“อ่อ ข้าบอกว่า เจ้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก อืม เจ้าชื่ออะไร?”
“ข้าชื่อ หลันฮวา”
“อืม เจ้าช่างเป็นกล้วยไม้ป่าที่กำลังผลิดอกสวยงาม ใยไม่อยู่ประดับป่า”
“ข้าอยากเห็นเมืองหลวงนี่คะ”
“แล้วบิดา มารดาของเจ้าไม่ว่าเอารึ?”
“พ่อกับแม่ข้าตายด้วยโรคไข้ป่า ตั้งแต่ข้ายังเด็ก ตาเลี้ยงข้ามาตั้งแต่เล็ก เมื่ออาทิตย์ก่อนตาออกไปล่าสัตว์ แล้วหายไป ข้ารอแล้วรอเล่า ตาก็ไม่กลับมา ข้าทั้งหิวทั้งกลัวจึงออกเดินมาเรื่อย ๆ กินผลไม้ป่าประทังชีวิต จนมาพบขบวนของใต้เท้า”
เด็กสาวชาวป่า หมอบลงอีกครั้งร้องไห้ สาบคอเสื้อไหวตามแรงสะอึกสะอื้นเผยให้เห็นเต้าน้อยวับแวบ กระตุ้นมังกรของใต้เท้าฉีให้ลุกซู่จนแทบอยากจะดึงดรุณีน้อยที่โหยไห้มากอดไว้แนบอก
“ฮือ ๆ ใต้เท้าโปรดเมตตาให้ข้าน้อยไปด้วยเถิด ข้าขอติดขบวนท่านไปจนกว่าจะถึงเมืองฉีซานเท่านั้น อะ ฮือ ๆ”
“เจ้าช่างเป็นเด็กสาวกำพร้าที่น่าสงสาร น่าสงสาร ข้าเป็นถึงขุนนางผู้ใหญ่ หากปล่อยให้เจ้าเผชิญชะตากรรมในป่า ใครรู้เข้าก็จะติฉินนินทาเป็นแน่แท้ เฮ่อ”
ใต้เท้าฉีเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจเสียงดังให้ได้ยินกันถ้วนหน้า
“ข้าคิดว่า เจ้าเป็นเพียงดรุณีเล็ก ๆ ติดขบวนไปด้วยหนึ่งคนก็คงจะไม่ลำบากอะไร”
“ขอบคุณใต้เท้ามาก ขอบคุณ”
เด็กสาวชาวป่าคำนับโขกศีรษะลงพื้นอย่างสุดแสนดีใจ
ผิดกับผู้ชายอีกคนที่ร่างสูงใหญ่องอาจบนหลังม้า คิ้วคมเข้มของเขาขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากสีน้ำตาลอ่อนรับกับผิวสีทรายของบุรุษเพศอันทรงสง่า แม้เขาจะรู้สึกไม่เห็นด้วยที่บิดาให้เด็กหญิงชาวป่าติดขบวนไปด้วย แต่อันเหว่ยก็ไม่ออกปากทักท้วง
“พ่อบ้าน พ่อบ้าน”
ใต้เท้าฉี ตะโกนเรียกพ่อบ้านที่สุดแสนจะรู้ใจ ด้วยวัยไล่เลี่ยกัน
สักพักพ่อบ้านรูปร่างผอมสูง สวมเสื้อสีกรมท่าเรียบร้อย วิ่งเข้ามาหยุดใกล้เกี้ยว แล้วประสานมือกุมไว้
“ขอรับใต้เท้า”
“หาเสื้อผ้าสะอาด ๆ สักชุดให้นางเปลี่ยนหน่อย เสื้อนางดูจะเก่ามากแล้ว”
พ่อบ้านเหลือบมองเด็กสาวที่นั่งคุกเข่า ก้มหน้า ใบหน้าที่เปรอะเปื้อนด้วยฝุ่นและคาบน้ำตา หากชำระล้างก็คงจะเผยแก้มนวลใสของวัยสาวออกมาให้เห็นเป็นแน่แท้
“ขอรับใต้เท้า
พ่อบ้านรับคำ ตาเล็กหยีสบกับดวงตาแวววับของผู้เป็นนายอย่างรู้ใจ ก่อนที่จะหันไปเอ่ยกับดรุณีน้อยที่นั่งก้มหน้าอย่างเจียมตัว
“เจ้า ตามข้ามา”
เมื่อหลันฮวาตามหลังพ่อบ้านออกไป ใต้เท้าฉีจึงสั่งให้หยุดเกี้ยวพอรอใต้ร่มไม้ใหญ่
สักพักใหญ่เป็นเวลามากพ่อให้ทหารแบกหามได้พักให้หายเหนื่อย พ่อบ้านก็เดินนำหลันฮวากลับมาร่วมขบวน
เด็กสาวที่เคยขะมุกขะมอมเนื้อตัวเปื้อนด้วยคราบโคลน บัดนี้เนื้อตัวสะอาดเกลี้ยงเกลา ผิวสาวนวลผ่องลออราวกับคนละคน พวงแก้มที่เปื้อนคราบน้ำตาเมื่อสักครู่ บัดนี้เป็นสีแดงระเรื่อ ด้วยความเขินอายที่ต้องถูกสายตานับสิบ ๆ คู่จ้องมอง
“อะ เอ่อ มีเขางอกออกมาบนหัวข้าหรือไม่?”
หลันฮวาถามออกมาตามประสาซื่อ ใต้เท้าฉีอมยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ไม่เลย ไม่เลย เจ้าสวยมากต่างหาก”
“ขะ ข้าหรือสวย”
เด็กสาวตาโต ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะมีคนชมว่างาม
“ใช่ ๆ หลันฮวา กล้วยไม้ป่าที่งดงาม ฮ่า ฮ่า”
“ข้าคิดว่าเราควรจะออกเดินทางได้แล้ว เราเสียเวลามากพอแล้ว หากขืนชักช้าเกรงว่าจะถึงเมืองฉีซานยามตะวันลับฟ้าไปแล้ว”
เสียงทุ้มห้าวหาญของผู้เป็นบุตรชายออกความคิดเห็น เพียงตาคมเข้มของเขามองเด็กสาวผ่าน ๆ ก็ทำให้ดรุณีป่าถึงกับขนลุกซู่
ใต้เท้าหลีมองตามหลังอันเหว่ยที่กระทุ้งม้าควบขึ้นด้านหน้าขบวน บุตรชายของเขาคนนี้รูปร่างสง่างามเหมือนเขาตอนหนุ่ม ๆ ไม่มีผิดเพี้ยน แต่นิสัยเคร่งครัดเจ้าระเบียบได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้เป็นมารดาไม่มีบกพร่อง
เพราะความเจ้าระเบียบและความเข้มงวดของฮูหยินจึงทำให้ใต้เท้าฉีไม่กล้าแม้จะแตะต้องข้ารับใช้สาวสวยภายในเรือน ทำได้เพียงแค่ชายตามอง ดังนั้น หากมีเหตุให้ไปราชการต่างเมืองใต้เท้าฉีจะรีบไปก่อนกำหนดเพื่อที่จะได้หาความสำราญยามไกลหูไกลตาฮูหยิน
“ฮ่า ๆ บุรุษหนุ่มมักเลือดร้อน เจ้าอย่าถือสาบุตรของข้าเลยนะ”
ใต้เท้าฉีเอ่ยกับหลันฮวาที่ก้มหน้าอย่างประหม่า นางไม่เคยชินกับคำพูดหวานหู นุ่มนวล ไม่คุ้นเคยกับเสื้อสีขาวบางที่ทาบทับบนตัวรัดกายจนเห็นกลมกลึงไปทุกสัดส่วน
“เอาหละ เจ้าขึ้นมานั่งบนเกี้ยวกับข้าสิ ขาน้อย ๆ ของเจ้าคงเดินไม่ถึงเมืองฉีซานหรอก”
“ใต้เท้าเมตตาขามากไปแล้ว ข้าเดินไหว”
“บนเกี้ยวข้ามีขนมและผลไม้อร่อย ๆ ด้วยนะ เจ้าจะได้กินไปตลอดทาง”
เด็กสาวชาวป่าเงยขึ้นแทบจะทันที ตาของหล่อนเป็นประกายสุกใสที่ได้ยินคำว่าขนมและอาหาร
“ขอบคุณใต้เท้าที่เมตตา ขอบคุณ”
“มาสิ”
ใต้เท้าฉีเดินนำเด็กน้อยให้ขึ้นนั่งบนเกี้ยว
เมื่อทั้งคู่นั่งข้างในเป็นที่เรียบร้อย พ่อบ้านจึงปิดผ้าม่านบังไว้จนมิด ก่อนออกคำสั่งเคลื่อนขบวน
“ยกเกี้ยวววววววววว เดินหน้า”
ภายในเกี้ยวมีพื้นที่สำหรับนั่งเพียงคนเดียวเมื่อมีเด็กสาวเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งคน จึงทำให้ต้องนั่งชิดเนื้อแนบเนื้อ ใต้เท้าฉีรู้สึกยินดีกับเนื้อสัมผัสนี้เป็นอย่างยิ่ง
“ขนมลองชิมดูสิ”
“ขอบคุณ”
มือขาวเนียนรับขนมไป แล้วยัดเข้าปากอย่างว่องไวเพราะนางไม่ได้ทานอะไรมาเลยตั้งแต่เมื่อวาน
“นั่งสบายหรือเปล่า”
ใต้เท้าฉีชวนคุยเมื่อเห็นนางหยุดทานขนม แล้วดื่มน้ำ เศษขนมติดอยู่ที่ริมฝีปากอิ่ม
“สบายมาก”
“แต่นั่งแบบนี้จะสบายกว่านะ”
ใต้เท้าฉีออกแรงยกดรุณีป่า ร่างน้อย ๆ ของนางก็เลื่อนขึ้นนั่งบนตักแกร่งอย่างง่ายดาย
“อ้ายยยยย”
นางตกใจถึงกับอุทานออกมา แก้มนวลขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความใกล้ชิดบุรุษ ตั้งแต่จำความได้ผู้ชายเพียงคนเดียวในบ้านก็ไม่เคยอุ้มนางให้นั่งตักในท่าหันหน้าเข้ากัน อกชิดอก นมชิดนม จมูกจนจมูก เช่นนี้มาก่อน
“ฮ่า ๆ ฮ่า ไม่ต้องตกใจ ข้าแค่จะพาเจ้าเล่นอะไรที่มันสนุก ๆ”
ใบหน้ากระเหี้ยนกระหือรือก้มลงกระซิบแนบใบหู ความสยิวเล็ก ๆ ทำให้ดรุณีป่าเบี่ยงหลบ เอียงอาย ก่อนเอ่ยถาม
“สนุกเหรอ?”
ดรุณีน้อยบนตักตาลุกวาว อยากรู้อยากเห็น อะไรที่ว่าสนุก
“ใช่ สนุกจนถึงสวรรค์ แต่มีเงื่อนไขว่าเจ้าห้ามส่งเสียงดัง หากส่งเสียงดังเทพยดาจะพิโรธ และสวรรค์ก็จะไม่เห็น”
“ได้! แค่ไม่ส่งเสียง”
หลันฮวารับคำอย่างกระตือรือร้นอยากเห็นสวรรค์ใจจะขาด
“อ่า ขั้นแรกข้าจะค่อย ๆ เปิดพลังสวรรค์ของเจ้า”
“ยังไง”
“ยังงี้ไงเล่า”
สิ้นเสียงปากหนาก็ประกบกลีบปากบางจนมิด ความร้อนระอุแผ่ซานไปทั่วจะปากอิ่มของดรุณีน้อยร่างบางของดรุณีป่าจะขยับห่าง มือหนาของใต้เท้าฉีจึงรัดแน่นเข้า มืออีกข้างกดลงที่ลำคอสวยออกแรงให้ปากอิ่มเผยอออก แล้วลิ้นร้อนก็สอดเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นเล็ก ครวญหาน้ำหวานป่าส่งความซ่านสยิวไปทั่วทั้งร่างบางความซ่านเสียวจากปลายลิ้นที่นางไม่เคยสัมผัสมาก่อนมันจู่โจมร่างกายที่แข็งขืนเมื่อครู่ของดรุณีป่าอ่อนยวบลงราวกับไฟรน จนนางส่งเสียงครางออกมา“อือ”“และจุดต่อไปที่ต้องเปิดพลังคือคอขาว ๆ ของเจ้า”เมื่อร่างเล็กอ่อนระทวยลง ผู้คุมเกมจึงลากลิ้นร้อนไล้ลงมาที่ลำคอขาวผ่อง ลิ้มลองหยาดเหงื่อดรุณีป่าที่ค่อย ๆ ผุดออกมาเพราะหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงระส่ำ มือหนาของใต้เท้าฉีเคลื่อนออกจากศีรษะสาวน้อย เลื่อนลงมากระทุ้งผ้ามัดเอวบางให้หลุดออกทันทีที่ผ้ามัดเอวหลุดออกเสื้อขาวของเด็กสาวป่าก็เผยอเปิดออกจนเห็นเต้าน้อย ๆ ที่ตั้งชูราวกับดอกบัวตูม หัวนมน้อย ๆ สีชมพูหวานชูเด่นจนน่ากิน“ตะ ต้เท้าแก้ผ้าข้าทำไม”เสียงสั่นน้อยๆ ของหญิงสาว ทักท้วง“ปลดปล่อยพลังสวรรค์ของเจ้าออกจากทรวงอก อ่า ช่างงดงามยิ่งนัก”ลิ้นสากของใต้เท้าฉีลากไล้วนเวียน
ณ หอมู่ตานรื่อหง ผู้คุมอำนาจแห่ง หอมู่ตาน เดินนวยนาดมาที่ห้องกุหลาบแดงอย่างอารมณ์ดีเมื่อมาถึงที่หมายนางหยุดฟังเสียงพิณอันแสนไพเราะที่ผู้เป็นเจ้าของห้องมักจะบรรเลงอยู่เสมอ นางรู้สึกว่าตนเองโชคดีไม่น้อยที่ได้ครอบครองเพชรเม็ดงามเม็ดนี้“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่สร้างชื่อเสียงให้กับหอมู่ตาน จนกลายเป็นหอสวรรค์อันดับหนึ่ง“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่สร้างเงินทองให้กับแม่เล้าอย่างรื่อหงให้มีกินมีใช้ไปตลอดชาติ“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่รื่อหงเก็บมาจากซากโคลนตมท่ามกลางความแร้นแค้นหลังจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อ 6 ปีก่อนเมื่อ 6 ปีก่อน รื่อหง ได้สร้างหอมู่ตานขึ้นมาในปีแรก มีนางคณิกาในหอแห่งนี้แค่ไม่กี่คน ในช่วงนั้นผู้คนยังไม่นิยมใช้บริการสถานเริงรมย์เท่าใดนัก เนื่องด้วยเป็นยุคข้าวยากหมากแพงส่งผลให้เกิดโจรชุกชุม นอกจากชาวบ้านจะอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ แล้วยังอยู่ด้วยความหวาดกลัว หอมู่ตานรอดพ้นจากการปล้นก็เพราะนางต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้กับกลุ่มโจรที่ทรงอิทธิพลที่สุด รายได้เพียงน้อยนิดของหอมู่ตานจึงถูกจ่ายให้กับค่าโจรเสียมากกว่า รื่อหงจึงพยายามคิดหาทางที่จะเพิ่มรายได้ให้กับหอมู่ตานให้ได้มากที่สุดเ
แม่เล้าลำเลิกบุญคุณ เหมยกุ้ยได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน นางฟังประโยคนี้ซ้ำ ๆ มานานกว่า 6 ปีแล้ว และ 6 ปีที่นางต้องตกเป็นทาสกามเพื่อทำเงินให้กับแม่เล้าผู้นี้“ถ้าเช่นนั้น ก็สุดแล้วแต่ท่านแม่จะเห็นสมควรเถิด”เหมยกุ้ยรับคำแผ่วเบา รื่อหงจึงเอื้อมมือมากุมมือน้อยของสาวสวยไว้พลางปลอบประโลมว่า“ดีมากเหมยกุ้ย เจ้าช่างเป็นเด็กดียิ่งนัก วันนี้ถือว่าข้าขอเจ้าเป็นพิเศษก็แล้วกัน เพราะผู้ที่จะมาวันนี้เป็นขุนนางใหญ่จากทางเหนือ ปีหนึ่งท่านถึงจะเดินทางผ่านมาเมืองฉีซาน ท่านอุตส่าห์ส่งม้าเร็วมาจองตัวเจ้าไว้ก่อนขบวนของท่านจะมาถึงเสียอีก ให้ถือว่าทำบุญทำทานกับคนแก่แล้วกันนะเหมยกุ้ย”เหมยกุ้ยพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ รื่อหงยิ้มหน้าระรื่นเมื่อสาวงามแห่งหอมู่ตานยอมรับงาน นางจึงกล่าวต่อว่า“ก่อนรับแขกคืนนี้เจ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ข้าจะจัดให้เจ้าเป็นพิเศษ”“ขอบคุณท่านแม่ที่กรุณา หากเป็นได้ท่านแม่โปรดให้ไป๋หลาน หรือหวงหลานเป็นผู้ยกอาหารและเหล้าขึ้นมาที่ห้องกุหลาบได้หรือไม่”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ทำไมจะไม่ได้หล่ะ วันนี้ไป๋หลานว่างข้าจะให้นางขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้วกันนะ”“ขอบคุณท่านแม่”เหมยกุ้ยก้มศีรษะเล
สองหนุ่มเพ่งมองร่างสาวน้อยกึ่งเปลือยบนตักรื่อหง แล้วหายใจแรงหนักหน่วงอย่างควบคุมอารมณ์ เพราะร่างงดงามจนน่ากลืนกินทั้งตัวนั้นมันปลุกพลังความเป็นชายของเขาทั้งคู่ จนเจ็บร้าวที่หว่างขา“ช่วยสอนงานนางที”รื่อหงผลักร่างอรชรให้ชายกำยำ หนึ่งในสองนั้นอุ้มเหมยกุ้ยขึ้นอย่างง่ายดาย สติที่พอจะเหลืออยู่น้อยนิดบังคับให้นางส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นว่ารื่อหงกำลังหันหลังเดินออกไปจากห้อง“ทะ ท่านแม่! ช่วยข้าด้วย ข้าเป็นอะไร ยะ อย่าทิ้งข้า”“ข้าแค่ให้เจ้าดื่มกระไรเล็กน้อย เพื่อให้การเป็นนางคณิกาครั้งแรกของเจ้าไม่เจ็บปวดมากนัก และจะเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ”เมื่อกล่าวจบ รื่อหงก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เหมยกุ้ยอยู่กับชายบึกบึน หน้าเหี้ยม ที่มองผ่าน ๆ คล้ายกับกลุ่มโจรที่นางเคยพบเมื่อ 5 วันก่อนเหมยกุ้ยพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากอ้อมอกของชายกำยำผู้นั้น แต่เมื่อเนื้อตัวเสียดสีกับแผงอกแกร่ง นางก็รู้สึกร้อนวูบวาบราวกับว่าเนื้อตัวกำลังจะลาย จนต้องโอบร่างกำยำไว้แน่น“อือ สาวน้อย ใจเย็น ๆ สิ เดี๋ยวพวกข้าจะค่อย ๆ สอนเจ้าเอง ว่า นางคณิกาที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง ฮ่า ๆ”จางเหว่ยวางร่างอ่อนระทวยข
เหมยกุ้ยครางประท้วง ลองมือผวาจิกเข้าไปที่สะโพกแกร่งของชายหนุ่ม ในขณะที่ลิ้นเล็กพยายามดุนหัวบากมังกรของเขาให้ออกไปจากปาก ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้แก่ชายหนุ่มจนเขาต้องแหงนหน้าครางออกมา“อร้ากกกกกกกก ซี้ดดดดดดดดดดดด โอ้ววววววว” ส่วนล่างหวังเหล่ยก็ค่อย ๆ ขยับสะโพกแทงเข้าออก ให้กลีบหอยคายน้ำหวานออกมาไม่หยุด ชายหนุ่มเร่งจังหวะแทงเข้าออกจนกลีบหอยเบ่งปริส๊วบบบบบบบบบบบบจึ๊ก!“อ่าซ์”ส๊วบ ส๊วบ จึ๊ก!“อ่าซ์”“โอ้วววววววววว”เหม้ยกุ้ยเจ็บแปลบปนสุขสมเจียนขาดใจ ยิ่งหวังเหว่ยกระแทกดุ้นมังกรเข้าหอยนางมากเท่าไหร่ ปากนางก็ยิ่งรูดแก่นมังกรจางเหว่ยหนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น“อ๊ากกกก โอ้ววววว ไม่ไหวแล้ววววววว จะถึงแล้ว จะถึงแล้ว”จางเหว่ยครวญครางอย่างสุขสม ดวงดาวเริ่มพร่างพราย เขาหยัดสะโพกใส่ปากเล็กของเหมยกุ้ยให้มากขึ้นเพื่อให้แตะถึงสวรรค์ นางโม้กมังกรเขาอย่างร้อนแรง ทั้งรูด ทั้งดุน ดูดจนแก้มตอบเสียงดูดดังจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“โอ้ววววว ซี้ดดดดดด ยะ อย่างนั้น เร็วอีกๆ”จางเหว่ยเกร็งตัวอย่างเสียวซ่าน มือสากของเขาตะปบลงเป็นสองเต้างาม เคล้นคลึงหัวนมชมพูจนเจ้าของมันบิดร่างแอ่นอกอย่างเสียวซ่าน ราว
เมื่อขบวนเกี้ยวของใต้เท้าอันฉีเดินทางเข้าสู่เมืองฉีซาน ตะวันก็โพล้เพล้ แสงสีทองสาดส่องลงบนถนนในเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนสัญจรไปมา เมืองฉีซานเป็นหัวเมืองสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนทางเหนือ และเป็นเมืองประตูสู่ภาคกลาง เมืองนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ รถม้าวิ่งกันขวักไขว่ บ้านเรือนร้านค้าเรียงรายตามสองฝั่งถนนถนนในตัวเมืองใหญ่ไม่มาก แต่ก็กว้างพอให้รถเทียมม้า และรถบรรทุกของสองคันแล่นสวนกันได้เมื่อขบวนเกี้ยวใต้เท้าอันฉี ที่นำขบวนโดยบุรุษหนุ่มสง่างามควบม้าสีขาวพันธุ์ดี ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม ดวงตาคมกวาดไปรอบ ๆ เมือง บุรุษรูปงามผู้นี้ คือ “อันเหว่ย” บุตรชายเพียงคนเดียวของผู้ที่นั่งอยู่ในเกี้ยวใต้เท้าอันฉี หรือ ใต้เท้าฉี สอดมือเปิดม่านหน้าต่างข้างเกี้ยวขึ้นมองดูร้านร่วงข้างทาง แล้วดวงหน้าน้อย ๆ ของดรุณีก็เบียดขึ้นมาส่องอย่างอยากรู้อยากเห็นบ้าง“โอ้ว ว้าว นี่เขาเรียกว่าเมืองรึ”หลันฮวา ดรุณีวัยแรกที่ใต้เท้าฉีเก็บมาจากป่าบนภูเขา ร้องถามขึ้นอย่างตื่นเต้น“ใช่ แล้ว และคืนนี้ก็อนุญาตให้เจ้าเที่ยวชมเมืองได้อย่างอิสระ หากเจ้าต้องการอยู่ที่นี่ก็ตามใจเจ้า หรือหากเจ้าอยากไปเมืองหลวงกับข้า เจ้าก็มากลับม
ใต้เท้าฉียกมือทั้งสองข้างโอบเอวบางของสาวงามซ้ายขาวแล้วปักจมูกลงบนหน้าอกอิ่มของสาวงามทั้งสองดังซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!ซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟอด!แผล็บ! แผล็บ!“ชื่นใจจังเลย น่ากินไปหมดนะเนี่ยะ ฮ่า ๆ”นอกจากสูดดมกลิ่นกายสาวจนหนำใจแล้วลิ้นสากของใต้เท้าฉียังเลียแผล็บที่เนินอกขาวผ่อง สร้างความสยิวเล็ก ๆ ให้สาวงาม นางหัวเราะคิกแล้วใช้มือน้อย ๆ ทุบเบา ๆ ที่อกหยุ่น ๆ ของชายชรา“แหม ใต้เท้าชอบทำเป็นเล่นไป”“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ วันนี้ ข้ามีความสุขจริงๆ เลย ได้อยู่ท่ามกลางสาวสวยอย่างพวกเจ้า”“ขอบคุณค่ะใต้เท้า เชิญด้านไหนดีกว่านะคะ”แล้วสองนางซ้ายขวาก็พาใต้เท้าฉีเดินเข้าไป ในหอหมู่ตาน พ่อบ้านยืนมองนายจนหายลับเข้าไปข้างใน แล้วหันมาสั่งพลเกี้ยวให้พักผ่อนได้ตามสบาย ส่วนตนของนั่งพักกับบรรดาสาว ๆ หน้าหอมู่ตาน หากผู้เป็นนายเสร็จกิจจะได้รับใช้ได้ทันการ ทันทีที่ใต้เท้าฉีก้าวเข้าไปภายในหอมู่ตาน ร่างสาวใหญ่ในอาภรณ์ระยิบยับก็ถลาเข้าหาพร้อมกับเสียงวี้ดว้าย“ตายแล้ววววววว ใต้เท้าฉี มาไวกว่าที่คิดไว้นะคะ เชิญใต้เท้าด้านนี้คร่า อุ้ย!”ประโยคสุดท้ายรื่อหงอุทานดังลั่น เมื่อมืออวบ ๆ ของใต้เท
สิ้นคำใต้เท้าฉีก็ก้มลงใช้จมูกบาน ๆ ดุนเกาะอกให้เลื่อนหลุด หัวนมสีชมพูชูชันเชิญชวนปากอวบก็ครอบลงดูดหัวนมสีชมพูระเรื่อ หัวนมแข็งเป็นไตถูกปากหนากลืนหายเข้าไปในโพรงปากอุ่นซ่าน ปลายลิ้นใต้เท้าฉีกระดกสะกิดหัวนมในโพรงปากรัว ๆ แล้วดูดซ้ำซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดเหมยกุ้ยแอ่นอก มือสองข้างสอดเข้าใต้เรือนผมสีเทาขย้ำกดศีรษะใต้เท้าฉีให้แนบชิดหน้าอกยิ่งขึ้นเมื่อร่างอรชรร้อนวูบวาบ ความเสียวซ่านปลาบแปลบแล่นจากหัวนมไปทั่วกายสาว“อ้ายยยยยยย”สาวงามแอ่นอกส่งเสียงครางออกมาเบา ๆซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดดใต้เท้าฉีเปลี่ยนมาดูดอีกข้างอย่างเท่าเทียม ร่างอรชรบิดส่าย ปากน้อย ๆ เผยอครางอย่างเร่าร้อน“อะ อ่า”ลิ้นของใต้เท้าฉีขยับปัดป่าย เลียวนไปรอบ ๆ หัวนมที่แข็งเด้งสู้ลิ้น ยิ่งสร้างความเมามันให้ใต้เท้าฉีสะกิดดูดดึงหัวนมรัว ๆ ซื้ดดดดดดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ ซื้ดดดดดดดดดดดด“อ้ายยยยยยยยยยยยยย”เหมยกุ้ยครางไม่เป็นศัพท์ เคลิ้มไปกับปลิ้นร้ายของตาเฒ่าขุนนางใหญ่ มือน้อย ๆ ผลักบ่าชายชราเบา ๆ เป็นเชิงขัดขืนให้พองาม“ตะ ใต้เท้า อย่าด่วนกินของหวานก่อนของคาวสิ”
“อะ อะ อ่าซ์ อร้ายยยยยยยยยยยย”สิ้นเสียงครวญคราง เรือนร่างโชกเหงื่อของทั้งคู่ก็สั่นสะท้านราวกับถูกไฟฟ้าซ็อต ทั้งสองนิ่งค้างซึมซาบความซาบซ่านให้เต็มทรวง ก่อนจะจบบทสวาททะลวงหอยของแม่ทัพด้วยการจูบบดลึกวาบหวามฝากความหวานให้ตราตรึงใจและแล้ววันแต่งตั้งองค์จักรพรรดินีอย่างเป็นทางการพื้นที่ท้องพระโรงลามไปจนถึงประตูวังด้านหน้าเต็มไปด้วยบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ เข้าร่วมถวายพระพรและเป็นสักขีพยานในการรับตำแหน่งอันสูงส่งเมื่อเสียงแตรเสียงประทัดดังสนั่นขึ้นเป็นสัญญาณการเริ่มพิธี เสียงแซ่เซ็งพูดคุยของเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างสงบลง พร้อมกับยืนในแถวรอรับการเสด็จขึ้นบัลลังก์ไม่ช้าร่างงดงามในชุดจักรพรรดิเต็มยศก็ปรากฏบนพรมสีแดงที่ทอดยาวสู่ราชบัลลังก์ท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวสีแดงปักมังกรที่ฐานด้านล่าง ชายกระโปรงยาวระพื้น ยามก้าวเดินสะบัดไหวดูราวกับมังกรโลดแล่นในสายน้ำแยงชี ผ้าคล้องไหล่สีทองอร่ามคลุมเป็นสายยาวที่แขนทั้ง 2 ข้าง เสื้อชั้นนอกแขนกว้างปักลายกุหลาบดิ้นทอง แขนเสื้อที่ยาวลงมาถึงสะโพกพลิ้วไหวตามจังหวะย่างก้าว เนื้อแพรพรรณล้วนทักทอจากช่างฝีมือดีที่สุดในแผ่นดิน !!“แม่ทัพใหญ่จางหย่งขอเข้าเฝ้า!!!”
ตับ ตับ ตับ ตับๆๆๆๆๆๆ“อะ อ่า อ๊า อร้ายยยยยยยย”ซ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบพรวดดดดดดดดดดดดดดดด“อร้ากกกกกกกกกก”มังกรยักษ์พ่นพิษอุ่นซ่านเข้าเต็มโพรงหอยพร้อมกับเสียงครางระงมจนถึงสวรรค์ของทั้งคู่ ร่างอรชรกระตุกงึกๆ เกร็งเสียวสุดขีด สะโพกแกร่งของแม่ทัพหนุ่มผู้หิวกระหายตอกตรึงรูหอยบดแน่น ปล่อยให้จิตวิญญาณของตนล่องลอยไปแสนไกล ในไม่ช้าเรือนร่างกำยำก็ค่อยๆ เอนซบลงอกอวบๆ ทั้งคู่หอบหายใจกระเส่า“อ่า ข้าไม่เคยกินสุราอร่อยขนาดนี้มาก่อน”แม่ทัพรำพันกระซิบแนบเนื้อนวล บนโต๊ะกลมใหญ่กลางกระโจม เขาไม่คิดว่าการเดินทางกลับวังหลวงครั้งนี้จะได้พบเทพธิดาที่นำพาเข้าสู่สรวงสวรรค์อย่างไม่คาดฝัน“ข้าก็ไม่เคยถูกมังกรยักษ์จ้วงกระหน่ำได้ถึงใจขนาดนี้เช่นกัน โอ้แม่ทัพสมแล้วที่ท่านเป็นยอดชาตรี”เหมยกุ้ยพลิกตัวขึ้น ดุ้นมังกรยักษ์จึงหลุดออกจากร่องหอย“อ่า”ร่างอรชรค่อยๆ เลื้อยกายลงมาที่หว่างกำยำ จนสบเข้ากับลำตัวของมันเยิ้มไปด้วยน้ำทิพย์สีขาวขุ่น“มังกรท่านใหญ่น่ากินเหลือเกิน”เหมยกุ้ยถึงกับอุทานกระเส่าเมื่อเจอหัวดุ้นสีน้ำตาลไหม้อาบช่ำด้วยน้ำทิพย์ เส้นเลือดปูดโปนยังเต้นตุบๆ ลิ้นเรียวเล็กแลบเลียริมฝีปากตนอย่างห
ยิ่งลิ้นสากสอดแทง... น้ำหวานยิ่งทะลักจนฉ่ำปาก เขาดูดดื่มตักตวงความหวานฉ่ำที่ทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสายแผล็บๆ แผล็บ ๆ “อะ.... อือ... อะ อ่า จะแตกแล้ว อ่อยยยยยย”ปากใหญ่ร้อนฉ่ายังคงขบเม้มกลีบเนื้อหอยเต็มปากเต็มคำ ลิ้นร้อนฉ่าแทงเข้าแทงออกรัวๆ เร่งจังหวะตามเสียงกระเส่าของนาง ยิ่งดูด ยิ่งเลียน้ำหอยฉ่ำ ๆ ยิ่งไหลทะลัก ร่างอรชรบิดส่ายบ่งบอกว่าเจ้าของร่างกำลังเสียวซ่านมากแค่ไหนจ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบจ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ แฮ่กๆ แฮ่กๆ“โอ้วววววววว ท่านแม่ทัพ ไม่ไหวววว แล้ววววว อร้ายยยย”เหมยกุ้ยแอ่นสะโพกหยัด มือเรียวขยุ้มผมดกดำของเขาให้แนบชิดร่องสาว ร่างอรชรกระตุกเกร็งงึก ๆ ริมฝีปากสีแดงสดเผยอค้างครางออกมาผะแผ่วด้วยความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั้งกายสาว“อร้ายยยยยยยยยยย”พรวดดดดดดดดดดดด น้ำหอยแตกพรวดทะลักง่ามขา รูหอยขมิบตอดอากาศอย่างหิวโหย ซ่านกระสันอยากให้มังกรจ้วงแทงแทบขาดใจ เหมยกุ้ยครางกระเส่าขมิบตอดความว่างเปล่าไม่ยอมหยุด นางลอยขึ้นสวรรค์ชั้นหนึ่งไปแล้ว“อะ อ่า อือ อ่อยยยยยย”“อู้ววว.. อ่า... เหมยกุ้ย... เงี่ยนมากแล้วสินะ นำทะลักเลยนะ โอ้ววววว”แม่ทัพหยัดกายขึ้นแลบล
“เชิญชิมสุราชั้นเลิศจากข้า... เหมยกุ้ย มอบเป็นของขวัญแด่ท่านแม่ทัพ”มือใหญ่ยึดข้อมือเล็กกางออก แล้วร่างใหญ่ก็ถาโถมเข้าใส่ร่างเล็กที่นอนแผ่หลาบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว“เหมยกุ้ยยยยยยย ฮ่า ๆ เหมยกุ้ย”จ๊วบ!ซู้ดดดด จ๊วบ“อะ อ่า หือ อ่า”ลิ้นสากร้อนระอุแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่น มันตวัดลิ้นเล็กให้ตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อนเลือดในกายนางร้อนระอุ เผยอเรียวปากขึ้น ตอบรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามา และหยัดร่างเข้าเบียดกายแข็งแกร่งทันทีซู้ดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“อืม อ่า จ๊วบ”ร่างอรชรใต้ร่างใหญ่กำยำบิดส่าย อย่างซ่านกระสันเมื่อแม่ทัพหนุ่มบรรจงจูบด้วยลิ้นร้ายอย่างหื่นกระหาย ลิ้นร้อนควาญรีดน้ำหวานในโพรงนางจนหมดสิ้น แล้วลามเลียมาถึงติงหูเกิดความสยิวแผ่ซ่านจนขนอ่อนของนางลุกซู่ทั้งกายจนครางกระเส่าออกมา“อร้ายยยย อ่า หือ”แผล็บ! จ๊วบ!ปากร้อนระอุของแม่ทัพใหญ่ลามเลียเลื้อยลากมาถึงซอกคอขาวผ่อง ลิ้นร้อนตวัดเลียกลืนกินสุราในเนื้อนวลมาเรื่อยๆ มือใหญ่ร้อนฉ่าดึงทึ้งอาภรณ์นางออกจนเกิดรอยแยกของเสื้อคลุม หน้าอกอวบอิ่มเผยชูชันอวดเต้าสล้างกลมกลึงเฉิดฉายอยู่ตรงหน้าแม่ทัพหนุ่มจับจ้องอกอวบๆ ของนางอย่างหลงใหล
แม่ทัพใหญ่ยืนนิ่งราวกับถูกสาป เขาคาดว่าจะได้กลิ่นคาวเลือดและการสู้รบซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ คือ สาวงาม งามที่สุดที่เขาเคยพบยิ่งยามที่ร่างอรชรเยื้องย้ายขยับกายเข้าใกล้ กลิ่นหอมฟุ้งลอยอบอวลไปทั่วทั้งกระโจม ใจของแม่ทัพใหญ่เต้นตึกตักระส่ำ เต้นแรงยิ่งกว่าการเห็นกองทัพศัตรูนับแสนอยู่ตรงหน้าสติของแม่ทัพใหญ่หลุดลอยลืมสิ้นว่าตนมาที่กระโจมน้อยนี้เพื่อสิ่งใด หัวใจของเขามันวาบหวามเคลิบเคลิ้ม แม้มือเรียวของนางเอื้อมเข้าสัมผัสมือใหญ่ เขาก็ยอมให้นางนำพาแต่โดยดี“ท่านแม่ทัพเชิญทางนี้เถิด”เหมยกุ้ยจูงร่างสูงใหญ่ให้นั่งลงที่โต๊ะกลมกลางกระโจม ที่มีสำหรับอาหารและเหล้าชั้นดีไว้เพียบพร้อม หากแม่ทัพใหญ่มีสติมากพอเขาจะประเมินสถานการณ์ตรงหน้าว่าคือ กลลวง แต่เหตุไฉนร่างกายของเขากลับวูบไหวยอมนั่งลงตามคำสั่งนางแต่โดยดี“ขออภัยท่านแม่ทัพที่ข้าน้อยบังอาจมารบกวนท่าน”เหมยกุ้ยชวนคุยระหว่างรินสุราเลิศรสลงในจอก“อะ เอ่อ ไม่เป็นไร เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นแม่ทัพ?”แม่ทัพใหญ่จางหย่งตอบอย่างเงอะงะ หลายเดือนที่ผ่านมาเขากรำศึกทั้งวันทั้งคืนเจอแต่บรรดาทหารหนุ่มๆ นี่เป็นคืนแรกที่เขา
“หากผู้ใดแพร่งพรายเรื่องในพระตำหนักนี้ออกไป มันผู้นั้นจะมีสภาพเป็นเหมือนนายทหารผู้นี้!”ปากสีแดงสดเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น“หากผู้ใดสวามิภักดิ์ต่อข้า มันผู้นั้นจะยังคงนอนหลับกินอิ่มอยู่ในตำหนักแห่งนี้เหมือนเช่นเคย!”องค์จักพรรดินี จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!บรรดาข้าทาสบริวารต่างคุกเข่าหมอบลงถวายความจงรักภักดี ไม่มีใครไม่รักชีวิต!เมื่อผู้เป็นนายเก่าสิ้นวาสนา นกน้อยที่ไร้ผู้ปกครองย่อมบินหาคอนเกาะที่มั่นคงกว่ามันคือสัจธรรมของชีวิต“ฮ่าๆ ทุกคนจงฟัง!”เสียงประกาศก้อง ร่างอรชรในชุดสีทองกรุยกรายยืดกายขึ้นองครักษ์ทั้งสองยืนเคียงข้าง“ขอให้พวกเจ้าทุกคนจงปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเหมือนเช่นเคยปฏิบัติมา อีกไม่เกิน 1 ชั่วยาม พระชายาก็จะฟื้น แต่จะกลายเป็นคนไร้สติ ให้พวกเจ้าทุกคนบอกกล่าวต่อๆ กันออกไปว่า -พระชายาโศกเศร้าเพราะสูญเสียพระสวามีจนเสียสติ-”น้อมรับพระบัญชา!“ระหว่างที่เจ้าเฝ้าพระตำหนักพระชายามีผู้ใดเล็ดลอดคาบข่าวไปบอกแม่ทัพใหญ่หรือไม่?”เหมยกุ้ยเอ่ยถามหลี่เจี๋ยขณะเสด็จกลับตำหนักของตน“ไม่มีแม้แต่เงาเส้นหนึ่ง”องครักษ์หนุ่มตอบ“ดีมาก ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้ดูแลพระตำหนักของพระชายาเพราะข้ายังไม่ไว
เมื่อมือเรียวสวย แหวกม่านสีทองออก ร่างอรชรก็ก้าวออกมาจากเกี้ยวสีทอง พร้อมกับพระสุรเสียงตอบกลับอย่างเยือกเย็นว่า “อันเหว่ย ท่านโปรดใจเย็นเถิด บางทีผู้คนของพระตำหนักนี้อาจจะมีกิจวุ่นวายจึงไม่มีเวลาออกมารับเสด็จข้าก็เป็นได้”เหมยกุ้ยยิ้มที่มุมปากไม่ได้เก็บการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้มาใส่ใจ เพราะยังมีเรื่องใหญ่กว่าที่นางจักต้องจัดการสิ้นพระสุรเสียงร่างอรชรก้าวย่างอย่างสง่างามเดินนำขบวนเข้าสู่พระตำหนัก เมื่อก้าวล่วงเข้ามาในพระตำหนักพระชายาข้าทาสรับใช้ต่างตื่นตระหนก แล้วเดินหลบหายไปจากสายตาและไม่มีผู้ใดน้อมถวายการต้อนรับองค์จักรพรรดินีจึงเดินเข้าไปในพระตำหนักเรื่อยๆ จนถึงศาลาชมดอกไม้ด้านหลังพระตำหนัก พระชายากำลังเสวยอาหารเช้าอย่างละเมียดละไม แม้จะรับรู้ถึงการเสด็จมาขององค์จักรพรรดินี แต่นางก็ไม่ได้ขยับน้อมตัวลงถวายความเคารพแม้แต่น้อย องครักษ์ฝ่ายขวาทำท่าจะคาดโทษผู้กระทำผิดระเบียบวังหลวงแต่เหมยกุ้ยยกมือขึ้นห้ามแล้วถือวิสาสะนั่งลงร่วมโต๊ะอาหารโดยไม่ต้องรอคำเชิญเช่นกัน“ทรงเสวยอาหารเช้าอร่อยหรือไม่”เหมยกุ้ยยิ้ม พร้อมกับเอ่ยทักทายขึ้นก่อน“ข้าจำได้ว่ายังไม่เคยเอ่ยเชิญผู้ใดร่วมโต
“อ่า อือ อะ อันเหว่ย ข้าจะขาดใจอยู่แล้ว อ่า”ยิ่งเห็นริมฝีปากแดงสดเผยอคราง ดวงตาฉ่ำเยิ้มของนางทำให้กล้ามเนื้อของเขาเกร็งทุกสัดส่วน มังกรเขื่องพองโตสั่นระริกแทบอยากจะมุดเข้ารู้หอยฉ่ำวาวเสียเดียวนั้นใบหน้างามบิดส่าย เผยอปากครางซี้ดดดดดดดดดร่างงามสั่นระริก กล้ามเนื้อภายในกายบิดเกร็งต้องการให้ดุ้นมังกรรุกเร้ามากกว่านี้“คืนนี้ ในห้วงคำนึงของท่านต้องมีแต่ข้าเพียง .....”บุรุษหนุ่มหยุดเสียงลง ตาคมตรึงตาคู่งามให้อยู่ที่เขา ก่อนจะกระแทกดุ้นมังกรเข้ารูหอยเต็มแรงพร้อมกับเสียงที่เปล่งออกมา“...ผู้เดียว!”ตับ!“อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”ร่างบางสะท้านเฮือก มังกรใหญ่ทะลวงเข้าลึกจนสุดลึก ความเสียวซ่านแล่นจี๊ดขึ้นสมอง สายตาพร่ามัวชั่วขณะรูหอยสวมลงบนความผงาดร้อนผ่าวอย่างเหมาะเจาะลึกจนสุดลำ นางครางออกมา ร่างกายร้อนผ่าวความหิวกระหายแทรกซึมเข้าไปทั่วทุกอณูสัมผัส“โอ้ววววววววววววว อ่า”บุรุษหนุ่มถึงกับคำรามลั่น เมื่อดุ้นมังกรยักษ์เข้าไปในโพร่งหอยทั้งอุ่นทั้งนุ่ม เขาตรึงสะโพกเกร็งตอกแน่น ซึมซับความซ่าบซ่านอย่างอิ่มเอม“อะ อันเหว่ย ห้วงคำนึงข้ามีแค่ท่าน อ่า”กลิ่นอายบุรุษคลุกเคล้ากลิ่นเหงื่อ
“อ่า”แล้วปากหนาร้อนระอุก็ประกบปากอิ่มเอาไว้ แทะเล็มกลีบปากสีแดงสดอ่อนนุ่มอย่างอ้อยอิ่ง“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ”“รางวัลที่เกล้ากระหม่อมต้องการมากที่สุด คือ ท่าน!”บุรุษหนุ่มกระซิบแหบพร่าที่ข้างหู“อืมมมมมมม อะ อันเหว่ย”เสียงแว่วหวานของเหมยกุ้ยเอ่ยเรียกชื่อเขา ยิ่งกระตุ้นให้เลือดในกายบุรุษวิ่งพล่าน มือหนากระชับกอดร่างอ่อนนุ่มเข้าชิด ปากแกร่งโฉบลงบนกลีบปากอิ่มสีแดงสดรุนแรงเร่าร้อนกว่าที่เคยฮืออออออ จ๊วบบบบบบบ “อึก ฮืออออออ จ๊วบ”ริ้นร้อนของเขาตวัดระรัวครวญหาความฉ่ำหวานซ่าบซ่านในโพร่งปากน้อย“ฮือ อ่า อ่าซ์”มือเรียวงามขึ้นคล้องลำคอแกร่งเอาไว้ร่างกายอ่อนระทวยลงกับอกเขาราวไฟรน ความเสียวซ่านโจมตีท้องน้อยไม่หยุด ขณะที่หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวจ๊วบ! จ๊วบ! จ๊วบ!จ๊วบบบบบบบ จ๊วบบบบบบบ อันเหว่ยรุกรานเข้าซุกไซ้ด้วยริมฝีปากร้อนระอุ เนื้อกายนางสัมผัสบุรุษอื่นส่วนใด เขาจะไล้จูบโลมเลียส่วนนั้นให้เนิ่นนานที่สุด เพื่อกำจัดกลิ่นอายของบุรุษอื่น! เพื่อให้ทั่วทั้งกายนางเป็นของเขาเพียงผู้เดียว!จ๊วบบบบบบบ จ๊วบบบบบบบ “อื้อ อ่า อืมมมมมมม”แฮ่ก แฮ่ก แฮ่กแฮ่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ