“อ่อ ข้าบอกว่า เจ้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก อืม เจ้าชื่ออะไร?”
“ข้าชื่อ หลันฮวา”
“อืม เจ้าช่างเป็นกล้วยไม้ป่าที่กำลังผลิดอกสวยงาม ใยไม่อยู่ประดับป่า”
“ข้าอยากเห็นเมืองหลวงนี่คะ”
“แล้วบิดา มารดาของเจ้าไม่ว่าเอารึ?”
“พ่อกับแม่ข้าตายด้วยโรคไข้ป่า ตั้งแต่ข้ายังเด็ก ตาเลี้ยงข้ามาตั้งแต่เล็ก เมื่ออาทิตย์ก่อนตาออกไปล่าสัตว์ แล้วหายไป ข้ารอแล้วรอเล่า ตาก็ไม่กลับมา ข้าทั้งหิวทั้งกลัวจึงออกเดินมาเรื่อย ๆ กินผลไม้ป่าประทังชีวิต จนมาพบขบวนของใต้เท้า”
เด็กสาวชาวป่า หมอบลงอีกครั้งร้องไห้ สาบคอเสื้อไหวตามแรงสะอึกสะอื้นเผยให้เห็นเต้าน้อยวับแวบ กระตุ้นมังกรของใต้เท้าฉีให้ลุกซู่จนแทบอยากจะดึงดรุณีน้อยที่โหยไห้มากอดไว้แนบอก
“ฮือ ๆ ใต้เท้าโปรดเมตตาให้ข้าน้อยไปด้วยเถิด ข้าขอติดขบวนท่านไปจนกว่าจะถึงเมืองฉีซานเท่านั้น อะ ฮือ ๆ”
“เจ้าช่างเป็นเด็กสาวกำพร้าที่น่าสงสาร น่าสงสาร ข้าเป็นถึงขุนนางผู้ใหญ่ หากปล่อยให้เจ้าเผชิญชะตากรรมในป่า ใครรู้เข้าก็จะติฉินนินทาเป็นแน่แท้ เฮ่อ”
ใต้เท้าฉีเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจเสียงดังให้ได้ยินกันถ้วนหน้า
“ข้าคิดว่า เจ้าเป็นเพียงดรุณีเล็ก ๆ ติดขบวนไปด้วยหนึ่งคนก็คงจะไม่ลำบากอะไร”
“ขอบคุณใต้เท้ามาก ขอบคุณ”
เด็กสาวชาวป่าคำนับโขกศีรษะลงพื้นอย่างสุดแสนดีใจ
ผิดกับผู้ชายอีกคนที่ร่างสูงใหญ่องอาจบนหลังม้า คิ้วคมเข้มของเขาขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากสีน้ำตาลอ่อนรับกับผิวสีทรายของบุรุษเพศอันทรงสง่า แม้เขาจะรู้สึกไม่เห็นด้วยที่บิดาให้เด็กหญิงชาวป่าติดขบวนไปด้วย แต่อันเหว่ยก็ไม่ออกปากทักท้วง
“พ่อบ้าน พ่อบ้าน”
ใต้เท้าฉี ตะโกนเรียกพ่อบ้านที่สุดแสนจะรู้ใจ ด้วยวัยไล่เลี่ยกัน
สักพักพ่อบ้านรูปร่างผอมสูง สวมเสื้อสีกรมท่าเรียบร้อย วิ่งเข้ามาหยุดใกล้เกี้ยว แล้วประสานมือกุมไว้
“ขอรับใต้เท้า”
“หาเสื้อผ้าสะอาด ๆ สักชุดให้นางเปลี่ยนหน่อย เสื้อนางดูจะเก่ามากแล้ว”
พ่อบ้านเหลือบมองเด็กสาวที่นั่งคุกเข่า ก้มหน้า ใบหน้าที่เปรอะเปื้อนด้วยฝุ่นและคาบน้ำตา หากชำระล้างก็คงจะเผยแก้มนวลใสของวัยสาวออกมาให้เห็นเป็นแน่แท้
“ขอรับใต้เท้า
พ่อบ้านรับคำ ตาเล็กหยีสบกับดวงตาแวววับของผู้เป็นนายอย่างรู้ใจ ก่อนที่จะหันไปเอ่ยกับดรุณีน้อยที่นั่งก้มหน้าอย่างเจียมตัว
“เจ้า ตามข้ามา”
เมื่อหลันฮวาตามหลังพ่อบ้านออกไป ใต้เท้าฉีจึงสั่งให้หยุดเกี้ยวพอรอใต้ร่มไม้ใหญ่
สักพักใหญ่เป็นเวลามากพ่อให้ทหารแบกหามได้พักให้หายเหนื่อย พ่อบ้านก็เดินนำหลันฮวากลับมาร่วมขบวน
เด็กสาวที่เคยขะมุกขะมอมเนื้อตัวเปื้อนด้วยคราบโคลน บัดนี้เนื้อตัวสะอาดเกลี้ยงเกลา ผิวสาวนวลผ่องลออราวกับคนละคน พวงแก้มที่เปื้อนคราบน้ำตาเมื่อสักครู่ บัดนี้เป็นสีแดงระเรื่อ ด้วยความเขินอายที่ต้องถูกสายตานับสิบ ๆ คู่จ้องมอง
“อะ เอ่อ มีเขางอกออกมาบนหัวข้าหรือไม่?”
หลันฮวาถามออกมาตามประสาซื่อ ใต้เท้าฉีอมยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ไม่เลย ไม่เลย เจ้าสวยมากต่างหาก”
“ขะ ข้าหรือสวย”
เด็กสาวตาโต ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะมีคนชมว่างาม
“ใช่ ๆ หลันฮวา กล้วยไม้ป่าที่งดงาม ฮ่า ฮ่า”
“ข้าคิดว่าเราควรจะออกเดินทางได้แล้ว เราเสียเวลามากพอแล้ว หากขืนชักช้าเกรงว่าจะถึงเมืองฉีซานยามตะวันลับฟ้าไปแล้ว”
เสียงทุ้มห้าวหาญของผู้เป็นบุตรชายออกความคิดเห็น เพียงตาคมเข้มของเขามองเด็กสาวผ่าน ๆ ก็ทำให้ดรุณีป่าถึงกับขนลุกซู่
ใต้เท้าหลีมองตามหลังอันเหว่ยที่กระทุ้งม้าควบขึ้นด้านหน้าขบวน บุตรชายของเขาคนนี้รูปร่างสง่างามเหมือนเขาตอนหนุ่ม ๆ ไม่มีผิดเพี้ยน แต่นิสัยเคร่งครัดเจ้าระเบียบได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้เป็นมารดาไม่มีบกพร่อง
เพราะความเจ้าระเบียบและความเข้มงวดของฮูหยินจึงทำให้ใต้เท้าฉีไม่กล้าแม้จะแตะต้องข้ารับใช้สาวสวยภายในเรือน ทำได้เพียงแค่ชายตามอง ดังนั้น หากมีเหตุให้ไปราชการต่างเมืองใต้เท้าฉีจะรีบไปก่อนกำหนดเพื่อที่จะได้หาความสำราญยามไกลหูไกลตาฮูหยิน
“ฮ่า ๆ บุรุษหนุ่มมักเลือดร้อน เจ้าอย่าถือสาบุตรของข้าเลยนะ”
ใต้เท้าฉีเอ่ยกับหลันฮวาที่ก้มหน้าอย่างประหม่า นางไม่เคยชินกับคำพูดหวานหู นุ่มนวล ไม่คุ้นเคยกับเสื้อสีขาวบางที่ทาบทับบนตัวรัดกายจนเห็นกลมกลึงไปทุกสัดส่วน
“เอาหละ เจ้าขึ้นมานั่งบนเกี้ยวกับข้าสิ ขาน้อย ๆ ของเจ้าคงเดินไม่ถึงเมืองฉีซานหรอก”
“ใต้เท้าเมตตาขามากไปแล้ว ข้าเดินไหว”
“บนเกี้ยวข้ามีขนมและผลไม้อร่อย ๆ ด้วยนะ เจ้าจะได้กินไปตลอดทาง”
เด็กสาวชาวป่าเงยขึ้นแทบจะทันที ตาของหล่อนเป็นประกายสุกใสที่ได้ยินคำว่าขนมและอาหาร
“ขอบคุณใต้เท้าที่เมตตา ขอบคุณ”
“มาสิ”
ใต้เท้าฉีเดินนำเด็กน้อยให้ขึ้นนั่งบนเกี้ยว
เมื่อทั้งคู่นั่งข้างในเป็นที่เรียบร้อย พ่อบ้านจึงปิดผ้าม่านบังไว้จนมิด ก่อนออกคำสั่งเคลื่อนขบวน
“ยกเกี้ยวววววววววว เดินหน้า”
ภายในเกี้ยวมีพื้นที่สำหรับนั่งเพียงคนเดียวเมื่อมีเด็กสาวเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งคน จึงทำให้ต้องนั่งชิดเนื้อแนบเนื้อ ใต้เท้าฉีรู้สึกยินดีกับเนื้อสัมผัสนี้เป็นอย่างยิ่ง
“ขนมลองชิมดูสิ”
“ขอบคุณ”
มือขาวเนียนรับขนมไป แล้วยัดเข้าปากอย่างว่องไวเพราะนางไม่ได้ทานอะไรมาเลยตั้งแต่เมื่อวาน
“นั่งสบายหรือเปล่า”
ใต้เท้าฉีชวนคุยเมื่อเห็นนางหยุดทานขนม แล้วดื่มน้ำ เศษขนมติดอยู่ที่ริมฝีปากอิ่ม
“สบายมาก”
“แต่นั่งแบบนี้จะสบายกว่านะ”
ใต้เท้าฉีออกแรงยกดรุณีป่า ร่างน้อย ๆ ของนางก็เลื่อนขึ้นนั่งบนตักแกร่งอย่างง่ายดาย
“อ้ายยยยย”
นางตกใจถึงกับอุทานออกมา แก้มนวลขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความใกล้ชิดบุรุษ ตั้งแต่จำความได้ผู้ชายเพียงคนเดียวในบ้านก็ไม่เคยอุ้มนางให้นั่งตักในท่าหันหน้าเข้ากัน อกชิดอก นมชิดนม จมูกจนจมูก เช่นนี้มาก่อน
“ฮ่า ๆ ฮ่า ไม่ต้องตกใจ ข้าแค่จะพาเจ้าเล่นอะไรที่มันสนุก ๆ”
ใบหน้ากระเหี้ยนกระหือรือก้มลงกระซิบแนบใบหู ความสยิวเล็ก ๆ ทำให้ดรุณีป่าเบี่ยงหลบ เอียงอาย ก่อนเอ่ยถาม
“สนุกเหรอ?”
ดรุณีน้อยบนตักตาลุกวาว อยากรู้อยากเห็น อะไรที่ว่าสนุก
“ใช่ สนุกจนถึงสวรรค์ แต่มีเงื่อนไขว่าเจ้าห้ามส่งเสียงดัง หากส่งเสียงดังเทพยดาจะพิโรธ และสวรรค์ก็จะไม่เห็น”
“ได้! แค่ไม่ส่งเสียง”
หลันฮวารับคำอย่างกระตือรือร้นอยากเห็นสวรรค์ใจจะขาด
“อ่า ขั้นแรกข้าจะค่อย ๆ เปิดพลังสวรรค์ของเจ้า”
“ยังไง”
“ยังงี้ไงเล่า”
สิ้นเสียงปากหนาก็ประกบกลีบปากบางจนมิด ความร้อนระอุแผ่ซานไปทั่วจะปากอิ่มของดรุณีน้อยร่างบางของดรุณีป่าจะขยับห่าง มือหนาของใต้เท้าฉีจึงรัดแน่นเข้า มืออีกข้างกดลงที่ลำคอสวยออกแรงให้ปากอิ่มเผยอออก แล้วลิ้นร้อนก็สอดเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นเล็ก ครวญหาน้ำหวานป่าส่งความซ่านสยิวไปทั่วทั้งร่างบางความซ่านเสียวจากปลายลิ้นที่นางไม่เคยสัมผัสมาก่อนมันจู่โจมร่างกายที่แข็งขืนเมื่อครู่ของดรุณีป่าอ่อนยวบลงราวกับไฟรน จนนางส่งเสียงครางออกมา“อือ”“และจุดต่อไปที่ต้องเปิดพลังคือคอขาว ๆ ของเจ้า”เมื่อร่างเล็กอ่อนระทวยลง ผู้คุมเกมจึงลากลิ้นร้อนไล้ลงมาที่ลำคอขาวผ่อง ลิ้มลองหยาดเหงื่อดรุณีป่าที่ค่อย ๆ ผุดออกมาเพราะหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงระส่ำ มือหนาของใต้เท้าฉีเคลื่อนออกจากศีรษะสาวน้อย เลื่อนลงมากระทุ้งผ้ามัดเอวบางให้หลุดออกทันทีที่ผ้ามัดเอวหลุดออกเสื้อขาวของเด็กสาวป่าก็เผยอเปิดออกจนเห็นเต้าน้อย ๆ ที่ตั้งชูราวกับดอกบัวตูม หัวนมน้อย ๆ สีชมพูหวานชูเด่นจนน่ากิน“ตะ ต้เท้าแก้ผ้าข้าทำไม”เสียงสั่นน้อยๆ ของหญิงสาว ทักท้วง“ปลดปล่อยพลังสวรรค์ของเจ้าออกจากทรวงอก อ่า ช่างงดงามยิ่งนัก”ลิ้นสากของใต้เท้าฉีลากไล้วนเวียน
ณ หอมู่ตานรื่อหง ผู้คุมอำนาจแห่ง หอมู่ตาน เดินนวยนาดมาที่ห้องกุหลาบแดงอย่างอารมณ์ดีเมื่อมาถึงที่หมายนางหยุดฟังเสียงพิณอันแสนไพเราะที่ผู้เป็นเจ้าของห้องมักจะบรรเลงอยู่เสมอ นางรู้สึกว่าตนเองโชคดีไม่น้อยที่ได้ครอบครองเพชรเม็ดงามเม็ดนี้“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่สร้างชื่อเสียงให้กับหอมู่ตาน จนกลายเป็นหอสวรรค์อันดับหนึ่ง“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่สร้างเงินทองให้กับแม่เล้าอย่างรื่อหงให้มีกินมีใช้ไปตลอดชาติ“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่รื่อหงเก็บมาจากซากโคลนตมท่ามกลางความแร้นแค้นหลังจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อ 6 ปีก่อนเมื่อ 6 ปีก่อน รื่อหง ได้สร้างหอมู่ตานขึ้นมาในปีแรก มีนางคณิกาในหอแห่งนี้แค่ไม่กี่คน ในช่วงนั้นผู้คนยังไม่นิยมใช้บริการสถานเริงรมย์เท่าใดนัก เนื่องด้วยเป็นยุคข้าวยากหมากแพงส่งผลให้เกิดโจรชุกชุม นอกจากชาวบ้านจะอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ แล้วยังอยู่ด้วยความหวาดกลัว หอมู่ตานรอดพ้นจากการปล้นก็เพราะนางต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้กับกลุ่มโจรที่ทรงอิทธิพลที่สุด รายได้เพียงน้อยนิดของหอมู่ตานจึงถูกจ่ายให้กับค่าโจรเสียมากกว่า รื่อหงจึงพยายามคิดหาทางที่จะเพิ่มรายได้ให้กับหอมู่ตานให้ได้มากที่สุดเ
แม่เล้าลำเลิกบุญคุณ เหมยกุ้ยได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน นางฟังประโยคนี้ซ้ำ ๆ มานานกว่า 6 ปีแล้ว และ 6 ปีที่นางต้องตกเป็นทาสกามเพื่อทำเงินให้กับแม่เล้าผู้นี้“ถ้าเช่นนั้น ก็สุดแล้วแต่ท่านแม่จะเห็นสมควรเถิด”เหมยกุ้ยรับคำแผ่วเบา รื่อหงจึงเอื้อมมือมากุมมือน้อยของสาวสวยไว้พลางปลอบประโลมว่า“ดีมากเหมยกุ้ย เจ้าช่างเป็นเด็กดียิ่งนัก วันนี้ถือว่าข้าขอเจ้าเป็นพิเศษก็แล้วกัน เพราะผู้ที่จะมาวันนี้เป็นขุนนางใหญ่จากทางเหนือ ปีหนึ่งท่านถึงจะเดินทางผ่านมาเมืองฉีซาน ท่านอุตส่าห์ส่งม้าเร็วมาจองตัวเจ้าไว้ก่อนขบวนของท่านจะมาถึงเสียอีก ให้ถือว่าทำบุญทำทานกับคนแก่แล้วกันนะเหมยกุ้ย”เหมยกุ้ยพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ รื่อหงยิ้มหน้าระรื่นเมื่อสาวงามแห่งหอมู่ตานยอมรับงาน นางจึงกล่าวต่อว่า“ก่อนรับแขกคืนนี้เจ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ข้าจะจัดให้เจ้าเป็นพิเศษ”“ขอบคุณท่านแม่ที่กรุณา หากเป็นได้ท่านแม่โปรดให้ไป๋หลาน หรือหวงหลานเป็นผู้ยกอาหารและเหล้าขึ้นมาที่ห้องกุหลาบได้หรือไม่”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ทำไมจะไม่ได้หล่ะ วันนี้ไป๋หลานว่างข้าจะให้นางขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้วกันนะ”“ขอบคุณท่านแม่”เหมยกุ้ยก้มศีรษะเล
สองหนุ่มเพ่งมองร่างสาวน้อยกึ่งเปลือยบนตักรื่อหง แล้วหายใจแรงหนักหน่วงอย่างควบคุมอารมณ์ เพราะร่างงดงามจนน่ากลืนกินทั้งตัวนั้นมันปลุกพลังความเป็นชายของเขาทั้งคู่ จนเจ็บร้าวที่หว่างขา“ช่วยสอนงานนางที”รื่อหงผลักร่างอรชรให้ชายกำยำ หนึ่งในสองนั้นอุ้มเหมยกุ้ยขึ้นอย่างง่ายดาย สติที่พอจะเหลืออยู่น้อยนิดบังคับให้นางส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นว่ารื่อหงกำลังหันหลังเดินออกไปจากห้อง“ทะ ท่านแม่! ช่วยข้าด้วย ข้าเป็นอะไร ยะ อย่าทิ้งข้า”“ข้าแค่ให้เจ้าดื่มกระไรเล็กน้อย เพื่อให้การเป็นนางคณิกาครั้งแรกของเจ้าไม่เจ็บปวดมากนัก และจะเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ”เมื่อกล่าวจบ รื่อหงก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เหมยกุ้ยอยู่กับชายบึกบึน หน้าเหี้ยม ที่มองผ่าน ๆ คล้ายกับกลุ่มโจรที่นางเคยพบเมื่อ 5 วันก่อนเหมยกุ้ยพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากอ้อมอกของชายกำยำผู้นั้น แต่เมื่อเนื้อตัวเสียดสีกับแผงอกแกร่ง นางก็รู้สึกร้อนวูบวาบราวกับว่าเนื้อตัวกำลังจะลาย จนต้องโอบร่างกำยำไว้แน่น“อือ สาวน้อย ใจเย็น ๆ สิ เดี๋ยวพวกข้าจะค่อย ๆ สอนเจ้าเอง ว่า นางคณิกาที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง ฮ่า ๆ”จางเหว่ยวางร่างอ่อนระทวยข
เหมยกุ้ยครางประท้วง ลองมือผวาจิกเข้าไปที่สะโพกแกร่งของชายหนุ่ม ในขณะที่ลิ้นเล็กพยายามดุนหัวบากมังกรของเขาให้ออกไปจากปาก ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้แก่ชายหนุ่มจนเขาต้องแหงนหน้าครางออกมา“อร้ากกกกกกกก ซี้ดดดดดดดดดดดด โอ้ววววววว” ส่วนล่างหวังเหล่ยก็ค่อย ๆ ขยับสะโพกแทงเข้าออก ให้กลีบหอยคายน้ำหวานออกมาไม่หยุด ชายหนุ่มเร่งจังหวะแทงเข้าออกจนกลีบหอยเบ่งปริส๊วบบบบบบบบบบบบจึ๊ก!“อ่าซ์”ส๊วบ ส๊วบ จึ๊ก!“อ่าซ์”“โอ้วววววววววว”เหม้ยกุ้ยเจ็บแปลบปนสุขสมเจียนขาดใจ ยิ่งหวังเหว่ยกระแทกดุ้นมังกรเข้าหอยนางมากเท่าไหร่ ปากนางก็ยิ่งรูดแก่นมังกรจางเหว่ยหนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น“อ๊ากกกก โอ้ววววว ไม่ไหวแล้ววววววว จะถึงแล้ว จะถึงแล้ว”จางเหว่ยครวญครางอย่างสุขสม ดวงดาวเริ่มพร่างพราย เขาหยัดสะโพกใส่ปากเล็กของเหมยกุ้ยให้มากขึ้นเพื่อให้แตะถึงสวรรค์ นางโม้กมังกรเขาอย่างร้อนแรง ทั้งรูด ทั้งดุน ดูดจนแก้มตอบเสียงดูดดังจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“โอ้ววววว ซี้ดดดดดด ยะ อย่างนั้น เร็วอีกๆ”จางเหว่ยเกร็งตัวอย่างเสียวซ่าน มือสากของเขาตะปบลงเป็นสองเต้างาม เคล้นคลึงหัวนมชมพูจนเจ้าของมันบิดร่างแอ่นอกอย่างเสียวซ่าน ราว
เมื่อขบวนเกี้ยวของใต้เท้าอันฉีเดินทางเข้าสู่เมืองฉีซาน ตะวันก็โพล้เพล้ แสงสีทองสาดส่องลงบนถนนในเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนสัญจรไปมา เมืองฉีซานเป็นหัวเมืองสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนทางเหนือ และเป็นเมืองประตูสู่ภาคกลาง เมืองนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ รถม้าวิ่งกันขวักไขว่ บ้านเรือนร้านค้าเรียงรายตามสองฝั่งถนนถนนในตัวเมืองใหญ่ไม่มาก แต่ก็กว้างพอให้รถเทียมม้า และรถบรรทุกของสองคันแล่นสวนกันได้เมื่อขบวนเกี้ยวใต้เท้าอันฉี ที่นำขบวนโดยบุรุษหนุ่มสง่างามควบม้าสีขาวพันธุ์ดี ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม ดวงตาคมกวาดไปรอบ ๆ เมือง บุรุษรูปงามผู้นี้ คือ “อันเหว่ย” บุตรชายเพียงคนเดียวของผู้ที่นั่งอยู่ในเกี้ยวใต้เท้าอันฉี หรือ ใต้เท้าฉี สอดมือเปิดม่านหน้าต่างข้างเกี้ยวขึ้นมองดูร้านร่วงข้างทาง แล้วดวงหน้าน้อย ๆ ของดรุณีก็เบียดขึ้นมาส่องอย่างอยากรู้อยากเห็นบ้าง“โอ้ว ว้าว นี่เขาเรียกว่าเมืองรึ”หลันฮวา ดรุณีวัยแรกที่ใต้เท้าฉีเก็บมาจากป่าบนภูเขา ร้องถามขึ้นอย่างตื่นเต้น“ใช่ แล้ว และคืนนี้ก็อนุญาตให้เจ้าเที่ยวชมเมืองได้อย่างอิสระ หากเจ้าต้องการอยู่ที่นี่ก็ตามใจเจ้า หรือหากเจ้าอยากไปเมืองหลวงกับข้า เจ้าก็มากลับม
ใต้เท้าฉียกมือทั้งสองข้างโอบเอวบางของสาวงามซ้ายขาวแล้วปักจมูกลงบนหน้าอกอิ่มของสาวงามทั้งสองดังซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!ซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!แผล็บ! แผล็บ!“ชื่นใจจังเลย น่ากินไปหมดนะเนี่ยะ ฮ่า ๆ”นอกจากสูดดมกลิ่นกายสาวจนหนำใจแล้วลิ้นสากของใต้เท้าฉียังเลียแผล็บที่เนินอกขาวผ่อง สร้างความสยิวเล็ก ๆ ให้สาวงาม นางหัวเราะคิกแล้วใช้มือน้อย ๆ ทุบเบา ๆ ที่อกหยุ่น ๆ ของชายชรา“แหม ใต้เท้าชอบทำเป็นเล่นไป”“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ วันนี้ ข้ามีความสุขจริงๆ เลย ได้อยู่ท่ามกลางสาวสวยอย่างพวกเจ้า”“ขอบคุณค่ะใต้เท้า เชิญด้านไหนดีกว่านะคะ”แล้วสองนางซ้ายขวาก็พาใต้เท้าฉีเดินเข้าไป ในหอหมู่ตาน พ่อบ้านยืนมองนายจนหายลับเข้าไปข้างใน แล้วหันมาสั่งพลเกี้ยวให้พักผ่อนได้ตามสบาย ส่วนตนของนั่งพักกับบรรดาสาว ๆ หน้าหอมู่ตาน หากผู้เป็นนายเสร็จกิจจะได้รับใช้ได้ทันการ ทันทีที่ใต้เท้าฉีก้าวเข้าไปภายในหอมู่ตาน ร่างสาวใหญ่ในอาภรณ์ระยิบยับก็ถลาเข้าหาพร้อมกับเสียงวี้ดว้าย“ตายแล้ววววววว ใต้เท้าฉี มาไวกว่าที่คิดไว้นะคะ เชิญใต้เท้าด้านนี้คร่า อุ้ย!”ประโยคสุดท้ายรื่อหงอุทานดังลั่น เมื่อมืออวบ ๆ ของใต้เท
สิ้นคำใต้เท้าฉีก็ก้มลงใช้จมูกบาน ๆ ดุนเกาะอกให้เลื่อนหลุด หัวนมสีชมพูชูชันเชิญชวนปากอวบก็ครอบลงดูดหัวนมสีชมพูระเรื่อ หัวนมแข็งเป็นไตถูกปากหนากลืนหายเข้าไปในโพรงปากอุ่นซ่าน ปลายลิ้นใต้เท้าฉีกระดกสะกิดหัวนมในโพรงปากรัว ๆ แล้วดูดซ้ำซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดเหมยกุ้ยแอ่นอก มือสองข้างสอดเข้าใต้เรือนผมสีเทาขย้ำกดศีรษะใต้เท้าฉีให้แนบชิดหน้าอกยิ่งขึ้นเมื่อร่างอรชรร้อนวูบวาบ ความเสียวซ่านปลาบแปลบแล่นจากหัวนมไปทั่วกายสาว“อ้ายยยยยยย”สาวงามแอ่นอกส่งเสียงครางออกมาเบา ๆซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดใต้เท้าฉีเปลี่ยนมาดูดอีกข้างอย่างเท่าเทียม ร่างอรชรบิดส่าย ปากน้อย ๆ เผยอครางอย่างเร่าร้อน“อะ อ่า”ลิ้นของใต้เท้าฉีขยับปัดป่าย เลียวนไปรอบ ๆ หัวนมที่แข็งเด้งสู้ลิ้น ยิ่งสร้างความเมามันให้ใต้เท้าฉีสะกิดดูดดึงหัวนมรัว ๆ ซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดด“อ้ายยยยยยยยยยยยยย”เหมยกุ้ยครางไม่เป็นศัพท์ เคลิ้มไปกับปลิ้นร้ายของตาเฒ่าขุนนางใหญ่ มือน้อย ๆ ผลักบ่าชายชราเบา ๆ เป็นเชิงขัดขืนให้พองาม“ตะ ใต้เท้า อย่าด่วนกินของหวานก่อนของคาวสิ”