Share

ตอนที่17. การเป็นอิสระจากหอนางโลมแห่งนี้!!!

ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจ แม้แต่เขายังลุ่มหลงในตัวนาง มีหรือฮ่องเต้จะไม่ทรงโปรด

ขณะที่รื่อหงกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่กลางห้องโถงพร้อมกับบรรดาสาวสาวทั้งหลาย เหมยกุ้ยก็โอบประคองใต้เท้าฉีเดินลงมาถึงชั้นล่าง

“ใต้เท้าฉี แหม แหมเมื่อคืนคงจะจัดจนฟ้าเหลืองสิท่า กว่าจะลุกจากห้องได้ก็ปาเอาตะวันสายโด่งเลยนะท่าน”

รื่อหงส์จีบปากจีบคอแซวตามประสา เหมยกุ้ยยิ้มรับน้อย ๆ รับสมอ้างว่าปรนนิบัติใต้เท้าผู้นี้ทั้งคืนยันรุ่ง

ฮ่า    ฮ่า    ฮ่า

ใต้เท้าฉีหัวเราะต้องชอบใจ ก่อนเอ่ยว่า

“ขอบใจเจ้ามาก ที่เจ้าสามารถอบรมสั่งสอนให้เหมยกุ้ยเป็นสาวงามที่ชาญฉลาด เพียบพร้อมและปรนนิบัติข้าได้ถึงใจจริงๆ”

“แหมะ ใต้เท้า ท่านก็ชมเกินไป”

รื่อหงยิ้มหน้าระรื่น

ใต้เท้าฉีจึงเอ่ยต่อไปว่า

“ข้าจึงอยากจะขอตัวนาง เพื่อนำไปถวายแด่ฮ่องเต้ เจ้าขัดข้องหรือไม่”

รื่อหงหันขวับ ตาลุกวาว แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน

“เมื่อกี้ท่านล้อข้าเล่นแน่ แน่”

รื่อหงส่ายหน้าแสร้งหัวเราะแกน ๆ

“ข้าไม่ได้ล้อเล่น”

ใต้เท้าฉีเอ่ยขณะนั่งลงบนเก้าอี้ลงข้างรื่อหง เขาต้องคุยกับนางอย่างจริงจัง

แม่เล้าผู้มากประสบการณ์มองดูขุนนางผู้นี้ก็เข้าใจในท่าทีจึงพยักหน้าให้บรรดาเด็กเด็กกลับขึ้นห้อง เหลือเพียงนาง ใต้เท้าฉี และเหมยกุ้ยเท่านั้น

“ใต้เท้าฉี เหมยกุ้ยเป็นดาวประจำหอมู่ตาน ข้าขอพูดตรง ๆ นะ นางทำรายได้ให้แก่หอมู่ตานมหาศาล หากข้ามอบนางให้แก่ท่าน ก็เท่ากับว่ารายได้ที่มากมายนั้นก็จะสูญสิ้นไปด้วยน่ะสิ”

“ฮ่า ๆ เจ้าลองคิดดูดี ๆ นะรื่อหง นางอยู่ที่นี่สร้างรายได้ให้เจ้ามหาศาลก็จริง แต่เมื่อนางถวายตัวแล้วได้เป็นที่ชื่นชอบของฮ่องเต้ และข้าก็คิดว่านางต้องทำได้แน่ ๆ เจ้าคิดดูสิว่าเมื่อถึงวันนั้น ไม่เพียงแต่เจ้าจะได้เงินทองมหาศาล มีกินมีใช้ไปจนตายก็ไม่หมด แต่เจ้าจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าอยากได้ รวมถึงเจ้าอาจจะขอเข้าไปอยู่ในวังด้วยก็ยังได้ เจ้าก็ไม่ต้องมานั่งหลังคดหลังแข็งดูแลหอแห่งนี้ให้คนอื่นเขาดูแคลนอีกต่อไป”

คิ้วเรียวงามของรื่อหงขมวดเข้าหากันคิดตามคำพูดของใต้เท้าฉี นางพยายามบวกลบคูณหารว่าทางใดจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบเปรียบกันมากกว่า

ในขณะที่รื่อหงกำลังลังเลใจอยู่นั้นเหมยกุ้ยจึงเอ่ยขึ้นว่า

“ท่านแม่ ข้ารับใช้ท่านมาตั้งแต่อายุ 16 จนบัดนี้ อายุล่วงเลยเข้าสู่วัย 20 กว่า ต่อให้ข้ายังอยู่ที่นี่ก็คงจะรับใช้ท่านอีกได้แค่สี่ห้าปีเท่านั้น เพราะร่างกายของข้าก็จะร่วงโรยตามกาลเวลา เงินทองหาก็คงจะได้ไม่มากเหมือนเคย แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากข้าได้ถวายตัวรับใช้ฮ่องเต้จนเป็นที่โปรดปรานเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะสามารถได้เงินทองและอำนาจ มาครอบครองไว้ได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนี้จะไม่ดีกว่าหรือ”

รื่อหงพยักหน้าน้อย ๆ แม้ว่าเห็นด้วยแต่นางก็ยังคงแสนเสียดายสาวงามผู้ทำรายได้ให้กับนางเป็นเงินมหาศาล

“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านกำลังลังเลใจ แต่ท่านไม่ต้องห่วงนะ ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ท่านแม่สามารถปั้นไป๋หลานและหวงหลานให้เป็นยอดสาวงามประจำหอมู่ตานแทนข้าได้ เพราะทั้งคู่ล้วนเป็นเด็กสาววัยแรกแย้ม นางคงจะสามารถทำเงินให้กับหอมู่ตานได้อีกนาน”

เหมยกุ้ยพยายามวานล้อมรื่อหง เพราะนางต้องการออกไปจากที่นี่อย่างสงบ อยากหลุดพ้นจากการเป็นทาสกามารมณ์ ที่ต้องใช้เรือนร่างแลกกับเศษเงิน!

“เจ้าคิดเช่นนั้นรึ”

รื่อหงถามย้ำ

เหมยกุ้ยพยักหน้ายืนยันก่อนเอ่ยว่า

“เมื่อคืน ข้าลองสอนไป๋หลานบ้างแล้วบางบทเรียน นางเป็นคนเรียนรู้เร็ว ขอแค่ท่านช่วยสั่งสอนนางต่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่นานหอมู่ตาน ก็จะมีสาวงามอันดับหนึ่งมาแทนข้าได้อย่างแน่นอน”

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน หากเจ้าเกรงว่า จะสูญเสียรายได้ งั้นข้าจะให้เงินเจ้าจำนวนหนึ่ง ถือซะว่าเป็นค่าตัวของนางก็แล้วกันพ่อบ้าน! พ่อบ้าน!”

ประโยคสุดท้ายใต้เท้าฉีร้องเรียกพ่อบ้านประจำตระกูลอัน ไม่นานนักเสียงฝีเท้าวิ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายชราในชุดสีน้ำเงินเข้มเรียบร้อย ชายผู้นี้ยืนรอผู้เป็นนายอยู่ที่ประตูหอมู่ตานจนกระทั่งรุ่งเช้า เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเจ้านายจึงรีบวิ่งเข้ามาทันที

“ขอรับใต้เท้า!”

“เอาเงินให้รื่อหงหนึ่งหมื่นตำลึงทอง เพื่อแลกกับตัวเหมยกุ้ยไปเป็นของบรรณาการถวายแด่องค์ฮ่องเต้”

สิ้นเสียงสั่งของผู้เป็นนาย พ่อบ้านลมแทบจับ นี่ถ้าฮูหยินรู้เข้าว่าใต้เท้าฉีใช้เงินซื้อผู้หญิงถึงหมื่นตำลึงทองมีหวังทั้งเขาและผู้เป็นนายต้องเดือดร้อนแน่ ๆ

“อะ เอ่อ คือ”

พ่อบ้านพยายามจะห้ามปราม ในขณะที่รื่อหงตาวาวหนึ่งหมื่นตำลึงทอง! เพียงแค่หล่อนตอบตกลงเงินมหาศาลจำนวนนี้จะตกเป็นของนางทันที

“ตกลง!”

รื่อหงรีบบอก ก่อนที่พ่อบ้านจะเอ่ยขัดลาภ เพราะเมื่อคิดดูดี ๆ ก็จริงอย่างที่เหมยกุ้ยว่าทุกคำ ดาวเด่นนางจะปั้นใครขึ้นมาแทนนางก็ได้ มิหนำซ้ำหากเหมยกุ้ยเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ขึ้นมาเมื่อใด เมื่อนั้นนางก็จะได้ไปเสพสุขอยู่ในวังหลวงเช่นกัน ไม่ว่าจะคิดอย่างไรรื่อหงก็มีแต่ได้กับได้ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธใต้เท้าฉี ดังนั้น รื่อหงจึงยิ้มน้อยๆ พร้อมกับเอ่ยว่า

“ใต้เท้าช่างฉลาดยิ่งนัก ข้าก็คิดเช่นท่าน หากเหมยกุ้ยได้เป็นที่เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ เมื่อนั้นเราทั้งคู่ก็จะได้เสพสุขร่วมกัน”

ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ทั้งคู่หัวเราะร่วมกัน ต่างวาดภาพฝันไว้อย่างสวยหรู

ไม่ว่าทั้งคู่จะฝันถึงสิ่งใดก็ตาม แต่สิ่งที่เหมยกุ้ยต้องการก็สำเร็จผล นั่นคือ การเป็นอิสระจากหอนางโลมแห่งนี้!!!

พ่อบ้านเดินนำหน้าพลทหารแบกเกี้ยวใต้เท้าฉีกลับไปยังที่พักอย่างกระวนกระวายใจ เขาบ่นพึมพำไปตลอดทางว่า

“ใต้เท้า นะใต้เท้า ลำพังแค่แอบหนีเที่ยวตอนกลางคืนก็แย่พอแล้ว นี่ยังจะพานางกลับมาด้วยอีก แล้วข้าจะทำอย่างไรดีละเนี่ย เรื่องนี้อย่าให้ถึงหูฮูหยินก็แล้วกัน มิฉะนั้นมีหวังบ้านแตกแน่ ๆ ไอ้ย๊ะ! !”

พ่อบ้านอุทานเสียงหลงเมื่อเงยหน้ามองขึ้นมาแล้วแลสบเข้ากับดวงตาคมดุของคุณชายอันเหว่ยเข้า

ชายหนุ่มรูปร่างสง่างามยืนปักหลักเด่นอยู่หน้าที่พัก มือสองข้างไพล่หลัง หน้าตาบึ้งตึงจ้องมาที่กระบวนเกี้ยวของใต้เท้าฉี

ทันทีที่เกี้ยวหยุดลง พ่อบ้านรีบวิ่งเข้าไปกระซิบข้างเกี้ยวเตือนผู้เป็นนาย เพื่อให้เตรียมรับมือกับบุตรชาย เพราะเขารู้ดีว่านอกจากฮูหยินแล้วใต้เท้าฉีก็เกรงใจบุตรชายเป็นที่สุด

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status