในใจของนางรู้สึกกังวล นี่มันเรื่องอะไรกันนี่นอกประตูมีเสียงร้องด้วยความตกใจดังมา น่าจะเป็นเพราะมีเลือดสดไหลออกไปจากร้าน และถูกคนภายนอกพบเข้าแล้วซือเจ๋อเยว่รู้ว่าถ้ามีคนเห็นนางอยู่ที่นี่ นางก็คงต้องถูกดึงเข้าไปพัวพันกับคดีใดอีกแล้ว เวลานี้การจากไปเป็นวิธีที่ดีที่สุดตอนที่นางฆ่าจ้าวซือหว่านนั้นได้เตรียมการไว้ก่อน จึงสามารถอธิบายได้ชัดเจน ทว่าวันนี้ เลือดสดเนืองนอง นางไม่สามารถอธิบายสิ่งใดให้ชัดแจ้งได้เลย!นางยกเท้าจะจากไป กลับค้นพบอย่างน่าสลดว่า ตัวนางในยามนี้กลับถูกคนใช้คาถาตรึงร่างไว้ ทำให้เท้าขยับไม่ได้นางจึงนึกถึงสายตาที่ไป๋จื้อเซียนมองนางในตอนที่จากไป นางจึงได้เข้าใจในทันทีว่านี่เป็นฝีมือของเขาเขาบอกว่านางไร้สัจจะ แต่เขาก็มิใช่พบว่านางมีสิ่งของปกป้องกาย ฆ่านางไม่ได้ ถึงได้ใช้วิธีอื่นมาตุ๋นนางหรือเร็วขนาดนี้ก็มีคนเข้ามาแล้ว แปดส่วนคงจะเป

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 237

    ในตอนที่อวิ๋นเยว่หยางเห็นลู่จิ่นเหนียงนั้น เขานึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าสตรีผู้นี้คือผู้ใด แม้รูปโฉมจะงดงามอยู่บ้าง แต่การแสดงท่าทางเช่นนี้บนท้องถนนก็ออกจะไร้ความสำรวมเกินไปแล้วผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายของเขากระซิบเตือนเบาๆ “นางคือคุณหนูของสกุลลู่ขอรับ”อวิ๋นเยว่หยางรู้สึกตัวขึ้นมาทันที เขาทักทายกลับด้วยท่าทางราวสุภาพบุรุษว่า “คุณหนูลู่สบายดีหรือ”เขาคิดว่าด้วยฐานะเช่นนี้ของลู่จิ่นเหนียง หากไม่เพราะนางมีประโยชน์อื่น ต่อให้เป็นอนุของเขาก็ยังไม่คู่ควรเลยเขายังมีเรื่องต้องไปจัดการอีก ไม่มีอารมณ์จะมากล่าวสิ่งใดกับลู่จิ่นเหนียงให้มากความ จึงเตรียมตัวจากไปลู่จิ่นเหนียงกลับขวางเขาไว้ที่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวว่า “วันนี้แม่สื่อได้มาที่จวนแล้วเจ้าค่ะ”“มีอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณชายได้สั่งการผิดไปหรือไม่?”อวิ๋นเยว่หยางถามอย่างไม่เข้าใจอยู่บ้างว่า “มีเรื่องใดจัดการผิดพลาดไปหรือ?”ใบหน้าของลู่จิ่นเหนียงเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย กล่าวเสียงเบาว่า “ข้าเป็นภริยาเอกเท่านั้น ไม่เป็นอนุเจ้าค่ะ”“ตอนนั้นที่คุณชายส่งแม่สื่อไปสู่ขอที่จวน ก็ให้ข้าเป็นภริยาเอก”ช่วงก่อนนางแท้งบุตร จึงพักผ่อน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 238

    ลู่จิ่นเหนียงไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดประโยคนี้ นางโมโหจนหน้าแดง “เหตุใดคุณชายจึงได้เหยียดหยามคนเช่นนี้ แถมยังกล่าววาจากลับกลอกอีก?”อวิ๋นเยว่หยางมองนางดั่งมองหญิงเสียสติ แล้วกล่าวว่า “ตั้งแต่แรกที่ข้าพูดก็คือรับเจ้าเป็นอนุ แล้วจะกลับกลอกได้อย่างไร?”สีหน้าของลู่จิ่นเหนียงไม่น่ามองอย่างมาก นางยังคิดจะกล่าวสิ่งใดอีก แต่ลู่ฮูหยินรีบมาขวางนางไว้ “ล้วนเป็นความเข้าใจผิด! เป็นความเข้าใจผิด!”“จิ่นเหนียงรบกวนคุณชายรองแล้ว ข้าขออภัยคุณชายรองไว้ ณ ที่นี้ด้วย”อวิ๋นเยว่หยางแค่นเสียงเบาๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อจากไปสภาพแบบนี้ ยังคิดจะเป็นภรรยาของเขา?ช่างฝันเฟื่องเสียเหลือเกิน!น้ำตาของลู่จิ่นเหนียงแทบจะไหลออกมาแล้ว “ท่านแม่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”ลู่ฮูหยินเห็นว่ารอบข้างมีคนรายล้อมเข้ามา จึงรีบดึงนางขึ้นรถม้า จากนั้นจึงกล่าวว่า “ที่พวกเราทำเช่นนี้ ก็เพื่อช่วยเจ้าทั้งนั้น!”“จวนเยียนอ๋องก็จะตกอยู่ในอันตรายเต็มที หากแม่ไม่บอกว่าคุณชายรองเต็มใจแต่งเจ้าเป็นภรรยา แล้วเจ้าจะเต็มใจออกจากจวนเยียนอ๋องได้อย่างไร?”ลู่จิ่นเหนียงตะลึงไปแล้ว “ดังนั้น ท่านรู้แต่แรกแล้วว่าคุณชายรองเพียงต้องก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 239

    “มันก็นับว่าใจเด็ด ถึงกับแบ่งร่างวิญญาณของตนเป็นสองส่วน ถูกข้าเก็บไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนีไปแล้ว”เยียนเซียวหราน “…”เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า บนโลกนี้ยังมีเรื่องเช่นนี้อีกซือเจ๋อเยว่ถอนใจยาวออกมาอีกครั้ง “ครั้งนี้ข้าปล่อยมันออกมาโดยไม่ทันระวัง ด้วยนิสัยของมัน ต้องก่อความปั่นป่วนไปทั่วเมืองหลวงแน่”“ตอนนี้สภาพร่างกายของข้าไม่ค่อยดี คิดจะจับมันกลับมาไม่ง่ายเลย”“ถ้ามันไปกินวิญญาณเพิ่มจนแข็งแกร่งกว่าเดิม ก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก”เรื่องนี้เกินกำลังของเยียนเซียวหราน ต่อให้เขาอยากช่วยก็ช่วยไม่ได้เขาใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ท่านก็อย่าเพิ่งร้อนใจไป ในเมื่อพลังของมันลดลงไปมาก คิดว่าคงไม่อาจก่อปัญหาอะไรมาก”“ท่านดูแลร่างกายตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยไปหามัน”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “เจ้าพูดไม่ผิด ที่สำคัญคือตัวข้าในสภาพเช่นนี้ ต่อให้ตอนนี้ในใจข้าร้อนใจเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์”เมื่อครู่ตอนนางมาที่นี่ ก็ใช้คาถาไปมากมายคิดจะทำลายคาถาตรึงร่างของมัน แต่กลับไม่สำเร็จเลยตอนนี้นางเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ ย่อมไม่มีทางจะไปจับไป๋จื้อเซียนได้เรื่องนี้หากให้พวกท่านอาจารย์รู้เข้า นางต้องถูกตำหนิอี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 240

    แม้นางก็มีความประหม่าของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าเยียนเซียวหรานที่หน้าแดงน่ารักอย่างมากมุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย “พวกเราประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลธรรม ไม่จำเป็นต้องกลัวคำครหาของผู้อื่น”เยียนเซียวหรานเหล่ตามองนางทีหนึ่ง แม้เขาจะมิได้กล่าวสิ่งใด แต่กลับแสดงความหมายออกมาอย่างชัดเจนอย่างมากว่าพวกเขาในตอนนี้ เกรงว่าว่าจะไร้ความเกี่ยวข้องกับ ‘ประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลผิดธรรม’ อะไรนั่นเลยซือเจ๋อเยว่ “…”นางคิดดูแล้ว เพื่อความอยู่รอดในอนาคต นางอาจยังต้องกอดเขา จูบเขาอีก แถมมีความเป็นไปได้ที่จะต้องนอนกับเขาด้วยเมื่อคิดถึงความฐานะความสัมพันธ์ในนามของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยถูกต้องจริงๆนางพยายามแก้ต่างให้ตัวเองว่า “ข้าแค่คิดว่าร่างกายของข้าไม่ค่อยดี ถ้าข้าอาการกำเริบขึ้นมาเหนียนเหนียนอาจช่วยไม่ได้ ยังต้องเป็นเจ้า”เยียนเซียวหรานมองนางอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม มิได้เอ่ยวาจาเมื่อซือเจ๋อเยว่สบเข้ากับสายตานี้ของเขา ก็ยิ่งรู้สึกประหม่าในความผิดแล้วเพราะประโยชน์สูงสุดที่เขาอยู่ข้างกายนาง ก็คือการเป็นเครื่องยืดอายุ และการยืดอายุขัยยังต้องใช้วิธีที่วาบหวิวที่ส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 241

    อวิ๋นเยว่หยาง "…"ก่อนหน้านี้เขาคิดมาเสมอ หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กลับมาที่เมืองหลวง สิ่งเดียวที่นางสามารถพึ่งพาได้คือจวนหนิงกั๋วกงของพวกเขาเมื่อนางอยู่ต่อหน้าพวกเขา ต้องก้มต่ำทำตัวอ่อนน้อม ขอความเมตตาจากพวกเขา พวกเขาจึงจะพิจารณาว่าจะให้ผลประโยชน์เล็กน้อยแก่นางหรือไม่แต่ท่าทางของนางในยามนี้ ดูคล้ายว่านางไม่เห็นจวนหนิงกั๋วกงอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยเขามองไปที่ซือเจ๋อเยว่แล้วเอ่ยขึ้น "องค์หญิงเพิ่งกลับมาที่เมืองหลวง อาจจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของเมือง"ซือเจ๋อเยว่ยิ้มหัวเราะเสียงเบาแล้วเอ่ยขึ้น "ข้าเป็นถึงองค์หญิงของแคว้น จำเป็นต้องดูสถานการณ์อันใดหรือ?"ริมฝีปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "ข้าก็คือผู้กำหนดสถานการณ์!"อวิ๋นเยว่หยางได้ยินคำนี้รู้สึกว่านางรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!แม้นางจะเป็นองค์หญิง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่พ่อเสียชีวิต ไม่มีตระกูลแม่คอยสนับสนุน นางก็ไม่มีค่าอันใดเขาหัวเราะเยาะ "หวังว่าองค์หญิงจะไม่เสียใจในภายหลัง!"ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจเสียงเบา "บังเอิญเสียจริง ข้าไม่เคยเสียใจเลย""การที่วันนี้ท่านกล้าที่จะเอ่ยเช่นนี้กับข้า แท้จริงแล้วก็นับว่าช

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 363

    ไป๋จื้อเซียนเห็นว่านางมองเขา สุดท้ายแล้วเขาก็อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่อยากให้ฆ่าสังหารผู้คน ข้าไม่สังหารก็สิ้นเรื่อง”ที่เขาสังหารคนก็เพราะว่าในใจของเขาไม่มีความสุข คนทั่วไปสำหรับเขาเป็นเหมือนมดแมลง สามารถบีบให้ตายได้ตามใจชอบซือเจ๋อเยว่ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ก็ลูบจมูกเบา ๆ ทีหนึ่ง ถามเขา “เพราะฉะนั้น ข้าเป็นสหายเก่าเมื่อหนึ่งพันปีก่อนของเจ้าจริง ๆ หรือ?”ไป๋จื้อเซียนพยักหน้า “ถูกต้อง เจ้าให้สัญญากับข้าว่าจะเจอกันหนึ่งพันปีหลังจากนั้น”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก “ต้องขออภัยจริง ๆ เรื่องพวกนั้นข้าจำมันไม่ได้แล้ว”“ข้ารู้” ไป๋จื้อเซียนกล่าวเสียงราบเรียบ “ตอนนี้ข้าได้สาบานกับสวรรค์แล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่หรือไม่?”ครึ่งประโยคหลังเขายังไม่ได้พูด เขายังไม่รู้ว่า เมื่อหนึ่งพันปีก่อนนางใส่ใจเขามาก ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเหลือความทรงจำเมื่อหนึ่งพันปีช่วงนั้นเอาไว้มีเพียงเพราะหมกมุ่นมากถึงได้เก็บความทรงจำเอาไว้นานขนาดนี้ตอนนี้นางจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะค่อย ๆ ทำให้นางจำเขาให้ได้ก่อนหน้านี้นางมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อเขาก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 362

    เขาถึงขนาดคิดว่า ในใจของนาง เขาก็เป็นคนที่พิเศษคนนั้นเช่นกันเมื่อเขาคิดเช่นนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเขาหยิบสิ่งของอย่างหนึ่งออกมา พลังชั่วร้ายพวกนั้นทั้งหมดถูกดูดไปอย่างสะอาดหมดจดแล้ว จากนั้นก็ลอยจากท้องฟ้ามาที่ตรงหน้าของสีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือถือกระบี่ไม้ท้อก้าวไปข้างหน้า มือของซือเจ๋อเยว่กดที่บนมือของเขาจนถึงตอนนี้ ความแตกต่างของความสามารถระหว่างพวกเขามีมากเกินไป ไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลยวันนี้หากต้องลงมือกันจริง ๆ เกรงว่าพวกเขาจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่ทั้งหมด แล้วก็สังหารไป๋จื้อเซียนไม่ได้อีกด้วยในเรื่องการกำจัดปีศาจ ซือเจ๋อเยว่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ตลอดครั้งนี้เอาชนะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าค่อยหาตัวช่วยที่จะทำให้เสมอกัน แล้วค่อยหาโอกาสลงมือกับเขาอีกครั้งการกระทำนี้ของนางทำให้ไป๋จื้อเซียนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ยกมือขึ้น แล้วโบกมือใส่เยียนเซียวหรานทันทีเยียนเซียวหรานถือกระบี่ไม้ท้อขวางเอาไว้ จึงต้านทานการโจมตีครั้งนี้ของไป๋จื้อเซียนได้ เพียงแต่เขาก็ถอยหลังไปหลายก้าวเช่นกันไป๋จื้อเซียนมีความประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้ ไอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 361

    นางเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งสำนักเต๋า ดังนั้นการร่ายคาถาก็เหมือนกับกินข้าวกินน้ำ แต่สำหรับคนในสำนักเต๋าทั่วไปแล้ว กลับเป็นเรื่องที่ยากมากทว่าตอนนี้เยียนเซียวหรานไม่เพียงเคยเห็นนางร่ายคาถาไม่กี่ครั้ง ก็สามารถร่ายคาถาได้แล้ว นี่ถึงจะเรียกว่าผู้มีพรสวรรค์!นางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้าร่ายคาถาเป็น เช่นนั้นพวกเรามาเผชิญหน้าด้วยกัน!”เยียนเซียวหรานพยักหน้าหลังจากที่เขารู้จักนาง ถึงได้เข้าใจเรื่องพวกนี้ทั้งหมดก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจคาถาเต๋า แต่ตอนหลังเขาได้ไปเรียนรู้ดาววิบัติดวงนั้นเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาตั้งรับเตรียมพร้อมตอนที่ห่างจากพวกเขาไปประมาณสิบกว่าจั้ง เยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงปราณชั่วร้ายที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่ปราณชั่วร้ายกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด คมราวกับมีด ก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อพัดโดนหน้าซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาปกป้องร่างกายของพวกเขาเอาไว้ ตอนที่เตรียมที่จะพุ่งตัวเข้าไปต่อสู้ด้วยนั้น ข้าง ๆ ก็มีสีแดงปรากฏขึ้นแวบหนึ่งจากนั้นพลังชั่วร้ายที่เย็นยะเยือกที่เดิมทีรุนแรงมากก็สลายหายไปภายในชั่วพริบตาเยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 360

    วิธีการพูดแบบนี้ของซือเจ๋อเยว่ อันที่จริงเป็นคำศัพท์เฉพาะของสำนักเต๋าคำศัพท์นี้หมายถึงไม่ใช่ดาวฤกษ์ที่อยู่บนท้องฟ้า ทว่าใช้ทักษะชั่วร้ายมารวมตัวกันจนกลายเป็นพลังชั่วร้ายพลังชั่วร้ายประเภทนี้ไม่ใช่วิญญาณทั่วไปที่ตายด้วยความโกรธแค้นจนกลายเป็นพลังชั่วร้าย แต่เป็นพลังชั่วร้ายที่ก่อตัวมาจากความคิดชั่วร้ายและวิญญาณชั่วร้ายที่สะสมของโลกใบนี้หลังจากที่บรรดาเต๋าสายดำตามหาพลังชั่วร้ายประเภทนี้จนเจอ ค่อยใช้การฝึกพลังเฉพาะสกัดให้บริสุทธิ์ แล้วนำพวกมันมารวมไว้ด้วยกัน ก็เหมือนกับสิ่งที่เห็นอยู่ในตอนนี้พลังชั่วร้ายประเภทนี้หลังจากที่ถูกเจ้าของฝึกฝนมานาน ก็จะกลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในมือของเต๋าสายดำเมื่อเจ้าของของพลังชั่วร้ายตอนที่สั่งให้พวกมันไปจัดการคนคนหนึ่ง พวกมันก็สามารถกลืนกินคนคนนั้นได้จากนั้นพวกเขาค่อยให้มนุษย์เกิดความคิดชั่วร้าย แล้วค่อยใช้ความคิดชั่วร้ายเป็นอาหารบำรุงพวกมัน ทว่าคนที่อยู่ที่นั่น ได้กลายเป็นหุ่นเชิดที่มีชีวิต มีพวกเขาคอยควบคุมซือเจ๋อเยว่จ้องมองดาววิบัติที่เข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยดาววิบัติดวงนี้ใหญ่กว่าที่นางเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ ในเวลาเด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 359

    นั่นเป็นเพราะหลังจากที่ตอนนั้นเขาเข้าไปในค่ายกลแล้ว ตกอยู่ในภาพลวงตา เหมือนเช่นเยียนเซียวหรานในตอนนี้ตัวประหลาดนั่นโหดเหี้ยมน่ากลัวเกินไป ภายในร่างกายกักขังเศษวิญญาณเอาไว้มากมายขนาดนั้นนางไม่จำเป็นต้องเดา เศษวิญญาณที่ตัวประหลาดกักขังเอาไว้ภายในร่างกายพวกนั้น เกรงว่าทั้งหมดจะเป็นองครักษ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อเมื่อนางนึกถึงเรื่องศพอันไม่สมบูรณ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ถูกขนกลับมายังจวนเยียนอ๋อง เกรงว่าจะไม่ได้โดนสัตว์ป่ากัดเอา ทว่าถูกตัวประหลาดนี้ฉีกนางไม่สามารถจินตนาการได้ เยียนอ๋องซื่อจื่อและกลุ่มคนถูกขังอยู่ภายในค่ายกลนี้ ตอนที่ถูกตัวประหลาดฉีกกินทั้งเป็น จะน่าเวทนาและหมดหนทางมากขนาดไหน!ทว่าเรื่องทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงแค่ต้องการฆ่าปิดปากพวกเขา จากนั้นก็ทำเป็นตาค่ายกล ถูกกักขังระหว่างหยินกับหยางตลอดไป กลับชาติมาเกิดใหม่ไม่ได้ต่อให้วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์จะหนีไปแล้วกลับชาติมาเกิดใหม่ หากไม่โง่ ปัญญาอ่อน ก็จะอายุสั้น เพราะดวงวิญญาณไม่สมบูรณ์ ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะกลับชาติมาเกิดคนผู้นี้จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ทำให้รู้สึกโกรธมากจริง ๆ!พวกเขาวิ่งไปข้างหน้าอยู่ครู่หนึ่งถึงได้หยุดลงแล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 358

    ตัวประหลาดจับลูกธนูดอกนั้นไว้แล้วโยนใส่พวกเขาเยียนเซียวหรานหลบด้วยความรวดเร็ว ธนูดอกนั้นลอยเฉียดหัวของเขาไปซือเจ๋อเยว่ส่งเสียงร้องประหลาดใจออกมาเบา ๆ พลังสังหารของตัวประหลาดตัวนี้มากเสียจนน่าหวาดกลัวสีหน้าของเยียนเซียวหรานเองก็ค่อนข้างดูแย่เช่นกัน หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปอยากจะยิงให้ถูกตัวประหลาดอีกก็คงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากตอนที่ซือเจ๋อเยว่เห็นตัวประหลาดไล่ตามมา พลังชั่วร้ายสีดำที่แผ่ซ่านออกมาจากมือ นางจึงมีวิธีการแล้วนางหยิบลูกธนูดอกหนึ่งขึ้นมาแล้วติดยันต์ที่ด้านบน ให้เยียนเซียวหรานยิงอีกครั้งตัวประหลาดในเวลานี้อยู่ใกล้กับพวกเขามาก เยียนเซียวหรานทำได้เพียงหลบไปก่อน แล้วค่อยยิงธนูดอกนั้นออกไปตัวประหลาดตัวนั้นมองเห็นการเคลื่อนไหวนี้ของเขา ในดวงตาปรากฏความเหยียดหยามขึ้นมาแวบหนึ่ง ใช้วิธีการเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อจับธนูดอกนั้นเพียงแต่ครั้งนี้ตอนที่มันจับลูกธนูดอกนั้นเอาไว้ ทันใดนั้นยันต์ห้าอัสนีบาตรก็ทำงาน ภายในชั่วพริบตา เสียงฟ้าร้องคำรามลั่น ฟ้าผ่ามันจนไหม้เกรียมเยียนเซียวหรานแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าทำแบบนี้น่าจะผ่าจนตัวประหลาดตายแล้ว ทว่าครู่ต่อมา ตัวประหลาดก็ขยับอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status