ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจ แม้แต่เขายังลุ่มหลงในตัวนาง มีหรือฮ่องเต้จะไม่ทรงโปรด
ขณะที่รื่อหงกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่กลางห้องโถงพร้อมกับบรรดาสาวสาวทั้งหลาย เหมยกุ้ยก็โอบประคองใต้เท้าฉีเดินลงมาถึงชั้นล่าง
“ใต้เท้าฉี แหม แหมเมื่อคืนคงจะจัดจนฟ้าเหลืองสิท่า กว่าจะลุกจากห้องได้ก็ปาเอาตะวันสายโด่งเลยนะท่าน”
รื่อหงส์จีบปากจีบคอแซวตามประสา เหมยกุ้ยยิ้มรับน้อย ๆ รับสมอ้างว่าปรนนิบัติใต้เท้าผู้นี้ทั้งคืนยันรุ่ง
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ใต้เท้าฉีหัวเราะต้องชอบใจ ก่อนเอ่ยว่า
“ขอบใจเจ้ามาก ที่เจ้าสามารถอบรมสั่งสอนให้เหมยกุ้ยเป็นสาวงามที่ชาญฉลาด เพียบพร้อมและปรนนิบัติข้าได้ถึงใจจริงๆ”
“แหมะ ใต้เท้า ท่านก็ชมเกินไป”
รื่อหงยิ้มหน้าระรื่น
ใต้เท้าฉีจึงเอ่ยต่อไปว่า
“ข้าจึงอยากจะขอตัวนาง เพื่อนำไปถวายแด่ฮ่องเต้ เจ้าขัดข้องหรือไม่”
รื่อหงหันขวับ ตาลุกวาว แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน
“เมื่อกี้ท่านล้อข้าเล่นแน่ แน่”
รื่อหงส่ายหน้าแสร้งหัวเราะแกน ๆ
“ข้าไม่ได้ล้อเล่น”
ใต้เท้าฉีเอ่ยขณะนั่งลงบนเก้าอี้ลงข้างรื่อหง เขาต้องคุยกับนางอย่างจริงจัง
แม่เล้าผู้มากประสบการณ์มองดูขุนนางผู้นี้ก็เข้าใจในท่าทีจึงพยักหน้าให้บรรดาเด็กเด็กกลับขึ้นห้อง เหลือเพียงนาง ใต้เท้าฉี และเหมยกุ้ยเท่านั้น
“ใต้เท้าฉี เหมยกุ้ยเป็นดาวประจำหอมู่ตาน ข้าขอพูดตรง ๆ นะ นางทำรายได้ให้แก่หอมู่ตานมหาศาล หากข้ามอบนางให้แก่ท่าน ก็เท่ากับว่ารายได้ที่มากมายนั้นก็จะสูญสิ้นไปด้วยน่ะสิ”
“ฮ่า ๆ เจ้าลองคิดดูดี ๆ นะรื่อหง นางอยู่ที่นี่สร้างรายได้ให้เจ้ามหาศาลก็จริง แต่เมื่อนางถวายตัวแล้วได้เป็นที่ชื่นชอบของฮ่องเต้ และข้าก็คิดว่านางต้องทำได้แน่ ๆ เจ้าคิดดูสิว่าเมื่อถึงวันนั้น ไม่เพียงแต่เจ้าจะได้เงินทองมหาศาล มีกินมีใช้ไปจนตายก็ไม่หมด แต่เจ้าจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าอยากได้ รวมถึงเจ้าอาจจะขอเข้าไปอยู่ในวังด้วยก็ยังได้ เจ้าก็ไม่ต้องมานั่งหลังคดหลังแข็งดูแลหอแห่งนี้ให้คนอื่นเขาดูแคลนอีกต่อไป”
คิ้วเรียวงามของรื่อหงขมวดเข้าหากันคิดตามคำพูดของใต้เท้าฉี นางพยายามบวกลบคูณหารว่าทางใดจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบเปรียบกันมากกว่า
ในขณะที่รื่อหงกำลังลังเลใจอยู่นั้นเหมยกุ้ยจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ท่านแม่ ข้ารับใช้ท่านมาตั้งแต่อายุ 16 จนบัดนี้ อายุล่วงเลยเข้าสู่วัย 20 กว่า ต่อให้ข้ายังอยู่ที่นี่ก็คงจะรับใช้ท่านอีกได้แค่สี่ห้าปีเท่านั้น เพราะร่างกายของข้าก็จะร่วงโรยตามกาลเวลา เงินทองหาก็คงจะได้ไม่มากเหมือนเคย แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากข้าได้ถวายตัวรับใช้ฮ่องเต้จนเป็นที่โปรดปรานเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะสามารถได้เงินทองและอำนาจ มาครอบครองไว้ได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนี้จะไม่ดีกว่าหรือ”
รื่อหงพยักหน้าน้อย ๆ แม้ว่าเห็นด้วยแต่นางก็ยังคงแสนเสียดายสาวงามผู้ทำรายได้ให้กับนางเป็นเงินมหาศาล
“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านกำลังลังเลใจ แต่ท่านไม่ต้องห่วงนะ ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ท่านแม่สามารถปั้นไป๋หลานและหวงหลานให้เป็นยอดสาวงามประจำหอมู่ตานแทนข้าได้ เพราะทั้งคู่ล้วนเป็นเด็กสาววัยแรกแย้ม นางคงจะสามารถทำเงินให้กับหอมู่ตานได้อีกนาน”
เหมยกุ้ยพยายามวานล้อมรื่อหง เพราะนางต้องการออกไปจากที่นี่อย่างสงบ อยากหลุดพ้นจากการเป็นทาสกามารมณ์ ที่ต้องใช้เรือนร่างแลกกับเศษเงิน!
“เจ้าคิดเช่นนั้นรึ”
รื่อหงถามย้ำ
เหมยกุ้ยพยักหน้ายืนยันก่อนเอ่ยว่า
“เมื่อคืน ข้าลองสอนไป๋หลานบ้างแล้วบางบทเรียน นางเป็นคนเรียนรู้เร็ว ขอแค่ท่านช่วยสั่งสอนนางต่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่นานหอมู่ตาน ก็จะมีสาวงามอันดับหนึ่งมาแทนข้าได้อย่างแน่นอน”
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน หากเจ้าเกรงว่า จะสูญเสียรายได้ งั้นข้าจะให้เงินเจ้าจำนวนหนึ่ง ถือซะว่าเป็นค่าตัวของนางก็แล้วกันพ่อบ้าน! พ่อบ้าน!”
ประโยคสุดท้ายใต้เท้าฉีร้องเรียกพ่อบ้านประจำตระกูลอัน ไม่นานนักเสียงฝีเท้าวิ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายชราในชุดสีน้ำเงินเข้มเรียบร้อย ชายผู้นี้ยืนรอผู้เป็นนายอยู่ที่ประตูหอมู่ตานจนกระทั่งรุ่งเช้า เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเจ้านายจึงรีบวิ่งเข้ามาทันที
“ขอรับใต้เท้า!”
“เอาเงินให้รื่อหงหนึ่งหมื่นตำลึงทอง เพื่อแลกกับตัวเหมยกุ้ยไปเป็นของบรรณาการถวายแด่องค์ฮ่องเต้”
สิ้นเสียงสั่งของผู้เป็นนาย พ่อบ้านลมแทบจับ นี่ถ้าฮูหยินรู้เข้าว่าใต้เท้าฉีใช้เงินซื้อผู้หญิงถึงหมื่นตำลึงทองมีหวังทั้งเขาและผู้เป็นนายต้องเดือดร้อนแน่ ๆ
“อะ เอ่อ คือ”
พ่อบ้านพยายามจะห้ามปราม ในขณะที่รื่อหงตาวาวหนึ่งหมื่นตำลึงทอง! เพียงแค่หล่อนตอบตกลงเงินมหาศาลจำนวนนี้จะตกเป็นของนางทันที
“ตกลง!”
รื่อหงรีบบอก ก่อนที่พ่อบ้านจะเอ่ยขัดลาภ เพราะเมื่อคิดดูดี ๆ ก็จริงอย่างที่เหมยกุ้ยว่าทุกคำ ดาวเด่นนางจะปั้นใครขึ้นมาแทนนางก็ได้ มิหนำซ้ำหากเหมยกุ้ยเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ขึ้นมาเมื่อใด เมื่อนั้นนางก็จะได้ไปเสพสุขอยู่ในวังหลวงเช่นกัน ไม่ว่าจะคิดอย่างไรรื่อหงก็มีแต่ได้กับได้ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธใต้เท้าฉี ดังนั้น รื่อหงจึงยิ้มน้อยๆ พร้อมกับเอ่ยว่า
“ใต้เท้าช่างฉลาดยิ่งนัก ข้าก็คิดเช่นท่าน หากเหมยกุ้ยได้เป็นที่เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ เมื่อนั้นเราทั้งคู่ก็จะได้เสพสุขร่วมกัน”
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ทั้งคู่หัวเราะร่วมกัน ต่างวาดภาพฝันไว้อย่างสวยหรู
ไม่ว่าทั้งคู่จะฝันถึงสิ่งใดก็ตาม แต่สิ่งที่เหมยกุ้ยต้องการก็สำเร็จผล นั่นคือ การเป็นอิสระจากหอนางโลมแห่งนี้!!!
พ่อบ้านเดินนำหน้าพลทหารแบกเกี้ยวใต้เท้าฉีกลับไปยังที่พักอย่างกระวนกระวายใจ เขาบ่นพึมพำไปตลอดทางว่า
“ใต้เท้า นะใต้เท้า ลำพังแค่แอบหนีเที่ยวตอนกลางคืนก็แย่พอแล้ว นี่ยังจะพานางกลับมาด้วยอีก แล้วข้าจะทำอย่างไรดีละเนี่ย เรื่องนี้อย่าให้ถึงหูฮูหยินก็แล้วกัน มิฉะนั้นมีหวังบ้านแตกแน่ ๆ ไอ้ย๊ะ! !”
พ่อบ้านอุทานเสียงหลงเมื่อเงยหน้ามองขึ้นมาแล้วแลสบเข้ากับดวงตาคมดุของคุณชายอันเหว่ยเข้า
ชายหนุ่มรูปร่างสง่างามยืนปักหลักเด่นอยู่หน้าที่พัก มือสองข้างไพล่หลัง หน้าตาบึ้งตึงจ้องมาที่กระบวนเกี้ยวของใต้เท้าฉี
ทันทีที่เกี้ยวหยุดลง พ่อบ้านรีบวิ่งเข้าไปกระซิบข้างเกี้ยวเตือนผู้เป็นนาย เพื่อให้เตรียมรับมือกับบุตรชาย เพราะเขารู้ดีว่านอกจากฮูหยินแล้วใต้เท้าฉีก็เกรงใจบุตรชายเป็นที่สุด
“ใต้เท้า ใต้เท้าขอรับ คุณชายเหว่ยมายืนรอรับถึงหน้าที่พักแล้วขอรับ ข้าเกรงว่าท่านอาจต้องเตรียมคำอธิบายที่พาสาวงามจากหอคณิกาด้วย”ใต้เท้าฉีได้ยินเสียงกระซิบบอกของพ่อบ้านทุกถ้อยคำใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยเดินโออ่าแผ่ศักดาที่หอมู่ตานเมื่อวาน มาวันนี้ถึงกับเป็นอันเหี่ยวเฉาลงทันทีใต้เท้าฉีมีสีหน้าหวั่นวิตกลงอย่างเห็นได้ชัดเหมยกุ้ยได้ยินทุกคำพูดที่พ่อบ้านเอ่ยเช่นกัน บวกกับหน้าซีดเซียวของใต้เท้าฉีจึงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ว่า“ใต้เท้ามีเรื่องกังวลใจอันใดหรือ”“ข้าเกรงว่าลูกชายของข้าจะไม่เห็นด้วยที่ข้าพาเจ้าไปถวายตัวต่อองค์ฮ่องเต้ อันเหว่ยเป็นคนเถรตรงมาก และไม่นิยมชมชอบนางคณิกาเท่าไหร่นัก”“ท่านกลัวว่า บุตรชายของท่านจะรังเกียจข้าหรือ?”เหมยกุ้ยแสร้งทำสีหน้าเศร้าสร้อยใต้เท้าฉีจึงถือโอกาสโอบกอดสาวงามเพื่อปลอบประโลม“โอ้ ๆ เจ้าไม่ต้องเสียใจไป ข้าว่าไม่มีผู้ชายคนใดในโลกนี้ที่จะรังเกียจสาวงามเช่นเจ้าได้ลงคอ ข้าจะหาทางอธิบายเหตุผลกับลูกชายของข้าเอง”สิ้นคำใต้เท้าฉีจึงก้าวลงมาจากเกี้ยวใต้เท้าฉีรีบเดินเข้าไปหาบุตรชายก่อนที่เขาจะเป็นผู้เดินมาหา หากถึงเกี้ยวจะยิ่งวุ้นกันไปใหญ่“ท่านหายไปไหนมาทั้งคืน แล
ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจรับคำว่า“ได้ ได้ ไปสิเรากำลังจะออกเดินทาง”“ขอบคุณใต้เท้ามาก ท่านใจดีที่สุด!”เมื่อได้รับอนุญาตให้เดินทางไปด้วยได้ หลันฮวาก็ผุดเข้าไปนั่งในเกี้ยวก่อนใคร ๆ ตามด้วยใต้เท้าฉีเหมยกุ้ยเดินตามมาอย่างเงียบเงียบ เมื่อมองเข้าไปในเกี้ยวก็พบว่าไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับนางแล้ว นางจึงกล่าวแก่ใต้เท้าฉีว่า” ข้าคิดว่าหากท่านจะพาข้าไปถวายตัวต่อฮ่องเต้ในฐานะบุตรบุญธรรม แล้วให้นั่งในเกี้ยวคู่ไปพร้อมกับท่าน เกรงว่าจะไม่เหมาะ ฉะนั้นข้าขอเดินตามขบวนกับพ่อบ้านเห็นจะเหมาะกว่า”ใต้เท้าฉีส่งสายตาสุดแสนเสียดายมาที่เหมยกุ้ยเพราะเขาตั้งใจว่าจะนั่งเกี้ยวไปกับสองดรุณีสุดสวยทั้งคู่คงจะได้ขึ้นสวรรค์ไปถึงชั้นไหน ชั้นไหน แต่เมื่อนางออกความคิดเห็นเช่นนี้ก็ถูกต้อง อีกอย่างเมื่อคืนเขาเองก็อยู่กับเหมยกุ้ยทั้งคืนแล้ว งั้นเช้านี้เปลี่ยนรสชาติเป็นดรุณีป่า ก็คงจะดีไม่น้อย เมื่อคิดได้ดังนั้นใต้เท้าฉีจึงพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างอยู่ในสายตาคมดุของบุรุษผู้หนึ่งเสมอ ระหว่างที่เดินออกจากเมืองซานฉีเหมยกุ้ยเองก็ลอบมองบุรุษสง่างามผู้ที่อยู่บนหลังม้าเช่นกัน นางสังเกตเห็นว่า เขาเองก็แอบลอบ
“แฮ่ก แฮ่ก คะ คุณชาย”เหมยกุ้ยดันตัวลุกขึ้น ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยจนหัวนมชมพูชูชันโผล่ออกมาอวดตระหง่านชูไสวตรงหน้าคุณชายเหว่ยพอดีมือแกร่งจึงกดร่างอรชรที่พยายามลุกขึ้น ให้อกสร่างแนบเข้ากับหน้าหล่อเหลา แล้วลิ้นร้อนของเขาก็ตวัดหัวนมเข้าปากอย่างตะกละตะกลาม“อ้ายยยย คะ คุณชาย ซี้ดดดดด”เหมยกุ้ยกัดปากซี้ด นานแล้วที่หัวนมไม่เจอลิ้นหนุ่มกลัดมัน ลิ้นเขาทั้งร้อน ทั้งดูด ทั้งดึง ความเสียวซ่านมันวิ่งริ้ว ๆ เป็นระลอก ๆ ไม่ขาดสายจ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบซื้ดดด จ๊วบ!“อะ อย่า ข้าเป็นนางคณิกาที่น่ารังเกียจ มิใช่รึ อื้อ”เหมยกุ้ยตัดพ้อเสียงกระเส่า ปากร้ายย้ายจากหัวนมข้างขวาไปสู่ข้างซ้ายอย่างเท่าเทียม ในสมองเขาอื้ออึงไปหมด รู้แค่ว่านางน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัว“เจ้ารึน่ารังเกียจ? จ๊วบบบบบบ แผล็บ”“อือ อะ”เหมยกุ้ยแสร้งดันตัวขัดขืน ชายหนุ่มจึงพลิกร่างอรชรให้อยู่ใต้ร่างแกร่ง เมื่อร่างนั้นนอนหงายยิ่งทำให้นมสร้างคู่นั้นชูชันเย้ายวน มือแกร่งรวบมือบางกดลงกับพื้นหญ้าเพื่อเปิดทางให้ปากร้ายโฉบเข้าหัวนมอย่างหื่นกระหายจ๊วบบบบบบ แผล็บๆ ๆ ๆ ๆ “อ่าซ์ อะ ยะ หยุด นะ คนใจร้าย รังเกียจข้านักไม่ใช่หรือ อ้ายยย” เหม่ยกุ้ยเสีย
เมื่อตะวันลับขอบฟ้า...... ความมืดมิดโรยตัวเข้าห่มพื้นปฐพีเดือน.... ดาว.... ดารดาษกระจ่างฟ้า...ชายหนุ่มรูปงามพร้อมด้วยบริวารซ้ายขวา .... รูปร่างสูงสง่าในชุดสีฟ้าขาว... ผ้าฝ้ายทอผสมทองคาดเอวสอบ... ห้อยตราหยกประจำตระกูลที่เอว... เพื่อบ่งบอกว่า... เขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล “หวัง” ตระกูลมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งเมืองฉีซาน.... นามของเขา คือ “หวังเหล่ย”มือเรียวสวยตามแบบฉบับคุณชายโบกพัดไปมาอย่างสำราญใจ.... ขณะที่เดินทอดน่องไปตามถนนเริงรมย์ยามค่ำคืน...แม้อายุจะย่างเข้าสามสิบปีแล้ว แต่ยังไม่ได้ตกแต่งหญิงใดเป็นภรรยาเพราะเขายังสนุกกับการหาความสำราญให้กับตนเองถนนเริงรมย์.... ประดับประดาด้วยโคมไฟน้อยใหญ่ตระการตา...ถนนที่เป็นศูนย์รวมแหล่งความสำราญของเมืองฉีซาน.... หัวเมืองใหญ่ก่อนเข้าสู่เมืองหลวงบนถนนสายนี้..... มี “หอมู่ตาน” เป็นหอนางโลมอันดับหนึ่งแห่งหัวเมืองแคว้นเหนือ “หอมู่ตาน” เต็มไปด้วยบรรดาอิสตรีรูปงาม ล้วนแต่มีกิริยาอ่อนหวาน เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนให้บุรุษหลงใหลจนมีเสียงเล่าลือกันว่า.... หากชายใดมาแคว้นเหนือแล้วไม่เคยแวะเวียน”หอมู่ตาน” ยากนักที่จะตายตาหลับเมื่อ
“เหมยกุ้ย”ชายหนุ่มพึมพำคล้ายละเมอ นั่นสินะสองสาวสุดเร่าร้อนนี้เกือบจะทำให้เขาลืมจุดมุ่งหมายที่เขามาในวันนี้เสียแล้ว...ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น“แล้วเหมยกุ้ยไปไหน? ข้าอุตาส่าห์มาถึงที่นี่ ถ้าไม่ได้เหมยกุ้ย ข้าจะกลับหละ”รื่อหงตวัดตาสั่งให้ไป๋หลาน กับหวงหลาน ทั้งสองนางให้รั้งชายหนุ่มเอาไว้ สองสาวยิ้มฉอเลาะ... เอาอกสล้างเข้าเบียดแขนชายหนุ่มพลางออดอ้อน“แหมคุณชาย.... ใจเย็น ๆ สิคะ อย่างไรเสียท่านพี่เหมยกุ้ยก็จะได้ปรนนิบัติคุณชายแน่นอนค่ะ”“นั่นสิคะ... นั่งลงดื่มสุราดับความร้อนรุ่มก่อนนะคะ”มือนุ่มของสองสาวสวยดึงให้เขานั่งลง....“อะ.... เอ่อ... เหมยกุ้ยกำลังเตรียมตัวพบคุณชาย.. อยากได้สาวงามอันดับหนึ่งคุณชายต้องใจเย็น ๆ นะคะ”รื่อหง.. แบ่งรับแบ่งสู้ หากว่าหล่อนไม่ใช้ให้เหมยกุ้ยต้อนรับคหบดีผู้ใหญ่จากทางใต้ หล่อนก็คงจะไม่วุ่นวายใจขนาดนี้ คนหนึ่งก็หนุ่มรูปงามมหาเศรษฐี อีกคนก็ขุนนางผู้ใหญ่ ล้วนแต่ต้องการเหมยกุ้ยทั้งสิ้น!!“ระหว่างที่รอนางแต่งตัว คุณชายก็สำราญกับไป๋หลานและหวงหลาน ไปพลางๆ ก่อนแล้วกันนะคะ วันนี้จัดให้คุณชายเป็นพิเศษคร่า”รื่อหงยิ้มเอาใจ... ชายหนุ่มมองสองสาวที่ทั้งขาวทั้งอว
เหมยกุ้ย! เหมยกุ้ย! เหมยกุ้ย!“อุ๊ย... คุณชายเหล่ยเบาเสียงลงหน่อยค่ะ เดี๋ยวแขกแตกตื่น”“คุณชายเหล่ย รอไป๋หลานด้วยค่ะ”ชายหนุ่มรูปงามวิ่งพรวดพราดขึ้นมาชั้นบนของหอมู่ตานอย่างคุ้นเคย... ตามด้วยสองนางคณิกาที่วิ่งตามมาพร้อมกับส่งเสียงห้ามเขาเป็นระยะ ๆ เขาจ่ายให้หอมู่ตานแต่ละคืนไม่ต่ำกว่าพันตำลึงทอง... ใครเลยจะกล้าขัด!คุณชายวิ่งโซซัดโซเซมาจนถึงห้องกุหลาบแดง ถ้าเขาไม่มัวแต่ร่ำสุรากับสองสาวงามข้างล่าง... ก็คงจะได้ขึ้นมาเชยชมนางฟ้าบนชั้นสองนานแล้ว...ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ“เหมยกุ้ย!” “เหมยกุ้ย!” “เหมยกุ้ย!” คุณชายรัวมือเคาะประตูไม่ยั้งห้องนี้ถือเป็นห้องต้องห้ามหากเป็นชายทั่วไปคงจะถูกจับโยนออกนอกหอไปเสียนานแล้ว.... แต่เพราะเขาเป็นแขกพิเศษที่เงินถึง สองนางคณิกาที่วิ่งตามเขามาได้มองตากันเลิ่กลั่ก......แอ้ด......“เข้ามาสิคะ”มือเรียวขาวผ่องแง้มประตูออกเพียงนิดก่อนกวักมือเรียกชายหนุ่มแค่เห็นปลายนิ้วทั้งห้ากรีดกรายออกมาที่รอยแยกประตูเพียงนิด... เขาก็รู้แล้วว่ามือนั้นนุ่มนวลเพียงใด...คุณชายผลักประตูเข้าไปในเข้ากุหลาบแดงตามคำเชื้อเชิญอันแสนอ่อนหวานเ
เขาแยกขาเรียวของนางให้แบะออกมากยิ่งขึ้น.... แล้วก้มลงเลียสุราตามกลีบหอย....แหย่ปลายลิ้นสากเข้าไปตามกลีบหอยสีแดงระเรื่อ....ก่อนจะแทงลิ้นเข้าไปที่ร่องสวาทแล้วกดลิ้นสากเลียขึ้นไปจนถึงตุ่มหอย... จนมันแข็งเป็นไต....“อร๊างงงงงงง คุณชาย... เสียวมากค่ะ”เหมยกุ้ยยกสะโพกขึ้นรับลิ้นร้ายของชายหนุ่ม...ลิ้นและปากของเขาขบเม้มที่ตุ่มไตหอยอีกระลอกจนร่างงามสะดุ้งเฮือกอย่างซ่านกระสัน... ความเสียวซ่านมันพุ่งกระจายไปทั่วร่าง“อะ.... อ้ายยยยย คุณชายยยยย”เหมยกุ้ยครวญครางร้องกระเส่าไม่เป็นภาษา ปากร้ายของชายหนุ่มทำให้ลมหายใจของนางขาดเป็นห้วง ๆจนหอยสีแดงสดของนางคายน้ำหวานออกมาแทนที่สุราที่ชายหนุ่มลามเลียจนเกลี้ยง“อ๊า...... ละ ลิ้นคุณชายร้ายกาจมาก....”จ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ จ๊วบบบบบบบบ จ๊วบบบบบคุณชายเหล่ยปรนเปรอความรัญจวน... เสียวซ่านให้นางด้วยลิ้นอย่างหื่นกระหาย เลียโอ้โลม... อย่างรู้จุดซ่านกระสันของหญิงสาวอย่างเชี่ยวชาญเหมยกุ้ยสะอื้นครางกระเส่า เนื้อตัวกระตุกเกร็งแข็ง ยกสะโพกขึ้นส่ายรับกับจังหวะลิ้นสากแสนร้ายกาจของชายหนุ่มจ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ “อะ.... อึก.... อร๊างงงงงง
เหมยกุ้ยตวัดขาเกี่ยวเอวสอบแกร่งของคุณชายแน่น... ขณะที่เขากระแทกลำมังกรเข้าออกเอวสอบ... สะโพกแกร่งของชายหนุ่มทั้งโยก ทั้งบด... เข้าไปในรูแน่น ๆ โพร่งอุ่นๆ แสนฉ่ำเยิ้มกลีบหอยแดงระเรื่อบวมเป่งเขมือบกลืนกินท่อนมังกร.....“อะ.... อ่า... อ่า”“อ้าววววว......”เหมยกุ้งแอ่นอกสล้าง.... หยัดสะโพกรับแรงกระเด้งเด้า... นมอวบๆ กระเด้งกระดอนตามแรงขย่มของพลังบุรุษวัยหนุ่มที่เต็มไปด้วยเพลิงสวาท.... “ระ.... แรงอีก... เร็วเข้า... อะ อ่า...”นางครางเว้าวอน... เมื่อจวนจะถึงสวรรค์ชั้นฟ้า ชายหนุ่มจึงโหมกระหน่ำกระแทกสะโพกลงไม่ยั้งตับๆ ตับ ๆ ตับ ๆ “อะ.... อ่า... อ่า”แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่กตับๆ ตับ ๆ ตับ ๆ “อะ.... อ่า... อ่า” คุณชายกระทุ้งรูหอยนางหนักหน่วง... ร่างอรชรบิดส่ายเกร็กกระตุก.... รูหอยบีบลำมังกรตอดตุบตุบ.. ทำให้เขาเสียวซ่านปลาบแปลบไปทั้งร่าง จนต้องครางชื่อนางออกมา“อ้ายยยยย เหมยกุ้ย”สะโพกแกร่งของชายหนุ่มยิ่งทวีแรงกระแทกลำมังกรเข้าออกตามเพลิงสวาทที่โหมกระหน่ำรูหอยของนางยิ่งรัดตอดตึบ ๆ ตึบ ๆ ยิ่งคายน้ำหวานออกมาจนแฉะไปทั่ว“อร๊างงงงง