Share

บทที่ 232

Author: เจียงหนานเยียน
ซือเจ๋อเยว่ก็ไม่รู้ว่าเขาหมายความเช่นใด ลือกันว่าเขาโปรดปรานอวิ๋นไท่เฟยอย่างยิ่ง นางจึงไม่กล้าพูดความจริง

นางจึงกล่าวว่า “เมื่อวานหม่อมฉันไปรักษาโรคที่จวนหนิงกั๋วกง เรื่องที่จวนหนิงกั๋วกงถูกเผา ไม่เกี่ยวกับหม่อมฉันจริงๆ นะเพคะ”

ฮ่องเต้เจาหมิงมองนาง ด้วยรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ข้าก็ไม่ได้บอกว่าเรื่องที่จวนหนิงกั๋วกงถูกเผาเกี่ยวกับเจ้านี่”

ซือเจ๋อเยว่ “…”

นางรู้สึกว่า คำพูดนี้ของตนเหมือนจะยิ่งปกปิดยิ่งเปิดเผยแล้ว จึงยิ้มเจื่อน เสมือนว่าตนมิได้กล่าวคำพูดนี้มาก่อน

ฮ่องเต้เจาหมิงโบกมือเบาๆ ขันทีและนางกำนัลที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายก็ถอยออกไป

ขันทีคนสนิทของเขาเฝ้าอยู่ไม่ไกล ไม่ให้ผู้อื่นเข้าใกล้

หลังฮ่องเต้เจาหมิงมองสำรวจนางขึ้นลงคราหนึ่ง “นิสัยนี้ของเจ้าเหมือนเสด็จพี่อยู่หลายส่วนทีเดียว”

“ตอนเจ้ากลับมาเมืองหลวง ข้ายังเป็นห่วงอยู่บ้าง บัดนี้ดูไปแล้ว คงจะกังวลไปเปล่าๆ แล้ว”

ซือเจ๋อเยว่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเขา จึงยิ้มถามว่า “เสด็จอาทรงกังวลสิ่งใดเพคะ?

ฮ่องเต้เจาหมิงตอบว่า “กังวลเรื่องความสัมพันธ์ของเจ้ากับจวนหนิงกั๋วกง กลัวว่าเจ้าจะถูกอำนาจพวกนั้นมอมเมาจิตใจ คิดว่าตนเองควรแซ่อว
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 233

    “ก็คือที่พูดกันว่าฮ่องเต้ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางไม่อาจไม่ตายนั่นแหละเพคะ”นางกล่าวจบก็ถามเขาอีกว่า “เสด็จอา พระองค์คงมิได้กลัวจวนหนิงกั๋วกงกระมัง?”ฮ่องเต้เจาหมิง “…”คำถามนี้ ดุจดั่งการแทงดาบเข้าสู่หัวใจของเขาเรื่องเช่นนี้ เขาไม่มีทางยอมรับต่อหน้าผู้เยาว์คนหนึ่งเป็นแน่เขากล่าวด้วยสีหน้าดำคล้ำว่า “หากเจ้าไม่ใช่สายเลือดเพียงคนเดียวของเสด็จพี่ แค่คำพูดนี้ของเจ้า ข้าก็สามารถประทานโทษตายให้เจ้าแล้ว”ซือเจ๋อเยว่หดคอกล่าวว่า “ตั้งแต่เด็กหม่อมฉันเติบโตมาในอารามเต๋า จึงไม่รู้เรื่องในเมืองหลวง”“เพราะหม่อมฉันได้ยินเสด็จอาตรัสเช่นนั้น เลยรู้สึกสงสัย ถามไปอย่างนั้นเองเพคะ”“ก็ใช่ เสด็จอาทรงเก่งกาจเพียงนั้น จะทรงกลัวจวนหนิงกั๋วกงได้อย่างไร?”“หากเสด็จอาทรงอยากลงโทษพวกเขา ก็แค่ราชโองการฉบับเดียวเท่านั้น”เพลานี้ ฮ่องเต้เจาหมิงไม่มีปัญญาจะพูดกับนางว่า ราชโองการไม่อาจออกส่งเดชได้เขารู้สึกว่าที่ตนกล่าวกับนางนั้น ไม่เพียงไม่ได้ยินข้อมูลจากปากนาง แต่กลับถูกนางควบคุมอีกด้วยเขาจึงกล่าวเสียงเย็นว่า “หากเจ้าไม่มีเรื่องอื่น ก็จงออกจากวังไปเถอะ!”ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าวว่า “หม่อมฉันยังมีเรื่อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 234

    ทว่าเถ้าแก่ร้านกลับขวางอยู่ที่ด้านหลังของนาง “แม่นาง ในเมื่อมาแล้ว ก็จงรั้งอยู่ที่นี่เถิด!”เขากล่าวจบ ก็หยิบดาบเล่มหนึ่งออกมาแทงเข้าใส่นางซือเจ๋อเยว่ระวังอยู่ก่อนแล้ว เพียงกลิ้งตัวลงบนพื้นก็หลบดาบนั้นไปได้แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็กลับไปอยู่ในร้านอีกครั้ง ชายฉกรรจ์ถือดาบห้าหกคนรุมล้อมนางไว้ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วบางๆ ทีหนึ่ง “ที่พวกเจ้าเปิดเป็นร้านโจรสินะ?”ในดวงตาของเถ้าแก่ร้านเต็มไปด้วยความดุร้าย ไม่ปกปิดอีกต่อไป “วันนี้เจ้าตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”ซือเจ๋อเยว่ส่ายหัว “วันนี้ตอนที่ข้าเข้ามา ได้ตรวจดูใบหน้าให้เจ้า ยามที่เจ้าถือกำเนิด ราศีที่ปรากฏขึ้น ณ ขอบฟ้าทางทิศตะวันออกดำมืดไปหมด นั่นเป็นลักษณะของความตายอย่างกะทันหัน”“ดังนั้นวันนี้ผู้ที่จะตายคือเจ้า ไม่ใช่ข้า”เถ้าแก่ร้านเย้นหยันต่อคำพูดของนางว่า “อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าจะดูว่าวันนี้เจ้าจะหนีไปได้อย่างไร แล้วจะสังหารข้าได้อย่างไร”เขาเพิ่งกล่าวจบ ก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังบีบคอเขาอยู่สีหน้าของเขาไม่น่ามองอย่างมาก เมื่อชายฉกรรจ์หลายคนที่อยู่ด้านข้างได้เห็นฉากนี้ก็ตะลึงค้างอยู่ตรงนั้น ภาพเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้าเกินกว่าคว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 235

    ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ได้สิ เจ้าฆ่าคนพวกนั้นก่อน แล้วข้าจะตายไปอยู่กับเจ้าเอง”“เรื่องนี้ง่ายมาก” ดวงตาแวววาวดุจคลื่นน้ำของไป๋จื้อเซียนหมุนวน นิ้วทั้งห้าแปรเป็นกรงเล็บอันแหลมคม สังหารชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ที่ล้อมซือเจ๋อเยว่อยู่ไปในทันทีซือเจ๋อเยว่ “…”นางรู้มาตลอดว่าเขาโหดเหี้ยมมาก แต่เขาถูกขังอยู่ในอาวุธเวทย์มานานถึงเพียงนี้แล้วกลับยังดุร้ายเช่นนี้อีก ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยเดิมนางคิดว่าเขายังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยในการฆ่าชายพวกนั้น นางจะได้ใช้อาวุธเวทย์เก็บเขาเข้าไปเขากลับดีนัก นางเพียงกะพริบตาครั้งเดียว เขาก็จัดการเรื่องราวเรียบร้อยแล้วเมื่อเขาหันศีรษะมา ก็เห็นซือเจ๋อเยว่ชูอาวุธเวทย์ขึ้นมาพอดีรอยยิ้มในก้นบึ้งดวงตาของเขาจึงสลายไปอย่างสิ้นเชิง กล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเสแสร้งว่า “เจ้ายังคงเจ้าเล่ห์เหมือนเมื่อก่อนเลย”“เจ้าขังข้ามานานหลายปีขนาดนี้ ทันทีที่ปล่อยข้าออกมาก็จะหลอกข้าอีก บัญชีนี้เจ้าจะคิดอย่างไร?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่ยกเจ้านี่ขึ้นมากล่าวคำทักทายเจ้าเฉยๆ น่ะ”มุมปากของไป๋จื้อเซียนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 236

    เพียงแต่ซือเจ๋อเยว่ก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องขึ้นมาอีก นางยื่นมือไปหยิบหยกที่อาจารย์ใหญ่มอบให้ออกมา ยามนี้หยกชิ้นนั้นได้แตกลงแล้วหยกชิ้นนี้ ตอนที่เจอเงาดำนั่นก็เกิดรอยร้าวขึ้นมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะถูกฝ่ามือเดียวของไป๋จื้อเซียนซัดจนแตกในใจของนางรู้สึกกังวล นี่มันเรื่องอะไรกันนี่นอกประตูมีเสียงร้องด้วยความตกใจดังมา น่าจะเป็นเพราะมีเลือดสดไหลออกไปจากร้าน และถูกคนภายนอกพบเข้าแล้วซือเจ๋อเยว่รู้ว่าถ้ามีคนเห็นนางอยู่ที่นี่ นางก็คงต้องถูกดึงเข้าไปพัวพันกับคดีใดอีกแล้ว เวลานี้การจากไปเป็นวิธีที่ดีที่สุดตอนที่นางฆ่าจ้าวซือหว่านนั้นได้เตรียมการไว้ก่อน จึงสามารถอธิบายได้ชัดเจน ทว่าวันนี้ เลือดสดเนืองนอง นางไม่สามารถอธิบายสิ่งใดให้ชัดแจ้งได้เลย!นางยกเท้าจะจากไป กลับค้นพบอย่างน่าสลดว่า ตัวนางในยามนี้กลับถูกคนใช้คาถาตรึงร่างไว้ ทำให้เท้าขยับไม่ได้นางจึงนึกถึงสายตาที่ไป๋จื้อเซียนมองนางในตอนที่จากไป นางจึงได้เข้าใจในทันทีว่านี่เป็นฝีมือของเขาเขาบอกว่านางไร้สัจจะ แต่เขาก็มิใช่พบว่านางมีสิ่งของปกป้องกาย ฆ่านางไม่ได้ ถึงได้ใช้วิธีอื่นมาตุ๋นนางหรือเร็วขนาดนี้ก็มีคนเข้ามาแล้ว แปดส่วนคงจะเป

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 237

    ในตอนที่อวิ๋นเยว่หยางเห็นลู่จิ่นเหนียงนั้น เขานึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าสตรีผู้นี้คือผู้ใด แม้รูปโฉมจะงดงามอยู่บ้าง แต่การแสดงท่าทางเช่นนี้บนท้องถนนก็ออกจะไร้ความสำรวมเกินไปแล้วผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายของเขากระซิบเตือนเบาๆ “นางคือคุณหนูของสกุลลู่ขอรับ”อวิ๋นเยว่หยางรู้สึกตัวขึ้นมาทันที เขาทักทายกลับด้วยท่าทางราวสุภาพบุรุษว่า “คุณหนูลู่สบายดีหรือ”เขาคิดว่าด้วยฐานะเช่นนี้ของลู่จิ่นเหนียง หากไม่เพราะนางมีประโยชน์อื่น ต่อให้เป็นอนุของเขาก็ยังไม่คู่ควรเลยเขายังมีเรื่องต้องไปจัดการอีก ไม่มีอารมณ์จะมากล่าวสิ่งใดกับลู่จิ่นเหนียงให้มากความ จึงเตรียมตัวจากไปลู่จิ่นเหนียงกลับขวางเขาไว้ที่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวว่า “วันนี้แม่สื่อได้มาที่จวนแล้วเจ้าค่ะ”“มีอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณชายได้สั่งการผิดไปหรือไม่?”อวิ๋นเยว่หยางถามอย่างไม่เข้าใจอยู่บ้างว่า “มีเรื่องใดจัดการผิดพลาดไปหรือ?”ใบหน้าของลู่จิ่นเหนียงเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย กล่าวเสียงเบาว่า “ข้าเป็นภริยาเอกเท่านั้น ไม่เป็นอนุเจ้าค่ะ”“ตอนนั้นที่คุณชายส่งแม่สื่อไปสู่ขอที่จวน ก็ให้ข้าเป็นภริยาเอก”ช่วงก่อนนางแท้งบุตร จึงพักผ่อน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 238

    ลู่จิ่นเหนียงไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดประโยคนี้ นางโมโหจนหน้าแดง “เหตุใดคุณชายจึงได้เหยียดหยามคนเช่นนี้ แถมยังกล่าววาจากลับกลอกอีก?”อวิ๋นเยว่หยางมองนางดั่งมองหญิงเสียสติ แล้วกล่าวว่า “ตั้งแต่แรกที่ข้าพูดก็คือรับเจ้าเป็นอนุ แล้วจะกลับกลอกได้อย่างไร?”สีหน้าของลู่จิ่นเหนียงไม่น่ามองอย่างมาก นางยังคิดจะกล่าวสิ่งใดอีก แต่ลู่ฮูหยินรีบมาขวางนางไว้ “ล้วนเป็นความเข้าใจผิด! เป็นความเข้าใจผิด!”“จิ่นเหนียงรบกวนคุณชายรองแล้ว ข้าขออภัยคุณชายรองไว้ ณ ที่นี้ด้วย”อวิ๋นเยว่หยางแค่นเสียงเบาๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อจากไปสภาพแบบนี้ ยังคิดจะเป็นภรรยาของเขา?ช่างฝันเฟื่องเสียเหลือเกิน!น้ำตาของลู่จิ่นเหนียงแทบจะไหลออกมาแล้ว “ท่านแม่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”ลู่ฮูหยินเห็นว่ารอบข้างมีคนรายล้อมเข้ามา จึงรีบดึงนางขึ้นรถม้า จากนั้นจึงกล่าวว่า “ที่พวกเราทำเช่นนี้ ก็เพื่อช่วยเจ้าทั้งนั้น!”“จวนเยียนอ๋องก็จะตกอยู่ในอันตรายเต็มที หากแม่ไม่บอกว่าคุณชายรองเต็มใจแต่งเจ้าเป็นภรรยา แล้วเจ้าจะเต็มใจออกจากจวนเยียนอ๋องได้อย่างไร?”ลู่จิ่นเหนียงตะลึงไปแล้ว “ดังนั้น ท่านรู้แต่แรกแล้วว่าคุณชายรองเพียงต้องก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 239

    “มันก็นับว่าใจเด็ด ถึงกับแบ่งร่างวิญญาณของตนเป็นสองส่วน ถูกข้าเก็บไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนีไปแล้ว”เยียนเซียวหราน “…”เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า บนโลกนี้ยังมีเรื่องเช่นนี้อีกซือเจ๋อเยว่ถอนใจยาวออกมาอีกครั้ง “ครั้งนี้ข้าปล่อยมันออกมาโดยไม่ทันระวัง ด้วยนิสัยของมัน ต้องก่อความปั่นป่วนไปทั่วเมืองหลวงแน่”“ตอนนี้สภาพร่างกายของข้าไม่ค่อยดี คิดจะจับมันกลับมาไม่ง่ายเลย”“ถ้ามันไปกินวิญญาณเพิ่มจนแข็งแกร่งกว่าเดิม ก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก”เรื่องนี้เกินกำลังของเยียนเซียวหราน ต่อให้เขาอยากช่วยก็ช่วยไม่ได้เขาใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ท่านก็อย่าเพิ่งร้อนใจไป ในเมื่อพลังของมันลดลงไปมาก คิดว่าคงไม่อาจก่อปัญหาอะไรมาก”“ท่านดูแลร่างกายตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยไปหามัน”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “เจ้าพูดไม่ผิด ที่สำคัญคือตัวข้าในสภาพเช่นนี้ ต่อให้ตอนนี้ในใจข้าร้อนใจเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์”เมื่อครู่ตอนนางมาที่นี่ ก็ใช้คาถาไปมากมายคิดจะทำลายคาถาตรึงร่างของมัน แต่กลับไม่สำเร็จเลยตอนนี้นางเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ ย่อมไม่มีทางจะไปจับไป๋จื้อเซียนได้เรื่องนี้หากให้พวกท่านอาจารย์รู้เข้า นางต้องถูกตำหนิอี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 240

    แม้นางก็มีความประหม่าของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าเยียนเซียวหรานที่หน้าแดงน่ารักอย่างมากมุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย “พวกเราประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลธรรม ไม่จำเป็นต้องกลัวคำครหาของผู้อื่น”เยียนเซียวหรานเหล่ตามองนางทีหนึ่ง แม้เขาจะมิได้กล่าวสิ่งใด แต่กลับแสดงความหมายออกมาอย่างชัดเจนอย่างมากว่าพวกเขาในตอนนี้ เกรงว่าว่าจะไร้ความเกี่ยวข้องกับ ‘ประพฤติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ผิดศีลผิดธรรม’ อะไรนั่นเลยซือเจ๋อเยว่ “…”นางคิดดูแล้ว เพื่อความอยู่รอดในอนาคต นางอาจยังต้องกอดเขา จูบเขาอีก แถมมีความเป็นไปได้ที่จะต้องนอนกับเขาด้วยเมื่อคิดถึงความฐานะความสัมพันธ์ในนามของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยถูกต้องจริงๆนางพยายามแก้ต่างให้ตัวเองว่า “ข้าแค่คิดว่าร่างกายของข้าไม่ค่อยดี ถ้าข้าอาการกำเริบขึ้นมาเหนียนเหนียนอาจช่วยไม่ได้ ยังต้องเป็นเจ้า”เยียนเซียวหรานมองนางอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม มิได้เอ่ยวาจาเมื่อซือเจ๋อเยว่สบเข้ากับสายตานี้ของเขา ก็ยิ่งรู้สึกประหม่าในความผิดแล้วเพราะประโยชน์สูงสุดที่เขาอยู่ข้างกายนาง ก็คือการเป็นเครื่องยืดอายุ และการยืดอายุขัยยังต้องใช้วิธีที่วาบหวิวที่ส

Pinakabagong kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status