แชร์

บทที่ 232

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
ซือเจ๋อเยว่ก็ไม่รู้ว่าเขาหมายความเช่นใด ลือกันว่าเขาโปรดปรานอวิ๋นไท่เฟยอย่างยิ่ง นางจึงไม่กล้าพูดความจริง

นางจึงกล่าวว่า “เมื่อวานหม่อมฉันไปรักษาโรคที่จวนหนิงกั๋วกง เรื่องที่จวนหนิงกั๋วกงถูกเผา ไม่เกี่ยวกับหม่อมฉันจริงๆ นะเพคะ”

ฮ่องเต้เจาหมิงมองนาง ด้วยรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ข้าก็ไม่ได้บอกว่าเรื่องที่จวนหนิงกั๋วกงถูกเผาเกี่ยวกับเจ้านี่”

ซือเจ๋อเยว่ “…”

นางรู้สึกว่า คำพูดนี้ของตนเหมือนจะยิ่งปกปิดยิ่งเปิดเผยแล้ว จึงยิ้มเจื่อน เสมือนว่าตนมิได้กล่าวคำพูดนี้มาก่อน

ฮ่องเต้เจาหมิงโบกมือเบาๆ ขันทีและนางกำนัลที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายก็ถอยออกไป

ขันทีคนสนิทของเขาเฝ้าอยู่ไม่ไกล ไม่ให้ผู้อื่นเข้าใกล้

หลังฮ่องเต้เจาหมิงมองสำรวจนางขึ้นลงคราหนึ่ง “นิสัยนี้ของเจ้าเหมือนเสด็จพี่อยู่หลายส่วนทีเดียว”

“ตอนเจ้ากลับมาเมืองหลวง ข้ายังเป็นห่วงอยู่บ้าง บัดนี้ดูไปแล้ว คงจะกังวลไปเปล่าๆ แล้ว”

ซือเจ๋อเยว่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเขา จึงยิ้มถามว่า “เสด็จอาทรงกังวลสิ่งใดเพคะ?

ฮ่องเต้เจาหมิงตอบว่า “กังวลเรื่องความสัมพันธ์ของเจ้ากับจวนหนิงกั๋วกง กลัวว่าเจ้าจะถูกอำนาจพวกนั้นมอมเมาจิตใจ คิดว่าตนเองควรแซ่อว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 233

    “ก็คือที่พูดกันว่าฮ่องเต้ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางไม่อาจไม่ตายนั่นแหละเพคะ”นางกล่าวจบก็ถามเขาอีกว่า “เสด็จอา พระองค์คงมิได้กลัวจวนหนิงกั๋วกงกระมัง?”ฮ่องเต้เจาหมิง “…”คำถามนี้ ดุจดั่งการแทงดาบเข้าสู่หัวใจของเขาเรื่องเช่นนี้ เขาไม่มีทางยอมรับต่อหน้าผู้เยาว์คนหนึ่งเป็นแน่เขากล่าวด้วยสีหน้าดำคล้ำว่า “หากเจ้าไม่ใช่สายเลือดเพียงคนเดียวของเสด็จพี่ แค่คำพูดนี้ของเจ้า ข้าก็สามารถประทานโทษตายให้เจ้าแล้ว”ซือเจ๋อเยว่หดคอกล่าวว่า “ตั้งแต่เด็กหม่อมฉันเติบโตมาในอารามเต๋า จึงไม่รู้เรื่องในเมืองหลวง”“เพราะหม่อมฉันได้ยินเสด็จอาตรัสเช่นนั้น เลยรู้สึกสงสัย ถามไปอย่างนั้นเองเพคะ”“ก็ใช่ เสด็จอาทรงเก่งกาจเพียงนั้น จะทรงกลัวจวนหนิงกั๋วกงได้อย่างไร?”“หากเสด็จอาทรงอยากลงโทษพวกเขา ก็แค่ราชโองการฉบับเดียวเท่านั้น”เพลานี้ ฮ่องเต้เจาหมิงไม่มีปัญญาจะพูดกับนางว่า ราชโองการไม่อาจออกส่งเดชได้เขารู้สึกว่าที่ตนกล่าวกับนางนั้น ไม่เพียงไม่ได้ยินข้อมูลจากปากนาง แต่กลับถูกนางควบคุมอีกด้วยเขาจึงกล่าวเสียงเย็นว่า “หากเจ้าไม่มีเรื่องอื่น ก็จงออกจากวังไปเถอะ!”ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าวว่า “หม่อมฉันยังมีเรื่อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 234

    ทว่าเถ้าแก่ร้านกลับขวางอยู่ที่ด้านหลังของนาง “แม่นาง ในเมื่อมาแล้ว ก็จงรั้งอยู่ที่นี่เถิด!”เขากล่าวจบ ก็หยิบดาบเล่มหนึ่งออกมาแทงเข้าใส่นางซือเจ๋อเยว่ระวังอยู่ก่อนแล้ว เพียงกลิ้งตัวลงบนพื้นก็หลบดาบนั้นไปได้แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็กลับไปอยู่ในร้านอีกครั้ง ชายฉกรรจ์ถือดาบห้าหกคนรุมล้อมนางไว้ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วบางๆ ทีหนึ่ง “ที่พวกเจ้าเปิดเป็นร้านโจรสินะ?”ในดวงตาของเถ้าแก่ร้านเต็มไปด้วยความดุร้าย ไม่ปกปิดอีกต่อไป “วันนี้เจ้าตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”ซือเจ๋อเยว่ส่ายหัว “วันนี้ตอนที่ข้าเข้ามา ได้ตรวจดูใบหน้าให้เจ้า ยามที่เจ้าถือกำเนิด ราศีที่ปรากฏขึ้น ณ ขอบฟ้าทางทิศตะวันออกดำมืดไปหมด นั่นเป็นลักษณะของความตายอย่างกะทันหัน”“ดังนั้นวันนี้ผู้ที่จะตายคือเจ้า ไม่ใช่ข้า”เถ้าแก่ร้านเย้นหยันต่อคำพูดของนางว่า “อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าจะดูว่าวันนี้เจ้าจะหนีไปได้อย่างไร แล้วจะสังหารข้าได้อย่างไร”เขาเพิ่งกล่าวจบ ก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังบีบคอเขาอยู่สีหน้าของเขาไม่น่ามองอย่างมาก เมื่อชายฉกรรจ์หลายคนที่อยู่ด้านข้างได้เห็นฉากนี้ก็ตะลึงค้างอยู่ตรงนั้น ภาพเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้าเกินกว่าคว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 235

    ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ได้สิ เจ้าฆ่าคนพวกนั้นก่อน แล้วข้าจะตายไปอยู่กับเจ้าเอง”“เรื่องนี้ง่ายมาก” ดวงตาแวววาวดุจคลื่นน้ำของไป๋จื้อเซียนหมุนวน นิ้วทั้งห้าแปรเป็นกรงเล็บอันแหลมคม สังหารชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ที่ล้อมซือเจ๋อเยว่อยู่ไปในทันทีซือเจ๋อเยว่ “…”นางรู้มาตลอดว่าเขาโหดเหี้ยมมาก แต่เขาถูกขังอยู่ในอาวุธเวทย์มานานถึงเพียงนี้แล้วกลับยังดุร้ายเช่นนี้อีก ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยเดิมนางคิดว่าเขายังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยในการฆ่าชายพวกนั้น นางจะได้ใช้อาวุธเวทย์เก็บเขาเข้าไปเขากลับดีนัก นางเพียงกะพริบตาครั้งเดียว เขาก็จัดการเรื่องราวเรียบร้อยแล้วเมื่อเขาหันศีรษะมา ก็เห็นซือเจ๋อเยว่ชูอาวุธเวทย์ขึ้นมาพอดีรอยยิ้มในก้นบึ้งดวงตาของเขาจึงสลายไปอย่างสิ้นเชิง กล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเสแสร้งว่า “เจ้ายังคงเจ้าเล่ห์เหมือนเมื่อก่อนเลย”“เจ้าขังข้ามานานหลายปีขนาดนี้ ทันทีที่ปล่อยข้าออกมาก็จะหลอกข้าอีก บัญชีนี้เจ้าจะคิดอย่างไร?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่ยกเจ้านี่ขึ้นมากล่าวคำทักทายเจ้าเฉยๆ น่ะ”มุมปากของไป๋จื้อเซียนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 236

    เพียงแต่ซือเจ๋อเยว่ก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องขึ้นมาอีก นางยื่นมือไปหยิบหยกที่อาจารย์ใหญ่มอบให้ออกมา ยามนี้หยกชิ้นนั้นได้แตกลงแล้วหยกชิ้นนี้ ตอนที่เจอเงาดำนั่นก็เกิดรอยร้าวขึ้นมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะถูกฝ่ามือเดียวของไป๋จื้อเซียนซัดจนแตกในใจของนางรู้สึกกังวล นี่มันเรื่องอะไรกันนี่นอกประตูมีเสียงร้องด้วยความตกใจดังมา น่าจะเป็นเพราะมีเลือดสดไหลออกไปจากร้าน และถูกคนภายนอกพบเข้าแล้วซือเจ๋อเยว่รู้ว่าถ้ามีคนเห็นนางอยู่ที่นี่ นางก็คงต้องถูกดึงเข้าไปพัวพันกับคดีใดอีกแล้ว เวลานี้การจากไปเป็นวิธีที่ดีที่สุดตอนที่นางฆ่าจ้าวซือหว่านนั้นได้เตรียมการไว้ก่อน จึงสามารถอธิบายได้ชัดเจน ทว่าวันนี้ เลือดสดเนืองนอง นางไม่สามารถอธิบายสิ่งใดให้ชัดแจ้งได้เลย!นางยกเท้าจะจากไป กลับค้นพบอย่างน่าสลดว่า ตัวนางในยามนี้กลับถูกคนใช้คาถาตรึงร่างไว้ ทำให้เท้าขยับไม่ได้นางจึงนึกถึงสายตาที่ไป๋จื้อเซียนมองนางในตอนที่จากไป นางจึงได้เข้าใจในทันทีว่านี่เป็นฝีมือของเขาเขาบอกว่านางไร้สัจจะ แต่เขาก็มิใช่พบว่านางมีสิ่งของปกป้องกาย ฆ่านางไม่ได้ ถึงได้ใช้วิธีอื่นมาตุ๋นนางหรือเร็วขนาดนี้ก็มีคนเข้ามาแล้ว แปดส่วนคงจะเป

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 237

    ในตอนที่อวิ๋นเยว่หยางเห็นลู่จิ่นเหนียงนั้น เขานึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าสตรีผู้นี้คือผู้ใด แม้รูปโฉมจะงดงามอยู่บ้าง แต่การแสดงท่าทางเช่นนี้บนท้องถนนก็ออกจะไร้ความสำรวมเกินไปแล้วผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายของเขากระซิบเตือนเบาๆ “นางคือคุณหนูของสกุลลู่ขอรับ”อวิ๋นเยว่หยางรู้สึกตัวขึ้นมาทันที เขาทักทายกลับด้วยท่าทางราวสุภาพบุรุษว่า “คุณหนูลู่สบายดีหรือ”เขาคิดว่าด้วยฐานะเช่นนี้ของลู่จิ่นเหนียง หากไม่เพราะนางมีประโยชน์อื่น ต่อให้เป็นอนุของเขาก็ยังไม่คู่ควรเลยเขายังมีเรื่องต้องไปจัดการอีก ไม่มีอารมณ์จะมากล่าวสิ่งใดกับลู่จิ่นเหนียงให้มากความ จึงเตรียมตัวจากไปลู่จิ่นเหนียงกลับขวางเขาไว้ที่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวว่า “วันนี้แม่สื่อได้มาที่จวนแล้วเจ้าค่ะ”“มีอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณชายได้สั่งการผิดไปหรือไม่?”อวิ๋นเยว่หยางถามอย่างไม่เข้าใจอยู่บ้างว่า “มีเรื่องใดจัดการผิดพลาดไปหรือ?”ใบหน้าของลู่จิ่นเหนียงเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย กล่าวเสียงเบาว่า “ข้าเป็นภริยาเอกเท่านั้น ไม่เป็นอนุเจ้าค่ะ”“ตอนนั้นที่คุณชายส่งแม่สื่อไปสู่ขอที่จวน ก็ให้ข้าเป็นภริยาเอก”ช่วงก่อนนางแท้งบุตร จึงพักผ่อน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 238

    ลู่จิ่นเหนียงไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดประโยคนี้ นางโมโหจนหน้าแดง “เหตุใดคุณชายจึงได้เหยียดหยามคนเช่นนี้ แถมยังกล่าววาจากลับกลอกอีก?”อวิ๋นเยว่หยางมองนางดั่งมองหญิงเสียสติ แล้วกล่าวว่า “ตั้งแต่แรกที่ข้าพูดก็คือรับเจ้าเป็นอนุ แล้วจะกลับกลอกได้อย่างไร?”สีหน้าของลู่จิ่นเหนียงไม่น่ามองอย่างมาก นางยังคิดจะกล่าวสิ่งใดอีก แต่ลู่ฮูหยินรีบมาขวางนางไว้ “ล้วนเป็นความเข้าใจผิด! เป็นความเข้าใจผิด!”“จิ่นเหนียงรบกวนคุณชายรองแล้ว ข้าขออภัยคุณชายรองไว้ ณ ที่นี้ด้วย”อวิ๋นเยว่หยางแค่นเสียงเบาๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อจากไปสภาพแบบนี้ ยังคิดจะเป็นภรรยาของเขา?ช่างฝันเฟื่องเสียเหลือเกิน!น้ำตาของลู่จิ่นเหนียงแทบจะไหลออกมาแล้ว “ท่านแม่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”ลู่ฮูหยินเห็นว่ารอบข้างมีคนรายล้อมเข้ามา จึงรีบดึงนางขึ้นรถม้า จากนั้นจึงกล่าวว่า “ที่พวกเราทำเช่นนี้ ก็เพื่อช่วยเจ้าทั้งนั้น!”“จวนเยียนอ๋องก็จะตกอยู่ในอันตรายเต็มที หากแม่ไม่บอกว่าคุณชายรองเต็มใจแต่งเจ้าเป็นภรรยา แล้วเจ้าจะเต็มใจออกจากจวนเยียนอ๋องได้อย่างไร?”ลู่จิ่นเหนียงตะลึงไปแล้ว “ดังนั้น ท่านรู้แต่แรกแล้วว่าคุณชายรองเพียงต้องก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 239

    “มันก็นับว่าใจเด็ด ถึงกับแบ่งร่างวิญญาณของตนเป็นสองส่วน ถูกข้าเก็บไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนีไปแล้ว”เยียนเซียวหราน “…”เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า บนโลกนี้ยังมีเรื่องเช่นนี้อีกซือเจ๋อเยว่ถอนใจยาวออกมาอีกครั้ง “ครั้งนี้ข้าปล่อยมันออกมาโดยไม่ทันระวัง ด้วยนิสัยของมัน ต้องก่อความปั่นป่วนไปทั่วเมืองหลวงแน่”“ตอนนี้สภาพร่างกายของข้าไม่ค่อยดี คิดจะจับมันกลับมาไม่ง่ายเลย”“ถ้ามันไปกินวิญญาณเพิ่มจนแข็งแกร่งกว่าเดิม ก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก”เรื่องนี้เกินกำลังของเยียนเซียวหราน ต่อให้เขาอยากช่วยก็ช่วยไม่ได้เขาใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ท่านก็อย่าเพิ่งร้อนใจไป ในเมื่อพลังของมันลดลงไปมาก คิดว่าคงไม่อาจก่อปัญหาอะไรมาก”“ท่านดูแลร่างกายตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยไปหามัน”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “เจ้าพูดไม่ผิด ที่สำคัญคือตัวข้าในสภาพเช่นนี้ ต่อให้ตอนนี้ในใจข้าร้อนใจเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์”เมื่อครู่ตอนนางมาที่นี่ ก็ใช้คาถาไปมากมายคิดจะทำลายคาถาตรึงร่างของมัน แต่กลับไม่สำเร็จเลยตอนนี้นางเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ ย่อมไม่มีทางจะไปจับไป๋จื้อเซียนได้เรื่องนี้หากให้พวกท่านอาจารย์รู้เข้า นางต้องถูกตำหนิอี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 240

    แม้นางก็มีความประหม่าของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าเยียนเซียวหรานที่หน้าแดงน่ารักอย่างมากมุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย “พวกเราประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลธรรม ไม่จำเป็นต้องกลัวคำครหาของผู้อื่น”เยียนเซียวหรานเหล่ตามองนางทีหนึ่ง แม้เขาจะมิได้กล่าวสิ่งใด แต่กลับแสดงความหมายออกมาอย่างชัดเจนอย่างมากว่าพวกเขาในตอนนี้ เกรงว่าว่าจะไร้ความเกี่ยวข้องกับ ‘ประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลผิดธรรม’ อะไรนั่นเลยซือเจ๋อเยว่ “…”นางคิดดูแล้ว เพื่อความอยู่รอดในอนาคต นางอาจยังต้องกอดเขา จูบเขาอีก แถมมีความเป็นไปได้ที่จะต้องนอนกับเขาด้วยเมื่อคิดถึงความฐานะความสัมพันธ์ในนามของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยถูกต้องจริงๆนางพยายามแก้ต่างให้ตัวเองว่า “ข้าแค่คิดว่าร่างกายของข้าไม่ค่อยดี ถ้าข้าอาการกำเริบขึ้นมาเหนียนเหนียนอาจช่วยไม่ได้ ยังต้องเป็นเจ้า”เยียนเซียวหรานมองนางอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม มิได้เอ่ยวาจาเมื่อซือเจ๋อเยว่สบเข้ากับสายตานี้ของเขา ก็ยิ่งรู้สึกประหม่าในความผิดแล้วเพราะประโยชน์สูงสุดที่เขาอยู่ข้างกายนาง ก็คือการเป็นเครื่องยืดอายุ และการยืดอายุขัยยังต้องใช้วิธีที่วาบหวิวที่ส

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 294

    "ไม่มีคำว่าแต่อันใดทั้งนั้น" นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน "หากท่านไม่รีบออกไป อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!" ซือเจ๋อเยว่ "…" เมื่อคืนที่ผ่านมานางได้ยินเยียนเซียวหรานบอกว่าราชครูไม่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น และไม่ชอบพบเจอคนแปลกหน้า นางคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้น อย่างน้อยก็การที่เขาเร่งเดินทางไกลกลับมาเพื่อใช้กระบี่ฟันไป๋จื้อเซียนครั้งนั้น ก็หมายความว่าเขาหาใช่คนที่เพิกเฉยต่อปัญหาของผู้คนโดยสิ้นเชิง นางยังคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้ เมื่อเขาเดาเจตนาของนางได้ เขากลับส่งนักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวที่ดุดันมาไล่นางออกไป หากเรื่องนี้เกิดขึ้นที่อื่น นางคงจะบุกขึ้นเขาไปถามเขาให้รู้เรื่อง แต่ที่นี่คือเมืองหลวง อีกทั้งกระบี่ของเขาคราวก่อนทรงพลังจนเกินคาด ราชครูผู้นี้คงเป็นยอดฝีมือที่นางไม่อยากขัดแย้งด้วย ดังนั้น นางจึงทำได้แค่พาเยียนเซียวหรานเดินออกจากค่ายกลไปอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่พวกเขาก้าวออกจากค่ายกล นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวก็รีบปิดซุ้มประตูที่เชิงเขาทันที ซึ่งปกติแทบไม่เคยปิด เขาปิดประตูอย่างรุนแรงจนซือเจ๋อเยว่ที่เดินช้ากว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 293

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงไม่มีความจำเป็นต้องถามอีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า” ครั้งนี้เยียนเซียวหรานไม่ได้หันกลับมามองนางอีก และนางก็ไม่ได้รั้งเขาไว้ นางหมุนตัวแล้วเดินจากไป เยียนเซียวหรานมองเปลวเทียนที่ลุกไหวอยู่ในศาลบรรพชน ก่อนจะถอนหายใจเสียงยาว เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมาที่ห้อง นางครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเยียนเซียวหรานในปีนี้ นางคิดหลายตลบก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด ในสถานการณ์เช่นนี้ คำอธิบายเดียวที่ดูคล้ายจะสมเหตุสมผล คืออาจเป็นเพราะลุงเขยของเยียนเซียวหรานมาเยือน จึงทำให้เขาอารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ นางยักไหล่เล็กน้อย ไม่ใส่ใจจะคิดต่อ และหันไปวางแผนว่าหากได้พบกับราชครูในวันรุ่งขึ้น นางจะเกลี้ยกล่อมให้เขาช่วยจัดการไป๋จื้อเซียนได้อย่างไร เช้าวันรุ่งขึ้น เยียนเซียวหรานมาตามที่นัดไว้ เขาพานางไปยังหอพยากรณ์ดวงดาวเพื่อพบกับราชครู แม้จะเรียกว่าหอ แต่ที่แท้แล้วคือกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ที่อดีตฮ่องเต้สร้างขึ้นเพื่อราชครู ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งที่แห่งนั้น ก็สามารถเฝ้าดูดวงดาวและทำนา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 292

    แท้จริงแล้วราชครูมีการไปมาหาสู่กับเยียนอ๋อง ในเมืองหลวงเขาแทบไม่มีสหายที่ใด เยียนอ๋องกลับเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว ครั้งล่าสุดก่อนที่เยียนอ๋องจะออกศึก ราชครูเคยมาพบเยียนอ๋องครั้งหนึ่ง ส่วนพวกเขาหารือเรื่องใดกันนั้น เยียนเซียวหรานไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่ได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกันในห้องหนังสือ หลังจากจวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง ราชครูก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ในค่ำคืนนั้นเมื่อเยียนเซียวหรานพบราชครูที่เรือนพักในจวนหนิงกั๋วกง เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกในความทรงจำของเยียนเซียวหราน ที่ราชครูยอมเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ ปกติเมื่อเขาอยู่ในเมืองหลวง ก็มักจะพำนักอยู่ในหอพยากรณ์ดวงดาว ไม่ว่าจะมีเรื่องใดที่ไม่สำคัญจริง เขาจะไม่มีทางออกมา ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความกังวล “แต่ไป๋จื้อเซียนนั้นเป็นภัยใหญ่ ทั้งยังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย” “เกรงว่าไม่นานเกินรอเขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยิ่งจัดการยากขึ้น” “ไม่ว่าราชครูจะยินยอมพบข้าหรือไม่ ข้าคงต้องหาวิธีพบเขาให้ได้” เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะไปกับท่าน” ซือเจ๋อเยว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 291

    เขานึกถึงภาพในช่วงหลายวันที่ผ่านมายามนางนอนอยู่บนเตียงโดยไม่มีวี่แววของลมหายใจใด ๆ หัวใจเขาเจ็บปวดราวกับถูกบีบคั้นจนแทบทนไม่ได้ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่เสมอว่าสภาพร่างกายของนางไม่แข็งแรง แต่ทุกครั้งที่เขาได้พบนาง นางกลับมีรอยยิ้มเปี่ยมล้นบนใบหน้า ร่างกายของนางดูเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เขาไม่เคยคิดว่านางเป็นคนที่กำลังจะสิ้นลม และไม่เคยคิดว่าสภาพร่างกายของนางจะแย่ถึงเพียงนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับเตือนเขา ว่านางบอบบางยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิดไว้มากนัก เขาเอ่ยเสียงเบา “เรื่องนี้ข้าจัดการเองได้ องค์หญิงพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนให้ดีเถอะ”ซือเจ๋อเยว่หัวเราะเสียงเบา “สภาพร่างกายของข้า ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?” “เมื่อมีเจ้าอยู่ข้างกาย ข้าอาจอยู่ได้นานขึ้นอีกสักหน่อย แต่หากเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะตายเร็วขึ้นกว่าเดิม” เยียนเซียวหรานขมวดคิ้วแน่น บัดนี้เขาไม่อยากได้ยินคำว่า ‘ตาย’ อีกแล้ว ซือเจ๋อเยว่นั่งลงข้างเขา ใช้มือทั้งสองประคองคางของตนเองไว้พลางเอ่ยขึ้น “อีกอย่าง ไป๋จื้อเซียนนั่นเป็นข้าที่ปล่อยออกมาเอง” “เรื่องครั้งนี้จะไปโทษเจ้าไม่ได้หรอก หากจะโทษก็ต้องโทษข้า” “

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 290

    เยียนเซียวหรานหลุบตาลง “ท่านย่าสั่งสอนได้ถูกต้อง ครั้งนี้เป็นข้าที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตอนนี้องค์หญิงฟื้นแล้ว ท่านย่าลงโทษข้าเถิดขอรับ”เหล่าไท่จวินพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ท่านย่า เรื่องนี้โทษน้องสามไม่ได้จริง ๆ หากจะโทษก็ต้องโทษที่ตอนนั้นสถานการณ์พิเศษ”“ข้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอเข้ากับไป๋จื้อเซียนที่นั่น หากไม่ใช่เพราะน้องสามปกป้องข้าจนสุดชีวิตละก็ ข้าก็คงตายไปแล้ว”“ดังนั้นท่านย่าอย่าได้ลงโทษน้องสามเลย เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน”เหล่าไท่จวินถอนหายใจ “องค์หญิงไม่ต้องร้องขอความเมตตาแทนเขา เขาเป็นบุรุษ เดิมทีก็ควรปกป้องญาติผู้หญิงในครอบครัวอยู่แล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเยียนเซียวหราน เขายืนหน้านิ่งยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นนางมองมา ก็สบตากับนางแวบหนึ่ง แล้วก็เก็บสายตาคืนกลับมาซือเจ๋อเยว่รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “วันนั้นข้าเห็นเหนียนเหนียนหมดสติไปเช่นกัน เหนียนเหนียนไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เยียนเหนียนเหนียนโผล่หน้าออกมาจากทางด้านหลังของเหล่าไท่จวิน “ข้าไม่เป็นไร แค่หมดสติเป็นครู่เดียวเท่านั้น ในไม่ช้าก็หายดีแล้ว”“ร่างกายของข้าแข็งแรง องค์หญิ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 289

    ตอนที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นยันต์พวกนั้นก็หรี่ตาลงทันที เมื่อตระหนักได้ว่าทรงพลัง ก็โยกหลบอย่างรวดเร็วซือเจ๋อเยว่ฉวยโอกาสยื่นนิ้วออกไป ยันต์พวกนั้นก็ไล่ตามไป๋จื้อเซียนไป ร่างกายของเขามียันต์ห้าอัสนีบาตแผ่นหนึ่งแปะอยู่เขาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มองไปทางด้านนอกห้องแวบหนึ่ง รู้ว่าหากวันนี้ไม่หนีไป เกรงว่าจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ จึงวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วตอนที่เขาวิ่งหนี เมฆฝนก่อตัวขึ้น ไล่ตามเขาภายในชั่วพริบตา ทั่วทั้งเรือนเต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้อง ผู้ดูแลพาท่านหมอเดินเข้ามาพอดี ทันทีที่เห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนลูกตาเกือบถลนออกมาถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นไป๋จื้อเซียน แต่เขามองเห็นสายฟ้าบนท้องฟ้า เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสายฟ้าหน้าตาแบบนี้ทันทีที่ไป๋จื้อเซียนวิ่งหนี ห้องก็กลับคืนสู่สภาพปกติ ตะเกียงน้ำมันที่มุมห้องยังคงสว่างอยู่ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้น ทันทีที่หันหน้าไปมอง ก็เห็นว่าคนที่ฟันกระบี่ใส่ไป๋จื้อเซียนก็คือเยียนเหนียนเหนียนนางรู้สึกผิดปกติ ต่อให้นางแปะยันต์แผ่นหนึ่งบนกระบี่ของเยียนเหนียนเหนียน กระบี่เล่มนั้นของนางร้ายกาจกว่ากระบี่ทั่วไปเล็กน้อย ก็ไม่มีทางทำลายอาณาเขตที่ไป๋จื้อเซียนวางเอาเม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 288

    ครู่ต่อมา ซือเจ๋อเยว่หยิบอาวุธเวทย์อีกชิ้นหนึ่งออกมา เพียงแต่นางยังไม่ทันเข้าไปหา ก็ถูกเส้นผมสีดำของเขากวาดลอยกระเด็นออกไปเยียนเซียวหรานอยากจะเข้ามาช่วย แต่กลับถูกผ้าต่วนสีแดงรัดลำคอเอาไว้เขากล่าวอย่างยากลำบาก “องค์หญิง!”ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้นกระอักเลือดออกมา ไป๋จื้อเซียนไม่ได้เขยิบเข้าไปใกล้ตรงหน้าของนางพอดีเลือดพ่นใส่มือของไป๋จื้อเซียน มือของเขาเป็นรูทันทีเขาค่อนข้างประหลาดใจ “นักพรตหญิงน้อย ร่างกายของเจ้ามีความพิเศษนี่นา!”ปากเขาพูดไป มือกลับบีบลำคอของนางเอาไว้ “กินตบะของเจ้า จะต้องบำรุงมากแน่!”ร่างกายของซือเจ๋อเยว่ เป็นวิญญาณมาหนึ่งพันปี เป็นครั้งแรกที่ได้เจอร่างกายอย่างนางเขาเคยเห็นในหนังสือเล่มหนึ่ง หากได้กินวิญญาณของนาง เท่ากับเป็นการบำเพ็ญตบะห้าร้อยปีถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเคยประมือกับนางมาก่อน แต่ครั้งก่อนนางไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก เขาไม่รู้ว่านางจะมีร่างกายที่พิเศษเช่นนี้บัดนี้ค้นพบแล้ว ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันทีเพียงแต่คนที่มีร่างกายเช่นนาง เนื่องจากร่างกายพิเศษมากเกินไป ดังนั้นอยากจะกลืนกินนางก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซือเจ๋อเยว่ใช้มือปาดเลือดที่มุมปาก ยื่นมื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 287

    พวกเขาร่วมมือกันอยากจะจับตัวไป๋จื้อเซียนเอาไว้เป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งเรื่องหนึ่งเขารู้ว่าในเวลานี้ไม่มีเวลาห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนาง นางก็ต้องเป็นคนจบเรื่องนางพูดกับเยียนเซียวหรานเบา ๆ “เจ้าถ่วงเวลาเขาไว้สักสิบวินาที”เยียนเซียวหรานพยักหน้า มือของซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาอย่างรวดเร็วไป๋จื้อเซียนเห็นสัญลักษณ์มือของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้ายังจะจับตัวข้าเอาไว้อีกอย่างนั้นหรือ?”เขาพูดจบก็พุ่งตัวเข้ามาหานาง พุ่งตรงเข้ามาควักหัวใจของนางกระบี่ไม้ท้อในมือของเยียนเซียวหรานพันเข้าใส่ไป๋จื้อเซียนทันทีทั้งสองอย่างปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไป๋จื้อเซียนหัวเราะเบา ๆ “ฮ่า น่าสนุก! แต่วันนี้ ที่ตรงนี้เป็นถิ่นของข้า ข้าเป็นใหญ่!”เส้นผมสีดำของเขาแผ่สยาย ผ้าต่วนสีแดงบนร่างกายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว พุ่งเข้าใส่เยียนเซียวหรานที่แฝงไปด้วยเจตนาสังหารต่อให้วิชากระบี่ของเยียนเซียวหรานจะดีแค่ไหน กระบี่ไม้ท้อไม่ใช่อาวุธแหลมที่สามารถตัดโลหะหรือหยกได้ จึงถูกพันธนาการเอาไว้ทันทีเขารีบชักกระบี่ติดตัวของตนเองที่อยู่บริเวณเอวของตนเองออกมา ฟันเข้าใส่เส้นผมสี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 286

    ค่ำคืนนี้ ซือเจ๋อเยว่มาตามที่คาดไว้!เขามองเยียนเซียวหรานด้วยสายตาเย็นยะเยือก หันหน้ากลับไปมองค่ายกลที่ได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วแวบหนึ่ง ยิ้มอย่างชั่วร้ายเขาเฝ้าอยู่ที่ เป็นเพราะกลิ่นอายจากตัวของซือเจ๋อเยว่กับค่ายกลนั่นค่อนข้างคล้ายคลึงกับกลิ่นอายที่เคลื่อนตัวอยู่บนร่างกายหของอวิ๋นเยว่หยางครั้งก่อนที่เขาเจอกับเยียนเซียวหรานแบบรีบร้อนเกินไปหน่อย ประกอบกับซือเจ๋อเยว่ก็อยู่ตรงนั้นด้วย ดังนั้นเขาจำไม่ได้ในทันทีว่ากลิ่นอายบนตัวของอวิ๋นเยว่หยางคือกลิ่นอายของเยียนเซียวหรานในเวลานี้ทันทีที่ค่ายกลถูกทำลาย กลิ่นอายพวกนั้นก็ไหลย้อนกลับ เขาจึงสัมผัสได้อย่างชัดเจนความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนค่อนข้างเกิดความสนใจเป็นเพราะเขารู้ว่า เป็นการยากที่คนคนหนึ่งจะมีกลิ่นอายของคนอื่นติดอยู่อย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันก็เป็นไปไม่ได้หากติดแล้ว นั่นก็แสดงว่าโชคชะตาของทั้งสองคนรวมเข้าด้วยกันแล้วไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหราน กล่าว “น่าสนุก”เขาหันหน้าไปมองซือเจ๋อเยว่อีกครั้ง “นักพรตหญิงน้อย เจ้าหมอนี่ดีกับเจ้าเหลือเกินนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีชะตาชีวิตร่วมกันกับเจ้า”เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status