เหมยกุ้ยครางประท้วง ลองมือผวาจิกเข้าไปที่สะโพกแกร่งของชายหนุ่ม ในขณะที่ลิ้นเล็กพยายามดุนหัวบากมังกรของเขาให้ออกไปจากปาก ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้แก่ชายหนุ่มจนเขาต้องแหงนหน้าครางออกมา
“อร้ากกกกกกกก ซี้ดดดดดดดดดดดด โอ้ววววววว”
ส่วนล่างหวังเหล่ยก็ค่อย ๆ ขยับสะโพกแทงเข้าออก ให้กลีบหอยคายน้ำหวานออกมาไม่หยุด ชายหนุ่มเร่งจังหวะแทงเข้าออกจนกลีบหอยเบ่งปริ
ส๊วบบบบบบบบบบบบ
จึ๊ก!
“อ่าซ์”
ส๊วบ ส๊วบ จึ๊ก!
“อ่าซ์”
“โอ้วววววววววว”
เหม้ยกุ้ยเจ็บแปลบปนสุขสมเจียนขาดใจ ยิ่งหวังเหว่ยกระแทกดุ้นมังกรเข้าหอยนางมากเท่าไหร่ ปากนางก็ยิ่งรูดแก่นมังกรจางเหว่ยหนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น
“อ๊ากกกก โอ้ววววว ไม่ไหวแล้ววววววว จะถึงแล้ว จะถึงแล้ว”
จางเหว่ยครวญครางอย่างสุขสม ดวงดาวเริ่มพร่างพราย เขาหยัดสะโพกใส่ปากเล็กของเหมยกุ้ยให้มากขึ้นเพื่อให้แตะถึงสวรรค์ นางโม้กมังกรเขาอย่างร้อนแรง ทั้งรูด ทั้งดุน ดูดจนแก้มตอบเสียงดูดดัง
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
“โอ้ววววว ซี้ดดดดดด ยะ อย่างนั้น เร็วอีกๆ”
จางเหว่ยเกร็งตัวอย่างเสียวซ่าน มือสากของเขาตะปบลงเป็นสองเต้างาม เคล้นคลึงหัวนมชมพูจนเจ้าของมันบิดร่างแอ่นอกอย่างเสียวซ่าน ราวกับว่าทั้งร่างแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ
“ซี้ดดดดด อา หอยเจ้าปี้สนุกมาก โอ้ววววว อ่า ทั้งแน่น ทั้งอุ่น อ่าซ์”
หวังเหว่ยยังคงกระแทกสะโพกเด้าซอยหนักหน่วงไม่ยั้ง เขาจับสองขาเรียวของนางขึ้นพาดบ่ากำยำเพื่อให้ดุ้นมังกรกระแทกได้ถนัด เข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้น
ตับ! ส๊วบ! ตับ! ส๊วบ!
ตับ! ตับๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
สะโพกกำยำโหมกระหน่ำซอยถี่ ๆ เมื่อหอยของสาวน้อยรัดตอดมังกรเขาถี่ ๆ
“อร๊างงงงงงงงงงงงงงง”
“อืมมมมมม อะ”
เหมยกุ้ยครางออกมาไม่เป็นเสียงเพราะปากยังอมดุ้นมังกรผู้พี่ไว้
“อะ อ่า ซี้ดดดดดดดด ถึงแล้ว ถึงสวรรค์แล้วววววววว โอ้วววววว”
ดุ้นมังกรของจางเหว่ยกระตุกเกร็ง ก่อนที่จะพ่นน้ำทิพย์สีขาวขุ่นออกมาจนเต็มอุ้งปากเหมยกุ้ย
เมื่อหวังเหว่ยเห็นผู้พี่ไปถึงสวรรค์แล้ว เขาจึงเร่งกระหน่ำกระแทกหอยเยิ่ม ๆ ของนางจนสะโพกกลมกลึงของเหมยกุ้ยลอยเด้งขึ้นตามแรงกระแทก
“อะ อะ อร้ายยยย”
ตับ! ส๊วบ!
ตับ! ตับๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“อร้างงงงงงงงง”
“อร้ากกกกกกกกกก”
ร่างบางกระตุกเกร็งขึ้นสวรรค์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนในที่สุดชายหนุ่มก็ขึ้นสวรรค์ตามไปติดๆ
หมายเหตุ
*เมืองหาน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉีซาน หากต้องการจะเดินทางไปที่เมืองหานต้องเดินทางผ่านเมืองฉีซานเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เหมยกุ้ยก็น้ำตาซึมออกมา นางยังคงจรดจำวันนั้นได้ดี ชายกำยำทั้งสองบรรเลงเพลงกามถาโถมใส่นางไม่ยั้ง ร่างกายที่แสนบอบบางของสาวน้อยมีหรือจะทนแรงกระเด้าสุดแรงของชายฉกรรจ์สุดแสนป่าเถื่อไหว หลังจากเสร็จกิจกาม สาวน้อยวัยแรกแย้มที่เพิ่งถูกผู้ชายทะลวงพรหมจรรย์เป็นครั้งแรกก็สลบไปทั้ง ๆ ที่ดุ้นมังกรทั้ง 2 ลำยังคาอยู่ทั้งปากทั้งรูหอย
ส่วนชายหื่นทั้งสองคนที่สอนให้นางรู้จักหน้าที่ของนางคณิกาก็ทิ้งให้นางนอนสลบภายในห้อง เมื่อนางรู้สึกตัวขึ้นตอนรุ่งสางร่างกายของเหมยกุ้ยเจ็บระบบไปทั่วทั้งกายราวกับว่าจะปริแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ตั้งแต่วันนั้น นางก็สาบานกับตนเองว่า “นับจากนี้ไปชั่วกาล จะไม่ยอมเป็นที่ระบายความใคร่แก่ชายใด มีเพียงข้าเท่านั้นที่เป็นผู้คุมเกมกาม!”
ก๊อก ๆ
ก๊อก ๆ
“ท่านพี่ ท่านพี่ ข้าไป๋หลาน”
เสียงเรียกขานจากหน้าประตูดึงให้เหมยกุ้ยออกจากอดีตที่เจ็บซ้ำ นางลุกขึ้นยืนอย่างสง่างาม สาวน้อยไร้เดียงสาเมื่อ 6 ปีก่อน ไม่มีอีกแล้ว มีเพียง “เหมยกุ้ย ยอดคณิกาอันดับหนึ่งแห่งหอมู่ตาน!”
แอ๊ดดดดดดดดดดด
เหมยกุ้ยเปิดประตูรับผู้มาเยือน ไป๋หลานยกสำรับเดินตามเข้าไปในห้องรับแขก
“ท่านแม่สั่งให้ข้านำอาหาร และสุราชั้นดีขึ้นมาเตรียมให้ท่านรับแขกคืนนี้”
ไป๋หลานเจื้อนแจ้ว ขณะที่จัดวางจานอาหารลงบนโต๊ะ
“ลำบากเจ้าแล้ว”
ผู้เป็นเจ้าของห้องยิ้มให้อย่างเอื้ออาทร
“เป็นหน้าที่ของข้า ไม่ลำบากอันใด”
ไป๋หลานมองมาที่เหมยกุ้ยอย่างชื่นชมในความงามและความสามารถที่เป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งเมือง
“ข้าได้ยินมาว่า ที่บ้านเจ้าลำบากมาก นอกจากจะต้องเช่าทำกินแล้ว ยังต้องจ่ายภาษีแพง ๆ ให้กับขุนนางหน้าเลือด พ่อแม่เจ้าล้มเจ็บจนเจ้าต้องมาอยู่ที่หอมู่ตาน”
“ใช่แล้ว”
ไป๋หลานสบตาเหมยกุ้ยอย่างซาบซึ้ง ที่ยอดหญิงอันดับหนึ่งของหอมู่ตานเอาใจใส่นางคณิกาเล็ก ๆ อย่างนาง แล้วเอ่ยต่อว่า
“ข้าต้องการหาเงินรักษาพ่อแม่ และไถ่ถอนที่ดินจากพวกนายทุน”
“เจ้าช่างเป็นลูกที่กตัญญูยิ่งนัก แล้วพ่อ แม่เจ้าหายดีหรือยัง”
เหมยกุ้ยรั้งมือหญิงสาวให้นั่งลงข้าง ๆ
“ท่านพ่อหายแล้ว เหลือเพียงท่านแม่ที่สุภาพไม่ค่อยดีนัก”
ไป๋หลานตอบขณะที่นั่งลง นางรู้สึกดีที่มีใครสักคนชื่นชม เพราะนางคณิกาอย่างนางน้อยนักที่มีผู้ใดให้ความสำคัญ
“ขอให้ท่านแม่เจ้าหายไว ๆ และไถ่ถอนที่ทำกินได้ในเร็ววันนะ”
“ขอบคุณท่านพี่มาก ข้าพยายามเก็บเงินทุกตำลึงที่ใช้เรือนกายแลกมา”
“หากเจ้าได้เรียนรู้วิธีมัดใจชาย เจ้าก็จะเป็นที่เลื่องลือเหมือนเช่นข้า เมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องอดทนถึงหนึ่งปี เจ้าก็จะสามารถไถ่ถอนที่ดินมาคืนพ่อกับแม่เจ้าได้”
แววตาไป๋หลานลุกวาวเมื่อได้ยินสิ่งที่เหมยกุ้ยแนะนำ นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า
“ทะ ท่านจะสอนบทเรียนข้ารึ ท่านพี่!”
“หากเจ้ายินดี ให้ข้าเป็นผู้แนะนำ”
“ข้ายินดี ข้ายินดี”
สาวน้อยตอบอย่างกระตือรือร้น แม้นางอายุน้อยกว่าเหมยกุ้ยเพียงสองปี แต่ชื่อเสียงของเหมยกุ้ยเป็นที่ประจักษ์แก่หญิงทุกนางในหอนางโลมแห่งนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อเหมยกุ้ยยื่นข้อเสนอดี ๆ ให้ มีหรือที่นางจะปฏิเสธ
เมื่อสาวน้อยรับคำอย่างเต็มใจ เหมยกุ้ยจึงก้มลงกระซิบแนบหูนางให้ได้ยินเพียงสองคน ไป๋หลานตั้งใจฟังสิ่งที่เหมยกุ้ยกระซิบบอกแววตาเต้นระริก เมื่อกระซิบบอกแล้วเหมยกุ้ยจึงเอ่ยว่า
“หากเจ้าเรียนรู้ได้ดี เจ้าจะได้รางวัลจากข้าด้วย รางวัลนี้ ไม่มากไม่น้อยหนึ่งพันตำลึง”
“พันตำลึง! นั่นมันค่าตัวข้าทั้งเดือนเลยนะ”
“ฮ่า ฮ่า เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าลองคิดสิ หากเจ้ามีชื่อเสียงขึ้นมาเมื่อใด เพียงแค่เจ้ากระแอมไอ เงินหนึ่งพันตำลึงก็จะร่วงลงสู่มือเจ้าอย่างง่ายดาย”
ไป๋หลานมองเหมยกุ้ยอย่างเลื่อมใส นางเชื่อทุกถ้อยคำที่ยอดหญิงคณิกาพูด
เมื่อขบวนเกี้ยวของใต้เท้าอันฉีเดินทางเข้าสู่เมืองฉีซาน ตะวันก็โพล้เพล้ แสงสีทองสาดส่องลงบนถนนในเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนสัญจรไปมา เมืองฉีซานเป็นหัวเมืองสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนทางเหนือ และเป็นเมืองประตูสู่ภาคกลาง เมืองนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ รถม้าวิ่งกันขวักไขว่ บ้านเรือนร้านค้าเรียงรายตามสองฝั่งถนนถนนในตัวเมืองใหญ่ไม่มาก แต่ก็กว้างพอให้รถเทียมม้า และรถบรรทุกของสองคันแล่นสวนกันได้เมื่อขบวนเกี้ยวใต้เท้าอันฉี ที่นำขบวนโดยบุรุษหนุ่มสง่างามควบม้าสีขาวพันธุ์ดี ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม ดวงตาคมกวาดไปรอบ ๆ เมือง บุรุษรูปงามผู้นี้ คือ “อันเหว่ย” บุตรชายเพียงคนเดียวของผู้ที่นั่งอยู่ในเกี้ยวใต้เท้าอันฉี หรือ ใต้เท้าฉี สอดมือเปิดม่านหน้าต่างข้างเกี้ยวขึ้นมองดูร้านร่วงข้างทาง แล้วดวงหน้าน้อย ๆ ของดรุณีก็เบียดขึ้นมาส่องอย่างอยากรู้อยากเห็นบ้าง“โอ้ว ว้าว นี่เขาเรียกว่าเมืองรึ”หลันฮวา ดรุณีวัยแรกที่ใต้เท้าฉีเก็บมาจากป่าบนภูเขา ร้องถามขึ้นอย่างตื่นเต้น“ใช่ แล้ว และคืนนี้ก็อนุญาตให้เจ้าเที่ยวชมเมืองได้อย่างอิสระ หากเจ้าต้องการอยู่ที่นี่ก็ตามใจเจ้า หรือหากเจ้าอยากไปเมืองหลวงกับข้า เจ้าก็มากลับม
ใต้เท้าฉียกมือทั้งสองข้างโอบเอวบางของสาวงามซ้ายขาวแล้วปักจมูกลงบนหน้าอกอิ่มของสาวงามทั้งสองดังซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!ซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!แผล็บ! แผล็บ!“ชื่นใจจังเลย น่ากินไปหมดนะเนี่ยะ ฮ่า ๆ”นอกจากสูดดมกลิ่นกายสาวจนหนำใจแล้วลิ้นสากของใต้เท้าฉียังเลียแผล็บที่เนินอกขาวผ่อง สร้างความสยิวเล็ก ๆ ให้สาวงาม นางหัวเราะคิกแล้วใช้มือน้อย ๆ ทุบเบา ๆ ที่อกหยุ่น ๆ ของชายชรา“แหม ใต้เท้าชอบทำเป็นเล่นไป”“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ วันนี้ ข้ามีความสุขจริงๆ เลย ได้อยู่ท่ามกลางสาวสวยอย่างพวกเจ้า”“ขอบคุณค่ะใต้เท้า เชิญด้านไหนดีกว่านะคะ”แล้วสองนางซ้ายขวาก็พาใต้เท้าฉีเดินเข้าไป ในหอหมู่ตาน พ่อบ้านยืนมองนายจนหายลับเข้าไปข้างใน แล้วหันมาสั่งพลเกี้ยวให้พักผ่อนได้ตามสบาย ส่วนตนของนั่งพักกับบรรดาสาว ๆ หน้าหอมู่ตาน หากผู้เป็นนายเสร็จกิจจะได้รับใช้ได้ทันการ ทันทีที่ใต้เท้าฉีก้าวเข้าไปภายในหอมู่ตาน ร่างสาวใหญ่ในอาภรณ์ระยิบยับก็ถลาเข้าหาพร้อมกับเสียงวี้ดว้าย“ตายแล้ววววววว ใต้เท้าฉี มาไวกว่าที่คิดไว้นะคะ เชิญใต้เท้าด้านนี้คร่า อุ้ย!”ประโยคสุดท้ายรื่อหงอุทานดังลั่น เมื่อมืออวบ ๆ ของใต้เท
สิ้นคำใต้เท้าฉีก็ก้มลงใช้จมูกบาน ๆ ดุนเกาะอกให้เลื่อนหลุด หัวนมสีชมพูชูชันเชิญชวนปากอวบก็ครอบลงดูดหัวนมสีชมพูระเรื่อ หัวนมแข็งเป็นไตถูกปากหนากลืนหายเข้าไปในโพรงปากอุ่นซ่าน ปลายลิ้นใต้เท้าฉีกระดกสะกิดหัวนมในโพรงปากรัว ๆ แล้วดูดซ้ำซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดเหมยกุ้ยแอ่นอก มือสองข้างสอดเข้าใต้เรือนผมสีเทาขย้ำกดศีรษะใต้เท้าฉีให้แนบชิดหน้าอกยิ่งขึ้นเมื่อร่างอรชรร้อนวูบวาบ ความเสียวซ่านปลาบแปลบแล่นจากหัวนมไปทั่วกายสาว“อ้ายยยยยยย”สาวงามแอ่นอกส่งเสียงครางออกมาเบา ๆซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดใต้เท้าฉีเปลี่ยนมาดูดอีกข้างอย่างเท่าเทียม ร่างอรชรบิดส่าย ปากน้อย ๆ เผยอครางอย่างเร่าร้อน“อะ อ่า”ลิ้นของใต้เท้าฉีขยับปัดป่าย เลียวนไปรอบ ๆ หัวนมที่แข็งเด้งสู้ลิ้น ยิ่งสร้างความเมามันให้ใต้เท้าฉีสะกิดดูดดึงหัวนมรัว ๆ ซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดด“อ้ายยยยยยยยยยยยยย”เหมยกุ้ยครางไม่เป็นศัพท์ เคลิ้มไปกับปลิ้นร้ายของตาเฒ่าขุนนางใหญ่ มือน้อย ๆ ผลักบ่าชายชราเบา ๆ เป็นเชิงขัดขืนให้พองาม“ตะ ใต้เท้า อย่าด่วนกินของหวานก่อนของคาวสิ”
ไป๋หลานตั้งใจรีดน้ำมังกรอย่างสุดฝีมือตามคำบอกของเหมยกุ้ย ทำให้มังกรของใต้เท้าฉีระเบิดน้ำออกมาเต็มปาก พร้อมกับเสียงครางดังลั่นห้อง“โอ้วววววววววววววววววว อ๊าซ์”สาวน้อยดูดกลืนน้ำหวานจนหมดลำมังกร แล้วค่อย ๆ ถอนเรียวปากออก อกของใต้เท้าฉีกระเพื่อมไหวตามแรงหอบหายใจ“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก จะ เจ้าสุดยอดมากเหมยกุ้ย”“สุดยอดแบบนี้ พอที่จะเข้าเฝ้าฮ่องเต้ด้วยได้ไหม”เหมยกุ้ยตัวจริงที่อยู่หลังม่านออดอ้อนถาม“ทำไมจะไม่ได้หล่ะจ๊ะ ข้าจะพาเจ้าไปทุกที่เลย”ใต้เท้าฉีรับคำเพราะความเคลิบเคลิ้ม“งั้น ต้องให้รางวัลใต้เท้าฉีหนัก ๆ สักหน่อยหล่ะ”สิ้นเสียง เหมยกุ้ยพยักพยัดส่งสัญญาณให้ไป๋หลานจัดการเผด็จศึกมังกรเฒ่ามือเรียวเล็กของไป๋หลานลูบไล้มังกรที่เหี่ยวลงไปเพราะถูกรีดพิษออกเมื่อสักครู่ สัมผัสเล้าโลมของสาวน้อยทำให้มังกรเฒ่าร้อนฉ่าพองโตขึ้นอย่างทันใจ จนผู้เป็นเจ้าของถึงกับครางกระเส่าถาม“มะ เหมยกุ้ย เจ้าจะทำอะไร อ๊า อะ”“ตอบแทนที่ใต้เท้าจะพาข้าเข้าเฝ้าฮ่องเต้ไง”“เอ๊าะ อ้าววววววววว”เมื่อมังกรเฒ่าผงาดจนตั้งขึ้น ไป๋หลานก็โขย่งตัวขึ้นคร่อม จนหัวมังกรอวบอ้วนมุดผ่านเข้ารูหอยอันคับแคบ จนนางถึงกับ
ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจ แม้แต่เขายังลุ่มหลงในตัวนาง มีหรือฮ่องเต้จะไม่ทรงโปรดขณะที่รื่อหงกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่กลางห้องโถงพร้อมกับบรรดาสาวสาวทั้งหลาย เหมยกุ้ยก็โอบประคองใต้เท้าฉีเดินลงมาถึงชั้นล่าง“ใต้เท้าฉี แหม แหมเมื่อคืนคงจะจัดจนฟ้าเหลืองสิท่า กว่าจะลุกจากห้องได้ก็ปาเอาตะวันสายโด่งเลยนะท่าน”รื่อหงส์จีบปากจีบคอแซวตามประสา เหมยกุ้ยยิ้มรับน้อย ๆ รับสมอ้างว่าปรนนิบัติใต้เท้าผู้นี้ทั้งคืนยันรุ่งฮ่า ฮ่า ฮ่าใต้เท้าฉีหัวเราะต้องชอบใจ ก่อนเอ่ยว่า“ขอบใจเจ้ามาก ที่เจ้าสามารถอบรมสั่งสอนให้เหมยกุ้ยเป็นสาวงามที่ชาญฉลาด เพียบพร้อมและปรนนิบัติข้าได้ถึงใจจริงๆ”“แหมะ ใต้เท้า ท่านก็ชมเกินไป”รื่อหงยิ้มหน้าระรื่นใต้เท้าฉีจึงเอ่ยต่อไปว่า“ข้าจึงอยากจะขอตัวนาง เพื่อนำไปถวายแด่ฮ่องเต้ เจ้าขัดข้องหรือไม่”รื่อหงหันขวับ ตาลุกวาว แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน“เมื่อกี้ท่านล้อข้าเล่นแน่ แน่”รื่อหงส่ายหน้าแสร้งหัวเราะแกน ๆ“ข้าไม่ได้ล้อเล่น”ใต้เท้าฉีเอ่ยขณะนั่งลงบนเก้าอี้ลงข้างรื่อหง เขาต้องคุยกับนางอย่างจริงจังแม่เล้าผู้มากประสบการณ์มองดูขุนนางผู้นี้ก็เข้าใจในท่าทีจึงพยักหน้าใ
“ใต้เท้า ใต้เท้าขอรับ คุณชายเหว่ยมายืนรอรับถึงหน้าที่พักแล้วขอรับ ข้าเกรงว่าท่านอาจต้องเตรียมคำอธิบายที่พาสาวงามจากหอคณิกาด้วย”ใต้เท้าฉีได้ยินเสียงกระซิบบอกของพ่อบ้านทุกถ้อยคำใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยเดินโออ่าแผ่ศักดาที่หอมู่ตานเมื่อวาน มาวันนี้ถึงกับเป็นอันเหี่ยวเฉาลงทันทีใต้เท้าฉีมีสีหน้าหวั่นวิตกลงอย่างเห็นได้ชัดเหมยกุ้ยได้ยินทุกคำพูดที่พ่อบ้านเอ่ยเช่นกัน บวกกับหน้าซีดเซียวของใต้เท้าฉีจึงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ว่า“ใต้เท้ามีเรื่องกังวลใจอันใดหรือ”“ข้าเกรงว่าลูกชายของข้าจะไม่เห็นด้วยที่ข้าพาเจ้าไปถวายตัวต่อองค์ฮ่องเต้ อันเหว่ยเป็นคนเถรตรงมาก และไม่นิยมชมชอบนางคณิกาเท่าไหร่นัก”“ท่านกลัวว่า บุตรชายของท่านจะรังเกียจข้าหรือ?”เหมยกุ้ยแสร้งทำสีหน้าเศร้าสร้อยใต้เท้าฉีจึงถือโอกาสโอบกอดสาวงามเพื่อปลอบประโลม“โอ้ ๆ เจ้าไม่ต้องเสียใจไป ข้าว่าไม่มีผู้ชายคนใดในโลกนี้ที่จะรังเกียจสาวงามเช่นเจ้าได้ลงคอ ข้าจะหาทางอธิบายเหตุผลกับลูกชายของข้าเอง”สิ้นคำใต้เท้าฉีจึงก้าวลงมาจากเกี้ยวใต้เท้าฉีรีบเดินเข้าไปหาบุตรชายก่อนที่เขาจะเป็นผู้เดินมาหา หากถึงเกี้ยวจะยิ่งวุ้นกันไปใหญ่“ท่านหายไปไหนมาทั้งคืน แล
ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจรับคำว่า“ได้ ได้ ไปสิเรากำลังจะออกเดินทาง”“ขอบคุณใต้เท้ามาก ท่านใจดีที่สุด!”เมื่อได้รับอนุญาตให้เดินทางไปด้วยได้ หลันฮวาก็ผุดเข้าไปนั่งในเกี้ยวก่อนใคร ๆ ตามด้วยใต้เท้าฉีเหมยกุ้ยเดินตามมาอย่างเงียบเงียบ เมื่อมองเข้าไปในเกี้ยวก็พบว่าไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับนางแล้ว นางจึงกล่าวแก่ใต้เท้าฉีว่า” ข้าคิดว่าหากท่านจะพาข้าไปถวายตัวต่อฮ่องเต้ในฐานะบุตรบุญธรรม แล้วให้นั่งในเกี้ยวคู่ไปพร้อมกับท่าน เกรงว่าจะไม่เหมาะ ฉะนั้นข้าขอเดินตามขบวนกับพ่อบ้านเห็นจะเหมาะกว่า”ใต้เท้าฉีส่งสายตาสุดแสนเสียดายมาที่เหมยกุ้ยเพราะเขาตั้งใจว่าจะนั่งเกี้ยวไปกับสองดรุณีสุดสวยทั้งคู่คงจะได้ขึ้นสวรรค์ไปถึงชั้นไหน ชั้นไหน แต่เมื่อนางออกความคิดเห็นเช่นนี้ก็ถูกต้อง อีกอย่างเมื่อคืนเขาเองก็อยู่กับเหมยกุ้ยทั้งคืนแล้ว งั้นเช้านี้เปลี่ยนรสชาติเป็นดรุณีป่า ก็คงจะดีไม่น้อย เมื่อคิดได้ดังนั้นใต้เท้าฉีจึงพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างอยู่ในสายตาคมดุของบุรุษผู้หนึ่งเสมอ ระหว่างที่เดินออกจากเมืองซานฉีเหมยกุ้ยเองก็ลอบมองบุรุษสง่างามผู้ที่อยู่บนหลังม้าเช่นกัน นางสังเกตเห็นว่า เขาเองก็แอบลอบ
“แฮ่ก แฮ่ก คะ คุณชาย”เหมยกุ้ยดันตัวลุกขึ้น ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยจนหัวนมชมพูชูชันโผล่ออกมาอวดตระหง่านชูไสวตรงหน้าคุณชายเหว่ยพอดีมือแกร่งจึงกดร่างอรชรที่พยายามลุกขึ้น ให้อกสร่างแนบเข้ากับหน้าหล่อเหลา แล้วลิ้นร้อนของเขาก็ตวัดหัวนมเข้าปากอย่างตะกละตะกลาม“อ้ายยยย คะ คุณชาย ซี้ดดดดด”เหมยกุ้ยกัดปากซี้ด นานแล้วที่หัวนมไม่เจอลิ้นหนุ่มกลัดมัน ลิ้นเขาทั้งร้อน ทั้งดูด ทั้งดึง ความเสียวซ่านมันวิ่งริ้ว ๆ เป็นระลอก ๆ ไม่ขาดสายจ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบซื้ดดด จ๊วบ!“อะ อย่า ข้าเป็นนางคณิกาที่น่ารังเกียจ มิใช่รึ อื้อ”เหมยกุ้ยตัดพ้อเสียงกระเส่า ปากร้ายย้ายจากหัวนมข้างขวาไปสู่ข้างซ้ายอย่างเท่าเทียม ในสมองเขาอื้ออึงไปหมด รู้แค่ว่านางน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัว“เจ้ารึน่ารังเกียจ? จ๊วบบบบบบ แผล็บ”“อือ อะ”เหมยกุ้ยแสร้งดันตัวขัดขืน ชายหนุ่มจึงพลิกร่างอรชรให้อยู่ใต้ร่างแกร่ง เมื่อร่างนั้นนอนหงายยิ่งทำให้นมสร้างคู่นั้นชูชันเย้ายวน มือแกร่งรวบมือบางกดลงกับพื้นหญ้าเพื่อเปิดทางให้ปากร้ายโฉบเข้าหัวนมอย่างหื่นกระหายจ๊วบบบบบบ แผล็บๆ ๆ ๆ ๆ “อ่าซ์ อะ ยะ หยุด นะ คนใจร้าย รังเกียจข้านักไม่ใช่หรือ อ้ายยย” เหม่ยกุ้ยเสีย