แม่เล้าลำเลิกบุญคุณ เหมยกุ้ยได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน นางฟังประโยคนี้ซ้ำ ๆ มานานกว่า 6 ปีแล้ว และ 6 ปีที่นางต้องตกเป็นทาสกามเพื่อทำเงินให้กับแม่เล้าผู้นี้
“ถ้าเช่นนั้น ก็สุดแล้วแต่ท่านแม่จะเห็นสมควรเถิด”
เหมยกุ้ยรับคำแผ่วเบา
รื่อหงจึงเอื้อมมือมากุมมือน้อยของสาวสวยไว้พลางปลอบประโลมว่า
“ดีมากเหมยกุ้ย เจ้าช่างเป็นเด็กดียิ่งนัก วันนี้ถือว่าข้าขอเจ้าเป็นพิเศษก็แล้วกัน เพราะผู้ที่จะมาวันนี้เป็นขุนนางใหญ่จากทางเหนือ ปีหนึ่งท่านถึงจะเดินทางผ่านมาเมืองฉีซาน ท่านอุตส่าห์ส่งม้าเร็วมาจองตัวเจ้าไว้ก่อนขบวนของท่านจะมาถึงเสียอีก ให้ถือว่าทำบุญทำทานกับคนแก่แล้วกันนะเหมยกุ้ย”
เหมยกุ้ยพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ รื่อหงยิ้มหน้าระรื่นเมื่อสาวงามแห่งหอมู่ตานยอมรับงาน นางจึงกล่าวต่อว่า
“ก่อนรับแขกคืนนี้เจ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ข้าจะจัดให้เจ้าเป็นพิเศษ”
“ขอบคุณท่านแม่ที่กรุณา หากเป็นได้ท่านแม่โปรดให้ไป๋หลาน หรือหวงหลานเป็นผู้ยกอาหารและเหล้าขึ้นมาที่ห้องกุหลาบได้หรือไม่”
“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ทำไมจะไม่ได้หล่ะ วันนี้ไป๋หลานว่างข้าจะให้นางขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้วกันนะ”
“ขอบคุณท่านแม่”
เหมยกุ้ยก้มศีรษะเล็กน้อย
“เอาหล่ะ ข้าต้องลงไปดูแลข้างล่างหน่อย เจ้าก็พักผ่อนเยอะๆ นะ ถึงเวลา ไป๋หลานยกอาหารให้มาให้”
รื่อหงกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
เมื่อรื่อหงเดินหายลับออกไปแล้ว เหมยกุ้ยลงกลอนประตูแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะกลมกลางห้อง นางกวาดสายตาไปทั่วบริเวณห้องที่พรั่งพร้อมด้วยเครื่องเรือน
ภายในห้องถูกตกแต่งอย่างงดงามยิ่งกว่าห้องใด ๆ ในหอนี้ หนำซ้ำยังกว้างกว่าห้องอื่น ๆ ถึง 2 เท่า เพราะห้องพื้นที่รับแขกถูกแยกออกเป็นสัดส่วนจากห้องนอน
แม้ห้องที่นางอยู่จะหรูหรากว่าห้องของนางคณิกาคนอื่น ๆ แต่สถานะก็ไม่ก็ไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก ไม่ว่าห้องจะใหญ่หรือเล็ก สุดท้ายก็ลงเอ่ยเป็นสถานที่ระบายความใคร่แก่ชายเหมือนๆ กัน
เหมยกุ้ยถอนหายใจออกมาเบา ๆ กล้ำกลืนความรันทดใจเข้าไปข้างใน นางยังคงจำวันที่รื่อหงเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตของตนได้ดี
หลังจากที่เหมยกุ้ย เด็กสาวอายุ 14 ปีที่ต้องสูญสิ้นครอบครัวเพราะโจรป่า นางถูกรื่อหงเจ้าของหอมู่ตานช่วยเหลือเลี้ยงดู
วันนั้น เหมยกุ้ยอยู่ในชุดสีขาวออกเหลืองเพราะเป็นชุดเก่าของรื่อหงนำมาให้สวมใส่ สี่ห้าวันที่นางพักอยู่ในหอมู่ตานแห่งนี้ ได้รับความสะดวกสบาย ตอนกลางคืนเหมยกุ้ยมักจะได้ยินเสียงเพลง เสียงคนคุยกันเฮฮาดังมาจากชั้นล่างเสมอ ๆ และทุก ๆ บ่าย รื่อหง ผู้ที่ให้นางเรียกว่าแม่ ก็จะปรากฏตัวในห้องคอยถามสารทุกข์สุกดิบ จนสาวน้อยรู้สึกไว้ใจและรู้สึกดีที่ครั้งที่ได้เห็นรื่อหงเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“เหมยกุ้ย วันนี้เป็นไงบ้าง หายตกใจหรือยัง? ยังฝันร้ายอยู่ไหม?”
รื่อหงเอ่ยถามสาวน้อยที่ตนรับอุปถัมภ์ เมื่อวานนางเล่าให้ฟังว่ามักจะฝันถึงวันที่โจรฆ่าพ่อแม่
เหมยกุ้ยส่งยิ้มให้สาวใหญ่วัย 35 ปี แม้อายุจะล่วงเลยผ่านวัยสาวแต่รูปร่างของนางยังคงได้สัดส่วนราวกับสาวแรกรุ่น เมื่อร่างนั้นนั่งลงข้าง ๆ เหมยกุ้ยจึงตอบว่า
“เมื่อคืนยังฝัน แต่ข้าก็ไม่กลัวมันแล้ว สักวันข้าจะต้องแก้แค้น!”
เด็กสาวตอบแววตามุ่งมั่น
รื่อหงจะลูบศีรษะนางเบา ๆ ก่อนเอ่ย
“โธ่เอ๊ย เด็กน้อย ชีวิตมันมีเรื่องต้องทำมากกว่าการแก้แค้น ไว้เจ้าโตกว่านี้แล้วเจ้าจะรู้ อ่อ ดื่มน้ำนี่สิ สมุนไพรบำรุงกำลังจะทำให้เจ้าหลับสบายไม่ฝันร้ายอีก”
เด็กสาวยิ้มรับ นางยกน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นดื่มจนหมดจอก มือหนึ่งวางถ้วยลง อีกมือก็ยกแขนเสื้อขึ้นซับน้ำที่เลอะริมฝีปากเบา ๆ พวงแก้มของเด็กสาวขึ้นสีชมพูแดงระเรื่อด้วยวัยแรกแย้ม
“เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าดีกับเจ้าไหม?”
รื่อหงเอ่ยขึ้นพลางสบตาเด็กสาวอย่างจริงจัง
“ท่านแม่ดีกับข้ามาก”
“เจ้าจะอยู่กับข้าต่อหรือไม่”
เด็กสาวตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำถามจากรื่อหง นางตื่นตระหนกกว่าว่าจะถูกขับไล่ออกไป เหมยกุ้ยรีบลงไปคุกเข่า คำนับผู้ที่ตนเรียกว่า “แม่”
“ท่านแม่ ข้าไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปไหนจริง ๆ โปรดเมตตาข้าด้วย โปรดเมตตาข้าด้วย”
“เด็กดี ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่ใจไม้ไส้ระกำพอที่จะขับไล่ไสส่งเจ้าไปตกระกำลำบากหรอก”
รื่อหงเอ่ย ขณะที่ช้อนมือประคองร่างเล็กให้ยืนขึ้น
“ขอบคุณท่านแม่มาก”
แววตาไร้เดียงสาของเหมยกุ้ยทอประกายขอบคุณอย่างลึกซึ้ง
“เพียงแต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่า หากเจ้าอยู่ที่นี่กับข้า เจ้าต้องช่วยข้าทำงาน”
รื่อหงเอ่ยต่อ
“ข้ายอมทำอย่างที่ท่านแม่สั่ง ข้าทำได้หมด”
“เจ้าพูดเองนะ”
รื่อหงสบตาสาวน้อย
นางจึงพูดยืนยันหนักแน่นว่า
“ข้าทำได้หมดผ่าฟืน ตักน้ำ ถูบ้าน ทำความสะอาด”
“ฮ่า ฮ่า เด็กน้อย ข้าไม่ใช้สาวสวยอย่างเจ้าให้ทำงานเยี่ยงทาสเช่นนั้นแน่”
สาวน้อยเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัยกับคำตอบของรื่อหง รู้สึกร้อนวูบวาบภายในร่างกายอย่างไรชอบกล
“เจ้ารู้ใช่ไหม ว่าเป็นแม่เล้าของหอมู่ตานแห่งนี้ หญิงทุกคนในหอแห่งนี้ต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นนางคณิกา”
“นางคณิกา คือ อะไร”
เหมยกุ้ยถามประสาซื่อ รู้สึกว่าอุณหภูมิของห้องร้อนขึ้น ๆ จนนางต้องปลดเสื้อคลุมตัวนอกออก เหลือเพียงเสื้อซับในบางเบาเผยให้เห็นเต้านมตั้งช่ออวบอูม หัวนมสีชมพูระเรื่อชูชัน เมื่อไล่สายตาลงมาด้านล่างขนหอยเป็นโหนกเนินอิ่มกำลังขึ้นขนอ่อนระบายสีน้ำตาล
รื่อหงดึงร่างงดงามที่เริ่มได้สัดส่วนของเหมยกุ้ยมานั่งบนตัก แล้วใช้สองมือกลึงหัวนมชมพูชูชัน จนร่างเล็กบนตักแอ่นรับอย่างเสียวซ่าน
“อ่า ท่านแม่ ทำอะไร ข้าขนลุกไปหมดแล้ว หือ อะ อ่า”
“ข้าก็จะสอนเจ้าให้รู้ว่า นางคณิกาคืออะไร อย่างไรหล่ะ”
ปากแดงฉานของรื่อหง กระซิบข้างหูน้อย ๆ
“ทะ ทำไม ขะ ข้ารู้สึกอยากให้ท่านลูบไล้ข้า”
เหมยกุ้ยถามเสียงสั่นระริก ๆ เมื่อเริ่มควบคุมสติตนเองไม่ได้
รื่อหงมองร่างน้อย ๆ ที่บิดเกร็งเพราะความกระสัน นางหอบหายใจถี่ ใบหน้าแดงก่ำเพราะยาปลุกสวาทที่หล่อนให้นางกินคงจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว
“เจ้าไม่ได้อยากให้ข้าลูบไล้เจ้าหรอก แต่เจ้าต้องการสิ่งนี้ต่างหาก จางเหว่ย! หวังเหว่ย!”
สิ้นเสียงเรียก ชายฉกรรจ์รูปร่างกำยำที่มักจะพบเห็นเขาเดินตามรื่อหงเสมอ ๆ ผลักประตูห้องเข้ามา ชายสองคนสวมเพียงกางเกง ปล่อยแผงอกล่ำเป็นสันกล้ามเนื้อเปื่อยเปล่า
สองหนุ่มเพ่งมองร่างสาวน้อยกึ่งเปลือยบนตักรื่อหง แล้วหายใจแรงหนักหน่วงอย่างควบคุมอารมณ์ เพราะร่างงดงามจนน่ากลืนกินทั้งตัวนั้นมันปลุกพลังความเป็นชายของเขาทั้งคู่ จนเจ็บร้าวที่หว่างขา“ช่วยสอนงานนางที”รื่อหงผลักร่างอรชรให้ชายกำยำ หนึ่งในสองนั้นอุ้มเหมยกุ้ยขึ้นอย่างง่ายดาย สติที่พอจะเหลืออยู่น้อยนิดบังคับให้นางส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นว่ารื่อหงกำลังหันหลังเดินออกไปจากห้อง“ทะ ท่านแม่! ช่วยข้าด้วย ข้าเป็นอะไร ยะ อย่าทิ้งข้า”“ข้าแค่ให้เจ้าดื่มกระไรเล็กน้อย เพื่อให้การเป็นนางคณิกาครั้งแรกของเจ้าไม่เจ็บปวดมากนัก และจะเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ”เมื่อกล่าวจบ รื่อหงก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เหมยกุ้ยอยู่กับชายบึกบึน หน้าเหี้ยม ที่มองผ่าน ๆ คล้ายกับกลุ่มโจรที่นางเคยพบเมื่อ 5 วันก่อนเหมยกุ้ยพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากอ้อมอกของชายกำยำผู้นั้น แต่เมื่อเนื้อตัวเสียดสีกับแผงอกแกร่ง นางก็รู้สึกร้อนวูบวาบราวกับว่าเนื้อตัวกำลังจะลาย จนต้องโอบร่างกำยำไว้แน่น“อือ สาวน้อย ใจเย็น ๆ สิ เดี๋ยวพวกข้าจะค่อย ๆ สอนเจ้าเอง ว่า นางคณิกาที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง ฮ่า ๆ”จางเหว่ยวางร่างอ่อนระทวยข
เหมยกุ้ยครางประท้วง ลองมือผวาจิกเข้าไปที่สะโพกแกร่งของชายหนุ่ม ในขณะที่ลิ้นเล็กพยายามดุนหัวบากมังกรของเขาให้ออกไปจากปาก ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้แก่ชายหนุ่มจนเขาต้องแหงนหน้าครางออกมา“อร้ากกกกกกกก ซี้ดดดดดดดดดดดด โอ้ววววววว” ส่วนล่างหวังเหล่ยก็ค่อย ๆ ขยับสะโพกแทงเข้าออก ให้กลีบหอยคายน้ำหวานออกมาไม่หยุด ชายหนุ่มเร่งจังหวะแทงเข้าออกจนกลีบหอยเบ่งปริส๊วบบบบบบบบบบบบจึ๊ก!“อ่าซ์”ส๊วบ ส๊วบ จึ๊ก!“อ่าซ์”“โอ้วววววววววว”เหม้ยกุ้ยเจ็บแปลบปนสุขสมเจียนขาดใจ ยิ่งหวังเหว่ยกระแทกดุ้นมังกรเข้าหอยนางมากเท่าไหร่ ปากนางก็ยิ่งรูดแก่นมังกรจางเหว่ยหนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น“อ๊ากกกก โอ้ววววว ไม่ไหวแล้ววววววว จะถึงแล้ว จะถึงแล้ว”จางเหว่ยครวญครางอย่างสุขสม ดวงดาวเริ่มพร่างพราย เขาหยัดสะโพกใส่ปากเล็กของเหมยกุ้ยให้มากขึ้นเพื่อให้แตะถึงสวรรค์ นางโม้กมังกรเขาอย่างร้อนแรง ทั้งรูด ทั้งดุน ดูดจนแก้มตอบเสียงดูดดังจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“โอ้ววววว ซี้ดดดดดด ยะ อย่างนั้น เร็วอีกๆ”จางเหว่ยเกร็งตัวอย่างเสียวซ่าน มือสากของเขาตะปบลงเป็นสองเต้างาม เคล้นคลึงหัวนมชมพูจนเจ้าของมันบิดร่างแอ่นอกอย่างเสียวซ่าน ราว
เมื่อขบวนเกี้ยวของใต้เท้าอันฉีเดินทางเข้าสู่เมืองฉีซาน ตะวันก็โพล้เพล้ แสงสีทองสาดส่องลงบนถนนในเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนสัญจรไปมา เมืองฉีซานเป็นหัวเมืองสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนทางเหนือ และเป็นเมืองประตูสู่ภาคกลาง เมืองนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ รถม้าวิ่งกันขวักไขว่ บ้านเรือนร้านค้าเรียงรายตามสองฝั่งถนนถนนในตัวเมืองใหญ่ไม่มาก แต่ก็กว้างพอให้รถเทียมม้า และรถบรรทุกของสองคันแล่นสวนกันได้เมื่อขบวนเกี้ยวใต้เท้าอันฉี ที่นำขบวนโดยบุรุษหนุ่มสง่างามควบม้าสีขาวพันธุ์ดี ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม ดวงตาคมกวาดไปรอบ ๆ เมือง บุรุษรูปงามผู้นี้ คือ “อันเหว่ย” บุตรชายเพียงคนเดียวของผู้ที่นั่งอยู่ในเกี้ยวใต้เท้าอันฉี หรือ ใต้เท้าฉี สอดมือเปิดม่านหน้าต่างข้างเกี้ยวขึ้นมองดูร้านร่วงข้างทาง แล้วดวงหน้าน้อย ๆ ของดรุณีก็เบียดขึ้นมาส่องอย่างอยากรู้อยากเห็นบ้าง“โอ้ว ว้าว นี่เขาเรียกว่าเมืองรึ”หลันฮวา ดรุณีวัยแรกที่ใต้เท้าฉีเก็บมาจากป่าบนภูเขา ร้องถามขึ้นอย่างตื่นเต้น“ใช่ แล้ว และคืนนี้ก็อนุญาตให้เจ้าเที่ยวชมเมืองได้อย่างอิสระ หากเจ้าต้องการอยู่ที่นี่ก็ตามใจเจ้า หรือหากเจ้าอยากไปเมืองหลวงกับข้า เจ้าก็มากลับม
ใต้เท้าฉียกมือทั้งสองข้างโอบเอวบางของสาวงามซ้ายขาวแล้วปักจมูกลงบนหน้าอกอิ่มของสาวงามทั้งสองดังซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!ซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!แผล็บ! แผล็บ!“ชื่นใจจังเลย น่ากินไปหมดนะเนี่ยะ ฮ่า ๆ”นอกจากสูดดมกลิ่นกายสาวจนหนำใจแล้วลิ้นสากของใต้เท้าฉียังเลียแผล็บที่เนินอกขาวผ่อง สร้างความสยิวเล็ก ๆ ให้สาวงาม นางหัวเราะคิกแล้วใช้มือน้อย ๆ ทุบเบา ๆ ที่อกหยุ่น ๆ ของชายชรา“แหม ใต้เท้าชอบทำเป็นเล่นไป”“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ วันนี้ ข้ามีความสุขจริงๆ เลย ได้อยู่ท่ามกลางสาวสวยอย่างพวกเจ้า”“ขอบคุณค่ะใต้เท้า เชิญด้านไหนดีกว่านะคะ”แล้วสองนางซ้ายขวาก็พาใต้เท้าฉีเดินเข้าไป ในหอหมู่ตาน พ่อบ้านยืนมองนายจนหายลับเข้าไปข้างใน แล้วหันมาสั่งพลเกี้ยวให้พักผ่อนได้ตามสบาย ส่วนตนของนั่งพักกับบรรดาสาว ๆ หน้าหอมู่ตาน หากผู้เป็นนายเสร็จกิจจะได้รับใช้ได้ทันการ ทันทีที่ใต้เท้าฉีก้าวเข้าไปภายในหอมู่ตาน ร่างสาวใหญ่ในอาภรณ์ระยิบยับก็ถลาเข้าหาพร้อมกับเสียงวี้ดว้าย“ตายแล้ววววววว ใต้เท้าฉี มาไวกว่าที่คิดไว้นะคะ เชิญใต้เท้าด้านนี้คร่า อุ้ย!”ประโยคสุดท้ายรื่อหงอุทานดังลั่น เมื่อมืออวบ ๆ ของใต้เท
สิ้นคำใต้เท้าฉีก็ก้มลงใช้จมูกบาน ๆ ดุนเกาะอกให้เลื่อนหลุด หัวนมสีชมพูชูชันเชิญชวนปากอวบก็ครอบลงดูดหัวนมสีชมพูระเรื่อ หัวนมแข็งเป็นไตถูกปากหนากลืนหายเข้าไปในโพรงปากอุ่นซ่าน ปลายลิ้นใต้เท้าฉีกระดกสะกิดหัวนมในโพรงปากรัว ๆ แล้วดูดซ้ำซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดเหมยกุ้ยแอ่นอก มือสองข้างสอดเข้าใต้เรือนผมสีเทาขย้ำกดศีรษะใต้เท้าฉีให้แนบชิดหน้าอกยิ่งขึ้นเมื่อร่างอรชรร้อนวูบวาบ ความเสียวซ่านปลาบแปลบแล่นจากหัวนมไปทั่วกายสาว“อ้ายยยยยยย”สาวงามแอ่นอกส่งเสียงครางออกมาเบา ๆซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดใต้เท้าฉีเปลี่ยนมาดูดอีกข้างอย่างเท่าเทียม ร่างอรชรบิดส่าย ปากน้อย ๆ เผยอครางอย่างเร่าร้อน“อะ อ่า”ลิ้นของใต้เท้าฉีขยับปัดป่าย เลียวนไปรอบ ๆ หัวนมที่แข็งเด้งสู้ลิ้น ยิ่งสร้างความเมามันให้ใต้เท้าฉีสะกิดดูดดึงหัวนมรัว ๆ ซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดด“อ้ายยยยยยยยยยยยยย”เหมยกุ้ยครางไม่เป็นศัพท์ เคลิ้มไปกับปลิ้นร้ายของตาเฒ่าขุนนางใหญ่ มือน้อย ๆ ผลักบ่าชายชราเบา ๆ เป็นเชิงขัดขืนให้พองาม“ตะ ใต้เท้า อย่าด่วนกินของหวานก่อนของคาวสิ”
ไป๋หลานตั้งใจรีดน้ำมังกรอย่างสุดฝีมือตามคำบอกของเหมยกุ้ย ทำให้มังกรของใต้เท้าฉีระเบิดน้ำออกมาเต็มปาก พร้อมกับเสียงครางดังลั่นห้อง“โอ้วววววววววววววววววว อ๊าซ์”สาวน้อยดูดกลืนน้ำหวานจนหมดลำมังกร แล้วค่อย ๆ ถอนเรียวปากออก อกของใต้เท้าฉีกระเพื่อมไหวตามแรงหอบหายใจ“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก จะ เจ้าสุดยอดมากเหมยกุ้ย”“สุดยอดแบบนี้ พอที่จะเข้าเฝ้าฮ่องเต้ด้วยได้ไหม”เหมยกุ้ยตัวจริงที่อยู่หลังม่านออดอ้อนถาม“ทำไมจะไม่ได้หล่ะจ๊ะ ข้าจะพาเจ้าไปทุกที่เลย”ใต้เท้าฉีรับคำเพราะความเคลิบเคลิ้ม“งั้น ต้องให้รางวัลใต้เท้าฉีหนัก ๆ สักหน่อยหล่ะ”สิ้นเสียง เหมยกุ้ยพยักพยัดส่งสัญญาณให้ไป๋หลานจัดการเผด็จศึกมังกรเฒ่ามือเรียวเล็กของไป๋หลานลูบไล้มังกรที่เหี่ยวลงไปเพราะถูกรีดพิษออกเมื่อสักครู่ สัมผัสเล้าโลมของสาวน้อยทำให้มังกรเฒ่าร้อนฉ่าพองโตขึ้นอย่างทันใจ จนผู้เป็นเจ้าของถึงกับครางกระเส่าถาม“มะ เหมยกุ้ย เจ้าจะทำอะไร อ๊า อะ”“ตอบแทนที่ใต้เท้าจะพาข้าเข้าเฝ้าฮ่องเต้ไง”“เอ๊าะ อ้าววววววววว”เมื่อมังกรเฒ่าผงาดจนตั้งขึ้น ไป๋หลานก็โขย่งตัวขึ้นคร่อม จนหัวมังกรอวบอ้วนมุดผ่านเข้ารูหอยอันคับแคบ จนนางถึงกับ
ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจ แม้แต่เขายังลุ่มหลงในตัวนาง มีหรือฮ่องเต้จะไม่ทรงโปรดขณะที่รื่อหงกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่กลางห้องโถงพร้อมกับบรรดาสาวสาวทั้งหลาย เหมยกุ้ยก็โอบประคองใต้เท้าฉีเดินลงมาถึงชั้นล่าง“ใต้เท้าฉี แหม แหมเมื่อคืนคงจะจัดจนฟ้าเหลืองสิท่า กว่าจะลุกจากห้องได้ก็ปาเอาตะวันสายโด่งเลยนะท่าน”รื่อหงส์จีบปากจีบคอแซวตามประสา เหมยกุ้ยยิ้มรับน้อย ๆ รับสมอ้างว่าปรนนิบัติใต้เท้าผู้นี้ทั้งคืนยันรุ่งฮ่า ฮ่า ฮ่าใต้เท้าฉีหัวเราะต้องชอบใจ ก่อนเอ่ยว่า“ขอบใจเจ้ามาก ที่เจ้าสามารถอบรมสั่งสอนให้เหมยกุ้ยเป็นสาวงามที่ชาญฉลาด เพียบพร้อมและปรนนิบัติข้าได้ถึงใจจริงๆ”“แหมะ ใต้เท้า ท่านก็ชมเกินไป”รื่อหงยิ้มหน้าระรื่นใต้เท้าฉีจึงเอ่ยต่อไปว่า“ข้าจึงอยากจะขอตัวนาง เพื่อนำไปถวายแด่ฮ่องเต้ เจ้าขัดข้องหรือไม่”รื่อหงหันขวับ ตาลุกวาว แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน“เมื่อกี้ท่านล้อข้าเล่นแน่ แน่”รื่อหงส่ายหน้าแสร้งหัวเราะแกน ๆ“ข้าไม่ได้ล้อเล่น”ใต้เท้าฉีเอ่ยขณะนั่งลงบนเก้าอี้ลงข้างรื่อหง เขาต้องคุยกับนางอย่างจริงจังแม่เล้าผู้มากประสบการณ์มองดูขุนนางผู้นี้ก็เข้าใจในท่าทีจึงพยักหน้าใ
“ใต้เท้า ใต้เท้าขอรับ คุณชายเหว่ยมายืนรอรับถึงหน้าที่พักแล้วขอรับ ข้าเกรงว่าท่านอาจต้องเตรียมคำอธิบายที่พาสาวงามจากหอคณิกาด้วย”ใต้เท้าฉีได้ยินเสียงกระซิบบอกของพ่อบ้านทุกถ้อยคำใต้เท้าผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยเดินโออ่าแผ่ศักดาที่หอมู่ตานเมื่อวาน มาวันนี้ถึงกับเป็นอันเหี่ยวเฉาลงทันทีใต้เท้าฉีมีสีหน้าหวั่นวิตกลงอย่างเห็นได้ชัดเหมยกุ้ยได้ยินทุกคำพูดที่พ่อบ้านเอ่ยเช่นกัน บวกกับหน้าซีดเซียวของใต้เท้าฉีจึงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ว่า“ใต้เท้ามีเรื่องกังวลใจอันใดหรือ”“ข้าเกรงว่าลูกชายของข้าจะไม่เห็นด้วยที่ข้าพาเจ้าไปถวายตัวต่อองค์ฮ่องเต้ อันเหว่ยเป็นคนเถรตรงมาก และไม่นิยมชมชอบนางคณิกาเท่าไหร่นัก”“ท่านกลัวว่า บุตรชายของท่านจะรังเกียจข้าหรือ?”เหมยกุ้ยแสร้งทำสีหน้าเศร้าสร้อยใต้เท้าฉีจึงถือโอกาสโอบกอดสาวงามเพื่อปลอบประโลม“โอ้ ๆ เจ้าไม่ต้องเสียใจไป ข้าว่าไม่มีผู้ชายคนใดในโลกนี้ที่จะรังเกียจสาวงามเช่นเจ้าได้ลงคอ ข้าจะหาทางอธิบายเหตุผลกับลูกชายของข้าเอง”สิ้นคำใต้เท้าฉีจึงก้าวลงมาจากเกี้ยวใต้เท้าฉีรีบเดินเข้าไปหาบุตรชายก่อนที่เขาจะเป็นผู้เดินมาหา หากถึงเกี้ยวจะยิ่งวุ้นกันไปใหญ่“ท่านหายไปไหนมาทั้งคืน แล