Share

ตอนที่10   ลำเลิกบุญคุณ

แม่เล้าลำเลิกบุญคุณ เหมยกุ้ยได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน นางฟังประโยคนี้ซ้ำ ๆ มานานกว่า 6 ปีแล้ว  และ 6 ปีที่นางต้องตกเป็นทาสกามเพื่อทำเงินให้กับแม่เล้าผู้นี้

“ถ้าเช่นนั้น ก็สุดแล้วแต่ท่านแม่จะเห็นสมควรเถิด”

เหมยกุ้ยรับคำแผ่วเบา 

รื่อหงจึงเอื้อมมือมากุมมือน้อยของสาวสวยไว้พลางปลอบประโลมว่า

“ดีมากเหมยกุ้ย เจ้าช่างเป็นเด็กดียิ่งนัก วันนี้ถือว่าข้าขอเจ้าเป็นพิเศษก็แล้วกัน เพราะผู้ที่จะมาวันนี้เป็นขุนนางใหญ่จากทางเหนือ ปีหนึ่งท่านถึงจะเดินทางผ่านมาเมืองฉีซาน ท่านอุตส่าห์ส่งม้าเร็วมาจองตัวเจ้าไว้ก่อนขบวนของท่านจะมาถึงเสียอีก ให้ถือว่าทำบุญทำทานกับคนแก่แล้วกันนะเหมยกุ้ย”

เหมยกุ้ยพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้  รื่อหงยิ้มหน้าระรื่นเมื่อสาวงามแห่งหอมู่ตานยอมรับงาน นางจึงกล่าวต่อว่า

“ก่อนรับแขกคืนนี้เจ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ข้าจะจัดให้เจ้าเป็นพิเศษ”

“ขอบคุณท่านแม่ที่กรุณา หากเป็นได้ท่านแม่โปรดให้ไป๋หลาน หรือหวงหลานเป็นผู้ยกอาหารและเหล้าขึ้นมาที่ห้องกุหลาบได้หรือไม่”

“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ทำไมจะไม่ได้หล่ะ วันนี้ไป๋หลานว่างข้าจะให้นางขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้วกันนะ”

“ขอบคุณท่านแม่”

เหมยกุ้ยก้มศีรษะเล็กน้อย 

“เอาหล่ะ ข้าต้องลงไปดูแลข้างล่างหน่อย เจ้าก็พักผ่อนเยอะๆ นะ ถึงเวลา ไป๋หลานยกอาหารให้มาให้”

รื่อหงกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง  

เมื่อรื่อหงเดินหายลับออกไปแล้ว  เหมยกุ้ยลงกลอนประตูแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะกลมกลางห้อง  นางกวาดสายตาไปทั่วบริเวณห้องที่พรั่งพร้อมด้วยเครื่องเรือน

ภายในห้องถูกตกแต่งอย่างงดงามยิ่งกว่าห้องใด ๆ ในหอนี้ หนำซ้ำยังกว้างกว่าห้องอื่น ๆ ถึง 2 เท่า  เพราะห้องพื้นที่รับแขกถูกแยกออกเป็นสัดส่วนจากห้องนอน

แม้ห้องที่นางอยู่จะหรูหรากว่าห้องของนางคณิกาคนอื่น ๆ  แต่สถานะก็ไม่ก็ไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก  ไม่ว่าห้องจะใหญ่หรือเล็ก  สุดท้ายก็ลงเอ่ยเป็นสถานที่ระบายความใคร่แก่ชายเหมือนๆ กัน

เหมยกุ้ยถอนหายใจออกมาเบา ๆ กล้ำกลืนความรันทดใจเข้าไปข้างใน นางยังคงจำวันที่รื่อหงเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตของตนได้ดี 

หลังจากที่เหมยกุ้ย เด็กสาวอายุ 14 ปีที่ต้องสูญสิ้นครอบครัวเพราะโจรป่า นางถูกรื่อหงเจ้าของหอมู่ตานช่วยเหลือเลี้ยงดู

วันนั้น เหมยกุ้ยอยู่ในชุดสีขาวออกเหลืองเพราะเป็นชุดเก่าของรื่อหงนำมาให้สวมใส่ สี่ห้าวันที่นางพักอยู่ในหอมู่ตานแห่งนี้ ได้รับความสะดวกสบาย ตอนกลางคืนเหมยกุ้ยมักจะได้ยินเสียงเพลง เสียงคนคุยกันเฮฮาดังมาจากชั้นล่างเสมอ ๆ และทุก ๆ บ่าย รื่อหง ผู้ที่ให้นางเรียกว่าแม่ ก็จะปรากฏตัวในห้องคอยถามสารทุกข์สุกดิบ จนสาวน้อยรู้สึกไว้ใจและรู้สึกดีที่ครั้งที่ได้เห็นรื่อหงเปิดประตูเข้ามาในห้อง

“เหมยกุ้ย วันนี้เป็นไงบ้าง หายตกใจหรือยัง?  ยังฝันร้ายอยู่ไหม?”

รื่อหงเอ่ยถามสาวน้อยที่ตนรับอุปถัมภ์ เมื่อวานนางเล่าให้ฟังว่ามักจะฝันถึงวันที่โจรฆ่าพ่อแม่ 

เหมยกุ้ยส่งยิ้มให้สาวใหญ่วัย 35 ปี แม้อายุจะล่วงเลยผ่านวัยสาวแต่รูปร่างของนางยังคงได้สัดส่วนราวกับสาวแรกรุ่น  เมื่อร่างนั้นนั่งลงข้าง ๆ เหมยกุ้ยจึงตอบว่า

“เมื่อคืนยังฝัน แต่ข้าก็ไม่กลัวมันแล้ว สักวันข้าจะต้องแก้แค้น!”

เด็กสาวตอบแววตามุ่งมั่น 

รื่อหงจะลูบศีรษะนางเบา ๆ ก่อนเอ่ย

“โธ่เอ๊ย เด็กน้อย ชีวิตมันมีเรื่องต้องทำมากกว่าการแก้แค้น  ไว้เจ้าโตกว่านี้แล้วเจ้าจะรู้  อ่อ ดื่มน้ำนี่สิ  สมุนไพรบำรุงกำลังจะทำให้เจ้าหลับสบายไม่ฝันร้ายอีก”

เด็กสาวยิ้มรับ นางยกน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นดื่มจนหมดจอก มือหนึ่งวางถ้วยลง อีกมือก็ยกแขนเสื้อขึ้นซับน้ำที่เลอะริมฝีปากเบา ๆ พวงแก้มของเด็กสาวขึ้นสีชมพูแดงระเรื่อด้วยวัยแรกแย้ม

“เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าดีกับเจ้าไหม?”

รื่อหงเอ่ยขึ้นพลางสบตาเด็กสาวอย่างจริงจัง

“ท่านแม่ดีกับข้ามาก”

“เจ้าจะอยู่กับข้าต่อหรือไม่”

เด็กสาวตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำถามจากรื่อหง  นางตื่นตระหนกกว่าว่าจะถูกขับไล่ออกไป  เหมยกุ้ยรีบลงไปคุกเข่า คำนับผู้ที่ตนเรียกว่า “แม่”

“ท่านแม่ ข้าไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปไหนจริง ๆ  โปรดเมตตาข้าด้วย  โปรดเมตตาข้าด้วย”

“เด็กดี ลุกขึ้นเถอะ  ข้าไม่ใจไม้ไส้ระกำพอที่จะขับไล่ไสส่งเจ้าไปตกระกำลำบากหรอก”

รื่อหงเอ่ย ขณะที่ช้อนมือประคองร่างเล็กให้ยืนขึ้น

“ขอบคุณท่านแม่มาก”

แววตาไร้เดียงสาของเหมยกุ้ยทอประกายขอบคุณอย่างลึกซึ้ง

“เพียงแต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่า หากเจ้าอยู่ที่นี่กับข้า  เจ้าต้องช่วยข้าทำงาน”

รื่อหงเอ่ยต่อ

“ข้ายอมทำอย่างที่ท่านแม่สั่ง  ข้าทำได้หมด”

“เจ้าพูดเองนะ”

รื่อหงสบตาสาวน้อย 

นางจึงพูดยืนยันหนักแน่นว่า

“ข้าทำได้หมดผ่าฟืน ตักน้ำ  ถูบ้าน ทำความสะอาด”

“ฮ่า  ฮ่า  เด็กน้อย ข้าไม่ใช้สาวสวยอย่างเจ้าให้ทำงานเยี่ยงทาสเช่นนั้นแน่”

สาวน้อยเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัยกับคำตอบของรื่อหง รู้สึกร้อนวูบวาบภายในร่างกายอย่างไรชอบกล

“เจ้ารู้ใช่ไหม ว่าเป็นแม่เล้าของหอมู่ตานแห่งนี้ หญิงทุกคนในหอแห่งนี้ต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นนางคณิกา”

“นางคณิกา คือ อะไร”

เหมยกุ้ยถามประสาซื่อ รู้สึกว่าอุณหภูมิของห้องร้อนขึ้น ๆ จนนางต้องปลดเสื้อคลุมตัวนอกออก เหลือเพียงเสื้อซับในบางเบาเผยให้เห็นเต้านมตั้งช่ออวบอูม  หัวนมสีชมพูระเรื่อชูชัน เมื่อไล่สายตาลงมาด้านล่างขนหอยเป็นโหนกเนินอิ่มกำลังขึ้นขนอ่อนระบายสีน้ำตาล

รื่อหงดึงร่างงดงามที่เริ่มได้สัดส่วนของเหมยกุ้ยมานั่งบนตัก แล้วใช้สองมือกลึงหัวนมชมพูชูชัน จนร่างเล็กบนตักแอ่นรับอย่างเสียวซ่าน

“อ่า ท่านแม่ ทำอะไร ข้าขนลุกไปหมดแล้ว หือ อะ  อ่า”

“ข้าก็จะสอนเจ้าให้รู้ว่า นางคณิกาคืออะไร อย่างไรหล่ะ”

ปากแดงฉานของรื่อหง กระซิบข้างหูน้อย ๆ 

“ทะ  ทำไม ขะ ข้ารู้สึกอยากให้ท่านลูบไล้ข้า”

เหมยกุ้ยถามเสียงสั่นระริก ๆ เมื่อเริ่มควบคุมสติตนเองไม่ได้   

รื่อหงมองร่างน้อย ๆ ที่บิดเกร็งเพราะความกระสัน  นางหอบหายใจถี่ ใบหน้าแดงก่ำเพราะยาปลุกสวาทที่หล่อนให้นางกินคงจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว

“เจ้าไม่ได้อยากให้ข้าลูบไล้เจ้าหรอก  แต่เจ้าต้องการสิ่งนี้ต่างหาก  จางเหว่ย!  หวังเหว่ย!”

สิ้นเสียงเรียก  ชายฉกรรจ์รูปร่างกำยำที่มักจะพบเห็นเขาเดินตามรื่อหงเสมอ ๆ ผลักประตูห้องเข้ามา ชายสองคนสวมเพียงกางเกง ปล่อยแผงอกล่ำเป็นสันกล้ามเนื้อเปื่อยเปล่า

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status