แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: หมิงเยว่เจียวเจียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 15:00:46
สีหน้าของนางไป๋เปลี่ยนไปทันที

หลี่ฝูไห่เป็นหัวหน้าขันทีคนสนิทของฮ่องเต้ ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ก็ต่างให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยไปเยี่ยมเยียนจวนของขุนนางใดมาก่อน แต่ครั้งนี้กลับมาถึงจวนโหวหย่งหนิง

หรือโหวหย่งหนิงทำให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัย ฮ่องเต้จึงส่งหลี่ฝูไห่มาลงโทษ?

เซี่ยเหวินเสวียนกับนางไป๋มีความคิดใกล้เคียงกัน เขาไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดแล้ว รีบลุกขึ้นจากเท้าของเซี่ยเหยาฮวา “ท่านแม่——”

ขันทีหลี่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “จวนโหวหย่งหนิงก็ยังคึกคักเหมือนเคย! ”

นางไป๋กับเซี่ยเหวินเสวียนไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นแล้ว รีบก้าวไปข้างหน้า “ไม่ทราบว่าขันทีหลี่มา ขออภัยที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับ ขอกงกงโปรดยกโทษให้ด้วยเจ้าค่ะ”

“เซี่ยฮูหยินไม่ต้องตกใจไป ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อมากล่าวขอบคุณคุณหนูใหญ่เซี่ยแทนฝ่าบาท”

ฮ่องเต้กล่าวขอบคุณ?

นางไป๋กับเซี่ยเหวินเสวียนมองหน้ากัน ทั้งดีใจและงุนงง

หมิงจูเคยพบกับฮ่องเต้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? นางทำอะไรให้กับฮ่องเต้ ถึงขนาดทำให้ฮ่องเต้ส่งหลี่ฝูไห่มากล่าวขอบคุณ?

และหากนางช่วยเหลือฮ่องเต้ ทำไมนางถึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ที่จวนเลย?

ในเวลานี้เซี่ยหมิงจูก็ถูกสาวใช้คนสนิทปลุกให้ตื่นขึ้น นางได้ยินก็งุนงงเล็กน้อยเช่นกัน นางเคยเจอกับฮ่องเต้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

แต่ในเมื่อขันทีหลี่บอกว่ามากล่าวคำขอบคุณในนามของฮ่องเต้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ก็ไม่มีทางผิดพลาดไป

บางทีอาจเป็นตอนที่ฮ่องเต้ทรงปลอมตัวออกมานอกวัง แล้วนางไปช่วยฮ่องเต้ไว้โดยบังเอิญ?

เมื่อมีคำขอบคุณของฮ่องเต้ในวันนี้แล้ว ฐานะของนางในเมืองลั่วจิงก็มีแต่จะยิ่งสูงขึ้น ส่วนนังบ้านนอกกับฟางชุ่ยฮวานั่น วันหนึ่งพวกนางก็ต้องตาย! เพราะไม่มีใครในจวนโหวหย่งหนิงกล้าเปิดเผยเรื่องอื้อฉาวของฟางชุ่ยฮวาแม้แต่คำเดียว!

ทางฝั่งขันทีหลี่ก็ถามหาว่าคุณหนูใหญ่อยู่ที่ไหน เซี่ยหมิงจูจัดแจงเผ้าผมเสื้อผ้า จากนั้นเดินผ่านกลุ่มคนออกมา “ข้าน้อยคารวะขันทีหลี่เจ้าค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นข้าน้อยก็ช่วยเหลือไปตามธรรมชาติเท่านั้น มิกล้ารับคำตรัสถึงของฝ่าบาทจริง ๆ … ขันทีหลี่? ”

ขันทีหลี่เดินผ่านนางตรงไปด้านหลัง ไปหยุดตรงหน้าเซี่ยเหยาฮวา "เจ้าก็คือคุณหนูใหญ่เซี่ย? หลี่ หลี่อะไรนะ? "

“หลี่ม่านเฉา”

รอยยิ้มของขันทีหลี่หายไปในทันที “ในฐานะลูกสาวของจวนโหว แต่กลับตั้งชื่อตามวัชพืชข้างทาง มันช่างไม่เหมาะสมจริง ๆ ! ฮูหยินเซี่ย จวนโหวหย่งหนิงรู้ข่าวที่อยู่ของคุณหนูใหญ่มานานกว่าสองเดือนแล้ว สองเดือนกว่า หกสิบกว่าวัน! ยังไม่เพียงพอที่ตระกูลเซี่ยจะตั้งชื่อที่ไพเราะให้กับคุณหนูใหญ่อีกหรือ? ทำไม ตระกูลเซี่ยของพวกเจ้าจะรอให้ฝ่าบาทพระราชทานชื่อให้หรือ? ”

นางไป๋รีบอธิบายทันทีว่า “ขันทีหลี่คงไม่ทราบ ลูกสาวเพิ่งจะกลับมาถึง ข้าน้อยมัวแต่ดีใจ จนลืมเรื่องชื่อไป… ทางตระกูลเซี่ยตั้งชื่อที่ไพเราะไว้นานแล้วเจ้าค่ะ นางชื่อเป่าจู เป็นสมบัติล้ำค่าที่สูญหายแล้วได้กลับคืนมาของตระกูลเซี่ย ต่อไปตระกูลเซี่ยก็จะดูแลนางเหมือนอัญมณีสมบัติล้ำค่า”

ขันทีหลี่ยังคงขมวดคิ้ว “ก็ถือว่าเป็นชื่อที่ดี แต่——”

“แต่กลับฟังดูบ้าน ๆ เกินไป” มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น “คุณหนูเซี่ยรูปร่างหน้าตางดงาม เป็นไผ่งาม เป็นดอกไม้สวรรค์ และเป็นหยกที่งามสง่า แค่ชื่อ ‘เป่าจู’ สองคำนี้ จะสามารถแสดงความงามสง่าของแม่นางเซี่ยออกมาได้ยังไง? ไม่อย่างนั้นก็ชื่อว่า ‘เหยาฮวา’ ไหม? ”

เซี่ยเหยาฮวาเงยหน้าขึ้นทันที

มองหรงเจิ้งที่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ดวงตาของนางแดงขึ้นเล็กน้อย

เขาก็เกิดใหม่ด้วยหรือ?

ไม่อย่างนั้นเขาจะพูดคำพูดที่เหมือนกับชาติก่อนได้ยังไง?

นางไป๋และคนอื่น ๆ ยังคงคาดเดาตัวตนของหรงเจิ้ง แต่เซี่ยหมิงจูกลับส่งเสียงออกมาแล้ว “หรงเจิ้ง! ”

คนที่แย่งชิงบัลลังก์ของสวามีนางในชาติก่อน ศัตรูคู่อาฆาตที่ยุติเส้นทางฮองเฮาของนาง! คนที่ทำให้นางตายตาไม่หลับ!

เดิมทีหรงเจิ้งก็เอาแต่จ้องมองเซี่ยเหยาฮวา พอได้ยินเสียงก็เหลือบมองไปทางเซี่ยหมิงจูเล็กน้อย “เจ้าเป็นใคร? เจ้ารู้จักข้าหรือ? เคยพบข้า? พบข้าเมื่อไหร่? ตอนนั้นอยู่กับใคร? ”

หรงเจิ้งถามกลับไปหลายคำถาม ทำให้เซี่ยหมิงจูตื่นขึ้น ได้สติกลับมาทันที

นางรีบสงบสติอารมณ์และอธิบายว่า “หม่อมฉันเซี่ยหมิงจู คารวะองค์ชาย กราบทูลองค์ชาย หม่อมฉันไม่เคยพบองค์ชายมาก่อน เพียงแต่เคยได้ยินองค์รัชทายาททรงตรัสถึงว่าพระองค์ทรงมีพระพักตร์คล้ายกับฝ่าบาทมากที่สุดในบรรดาองค์ชายทุกพระองค์ เลยทำให้หม่อมฉันจำพระองค์ได้ทันทีเพคะ

เพียงแต่พระองค์ทรงปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ทำให้หม่อมฉันตกใจจนหลุดเรียกพระนามของพระองค์ออกมา ขอพระองค์โปรดประทานอภัยให้กับความเสียมารยาทของหม่อมฉันด้วยเพคะ”

คำอธิบายนี้สมเหตุสมผล แต่จุดสนใจของหรงเจิ้งไม่ได้อยู่ตรงนี้

“เซี่ยหมิงจู” เขาทบทวนสามคำนี้ พร้อมกับมองเซี่ยหมิงจู “อืม ตัวคนนี่สมกับชื่อจริง ๆ ”

“ก็เป็นชื่อที่ดีจริง ๆ” ขันทีหลี่เสริมขึ้น

เซี่ยหมิงจูยิ้มไม่ออก

ประโยคก่อนของหรงเจิ้งยังพูดว่าเป่าจูบ้านนอก แต่ประโยคต่อมากลับบอกว่าคนก็สมกับชื่อ เป่าจูหมิงจู เดิมทีก็มีความหมายเหมือนกัน นี่หรงเจิ้งกำลังพูดอ้อม ๆ ว่า นางบ้านนอกใช่ไหม!

แน่นอนว่าไม่มีใครสนใจอารมณ์ของนางในตอนนี้ ขันทีหลี่ทำความเคารพหรงเจิ้งแล้ว “องค์ชายใหญ่ เมื่อวานนี้ก็ตกลงกับฝ่าบาทแล้วไม่ใช่หรือว่า ให้ข้าน้อยมาที่จวนก็พอ ทำไมวันนี้พระองค์ถึงเสด็จมาเองแล้วล่ะพะย่ะค่ะ? ”

“เรื่องการขอบคุณ แน่นอนว่าต้องมาด้วยตัวเองจึงจะแสดงถึงความจริงใจ”

หรงเจิ้งพูดพลางก็ก้มคำนับเซี่ยเหยาฮวา “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของแม่นางเซี่ย ขอบคุณป้าฟางที่คอยดูแลตลอดทาง ถ้าไม่มีแม่นางเซี่ยกับป้าฟาง ข้ากลัวว่าคงจะรอดกลับมาเมืองลั่วจิงไม่ได้ แม่นางเซี่ยกับป้าฟางช่วยชีวิตข้าไว้ ในวันหน้าข้าก็จะปกป้องพวกท่านด้วยชีวิตเช่นกัน”

หางตาเหลือบเห็นสีหน้าขัดเขินโมโหของเซี่ยหมิงจู เซี่ยเหยาฮวาก็ยากที่จะเก็บรอยยิ้มไม่ให้หลุดออกมาได้

นางก็ทำความเคารพเขากลับไป “เรื่องเล็กน้อย สามารถช่วยองค์ชายใหญ่ได้ก็ดีแล้วเพคะ”

ขันทีหลี่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม “แม่นางเซี่ยช่วยชีวิตองค์ชายใหญ่ไว้จากอันตราย จิตใจกว้างขวางกล้าหาญยิ่งนัก ฝ่าบาททรงชื่นชมมาก วันนี้นอกจากให้ข้าน้อยมาขอบคุณแม่นางเซี่ยแล้ว ข้าน้อยยังจะถามแทนฝ่าบาทด้วยว่า แม่นางอยากจะได้รางวัลแบบไหนหรือ? ”

เซี่ยเหยาฮวามองไปที่หรงเจิ้ง พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ ว่า : “ข้าน้อยไม่ต้องการรางวัล เพราะตอนที่ข้าน้อยช่วยเหลือ ก็ไม่ได้คาดหวังสิ่งใดตอบแทน เพียงแต่ครั้งหนึ่งข้าน้อยเคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับองค์ชายใหญ่ ข้าน้อยจึงรู้สึกเช่นเดียวกัน ข้าน้อยไม่อยากให้ใครต้องเผชิญกับความอนาถแบบเดียวกับข้าน้อยเท่านั้นเจ้าค่ะ”

สายตาของหรงเจิ้งเข้มขึ้นเล็กน้อย

แม่นางเซี่ยคนนี้รู้เรื่องในอดีตของเขาดีมากจริง ๆ !

นางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกมือสังหารจริงๆ หรือ? หรือระหว่างที่เสิ่นหยูสืบหาความจริงอยู่นั้นมองข้ามรายละเอียดอื่นหรือคนบางคนไป?

“เติบโตในชนบท แต่กลับไม่มีความหยาบคายติดตัวเลย กิริยามารยาทสูงส่ง แม่นางเซี่ยก็ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ” ขันทีหลี่กล่าวชมประโยคหนึ่ง จากนั้นมองไปทางนางไป๋ “ฮูหยินเซี่ย ท่านให้กำเนิดลูกสาวที่ดีจริง ๆ ”

นางไป๋ผู้เป็นฮูหยินของตระกูลผู้สูงศักดิ์ มีความสามารถในการปรับตัวเพียบพร้อม นางรีบแสดงท่าทีออกมาทันทีว่า : “นี่ก็เป็นสิ่งที่ลูกสาวควรทำอยู่แล้วเจ้าค่ะ ก็ไม่สมควรรับคำชมจากขันทีหลี่จริง ๆ … เพียงแต่ต้องขอโทษที่ข้าน้อยมีตาแต่ไร้แวว ไม่ทราบว่าองค์ชายพระองค์นี้คือองค์ชายพระองค์ไหนหรือเจ้าคะ? ”

“แน่นอนว่าคือองค์ชายใหญ่ องค์ชายหรงเจิ้ง”

องค์ชายใหญ่หรงเจิ้ง?

สำหรับหรงเจิ้ง นางไป๋ก็ไม่รู้มากนัก รู้เพียงแค่ว่าตอนเขายังทรงพระเยาว์ มีพระอาจารย์รูปหนึ่งเคยกล่าวว่าเขามีวาสนากับญาติสนิทมิตรสหายบางเบา จะนำความหายนะมาสู่คนรอบข้าง จะต้องไปบวชอยู่หน้าพระพุทธเจ้าจนกว่าเขาจะอายุครบยี่สิบปี ถึงจะสามารถเพื่อแก้ไขชะตาอันอาภัพนี้ของเขาได้

หลังจากหรงเจิ้งติดตามพระอาจารย์ไปที่วัดหนานฮวา นางไป๋ก็ไม่ได้ยินเรื่องราวของเขาอีกเลย

คำนวณเวลาดู หรงเจิ้งควรจะออกบวชเมื่อสองปีก่อนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีข่าวคราวเลย แต่กลับไม่คิดว่าเขาจะกลับมากะทันหันเช่นนี้ และยังพบกับเซี่ยเหยาฮวา และเซี่ยเหยาฮวาก็ได้ช่วยชีวิตเขาไว้อีก!

เซี่ยเหยาฮวาก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงบ้านนอก นอกจากความปากดีป่าเถื่อนแล้ว นางยังจะมีความสามารถอะไรไปช่วยเหลือคนอื่นได้?

เห็นได้ชัดว่าหรงเจิ้งอาศัยอำนาจของจวนโหวหย่งหนิง!

แต่ในเมื่อเซี่ยเหยาฮวาก็ไม่อธิบาย ก็ยอมรับไปแบบนี้! ช่าง...ไร้ยางอายเสียจริง ๆ !

ในเวลานี้ ขันทีหลี่พูดเสียงดังขึ้นว่า : “คุณหนูใหญ่เซี่ยเป็นคนมีความเมตตากรุณา ฝ่าบาทจึงไม่อาจ ตระหนี่ได้ ใครก็ได้ นำรางวัลที่ฝ่าบาททรงพระราชทานไปยังเรือนของคุณหนูใหญ่! ใช่แล้ว ฮูหยินเซี่ย เรือนของคุณหนูใหญ่อยู่ที่ไหนหรือ? ”

นางไป๋ไม่ทันพูด ก็มีคนตะโกนขึ้นก่อนว่า : “ข้าน้อยรู้เจ้าค่ะ! คุณหนูใหญ่ของเราพักอยู่ที่หอจินเฟิงเจ้าค่ะ! ”

เซี่ยเหยาฮวาพักอยู่ที่หอจินเฟิง? ไม่!

สาวใช้คนสนิทของเซี่ยหมิงจูตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที “หอจินเฟิงเป็นของคุณหนูใหญ่ของพวกข้า! ”

ขันทีหลี่พยักหน้าเพื่อแสดงว่าเขาได้ยินชัดเจนแล้ว “ในเมื่อคุณหนูใหญ่พักอยู่ที่หอจินเฟิง ถ้าอย่างนั้นก็ยกของทั้งหมดไปยังหอจินเฟิง! ”

ของรางวัลมากมายถูกนำเข้ามาจากนอกประตู ขันทีหลี่สั่งการด้วยตัวเองให้คนยกเข้าของไปยังหอจินเฟิง เซี่ยเหยาฮวากับหรงเจิ้งถูกฝูงชนผลักดันไปทางเรือนหลัง

มองเซี่ยหยาฮวาที่ถูกรายล้อมด้วยฝูงชน หน้าอกของเซี่ยหมิงจูก็กระเพื่อมขึ้นลงทันที จากนั้นก็เป็นลมไปด้วยความโกรธ

เมื่อเข้ามาสู่เรือนใน เซี่ยเหยาฮวากับหรงเจิ้งก็เจอกับศาลาริมน้ำเงียบสงบแห่งหนึ่ง

หรงเจิ้งส่งป้ายหยกอันหนึ่งให้นาง “ป้ายหยกนี้เป็นป้ายหยกประจำกายของข้า ถ้าเจ้าเจอปัญหาอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ก็มาหาข้าได้เลย ถ้าบังเอิญข้าไม่อยู่ องครักษ์ของข้าทุกคนก็จะฟังคำสั่งของเจ้า”

ป้ายหยกประจำกายของหรงเจิ้ง?

เมื่อเทียบกับของรางวัลมากมายจากฮ่องเต้ ป้ายหยกนี้ต่างหากที่เป็นของล้ำค่าทแท้จริง

เซี่ยเหยาฮวารับไว้ และรีบทำตามสัญญา “ระวังป้าหลิ่วของเจ้าไว้ด้วย”

หรงเจิ้งพูดขึ้นอย่างไม่ลังเล “ป้าหลิ่วไม่มีวันทำร้ายข้า! ”

“นางไม่มีทางทำร้ายเจ้า แต่คนเบื้องล่างของนางอาจจะไม่แน่”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 11

    หอจินเฟิง ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ที่เซี่ยเหยาฮวาใฝ่ฝันอยากจะเข้าใกล้ แต่หลังจากเกิดใหม่ นางก็มีจิตใจมุ่งมั่นที่จะกลับมาแก้แค้นที่เมืองหลวง จึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องอาหาร เสื้อผ้า หรือที่พัก แต่กลับไม่คิดว่าพอกลับมาจะได้พักในหอจินเฟิงหอจินเฟิงเป็นเรือนที่แบ่งเป็นสามชั้น เรือนหลังอยู่ด้านในสุด มีทั้งหมดสองชั้น โหวหย่งหนิงสร้างขึ้นหลังจากลูกสาวของเขาคลอดออกมา จ้างช่างฝีมือที่ดีที่สุดในเมืองลั่วจิงใช้เวลานั้นมาสร้าง ใช้เวลาในการสร้างทั้งหมดห้าปีถึงสร้างเสร็จ ที่เสามีการแกะสลักไว้งดงาม หรูหราโอ่อ่ามาก ของตกแต่งภายในที่ราคาถูกที่สุดยังมีค่าพอที่จะเป็นอาหารให้ครอบครัวธรรมดาห้าคนใช้ชีวิตได้นานถึงสิบปีเมื่อชาติก่อน เซี่ยหมิงจูอาศัยอยู่ที่นี่ และเหยียบนางลงไปในโคลนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในชาตินี้ หอจินเฟิงได้เปลี่ยนเจ้าของแล้ว และคนที่จะถูกเตะลงสู่หุบเหวลึก จะไม่ใช่ตัวนางอย่างแน่นอนผู้คนในหอจินเฟิงเดินเข้า ๆ ออก ๆ เซี่ยเหยาฮวาเดินขึ้นไปชั้นบน และนอนลงบนแคร่เล็ก ๆ ขณะที่นางกำลังจะงีบเพื่อพักสายตา แม่นมหวังก็มาหานาง “ข้าน้อยคารวะคุณหนูใหญ่”“ในเวลานี้ เจ้าควรจะไปรายงานกับฮูหยินโหวหรือเปล่า? ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 12

    เซี่ยเหยาฮวานอนหลับลงบนแคร่ข้างหน้าต่าง พอนางตื่นขึ้น พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้วเมื่อมองออกไปจากหน้าต่างไม้ที่เปิดออก ก็เห็นพระอาทิตย์ตกอยู่ที่ขอบฟ้า ทั้งแดงและกลม ทำให้เมฆที่อยู่ข้าง ๆ ดูสวยงามยิ่งขึ้นนางนึกถึงชาติก่อน หรงเจิ้งบอกนางว่า มีโอกาสก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกเสียหน่อย ตอนนั้นนางยังสงสัยว่าพระอาทิตย์ขึ้นและตกมีอะไรให้ดูกัน นอนพักผ่อนยังจะไม่ดีกว่าหรือตอนนี้นางเห็นพระอาทิตย์ตก ความรู้สึกของนางก็เปลี่ยนไปด้วยหอจินเฟิงมีเพียงสองชั้น แต่ความสูงเพียงเท่านี้มองพระอาทิตย์ตกก็ยังสวยงาม แล้วถ้าชมจากที่สูงกว่านี้ล่ะ?ในเวลานี้ แม่นมหวังก็มารายงานว่า : “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ชั้นล่างเก็บกวาดเกือบเสร็จแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูคิดว่าจะใช้รางวัลพระราชทานจากฝ่าบาทมาตกแต่ง หรือจะใช้ของที่ทางจวนส่งมาให้ดีเจ้าคะ? ”“อะไรก็ได้ ข้ามีเพียงเงื่อนไขเดียว” เซี่ยเหยาฮวาพูดพลางเดินลงไป “อย่าให้หรูหราเกินไป โดยเฉพาะห้องนอน ยิ่งเรียบง่ายเท่าไหร่ยิ่งดี”ของรางวัลพระราชทานจากฝ่าบาทวางเรียงรายตั้งแต่ประตูเรือนรั้วไปจนถึงเรือนหลัก ตอนนี้ยังมีข้าวของมากมายที่ยังไม่ได้จัดเก็บขันทีหลี่กลับไปแล้ว ทิ้งนางกำนัล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 13

    โหวหย่งหนิงสีหน้าบูดบึ้งทันที “ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วเรียบร้อยมีมารยาท นางไม่มี เจ้าก็จ้างคนมาสอนนาง! ในฐานะนายหญิงของจวน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็สามารถทำให้เจ้าตกที่นั่งลำบากได้หรือ? จวนโหวหย่งหนิงของเราไม่มีปัญญาจ้างแม่นมมาสอนมารยาทหรือ? เด็กแค่ไม่ยอมฟังคำสั่งเท่านั้น ก็ควรที่เจ้าจะต้องร้องไห้ด้วยหรือ? ”สามีกลับไม่เข้าข้างนาง นางไป๋ไม่อยากเชื่อ “ท่านพี่ ข้า——”“ถ้าจะพูดว่าน้อยเนื้อต่ำใจ ใครจะน่าสงสารไปกว่านาง? ในฐานะลูกสาวของจวนโหว แต่เพราะถูกคนชั่วทำร้าย ต้องทนทุกข์ทรมานสิบกว่าปี! พวกเจ้าในฐานะแม่และพี่ชายแท้ ๆ ไม่คิดไปสงสารนางแต่กลับทุบตีนาง! จวนโหวหย่งหนิงของเราเป็นตระกูลที่ใจแคบขนาดนั้น? แม้แต่เด็กคนหนึ่งก็รับเข้ามาอยู่ไม่ได้หรือ? ”ตอนที่โหวหย่งหนิงเดินทางกลับได้รับรายงานเรื่องราวทั้งหมดจากคนรับใช้แล้ว บางทีอาจะเป็นเพราะเขาไม่ได้อยู่ในนั้นด้วย แม้ตอนนี้เขาจะเห็นใจฮูหยินกับเซี่ยหมิงจู แต่เขาก็ยังคงมองเรื่องราวในมุมของคนนอกอย่างมีเหตุผล เมื่อเห็นนางไป๋ตาแดงก่ำกำลังจะร้องไห้ออกมา น้ำเสียงของเขาก็ลดต่ำลง “ข้ารู้ว่าเด็กคนนั้นไม่สนิทกับเจ้า ทั้งยังป่าเถื่อนหยาบคาย แต่ก่อนที่จะรับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 14

    เซี่ยเหยาฮวากดให้ฟางชุ่ยฮวานั่งลง จากนั้นนางถึงเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้างุนงง “หรือว่าข้าได้ยินผิด ไม่ได้ให้มากินอาหารหรอกหรือ? ”นางไป๋อดกลั้นความโกรธ พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าให้เจ้ามากินอาหาร ไม่ได้บอกให้นางมาด้วย”“เพิ่มมาคนหนึ่งก็เพิ่มตะเกียบอีกคู่เท่านั้น จวนโหวหย่งหนิงก็ไม่ได้เตรียมตะเกียบสำรองไว้อีกคู่หรือ? ”ดวงตางดงามของเซี่ยเหยาฮวาเบิกกว้างทันที มองด้วยความไร้เดียงสา มองจนนางไป๋เดือดดาล “จวนโหวหย่งหนิงมีชามและตะเกียบมากมาย เจ้าจะพาบ่าวรับใช้ทั้งหอจินเฟิงมาทั้งหมด ข้าก็เห็นด้วย แต่นางไม่ได้! ”“บ่าวรับใช้มาได้ แล้วทำไมนางถึงไม่ได้? ”“เพราะนางไม่คู่ควร! ” นางไป๋ชี้ไปที่ฟางชุ่ยฮวาด้วยสีหน้าอาฆาต “เข้ามา พานางออกไป! ”ฟางชุ่ยฮวารู้สึกหวาดกลัวกับจิตสังหารนั้นมาก นางอยากจะหนีไป หนีไปจากจวนโหวหย่งหนิง หนีไปจากเมืองลั่วจิงเร็ว ๆ แม้จะต้องไปที่ไป๋เยว่ ไปเป็นผู้ลี้ภัยทางตอนเหนือ นางก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับคนของจวนโหวหย่งหนิงนี้อีก!ไม่คาดคิดว่า เมื่อมีความคิดนี้เกิดขึ้น มือของเซี่ยเหยาฮวาก็วางลงตรงหลังเอวของนางมือของเซี่ยเหยาฮวาอบอุ่นนุ่มนวล แรงตรงหลังเอวก็เบามาก ฟางชุ่ยฮวา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 17

    เสิ่นหยูวางกล่องอาหารลงแล้วหันหลังออกไปทันที โหวหย่งหนิงไม่มีแม้แต่โอกาสจะอธิบายเมื่อมองแผ่นหลังที่เด็ดขาดของอีกฝ่าย แล้วหันกลับมามองความยุ่งเหยิงในห้องโถง ฮูหยินที่กำลังร้องไห้ ลูกสาวสุดที่รักที่กระอักเลือด และลูกชายคนโตที่ได้แต่กระทืบเท้า เป็นครั้งแรกที่โหวหย่งหนิงรู้สึกหมดหนทางในชีวิตเขาเพียงพาลูกสาวแท้ ๆ กลับมาคืนสู่ตระกูลเท่านั้น ทำไมถึงวุ่นวายเพียงนี้?ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป จวนโหวหย่งหนิงคงกลายเป็นเรื่องตลกของเมืองลั่วจิง และตระกูลเซี่ยคงแตกสลายในไม่ช้า!หลังจากสูดลมหายใจลึกสิบกว่าครั้ง โหวหย่งหนิงจึงเรียกพ่อบ้านมา “พาตัวเซี่ยเหยาฮวาส่งกลับไปยังหอจินเฟิง อาหารที่องค์ชายใหญ่กับพระสนมหลิ่วพระราชทานมาก็ส่งไปเช่นกัน”พ่อบ้านถามขึ้นว่า “แล้วคำสั่งกักบริเวณล่ะขอรับ…”“กักไว้ได้กัก กักไม่ได้ก็ไม่ต้องกัก! ”“แล้ว…”“ทุกเรื่องต้องให้ข้าบอกทุกอย่าง! แบบนี้ข้าจะมีเจ้าไว้ทำไมกัน? ! ” โหวหย่งหนิงโกรธจัด “พวกไม่ได้เรื่อง! ไร้ประโยชน์! ”ในเวลานี้นางไป๋ก็กรีดร้องขึ้นว่า “นายท่านหยุดดุได้แล้ว! หมิงจูกระอักเลือดอีกแล้ว! ”โหวหย่งหนิงรีบสั่งให้คนไปตามหมอประจำจวนมาทันที จากนั้นก็พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 16

    สนมหลิ่วขมวดคิ้ว พูดขึ้นเบา ๆ ว่า“ข้าไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน! ข้าบอกว่าเป็นนางก็คือนาง! ”“น้าหลิ่ว ท่านอย่าโมโหไป ค่อยๆ พูด หรงเจิ้งป้อนน้ำให้นาง “ข้ากลับมาคราวนี้ นอกจากมาเยี่ยมน้าหลิ่วแล้ว ก็ยังอยากรู้ความจริงว่าตอนนั้นท่านแม่ของข้าตายยังไง”“ฉินเสวี่ยฝูอายุน้อยกว่าข้ากับพี่จ้าวสี่ห้าปี พี่จ้าวก็รักเอ็นดูนางเหมือนกับน้องสาวแท้ ๆ มีอะไรที่ดี ๆ ก็จะคิดถึงนางก่อนเสมอ นางแค่ร้องไห้เสียใจครั้งหนึ่ง พี่จ้าวก็จะออกหน้าปกป้องนางทันที! แต่นางกลับแต่งงานกับคนที่นางเรียกว่า ‘พี่เขย’ หลังจากพี่จ้าวจากไปไม่ถึงสามเดือน! ”หน้าอกของสนมหลิ่วกระเพื่อมขึ้นลง“หลังจากนางขึ้นเป็นฮองเฮา ตระกูลฉินก็ทะยานขึ้นสู่ความรุ่งโรจน์ ทุกวันนี้ในราชสำนักก็มีลูกศิษย์ส่วนใหญ่ของราชครูฉิน ท่านพ่อของนาง! แต่ตั้งแต่พี่จ้าวจากไป เจิ้งเอ๋อร์ไปยังอารามหนานฮวา ลูกหลานของตระกูลจ้าวพากันเจ็บป่วย พิการ หรือไม่ก็ถูกโยกย้ายไปจากเมืองลั่วจิงด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา จนตอนนี้นอกจากไม่กี่คนที่เคยได้รับพระคุณจากพี่จ้าว ก็ยังมีใครจำนาง จำตระกูลจ้าวได้อีก! ”“ผลประโยชน์ทั้งหมดตกเป็นของนาง ฆาตกรจะเป็นใครถ้าไม่ใช่นาง? ! เจิ้งเอ๋อร์ ตอนน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 17

    พอดาบฟันลงไป กลับเป็นสัมผัสอ่อนนุ่ม เมื่อเปิดดู พบว่าบนเตียงมีแค่หมอนไม่กี่ใบ!ชิงเหมยรู้ว่าตนถูกหลอกคิดจะหลบหนีทันที ทว่าสายไปเสียแล้ว!เซี่ยเหยาฮวาได้แอบย่องไปอยู่ข้างหลังนางเรียบร้อยแล้วปิดปาก หักคอ โยนศพออกนอกหน้าต่าง ก่อนเซี่ยเหยาฮวาจะทะยานตามออกไปนักฆ่าที่กำลังปีนขึ้นไปถูกร่างศพกระแทกใส่ตกลงพื้นทันที เมื่อเขาผลักศพออกไป กลับปะทะเข้ากับนัยน์ตาหงส์เย็นชาคู่นั้นเจ้าของนัยน์ตาหงส์กล่าว "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าคันมือ อยากฆ่าคนเล่นสักสองสามคน?"นักฆ่าพุ่งจู่โจมเข้ามา ทว่าเซี่ยเหยาฮวาเคลื่อนไหวเร็วกว่าเขาเมื่อหัวเขาเข้ามาใกล้ นางก็เตะกระแทกเข้าไป ทำให้หัวเขาหันไปด้านข้าง จากนั้นหมุนตัวกลับ รับกระบวนท่าจากนักฆ่าอีกคน คล้อยหลังออกสามกระบวนท่า นางก็บิดหัวนักฆ่าคนนี้ไปอีกด้านแสงจันทร์โผล่ออกมาจากชั้นเมฆ แสงจันทร์สีขาวสว่างตกกระทบบนร่างนาง ทำให้นางดูสูงส่งบริสุทธิ์ แต่เมื่อนางแสยะยิ้มริมฝีปาก กลับเหมือนยมทูตที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรกเพื่อมาเอาชีวิตนักฆ่าคนที่สามที่สี่ คนหนึ่งอยู่กำแพงลานบ้าน อีกคนอยู่บนหลังคา หลังจากมองหน้ากันก็เหาะเหินมาหาเซี่ยเหยาฮวาพร้อมกันหนึ่งต่อสอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 18

    รับแท่งเงินสองแท่งเสร็จ หรงเจิ้งก็พยักหน้า "เช่นนั้นคืนนี้ขอให้แม่นางราบรื่นทุกอย่าง เจอกันพรุ่งนี้""เจอกันพรุ่งนี้"อึดใจถัดมา รอยยิ้มนางก็เปลี่ยนไป พลางตะโกนเสียงดัง "ช่วยด้วย! มีนักฆ่า!!"หรงเจิ้งชะงักฝีเท้า เสิ่นหยูที่รออยู่ข้างนอกโกรธจะแย่แล้วฝ่าบาทของเขายังอยู่ในนี้อยู่เลย นางตะโกนว่านักฆ่าออกมา เห็นได้ชัดว่านางอยากให้พวกเขาถูกจวนหย่งหนิงโหวโจมตีในฐานะนักฆ่า!“ฝ่าบาท ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ พระองค์อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระจากนางอีกนะพะยะค่ะ!”หรงเจิ้งเหาะออกมาจากหน้าต่าง หลังเหาะขึ้นลงไปไม่กี่ทีก็ทะยานปีนขึ้นไปบนหลังคาฝั่งตรงข้ามโหดเหี้ยมอำมหิตหรือ?แต่เขากลับคิดว่า นี่คือข้อดีที่ใหญ่ที่สุดของเซี่ยเหยาฮวา ในไม่ช้าข่าวนักฆ่าลอบเข้าหอจินเฟิงก็แพร่ไปยังเรือนไห่ถังนางไป๋และเซี่ยหมิงจูคุยกันเกือบครึ่งค่อนคืน เพิ่งพักสายตาไป ครั้นได้ยินข่าวนี้ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือการกลอกตา จากนั้นก็ถามเรื่องราวของเซี่ยเหยาฮาวอย่างไม่ค่อยเต็มใจคนรับใช้ส่ายหน้า “เรื่องราวทั้งหมดไม่ค่อยแน่ชัด เพียงแต่ตอนที่คุณหนูใหญ่หลับ ไม่มีใครเฝ้าอยู่ข้างกาย ตอนที่เรื่องเกิดขึ้นมีแค่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 40

    “แต่ว่าท่านโหว เฉินสุ่ยเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดของท่าน เมื่อเขาไปฆ่าท่านแม่ของข้า เขาทำตามคำสั่งของท่านหรือเขาไปเองกัน และผู้ลอบสังหารเมื่อคืนนี้ เป็นไปได้ไหมว่าท่านโหวเป็นคนสั่งการ " “พูด พูดไร้สาระ ข้า ข้าไม่เคยทำ” “เรื่องใหญ่ขนาดนั้นเจ้ายังไม่รู้ งั้นท่านก็โดนหลอกได้ง่ายสินะ แต่ข้าก็แตกต่างออกไป ข้าตระหนี่ ความแค้นเล็กๆ น้อยๆ อาจเก็บไว้ได้เป็นร้อยปี โหวหย่งหนิง อย่าหลอกข้าจะดีกว่า เพราะข้าจะมองหาโอกาสที่จะแก้แค้นจริงๆ...อ่า บางทีอาจจะเหมือนอย่างในวันนี้ พระเจ้ามีเมตตาออกโรงช่วยข้าจัดการคนร้าย” เซี่ยเหยาฮวาเป็นภัยคุกคามชัด ๆ โหวหย่งหนิงโกรธมากจนหัวเราะออกมา เขาเป็นท่านโหวชั้นสอง กลับถูกเด็กหญิงเล็ก ๆ คนหนึ่งข่มขู่ในที่สาธารณะ เด็กคนนี้เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตนเองด้วย หากเขาไม่สามารถควบคุมนางได้ในวันนี้ ต่อไปเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มีหรงเจิ้งเป็นที่พึ่งพาแล้วอย่างไร ได้รับการยกย่องจากฮ่องเต้แล้วทำไม เขาเป็นพ่อแท้ ๆ นาง พ่อสั่งสอนลูก เป็นเรื่องสมควรแล้ว โหวหย่งหนิงยกมือขึ้นและตบหน้าเซี่ยเหยาฮวา เซี่ยเหยาฮวาขยับร่างของนางแล้วดึงเซี่ยหมิงจูที่กำลังดูเหตุการณ์ทั้งห

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 39

    นางไป๋สีหน้าขรึม นางรู้สึกเช่นเดียวกับเซี่ยเหวินเสวียน ทั้งๆ ที่เรื่องของอนุเหยาไม่เกี่ยวข้องกับเซี่ยเหยาฮวา แต่เมื่อมองดูนาง ในใจกลับรู้สึกรังเกียจมาก นางไป๋ปฏิเสธที่จะพูด และส่งสายตาร้ายกาจให้เซี่ยเหยาฮวา อย่างไรก็ตาม โหวหย่งหนิงมีความคิดรอบคอบกว่า เขารู้ว่าตอนนี้ไม่สามารถทำให้เซี่ยเหยาฮวาขุ่นเคืองได้ โหวหย่งหนิงถึงกับยิ้ม "เจ้าไม่เข้าใจอะไรล่ะ ถามได้หมด" "เมื่อคืนท่านแม่ของข้าถูกลอบสังหาร มิรู้ว่าท่านโหวจับผู้ลอบสังหารได้หรือยัง ผู้ลอบสังหารมีคนสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ ตอนนี้ผู้สมรู้ร่วมคิดอยู่ที่ใดแล้วท่านโหวมีแผนจะทำอย่างไรกับผู้ลอบสังหารพวกนี้ ใครเป็นคนสั่งการพวกนี้ ท่านโหวได้สอบถามอะไรมาบ้างหรือไม่" เซี่ยเหยาฮวาได้ถามติดกันหลายคำถาม ทำเอาโหวหย่งหนิงหน้ามืดทะมึน เฉินสุ่ยเป็นคนทำอะไรเรียบร้อยอยู่แล้ว เมื่อวานนี้ คำขอของเขาคือการฆ่าฟางชุยฮวา หลักฐานอื่น ๆ ยังไม่ต้องสนใจ เฉินสุ่ยอยู่เคียงข้างเขามาหลายปีแล้ว และเขาเชื่อว่าเฉินสุ่ยเข้าใจสิ่งที่เขาพูด แต่เฉินสุ่ยไม่ได้เลือกที่จะลงมือด้วยตัวเอง ในที่สุดไม่เพียงแต่ทำพลาด แต่ยังทำให้เสียคนไปคนหนึ่ง

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 38

    องครักษ์ขององค์หญิงเป่าฮวามาอย่างเร็ว เขาไม่ได้มาคนเดียว กลุ่มเล็กๆ ห้าคน สามคนอยู่ข้างหน้าและสองคนอยู่ข้างหลัง ทั้งสามคนด้านหน้าโค้งคำนับและหลีกทางให้ทุกคน จากนั้นจึงเห็นสองคนอยู่ด้านหลังนั้นยกอะไรบางอย่าง - ไม่! คนสองคนกำลังยกเสื่อซึ่งถูกม้วนขึ้น และมีเท้าคู่หนึ่งโผล่ออกมาตรงกลาง มีคนถูกห่ออยู่ในเสื่อนี้ และเป็นคนตายอีกด้วย องครักษ์ทั้งสองที่อยู่ด้านหลังวางเสื่อฟางลงแล้วเขย่าเล็กน้อย จากนั้นก็เผยให้เห็นศพหญิงร่างหนึ่ง ผิวหนังบนใบหน้าของศพถูกลอกออก และไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมได้ ใบหน้ามีเลือดไปหมด ร่างกายแข็งทื่อ ตายอย่างสมบูรณ์แบบ องค์หญิงเป่าฮวาส่งศพให้เซี่ยเหวินเสวียน? ดวงตาของเซี่ยเหวินเสวียนเบิกกว้าง "นี่ นี่ องค์หญิงเป่าฮวาหมายความว่าอย่างไร" องครักษ์พูดว่า "เย็นวานนี้ องค์หญิงกำลังเล่นอยู่ข้างนอก ผู้หญิงคนนี้ดูหมิ่นองค์หญิง นางด่าองค์หญิงหน้าอ่อนหวานแต่จิตใจน่าเกลียด องค์หญิงโกรธมากแต่ท่านก็ยังมีเมตตา ตอนนั้นท่านแค่อยากจะกรีดใบหน้านางแต่คนๆ นั้นบอบบางเกินไป แค่แทงครั้งเดียวก็เจ็บจนตายเสียแล้ว" สองสามีภรรยาโหวหย่งหนิงและเซี่ยเห

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 37

    ระหว่างทางแม่นมหวังบอกว่าโหวหย่งหนิงให้นางมา คงเพราะเรื่องอนุเหยา เรื่องของอนุเหยา เซี่ยเหยาฮวาพอจะรู้มาบ้าง ดังนั้นนางจึงไม่แสดงท่าทีอะไรในตอนนั้น ตอนที่กำลังจะไปถึงเรือนหลักนั้น นางก็ชมแม่นมหวังว่า "ข้อมูลนี้มีประโยชน์มาก ด้วยความช่วยเหลือจากแม่นมหวัง ข้าเชื่อว่าชีวิตของข้าที่อยู่ในจวนโหวจะดีขึ้นเรื่อยๆ " แม่นมหวังตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่เซี่ยเหยาฮวาชมนางอยู่และมีรอยยิ้มบนใบหน้าด้วย ทำไมนางถึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูกกันนะ? ความกลัวนั้นมันออกมาจากในกระดูก แปลกประหลาดมาก แต่การแสดงความภักดีนั้นไม่ผิด แม่นมหวังพูดอย่างรวดเร็วว่า "ตราบใดที่คุณหนูใหญ่สั่ง บ่าวพร้อมจะบุกน้ำลุยไฟ" บุกน้ำลุยไฟ...ประโยคว่างเปล่านี้อีกแล้ว แต่ใครๆ ก็ชอบฟัง เซี่ยเหยาฮวายิ้มก่อนก้าวเข้าไปในเรือนหลัก สามีภรรยาโหวหย่งหนิง เซี่ยเหวินเสวียน และ เซี่ยหมิงจูต่างอยู่กันพร้อมหน้า เซี่ยเหยาฮวาดูประหลาดใจ "เฮ้ ท่านซื่อจื่อกับคุณหนูหมิงจูไม่ได้ถูกกักบริเวณไว้อยู่หรือ ทำไมถึงมากันหมด ที่แท้ในตระกูลใหญ่บอกว่ากักบริเวณก็เป็นแค่คำพูดลอยๆ ไว้หลอกคนเท่านั้นสินะ"

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 36

    ใครว่ามิใช่เล่า โหวหย่งหนิงถอนหายใจ แต่เรื่องมันพลาดไปแล้ว ตอนนี้จะทำอย่างไรได้เล่า ได้แต่เอาใจฮองเฮาก่อน รอให้การแต่งงานระหว่างเซี่ยหมิงจูและองค์รัชทายาทได้กำหนดลงมาเสียก่อน จากนั้นค่อยไปแก้ไขความสัมพันธ์กับฮ่องเต้ แค่หวังว่าเฉินสุ่ยจะทำสำเร็จในคืนนี้ คืนนี้ ไร้ดาว แต่มีพระจันทร์ ฟางชุ่ยฮวาอาศัยอยู่ห้องข้างของหอจินเฟิง แต่เดิมแม่นมหวังจัดสาวใช้คนหนึ่งให้นาง แต่หลังจากที่นางได้ป้ายหยก แม่นมหวังก็เพิ่มสาวใช้และบ่าวให้อีก คืนนี้คือบ่าวคนนั้นเฝ้าห้อง คั่นด้วยฉากบังตา ฟางชุ่ยฮวาก็สามารถได้ยินเสียงกรนดังสนั่นของนาง ฟางชุ่ยฮวาถือป้ายหยกที่ฮ่องเต้พระราชทาน รู้สึกปลอดภัยเต็มเปี่ยม แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางจึงนอนไม่หลับ นี่ก็ยามสองแล้ว ฟางชุ่ยฮวายังคงนอนไม่หลับ นางพลิกตัวและอยากจะลุกขึ้น แต่จู่ๆ ก็มีคนปิดปากของนาง “อย่าส่งเสียง” เซี่ยเหยาฮวาพูดเบาๆ “ไปซ่อนตัวอยู่ข้างๆ” ดวงตาของฟางชุ่ยฮวาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว เซี่ยเหยาฮวาเข้ามาในห้องนางตั้งแต่เมื่อไร ทำไมนางไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งๆ ที่นางไม่ได้หลับด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ทำให้นางกลัวยิ่งกว่าน

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 35

    เฉินสุ่ยเป็นคนใช้สนิทของโหวหย่งหนิง และเป็นลูกชายของแม่นมเขา กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเป็นน้องของโหวหย่งหนิงด้วย ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง โหวหย่งหนิงก็เชื่อใจเฉินสุ่ยมาก หากเป็นเรื่องสำคัญ โหวหย่งหนิงก็จะมอบให้เฉินสุ่ยไปจัดการ เฉินสุ่ยติดตามโหวหย่งหนิงไปที่ห้องลับในห้องหนังสือ โหวหย่งหนิงกล่าวว่า "เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องของเหยาฮวา" เฉินสุ่ยขมวดคิ้ว "คุณหนูเหยาฮวาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านเอง ไม่ว่านางจะหยาบคายและไม่เอาไหนเพียงใด ทางจวนก็สามารถรองรับนางได้อยู่แต่ฟางชุ่ยฮวานั้นไม่ได้" “สิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าไปทำก็คือเรื่องของฟางชุ่ยฮวา” “ท่านโหวอยากให้นางออกจากลั่วจิง หรืออยากให้นางหายตัวไปตลอดกาล” "หายตัวไปตลอดกาล" เฉินสุ่ยพยักหน้า "ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ" “ต้องทำแผนให้ละเอียดหน่อย จะใช้เวลามากหน่อยก็ไม่เป็นไร จวนโหวหย่งหนิงเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นอยู่แล้ว จะนานไปกว่านี้สักพักก็ไม่เห็นจะเป็นไร ข้าต้องการให้มันรอบคอบ ต้องจัดการให้เรียบร้อย อย่าทิ้งร่องรอยอะไรที่ไม่เป็นผลดีกับจวนโหวไว้” "ไม่ต้องกังวล ท่านโหว ข้าน้อยจะจัดการเรื่องนี้ให

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 34

    “คุณท่าน มันเป็นความผิดของข้าทั้งหมด…” นางไป๋ปาดน้ำตา “ข้าไม่ควรโวยวายที่ขอร้องให้รับนางกลับมาตั้งแต่แรก ถ้าไม่ใช่ข้า จวนโหวคงจะไม่กลายเป็นตัวตลกเช่นนี้…” โหวหย่งหนิงโบกมืออย่างจนใจ “มาพูดแบบนี้ในยามนี้จะมีประโยชน์อะไรเล่า เอาล่ะ อย่าร้องไห้เลย สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเซี่ยเหยาฮวา ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีอะไร ต้องเกลี้ยกล่อมเซี่ยเหยาฮวาเอาไว้ อย่าให้นางย้ายออกจากจวนไป" เมื่อนึกถึงรางวัลที่ฮ่องเต้มอบให้ฟางชุ่ยฮวาอย่างมากมายนั้น โหวหย่งหนิงก็เริ่มปวดหัวตุบๆ อีกครั้ง นางไป๋ปาดน้ำตาและพยักหน้า "คุณท่านสบายใจเถอะ ข้าจะเกลี้ยกล่อมนางให้ได้ นางต้องการอะไร ข้าจะให้หมด แต่ตอนนี้ปัญหาใหญ่คือฟางชุ่ยฮวา" หากฟางชุ่ยฮวาเป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรดา ตระกูลเซี่ยก็สามารถหาที่ไหนสักแห่งจัดแจงให้นางอยู่ได้ ยังอาจถูกคนอื่นชมว่าเราเป็นคนใจกว้าง แต่ประเด็นคือฟางชุ่ยฮวาไม่เพียงเป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรดา แต่มีผู้คนมากมายที่เห็นนางถูกทำลายความบริสุทธิ์ ขณะนี้ ข้างนอกไม่มีข่าวลืออะไร แต่เมื่อเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป ในความคิดของคนที่นินทาจะคิดว่า ความบริสุทธิ์ของฟางชุ่ยฮวาไม่มีทางถูกทำลายแต่จะ

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 33

    คนเดียวที่ทำให้เซี่ยเหยาฮวาเรียกนางว่า "ท่านแม่" นั้นก็มีแต่ฟางชุ่ยฮวา แม่บุญธรรมของนางที่มาจากหมู่บ้านหลิงสุ่ยที่พร้อมกับนาง สีหน้าขององค์รัชทายาทและโหวหย่งหนิงเปลี่ยนไปอย่างมากในเวลาเดียวกัน องค์รัชทายาทคว้าป้ายหยกจากนั้นโยนมันกลับไป เขายิ้มให้โหวหย่งหนิงพลางพูดว่า "โหวหย่งหนิงมีลูกสาวที่ดีจริงๆ ยินดีด้วย เสด็จพี่ ข้ายังต้องกลับไปรายงานเสด็จพ่อ ขอตัวก่อน” “ข้าก็ต้องการกลับวังเพื่อรายงาน ไปด้วยกันพอดีเลย” หรงเจิ้งออกไปกับเขา องค์รัชทายาทและหรงเจิ้งเป็นพี่น้องต่างมารดากัน พวกเขามีรูปร่างและนิสัยคล้ายกันมาก แต่ไม่ว่ามองจากด้านใด หรงเจิ้งก็อยู่เหนือกว่าองค์รัชทายาทเสมอ ตัวองค์รัชทายาทเองอาจไม่ทันสังเกตเห็น แต่โหวหย่งหนิงซึ่งเฝ้าดูจากด้านหลังสามารถมองความแตกต่างได้อย่างรวดเร็ว หลังจากส่งคนใหญ่คนโตทั้งสองด้วยสายตา โหวหย่งหนิงก็ไม่ต้องแสดงต่อ เขาคว้าป้ายหยกจากมือของเซี่ยเหยาฮวา ด้านหน้าของป้ายหยกเขียนว่า 'หลี่ฮูหยิน' ด้านหลังเขียนว่า 'พระราชทาน' และวันที่สลักอยู่ด้านล่าง นี่คือป้ายหยกจริงๆ เซี่ยเหยาฮวาอยากจะหัวเราะ "ท่านโหวคงไม่คิดว่านี่มันป

  • บุตรทั้งโหดทั้งบ้าทว่าน่าสนใจ   บทที่ 32

    องค์รัชทายาทลูบผมของเซี่ยหมิงจู แล้วตรัสว่า “หมิงจูเจ้ามีใจภักดีต่อข้าเยี่ยงนี้ ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง”“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท” “เจ้ากับข้าเราเป็นใจเดียวกันมาตั้งนานแล้ว จะขอบพระทัยก็ดูห่างเหินกันไป” องค์รัชทายาทจับมือนางแล้วตรัสว่า “วันนี้คงไม่ทันแล้ว ข้าจะต้องกลับวังไปเข้าเฝ้า” พรุ่งนี้เช้าข้าจะพาเจ้าออกไปพักผ่อนนอกเมือง ! ” เซี่ยหมิงจูดูมีความสุข แต่คิ้วของนางกลับตกลง “ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท แต่ท่านพ่อของหม่อนฉันอยากให้หม่อมฉันพักผ่อนอยู่กับบ้าน” “ข้าจะไปพูดกับโหวหย่งหนิงให้เอง วันนี้เจ้าพักผ่อนให้ดีเสียเถิด วันพรุ่งข้าจะมารับเจ้าแต่เช้า”“เพคะฝ่าบาท หากหม่อมฉันนึกเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับหรงเจิ้งออกอีก หม่อมฉันจะรีบส่งคนไปกราบทูลให้ฝ่าบาททรงทราบ”ทั้งสองกอดกันแน่นเซี่ยหมิงจูค่อย ๆ ขดริมฝีปากภายในอ้อมแขนขององค์รัชทายาทในชาติที่แล้ว ก่อนที่หรงเจิ้งจะแสวงหาอำนาจและแย่งชิงบัลลังก์ แม้ว่านางจะหลบอยู่เบื้องหลัง มองโหวหย่งหนิงและลูกชายของเขาวางแผนทุกอย่างให้นาง แต่นางก็รู้ทุกสิ่งที่นางจำเป็นต้องรู้ เพียงแค่องค์รัชทายาทเป็นโรคขี้สงสัยและเห็นแก่ตัว นางจึงต้องระมัดระวังเอาไว้

DMCA.com Protection Status