พวกผู้ชายพากันล่าหมาป่าตลอดทั้งเช้า ส่วนพวกผู้หญิง ประมาณเที่ยงสิบนาทีก็เริ่มจะพักผ่อนกันแล้วจูจี้ไปหากู้อวิ๋นซี "พระชายาหลีอ๋อง ข้าเอาขนมมาด้วยนิดหน่อยพระชายาจะชิมดูสักหน่อยไหมเพคะ?"กู้อวิ๋นซีมองไปที่ไม่ไกลเท่าไร เห็นพวกผู้ชายก็กำลังเริ่มพักกันแล้วแต่ว่า ตอนที่พวกเขาพักกันก็ยังไงศึกษาแผนที่ภูมิศาสตร์ของเขตสัตว์ดุร้ายอยู่ด้วยได้ยินว่าเจอพื้นที่ที่พวกหมาป่าไปรวมตัวกันแล้ว คาดว่าหลังจากพักเสร็จก็คงมุ่งหน้าไปที่รังของมันเพื่อฆ่าให้สะใจเต็มที่กระมังกู้อวิ๋นซีหันกลับมา ก็เห็นจูจี้เดินมาอยู่ตรงหน้าของนาง "เจ้าคือ...""ข้าคือจูจี้ เป็นสนมของเจิ้งอ๋อง" จูจี้ยื่นขนมที่นางเอามาให้ด้วยสองมือ"พระชายาหลีอ๋องอยากชิมดูหน่อยไหม?""องค์ชายสี่ไม่อนุญาตให้ข้ากินของไปเรื่อย ขอโทษด้วย พี่จูจี้" กู้อวิ๋นซีส่ายหน้าเจิ้งหวังกับเสวียนอ๋อง ต่อหน้าดูจะสามัคคีกัน แต่ความจริงแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่า พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เป็นคนที่มีสิทธิในบัลลังก์มากที่สุดต่างก็แอบสู้กันทั้งทางตรงและทางอ้อมกู้อวิ๋นซีไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ของคนในสมัยโบราณสักเท่าไร แต่เพื่อการอยู่รอด ก็ต้องกำจัดทุกอย่างที่อาจจะเป็นอันต
ลางสังหรณ์ของกู้อวิ๋นซีแม่นยำเสมอหลังพักเที่ยง ตอนที่ทุกคนกำลังเริ่มจะมุ่งหน้าเข้าไปในพื้นที่ที่ลึกที่สุดในเขตสัตว์ดุร้ายจู่ๆ ก็มีลูกธนูดอกหนึ่งยิงมาทางกู้อวิ๋นซีต่อให้กู้อวิ๋นซีจะเตรียมพร้อมไว้แล้ว เตรียมป้องกันอยู่ตลอดเวลาก็ตามทีแต่ ธนูลอบยิงมันก็ป้องกันยาก ลูกธนูที่เย็นเยียบ เกือบจะยิงโดนตัวนางอยู่แล้วได้ยินเพียงเสียงเคร้ง เสียงเดียว ผู้ชายที่เดินนำหน้านางอยู่ก็หันกลับมาวาดดาบออกไปอย่างรวดเร็ว ธนูดอกนั้นก็ถูกปัดกลับไปในทิศทางเดิม"อ๊า..." ไม่ไกลนัก มีคนถูกยิงล้มลงไปกู้อวิ๋นซีมองไปที่จวินเย่เสวียน แววตามีความไม่สบายใจนางคิดไว้แล้วว่าเจิ้งอ๋องกับจูจี้จะต้องลงมือกับนางเพื่อลองใจแต่คิดไม่ถึงเลย ว่าจะกระทำอุกอาจคิดจะเอาชีวิตของนางเช่นนี้!การลองใจแบบนี้ มันเกินไปหน่อย!"องค์ชายสี่..." ธนูดอกเดียว ทำให้คนที่อยู่ด้านหน้าพากันหวาดกลัวไปหมดจวินเย่เสวียนไม่พูดอะไร เขาบังคับม้าให้ไปอยู่ข้างๆ นาง ก่อนจะใช้ฝ่ามือใหญ่ช้อน"ว๊าย..." กู้อวิ๋นซีถูกเขาอุ้มขึ้นมา ฉับพลันก็ร่วงลงมาอยู่บนหลังม้าของเขา"องค์ชายสี่!" แบบนี้ ไม่ดีแน่!ตอนนี้นางกับเขานั่งอยู่บนม้าตัวเดียวกันแล้ว!ผิ
ในเขตสัตว์ดุร้ายมีนักฆ่าแอบซ่อนตัวอยู่นี่มันยิ่งทำให้คนรู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าการจัดการฝูงหมาป่าเฉยๆ เสียอีกกู้อวิ๋นซีคิดว่า พวกองค์ชายในสมัยโบราณเหล่านี้ เนื่องจากมีฐานะสูงส่งก็คงจะรักชีวิตยิ่งกว่าใครๆ เสียอีกแต่ทุกคนต่างก็ไม่กลัวอันตรายกันเลย ไม่เหมือนชีวิตอยู่ดีกินดีของพวกองค์ชายในละครโทรทัศน์สักนิดจวินติ้งเป่ยนำออกไปเป็นคนแรก ไม่เพียงแต่สังหารหมาป่า แต่ยังต้องจับตัวนักฆ่าออกมาให้ได้อย่าให้พูดเลยว่าน่าตื่นเต้นมากแค่ไหนสมแล้วที่เป็นราษฎรของหนานหลิงกั๋วที่เติบโตขึ้นมาบนหลังม้า!"องค์ชายสี่ ข้าไปเองได้ ข้าอยาก..." แต่เมื่อกู้อวิ๋นซีหันกลับไปมองก็ต้องตกตะลึงม้าของนางล่ะ?"อยากลงจากม้าไปเดินเองเหรอ?" สายตาของจวินเย่เสวียนฉายแววเยาะเย้ยน้อยๆ"ถ้าลงจากม้า ไม่เพียงต้องรับมือกับนักฆ่า แถมยังต้องต่อกรกับหมาป่าที่สามารถเข้ามาจู่โจมได้ทุกเมื่อ เจ้าดูสิ..."อะวู๊ววว หมาป่าตัวหนึ่งจู่โจมเข้ามาอย่างดุร้ายจวินเย่เสวียนตวัดดาบออกไปหนึ่งทีโดยไม่หันไปมองเลยด้วยซ้ำทันใดนั้นหมาป่าก็โดนฟันฉับออกจากกันเป็นสองซีก ร่วงหล่นลงบนพื้น เลือดสดๆ ไหลนอง"อุ้งเท้าของพวกมันคมกริบยิ่งกว่าอะไร ถ้
กู้อวิ๋นซีตกใจไปหมด นางพยายามออกแรงคิดจะผลักจวินเย่เสวียนออกแต่เขาก็เป็นเหมือนภูเขาลูกใหญ่ ที่ไม่ว่านางจะออกแรงผลักยังไง ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยนางยังคงดิ้นรนต่อไป แต่กลับยิ่งทำให้เขาควบคุมนางหนักขึ้นจวินเย่เสวียนใช้แขนยาวของเขาออกแรงกอดไว้แน่น ทำให้มือทั้งสองข้างของนางถูกกักไว้อยู่ที่ข้างลำตัวอย่างแน่นหนาส่วนฝ่ามือใหญ่อีกข้างก็จับศีรษะของนางไว้ เชิดหน้าของนางขึ้นมาเขาก้มหัวลงต่ำ เพื่อมอบจูบที่ดูดดื่มยิ่งขึ้นการลุกล้ำเข้ามาอย่างเผด็จการของเขาดูดกลืนความหอมหวานของนางไปจนหมดสิ้นกู้อวิ๋นซีทั้งตกใจทั้งโกรธ แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากพันธนาการของเขาได้เลย"อื้อ..." นางพยายามหลบเลี่ยงอย่างสุดชีวิต แต่ริมฝีปากบางของเขาก็คล้ายกับแปะติดกับริมฝีปากของนางไปแล้วไม่ว่านางจะหลบไปที่ไหน เขาก็ตามติดเป็นเงาไปได้ตลอด ปิดช่องทางหนีของนางโดยสมบูรณ์ได้อย่างง่ายดาย"อื้อๆ...ปะ ปล่อย..." เขาคือองค์ชายสี่นะ!เป็นพี่ชายของฉู่หลี!ทำไมเขาถึงทำเช่นนี้?ถึงแม้ครั้งก่อนในหอนอนของตำหนักไทเฮา พวกเขาจะเคยใกล้ชิดกันเช่นนี้มาแล้วก็ตาม แต่ตอนนั้นพวกเขาต่างก็ดื่มน้ำแกงบุตรหลานไป ไม่มีสติขาดความยั้งคิดในตอ
กู้อวิ๋นซีรู้สึกสิ้นหวังแล้วจริงๆไม่ว่านางจะทุบหรือขัดขืนยังไง เขาก็ไม่สนใจเลยตอนนี้จวินเย่เสวียนคล้ายกับว่าตกอยู่ในภวังค์แห่งมาร กลายร่างเป็นมารร้ายที่น่ากลัวไปแล้วหลังจากที่ปลดชุดของนางแล้ว เขาก็มุดหัวเข้าไปที่หน้าอกนาง ดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง"ไม่..." กู้อวิ๋นซีปฎิเสธเสียงพร่า สุดท้ายเสียงที่ออกมาก็กลายเป็นเสียงครางที่ต่ำที่น่าตกใจแทน "อ๊า..."นี่เขากล้ากดนางลงบนหลังม้าเลยเหรอ!ไอ้มารร้ายนี่! บ้าระห่ำจนน่ากลัว!"ปล่อยข้า..." กู้อวิ๋นซีพยายามขัดขืนสุดกำลัง สุดท้าย ไม่รู้ว่ามือคว้าเอาอะไรมาได้ดึงออกมาในทันใด ก่อนจะปักลงไปบนร่างกายของจวินเย่เสวียนอย่างแรงเวลา คล้ายกับว่าจะหยุดหมุนจวินเย่เสวียนเงยหน้าขึ้นจากหน้าอกของนาง ก้มลงมอง ก็เห็นมีดสั้นที่ถูกแทงอยู่บนไหล่ของเขาเล่มนั้นเป็นมีดสั้นบนหลังม้าของเขาเพื่อปกป้องตัวเอง นางได้ดึงเอามีดสั้นของเขาออกมาแทงลงบนที่ตัวเขาเลือดสดๆ ไหลรินลงมาในทันใดกู้อวิ๋นซีมองดูอย่างอึ้งๆ ตัวนางเองก็ตกใจเหมือนกันลมเย็นๆ พัดเข้ามา กู้อวิ๋นซีห่อตัวอย่างไม่รู้ตัวร่างกาย เปลือยเปล่าแล้ว...วินาทีต่อมา นางตกใจจนกรีดร้องออกมา ใช้ฝ่ามือตบลงไปบนต
หลังจากที่กระแทกอย่างรุนแรงในครั้งสุดท้าย ทั้งสองคนก็หยุดลงบนพื้นกู้อวิ๋นซีนอนซบอยู่บนตัวของจวินเย่เสวียนยันตัวเองลุกขึ้นมาจากอ้อมอกของเขา ที่เห็นอย่างแรกก็คือเสื้อผ้าเขาที่มีรอยเลือดเปื้อนอยู่เป็นวงกว้างทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล ซึ่งล้วนกำลังมีเลือดไหลรินแต่ที่รุนแรงที่สุดเหมือนจะเป็นแผลจากมีดสั้นบนไหล่ที่ยังมีเลือดสดๆ ไหลทะลักออกมาอยู่ใบหน้าของเขาขาวซีดราวกับกระดาษ ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆกู้อวิ๋นซีตกใจมากจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น นางประคองใบหน้าเขาขึ้นมาเบาๆ นิ้วมือต่างก็กำลังสั่นไหว"องค์ชายสี่ องค์ชายสี่ท่านเป็นยังไงบ้าง? ท่านฟื้นสิ อย่าแกล้งให้ข้าตกใจ องค์ชายสี่!"เนื่องจากตกใจเกินไป จนนางลืมไปแล้วว่าตัวเองก็รู้วิชาแพทย์อยู่นางได้แต่ประคองหน้าเขาไว้อย่างระมัดระวัง น้ำตาไหลรินลงมา นางตกใจจนตัวสั่น "องค์ชายสี่..."คิ้วเข้มของจวินเย่เสวียนขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อกู้อวิ๋นซีเห็น ก็เหมือนว่านางจะคิดอะไรขึ้นมาได้ รีบจับฝ่ามือใหญ่ของเขาขึ้นมาทันที นิ้วเรียวยาวกดลงไปบนจุดชีพจรบนข้อมือของเขาเขายังมีลมหายใจอยู่!ไม่สิ ต้องบอกว่า ชีพจรของเขายังเต้นแรงมีพลั
คำถามนี้ กู้อวิ๋นซีก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดีโชคดีที่จวินเย่เสวียนเองก็ไม่ได้บีบบังคับนางอีกไม่ไกลนักมีลำธารเล็กๆ อยู่สายหนึ่งหลังจากที่กู้อวิ๋นซีหาสมุนไพรมาได้แล้ว ก็จูงจวินเย่เสวียนมานั่งลงที่ข้างลำธารนางฉีกชุดของตัวเองออกส่วนหนึ่ง จุ่มลงไปในลำธารก่อนจะซักให้สะอาด จากนั้นค่อยกลับมานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา ทำความสะอาดบาดแผลให้เขาอย่างระมัดระวังจากนั้น ใส่ยา นางดึงผ้าที่กระโปรงตัวเองมาอีกชิ้นเป็นผืนยาวสำหรับพันแผลให้เขา"องค์ชายสี่ บนตัวของท่านมีแผลอยู่เต็มไปหมด""ไม่เป็นไร" แค่เพียงไม่มีเลือดไหล ก็ไม่ทำให้นางตกใจแล้วแผลเล็กน้อย เขาไม่สนใจอยู่แล้วกู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปาก มองดูใบหน้าที่ขาวซีดของเขาทั้งๆ ที่สีหน้าแย่มากขนาดนี้แล้วแท้ๆ แต่เขากลับยังดูกระปรี้กระเปร่าอยู่เลย"ไม่เจ็บเหรอ?""เจ้าว่าไงล่ะ?" เขาไม่ใช่คนตายสักหน่อย จะไม่เจ็บจริงๆ ได้ยังไง?ก็แค่ไม่อยากให้นางเป็นห่วง ก็เลยไม่กล้าแม้แต่จะขมวดคิ้วสักนิดก็เท่านั้นจวินเย่เสวียนเงยหน้าขึ้นมามอง ที่นี่ไม่จัดว่าเป็นหุบเหวลึกหรอก เป็นเพียงเชิงเขาของหน้าผาเท่านั้นแต่หน้าผานี้ก็ลึกไม่หยอก ตอนนี้เงยหน้าขึ้นไปมอง ยังม
"นั่งลง ถอดรองเท้าออก ให้ข้าดูหน่อย" จวินเย่เสวียนย่อตัวนั่งลงไม่รอให้กู้อวิ๋นซีพูดอะไร ก็ประคองนางให้นั่งลง จากนั้นก็ถอดรองเท้ายาวของนางออกกู้อวิ๋นซีกำชายเสื้อของเขาเอาไว้แน่น เจ็บจนน้ำตาจะไหลออกมาแล้วจวินเย่เสวียนถอดถุงเท้าของนางออก ใช้ฝ่ามือจับข้อเท้าเปลือยเปล่าของนางไว้"เจ็บ..." กู้อวิ๋นซีขมวดคิ้วมุ่น"อดทนหน่อย" เขาออกแรงที่ฝ่ามือเล็กน้อย พลังงานอุ่นๆ ก็ไหลเข้าสู่ข้อเท้าของนางพลังปราณ อบอุ่นมากความรู้สึกเจ็บปวดก็เบาลงไปมากแล้วแต่ว่า ขาบวมแบบนี้ จะออกไปยังไง?กู้อวิ๋นซีเงยหน้าขึ้นมองไปที่บนยอดหน้าผาสูงมาก!จากนั้นสายตา ก็มองมาที่ใบหน้าของจวินเย่เสวียนโดยไม่รู้ตัว"มีเรื่องลำบากก็เลยเรียกหาข้าเหรอ?" จวินเย่เสวียนสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกกู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปาก ส่ายหน้าเมื่อเขาวางเท้าของนางลง นางก็จับไหล่ของเขาเพื่อพยุงตัวให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆคิดไม่ถึงว่า เพิ่งก้าวเท้าแค่ก้าวเดียว ก็จะเจ็บมากจนต้องขบฟัน ที่ขมับเริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดออกมาดูเหมือนว่าจะเดินไม่ไหวแล้วจริงๆอยากจะหันไปมองเขา แต่ก็ไม่กล้าตอนนี้องค์ชายสี่ คงจะรังเกียจนางมากแล้วกระมัง?คิดไม่ถึงว่