Share

บทที่ 5

Author: หมิงเยว่เจียวเจียว
last update Last Updated: 2024-12-17 15:00:46
แม่นมหวังสั่นไปทั้งตัว

ในที่สุดนางก็รู้ว่าบนตัวของเซี่ยเหยาฮวามีอะไรแปลกแล้ว!

หญิงสาวบ้านนอกที่เติบโตมาด้วยการถูกเฆี่ยนตีดุด่า นางควรจะเป็นคนขี้ขลาด ไม่มั่นใจ หวาดกลัวจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง แต่ไม่น่าใช่คนที่สงบ เยือกเย็น กระทั่งเย็นชาเช่นนี้!

แม่นมหลี่เป็นคนโง่เขลามาตลอด ล้มครั้งหนึ่งแล้วตายไปก็ใช่ว่าจะไม่ยุติธรรม แต่นางที่ภาคภูมิใจว่าตนเองเป็นคนรอบคอบ แต่กลับเหมือนตาบอดไปเสียอย่างนั้น ไม่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติของนางเลยแม้แต่น้อย

ในหัวของนางปรากฏภาพรูเลือดกลางหน้าผากของแม่นมหลี่ขึ้น แม่นมหวังรู้สึกแค่ว่าวันตายของตัวเองมาถึงแล้ว

“แม่นมหวัง? ”

แม่นมหวังเข่าอ่อนคุกเข่าลงกับพื้นทันที “ข้าน้อยอยู่นี่เจ้าค่ะ! ”

“ท่านแม่ของข้าชอบกินลูกอมกุ้ยฮวา ขนมดอกสาลี่และขนมนุ่ม ๆ หวาน ๆ ทั้งหมด น่องไก่ ขาหมูก็ขาดไม่ได้ นางร่างกายไม่ดี ไม่สามารถเดินทางรีบเร่งได้ นอนก็ต้องนอนพักโรงเตี๊ยมดี ๆ ใช่แล้ว นางชอบพูดคุย ต่อจากนี่ตลอดทางเจ้าก็คุยคลายความเบื่อกับนางด้วยแล้วกัน”

แม่นมหวังเงยหน้าขึ้นทันที นี่คือนางรอดตายแล้วจริง ๆ หรือ?

เซี่ยเหยาฮวาหัวเราะเบา ๆ ออกมา “การตายของแม่นมหลี่เป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น เจ้าก็เห็นแล้วใช่ไหม? แต่ที่ทำให้เจ้าตกใจ ข้าก็รู้สึกผิดไม่น้อยเหมือนกัน เอาอย่างนี้ พอกลับถึงเมืองลั่วจิง ข้าจะมอบเงินเป็นรางวัลเงินให้เจ้า! ”

เซี่ยเหยาฮวาไม่สนใจว่าแม่นมหวังจะมีปฏิกิริยายังไง นางเองก็ไม่กังวลว่าแม่นมหวังจะเขียนจดหมายไปแจ้งข่าวบอกให้จวนโหวหย่งหนิงคิดแผนรับมือล่วงหน้าไว้

ยังไงแล้ว ไม่ว่าจวนโหวหย่งหนิงจะคิดแผนซับซ้อนล้ำลึกอะไรออกมา นางก็ส่งพวกเขาไปสู่ปรโลกทีละคน อย่างมากก็ตายไปพร้อมกัน

ยิ่งไปกว่านั้น เหยื่อที่นางโยนให้กับหรงเจิ้งก็ดึงดูดใจมากพอ

หรงเจิ้งฉลาดเสียขนาดนั้น แค่ปกป้องนางตลอดทางก็สามารถประหยัดเวลาในการสืบสวนได้ถึงครึ่งปีหรือมากกว่านั้น และเพื่อจะได้รู้มากขึ้น และเพื่อกำจัดภัยคุกคามล่วงหน้าสู่ชัยชนะ บางที่เขาอาจสร้างพันธมิตรกับนาง

ชาติก่อนพวกเขาคือศัตรูคู่อาฆาต แต่ในชาตินี้กลายเป็นพันธมิตร บางทีอาจจะน่าสนใจมากขึ้น

เมื่อรถม้าเริ่มออกเดินทาง เซี่ยเหยาฮวาเปิดผ้าม่านมองออกไปข้างนอก เพียงแวบเดียว นางก็สังเกตเห็นหรงเจิ้งที่ยืนอยู่ท้ายสุดของฝูงชน

นางพยักหน้าเบา ๆ ยิ้มตอบกลับให้เขา และพูดออกมาสองคำอย่างไร้เสียง

เสิ่นหยูที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกว่ารอยยิ้มของนางบาดตามาก เขาหรี่ตาลงด้วยความไม่พอใจ “ฝ่าบาท นางพูดอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”

“นางบอกว่า เจอกันที่เมืองลั่วจิง” หรงเจิ้งกัดริมฝีปาก หันหลังกลับ “ไปกันเถิด กลับเมืองลั่วจิง”

“พระองค์ทรงเชื่อพูดหลอกลวงของนางจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ? ”

“บางครั้งคำพูดหลอกลวงก็ฟังรื่นหูคำพูดของคน”

“…แต่แผนของเราคือจะกลับเมืองลั่วจิงในอีกสองปีข้างหน้า หากกลับไปตอนนี้ เกรงว่าอาจจะแหวกหญ้าให้งูตื่นนะพ่ะย่ะค่ะ”

ฝีเท้าของหรงเจิ้งชะงัก ความอ่อนโยนบนใบหน้าหายไปจนหมด “อีกสองเดือนก็ถึงวันครบรอบวันสิ้นพระชนม์ของเสด็จแม่ข้า ร่างกายของน้าหลิ่วก็ไม่อาจทนรอได้นานขนาดนั้น เสิ่นหยู ข้าไม่อยากรออีกแล้ว”

ไม่นานม้าเร็วหลายตัวก็หายลับไปในป่าเขา เดินทางออกมาได้ระยะหนึ่ง หรงเจิ้งก็ดึงบังเหียนให้ม้าให้หันหลังกลับไป เห็นเพียงควันดำหนาลอยขึ้นจากทางของหมู่บ้านหลิงสุ่ย

ดวงตาของเสิ่นหยูเบิกกว้าง “เป็นฝีมือคุณหนูตัวจริงคนนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”

“คุณหนูตัวปลอม”

“พระองค์ทรงมั่นพระทัยขนาดนั้นเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”

เมื่อนึกถึงดวงตาที่เป็นประกายราวกับดวงดาวของเซี่ยเหยาฮวา หรงเจิ้งไม่ตอบ เพียงยิ้มอ่อน ๆ “ให้คนย้อนกลับไปดูหน่อย ช่วยได้ ก็ช่วยไว้หน่อย”

“พ่ะย่ะค่ะ! ”

เมื่อรถม้าเดินทางมาถึงวันที่ห้า ฟางชุ่ยฮวาก็ล้มป่วยลงกะทันหัน

วันนี้ก็พักที่โรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดในเมือง เซี่ยเหยาฮวาให้แม่นมหวังไปเชิญหมอที่เก่งที่สุดในเมืองมา นางป้อนยาให้กับฟางชุ่ยฮวาด้วยตัวเอง และเฝ้าดูจนนางหลับไป จากนั้นนางถึงจะกลับห้องของตัวเอง

ในห้องมีถังน้ำร้อนเต็มถังใบหนึ่งที่เพิ่งถูกยกเข้ามา เซี่ยเหยาฮวาปฏิเสธการปรนนิบัติของสาวใช้ จากนั้นก็ลงกลอนประตูแล้วค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าออก

แม้หลายวันที่ผ่านมาไม่ได้เร่งรีบนัก แต่การนั่งในรถม้าเป็นเวลานาน ร่างกายไม่ขยับก็รู้สึกเหนื่อยล้า เมื่อได้แช่ตัวในน้ำอุ่น ๆ รูขุมขนทั่วร่างกายก็เปิดออก นางยืดบิดตัวด้วยความเกียจคร้าน สบายตัวสุดๆ

ตอนที่กำลังสะลึมสะลือ ทันใดนั้นก็มีเสียงผิดปกติดังขึ้นจากนอกหน้าต่าง เซี่ยเหยาฮวาลืมตาขึ้นทันที คว้าเสื้อคลุมมาคลุมตัว แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อลงมือก็ออกท่าไม้ตาย

ด้านนอกมีเสียงดาบกระบี่กระทบกัน เสียงกรีดร้อง เสียงร้องไห้ดังขึ้น

มือข้างหนึ่งของเซี่ยเหยาฮวากำลังสลับบีบคอกับหรงเจิ้ง มืออีกข้างหนึ่งก็จับจุดชีพจรตรงข้อมือของอีกฝ่ายไว้แน่น

เสื้อคลุมที่เดิมทีคลุมไว้ก็ตกลงมาที่ปลายเท้า ในห้องเต็มไปด้วยความเงียบแปลกประหลาด

ผ่านไปครู่หนึ่ง เซี่ยเหยาฮวาก็พูดขึ้นช้า ๆ ว่า “เจ้าจะดูอีกนานแค่ไหน? ”

นางผอมมาก ร่างกายก็ยังไม่เติบโตเต็มที่ ผิวพรรณก็ซีดเหลืองเหมือนคนป่วย บนตัวเต็มไปด้วยรอยแผลจากแส้ มีด และแผลโดนลวก

น่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง

หรงเจิ้งเบือนหน้าหนี กล่าวขอโทษขึ้น

เซี่ยเหยาฮวารีบสวมเสื้อผ้าโดยเร็วที่สุด

เสียงต่อสู้ด้านนอกยังคงดำเนินต่อไป เซี่ยเหยาฮวารวบผมที่เปียกไว้ นั่งลงที่โต๊ะ และเทรินสองถ้วย “ข้าสงสัยมากว่า ทำไมเจ้าถึงเลือกที่จะปรากฏตัวในเวลานี้? ”

อารมณ์ของหรงเจิ้งกลับมาเป็นปกติแล้ว เขานั่งลง เลิกคิ้วเล็กน้อย “แน่นอนว่าเพื่อปกป้องเจ้า”

“สู้ใช้คำว่า เฝ้าจับตาดูดีกว่า? ”

“แม่นางเซี่ยสามารถตีความยังไงก็ได้”

สองคนนั่งหันหน้าเข้าหากัน แต่ละคนดื่มชาเงียบๆ ไม่นาน เสียงต่อสู้ด้านนอกก็หยุดลง มีคนมาเคาะประตู “ฝ่าบาท? ”

หรงเจิ้งวางถ้วยชา “เข้ามา”

เมื่อเสิ่นหยูเข้ามาก็เห็นน้ำบนพื้น ปฏิกิริยาแรกของเขาคือขมวดคิ้ว แต่เมื่อเห็นเสื้อผ้าของชายหญิงเป็นระเบียบ เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ฝ่าบาท…” เสิ่นหยูเหลือบมองเซี่ยเหยาฮวาแวบหนึ่ง อยากจะพูดอะไรบางอย่างเซี่ยเหยาฮวาไม่มีอารมณ์ใด ๆ “เท่าที่ข้ารู้ โรงเตี๊ยมแห่งนี้ยังมีห้องชั้นดีว่างอยู่อย่างน้อยห้าห้อง ด้วยทรัพย์สินของพวกท่านทั้งสอง คงไม่ถึงขั้นเปิดอีกห้องหนึ่งไม่ได้”

มุมปากของเสิ่นหยูกระตุกทันที คุณหนูตระกูลเซี่ยคนนี้ไม่เพียงโหดเหี้ยมใจดำ แต่ยังปากร้ายยิ่งนัก! ”

“เสิ่นหยู สิ่งที่แม่นางเซี่ยรู้เกรงว่าจะมากกว่าที่พวกเราสืบหาได้เสียอีก” หรงเจิ้งกระแอมเบา ๆ “คนเหล่านั้นหนีไปหมดอีกแล้วหรือ? ”

“ก็ไม่ถือว่าหนีไปหมดพ่ะย่ะค่ะ แต่คนที่จับมาได้ก็ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับฝ่าบาท” เสิ่นหยูเบะปากใส่เซี่ยเหยาฮวา “สอบปากคำแล้วพ่ะย่ะค่ะ คนพวกนั้นมาเพื่อฆ่านางกับแม่บุญธรรมของนางพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเห็นว่าเซี่ยเหยาฮวาไม่มีปฏิกิริยาอะไร เสิ่นหยูก็หยิบจดหมายออกมาหลายฉบับ “ใช่แล้ว กระหม่อมยังสกัดจดหมายมาได้หลายฉบับ คุณหนูเซี่ยจะดูหน่อยไหมขอรับ? ”

“ข้าอ่านหนังสือไม่ออก”

ทันทีที่เซี่ยเหยาฮวาพูดจบ ห้องข้าง ๆ ก็มีเสียงร้องไห้ของฟางชุ่ยฮวาดังขึ้น เมื่อนางเงยหน้ามองแม่นมหวังที่อยู่นอกห้อง นางก็นวดระหว่างคิ้ว จากนั้นก็เดินตรงไปห้องข้าง ๆ

ฟางชุ่ยฮวาได้รับบาดเจ็บ เลือดไหลเต็มแขน นางจับแขนของเซี่ยเหยาฮวา พูดซ้ำไปซ้ำมาเพียงประโยคเดียวว่า “ข้าไม่ไปเมืองลั่วจิง! ข้าจะกลับบ้าน! ข้าจะกลับบ้าน! ”

เซี่ยเหยาฮวาใช้สันมือฟาดฟางชุ่ยฮวาสลบ แล้วหันไปพยักหน้าให้กับชิงเย่ สาวใช้ที่กำลังตกตะลึงอยู่ “เฝ้าดูนางไว้ ก่อนที่จะกลับไปถึงจวนโหว ข้าไม่ต้องการให้นางต้องตกใจอีก”

เมื่อก้าวออกมาจากห้อง ก็เห็นเสิ่นหยูกำลังแสดงตัวตนของหรงเจิ้งให้กับแม่นมหวัง และเสนอให้จะขออาศัยบารมีของเซี่ยเหยาฮวาเดินทางกลับเมืองลั่วจิงด้วยกัน

แน่นอนว่าแม่นมหวังก็ไม่มีสิทธิ์จะพูดว่าไม่ นางทำได้เพียงมองไปทางเซี่ยเหยาฮวา

เซี่ยเหยาฮวายิ้มอ่อน ๆ “สามารถเดินทางร่วมกับองค์ชายใหญ่ก็เป็นเกียรติของหม่อมฉันยิ่งนัก แต่ฝ่าบาททรงแน่ใจหรือเพคะว่าจะเดินทางกลับเมืองลั่วจิงในตอนนี้? ”

หรงเจิ้งมองมา “ขอแม่นางเซี่ยโปรดยื่นมือช่วยคุ้มครองข้ากลับเมืองลั่วจิงอีกครั้ง เมื่อข้ากลับถึงวังอย่างปลอดภัยแล้ว จะกราบทูลเรื่องราวทั้งหมดต่อเสด็จพ่อ เพื่อขอความชอบให้กับเจ้า”

ความชอบหรือ

รอยยิ้มของเซี่ยเหยาฮวาจริงใจขึ้นเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันก็ต้องขอบพระทัยฝ่าบาทล่วงหน้าเพคะ”

ช่วงพลบค่ำของสิบวันต่อมา ขบวนของเซี่ยเหยาฮวาก็มาถึงเมืองลั่วจิง

เมื่อมองประตูจวนโหวอันยิ่งใหญ่สง่างาม เซี่ยเหยาฮวาก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงออกมาช้า ๆ

วิญญาณผู้บริสุทธิ์ที่ตายอย่างอนาถในชาติก่อนได้กลายเป็นปีศาจร้ายกลับมาทวงชีวิตแล้ว คนเหล่านี้ในตระกูลเซี่ย พวกเจ้าพร้อมหรือยัง? ”

ทันทีที่คนเฝ้าประตูเห็นแม่นมหวัง ก็รีบวิ่งเข้าไปข้างใน “ฮูหยิน! แม่นมหวังกลับมาแล้ว! คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วขอรับ! ”

ในเวลาเดียวกัน เซี่ยหมิงจูก็ตื่นขึ้นเงียบ ๆ หลังจากหลับไปนาน

หลังจากนางมองไปรอบ ๆ อย่างนิ่งสงบรอบหนึ่ง จู่ ๆ ก็หัวเราะเสียงดัง

ไม่คิดว่านางจะเกิดใหม่แล้ว!

เมื่อชาติก่อนนางเป็นฮองเฮาเพียงสิบวัน หรงเจิ้ง พระเจ้าตัวปลอมก็ชิงบัลลังก์ไป นางตายไปด้วยความหวาดกลัวและความไม่ยินยอม

ตอนนี้นางมีความทรงจำจากชาติก่อน ชะตากรรมของทุกคนอยู่ในกำมือของนาง ไม่ว่าจะเป็นคุณหนูตัวจริงของตระกูลเซี่ยหรือหรงเจิ้ง พระเจ้าตัวปลอม นางจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว!

ชาตินี้ นางไม่เพียงจะเป็นฮองเฮา แต่นางจะเป็นจักรพรรดินีด้วย! ”

Related chapters

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 6

    ในเวลานี้แม่นมถังก็เข้ามาด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ฮูหยินให้คนส่งรังนกมาให้ คุณหนูกินตอนร้อน ๆ เถิดเจ้าค่ะ”เซี่ยหมิงจูชิมคำหนึ่งแล้ววางลงตระกูลเซี่ยมีฐานะร่ำรวย รังนกที่มอบให้เซี่ยหมิงจูนั้นย่อมเป็นของดีที่สุด แต่หลังจากชาติก่อนเซี่ยหมิงจูเคยเป็นฮองเฮาแล้ว นางได้ลิ้มรสอาหารที่ดีที่สุดในโลกมาแล้ว รังนกในตอนนี้จึงดูจืดชืดไปในสายตาของนางแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะนางเกิดใหม่แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก็เริ่มวางแผน นางจะต้องสามารถอภิเษกเข้าตำหนักบูรพาได้ก่อนเวลาแน่นอน ฆ่าหรงเจิ้งเสียก่อน เพื่อขึ้นเป็นฮองเฮาได้ก่อนเวลาถึงตอนนั้น สิ่งที่ดีที่สุดในโลก จะถูกวางตรงหน้าให้นางเลือกอย่างเพลิดเพลินตามใจอีกครั้งแม่นมถังเอาผ้าเช็ดหน้าหมาด ๆ มาให้นางเช็ดนิ้วมือ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “เมื่อครู่เสียงดังเอะอะข้างหน้า ข้าน้อยให้คนไปถามมาแล้ว ได้ยินว่าเหมือนผู้นั้นกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”“ผู้ใด? ” “ก็คือผู้ที่เติบโตในหมู่บ้านหลิงสุ่ยคนนั้น” เอ๊ะ… หลี่ม่านเฉาหรือ” ก็จริง นางควรได้เวลากลับมาหาความตายแล้วเซี่ยหมิงจูรู้สึกขบขันในใจ แต่กลับแสดงท่าทางน่ารักเชื่อฟังออกมา “นางเป็นบุตรสาวฮูหยิ

    Last Updated : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 7

    ชายคนนั้นก้าวเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว “ตอนที่ผู้เฒ่าถังบอกในจดหมายว่าเจ้าเอาแต่ใจหยาบกระด้างข้ายังไม่เชื่อ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เพียงหยาบกระด้างเท่านั้น ยังไร้ความเคารพต่อผู้ใหญ่อีกด้วย! เจ้าแสดงท่าทีเช่นนี้กับท่านแม่! หลี่ม่านเฉา! การอบรมสั่งสอนของเจ้าไม่มีเลยหรือไง? ! ”เซี่ยเหยาฮวาจ้องมองชายที่เข้าด้วยสายตาเย็นเยียบ “เจ้าเป็นใคร? ”“ข้าคือซื่อจื่อของจวนโหวหย่งหนิง! และก็ยังเป็น——”“ดังนั้น ซื่อจื่อผู้สูงศักดิ์ ท่านกำลังจะมาพูดถึงการอบรมสั่งสอนกับคนที่กินไม่อิ่มสวมไม่อุ่นตั้งแต่เด็กอย่างนั้นหรือ? ” ในฐานะบุตรีฮูหยินเอกของจวนโหว กินไม่อิ่มสวมไม่อุ่น นี่มิเท่ากับตบหน้าจวนโหวหย่งหนิงหรือ?สีหน้าของเซี่ยเหวินเสวียนบูดบึ้งไม่สู้ดีทันที แต่เขาก็สงบลงได้ในเวลาไม่นาน “เรื่องในตอนนั้นก็ไม่ใช่ความผิดของท่านแม่! นางเองก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ! ไม่มีใครเจตนาให้เป็นเช่นนั้น! อีกทั้งเมื่อรู้ที่อยู่ของเจ้าแล้ว ท่านแม่ก็เอาแต่โทษตัวเองตลอดเวลา! ถ้าไม่เพราะสุขภาพของท่านแม่ไม่อำนวย ไม่สามารถทนกับการเดินทางยาวไกลได้ ท่านแม่ก็อยากไปรับเจ้ากลับมาด้วยตนเองด้วยซ้ำ! เจ้าไม่เพียงไม่รู้จักข

    Last Updated : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 8

    ก่อนที่นางไป๋ยังไม่ได้พบกับเซี่ยเหยาฮวา นางเคยจะมอบความรักส่วนหนึ่งให้นาง ตั้งใจชดเชยให้นาง แต่เมื่อนางปรากฏตัวขึ้น นางกลับแสดงท่าทีเย็นชามีหนามแหลมรอบตัว ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและไม่พอใจไม่เหมือนกับเซี่ยหมิงจู อ่อนหวานน่ารัก เพียงเรียกว่าท่านแม่ ก็สามารถทำให้หัวใจของนางละลายถึงกระนั้น ลูกสาวแท้ ๆ คนนี้ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนางเอง จะยังไงก็ตามก็ต้องยอมรับและอดทนแต่เมื่อมาถึงจุดที่ต้องเลือกระหว่างสองทาง นางก็ไม่อาจหลอกตัวเองได้อีกต่อไปแม้ลูกสาวแท้ ๆ จะสำคัญ แต่หมิงจูก็คือเด็กที่นางเลี้ยงดูมาเองกับมือ ด้วยหัวใจและหยาดเหงื่อในทุกวันคืน เป็นดั่งสมบัติล้ำค่าในใจของนางความรู้สึกในใจของนางไป๋ก็เอนเอียงไปทางเซี่ยหมิงจูทันทีนางเช็ดน้ำตา มองไปทางเซี่ยเหยาฮวา “เรื่องในวันนั้นเป็นความผิดของแม่เอง หากเจ้าจะโกรธหรือเกลียดแม่ แม่ก็ยอมรับ แต่หมิงจูไม่ได้ผิดอะไร นางก็เป็นลูกของแม่เช่นกัน ถ้าเจ้าจะต้องถึงขั้นให้หมิงจูออกไปถึงจะยอมกลับตระกูลเซี่ย ถ้าอย่างนั้นแม่ก็คงต้องเลือกไปกับหมิงจู”ในชาติก่อน ที่นางถูกกักบริเวณ เซี่ยเหยาฮวาเคยคิดว่า ถ้านางยังคงบริสุทธิ์ ไม่ถูกทำลาย ถ้านางไม่เอ

    Last Updated : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 9

    เซี่ยหมิงจูไม่ทันระวัง ถูกลากจนเซไปเซมา หากไม่ใช่เพราะเซี่ยเหวินเสวียนมือเร็วคว้าตัวนางไว้ทัน นางคงล้มลงขายหน้าผู้คนไปแล้วแม้กระนั้น ปิ่นปักผมบนศีรษะของนางก็เบี้ยวแล้ว ดูแล้วค่อนข้างไม่น่ามองเซี่ยเหวินเสวียนเตะไปที่ฟางชุ่ยฮวาทันที “เจ้าเป็นใครกัน คนอย่างเจ้าก็คิดว่าจะมาแตะต้องหมิงจูแม้แต่ปลายเล็บหรือ? ! ”พูดพลางสะบัดมือจะตบหน้าเซี่ยเหยาฮวา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว หากเจ้ารังแกหมิงจูอีกครั้งจะได้เห็นดีกัน——อ๊า! ”เซี่ยเหยาฮวาเอียงหน้าหลบหัวเล็กน้อย และตบหน้าเขากลับไปสองครั้ง “นี่คือของขวัญที่ข้ามอบให้กับเซี่ยหมิงจู ของขวัญชิ้นนี้รับหรือไม่รับนางก็ไม่สามารถพูดเองได้หรือ เจ้าจะมายุ่งอะไร? ทำไม นางพูดไม่ได้ เป็นเศษสวะที่ดูแลตัวเองก็ไม่เป็นหรือไง? ! ”เสียงตบดังชัดเจน ก็ทำให้ทั้งห้องเงียบสนิท และตอนที่คำว่า “เศษสวะ” ดังขึ้นก็ดังก้องราวกับฟ้าร้องฟางชุ่ยฮวาหลับตาไม่กล้าเอ่ยพูดเหล่าคนรับใช้ต่างอุทานในใจว่ากล้ามากจริง ๆ พากันเบิกตากว้าง ไม่กล้าหายใจดังเซี่ยหมิงจูอยากจะฆ่าฟางชุ่ยฮวากับเซี่ยเหยาฮวาตรงนั้นเลยนางเกิดใหม่พร้อมความทรงจำจากชาติที่แล้ว ก็ควรจะราบรื่นกว่าชาติที่แล้วไหม? ทำไม

    Last Updated : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 10

    สีหน้าของนางไป๋เปลี่ยนไปทันทีหลี่ฝูไห่เป็นหัวหน้าขันทีคนสนิทของฮ่องเต้ ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ก็ต่างให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยไปเยี่ยมเยียนจวนของขุนนางใดมาก่อน แต่ครั้งนี้กลับมาถึงจวนโหวหย่งหนิงหรือโหวหย่งหนิงทำให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัย ฮ่องเต้จึงส่งหลี่ฝูไห่มาลงโทษ?เซี่ยเหวินเสวียนกับนางไป๋มีความคิดใกล้เคียงกัน เขาไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดแล้ว รีบลุกขึ้นจากเท้าของเซี่ยเหยาฮวา “ท่านแม่——”ขันทีหลี่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “จวนโหวหย่งหนิงก็ยังคึกคักเหมือนเคย! ”นางไป๋กับเซี่ยเหวินเสวียนไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นแล้ว รีบก้าวไปข้างหน้า “ไม่ทราบว่าขันทีหลี่มา ขออภัยที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับ ขอกงกงโปรดยกโทษให้ด้วยเจ้าค่ะ”“เซี่ยฮูหยินไม่ต้องตกใจไป ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อมากล่าวขอบคุณคุณหนูใหญ่เซี่ยแทนฝ่าบาท”ฮ่องเต้กล่าวขอบคุณ?นางไป๋กับเซี่ยเหวินเสวียนมองหน้ากัน ทั้งดีใจและงุนงงหมิงจูเคยพบกับฮ่องเต้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? นางทำอะไรให้กับฮ่องเต้ ถึงขนาดทำให้ฮ่องเต้ส่งหลี่ฝูไห่มากล่าวขอบคุณ?และหากนางช่วยเหลือฮ่องเต้ ทำไมนางถึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ที่จวนเลย?ในเวลานี้เซี่ยหมิงจูก็ถูก

    Last Updated : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 11

    หอจินเฟิง ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ที่เซี่ยเหยาฮวาใฝ่ฝันอยากจะเข้าใกล้ แต่หลังจากเกิดใหม่ นางก็มีจิตใจมุ่งมั่นที่จะกลับมาแก้แค้นที่เมืองหลวง จึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องอาหาร เสื้อผ้า หรือที่พัก แต่กลับไม่คิดว่าพอกลับมาจะได้พักในหอจินเฟิงหอจินเฟิงเป็นเรือนที่แบ่งเป็นสามชั้น เรือนหลังอยู่ด้านในสุด มีทั้งหมดสองชั้น โหวหย่งหนิงสร้างขึ้นหลังจากลูกสาวของเขาคลอดออกมา จ้างช่างฝีมือที่ดีที่สุดในเมืองลั่วจิงใช้เวลานั้นมาสร้าง ใช้เวลาในการสร้างทั้งหมดห้าปีถึงสร้างเสร็จ ที่เสามีการแกะสลักไว้งดงาม หรูหราโอ่อ่ามาก ของตกแต่งภายในที่ราคาถูกที่สุดยังมีค่าพอที่จะเป็นอาหารให้ครอบครัวธรรมดาห้าคนใช้ชีวิตได้นานถึงสิบปีเมื่อชาติก่อน เซี่ยหมิงจูอาศัยอยู่ที่นี่ และเหยียบนางลงไปในโคลนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในชาตินี้ หอจินเฟิงได้เปลี่ยนเจ้าของแล้ว และคนที่จะถูกเตะลงสู่หุบเหวลึก จะไม่ใช่ตัวนางอย่างแน่นอนผู้คนในหอจินเฟิงเดินเข้า ๆ ออก ๆ เซี่ยเหยาฮวาเดินขึ้นไปชั้นบน และนอนลงบนแคร่เล็ก ๆ ขณะที่นางกำลังจะงีบเพื่อพักสายตา แม่นมหวังก็มาหานาง “ข้าน้อยคารวะคุณหนูใหญ่”“ในเวลานี้ เจ้าควรจะไปรายงานกับฮูหยินโหวหรือเปล่า? ”

    Last Updated : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 12

    เซี่ยเหยาฮวานอนหลับลงบนแคร่ข้างหน้าต่าง พอนางตื่นขึ้น พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้วเมื่อมองออกไปจากหน้าต่างไม้ที่เปิดออก ก็เห็นพระอาทิตย์ตกอยู่ที่ขอบฟ้า ทั้งแดงและกลม ทำให้เมฆที่อยู่ข้าง ๆ ดูสวยงามยิ่งขึ้นนางนึกถึงชาติก่อน หรงเจิ้งบอกนางว่า มีโอกาสก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกเสียหน่อย ตอนนั้นนางยังสงสัยว่าพระอาทิตย์ขึ้นและตกมีอะไรให้ดูกัน นอนพักผ่อนยังจะไม่ดีกว่าหรือตอนนี้นางเห็นพระอาทิตย์ตก ความรู้สึกของนางก็เปลี่ยนไปด้วยหอจินเฟิงมีเพียงสองชั้น แต่ความสูงเพียงเท่านี้มองพระอาทิตย์ตกก็ยังสวยงาม แล้วถ้าชมจากที่สูงกว่านี้ล่ะ?ในเวลานี้ แม่นมหวังก็มารายงานว่า : “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ชั้นล่างเก็บกวาดเกือบเสร็จแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูคิดว่าจะใช้รางวัลพระราชทานจากฝ่าบาทมาตกแต่ง หรือจะใช้ของที่ทางจวนส่งมาให้ดีเจ้าคะ? ”“อะไรก็ได้ ข้ามีเพียงเงื่อนไขเดียว” เซี่ยเหยาฮวาพูดพลางเดินลงไป “อย่าให้หรูหราเกินไป โดยเฉพาะห้องนอน ยิ่งเรียบง่ายเท่าไหร่ยิ่งดี”ของรางวัลพระราชทานจากฝ่าบาทวางเรียงรายตั้งแต่ประตูเรือนรั้วไปจนถึงเรือนหลัก ตอนนี้ยังมีข้าวของมากมายที่ยังไม่ได้จัดเก็บขันทีหลี่กลับไปแล้ว ทิ้งนางกำนัล

    Last Updated : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 13

    โหวหย่งหนิงสีหน้าบูดบึ้งทันที “ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วเรียบร้อยมีมารยาท นางไม่มี เจ้าก็จ้างคนมาสอนนาง! ในฐานะนายหญิงของจวน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็สามารถทำให้เจ้าตกที่นั่งลำบากได้หรือ? จวนโหวหย่งหนิงของเราไม่มีปัญญาจ้างแม่นมมาสอนมารยาทหรือ? เด็กแค่ไม่ยอมฟังคำสั่งเท่านั้น ก็ควรที่เจ้าจะต้องร้องไห้ด้วยหรือ? ”สามีกลับไม่เข้าข้างนาง นางไป๋ไม่อยากเชื่อ “ท่านพี่ ข้า——”“ถ้าจะพูดว่าน้อยเนื้อต่ำใจ ใครจะน่าสงสารไปกว่านาง? ในฐานะลูกสาวของจวนโหว แต่เพราะถูกคนชั่วทำร้าย ต้องทนทุกข์ทรมานสิบกว่าปี! พวกเจ้าในฐานะแม่และพี่ชายแท้ ๆ ไม่คิดไปสงสารนางแต่กลับทุบตีนาง! จวนโหวหย่งหนิงของเราเป็นตระกูลที่ใจแคบขนาดนั้น? แม้แต่เด็กคนหนึ่งก็รับเข้ามาอยู่ไม่ได้หรือ? ”ตอนที่โหวหย่งหนิงเดินทางกลับได้รับรายงานเรื่องราวทั้งหมดจากคนรับใช้แล้ว บางทีอาจะเป็นเพราะเขาไม่ได้อยู่ในนั้นด้วย แม้ตอนนี้เขาจะเห็นใจฮูหยินกับเซี่ยหมิงจู แต่เขาก็ยังคงมองเรื่องราวในมุมของคนนอกอย่างมีเหตุผล เมื่อเห็นนางไป๋ตาแดงก่ำกำลังจะร้องไห้ออกมา น้ำเสียงของเขาก็ลดต่ำลง “ข้ารู้ว่าเด็กคนนั้นไม่สนิทกับเจ้า ทั้งยังป่าเถื่อนหยาบคาย แต่ก่อนที่จะรับ

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 40

    “แต่ว่าท่านโหว เฉินสุ่ยเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดของท่าน เมื่อเขาไปฆ่าท่านแม่ของข้า เขาทำตามคำสั่งของท่านหรือเขาไปเองกัน และผู้ลอบสังหารเมื่อคืนนี้ เป็นไปได้ไหมว่าท่านโหวเป็นคนสั่งการ " “พูด พูดไร้สาระ ข้า ข้าไม่เคยทำ” “เรื่องใหญ่ขนาดนั้นเจ้ายังไม่รู้ งั้นท่านก็โดนหลอกได้ง่ายสินะ แต่ข้าก็แตกต่างออกไป ข้าตระหนี่ ความแค้นเล็กๆ น้อยๆ อาจเก็บไว้ได้เป็นร้อยปี โหวหย่งหนิง อย่าหลอกข้าจะดีกว่า เพราะข้าจะมองหาโอกาสที่จะแก้แค้นจริงๆ...อ่า บางทีอาจจะเหมือนอย่างในวันนี้ พระเจ้ามีเมตตาออกโรงช่วยข้าจัดการคนร้าย” เซี่ยเหยาฮวาเป็นภัยคุกคามชัด ๆ โหวหย่งหนิงโกรธมากจนหัวเราะออกมา เขาเป็นท่านโหวชั้นสอง กลับถูกเด็กหญิงเล็ก ๆ คนหนึ่งข่มขู่ในที่สาธารณะ เด็กคนนี้เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตนเองด้วย หากเขาไม่สามารถควบคุมนางได้ในวันนี้ ต่อไปเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มีหรงเจิ้งเป็นที่พึ่งพาแล้วอย่างไร ได้รับการยกย่องจากฮ่องเต้แล้วทำไม เขาเป็นพ่อแท้ ๆ นาง พ่อสั่งสอนลูก เป็นเรื่องสมควรแล้ว โหวหย่งหนิงยกมือขึ้นและตบหน้าเซี่ยเหยาฮวา เซี่ยเหยาฮวาขยับร่างของนางแล้วดึงเซี่ยหมิงจูที่กำลังดูเหตุการณ์ทั้งห

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 39

    นางไป๋สีหน้าขรึม นางรู้สึกเช่นเดียวกับเซี่ยเหวินเสวียน ทั้งๆ ที่เรื่องของอนุเหยาไม่เกี่ยวข้องกับเซี่ยเหยาฮวา แต่เมื่อมองดูนาง ในใจกลับรู้สึกรังเกียจมาก นางไป๋ปฏิเสธที่จะพูด และส่งสายตาร้ายกาจให้เซี่ยเหยาฮวา อย่างไรก็ตาม โหวหย่งหนิงมีความคิดรอบคอบกว่า เขารู้ว่าตอนนี้ไม่สามารถทำให้เซี่ยเหยาฮวาขุ่นเคืองได้ โหวหย่งหนิงถึงกับยิ้ม "เจ้าไม่เข้าใจอะไรล่ะ ถามได้หมด" "เมื่อคืนท่านแม่ของข้าถูกลอบสังหาร มิรู้ว่าท่านโหวจับผู้ลอบสังหารได้หรือยัง ผู้ลอบสังหารมีคนสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ ตอนนี้ผู้สมรู้ร่วมคิดอยู่ที่ใดแล้วท่านโหวมีแผนจะทำอย่างไรกับผู้ลอบสังหารพวกนี้ ใครเป็นคนสั่งการพวกนี้ ท่านโหวได้สอบถามอะไรมาบ้างหรือไม่" เซี่ยเหยาฮวาได้ถามติดกันหลายคำถาม ทำเอาโหวหย่งหนิงหน้ามืดทะมึน เฉินสุ่ยเป็นคนทำอะไรเรียบร้อยอยู่แล้ว เมื่อวานนี้ คำขอของเขาคือการฆ่าฟางชุยฮวา หลักฐานอื่น ๆ ยังไม่ต้องสนใจ เฉินสุ่ยอยู่เคียงข้างเขามาหลายปีแล้ว และเขาเชื่อว่าเฉินสุ่ยเข้าใจสิ่งที่เขาพูด แต่เฉินสุ่ยไม่ได้เลือกที่จะลงมือด้วยตัวเอง ในที่สุดไม่เพียงแต่ทำพลาด แต่ยังทำให้เสียคนไปคนหนึ่ง

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 38

    องครักษ์ขององค์หญิงเป่าฮวามาอย่างเร็ว เขาไม่ได้มาคนเดียว กลุ่มเล็กๆ ห้าคน สามคนอยู่ข้างหน้าและสองคนอยู่ข้างหลัง ทั้งสามคนด้านหน้าโค้งคำนับและหลีกทางให้ทุกคน จากนั้นจึงเห็นสองคนอยู่ด้านหลังนั้นยกอะไรบางอย่าง - ไม่! คนสองคนกำลังยกเสื่อซึ่งถูกม้วนขึ้น และมีเท้าคู่หนึ่งโผล่ออกมาตรงกลาง มีคนถูกห่ออยู่ในเสื่อนี้ และเป็นคนตายอีกด้วย องครักษ์ทั้งสองที่อยู่ด้านหลังวางเสื่อฟางลงแล้วเขย่าเล็กน้อย จากนั้นก็เผยให้เห็นศพหญิงร่างหนึ่ง ผิวหนังบนใบหน้าของศพถูกลอกออก และไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมได้ ใบหน้ามีเลือดไปหมด ร่างกายแข็งทื่อ ตายอย่างสมบูรณ์แบบ องค์หญิงเป่าฮวาส่งศพให้เซี่ยเหวินเสวียน? ดวงตาของเซี่ยเหวินเสวียนเบิกกว้าง "นี่ นี่ องค์หญิงเป่าฮวาหมายความว่าอย่างไร" องครักษ์พูดว่า "เย็นวานนี้ องค์หญิงกำลังเล่นอยู่ข้างนอก ผู้หญิงคนนี้ดูหมิ่นองค์หญิง นางด่าองค์หญิงหน้าอ่อนหวานแต่จิตใจน่าเกลียด องค์หญิงโกรธมากแต่ท่านก็ยังมีเมตตา ตอนนั้นท่านแค่อยากจะกรีดใบหน้านางแต่คนๆ นั้นบอบบางเกินไป แค่แทงครั้งเดียวก็เจ็บจนตายเสียแล้ว" สองสามีภรรยาโหวหย่งหนิงและเซี่ยเห

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 37

    ระหว่างทางแม่นมหวังบอกว่าโหวหย่งหนิงให้นางมา คงเพราะเรื่องอนุเหยา เรื่องของอนุเหยา เซี่ยเหยาฮวาพอจะรู้มาบ้าง ดังนั้นนางจึงไม่แสดงท่าทีอะไรในตอนนั้น ตอนที่กำลังจะไปถึงเรือนหลักนั้น นางก็ชมแม่นมหวังว่า "ข้อมูลนี้มีประโยชน์มาก ด้วยความช่วยเหลือจากแม่นมหวัง ข้าเชื่อว่าชีวิตของข้าที่อยู่ในจวนโหวจะดีขึ้นเรื่อยๆ " แม่นมหวังตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่เซี่ยเหยาฮวาชมนางอยู่และมีรอยยิ้มบนใบหน้าด้วย ทำไมนางถึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูกกันนะ? ความกลัวนั้นมันออกมาจากในกระดูก แปลกประหลาดมาก แต่การแสดงความภักดีนั้นไม่ผิด แม่นมหวังพูดอย่างรวดเร็วว่า "ตราบใดที่คุณหนูใหญ่สั่ง บ่าวพร้อมจะบุกน้ำลุยไฟ" บุกน้ำลุยไฟ...ประโยคว่างเปล่านี้อีกแล้ว แต่ใครๆ ก็ชอบฟัง เซี่ยเหยาฮวายิ้มก่อนก้าวเข้าไปในเรือนหลัก สามีภรรยาโหวหย่งหนิง เซี่ยเหวินเสวียน และ เซี่ยหมิงจูต่างอยู่กันพร้อมหน้า เซี่ยเหยาฮวาดูประหลาดใจ "เฮ้ ท่านซื่อจื่อกับคุณหนูหมิงจูไม่ได้ถูกกักบริเวณไว้อยู่หรือ ทำไมถึงมากันหมด ที่แท้ในตระกูลใหญ่บอกว่ากักบริเวณก็เป็นแค่คำพูดลอยๆ ไว้หลอกคนเท่านั้นสินะ"

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 36

    ใครว่ามิใช่เล่า โหวหย่งหนิงถอนหายใจ แต่เรื่องมันพลาดไปแล้ว ตอนนี้จะทำอย่างไรได้เล่า ได้แต่เอาใจฮองเฮาก่อน รอให้การแต่งงานระหว่างเซี่ยหมิงจูและองค์รัชทายาทได้กำหนดลงมาเสียก่อน จากนั้นค่อยไปแก้ไขความสัมพันธ์กับฮ่องเต้ แค่หวังว่าเฉินสุ่ยจะทำสำเร็จในคืนนี้ คืนนี้ ไร้ดาว แต่มีพระจันทร์ ฟางชุ่ยฮวาอาศัยอยู่ห้องข้างของหอจินเฟิง แต่เดิมแม่นมหวังจัดสาวใช้คนหนึ่งให้นาง แต่หลังจากที่นางได้ป้ายหยก แม่นมหวังก็เพิ่มสาวใช้และบ่าวให้อีก คืนนี้คือบ่าวคนนั้นเฝ้าห้อง คั่นด้วยฉากบังตา ฟางชุ่ยฮวาก็สามารถได้ยินเสียงกรนดังสนั่นของนาง ฟางชุ่ยฮวาถือป้ายหยกที่ฮ่องเต้พระราชทาน รู้สึกปลอดภัยเต็มเปี่ยม แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางจึงนอนไม่หลับ นี่ก็ยามสองแล้ว ฟางชุ่ยฮวายังคงนอนไม่หลับ นางพลิกตัวและอยากจะลุกขึ้น แต่จู่ๆ ก็มีคนปิดปากของนาง “อย่าส่งเสียง” เซี่ยเหยาฮวาพูดเบาๆ “ไปซ่อนตัวอยู่ข้างๆ” ดวงตาของฟางชุ่ยฮวาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว เซี่ยเหยาฮวาเข้ามาในห้องนางตั้งแต่เมื่อไร ทำไมนางไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งๆ ที่นางไม่ได้หลับด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ทำให้นางกลัวยิ่งกว่าน

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 35

    เฉินสุ่ยเป็นคนใช้สนิทของโหวหย่งหนิง และเป็นลูกชายของแม่นมเขา กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเป็นน้องของโหวหย่งหนิงด้วย ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง โหวหย่งหนิงก็เชื่อใจเฉินสุ่ยมาก หากเป็นเรื่องสำคัญ โหวหย่งหนิงก็จะมอบให้เฉินสุ่ยไปจัดการ เฉินสุ่ยติดตามโหวหย่งหนิงไปที่ห้องลับในห้องหนังสือ โหวหย่งหนิงกล่าวว่า "เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องของเหยาฮวา" เฉินสุ่ยขมวดคิ้ว "คุณหนูเหยาฮวาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านเอง ไม่ว่านางจะหยาบคายและไม่เอาไหนเพียงใด ทางจวนก็สามารถรองรับนางได้อยู่แต่ฟางชุ่ยฮวานั้นไม่ได้" “สิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าไปทำก็คือเรื่องของฟางชุ่ยฮวา” “ท่านโหวอยากให้นางออกจากลั่วจิง หรืออยากให้นางหายตัวไปตลอดกาล” "หายตัวไปตลอดกาล" เฉินสุ่ยพยักหน้า "ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ" “ต้องทำแผนให้ละเอียดหน่อย จะใช้เวลามากหน่อยก็ไม่เป็นไร จวนโหวหย่งหนิงเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นอยู่แล้ว จะนานไปกว่านี้สักพักก็ไม่เห็นจะเป็นไร ข้าต้องการให้มันรอบคอบ ต้องจัดการให้เรียบร้อย อย่าทิ้งร่องรอยอะไรที่ไม่เป็นผลดีกับจวนโหวไว้” "ไม่ต้องกังวล ท่านโหว ข้าน้อยจะจัดการเรื่องนี้ให

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 34

    “คุณท่าน มันเป็นความผิดของข้าทั้งหมด…” นางไป๋ปาดน้ำตา “ข้าไม่ควรโวยวายที่ขอร้องให้รับนางกลับมาตั้งแต่แรก ถ้าไม่ใช่ข้า จวนโหวคงจะไม่กลายเป็นตัวตลกเช่นนี้…” โหวหย่งหนิงโบกมืออย่างจนใจ “มาพูดแบบนี้ในยามนี้จะมีประโยชน์อะไรเล่า เอาล่ะ อย่าร้องไห้เลย สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเซี่ยเหยาฮวา ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีอะไร ต้องเกลี้ยกล่อมเซี่ยเหยาฮวาเอาไว้ อย่าให้นางย้ายออกจากจวนไป" เมื่อนึกถึงรางวัลที่ฮ่องเต้มอบให้ฟางชุ่ยฮวาอย่างมากมายนั้น โหวหย่งหนิงก็เริ่มปวดหัวตุบๆ อีกครั้ง นางไป๋ปาดน้ำตาและพยักหน้า "คุณท่านสบายใจเถอะ ข้าจะเกลี้ยกล่อมนางให้ได้ นางต้องการอะไร ข้าจะให้หมด แต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่คือฟางชุ่ยฮวา" หากฟางชุ่ยฮวาเป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรดา ตระกูลเซี่ยก็สามารถหาที่ไหนสักแห่งจัดแจงให้นางอยู่ได้ ยังอาจถูกคนอื่นชมว่าเราเป็นคนใจกว้าง แต่ประเด็นคือฟางชุ่ยฮวาไม่เพียงเป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรดา แต่มีผู้คนมากมายที่เห็นนางถูกทำลายความบริสุทธิ์ ขณะนี้ ข้างนอกไม่มีข่าวลืออะไร แต่เมื่อเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป ในความคิดของคนที่นินทาจะคิดว่า ความบริสุทธิ์ของฟางชุ่ยฮวาไม่มีทางถูกทำลายแต่จะ

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 33

    คนเดียวที่ทำให้เซี่ยเหยาฮวาเรียกนางว่า "ท่านแม่" นั้นก็มีแต่ฟางชุ่ยฮวา แม่บุญธรรมของนางที่มาจากหมู่บ้านหลิงสุ่ยที่พร้อมกับนาง สีหน้าขององค์รัชทายาทและโหวหย่งหนิงเปลี่ยนไปอย่างมากในเวลาเดียวกัน องค์รัชทายาทคว้าป้ายหยกจากนั้นโยนมันกลับไป เขายิ้มให้โหวหย่งหนิงพลางพูดว่า "โหวหย่งหนิงมีลูกสาวที่ดีจริงๆ ยินดีด้วย เสด็จพี่ ข้ายังต้องกลับไปรายงานเสด็จพ่อ ขอตัวก่อน” “ข้าก็ต้องการกลับวังเพื่อรายงาน ไปด้วยกันพอดีเลย” หรงเจิ้งออกไปกับเขา องค์รัชทายาทและหรงเจิ้งเป็นพี่น้องต่างมารดากัน พวกเขามีรูปร่างและนิสัยคล้ายกันมาก แต่ไม่ว่ามองจากด้านใด หรงเจิ้งก็อยู่เหนือกว่าองค์รัชทายาทเสมอ ตัวองค์รัชทายาทเองอาจไม่ทันสังเกตเห็น แต่โหวหย่งหนิงซึ่งเฝ้าดูจากด้านหลังสามารถมองความแตกต่างได้อย่างรวดเร็ว หลังจากส่งคนใหญ่คนโตทั้งสองด้วยสายตา โหวหย่งหนิงก็ไม่ต้องแสดงต่อ เขาคว้าป้ายหยกจากมือของเซี่ยเหยาฮวา ด้านหน้าของป้ายหยกเขียนว่า 'หลี่ฮูหยิน' ด้านหลังเขียนว่า 'พระราชทาน' และวันที่สลักอยู่ด้านล่าง นี่คือป้ายหยกจริงๆ เซี่ยเหยาฮวาอยากจะหัวเราะ "ท่านโหวคงไม่คิดว่านี่มันป

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 32

    องค์รัชทายาทลูบผมของเซี่ยหมิงจู แล้วตรัสว่า “หมิงจูเจ้ามีใจภักดีต่อข้าเยี่ยงนี้ ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง”“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท” “เจ้ากับข้าเราเป็นใจเดียวกันมาตั้งนานแล้ว จะขอบพระทัยก็ดูห่างเหินกันไป” องค์รัชทายาทจับมือนางแล้วตรัสว่า “วันนี้คงไม่ทันแล้ว ข้าจะต้องกลับวังไปเข้าเฝ้า” พรุ่งนี้เช้าข้าจะพาเจ้าออกไปพักผ่อนนอกเมือง ! ” เซี่ยหมิงจูดูมีความสุข แต่คิ้วของนางกลับตกลง “ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท แต่ท่านพ่อของหม่อนฉันอยากให้หม่อมฉันพักผ่อนอยู่กับบ้าน” “ข้าจะไปพูดกับโหวหย่งหนิงให้เอง วันนี้เจ้าพักผ่อนให้ดีเสียเถิด วันพรุ่งข้าจะมารับเจ้าแต่เช้า”“เพคะฝ่าบาท หากหม่อมฉันนึกเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับหรงเจิ้งออกอีก หม่อมฉันจะรีบส่งคนไปกราบทูลให้ฝ่าบาททรงทราบ”ทั้งสองกอดกันแน่นเซี่ยหมิงจูค่อย ๆ ขดริมฝีปากภายในอ้อมแขนขององค์รัชทายาทในชาติที่แล้ว ก่อนที่หรงเจิ้งจะแสวงหาอำนาจและแย่งชิงบัลลังก์ แม้ว่านางจะหลบอยู่เบื้องหลัง มองโหวหย่งหนิงและลูกชายของเขาวางแผนทุกอย่างให้นาง แต่นางก็รู้ทุกสิ่งที่นางจำเป็นต้องรู้ เพียงแค่องค์รัชทายาทเป็นโรคขี้สงสัยและเห็นแก่ตัว นางจึงต้องระมัดระวังเอาไว้

DMCA.com Protection Status