ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจรับคำว่า
“ได้ ได้ ไปสิเรากำลังจะออกเดินทาง”
“ขอบคุณใต้เท้ามาก ท่านใจดีที่สุด!”
เมื่อได้รับอนุญาตให้เดินทางไปด้วยได้ หลันฮวาก็ผุดเข้าไปนั่งในเกี้ยวก่อนใคร ๆ ตามด้วยใต้เท้าฉี
เหมยกุ้ยเดินตามมาอย่างเงียบเงียบ เมื่อมองเข้าไปในเกี้ยวก็พบว่าไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับนางแล้ว นางจึงกล่าวแก่ใต้เท้าฉีว่า
” ข้าคิดว่าหากท่านจะพาข้าไปถวายตัวต่อฮ่องเต้ในฐานะบุตรบุญธรรม แล้วให้นั่งในเกี้ยวคู่ไปพร้อมกับท่าน เกรงว่าจะไม่เหมาะ ฉะนั้นข้าขอเดินตามขบวนกับพ่อบ้านเห็นจะเหมาะกว่า”
ใต้เท้าฉีส่งสายตาสุดแสนเสียดายมาที่เหมยกุ้ยเพราะเขาตั้งใจว่าจะนั่งเกี้ยวไปกับสองดรุณีสุดสวยทั้งคู่คงจะได้ขึ้นสวรรค์ไปถึงชั้นไหน ชั้นไหน แต่เมื่อนางออกความคิดเห็นเช่นนี้ก็ถูกต้อง อีกอย่างเมื่อคืนเขาเองก็อยู่กับเหมยกุ้ยทั้งคืนแล้ว งั้นเช้านี้เปลี่ยนรสชาติเป็นดรุณีป่า ก็คงจะดีไม่น้อย เมื่อคิดได้ดังนั้นใต้เท้าฉีจึงพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างอยู่ในสายตาคมดุของบุรุษผู้หนึ่งเสมอ ระหว่างที่เดินออกจากเมืองซานฉีเหมยกุ้ยเองก็ลอบมองบุรุษสง่างามผู้ที่อยู่บนหลังม้าเช่นกัน นางสังเกตเห็นว่า เขาเองก็แอบลอบมองนางเป็นระยะ ๆ
เหมยกุ้ยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก ก่อนสะดุดเท้าตนเองล้มลง
“โอ๊ย!”
นางร้องเสียงหลงดังลั่นจนพลทหารที่แบกเกี้ยวต่างพากันหยุดเดิน ตกใจเมื่อเห็นสาวงามทรุดลงไปกับพื้น
“เจ้าเป็นอะไรรึ”
พ่อบ้านรีบวิ่งเข้ามาถามไถ่ เครื่องบรรณาการของฮ่องเต้ที่เขาต้องดูแลให้ถึงเมืองหลวง
“เมื่อกี้ ข้าสะดุดก้อนหิน สงสัยจะเท้าแพง”
สาวงามส่งสายตาวิงวอนขณะชำเลืองมองบุรุษหนุ่มที่กำลังควบม้าเข้ามาดูเหตุการณ์
ตาคมมองตวัดมองมาที่คนเจ็บ พ่อบ้านมีสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“แล้วเจ้าจะเดินไปถึงเมืองหลวงไหวไหม?”
“พวกท่านเดินล่วงหน้าไปก่อนเถิด เห็นทีข้าคงไม่มีวาสนาได้ไปที่วังหลวงแล้ว”
นางตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
บุรุษบนหลังม้าจึงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงกระด้างว่า
“ส่งมือเจ้ามา! มานั่งบนม้ากับข้า!”
เหมยกุ้ยหันไปยังต้นเสียง ดวงตากลมโตของนางปริ่มไปด้วยน้ำตา
“หากคุณชายลำบากใจ ก็ไม่ต้องทำดีก็ข้า ข้าเป็นเพียงแค่นางคณิกาที่ไร้ค่า มิบังอาจให้คุณชายยื่นมือให้ความช่วยเหลือ!”
คุณชายอันเหว่ยส่งสายตาดุดันมาที่เหมยกุ้ย แม้ภายนอกเขาจะดูเคร่งขรึมสักปานใด แต่ลึกลงไปภายในนั้น เขารู้สึกสั่นไหวกับน้ำเสียงตัดพ้อของนาง แม้แต่แววตาที่นางส่งมาก็แทบจะทำให้หัวใจชายที่เคยแข็งแกร่งดุจหินผาแทบจะมลายลงเสียเดียวนั้น!
ชั่วพริบตามือแกร่งของคุณชายอันเหว่ยก็กระชากร่างบางให้ขึ้นไปอยู่บนหลังม้ากับเขา
“เจ้า!”
คุณชายอันเหว่ยตะเบ็งเสียงขึ้น ด้วยความตกใจมากกว่าความโกรธที่เหมยกุ้ยพลิกตัวกลับกลายเป็นหน้าแนบหน้าในท่าประกบตัวกัน
อกนุ่มของเหม่ยกุ้ยปะทะอกแกร่งของคุณชายอันเหว่ย ขาเรียวของนางตวัดรัดเข้ากับเอวสอบของชายหนุ่ม ลำแขนนวลผ่องกวัดคล้องคอคุณชายเอาไว้ไม่ให้ร่วงลงไป ปากชมพูอิ่มแสร้งร้องเสียงหลงราวกับสาวน้อยไม่เคยต้องมือชาย
“อร้ายยยยยยย”
“โอ๊ะ! เอ๊ะ! อร้ายหย๋า!”
พ่อบ้านตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น จนไม่รู้จะร้องออกมาอย่างไร
“เจ้าไม่เคยขี่ม้าหรืออย่างไร? !”
คุณชายอันเหว่ยเคล้นเสียงดุ กลบเกลื่อนอาการร้อนวูบวาบเมื่อเนื้อหนุ่มสัมผัสกับเนื้อสาว ลมหายใจเขากระชั้นถี่เพราะหัวใจของเขามันเต้นระทึกราวกับกลองตี แม้เขาจะเคยผ่านผู้หญิงมาบ้าง แต่ไม่มีนางใดจะงดงามและใจกล้าเท่ากับผู้หญิงในอ้อมกอดของเขา ณ เวลานี้
“ท่านเป็นคนดึงข้าขึ้นมา!”
เหมยกุ้ยแสร้งโกรธ คุณชายเหว่ยตาลุกวาว เหมยกุ้ยยิ้มที่มุมปากใช้เท้ากระทุ้งเข้าที่ตะโพกม้าขณะที่มือแกร่งของคุณชายพยายามจับร่างอรชรให้พลิกกลับ
ว้ายยยยยยย!
ฮี่ ๆ ฮี่ ๆ กรับๆ
ฮี่ ๆ ฮี่ ๆ กรับๆ
เมื่อม้าถูกกระทุ้งเข้าที่ตะโพกเต็มแรง มันจึงวิ่งตะบึงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หายลับเข้าไปในป่า
พ่อบ้านยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างตะลึงงัน
“เกิดอะไรขึ้นรึ?”
ใต้เท้าฉีเปิดม่านขึ้นดูแล้วเอ่ยถามพ่อบ้าน
“อะเอ่อ เหมยกุ้ยเท้าแพง คุณชายจึงให้นางขึ้นนั่งม้าไปด้วย แล้วควบออกนำขบวนไปก่อน”
พ่อบ้านตอบตะกุกตะกัก พยายามเรียบเรียงเหตุการณ์
“ฮ่า ๆ คนหนุ่มก็แบบนี้แหละ ไปเถอะ”
ใต้เท้าฉีผลุบกลับเข้าไปหลังม่านอย่างไม่ใส่ใจ เพราะภายในเกี้ยวกำลังเล่นเกมสู่สวรรค์ชั้นฟ้า
ฮี่ ๆ ฮี่ ๆ กรับๆ
“อื้อ อะ อ้ายยยยยย”
เหมยกุ้ยแสร้งครางประท้วง เมื่อชายหนุ่มโถมตัวลงกระแทกร่างของนางตามแรงควบของม้า
ยิ่งม้าควบโผทะยานไปข้างหน้ามากเท่าไหร่ยิ่งส่งให้สะโพกชายหนุ่มกระแทกเข้ากับหว่างขาเรียวของเหมยกุ้ยที่อ้ารัดเอวสอบเข้าไว้แน่น
ฮี่ ๆ ฮี่ ๆ กรับๆ
“อะ อ่าซ์”
แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ
คุณชายเหว่ยพยายามบังคับม้าให้ชะลอฝีเท้า แต่ดูเหมือนว่าร่างกายเขามันจะไม่สั่งงาน เพราะตอนนี้แก่นมังกรของเขามันเสียดสีกับหว่างขาของนาง ยิ่งม้าตะบึงไปข้างหน้าสะโพกเขาก็ยิ่งกระแทกดุ้นมังกรให้เข้าแนบชิดหว่างขาเรียวงาม ที่เริ่มชุ่มฉ่ำด้วยน้ำหอยที่คายออกมา
ชายหนุ่มต้องขบกรามแน่นเมื่อน้ำหอยมันซึมผ่านกางเกงออกมาจนชุ่มไปทั้งหว่างขาจนเขาอยากจะพุ่งมังกรเข้าทะลุเป้ากางเกงของนางเสียเดียวนั้น
ฮี่ ๆ ฮี่ ๆ กรับๆ
“อือ อะ อ่าซ์ แฮ่ก”
เหมยกุ้ยปรือตามองคุณชายเหว่ย ที่พยายามบังคับม้าให้หยุด ใบหน้าหล่อเหลาโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขากัดกรามจนขึ้นเป็นสันยิ่งขับให้ใบหน้านั้นชวนหลงใหลมากยิ่งขึ้น
ขาเรียวของนางรัดเอวสอบให้มากยิ่งขึ้น ให้หอยที่ชุ่มจนฉ่ำของนางได้สัมผัสกับลำมังกรอันร้อนระอุยิ่งขึ้นไป
ใบหน้าสวยสีแดงระเรื่อเพราะความเสียวซ่านแปลบปลาบวิ่งพล่านไปทั้งสรรพางค์
“อ่าซ์”
ฮี่ ๆ ฮี่ ๆ กรับๆ
ตับ!
“อื้อ โอ้วววว”
คุณชายอันเหว่ยร้องครางเสียงหลงเมื่อเขาสกัดกั้นความรู้สึกต้องการในตัวเหมยกุ้ยเอาไว้ไม่ไหว
เขาโถมตัวเข้าทาบทับเหมยกุ้ยบนหลังม้าเต็มแรง มือแกร่งปล่อยจะเชือกแล้วโอบอุ้มร่างอรชรเอาไว้ ก่อนที่จะดีดตัวออกจากหลังม้า
ตุบ!
ร่างของคนทั้งสองหล่นลงบนพรมหญ้าอ่อนนุ่ม กายแกร่งของคุณชายเหว่ยรองรับร่างอรชรของเหมยกุ้ยเอาไว้
“อ้ากกกกก”
“ว้ายยยยยยย”
อึบ!
ตับ!
แรงตกกระแทกทำให้สะโพกของเหมยกุ้ยดันเข้าเอวสอบเต็มแรง จนดันปลุกมังกรให้ผงาดขึ้น คุณชายอันเหว่ยร้องเสียงหลงเจ็บร้าวที่หว่างขาจนแทบจะระเบิด
“แฮ่ก แฮ่ก คะ คุณชาย”เหมยกุ้ยดันตัวลุกขึ้น ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยจนหัวนมชมพูชูชันโผล่ออกมาอวดตระหง่านชูไสวตรงหน้าคุณชายเหว่ยพอดีมือแกร่งจึงกดร่างอรชรที่พยายามลุกขึ้น ให้อกสร่างแนบเข้ากับหน้าหล่อเหลา แล้วลิ้นร้อนของเขาก็ตวัดหัวนมเข้าปากอย่างตะกละตะกลาม“อ้ายยยย คะ คุณชาย ซี้ดดดดด”เหมยกุ้ยกัดปากซี้ด นานแล้วที่หัวนมไม่เจอลิ้นหนุ่มกลัดมัน ลิ้นเขาทั้งร้อน ทั้งดูด ทั้งดึง ความเสียวซ่านมันวิ่งริ้ว ๆ เป็นระลอก ๆ ไม่ขาดสายจ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบซื้ดดด จ๊วบ!“อะ อย่า ข้าเป็นนางคณิกาที่น่ารังเกียจ มิใช่รึ อื้อ”เหมยกุ้ยตัดพ้อเสียงกระเส่า ปากร้ายย้ายจากหัวนมข้างขวาไปสู่ข้างซ้ายอย่างเท่าเทียม ในสมองเขาอื้ออึงไปหมด รู้แค่ว่านางน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัว“เจ้ารึน่ารังเกียจ? จ๊วบบบบบบ แผล็บ”“อือ อะ”เหมยกุ้ยแสร้งดันตัวขัดขืน ชายหนุ่มจึงพลิกร่างอรชรให้อยู่ใต้ร่างแกร่ง เมื่อร่างนั้นนอนหงายยิ่งทำให้นมสร้างคู่นั้นชูชันเย้ายวน มือแกร่งรวบมือบางกดลงกับพื้นหญ้าเพื่อเปิดทางให้ปากร้ายโฉบเข้าหัวนมอย่างหื่นกระหายจ๊วบบบบบบ แผล็บๆ ๆ ๆ ๆ “อ่าซ์ อะ ยะ หยุด นะ คนใจร้าย รังเกียจข้านักไม่ใช่หรือ อ้ายยย” เหม่ยกุ้ยเสีย
เมื่อตะวันลับขอบฟ้า...... ความมืดมิดโรยตัวเข้าห่มพื้นปฐพีเดือน.... ดาว.... ดารดาษกระจ่างฟ้า...ชายหนุ่มรูปงามพร้อมด้วยบริวารซ้ายขวา .... รูปร่างสูงสง่าในชุดสีฟ้าขาว... ผ้าฝ้ายทอผสมทองคาดเอวสอบ... ห้อยตราหยกประจำตระกูลที่เอว... เพื่อบ่งบอกว่า... เขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล “หวัง” ตระกูลมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งเมืองฉีซาน.... นามของเขา คือ “หวังเหล่ย”มือเรียวสวยตามแบบฉบับคุณชายโบกพัดไปมาอย่างสำราญใจ.... ขณะที่เดินทอดน่องไปตามถนนเริงรมย์ยามค่ำคืน...แม้อายุจะย่างเข้าสามสิบปีแล้ว แต่ยังไม่ได้ตกแต่งหญิงใดเป็นภรรยาเพราะเขายังสนุกกับการหาความสำราญให้กับตนเองถนนเริงรมย์.... ประดับประดาด้วยโคมไฟน้อยใหญ่ตระการตา...ถนนที่เป็นศูนย์รวมแหล่งความสำราญของเมืองฉีซาน.... หัวเมืองใหญ่ก่อนเข้าสู่เมืองหลวงบนถนนสายนี้..... มี “หอมู่ตาน” เป็นหอนางโลมอันดับหนึ่งแห่งหัวเมืองแคว้นเหนือ “หอมู่ตาน” เต็มไปด้วยบรรดาอิสตรีรูปงาม ล้วนแต่มีกิริยาอ่อนหวาน เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนให้บุรุษหลงใหลจนมีเสียงเล่าลือกันว่า.... หากชายใดมาแคว้นเหนือแล้วไม่เคยแวะเวียน”หอมู่ตาน” ยากนักที่จะตายตาหลับเมื่อ
“เหมยกุ้ย”ชายหนุ่มพึมพำคล้ายละเมอ นั่นสินะสองสาวสุดเร่าร้อนนี้เกือบจะทำให้เขาลืมจุดมุ่งหมายที่เขามาในวันนี้เสียแล้ว...ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น“แล้วเหมยกุ้ยไปไหน? ข้าอุตาส่าห์มาถึงที่นี่ ถ้าไม่ได้เหมยกุ้ย ข้าจะกลับหละ”รื่อหงตวัดตาสั่งให้ไป๋หลาน กับหวงหลาน ทั้งสองนางให้รั้งชายหนุ่มเอาไว้ สองสาวยิ้มฉอเลาะ... เอาอกสล้างเข้าเบียดแขนชายหนุ่มพลางออดอ้อน“แหมคุณชาย.... ใจเย็น ๆ สิคะ อย่างไรเสียท่านพี่เหมยกุ้ยก็จะได้ปรนนิบัติคุณชายแน่นอนค่ะ”“นั่นสิคะ... นั่งลงดื่มสุราดับความร้อนรุ่มก่อนนะคะ”มือนุ่มของสองสาวสวยดึงให้เขานั่งลง....“อะ.... เอ่อ... เหมยกุ้ยกำลังเตรียมตัวพบคุณชาย.. อยากได้สาวงามอันดับหนึ่งคุณชายต้องใจเย็น ๆ นะคะ”รื่อหง.. แบ่งรับแบ่งสู้ หากว่าหล่อนไม่ใช้ให้เหมยกุ้ยต้อนรับคหบดีผู้ใหญ่จากทางใต้ หล่อนก็คงจะไม่วุ่นวายใจขนาดนี้ คนหนึ่งก็หนุ่มรูปงามมหาเศรษฐี อีกคนก็ขุนนางผู้ใหญ่ ล้วนแต่ต้องการเหมยกุ้ยทั้งสิ้น!!“ระหว่างที่รอนางแต่งตัว คุณชายก็สำราญกับไป๋หลานและหวงหลาน ไปพลางๆ ก่อนแล้วกันนะคะ วันนี้จัดให้คุณชายเป็นพิเศษคร่า”รื่อหงยิ้มเอาใจ... ชายหนุ่มมองสองสาวที่ทั้งขาวทั้งอว
เหมยกุ้ย! เหมยกุ้ย! เหมยกุ้ย!“อุ๊ย... คุณชายเหล่ยเบาเสียงลงหน่อยค่ะ เดี๋ยวแขกแตกตื่น”“คุณชายเหล่ย รอไป๋หลานด้วยค่ะ”ชายหนุ่มรูปงามวิ่งพรวดพราดขึ้นมาชั้นบนของหอมู่ตานอย่างคุ้นเคย... ตามด้วยสองนางคณิกาที่วิ่งตามมาพร้อมกับส่งเสียงห้ามเขาเป็นระยะ ๆ เขาจ่ายให้หอมู่ตานแต่ละคืนไม่ต่ำกว่าพันตำลึงทอง... ใครเลยจะกล้าขัด!คุณชายวิ่งโซซัดโซเซมาจนถึงห้องกุหลาบแดง ถ้าเขาไม่มัวแต่ร่ำสุรากับสองสาวงามข้างล่าง... ก็คงจะได้ขึ้นมาเชยชมนางฟ้าบนชั้นสองนานแล้ว...ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ“เหมยกุ้ย!” “เหมยกุ้ย!” “เหมยกุ้ย!” คุณชายรัวมือเคาะประตูไม่ยั้งห้องนี้ถือเป็นห้องต้องห้ามหากเป็นชายทั่วไปคงจะถูกจับโยนออกนอกหอไปเสียนานแล้ว.... แต่เพราะเขาเป็นแขกพิเศษที่เงินถึง สองนางคณิกาที่วิ่งตามเขามาได้มองตากันเลิ่กลั่ก......แอ้ด......“เข้ามาสิคะ”มือเรียวขาวผ่องแง้มประตูออกเพียงนิดก่อนกวักมือเรียกชายหนุ่มแค่เห็นปลายนิ้วทั้งห้ากรีดกรายออกมาที่รอยแยกประตูเพียงนิด... เขาก็รู้แล้วว่ามือนั้นนุ่มนวลเพียงใด...คุณชายผลักประตูเข้าไปในเข้ากุหลาบแดงตามคำเชื้อเชิญอันแสนอ่อนหวานเ
เขาแยกขาเรียวของนางให้แบะออกมากยิ่งขึ้น.... แล้วก้มลงเลียสุราตามกลีบหอย....แหย่ปลายลิ้นสากเข้าไปตามกลีบหอยสีแดงระเรื่อ....ก่อนจะแทงลิ้นเข้าไปที่ร่องสวาทแล้วกดลิ้นสากเลียขึ้นไปจนถึงตุ่มหอย... จนมันแข็งเป็นไต....“อร๊างงงงงงง คุณชาย... เสียวมากค่ะ”เหมยกุ้ยยกสะโพกขึ้นรับลิ้นร้ายของชายหนุ่ม...ลิ้นและปากของเขาขบเม้มที่ตุ่มไตหอยอีกระลอกจนร่างงามสะดุ้งเฮือกอย่างซ่านกระสัน... ความเสียวซ่านมันพุ่งกระจายไปทั่วร่าง“อะ.... อ้ายยยยย คุณชายยยยย”เหมยกุ้ยครวญครางร้องกระเส่าไม่เป็นภาษา ปากร้ายของชายหนุ่มทำให้ลมหายใจของนางขาดเป็นห้วง ๆจนหอยสีแดงสดของนางคายน้ำหวานออกมาแทนที่สุราที่ชายหนุ่มลามเลียจนเกลี้ยง“อ๊า...... ละ ลิ้นคุณชายร้ายกาจมาก....”จ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ จ๊วบบบบบบบบ จ๊วบบบบบคุณชายเหล่ยปรนเปรอความรัญจวน... เสียวซ่านให้นางด้วยลิ้นอย่างหื่นกระหาย เลียโอ้โลม... อย่างรู้จุดซ่านกระสันของหญิงสาวอย่างเชี่ยวชาญเหมยกุ้ยสะอื้นครางกระเส่า เนื้อตัวกระตุกเกร็งแข็ง ยกสะโพกขึ้นส่ายรับกับจังหวะลิ้นสากแสนร้ายกาจของชายหนุ่มจ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ “อะ.... อึก.... อร๊างงงงงง
เหมยกุ้ยตวัดขาเกี่ยวเอวสอบแกร่งของคุณชายแน่น... ขณะที่เขากระแทกลำมังกรเข้าออกเอวสอบ... สะโพกแกร่งของชายหนุ่มทั้งโยก ทั้งบด... เข้าไปในรูแน่น ๆ โพร่งอุ่นๆ แสนฉ่ำเยิ้มกลีบหอยแดงระเรื่อบวมเป่งเขมือบกลืนกินท่อนมังกร.....“อะ.... อ่า... อ่า”“อ้าววววว......”เหมยกุ้งแอ่นอกสล้าง.... หยัดสะโพกรับแรงกระเด้งเด้า... นมอวบๆ กระเด้งกระดอนตามแรงขย่มของพลังบุรุษวัยหนุ่มที่เต็มไปด้วยเพลิงสวาท.... “ระ.... แรงอีก... เร็วเข้า... อะ อ่า...”นางครางเว้าวอน... เมื่อจวนจะถึงสวรรค์ชั้นฟ้า ชายหนุ่มจึงโหมกระหน่ำกระแทกสะโพกลงไม่ยั้งตับๆ ตับ ๆ ตับ ๆ “อะ.... อ่า... อ่า”แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่กตับๆ ตับ ๆ ตับ ๆ “อะ.... อ่า... อ่า” คุณชายกระทุ้งรูหอยนางหนักหน่วง... ร่างอรชรบิดส่ายเกร็กกระตุก.... รูหอยบีบลำมังกรตอดตุบตุบ.. ทำให้เขาเสียวซ่านปลาบแปลบไปทั้งร่าง จนต้องครางชื่อนางออกมา“อ้ายยยยย เหมยกุ้ย”สะโพกแกร่งของชายหนุ่มยิ่งทวีแรงกระแทกลำมังกรเข้าออกตามเพลิงสวาทที่โหมกระหน่ำรูหอยของนางยิ่งรัดตอดตึบ ๆ ตึบ ๆ ยิ่งคายน้ำหวานออกมาจนแฉะไปทั่ว“อร๊างงงงง
มือแกร่งของเขาลูบไล้ขึ้นมาจากหน้าท้องจนถึงนมสองเต้าสล้างที่ห้อยโย้ลงมา.... มือสองข้างของเขากอบอุ้มมันเต็มมือ.... กดมือบีบลงเบา ๆ พร้อมกับใช้นิ้วคลึงหัวนมเล่น... จนมันแข็งเป็นไตความเสียวซ่านทำให้นางถึงกับแหงนหน้าปรือตาครางออกมา....“ซี้ดดดดดดด... อ่า...... คุณชาย... มือซุกซนจริง ๆ”จมูกคมของชายหนุ่มปักลงที่ซอกคอระหงซุกไซร้สูดกลิ่นกายสาวอย่างหิวกระหาย..... ทั้งมือก็บีบเต้า.... ทั้งกลิ่นที่สูดเข้าปอด.... มันกระตุ้นให้มังกรในรูหอยพองโตจนคับถ้ำ“อะ... อ่า....”ชายหนุ่มถึงกับครางกระเส่าเพราะความกระสันเสียว... เมื่อสะโพกงามของหญิงงามบิดส่าย... แล้วกดลงที่หน้าขาเขาหนักหน่วง... อย่างเร่งเร้าให้มังกรเขาเริ่มจู่โจมส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!“อร๊างงงงงงงง.....งง”สะโพกแกร่งขยับอัดดุ้นมังกรเข้าสู่ร่องหอยตามใจปรารถนา สองมือยังเคล้าคลึงสองเต้า บดบี้ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!“อร๊างงงงงงงง.....งง”ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!คุณชายเหล่ยกระแทกสะโพกเข้าออกซอยไม่ยั้ง..... จนเหมยกุ้ยครวญครางเจียนขาดใจ....ความสุขสมซ่านกระสันมันโผทะยานไปทั่วร่างน้อย ๆ ของนาง“อะ... อะ... อึก
“อ่อ ข้าบอกว่า เจ้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก อืม เจ้าชื่ออะไร?”“ข้าชื่อ หลันฮวา”“อืม เจ้าช่างเป็นกล้วยไม้ป่าที่กำลังผลิดอกสวยงาม ใยไม่อยู่ประดับป่า”“ข้าอยากเห็นเมืองหลวงนี่คะ”“แล้วบิดา มารดาของเจ้าไม่ว่าเอารึ?”“พ่อกับแม่ข้าตายด้วยโรคไข้ป่า ตั้งแต่ข้ายังเด็ก ตาเลี้ยงข้ามาตั้งแต่เล็ก เมื่ออาทิตย์ก่อนตาออกไปล่าสัตว์ แล้วหายไป ข้ารอแล้วรอเล่า ตาก็ไม่กลับมา ข้าทั้งหิวทั้งกลัวจึงออกเดินมาเรื่อย ๆ กินผลไม้ป่าประทังชีวิต จนมาพบขบวนของใต้เท้า”เด็กสาวชาวป่า หมอบลงอีกครั้งร้องไห้ สาบคอเสื้อไหวตามแรงสะอึกสะอื้นเผยให้เห็นเต้าน้อยวับแวบ กระตุ้นมังกรของใต้เท้าฉีให้ลุกซู่จนแทบอยากจะดึงดรุณีน้อยที่โหยไห้มากอดไว้แนบอก“ฮือ ๆ ใต้เท้าโปรดเมตตาให้ข้าน้อยไปด้วยเถิด ข้าขอติดขบวนท่านไปจนกว่าจะถึงเมืองฉีซานเท่านั้น อะ ฮือ ๆ”“เจ้าช่างเป็นเด็กสาวกำพร้าที่น่าสงสาร น่าสงสาร ข้าเป็นถึงขุนนางผู้ใหญ่ หากปล่อยให้เจ้าเผชิญชะตากรรมในป่า ใครรู้เข้าก็จะติฉินนินทาเป็นแน่แท้ เฮ่อ”ใต้เท้าฉีเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจเสียงดังให้ได้ยินกันถ้วนหน้า“ข้าคิดว่า เจ้าเป็นเพียงดรุณีเล็ก ๆ ติดขบวนไปด้วยหนึ่งคนก็คงจะไม่ลำบากอะไร”“ขอบคุณใต