เหมยกุ้ย!
เหมยกุ้ย!
เหมยกุ้ย!
“อุ๊ย... คุณชายเหล่ยเบาเสียงลงหน่อยค่ะ เดี๋ยวแขกแตกตื่น”
“คุณชายเหล่ย รอไป๋หลานด้วยค่ะ”
ชายหนุ่มรูปงามวิ่งพรวดพราดขึ้นมาชั้นบนของหอมู่ตานอย่างคุ้นเคย... ตามด้วยสองนางคณิกาที่วิ่งตามมาพร้อมกับส่งเสียงห้ามเขาเป็นระยะ ๆ เขาจ่ายให้หอมู่ตานแต่ละคืนไม่ต่ำกว่าพันตำลึงทอง... ใครเลยจะกล้าขัด!
คุณชายวิ่งโซซัดโซเซมาจนถึงห้องกุหลาบแดง ถ้าเขาไม่มัวแต่ร่ำสุรากับสองสาวงามข้างล่าง... ก็คงจะได้ขึ้นมาเชยชมนางฟ้าบนชั้นสองนานแล้ว...
ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ
ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ
“เหมยกุ้ย!”
“เหมยกุ้ย!”
“เหมยกุ้ย!”
คุณชายรัวมือเคาะประตูไม่ยั้ง
ห้องนี้ถือเป็นห้องต้องห้ามหากเป็นชายทั่วไปคงจะถูกจับโยนออกนอกหอไปเสียนานแล้ว.... แต่เพราะเขาเป็นแขกพิเศษที่เงินถึง สองนางคณิกาที่วิ่งตามเขามาได้มองตากันเลิ่กลั่ก
......แอ้ด......
“เข้ามาสิคะ”
มือเรียวขาวผ่องแง้มประตูออกเพียงนิดก่อนกวักมือเรียกชายหนุ่ม
แค่เห็นปลายนิ้วทั้งห้ากรีดกรายออกมาที่รอยแยกประตูเพียงนิด... เขาก็รู้แล้วว่ามือนั้นนุ่มนวลเพียงใด...
คุณชายผลักประตูเข้าไปในเข้ากุหลาบแดงตามคำเชื้อเชิญอันแสนอ่อนหวาน
เมื่อร่างชายหนุ่มหายลับเข้าประตูไป สองสาวคณิการีบปิดประตูให้มิดชิดตามธรรมเนียมปฏิบัติก่อนจะจับมือกันแน่นอย่างกระวนกระวายใจ เนื่องจากทั้งคู่ได้รับคำสั่งให้ถ่วงเวลาคุณชายเหล่ยเอาไว้ เพราะแม่เล้าให้เหมยกุ้ยต้อนรับขุนนางผู้ใหญ่เสียก่อน ทั้งสองไม่รู้ว่าข้างในจะต้อนรับการเสร็จเรียบร้อยหรือยัง
“ไป๋หลาน... หวงหลาน...”
รื่อหงส่งเสียงเรียกสองคณิกาเบา ๆ จากมุมทางเดินทาง ผู้ถูกเรียกสะดุ้งสุดตัวแล้วรีบเดินเข้าไปหา
“ท่านแม่... เป็นอย่างไรบ้างคะ”
ไป๋หลานกระซิบถามแม่เล้า
ผู้ถูกถามยักคิ้วยิ้มกริ่ม... กรีดผ้าเช็ดหน้าสีแดงโบกไปมาอย่างอารมณ์ดีก่อนเอ่ย
“ส่งท่านขุนนางกลับจวนเรียบร้อย คริ คริ”
สองนางคณิกายิ้มอย่างโล่งอก
รื่อหงเดินกรีดกรายนำสองคณิกาลงมาชั้นล่างเพื่อรับแขกต่อ วันนี้ หล่อนช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน เพราะเหมยกุ้ยแท้ ๆ ทำให้เงินทองของหอมู่ตานเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นเท่าทวีคูณ เมื่อก่อนหอมู่ตานเป็นเพียงหอนางโลมเล็ก ๆ ไร้ชื่อเสียง แต่เมื่อได้นางบุปผาชั้นดีมาไว้ประดับ หอมู่ตานก็เป็นที่โจษจันขยับเลื่อนฐานะมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหอนางโลมอันดับหนึ่ง!!!
ภายในห้องกุหลาบแดง
เหม๋ยกุ้ยทอดกายลงบนเตียง... ก่อนที่คุณชายเหล่ยจะเดินผ่านฉากบังตาเข้ามาถึง....
“เหมยกุ้ย..... เหมยกุ้ย....”
เสียงทุ้มของชายหนุ่มทอดหวานเมื่อเอ่ยเรียกนางราวกับจะอ้อน
ร่างสูงอ้อนแอ้นตามแบบฉบับคุณชายเดินเข้าชิดเตียง แววตาเป็นมันของชายหนุ่มจับจ้องร่างกลมกลึง ขาวผ่องไร้อาภรณ์ใด ๆ ปกปิด ความเป็นชายใต้กางเกงของเขาพองตัวขึ้นตามสัญชาตญาณจนเจ็บร้าว
“มะ.... เหมยกุ้ย”
เสียงเขาสั่นกระเส่า จนจะคุ้มตัวไว้ไม่ไหว
“คุณชายเหล่ย... ต้องอภัยท่านด้วย วันนี้ข้าไม่ค่อยสบาย.. จึงปล่อยให้ท่านรอนาน”
หญิงงามบนเตียงแอ่นกายลุกขึ้น..... เน้นนมอวบ ๆ ให้ปลายหัวนมชมพูชี้เด่นยั่วชายตรงหน้า...
คุณชายเหล่ยถลาเข้ามาในเตียงอย่างไม่รีรอ.... ประคองกอดร่างงดงามอย่างเบามือ....
“ไม่เป็นไร... ไม่เป็นไร...”
ชายหนุ่มพึมพำคล้ายละเม่อ.. แววตาหื่นจ้องสองเต้าสล้างที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ... แล้วกลืนน้ำลายเฮือกลงคอ...
แล้วมือเรียวของคุณชายก็กอบกุมสองเต้าอวบ ๆ ไว้เต็มมือ..... มือสองข้างเคล้าคลึง... หนักหน่วง นิ้วมือคลึงหัวนมชูชันจนแข็งเป็นไต.... ส่งกระแสไฟฟ้าแปลบปลาบไปทั่วร่างอรชร..... จนหญิงสาวแอ่นอกรับมือร้ายที่บรรเลงลงสองเต้าตามความเสียวซ่าน ปากชมพูอิ่มเผยอครางออกมา....
“อืม.... อ่า คุณชาย...”
แล้วชายหนุ่มก็ประกบปากอิ่มแสนเย้ายวนไว้จนมิด.... ลิ้นสากร้อนล้วงเข้าไปรีดความหวานจากโพรงปากอิ่ม
บดจูบ และดูดดึงอย่างกระหาย
จ๊วบ
จ๊วบ
จ๊วบ
“อืม.....”
“อ่า... จ๊วบ..”
มือเรียวเล็กของเหมยกุ้ยดันอกแกร่งของชายหนุ่มให้ห่างออก
แฮ่ก ๆๆๆ
แฮ่ก แฮ่ก
เสียงทั้งคู่หอบหายใจ.... จูบดูดดื่มเมื่อสักครู่ทำให้เขาทั้งสองแทบหายใจไม่ทัน
“คุณชายเหล่ย.... ใจร้อนเหมือนเคยนะคะ”
“แฮ่ก... กะ.... ก็เจ้าน่าปี้ไปทั้งตัวขนาดนี้ใครจะห้ามใจไหว”
“คริ... คริ... ชมข้าเกินไปแล้ว...”
ใบหน้างดงามของหญิงสาวแดงระเรื่อ พราวไปด้วยเม็ดเหงื่อยิ่งเพิ่มความเร่าร้อนให้ชายหนุ่มอยากจะงัดมังกรของเขาโพทะยานสู่ถ้ำหอยของนางเสียเดียวนั้น!
ชายหนุ่มกดร่างงามลงกับเตียงนุ่ม... แล้วขึ้นคร่อมตามใจปรารถนา
“อ้ายยยย... คุณชาย... เดี๋ยวสิคะ อ้าย”
เหมยกุ้ยแสร้งตกใจ... ร้องหวีดวายเป็นจริตพองาม... ขณะที่เขากดจูบตามซอกคอกระเสือกกระสน... อย่างคนหิวโหย....
“คุณชาย... ข้าหิวน้ำ... ให้ข้าได้กินน้ำสักจอกก่อนได้ไหมคะ”
เหมยกุ้ยกระซิบแนบใบหูชายหนุ่ม... เขายอมละปากแต่โดยดีราวกับต้องมนต์.....
“ได้สิจ๊ะ...”
เขาลุกขึ้นจากเตียง... แต่ตาเขายังจับจ้องที่เรือนร่างงดงาม....
เหมยกุ้ยทอดสายตาหยาดเยิ้ม.... เอ่ยเสียงแว่วหวานว่า
“ยกสุรามาทั้งกาเลยนะคะ”
ชายหนุ่มถือกาสีขาวจากโต๊ะกลมหน้าเตียง... เข้ามาหาหญิงสาวตามคำสั่ง
เหมยกุ้ยรับกาสุราไป... ยกขึ้นสูงแล้วรินลงมา... แหงนหน้า... เผยอปากรับสุรารสเลิศ
ชายหนุ่มยืนจ้องภาพตรงหน้าราวกับภาพวาดบนสวรรค์ชั้นวิมาน ปากน้อย ๆ รองรับสุราไม่ทัน.... น้ำใส ๆ ไหนรินจากปากอิ่ม... ไหลเรื่อยลงมาตามเนินอก... ระเรี่ยสองเต้าอวบ ๆ
คุณชายเหล่ยจ้องก้อนหนันเนื้อสล้างตาเป็นมัน... กลืนน้ำลายเฮือกลงคอ... อยากจะดูดสองเต้าให้ดับกระหาย
“คุณชาย... ก็กระหายน้ำเหมือนกันใช่ไหมจ๊ะ”
เสียงยั่วยวน... เร่งเร้าให้อารมณ์ของชายฉกรรจ์ลุกโลดขึ้น จนเจ็บร้าวที่หว่างขา
“หะ.... หิว”
คุณชายเหล่ยตอบเสียงกระเส่าราวกับไม่ใช่เสียงตนเอง
“งั้นเชิญ... คุณชายตามสบายเลยค่ะ”
นางราดสุราบนเรือนร่างอันกลมกลึงของนาง... ตั้งแต่เนินอกอวบ.....ไปจนถึงหน้าท้องแบนเรียบ.....
เมื่อถึงหว่างขา..... นางยกขาเรียวตั้งฉากแล้วแบะออก... เทสุราลงบนหอยสีแดงระเรื่อ...
เสียงสุรารินตกกระทบกลีบหอยสีแดงฉ่ำ.... ฉ่า.... ฉ่า....
ยิ่งปลุกไฟสวาทในตัวชายหนุ่มให้ลุกโซนเกินห้ามใจ
มือเรียวของเขากระชากอาภรณ์ตนเองออกจนเหลือแต่กายบุรุษขาวผ่อง....
เขากระโจนขึ้นเตียงทันทีที่เหมยกุ้ยรินสุราหมดกา... แล้วโยนมันลงพื้นดัง
เพร๊ง!
ราวกับเป็นสัญญาณให้เข้าพุ่งทะยานเข้าไปสู่สวรรค์!
เขาแยกขาเรียวของนางให้แบะออกมากยิ่งขึ้น.... แล้วก้มลงเลียสุราตามกลีบหอย....แหย่ปลายลิ้นสากเข้าไปตามกลีบหอยสีแดงระเรื่อ....ก่อนจะแทงลิ้นเข้าไปที่ร่องสวาทแล้วกดลิ้นสากเลียขึ้นไปจนถึงตุ่มหอย... จนมันแข็งเป็นไต....“อร๊างงงงงงง คุณชาย... เสียวมากค่ะ”เหมยกุ้ยยกสะโพกขึ้นรับลิ้นร้ายของชายหนุ่ม...ลิ้นและปากของเขาขบเม้มที่ตุ่มไตหอยอีกระลอกจนร่างงามสะดุ้งเฮือกอย่างซ่านกระสัน... ความเสียวซ่านมันพุ่งกระจายไปทั่วร่าง“อะ.... อ้ายยยยย คุณชายยยยย”เหมยกุ้ยครวญครางร้องกระเส่าไม่เป็นภาษา ปากร้ายของชายหนุ่มทำให้ลมหายใจของนางขาดเป็นห้วง ๆจนหอยสีแดงสดของนางคายน้ำหวานออกมาแทนที่สุราที่ชายหนุ่มลามเลียจนเกลี้ยง“อ๊า...... ละ ลิ้นคุณชายร้ายกาจมาก....”จ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ จ๊วบบบบบบบบ จ๊วบบบบบคุณชายเหล่ยปรนเปรอความรัญจวน... เสียวซ่านให้นางด้วยลิ้นอย่างหื่นกระหาย เลียโอ้โลม... อย่างรู้จุดซ่านกระสันของหญิงสาวอย่างเชี่ยวชาญเหมยกุ้ยสะอื้นครางกระเส่า เนื้อตัวกระตุกเกร็งแข็ง ยกสะโพกขึ้นส่ายรับกับจังหวะลิ้นสากแสนร้ายกาจของชายหนุ่มจ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ “อะ.... อึก.... อร๊างงงงงง
เหมยกุ้ยตวัดขาเกี่ยวเอวสอบแกร่งของคุณชายแน่น... ขณะที่เขากระแทกลำมังกรเข้าออกเอวสอบ... สะโพกแกร่งของชายหนุ่มทั้งโยก ทั้งบด... เข้าไปในรูแน่น ๆ โพร่งอุ่นๆ แสนฉ่ำเยิ้มกลีบหอยแดงระเรื่อบวมเป่งเขมือบกลืนกินท่อนมังกร.....“อะ.... อ่า... อ่า”“อ้าววววว......”เหมยกุ้งแอ่นอกสล้าง.... หยัดสะโพกรับแรงกระเด้งเด้า... นมอวบๆ กระเด้งกระดอนตามแรงขย่มของพลังบุรุษวัยหนุ่มที่เต็มไปด้วยเพลิงสวาท.... “ระ.... แรงอีก... เร็วเข้า... อะ อ่า...”นางครางเว้าวอน... เมื่อจวนจะถึงสวรรค์ชั้นฟ้า ชายหนุ่มจึงโหมกระหน่ำกระแทกสะโพกลงไม่ยั้งตับๆ ตับ ๆ ตับ ๆ “อะ.... อ่า... อ่า”แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่กตับๆ ตับ ๆ ตับ ๆ “อะ.... อ่า... อ่า” คุณชายกระทุ้งรูหอยนางหนักหน่วง... ร่างอรชรบิดส่ายเกร็กกระตุก.... รูหอยบีบลำมังกรตอดตุบตุบ.. ทำให้เขาเสียวซ่านปลาบแปลบไปทั้งร่าง จนต้องครางชื่อนางออกมา“อ้ายยยยย เหมยกุ้ย”สะโพกแกร่งของชายหนุ่มยิ่งทวีแรงกระแทกลำมังกรเข้าออกตามเพลิงสวาทที่โหมกระหน่ำรูหอยของนางยิ่งรัดตอดตึบ ๆ ตึบ ๆ ยิ่งคายน้ำหวานออกมาจนแฉะไปทั่ว“อร๊างงงงง
มือแกร่งของเขาลูบไล้ขึ้นมาจากหน้าท้องจนถึงนมสองเต้าสล้างที่ห้อยโย้ลงมา.... มือสองข้างของเขากอบอุ้มมันเต็มมือ.... กดมือบีบลงเบา ๆ พร้อมกับใช้นิ้วคลึงหัวนมเล่น... จนมันแข็งเป็นไตความเสียวซ่านทำให้นางถึงกับแหงนหน้าปรือตาครางออกมา....“ซี้ดดดดดดด... อ่า...... คุณชาย... มือซุกซนจริง ๆ”จมูกคมของชายหนุ่มปักลงที่ซอกคอระหงซุกไซร้สูดกลิ่นกายสาวอย่างหิวกระหาย..... ทั้งมือก็บีบเต้า.... ทั้งกลิ่นที่สูดเข้าปอด.... มันกระตุ้นให้มังกรในรูหอยพองโตจนคับถ้ำ“อะ... อ่า....”ชายหนุ่มถึงกับครางกระเส่าเพราะความกระสันเสียว... เมื่อสะโพกงามของหญิงงามบิดส่าย... แล้วกดลงที่หน้าขาเขาหนักหน่วง... อย่างเร่งเร้าให้มังกรเขาเริ่มจู่โจมส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!“อร๊างงงงงงงง.....งง”สะโพกแกร่งขยับอัดดุ้นมังกรเข้าสู่ร่องหอยตามใจปรารถนา สองมือยังเคล้าคลึงสองเต้า บดบี้ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!“อร๊างงงงงงงง.....งง”ส๊วบบบบบ! ส๊วบบบบบบ ส๊วบ!คุณชายเหล่ยกระแทกสะโพกเข้าออกซอยไม่ยั้ง..... จนเหมยกุ้ยครวญครางเจียนขาดใจ....ความสุขสมซ่านกระสันมันโผทะยานไปทั่วร่างน้อย ๆ ของนาง“อะ... อะ... อึก
“อ่อ ข้าบอกว่า เจ้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก อืม เจ้าชื่ออะไร?”“ข้าชื่อ หลันฮวา”“อืม เจ้าช่างเป็นกล้วยไม้ป่าที่กำลังผลิดอกสวยงาม ใยไม่อยู่ประดับป่า”“ข้าอยากเห็นเมืองหลวงนี่คะ”“แล้วบิดา มารดาของเจ้าไม่ว่าเอารึ?”“พ่อกับแม่ข้าตายด้วยโรคไข้ป่า ตั้งแต่ข้ายังเด็ก ตาเลี้ยงข้ามาตั้งแต่เล็ก เมื่ออาทิตย์ก่อนตาออกไปล่าสัตว์ แล้วหายไป ข้ารอแล้วรอเล่า ตาก็ไม่กลับมา ข้าทั้งหิวทั้งกลัวจึงออกเดินมาเรื่อย ๆ กินผลไม้ป่าประทังชีวิต จนมาพบขบวนของใต้เท้า”เด็กสาวชาวป่า หมอบลงอีกครั้งร้องไห้ สาบคอเสื้อไหวตามแรงสะอึกสะอื้นเผยให้เห็นเต้าน้อยวับแวบ กระตุ้นมังกรของใต้เท้าฉีให้ลุกซู่จนแทบอยากจะดึงดรุณีน้อยที่โหยไห้มากอดไว้แนบอก“ฮือ ๆ ใต้เท้าโปรดเมตตาให้ข้าน้อยไปด้วยเถิด ข้าขอติดขบวนท่านไปจนกว่าจะถึงเมืองฉีซานเท่านั้น อะ ฮือ ๆ”“เจ้าช่างเป็นเด็กสาวกำพร้าที่น่าสงสาร น่าสงสาร ข้าเป็นถึงขุนนางผู้ใหญ่ หากปล่อยให้เจ้าเผชิญชะตากรรมในป่า ใครรู้เข้าก็จะติฉินนินทาเป็นแน่แท้ เฮ่อ”ใต้เท้าฉีเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจเสียงดังให้ได้ยินกันถ้วนหน้า“ข้าคิดว่า เจ้าเป็นเพียงดรุณีเล็ก ๆ ติดขบวนไปด้วยหนึ่งคนก็คงจะไม่ลำบากอะไร”“ขอบคุณใต
สิ้นเสียงปากหนาก็ประกบกลีบปากบางจนมิด ความร้อนระอุแผ่ซานไปทั่วจะปากอิ่มของดรุณีน้อยร่างบางของดรุณีป่าจะขยับห่าง มือหนาของใต้เท้าฉีจึงรัดแน่นเข้า มืออีกข้างกดลงที่ลำคอสวยออกแรงให้ปากอิ่มเผยอออก แล้วลิ้นร้อนก็สอดเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นเล็ก ครวญหาน้ำหวานป่าส่งความซ่านสยิวไปทั่วทั้งร่างบางความซ่านเสียวจากปลายลิ้นที่นางไม่เคยสัมผัสมาก่อนมันจู่โจมร่างกายที่แข็งขืนเมื่อครู่ของดรุณีป่าอ่อนยวบลงราวกับไฟรน จนนางส่งเสียงครางออกมา“อือ”“และจุดต่อไปที่ต้องเปิดพลังคือคอขาว ๆ ของเจ้า”เมื่อร่างเล็กอ่อนระทวยลง ผู้คุมเกมจึงลากลิ้นร้อนไล้ลงมาที่ลำคอขาวผ่อง ลิ้มลองหยาดเหงื่อดรุณีป่าที่ค่อย ๆ ผุดออกมาเพราะหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงระส่ำ มือหนาของใต้เท้าฉีเคลื่อนออกจากศีรษะสาวน้อย เลื่อนลงมากระทุ้งผ้ามัดเอวบางให้หลุดออกทันทีที่ผ้ามัดเอวหลุดออกเสื้อขาวของเด็กสาวป่าก็เผยอเปิดออกจนเห็นเต้าน้อย ๆ ที่ตั้งชูราวกับดอกบัวตูม หัวนมน้อย ๆ สีชมพูหวานชูเด่นจนน่ากิน“ตะ ต้เท้าแก้ผ้าข้าทำไม”เสียงสั่นน้อยๆ ของหญิงสาว ทักท้วง“ปลดปล่อยพลังสวรรค์ของเจ้าออกจากทรวงอก อ่า ช่างงดงามยิ่งนัก”ลิ้นสากของใต้เท้าฉีลากไล้วนเวียน
ณ หอมู่ตานรื่อหง ผู้คุมอำนาจแห่ง หอมู่ตาน เดินนวยนาดมาที่ห้องกุหลาบแดงอย่างอารมณ์ดีเมื่อมาถึงที่หมายนางหยุดฟังเสียงพิณอันแสนไพเราะที่ผู้เป็นเจ้าของห้องมักจะบรรเลงอยู่เสมอ นางรู้สึกว่าตนเองโชคดีไม่น้อยที่ได้ครอบครองเพชรเม็ดงามเม็ดนี้“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่สร้างชื่อเสียงให้กับหอมู่ตาน จนกลายเป็นหอสวรรค์อันดับหนึ่ง“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่สร้างเงินทองให้กับแม่เล้าอย่างรื่อหงให้มีกินมีใช้ไปตลอดชาติ“เหมยกุ้ย” เพชรเม็ดงามที่รื่อหงเก็บมาจากซากโคลนตมท่ามกลางความแร้นแค้นหลังจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อ 6 ปีก่อนเมื่อ 6 ปีก่อน รื่อหง ได้สร้างหอมู่ตานขึ้นมาในปีแรก มีนางคณิกาในหอแห่งนี้แค่ไม่กี่คน ในช่วงนั้นผู้คนยังไม่นิยมใช้บริการสถานเริงรมย์เท่าใดนัก เนื่องด้วยเป็นยุคข้าวยากหมากแพงส่งผลให้เกิดโจรชุกชุม นอกจากชาวบ้านจะอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ แล้วยังอยู่ด้วยความหวาดกลัว หอมู่ตานรอดพ้นจากการปล้นก็เพราะนางต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้กับกลุ่มโจรที่ทรงอิทธิพลที่สุด รายได้เพียงน้อยนิดของหอมู่ตานจึงถูกจ่ายให้กับค่าโจรเสียมากกว่า รื่อหงจึงพยายามคิดหาทางที่จะเพิ่มรายได้ให้กับหอมู่ตานให้ได้มากที่สุดเ
แม่เล้าลำเลิกบุญคุณ เหมยกุ้ยได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน นางฟังประโยคนี้ซ้ำ ๆ มานานกว่า 6 ปีแล้ว และ 6 ปีที่นางต้องตกเป็นทาสกามเพื่อทำเงินให้กับแม่เล้าผู้นี้“ถ้าเช่นนั้น ก็สุดแล้วแต่ท่านแม่จะเห็นสมควรเถิด”เหมยกุ้ยรับคำแผ่วเบา รื่อหงจึงเอื้อมมือมากุมมือน้อยของสาวสวยไว้พลางปลอบประโลมว่า“ดีมากเหมยกุ้ย เจ้าช่างเป็นเด็กดียิ่งนัก วันนี้ถือว่าข้าขอเจ้าเป็นพิเศษก็แล้วกัน เพราะผู้ที่จะมาวันนี้เป็นขุนนางใหญ่จากทางเหนือ ปีหนึ่งท่านถึงจะเดินทางผ่านมาเมืองฉีซาน ท่านอุตส่าห์ส่งม้าเร็วมาจองตัวเจ้าไว้ก่อนขบวนของท่านจะมาถึงเสียอีก ให้ถือว่าทำบุญทำทานกับคนแก่แล้วกันนะเหมยกุ้ย”เหมยกุ้ยพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ รื่อหงยิ้มหน้าระรื่นเมื่อสาวงามแห่งหอมู่ตานยอมรับงาน นางจึงกล่าวต่อว่า“ก่อนรับแขกคืนนี้เจ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ข้าจะจัดให้เจ้าเป็นพิเศษ”“ขอบคุณท่านแม่ที่กรุณา หากเป็นได้ท่านแม่โปรดให้ไป๋หลาน หรือหวงหลานเป็นผู้ยกอาหารและเหล้าขึ้นมาที่ห้องกุหลาบได้หรือไม่”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ทำไมจะไม่ได้หล่ะ วันนี้ไป๋หลานว่างข้าจะให้นางขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้วกันนะ”“ขอบคุณท่านแม่”เหมยกุ้ยก้มศีรษะเล
สองหนุ่มเพ่งมองร่างสาวน้อยกึ่งเปลือยบนตักรื่อหง แล้วหายใจแรงหนักหน่วงอย่างควบคุมอารมณ์ เพราะร่างงดงามจนน่ากลืนกินทั้งตัวนั้นมันปลุกพลังความเป็นชายของเขาทั้งคู่ จนเจ็บร้าวที่หว่างขา“ช่วยสอนงานนางที”รื่อหงผลักร่างอรชรให้ชายกำยำ หนึ่งในสองนั้นอุ้มเหมยกุ้ยขึ้นอย่างง่ายดาย สติที่พอจะเหลืออยู่น้อยนิดบังคับให้นางส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นว่ารื่อหงกำลังหันหลังเดินออกไปจากห้อง“ทะ ท่านแม่! ช่วยข้าด้วย ข้าเป็นอะไร ยะ อย่าทิ้งข้า”“ข้าแค่ให้เจ้าดื่มกระไรเล็กน้อย เพื่อให้การเป็นนางคณิกาครั้งแรกของเจ้าไม่เจ็บปวดมากนัก และจะเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ”เมื่อกล่าวจบ รื่อหงก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เหมยกุ้ยอยู่กับชายบึกบึน หน้าเหี้ยม ที่มองผ่าน ๆ คล้ายกับกลุ่มโจรที่นางเคยพบเมื่อ 5 วันก่อนเหมยกุ้ยพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากอ้อมอกของชายกำยำผู้นั้น แต่เมื่อเนื้อตัวเสียดสีกับแผงอกแกร่ง นางก็รู้สึกร้อนวูบวาบราวกับว่าเนื้อตัวกำลังจะลาย จนต้องโอบร่างกำยำไว้แน่น“อือ สาวน้อย ใจเย็น ๆ สิ เดี๋ยวพวกข้าจะค่อย ๆ สอนเจ้าเอง ว่า นางคณิกาที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง ฮ่า ๆ”จางเหว่ยวางร่างอ่อนระทวยข