มือแกร่งของเขาลูบไล้ขึ้นมาจากหน้าท้องจนถึงนมสองเต้าสล้างที่ห้อยโย้ลงมา.... มือสองข้างของเขากอบอุ้มมันเต็มมือ.... กดมือบีบลงเบา ๆ พร้อมกับใช้นิ้วคลึงหัวนมเล่น... จนมันแข็งเป็นไต
ความเสียวซ่านทำให้นางถึงกับแหงนหน้าปรือตาครางออกมา....
“ซี้ดดดดดดด... อ่า...... คุณชาย... มือซุกซนจริง ๆ”
จมูกคมของชายหนุ่มปักลงที่ซอกคอระหงซุกไซร้สูดกลิ่นกายสาวอย่างหิวกระหาย.....
ทั้งมือก็บีบเต้า.... ทั้งกลิ่นที่สูดเข้าปอด.... มันกระตุ้นให้มังกรในรูหอยพองโตจนคับถ้ำ
“อะ... อ่า....”
ชายหนุ่มถึงกับครางกระเส่าเพราะความกระสันเสียว... เมื่อสะโพกงามของหญิงงามบิดส่าย... แล้วกดลงที่หน้าขาเขาหนักหน่วง... อย่างเร่งเร้าให้มังกรเขาเริ่มจู่โจม
ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ
ส๊วบ!
“อร๊างงงงงงงง.....งง”
สะโพกแกร่งขยับอัดดุ้นมังกรเข้าสู่ร่องหอยตามใจปรารถนา สองมือยังเคล้าคลึงสองเต้า บดบี้
ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!
“อร๊างงงงงงงง.....งง”
ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!
คุณชายเหล่ยกระแทกสะโพกเข้าออกซอยไม่ยั้ง..... จนเหมยกุ้ยครวญครางเจียนขาดใจ....
ความสุขสมซ่านกระสันมันโผทะยานไปทั่วร่างน้อย ๆ ของนาง
“อะ... อะ... อึก อ่า.... คุณชะ.. ชาย แทงอีก.. แทงแรงๆ อ่า...”
เหมยกุ้ยเด้งสะโพกรับอ้าขารับจังหวะการโหมกระทุ้ง....
ยิ่งได้ยินเสียงกระเส่าเร่งเร้า... เขายิ่งทวีสะโพกโหมกระแทกดุ้นมังกรเข้าออกไม่ยั้ง...
ร่างอรชรโดยกระทุ้งหนักหน่วง... ใบหน้างามเสือกถูไถไปกับเตียงนุ่มเพราะแขนขาอ่อนระทวยไปกับเพลิงสวาทที่เผาไหม้...
มือที่กอบกุมสองเต้าเปลี่ยนมารั้งสะโพกงอนงามของหญิงสาวดึงให้ชิดรับกับจังหวะกระแทกเข้า
ส๊วบบบบ!
“อร๊างงงงงงงงงงงง”
“โอ้วววววววว”
ทั้งคู่ร้องออกมาพร้อมกันเมื่อมังกรมุดเข้ารูหอยเต็มแรงลึกเข้าสุดลำ ความเสียวซ่านมันนำพาทะลุขึ้นจนถึงชั้นฟ้า
ตับๆๆๆๆๆ
เขาซอยเอวลงถี่ ๆ จนร่างบางหัวสั่นหัวคลอน
“อะ.. อะ.. อ่า. จะถึงแล้ว... จะถึงแล้ว”
“โอ้วววววววว... ซี้ดดด แฮ่ก.. แฮ่ก...”
ตับๆๆๆๆ
เตียงสั่นไหวยิ่งกว่าทุกครั้ง... เสียงขาเตียงดัง เอี้ยด อ้าด.. เอี้ยด อ้าด..
ตับๆๆๆๆ
“อร๊างงงงงงงงงงงง”
“โอ้วววววววว”
ไม่นานนักรูหอยก็รัดมังกรแน่นตอดตุบๆ รัดมังกรแน่นจนมันพุ่งน้ำอุ่น ๆ ออกมาเต็มถ้ำ...ทะลักไหลเป็นทางตามแนวขา
“อ่า....... “
“ซี้ดดดดด.... แฮ่ก แฮ่ก”
ทั้งคู่ล่องลอยขึ้นสู่สวรรค์ชั้นฟ้า..... เหมยกุ้ยจิกมือกับเตียงแววตาฉ่ำเยิ้มอย่างสุขสม...
คุณชายเหล่ยแนบตัวทาบทับลงมา... ตอกมังกรไว้กับรูหอยไม่ขยับ.... ความสุขกำลังแผ่ซ่านเข้าสู่กายเขาทะลุเข้าไปถึงกระดูก......
เหมยกุ้ย.. เป็นนางคณิกาที่เยี่ยมยอด...
ความสุขสมที่นางมอบให้ มันคุ้มกับราคาที่เขาจ่ายไปจริง ๆ
ตามธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน
ทุกปี เจ้าเมืองใหญ่อันประกอบด้วยหัวเมืองเหนือ-ใต้-ออก-ตก ต้องเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อถวายฎีการายงานสุขทุกข์ของราษฎรตามหัวเมืองต่าง ๆ
และปีนี้ก็เช่นกัน ใต้เท้าอันฉี เจ้าเมืองหัวเมืองเหนือ ได้เร่งรัดเดินทางเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้ให้ทันตามหมายกำหนดการ
การเดินทางครั้งนี้... บ่าวไพร่รวมทหารอารักขานับได้ประมาณยี่สิบกว่านาย ซึ่งครั้งนี้ใต้เท้าอันฉีพา “อันเหว่ย” ซึ่งเป็นบุตรชายที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่มในวัยยี่สิบต้น ๆ มาด้วย เพื่อหวังว่าจะได้แนะนำให้เป็นที่รู้จักแก่เหล่าขุนนางทั้งหลาย เมื่อครั้นเข้าสอบจองหงวนก็จะได้เป็นใบเปิดทางได้ง่ายขึ้น
หรือ หากชะตาฝ้ากำหนด... องค์หญิงนางใดนางหนึ่งในวังอาจจะหลงรูปงามของลูกชายเขาก็เป็นได้
ชะรอยเขาอาจจะได้เป็นดองกับฮ่องเต้... ตำแหน่งหน้าที่ในบ้านของเขาก็จะรุดหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก
“ฮึ... ฮึ...ฮึ”
มืออวบอูมของใต้เท้าอันฉีลูบเคราสีเทาแซมดำขณะที่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี เมื่อจินตนาการว่าตนจะได้เกี่ยวสัมพันธ์เป็นเครือญาติกับฮ่องเต้
เกี๊ยวของใต้เท้าอันฉี... ถูกแบกโอนเอนไปมาตามจังหวะก้าวย่างของไพร่พลแบกหาม...
ขบวนใต้เท้าอันฉีเดินทางอ้างแรมท่ามกลางป่าเขาล่วงเข้าสู่วันที่สองแล้ว...
เมื่อข้ามเขาลูกนี้ได้ก็จะพ้นแนวป่าเข้าสู่เมืองฉีซาน....
เมืองฉีซาน...... เมืองฉีซาน....
เมืองศิวิไลซ์หน้าด่านภาคเหนือก่อนเข้าสู่เขตภาคกลาง....
เมืองนี้... ใต้เท้าอันฉีตั้งใจว่าจะค้างเสียคืนหนึ่ง... เขามั่นหมายไว้ในใจว่าจะแวะ.. หอมู่ตานให้ได้.. เหตุเพราะพ่อค้าที่เที่ยวค้าขายผ่านเมืองนั้นสู่เมืองนี้.. ต่างเล่าขานเป็นเสียงเดียวกันว่า...
“หอมู่ตาน คือ แดนสวรรค์
มีหญิงงามเลื่องชื่อ.. เหมยกุ้ย...
งามหยาดหยด.. ประดุจนางฟ้า..
งามพร้อมสติปัญญาเลิศแพร้ว
ชายใดแคล้ว.. ไม่ได้เชยชม
ชายนั้นไซร้.. สุดแสนอาลัยหา”
ฮี้ๆๆๆๆ ฮี้!!!!
คร๊ากกกกก
หยุดเกี้ยว!!!
เสียงม้าร้องฮ้อเพราะถูกดึงให้หยุด.... ตามด้วยเสียงอันเหว่ยร้องสั่งให้หยุดเกี๊ยว
คิ้วใต้เท้าอันฉีขมวดเข้าหากัน... แล้วเอื้อมมือเปิดผ้าม่านที่บังเป็นประตูออกดู เขาเห็นลูกชายตัวควบม้ากลับมาเทียบเกี๊ยว จึงร้องถาม
“ทำไมหยุดเสียหล่ะ”
“มีเด็กบ้าที่ไหนไม่รู้ มาขวางทางไว้ แล้วร้องบอกว่าขอไปด้วย”
อันเหว่ยรายงานผู้เป็นบิดา
“เหรอ.. ไหนพานางมาพบข้าสิ”
“ครับ”
ไม่นานนักเด็กสาวสวมเสื้อสีทึม ๆ ตัวโคร่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าขะมุกขะมอมราวกับคนบ้า ก็ถูกทหารสองนายหิ้วแขนซ้ายขวา ลากนางมาทิ้งไว้ให้คุกเข่าต่อหน้าเกี้ยว
ดวงตาหยีเล็กของใต้เท้าอันฉีมองทะลุผ่านเสื้อตัวเก่า ความขาวผ่องของเนื้อแท้ข้างในตัวสาวป่าบ้าใบ้ลอดให้เห็นวับแวมตามช่องคอเสื้อตัวโคร่ง
“ตะ ใต้เท้า ข้าน้อยอยากไปเมืองหลวง”
สาวชาวป่าบอกความต้องการของตนขณะที่หมอบก้มคำนับผู้อยู่บนเกี้ยว
“เงยหน้าขึ้นพูดกันเถอะ”
สาวน้อยชาวป่าเงยหน้าขึ้นตามคำบัญชาของใต้เท้าอันฉีด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์โดยที่ยังหมอบ ช่องคอเสื้อตัวโคร่งลู่ลงเผยให้เห็นเต้านมสาวที่เพิ่งแตกผ่านตั้งเต้าเป็นบัวตูม เม็ดยอดบัวตูมสีชมพูระเรื่อเย้ายวน คนบนเกี้ยวถึงกับอุทานออกมา
“อ่า เจ้าช่างน่าดูดน่าเคล้นยิ่งนัก”
“อะไรคะ ใต้เท้า ขะ ข้าฟังไม่ค่อยถนัด”
เด็กสาวชาวป่ายืดตัวขึ้นทั้งตัว เพื่อตั้งใจฟังคนบนเกี้ยว ใต้เท้าอันฉีถอนหายใจอย่างแสนเสียดายที่เต้านมน้อย ๆ ผลุบหายเข้าไปในคอเสื้อ
“อ่อ ข้าบอกว่า เจ้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก อืม เจ้าชื่ออะไร?”“ข้าชื่อ หลันฮวา”“อืม เจ้าช่างเป็นกล้วยไม้ป่าที่กำลังผลิดอกสวยงาม ใยไม่อยู่ประดับป่า”“ข้าอยากเห็นเมืองหลวงนี่คะ”“แล้วบิดา มารดาของเจ้าไม่ว่าเอารึ?”“พ่อกับแม่ข้าตายด้วยโรคไข้ป่า ตั้งแต่ข้ายังเด็ก ตาเลี้ยงข้ามาตั้งแต่เล็ก เมื่ออาทิตย์ก่อนตาออกไปล่าสัตว์ แล้วหายไป ข้ารอแล้วรอเล่า ตาก็ไม่กลับมา ข้าทั้งหิวทั้งกลัวจึงออกเดินมาเรื่อย ๆ กินผลไม้ป่าประทังชีวิต จนมาพบขบวนของใต้เท้า”เด็กสาวชาวป่า หมอบลงอีกครั้งร้องไห้ สาบคอเสื้อไหวตามแรงสะอึกสะอื้นเผยให้เห็นเต้าน้อยวับแวบ กระตุ้นมังกรของใต้เท้าฉีให้ลุกซู่จนแทบอยากจะดึงดรุณีน้อยที่โหยไห้มากอดไว้แนบอก“ฮือ ๆ ใต้เท้าโปรดเมตตาให้ข้าน้อยไปด้วยเถิด ข้าขอติดขบวนท่านไปจนกว่าจะถึงเมืองฉีซานเท่านั้น อะ ฮือ ๆ”“เจ้าช่างเป็นเด็กสาวกำพร้าที่น่าสงสาร น่าสงสาร ข้าเป็นถึงขุนนางผู้ใหญ่ หากปล่อยให้เจ้าเผชิญชะตากรรมในป่า ใครรู้เข้าก็จะติฉินนินทาเป็นแน่แท้ เฮ่อ”ใต้เท้าฉีเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจเสียงดังให้ได้ยินกันถ้วนหน้า“ข้าคิดว่า เจ้าเป็นเพียงดรุณีเล็ก ๆ ติดขบวนไปด้วยหนึ่งคนก็คงจะไม่ลำบากอะไร”“ขอบคุณใต
สิ้นเสียงปากหนาก็ประกบกลีบปากบางจนมิด ความร้อนระอุแผ่ซานไปทั่วจะปากอิ่มของดรุณีน้อยร่างบางของดรุณีป่าจะขยับห่าง มือหนาของใต้เท้าฉีจึงรัดแน่นเข้า มืออีกข้างกดลงที่ลำคอสวยออกแรงให้ปากอิ่มเผยอออก แล้วลิ้นร้อนก็สอดเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นเล็ก ครวญหาน้ำหวานป่าส่งความซ่านสยิวไปทั่วทั้งร่างบางความซ่านเสียวจากปลายลิ้นที่นางไม่เคยสัมผัสมาก่อนมันจู่โจมร่างกายที่แข็งขืนเมื่อครู่ของดรุณีป่าอ่อนยวบลงราวกับไฟรน จนนางส่งเสียงครางออกมา“อือ”“และจุดต่อไปที่ต้องเปิดพลังคือคอขาว ๆ ของเจ้า”เมื่อร่างเล็กอ่อนระทวยลง ผู้คุมเกมจึงลากลิ้นร้อนไล้ลงมาที่ลำคอขาวผ่อง ลิ้มลองหยาดเหงื่อดรุณีป่าที่ค่อย ๆ ผุดออกมาเพราะหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงระส่ำ มือหนาของใต้เท้าฉีเคลื่อนออกจากศีรษะสาวน้อย เลื่อนลงมากระทุ้งผ้ามัดเอวบางให้หลุดออกทันทีที่ผ้ามัดเอวหลุดออกเสื้อขาวของเด็กสาวป่าก็เผยอเปิดออกจนเห็นเต้าน้อย ๆ ที่ตั้งชูราวกับดอกบัวตูม หัวนมน้อย ๆ สีชมพูหวานชูเด่นจนน่ากิน“ตะ ต้เท้าแก้ผ้าข้าทำไม”เสียงสั่นน้อยๆ ของหญิงสาว ทักท้วง“ปลดปล่อยพลังสวรรค์ของเจ้าออกจากทรวงอก อ่า ช่างงดงามยิ่งนัก”ลิ้นสากของใต้เท้าฉีลากไล้วนเวียน
ณ หอมู่ตานรื่อหง ผู้คุมอำนาจแห่ง หอมู่ตาน เดินนวยนาดมาที่ห้องกุหลาบแดงอย่างอารมณ์ดีเมื่อมาถึงที่หมายนางหยุดฟังเสียงพิณอันแสนไพเราะที่ผู้เป็นเจ้าของห้องมักจะบรรเลงอยู่เสมอ นางรู้สึกว่าตนเองโชคดีไม่น้อยที่ได้ครอบครองเพชรเม็ดงามเม็ดนี้“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่สร้างชื่อเสียงให้กับหอมู่ตาน จนกลายเป็นหอสวรรค์อันดับหนึ่ง“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่สร้างเงินทองให้กับแม่เล้าอย่างรื่อหงให้มีกินมีใช้ไปตลอดชาติ“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่รื่อหงเก็บมาจากซากโคลนตมท่ามกลางความแร้นแค้นหลังจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อ 6 ปีก่อนเมื่อ 6 ปีก่อน รื่อหง ได้สร้างหอมู่ตานขึ้นมาในปีแรก มีนางคณิกาในหอแห่งนี้แค่ไม่กี่คน ในช่วงนั้นผู้คนยังไม่นิยมใช้บริการสถานเริงรมย์เท่าใดนัก เนื่องด้วยเป็นยุคข้าวยากหมากแพงส่งผลให้เกิดโจรชุกชุม นอกจากชาวบ้านจะอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ แล้วยังอยู่ด้วยความหวาดกลัว หอมู่ตานรอดพ้นจากการปล้นก็เพราะนางต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้กับกลุ่มโจรที่ทรงอิทธิพลที่สุด รายได้เพียงน้อยนิดของหอมู่ตานจึงถูกจ่ายให้กับค่าโจรเสียมากกว่า รื่อหงจึงพยายามคิดหาทางที่จะเพิ่มรายได้ให้กับหอมู่ตานให้ได้มากที่สุดเ
แม่เล้าลำเลิกบุญคุณ เหมยกุ้ยได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน นางฟังประโยคนี้ซ้ำ ๆ มานานกว่า 6 ปีแล้ว และ 6 ปีที่นางต้องตกเป็นทาสกามเพื่อทำเงินให้กับแม่เล้าผู้นี้“ถ้าเช่นนั้น ก็สุดแล้วแต่ท่านแม่จะเห็นสมควรเถิด”เหมยกุ้ยรับคำแผ่วเบา รื่อหงจึงเอื้อมมือมากุมมือน้อยของสาวสวยไว้พลางปลอบประโลมว่า“ดีมากเหมยกุ้ย เจ้าช่างเป็นเด็กดียิ่งนัก วันนี้ถือว่าข้าขอเจ้าเป็นพิเศษก็แล้วกัน เพราะผู้ที่จะมาวันนี้เป็นขุนนางใหญ่จากทางเหนือ ปีหนึ่งท่านถึงจะเดินทางผ่านมาเมืองฉีซาน ท่านอุตส่าห์ส่งม้าเร็วมาจองตัวเจ้าไว้ก่อนขบวนของท่านจะมาถึงเสียอีก ให้ถือว่าทำบุญทำทานกับคนแก่แล้วกันนะเหมยกุ้ย”เหมยกุ้ยพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ รื่อหงยิ้มหน้าระรื่นเมื่อสาวงามแห่งหอมู่ตานยอมรับงาน นางจึงกล่าวต่อว่า“ก่อนรับแขกคืนนี้เจ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ข้าจะจัดให้เจ้าเป็นพิเศษ”“ขอบคุณท่านแม่ที่กรุณา หากเป็นได้ท่านแม่โปรดให้ไป๋หลาน หรือหวงหลานเป็นผู้ยกอาหารและเหล้าขึ้นมาที่ห้องกุหลาบได้หรือไม่”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ทำไมจะไม่ได้หล่ะ วันนี้ไป๋หลานว่างข้าจะให้นางขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้วกันนะ”“ขอบคุณท่านแม่”เหมยกุ้ยก้มศีรษะเล
สองหนุ่มเพ่งมองร่างสาวน้อยกึ่งเปลือยบนตักรื่อหง แล้วหายใจแรงหนักหน่วงอย่างควบคุมอารมณ์ เพราะร่างงดงามจนน่ากลืนกินทั้งตัวนั้นมันปลุกพลังความเป็นชายของเขาทั้งคู่ จนเจ็บร้าวที่หว่างขา“ช่วยสอนงานนางที”รื่อหงผลักร่างอรชรให้ชายกำยำ หนึ่งในสองนั้นอุ้มเหมยกุ้ยขึ้นอย่างง่ายดาย สติที่พอจะเหลืออยู่น้อยนิดบังคับให้นางส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นว่ารื่อหงกำลังหันหลังเดินออกไปจากห้อง“ทะ ท่านแม่! ช่วยข้าด้วย ข้าเป็นอะไร ยะ อย่าทิ้งข้า”“ข้าแค่ให้เจ้าดื่มกระไรเล็กน้อย เพื่อให้การเป็นนางคณิกาครั้งแรกของเจ้าไม่เจ็บปวดมากนัก และจะเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ”เมื่อกล่าวจบ รื่อหงก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เหมยกุ้ยอยู่กับชายบึกบึน หน้าเหี้ยม ที่มองผ่าน ๆ คล้ายกับกลุ่มโจรที่นางเคยพบเมื่อ 5 วันก่อนเหมยกุ้ยพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากอ้อมอกของชายกำยำผู้นั้น แต่เมื่อเนื้อตัวเสียดสีกับแผงอกแกร่ง นางก็รู้สึกร้อนวูบวาบราวกับว่าเนื้อตัวกำลังจะลาย จนต้องโอบร่างกำยำไว้แน่น“อือ สาวน้อย ใจเย็น ๆ สิ เดี๋ยวพวกข้าจะค่อย ๆ สอนเจ้าเอง ว่า นางคณิกาที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง ฮ่า ๆ”จางเหว่ยวางร่างอ่อนระทวยข
เหมยกุ้ยครางประท้วง ลองมือผวาจิกเข้าไปที่สะโพกแกร่งของชายหนุ่ม ในขณะที่ลิ้นเล็กพยายามดุนหัวบากมังกรของเขาให้ออกไปจากปาก ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้แก่ชายหนุ่มจนเขาต้องแหงนหน้าครางออกมา“อร้ากกกกกกกก ซี้ดดดดดดดดดดดด โอ้ววววววว” ส่วนล่างหวังเหล่ยก็ค่อย ๆ ขยับสะโพกแทงเข้าออก ให้กลีบหอยคายน้ำหวานออกมาไม่หยุด ชายหนุ่มเร่งจังหวะแทงเข้าออกจนกลีบหอยเบ่งปริส๊วบบบบบบบบบบบบจึ๊ก!“อ่าซ์”ส๊วบ ส๊วบ จึ๊ก!“อ่าซ์”“โอ้วววววววววว”เหม้ยกุ้ยเจ็บแปลบปนสุขสมเจียนขาดใจ ยิ่งหวังเหว่ยกระแทกดุ้นมังกรเข้าหอยนางมากเท่าไหร่ ปากนางก็ยิ่งรูดแก่นมังกรจางเหว่ยหนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น“อ๊ากกกก โอ้ววววว ไม่ไหวแล้ววววววว จะถึงแล้ว จะถึงแล้ว”จางเหว่ยครวญครางอย่างสุขสม ดวงดาวเริ่มพร่างพราย เขาหยัดสะโพกใส่ปากเล็กของเหมยกุ้ยให้มากขึ้นเพื่อให้แตะถึงสวรรค์ นางโม้กมังกรเขาอย่างร้อนแรง ทั้งรูด ทั้งดุน ดูดจนแก้มตอบเสียงดูดดังจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“โอ้ววววว ซี้ดดดดดด ยะ อย่างนั้น เร็วอีกๆ”จางเหว่ยเกร็งตัวอย่างเสียวซ่าน มือสากของเขาตะปบลงเป็นสองเต้างาม เคล้นคลึงหัวนมชมพูจนเจ้าของมันบิดร่างแอ่นอกอย่างเสียวซ่าน ราว
เมื่อขบวนเกี้ยวของใต้เท้าอันฉีเดินทางเข้าสู่เมืองฉีซาน ตะวันก็โพล้เพล้ แสงสีทองสาดส่องลงบนถนนในเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนสัญจรไปมา เมืองฉีซานเป็นหัวเมืองสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนทางเหนือ และเป็นเมืองประตูสู่ภาคกลาง เมืองนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ รถม้าวิ่งกันขวักไขว่ บ้านเรือนร้านค้าเรียงรายตามสองฝั่งถนนถนนในตัวเมืองใหญ่ไม่มาก แต่ก็กว้างพอให้รถเทียมม้า และรถบรรทุกของสองคันแล่นสวนกันได้เมื่อขบวนเกี้ยวใต้เท้าอันฉี ที่นำขบวนโดยบุรุษหนุ่มสง่างามควบม้าสีขาวพันธุ์ดี ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม ดวงตาคมกวาดไปรอบ ๆ เมือง บุรุษรูปงามผู้นี้ คือ “อันเหว่ย” บุตรชายเพียงคนเดียวของผู้ที่นั่งอยู่ในเกี้ยวใต้เท้าอันฉี หรือ ใต้เท้าฉี สอดมือเปิดม่านหน้าต่างข้างเกี้ยวขึ้นมองดูร้านร่วงข้างทาง แล้วดวงหน้าน้อย ๆ ของดรุณีก็เบียดขึ้นมาส่องอย่างอยากรู้อยากเห็นบ้าง“โอ้ว ว้าว นี่เขาเรียกว่าเมืองรึ”หลันฮวา ดรุณีวัยแรกที่ใต้เท้าฉีเก็บมาจากป่าบนภูเขา ร้องถามขึ้นอย่างตื่นเต้น“ใช่ แล้ว และคืนนี้ก็อนุญาตให้เจ้าเที่ยวชมเมืองได้อย่างอิสระ หากเจ้าต้องการอยู่ที่นี่ก็ตามใจเจ้า หรือหากเจ้าอยากไปเมืองหลวงกับข้า เจ้าก็มากลับม
ใต้เท้าฉียกมือทั้งสองข้างโอบเอวบางของสาวงามซ้ายขาวแล้วปักจมูกลงบนหน้าอกอิ่มของสาวงามทั้งสองดังซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!ซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!แผล็บ! แผล็บ!“ชื่นใจจังเลย น่ากินไปหมดนะเนี่ยะ ฮ่า ๆ”นอกจากสูดดมกลิ่นกายสาวจนหนำใจแล้วลิ้นสากของใต้เท้าฉียังเลียแผล็บที่เนินอกขาวผ่อง สร้างความสยิวเล็ก ๆ ให้สาวงาม นางหัวเราะคิกแล้วใช้มือน้อย ๆ ทุบเบา ๆ ที่อกหยุ่น ๆ ของชายชรา“แหม ใต้เท้าชอบทำเป็นเล่นไป”“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ วันนี้ ข้ามีความสุขจริงๆ เลย ได้อยู่ท่ามกลางสาวสวยอย่างพวกเจ้า”“ขอบคุณค่ะใต้เท้า เชิญด้านไหนดีกว่านะคะ”แล้วสองนางซ้ายขวาก็พาใต้เท้าฉีเดินเข้าไป ในหอหมู่ตาน พ่อบ้านยืนมองนายจนหายลับเข้าไปข้างใน แล้วหันมาสั่งพลเกี้ยวให้พักผ่อนได้ตามสบาย ส่วนตนของนั่งพักกับบรรดาสาว ๆ หน้าหอมู่ตาน หากผู้เป็นนายเสร็จกิจจะได้รับใช้ได้ทันการ ทันทีที่ใต้เท้าฉีก้าวเข้าไปภายในหอมู่ตาน ร่างสาวใหญ่ในอาภรณ์ระยิบยับก็ถลาเข้าหาพร้อมกับเสียงวี้ดว้าย“ตายแล้ววววววว ใต้เท้าฉี มาไวกว่าที่คิดไว้นะคะ เชิญใต้เท้าด้านนี้คร่า อุ้ย!”ประโยคสุดท้ายรื่อหงอุทานดังลั่น เมื่อมืออวบ ๆ ของใต้เท
“อะ อะ อ่าซ์ อร้ายยยยยยยยยยยย”สิ้นเสียงครวญคราง เรือนร่างโชกเหงื่อของทั้งคู่ก็สั่นสะท้านราวกับถูกไฟฟ้าซ็อต ทั้งสองนิ่งค้างซึมซาบความซาบซ่านให้เต็มทรวง ก่อนจะจบบทสวาททะลวงหอยของแม่ทัพด้วยการจูบบดลึกวาบหวามฝากความหวานให้ตราตรึงใจและแล้ววันแต่งตั้งองค์จักรพรรดินีอย่างเป็นทางการพื้นที่ท้องพระโรงลามไปจนถึงประตูวังด้านหน้าเต็มไปด้วยบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ เข้าร่วมถวายพระพรและเป็นสักขีพยานในการรับตำแหน่งอันสูงส่งเมื่อเสียงแตรเสียงประทัดดังสนั่นขึ้นเป็นสัญญาณการเริ่มพิธี เสียงแซ่เซ็งพูดคุยของเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างสงบลง พร้อมกับยืนในแถวรอรับการเสด็จขึ้นบัลลังก์ไม่ช้าร่างงดงามในชุดจักรพรรดิเต็มยศก็ปรากฏบนพรมสีแดงที่ทอดยาวสู่ราชบัลลังก์ท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวสีแดงปักมังกรที่ฐานด้านล่าง ชายกระโปรงยาวระพื้น ยามก้าวเดินสะบัดไหวดูราวกับมังกรโลดแล่นในสายน้ำแยงชี ผ้าคล้องไหล่สีทองอร่ามคลุมเป็นสายยาวที่แขนทั้ง 2 ข้าง เสื้อชั้นนอกแขนกว้างปักลายกุหลาบดิ้นทอง แขนเสื้อที่ยาวลงมาถึงสะโพกพลิ้วไหวตามจังหวะย่างก้าว เนื้อแพรพรรณล้วนทักทอจากช่างฝีมือดีที่สุดในแผ่นดิน !!“แม่ทัพใหญ่จางหย่งขอเข้าเฝ้า!!!”
ตับ ตับ ตับ ตับๆๆๆๆๆๆ“อะ อ่า อ๊า อร้ายยยยยยยย”ซ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบพรวดดดดดดดดดดดดดดดด“อร้ากกกกกกกกกก”มังกรยักษ์พ่นพิษอุ่นซ่านเข้าเต็มโพรงหอยพร้อมกับเสียงครางระงมจนถึงสวรรค์ของทั้งคู่ ร่างอรชรกระตุกงึกๆ เกร็งเสียวสุดขีด สะโพกแกร่งของแม่ทัพหนุ่มผู้หิวกระหายตอกตรึงรูหอยบดแน่น ปล่อยให้จิตวิญญาณของตนล่องลอยไปแสนไกล ในไม่ช้าเรือนร่างกำยำก็ค่อยๆ เอนซบลงอกอวบๆ ทั้งคู่หอบหายใจกระเส่า“อ่า ข้าไม่เคยกินสุราอร่อยขนาดนี้มาก่อน”แม่ทัพรำพันกระซิบแนบเนื้อนวล บนโต๊ะกลมใหญ่กลางกระโจม เขาไม่คิดว่าการเดินทางกลับวังหลวงครั้งนี้จะได้พบเทพธิดาที่นำพาเข้าสู่สรวงสวรรค์อย่างไม่คาดฝัน“ข้าก็ไม่เคยถูกมังกรยักษ์จ้วงกระหน่ำได้ถึงใจขนาดนี้เช่นกัน โอ้แม่ทัพสมแล้วที่ท่านเป็นยอดชาตรี”เหมยกุ้ยพลิกตัวขึ้น ดุ้นมังกรยักษ์จึงหลุดออกจากร่องหอย“อ่า”ร่างอรชรค่อยๆ เลื้อยกายลงมาที่หว่างกำยำ จนสบเข้ากับลำตัวของมันเยิ้มไปด้วยน้ำทิพย์สีขาวขุ่น“มังกรท่านใหญ่น่ากินเหลือเกิน”เหมยกุ้ยถึงกับอุทานกระเส่าเมื่อเจอหัวดุ้นสีน้ำตาลไหม้อาบช่ำด้วยน้ำทิพย์ เส้นเลือดปูดโปนยังเต้นตุบๆ ลิ้นเรียวเล็กแลบเลียริมฝีปากตนอย่างห
ยิ่งลิ้นสากสอดแทง... น้ำหวานยิ่งทะลักจนฉ่ำปาก เขาดูดดื่มตักตวงความหวานฉ่ำที่ทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสายแผล็บๆ แผล็บ ๆ “อะ.... อือ... อะ อ่า จะแตกแล้ว อ่อยยยยยย”ปากใหญ่ร้อนฉ่ายังคงขบเม้มกลีบเนื้อหอยเต็มปากเต็มคำ ลิ้นร้อนฉ่าแทงเข้าแทงออกรัวๆ เร่งจังหวะตามเสียงกระเส่าของนาง ยิ่งดูด ยิ่งเลียน้ำหอยฉ่ำ ๆ ยิ่งไหลทะลัก ร่างอรชรบิดส่ายบ่งบอกว่าเจ้าของร่างกำลังเสียวซ่านมากแค่ไหนจ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบจ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ แฮ่กๆ แฮ่กๆ“โอ้วววววววว ท่านแม่ทัพ ไม่ไหวววว แล้ววววว อร้ายยยย”เหมยกุ้ยแอ่นสะโพกหยัด มือเรียวขยุ้มผมดกดำของเขาให้แนบชิดร่องสาว ร่างอรชรกระตุกเกร็งงึก ๆ ริมฝีปากสีแดงสดเผยอค้างครางออกมาผะแผ่วด้วยความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั้งกายสาว“อร้ายยยยยยยยยยย”พรวดดดดดดดดดดดด น้ำหอยแตกพรวดทะลักง่ามขา รูหอยขมิบตอดอากาศอย่างหิวโหย ซ่านกระสันอยากให้มังกรจ้วงแทงแทบขาดใจ เหมยกุ้ยครางกระเส่าขมิบตอดความว่างเปล่าไม่ยอมหยุด นางลอยขึ้นสวรรค์ชั้นหนึ่งไปแล้ว“อะ อ่า อือ อ่อยยยยยย”“อู้ววว.. อ่า... เหมยกุ้ย... เงี่ยนมากแล้วสินะ นำทะลักเลยนะ โอ้ววววว”แม่ทัพหยัดกายขึ้นแลบล
“เชิญชิมสุราชั้นเลิศจากข้า... เหมยกุ้ย มอบเป็นของขวัญแด่ท่านแม่ทัพ”มือใหญ่ยึดข้อมือเล็กกางออก แล้วร่างใหญ่ก็ถาโถมเข้าใส่ร่างเล็กที่นอนแผ่หลาบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว“เหมยกุ้ยยยยยยย ฮ่า ๆ เหมยกุ้ย”จ๊วบ!ซู้ดดดด จ๊วบ“อะ อ่า หือ อ่า”ลิ้นสากร้อนระอุแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่น มันตวัดลิ้นเล็กให้ตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อนเลือดในกายนางร้อนระอุ เผยอเรียวปากขึ้น ตอบรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามา และหยัดร่างเข้าเบียดกายแข็งแกร่งทันทีซู้ดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“อืม อ่า จ๊วบ”ร่างอรชรใต้ร่างใหญ่กำยำบิดส่าย อย่างซ่านกระสันเมื่อแม่ทัพหนุ่มบรรจงจูบด้วยลิ้นร้ายอย่างหื่นกระหาย ลิ้นร้อนควาญรีดน้ำหวานในโพรงนางจนหมดสิ้น แล้วลามเลียมาถึงติงหูเกิดความสยิวแผ่ซ่านจนขนอ่อนของนางลุกซู่ทั้งกายจนครางกระเส่าออกมา“อร้ายยยย อ่า หือ”แผล็บ! จ๊วบ!ปากร้อนระอุของแม่ทัพใหญ่ลามเลียเลื้อยลากมาถึงซอกคอขาวผ่อง ลิ้นร้อนตวัดเลียกลืนกินสุราในเนื้อนวลมาเรื่อยๆ มือใหญ่ร้อนฉ่าดึงทึ้งอาภรณ์นางออกจนเกิดรอยแยกของเสื้อคลุม หน้าอกอวบอิ่มเผยชูชันอวดเต้าสล้างกลมกลึงเฉิดฉายอยู่ตรงหน้าแม่ทัพหนุ่มจับจ้องอกอวบๆ ของนางอย่างหลงใหล
แม่ทัพใหญ่ยืนนิ่งราวกับถูกสาป เขาคาดว่าจะได้กลิ่นคาวเลือดและการสู้รบซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ คือ สาวงาม งามที่สุดที่เขาเคยพบยิ่งยามที่ร่างอรชรเยื้องย้ายขยับกายเข้าใกล้ กลิ่นหอมฟุ้งลอยอบอวลไปทั่วทั้งกระโจม ใจของแม่ทัพใหญ่เต้นตึกตักระส่ำ เต้นแรงยิ่งกว่าการเห็นกองทัพศัตรูนับแสนอยู่ตรงหน้าสติของแม่ทัพใหญ่หลุดลอยลืมสิ้นว่าตนมาที่กระโจมน้อยนี้เพื่อสิ่งใด หัวใจของเขามันวาบหวามเคลิบเคลิ้ม แม้มือเรียวของนางเอื้อมเข้าสัมผัสมือใหญ่ เขาก็ยอมให้นางนำพาแต่โดยดี“ท่านแม่ทัพเชิญทางนี้เถิด”เหมยกุ้ยจูงร่างสูงใหญ่ให้นั่งลงที่โต๊ะกลมกลางกระโจม ที่มีสำหรับอาหารและเหล้าชั้นดีไว้เพียบพร้อม หากแม่ทัพใหญ่มีสติมากพอเขาจะประเมินสถานการณ์ตรงหน้าว่าคือ กลลวง แต่เหตุไฉนร่างกายของเขากลับวูบไหวยอมนั่งลงตามคำสั่งนางแต่โดยดี“ขออภัยท่านแม่ทัพที่ข้าน้อยบังอาจมารบกวนท่าน”เหมยกุ้ยชวนคุยระหว่างรินสุราเลิศรสลงในจอก“อะ เอ่อ ไม่เป็นไร เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นแม่ทัพ?”แม่ทัพใหญ่จางหย่งตอบอย่างเงอะงะ หลายเดือนที่ผ่านมาเขากรำศึกทั้งวันทั้งคืนเจอแต่บรรดาทหารหนุ่มๆ นี่เป็นคืนแรกที่เขา
“หากผู้ใดแพร่งพรายเรื่องในพระตำหนักนี้ออกไป มันผู้นั้นจะมีสภาพเป็นเหมือนนายทหารผู้นี้!”ปากสีแดงสดเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น“หากผู้ใดสวามิภักดิ์ต่อข้า มันผู้นั้นจะยังคงนอนหลับกินอิ่มอยู่ในตำหนักแห่งนี้เหมือนเช่นเคย!”องค์จักพรรดินี จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!บรรดาข้าทาสบริวารต่างคุกเข่าหมอบลงถวายความจงรักภักดี ไม่มีใครไม่รักชีวิต!เมื่อผู้เป็นนายเก่าสิ้นวาสนา นกน้อยที่ไร้ผู้ปกครองย่อมบินหาคอนเกาะที่มั่นคงกว่ามันคือสัจธรรมของชีวิต“ฮ่าๆ ทุกคนจงฟัง!”เสียงประกาศก้อง ร่างอรชรในชุดสีทองกรุยกรายยืดกายขึ้นองครักษ์ทั้งสองยืนเคียงข้าง“ขอให้พวกเจ้าทุกคนจงปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเหมือนเช่นเคยปฏิบัติมา อีกไม่เกิน 1 ชั่วยาม พระชายาก็จะฟื้น แต่จะกลายเป็นคนไร้สติ ให้พวกเจ้าทุกคนบอกกล่าวต่อๆ กันออกไปว่า -พระชายาโศกเศร้าเพราะสูญเสียพระสวามีจนเสียสติ-”น้อมรับพระบัญชา!“ระหว่างที่เจ้าเฝ้าพระตำหนักพระชายามีผู้ใดเล็ดลอดคาบข่าวไปบอกแม่ทัพใหญ่หรือไม่?”เหมยกุ้ยเอ่ยถามหลี่เจี๋ยขณะเสด็จกลับตำหนักของตน“ไม่มีแม้แต่เงาเส้นหนึ่ง”องครักษ์หนุ่มตอบ“ดีมาก ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้ดูแลพระตำหนักของพระชายาเพราะข้ายังไม่ไว
เมื่อมือเรียวสวย แหวกม่านสีทองออก ร่างอรชรก็ก้าวออกมาจากเกี้ยวสีทอง พร้อมกับพระสุรเสียงตอบกลับอย่างเยือกเย็นว่า “อันเหว่ย ท่านโปรดใจเย็นเถิด บางทีผู้คนของพระตำหนักนี้อาจจะมีกิจวุ่นวายจึงไม่มีเวลาออกมารับเสด็จข้าก็เป็นได้”เหมยกุ้ยยิ้มที่มุมปากไม่ได้เก็บการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้มาใส่ใจ เพราะยังมีเรื่องใหญ่กว่าที่นางจักต้องจัดการสิ้นพระสุรเสียงร่างอรชรก้าวย่างอย่างสง่างามเดินนำขบวนเข้าสู่พระตำหนัก เมื่อก้าวล่วงเข้ามาในพระตำหนักพระชายาข้าทาสรับใช้ต่างตื่นตระหนก แล้วเดินหลบหายไปจากสายตาและไม่มีผู้ใดน้อมถวายการต้อนรับองค์จักรพรรดินีจึงเดินเข้าไปในพระตำหนักเรื่อยๆ จนถึงศาลาชมดอกไม้ด้านหลังพระตำหนัก พระชายากำลังเสวยอาหารเช้าอย่างละเมียดละไม แม้จะรับรู้ถึงการเสด็จมาขององค์จักรพรรดินี แต่นางก็ไม่ได้ขยับน้อมตัวลงถวายความเคารพแม้แต่น้อย องครักษ์ฝ่ายขวาทำท่าจะคาดโทษผู้กระทำผิดระเบียบวังหลวงแต่เหมยกุ้ยยกมือขึ้นห้ามแล้วถือวิสาสะนั่งลงร่วมโต๊ะอาหารโดยไม่ต้องรอคำเชิญเช่นกัน“ทรงเสวยอาหารเช้าอร่อยหรือไม่”เหมยกุ้ยยิ้ม พร้อมกับเอ่ยทักทายขึ้นก่อน“ข้าจำได้ว่ายังไม่เคยเอ่ยเชิญผู้ใดร่วมโต
“อ่า อือ อะ อันเหว่ย ข้าจะขาดใจอยู่แล้ว อ่า”ยิ่งเห็นริมฝีปากแดงสดเผยอคราง ดวงตาฉ่ำเยิ้มของนางทำให้กล้ามเนื้อของเขาเกร็งทุกสัดส่วน มังกรเขื่องพองโตสั่นระริกแทบอยากจะมุดเข้ารู้หอยฉ่ำวาวเสียเดียวนั้นใบหน้างามบิดส่าย เผยอปากครางซี้ดดดดดดดดดร่างงามสั่นระริก กล้ามเนื้อภายในกายบิดเกร็งต้องการให้ดุ้นมังกรรุกเร้ามากกว่านี้“คืนนี้ ในห้วงคำนึงของท่านต้องมีแต่ข้าเพียง .....”บุรุษหนุ่มหยุดเสียงลง ตาคมตรึงตาคู่งามให้อยู่ที่เขา ก่อนจะกระแทกดุ้นมังกรเข้ารูหอยเต็มแรงพร้อมกับเสียงที่เปล่งออกมา“...ผู้เดียว!”ตับ!“อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”ร่างบางสะท้านเฮือก มังกรใหญ่ทะลวงเข้าลึกจนสุดลึก ความเสียวซ่านแล่นจี๊ดขึ้นสมอง สายตาพร่ามัวชั่วขณะรูหอยสวมลงบนความผงาดร้อนผ่าวอย่างเหมาะเจาะลึกจนสุดลำ นางครางออกมา ร่างกายร้อนผ่าวความหิวกระหายแทรกซึมเข้าไปทั่วทุกอณูสัมผัส“โอ้ววววววววววววว อ่า”บุรุษหนุ่มถึงกับคำรามลั่น เมื่อดุ้นมังกรยักษ์เข้าไปในโพร่งหอยทั้งอุ่นทั้งนุ่ม เขาตรึงสะโพกเกร็งตอกแน่น ซึมซับความซ่าบซ่านอย่างอิ่มเอม“อะ อันเหว่ย ห้วงคำนึงข้ามีแค่ท่าน อ่า”กลิ่นอายบุรุษคลุกเคล้ากลิ่นเหงื่อ
“อ่า”แล้วปากหนาร้อนระอุก็ประกบปากอิ่มเอาไว้ แทะเล็มกลีบปากสีแดงสดอ่อนนุ่มอย่างอ้อยอิ่ง“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ”“รางวัลที่เกล้ากระหม่อมต้องการมากที่สุด คือ ท่าน!”บุรุษหนุ่มกระซิบแหบพร่าที่ข้างหู“อืมมมมมมม อะ อันเหว่ย”เสียงแว่วหวานของเหมยกุ้ยเอ่ยเรียกชื่อเขา ยิ่งกระตุ้นให้เลือดในกายบุรุษวิ่งพล่าน มือหนากระชับกอดร่างอ่อนนุ่มเข้าชิด ปากแกร่งโฉบลงบนกลีบปากอิ่มสีแดงสดรุนแรงเร่าร้อนกว่าที่เคยฮืออออออ จ๊วบบบบบบบ “อึก ฮืออออออ จ๊วบ”ริ้นร้อนของเขาตวัดระรัวครวญหาความฉ่ำหวานซ่าบซ่านในโพร่งปากน้อย“ฮือ อ่า อ่าซ์”มือเรียวงามขึ้นคล้องลำคอแกร่งเอาไว้ร่างกายอ่อนระทวยลงกับอกเขาราวไฟรน ความเสียวซ่านโจมตีท้องน้อยไม่หยุด ขณะที่หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวจ๊วบ! จ๊วบ! จ๊วบ!จ๊วบบบบบบบ จ๊วบบบบบบบ อันเหว่ยรุกรานเข้าซุกไซ้ด้วยริมฝีปากร้อนระอุ เนื้อกายนางสัมผัสบุรุษอื่นส่วนใด เขาจะไล้จูบโลมเลียส่วนนั้นให้เนิ่นนานที่สุด เพื่อกำจัดกลิ่นอายของบุรุษอื่น! เพื่อให้ทั่วทั้งกายนางเป็นของเขาเพียงผู้เดียว!จ๊วบบบบบบบ จ๊วบบบบบบบ “อื้อ อ่า อืมมมมมมม”แฮ่ก แฮ่ก แฮ่กแฮ่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ