สองหนุ่มเพ่งมองร่างสาวน้อยกึ่งเปลือยบนตักรื่อหง แล้วหายใจแรงหนักหน่วงอย่างควบคุมอารมณ์ เพราะร่างงดงามจนน่ากลืนกินทั้งตัวนั้นมันปลุกพลังความเป็นชายของเขาทั้งคู่ จนเจ็บร้าวที่หว่างขา
“ช่วยสอนงานนางที”
รื่อหงผลักร่างอรชรให้ชายกำยำ หนึ่งในสองนั้นอุ้มเหมยกุ้ยขึ้นอย่างง่ายดาย สติที่พอจะเหลืออยู่น้อยนิดบังคับให้นางส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นว่ารื่อหงกำลังหันหลังเดินออกไปจากห้อง
“ทะ ท่านแม่! ช่วยข้าด้วย ข้าเป็นอะไร ยะ อย่าทิ้งข้า”
“ข้าแค่ให้เจ้าดื่มกระไรเล็กน้อย เพื่อให้การเป็นนางคณิกาครั้งแรกของเจ้าไม่เจ็บปวดมากนัก และจะเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ”
เมื่อกล่าวจบ รื่อหงก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เหมยกุ้ยอยู่กับชายบึกบึน หน้าเหี้ยม ที่มองผ่าน ๆ คล้ายกับกลุ่มโจรที่นางเคยพบเมื่อ 5 วันก่อน
เหมยกุ้ยพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากอ้อมอกของชายกำยำผู้นั้น แต่เมื่อเนื้อตัวเสียดสีกับแผงอกแกร่ง นางก็รู้สึกร้อนวูบวาบราวกับว่าเนื้อตัวกำลังจะลาย จนต้องโอบร่างกำยำไว้แน่น
“อือ สาวน้อย ใจเย็น ๆ สิ เดี๋ยวพวกข้าจะค่อย ๆ สอนเจ้าเอง ว่า นางคณิกาที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง ฮ่า ๆ”
จางเหว่ยวางร่างอ่อนระทวยของเหมยกุ้ยลงบนเตียง จ้องมองร่างน้อย ๆ อย่างหื่นกระหาย ตั้งแต่เขาทำงานกับรื่อหงมาไม่เคยเจอเด็กสาวคนไหนงดงามเท่านี้มาก่อน
“อ่า ผิวเจ้านุ่มมืออย่างกับเด็กทารก”
หวังเหว่ย ชายกำยำอีกคน นั่งอยู่ปลายเตียง ใช้มือสากสองข้างลูบไล้ตั้งแต่น่องจนถึงต้องขาอ่อนของเหม่ยกุ้ย
“ยะ อย่า อ่าซ์”
สาวน้อยร้องห้ามผะแผ่ว สมองพยายามสั่งให้นางขยับหลบหนีมือสกปรกนั่น แต่ร่างกายกลับยิ่งอ้าขาออก เปิดทางให้มือสากรุกไล้กุหลาบงานสีแดงระเรื่อ ทั้งคลึง ทั้งบด ทั้งขยี้ เกิดกระแสไฟฟ้าปลาบแปลบที่เหมยกุ้ยไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต มันวิ่งพล่านไปทั้งร่างงาม จนนางต้องแอ่นกายรับนิ้วร้าย
“อ้ายยยยยยยยยยย หือ”
เหมยกุ้ยครางสุดเสียง ยกสะโพกรับนิ้วร้าย หลับตาพริ้มอย่างซ่านกระสัน ความร้อนจากอุ้งมือชายกดเน้นย้ำ ๆ ทำให้ลมหายใจของสาวน้อยขาดเป็นห้วง ๆ
แซ็บ!
แซ็บ!
แซ็บ!“อะ อะ อ่า อร้าย”
“อือ หอยเจ้าตอดมือข้าดีมาก อะ อ่า อือ”
แววตาหื่นกระหายของหวังเหว่ยมองโหนกเนื้อสีแดงที่ฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำหวานจนน่ากิน มือของเขาชุ่มไปด้วยน้ำหอยของสาวน้อย
“นมเจ้าก็สู้ลิ้นข้าดีนัก”
จางเหว่ย ชายกำยำอีกคนที่นั่งอยู่บนหัวเตียง กดมือสองข้างของนางไว้ ขณะที่โน้มตัวลงซุกไซ้เนินอกที่กำลังตั้งเต้าเป็นบัวตูมน้อย ๆ
ลิ้นร้อนของชายกำยำสะกิดหัวนมถี่ ๆ ก่อนประกบปากระอุลงบนปลายปทุมถันที่ชูชันเต็มที่
จ๊วบ!
แซ็บ!
จ๊วบ! จ๊วบ!
“อร้างงงงงงงง อา”
เหมยกุ้ยครวญครางไม่ได้ศัพท์ เพราะร่างกายนางถูกล่วงล้ำทั้งบนและล่าง ความเสียวซ่านมันระเบิดไปทั่วทั้งร่างจนนางแทบจะมอดไหม้ไปด้วยเพลิงราคะ
จ๊วบ!
แซ็บ!
จ๊วบ! จ๊วบ!
จางเหว่ย ทั้งดูด ทั้งดึง ทวีความหนักหน่วงรุนแรงจนไหล่บางของนางสะดุ้งตามแรงดูด
“นมเจ้าก็สู้ลิ้นข้าดีนัก”
ชายหนุ่มกระซิบแนบเนื้ออกขาวผ่อง ที่เริ่มแดงระเรื่อเพราะแรงบีบเคล้น แรงคลึงของมือสาก
“อือ แฮ่ก”
เหมยกุ้ยเผยอปากฮุบเอาอากาศ เมื่อทั้งสองหนุ่มหยุดรุกราน ทรวงอกเต่งตึงไหวกระเพื่อมตามแรงหอบหายใจ
หวังเหว่ยที่อยู่ปลายเท้าเหมยกุ้ย เขาจับเรียวขาทั้งสองข้างของนางอ้าให้กว้างยิ่งขึ้น ชายหยุดกลั้นหายใจ แววตาหิวกระหายเมื่อเห็นหอยทั้งแดงทั้งฉ่ำ จนเขาอดใจไม่ไหวประทับปากลงบนหอยเต็มปากเต็มคำ เขาแหย่ลิ้นสากเข้าไปในรูหอยเยิ้มๆ แล้วลากลิ้นเลียขึ้นไปจนถึงตุ่มเสียวใจกลางหอย
“ซี้ดดดดดดดดดดดดดดดด อา อือ”
เหมยกุ้ยแอ่นสะโพกครางซี้ดเมื่อถูกลิ้นร้อนแยงรูหอย
ลิ้นร้อนตวัดตุ่มเสียวกลางกายสาวไปมาอย่างรวดเร็วราวกับงูฉก ยิ่งทวีความหื่นกระหายให้นางมากยิ่งขึ้น
แจ๊บ แจ๊บ
ม๊วบ
หวังเหว่ยดูดเลียน้ำหอยฉ่ำหวานอย่างเมามัน ร่าบางหยัดสะโพกรับลิ้นร้ายครางไม่เสียงมนุษย์
“ซี้ด อะ อา อร้างงงง มะ ไหว เสียวเหลือเกิน”
ในขณะที่หวังเหว่ยรุกรานส่วนล่างของนางอย่างหนัก จางเหว่ยก็ถอนปากออกจากยอดอก และมือสากทั้งสองข้างของเขาก็ทาบทับแทน แล้วค่อย ๆ กดเคล้าคลึงเนินเนื้อที่แข็งเป็นไตของทรวงอกอย่างหนักหน่วง
ชายหนุ่มประกบลงบนปากอิ่มนุ่ม ในขณะที่นางกำลังเผยอปากครางกระสัน
“อะ อ่า อืม”
ม๊วบ! จ๊วบ!
ลิ้นร้อนของชายหนุ่มพุ่งเข้าไปตวัดรัดลิ้นน้อยเพื่อรีดน้ำหวานจากโพรงปากอุ่น เรียวลิ้นเล็กถูกลิ้นสากของชายหนุ่มเกี้ยวกระหวัด แล้วซอนไซไปทั้งโพรงปากจนรู้สึกซาบซ่าน
“เยี่ยงนี้ คือ จูบ อืม อ่า”
จางเหว่ย กระซิบแนบปากบางที่เริ่มบวมเจ่อเพราะแรงจูบดูดดื่มเมื่อครู่ เมื่อละจากปากบาง เขาก็ลากลิ้นพรมจูบไปทั่วกายสาว
ม๊วบ! จ๊วบ!
ขบ เม้ม ลิ้มลองเนื้อสด ๆ หอม ๆ อย่างหิวกระหาย ลากลิ้นร้อนเลียลงไปจนถึงหน้าท้องแบนราบ จางเหว่ยสะกิดหวังเหว่ยให้เงยหน้าขึ้นจากหอย
“นางเงี้ยนมากแล้ว สอนบทสุดยอดให้นางเลยดีกว่า”
จางเหว่ยผู้พี่ ร่างกายบอบบางกว่าเอ่ยขึ้น
“ฮึ ฮึ บทสุดยอด ได้เดี๋ยวข้าจัดให้แบบเต็ม ๆ”
หวังเหว่ยผู้น้อง แต่เรือนร่างกำยำกว่าพี่ชายหัวเราะในลำคออย่างหื่นกระหาย
“แฮ่ก แฮ่ก ยะ อย่า พอแล้ว จะขาดใจตายอยู่แล้ว”
สาวน้อยคร่ำครวญปนเสียงหอบหายใจ เมื่อได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่
“โอ๋ ๆ สาวน้อย เมื่อกี้แค่น้ำจิ้มเท่านั้น เรียกน้ำหอยฉ่ำ ๆ ให้มังกรข้าได้ดื่มด่ำเท่านั้น”
หวังเว่ยพูดพลางงัดมังกรตัวเขื่องออกมาจากกางเกง เขาจับมังกรหัวบากร้อนฉ่าลงไปถูกไถกลีบหอยที่เต่งตึงชุมฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน
“อะ อ่า อืม ท่านเอาอะไรมาแทงข้า ซี้ดดด เสียวจังเลย”
เหมยกุ้ยร้องถามเสียงกระเส่า
“มังกร ของข้าเอง อึบ อ่าซ์ โอ้วววววววว”
หวังเหว่ยค่อย ๆ ดันหัวดุ้นมังกรยักษ์ตัวเขื่องมุดเข้าไปในรูหอยที่แสนฉ่ำ และคับแคบของเด็กสาว กลีบหอยรัดแน่นตอดแก่นมังกรเขา
ตุบ
ตุบ
แรงตอดปลุกเร้าให้มังกรของเขายิ่งเจ็บร้าวปนสุขสม จนเขาอยากจะระเบิดพลังชายฉกรรจ์ออกมาเสียเดี๋ยวนั้น เขากระทุ้งสะโพกเข้าไปเพื่อให้หัวมังกรมุดรูหอยคับแคบเข้าไป แรงกระแทกบวกกับน้ำหอยที่ไหลทะลักออกมาทำให้ดุ้นมังกรแทงเข้าไปจนสุดลำ
ส๊วบบบบบบบบบบบบ
จึ๊ก!
“อ๊ากกกกกกกกกกกก”
“อร้างงงงงงงงงงง”
ชายหนุ่มและเหมยกุ้ยครางออกมาสุดเสียงอย่างซ่านกระสัน
จางเหว่ยเมื่อเห็นผู้น้องเสียบมังกรเข้าไปในหอยหญิงสาวแล้ว เขาจึงงัดดุ้นมังกรแกร่งร้อนฉ่าของเขาออกมาบ้าง มือหนาจับมังกรที่มีเส้นเลือดเต้นตุบตับเข้าไปในโพรงปากอุ่นของเหม้ยกุ้ยที่นางอ้าปากครวญครางเมื่อครู่
“อือ”
เหมยกุ้ยครางประท้วง ลองมือผวาจิกเข้าไปที่สะโพกแกร่งของชายหนุ่ม ในขณะที่ลิ้นเล็กพยายามดุนหัวบากมังกรของเขาให้ออกไปจากปาก ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้แก่ชายหนุ่มจนเขาต้องแหงนหน้าครางออกมา“อร้ากกกกกกกก ซี้ดดดดดดดดดดดด โอ้ววววววว” ส่วนล่างหวังเหล่ยก็ค่อย ๆ ขยับสะโพกแทงเข้าออก ให้กลีบหอยคายน้ำหวานออกมาไม่หยุด ชายหนุ่มเร่งจังหวะแทงเข้าออกจนกลีบหอยเบ่งปริส๊วบบบบบบบบบบบบจึ๊ก!“อ่าซ์”ส๊วบ ส๊วบ จึ๊ก!“อ่าซ์”“โอ้วววววววววว”เหม้ยกุ้ยเจ็บแปลบปนสุขสมเจียนขาดใจ ยิ่งหวังเหว่ยกระแทกดุ้นมังกรเข้าหอยนางมากเท่าไหร่ ปากนางก็ยิ่งรูดแก่นมังกรจางเหว่ยหนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น“อ๊ากกกก โอ้ววววว ไม่ไหวแล้ววววววว จะถึงแล้ว จะถึงแล้ว”จางเหว่ยครวญครางอย่างสุขสม ดวงดาวเริ่มพร่างพราย เขาหยัดสะโพกใส่ปากเล็กของเหมยกุ้ยให้มากขึ้นเพื่อให้แตะถึงสวรรค์ นางโม้กมังกรเขาอย่างร้อนแรง ทั้งรูด ทั้งดุน ดูดจนแก้มตอบเสียงดูดดังจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“โอ้ววววว ซี้ดดดดดด ยะ อย่างนั้น เร็วอีกๆ”จางเหว่ยเกร็งตัวอย่างเสียวซ่าน มือสากของเขาตะปบลงเป็นสองเต้างาม เคล้นคลึงหัวนมชมพูจนเจ้าของมันบิดร่างแอ่นอกอย่างเสียวซ่าน ราว
เมื่อขบวนเกี้ยวของใต้เท้าอันฉีเดินทางเข้าสู่เมืองฉีซาน ตะวันก็โพล้เพล้ แสงสีทองสาดส่องลงบนถนนในเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนสัญจรไปมา เมืองฉีซานเป็นหัวเมืองสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนทางเหนือ และเป็นเมืองประตูสู่ภาคกลาง เมืองนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ รถม้าวิ่งกันขวักไขว่ บ้านเรือนร้านค้าเรียงรายตามสองฝั่งถนนถนนในตัวเมืองใหญ่ไม่มาก แต่ก็กว้างพอให้รถเทียมม้า และรถบรรทุกของสองคันแล่นสวนกันได้เมื่อขบวนเกี้ยวใต้เท้าอันฉี ที่นำขบวนโดยบุรุษหนุ่มสง่างามควบม้าสีขาวพันธุ์ดี ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม ดวงตาคมกวาดไปรอบ ๆ เมือง บุรุษรูปงามผู้นี้ คือ “อันเหว่ย” บุตรชายเพียงคนเดียวของผู้ที่นั่งอยู่ในเกี้ยวใต้เท้าอันฉี หรือ ใต้เท้าฉี สอดมือเปิดม่านหน้าต่างข้างเกี้ยวขึ้นมองดูร้านร่วงข้างทาง แล้วดวงหน้าน้อย ๆ ของดรุณีก็เบียดขึ้นมาส่องอย่างอยากรู้อยากเห็นบ้าง“โอ้ว ว้าว นี่เขาเรียกว่าเมืองรึ”หลันฮวา ดรุณีวัยแรกที่ใต้เท้าฉีเก็บมาจากป่าบนภูเขา ร้องถามขึ้นอย่างตื่นเต้น“ใช่ แล้ว และคืนนี้ก็อนุญาตให้เจ้าเที่ยวชมเมืองได้อย่างอิสระ หากเจ้าต้องการอยู่ที่นี่ก็ตามใจเจ้า หรือหากเจ้าอยากไปเมืองหลวงกับข้า เจ้าก็มากลับม
ใต้เท้าฉียกมือทั้งสองข้างโอบเอวบางของสาวงามซ้ายขาวแล้วปักจมูกลงบนหน้าอกอิ่มของสาวงามทั้งสองดังซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!ซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!แผล็บ! แผล็บ!“ชื่นใจจังเลย น่ากินไปหมดนะเนี่ยะ ฮ่า ๆ”นอกจากสูดดมกลิ่นกายสาวจนหนำใจแล้วลิ้นสากของใต้เท้าฉียังเลียแผล็บที่เนินอกขาวผ่อง สร้างความสยิวเล็ก ๆ ให้สาวงาม นางหัวเราะคิกแล้วใช้มือน้อย ๆ ทุบเบา ๆ ที่อกหยุ่น ๆ ของชายชรา“แหม ใต้เท้าชอบทำเป็นเล่นไป”“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ วันนี้ ข้ามีความสุขจริงๆ เลย ได้อยู่ท่ามกลางสาวสวยอย่างพวกเจ้า”“ขอบคุณค่ะใต้เท้า เชิญด้านไหนดีกว่านะคะ”แล้วสองนางซ้ายขวาก็พาใต้เท้าฉีเดินเข้าไป ในหอหมู่ตาน พ่อบ้านยืนมองนายจนหายลับเข้าไปข้างใน แล้วหันมาสั่งพลเกี้ยวให้พักผ่อนได้ตามสบาย ส่วนตนของนั่งพักกับบรรดาสาว ๆ หน้าหอมู่ตาน หากผู้เป็นนายเสร็จกิจจะได้รับใช้ได้ทันการ ทันทีที่ใต้เท้าฉีก้าวเข้าไปภายในหอมู่ตาน ร่างสาวใหญ่ในอาภรณ์ระยิบยับก็ถลาเข้าหาพร้อมกับเสียงวี้ดว้าย“ตายแล้ววววววว ใต้เท้าฉี มาไวกว่าที่คิดไว้นะคะ เชิญใต้เท้าด้านนี้คร่า อุ้ย!”ประโยคสุดท้ายรื่อหงอุทานดังลั่น เมื่อมืออวบ ๆ ของใต้เท
สิ้นคำใต้เท้าฉีก็ก้มลงใช้จมูกบาน ๆ ดุนเกาะอกให้เลื่อนหลุด หัวนมสีชมพูชูชันเชิญชวนปากอวบก็ครอบลงดูดหัวนมสีชมพูระเรื่อ หัวนมแข็งเป็นไตถูกปากหนากลืนหายเข้าไปในโพรงปากอุ่นซ่าน ปลายลิ้นใต้เท้าฉีกระดกสะกิดหัวนมในโพรงปากรัว ๆ แล้วดูดซ้ำซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดเหมยกุ้ยแอ่นอก มือสองข้างสอดเข้าใต้เรือนผมสีเทาขย้ำกดศีรษะใต้เท้าฉีให้แนบชิดหน้าอกยิ่งขึ้นเมื่อร่างอรชรร้อนวูบวาบ ความเสียวซ่านปลาบแปลบแล่นจากหัวนมไปทั่วกายสาว“อ้ายยยยยยย”สาวงามแอ่นอกส่งเสียงครางออกมาเบา ๆซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดใต้เท้าฉีเปลี่ยนมาดูดอีกข้างอย่างเท่าเทียม ร่างอรชรบิดส่าย ปากน้อย ๆ เผยอครางอย่างเร่าร้อน“อะ อ่า”ลิ้นของใต้เท้าฉีขยับปัดป่าย เลียวนไปรอบ ๆ หัวนมที่แข็งเด้งสู้ลิ้น ยิ่งสร้างความเมามันให้ใต้เท้าฉีสะกิดดูดดึงหัวนมรัว ๆ ซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดด“อ้ายยยยยยยยยยยยยย”เหมยกุ้ยครางไม่เป็นศัพท์ เคลิ้มไปกับปลิ้นร้ายของตาเฒ่าขุนนางใหญ่ มือน้อย ๆ ผลักบ่าชายชราเบา ๆ เป็นเชิงขัดขืนให้พองาม“ตะ ใต้เท้า อย่าด่วนกินของหวานก่อนของคาวสิ”
ไป๋หลานตั้งใจรีดน้ำมังกรอย่างสุดฝีมือตามคำบอกของเหมยกุ้ย ทำให้มังกรของใต้เท้าฉีระเบิดน้ำออกมาเต็มปาก พร้อมกับเสียงครางดังลั่นห้อง“โอ้วววววววววววววววววว อ๊าซ์”สาวน้อยดูดกลืนน้ำหวานจนหมดลำมังกร แล้วค่อย ๆ ถอนเรียวปากออก อกของใต้เท้าฉีกระเพื่อมไหวตามแรงหอบหายใจ“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก จะ เจ้าสุดยอดมากเหมยกุ้ย”“สุดยอดแบบนี้ พอที่จะเข้าเฝ้าฮ่องเต้ด้วยได้ไหม”เหมยกุ้ยตัวจริงที่อยู่หลังม่านออดอ้อนถาม“ทำไมจะไม่ได้หล่ะจ๊ะ ข้าจะพาเจ้าไปทุกที่เลย”ใต้เท้าฉีรับคำเพราะความเคลิบเคลิ้ม“งั้น ต้องให้รางวัลใต้เท้าฉีหนัก ๆ สักหน่อยหล่ะ”สิ้นเสียง เหมยกุ้ยพยักพยัดส่งสัญญาณให้ไป๋หลานจัดการเผด็จศึกมังกรเฒ่ามือเรียวเล็กของไป๋หลานลูบไล้มังกรที่เหี่ยวลงไปเพราะถูกรีดพิษออกเมื่อสักครู่ สัมผัสเล้าโลมของสาวน้อยทำให้มังกรเฒ่าร้อนฉ่าพองโตขึ้นอย่างทันใจ จนผู้เป็นเจ้าของถึงกับครางกระเส่าถาม“มะ เหมยกุ้ย เจ้าจะทำอะไร อ๊า อะ”“ตอบแทนที่ใต้เท้าจะพาข้าเข้าเฝ้าฮ่องเต้ไง”“เอ๊าะ อ้าววววววววว”เมื่อมังกรเฒ่าผงาดจนตั้งขึ้น ไป๋หลานก็โขย่งตัวขึ้นคร่อม จนหัวมังกรอวบอ้วนมุดผ่านเข้ารูหอยอันคับแคบ จนนางถึงกับ
ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจ แม้แต่เขายังลุ่มหลงในตัวนาง มีหรือฮ่องเต้จะไม่ทรงโปรดขณะที่รื่อหงกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่กลางห้องโถงพร้อมกับบรรดาสาวสาวทั้งหลาย เหมยกุ้ยก็โอบประคองใต้เท้าฉีเดินลงมาถึงชั้นล่าง“ใต้เท้าฉี แหม แหมเมื่อคืนคงจะจัดจนฟ้าเหลืองสิท่า กว่าจะลุกจากห้องได้ก็ปาเอาตะวันสายโด่งเลยนะท่าน”รื่อหงส์จีบปากจีบคอแซวตามประสา เหมยกุ้ยยิ้มรับน้อย ๆ รับสมอ้างว่าปรนนิบัติใต้เท้าผู้นี้ทั้งคืนยันรุ่งฮ่า ฮ่า ฮ่าใต้เท้าฉีหัวเราะต้องชอบใจ ก่อนเอ่ยว่า“ขอบใจเจ้ามาก ที่เจ้าสามารถอบรมสั่งสอนให้เหมยกุ้ยเป็นสาวงามที่ชาญฉลาด เพียบพร้อมและปรนนิบัติข้าได้ถึงใจจริงๆ”“แหมะ ใต้เท้า ท่านก็ชมเกินไป”รื่อหงยิ้มหน้าระรื่นใต้เท้าฉีจึงเอ่ยต่อไปว่า“ข้าจึงอยากจะขอตัวนาง เพื่อนำไปถวายแด่ฮ่องเต้ เจ้าขัดข้องหรือไม่”รื่อหงหันขวับ ตาลุกวาว แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน“เมื่อกี้ท่านล้อข้าเล่นแน่ แน่”รื่อหงส่ายหน้าแสร้งหัวเราะแกน ๆ“ข้าไม่ได้ล้อเล่น”ใต้เท้าฉีเอ่ยขณะนั่งลงบนเก้าอี้ลงข้างรื่อหง เขาต้องคุยกับนางอย่างจริงจังแม่เล้าผู้มากประสบการณ์มองดูขุนนางผู้นี้ก็เข้าใจในท่าทีจึงพยักหน้าใ
“ใต้เท้า ใต้เท้าขอรับ คุณชายเหว่ยมายืนรอรับถึงหน้าที่พักแล้วขอรับ ข้าเกรงว่าท่านอาจต้องเตรียมคำอธิบายที่พาสาวงามจากหอคณิกาด้วย”ใต้เท้าฉีได้ยินเสียงกระซิบบอกของพ่อบ้านทุกถ้อยคำใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยเดินโออ่าแผ่ศักดาที่หอมู่ตานเมื่อวาน มาวันนี้ถึงกับเป็นอันเหี่ยวเฉาลงทันทีใต้เท้าฉีมีสีหน้าหวั่นวิตกลงอย่างเห็นได้ชัดเหมยกุ้ยได้ยินทุกคำพูดที่พ่อบ้านเอ่ยเช่นกัน บวกกับหน้าซีดเซียวของใต้เท้าฉีจึงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ว่า“ใต้เท้ามีเรื่องกังวลใจอันใดหรือ”“ข้าเกรงว่าลูกชายของข้าจะไม่เห็นด้วยที่ข้าพาเจ้าไปถวายตัวต่อองค์ฮ่องเต้ อันเหว่ยเป็นคนเถรตรงมาก และไม่นิยมชมชอบนางคณิกาเท่าไหร่นัก”“ท่านกลัวว่า บุตรชายของท่านจะรังเกียจข้าหรือ?”เหมยกุ้ยแสร้งทำสีหน้าเศร้าสร้อยใต้เท้าฉีจึงถือโอกาสโอบกอดสาวงามเพื่อปลอบประโลม“โอ้ ๆ เจ้าไม่ต้องเสียใจไป ข้าว่าไม่มีผู้ชายคนใดในโลกนี้ที่จะรังเกียจสาวงามเช่นเจ้าได้ลงคอ ข้าจะหาทางอธิบายเหตุผลกับลูกชายของข้าเอง”สิ้นคำใต้เท้าฉีจึงก้าวลงมาจากเกี้ยวใต้เท้าฉีรีบเดินเข้าไปหาบุตรชายก่อนที่เขาจะเป็นผู้เดินมาหา หากถึงเกี้ยวจะยิ่งวุ้นกันไปใหญ่“ท่านหายไปไหนมาทั้งคืน แล
ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจรับคำว่า“ได้ ได้ ไปสิเรากำลังจะออกเดินทาง”“ขอบคุณใต้เท้ามาก ท่านใจดีที่สุด!”เมื่อได้รับอนุญาตให้เดินทางไปด้วยได้ หลันฮวาก็ผุดเข้าไปนั่งในเกี้ยวก่อนใคร ๆ ตามด้วยใต้เท้าฉีเหมยกุ้ยเดินตามมาอย่างเงียบเงียบ เมื่อมองเข้าไปในเกี้ยวก็พบว่าไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับนางแล้ว นางจึงกล่าวแก่ใต้เท้าฉีว่า” ข้าคิดว่าหากท่านจะพาข้าไปถวายตัวต่อฮ่องเต้ในฐานะบุตรบุญธรรม แล้วให้นั่งในเกี้ยวคู่ไปพร้อมกับท่าน เกรงว่าจะไม่เหมาะ ฉะนั้นข้าขอเดินตามขบวนกับพ่อบ้านเห็นจะเหมาะกว่า”ใต้เท้าฉีส่งสายตาสุดแสนเสียดายมาที่เหมยกุ้ยเพราะเขาตั้งใจว่าจะนั่งเกี้ยวไปกับสองดรุณีสุดสวยทั้งคู่คงจะได้ขึ้นสวรรค์ไปถึงชั้นไหน ชั้นไหน แต่เมื่อนางออกความคิดเห็นเช่นนี้ก็ถูกต้อง อีกอย่างเมื่อคืนเขาเองก็อยู่กับเหมยกุ้ยทั้งคืนแล้ว งั้นเช้านี้เปลี่ยนรสชาติเป็นดรุณีป่า ก็คงจะดีไม่น้อย เมื่อคิดได้ดังนั้นใต้เท้าฉีจึงพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างอยู่ในสายตาคมดุของบุรุษผู้หนึ่งเสมอ ระหว่างที่เดินออกจากเมืองซานฉีเหมยกุ้ยเองก็ลอบมองบุรุษสง่างามผู้ที่อยู่บนหลังม้าเช่นกัน นางสังเกตเห็นว่า เขาเองก็แอบลอบ