"ท่านคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ?" เยี่ยนอีพูดอย่างโมโหคิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ กู้อวิ๋นซีจะไม่กลัวพลังไอเย็นกดดันจากเขา นางถึงขึ้นเดินขึ้นไปข้างหน้า ใช้ร่างกายที่อ่อนแอจากอาการป่วยไปเผชิญหน้ากับพลังปราณของเขาโดยตรง"ถ้าเจ้ากล้าก็ลองลงมือดูเลยสิ!""ท่าน!" เยี่ยนอีจะกล้าลงมือจริงได้อย่างไร? นางเป็นพระชายาหลีอ๋อง! เป็นเจ้านาย!ต่อให้เขาจะแค้นนางมากแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจลงมือทำร้ายนางได้จริงๆ หรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องฆ่านางเลย!หลานโจวพูดออกมาเบาๆ ว่า "ไม่ว่าคุณชายมู่คนนั้นมีจุดประสงค์อะไร แต่เครื่องมือที่เขาผลิตข้าเองก็เคยใช้มาก่อน จัดว่าเป็นของที่ดีที่สุดจริงๆ"เมื่อเยียนเป่ยได้ยินดังนั้น ก็รีบเข้ามาดึงตัวเยี่ยนอีทันที"ในเมื่อขนาดหลานโจวยังพูดแล้วว่าเป็นของดี เช่นนั้นไม่ว่าเขาจะมีจุดประสงค์อะไร พวกเราก็แค่ตรวจสอบว่าเครื่องมือมีพิษหรือไม่ก็พอแล้วนะ"เครื่องมือไม่มีชีวิต คนต่างหากที่สำคัญนับว่าตอนนี้เยียนเป่ยยังเชื่อในตัวของกู้อวิ๋นซีอยู่ อย่างน้อย นางก็คงไม่ถึงขั้นอยากทำร้ายท่านอ๋องหรอกอีกอย่าง สิ่งที่นางพูดเมื่อครู่ ความจริงก็ทำให้เยียนเป่ยสะอึกไปเหมือนกันอย่างน้อย ตอนที่พระชายาหลีอ
เข็มฉีดยาของกู้อวิ๋นซี ฉีดเข้าไปโดนจุดตายของจวินเย่เสวียนตั้งแต่แรกจากนั้น ก็ฉีดยาที่นางเป็นคนปรุงขึ้นมาเองเข้าไปสู่ในร่างกายของเขาคืนนั้น ในครึ่งคืนแรกสีหน้าของจวินเย่เสวียนยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่ในครึ่งคืนหลัง สีหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจนกระทั่งอมม่วง!ดูแล้วราวกับคนถูกวางยาต่อจากนั้น หนังตาของเขาก็กระตุกอย่างแรง ดูแล้วเหมือนมีแววว่ามีปาฏิหาริย์ที่จะฟื้นขึ้นมาเลยหลานโจวตื่นเต้นสุดๆ รีบเข้าไปจับชีพจรให้กับจวินเย่เสวียนทันที"เหตุใด...ชีพจรถึงได้สับสนเช่นนี้?" เขามองไปที่กู้อวิ๋นซีแต่กู้อวิ๋นซีกลับพูดว่า "หลานโจว ข้ามีเรื่องที่จะต้องพูดกับเขา เจ้าจะออกไปก่อนได้ไหม?"หลานโจวไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่มองไปที่จวินเย่เสวียนแล้วก็ได้แต่ทำท่าลังเล"หรือว่า เจ้าคิดว่าข้าจะทำร้ายเขา?" กู้อวิ๋นซียิ้มเย็น "คนที่ทำร้ายเขาจริงๆ แล้วเป็นใคร เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจ"หลานโจวยังคงไม่พูดอะไรตามเดิม เพียงแค่ครั้งนี้ เขายอมที่จะหมุนตัวเดินออกไปด้านนอกเยียนเป่ยกับเยี่ยนอีจ้องหน้าเขา สีหน้าประหลาดน้อยๆหลานโจวก็ยังคงไม่พูดอะไร เพียงแค่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูไม่ยอมจากไปไหนเช่นเดีย
หากว่าความอบอุ่นไม่สามารถเรียกเขาให้ฟื้นได้ เช่นนั้นก็ลองใช้ความแค้นดูแล้วกัน!กู้อวิ๋นซีเพียงแค่คิดไม่ถึงว่า ตัวเองเพิ่งจะพูดจบ ชั่วพริบตานั้น อุณหภูมิในห้องจะลดลงหลายองศาในทันทีนิ้วมือของเขากำลังค่อยๆ กำแน่นกู้อวิ๋นซีรู้สึกกังวลในใจ กำลังจะเอื้อมไปกุมมือเขาไว้ "เย่เสวียน..."แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันที่มือของนางจะได้โดนมือของเขา จู่ๆ มือของจวินเย่เสวียนก็ยกขึ้นมาฉับพลันวินาทีต่อมา กู้อวิ๋นซีก็รู้สึกเจ็บปวดบริเวณลำคอ!นางถูกบีบคอ ภาพทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนไปทันที!นางถูกกดไว้บนเตียงเมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็สบตาเข้ากับดวงตาเย็นเยียบอย่างจังเขาจ้องหน้านาง ในแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร"กู้อวิ๋นซี...เจ้ากล้า!""เย่...อื้ออ"จู่ๆ ชายหนุ่มก็บีบนิ้วมือแน่น กู้อวิ๋นซีรู้สึกหายใจลำบาก กำลังจะขาดอากาศหายใจหายใจไม่ออกแล้ว"ในที่สุดเจ้าก็ยอมรับแล้วว่าเจ้าลงมือฆ่าลูกของข้าด้วยตัวเอง!"เขาบีบนิ้วมือแน่นขึ้นเรื่อยๆกู้อวิ๋นซีกำลังดีใจที่เขาตื่นขึ้นมาได้ แต่ไม่นานก็พบว่า ตัวเองไม่มีทางรอดแล้วที่แท้ มู่อันหนิงมีประโยคหนึ่งที่พูดได้ไม่ผิด ถ้าเขาตื่นขึ้นมาจะต้องฆ่านางด้วยมือ
คนเราจะเข้าสู่สภาวะสิ้นหวังเมื่อไรเหรอ?เมื่อก่อนกู้อวิ๋นซีไม่รู้ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่านาง จะรับรู้ถึงรสชาติของความสิ้นหวังแล้วผู้ชายคนนั้น ไม่เชื่อนางอีกแล้วคืนนั้น หลังจากพ้นเที่ยงคืนไป กู้อวิ๋นซีกับอันเซี่ยก็ออกไปทางประตูหลังไม่ได้เอาของอะไรไปมาก เอาไปเพียงเงินนิดหน่อย แล้วก็ป้ายคำสั่งที่เมื่อก่อนจวินฉู่หลีเคยให้นางเอาไว้ถ้ามีป้ายคำสั่งนี้ ไม่ว่าเมื่อไร ทหารคุ้มกันเมืองก็จะเปิดประตูให้นางเสมอ"คุณหนู เหตุใดพวกเราจึงไม่กลับจวนแม่ทัพล่ะเจ้าคะ?" อันเซี่ยไม่เข้าใจไม่กลับจวนแม่ทัพ ข้างนอกกว้างใหญ่ปานนี้ อันเซี่ยไม่รู้จริงๆ ว่าที่ไหนจะเป็นที่พักพิงให้กับพวกนางได้"ก่อนหน้านี้เสวียนอ๋องก็มีอคติกับจวนแม่ทัพอยู่แล้ว หากว่าตอนนี้ข้ากลับไปที่จวนแม่ทัพ เกรงว่าจะทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนไปด้วย"เรื่องคนร้ายในคืนนั้น ต่อให้ตอนหลังจะไม่มีการพูดถึง แต่ในใจของกู้อวิ๋นซีรู้ดีว่าจวินเย่เสวียนสงสัยในตัวกู้หนานฟงเรื่องนี้ ยังเป็นปัญหาที่คาใจอยู่ตอนนั้นยังพอเห็นแก่นางบ้าง ไม่ลงมือกับคนในจวนแม่ทัพชั่วคราวแต่ตอนนี้ จวินเย่เสวียนเกลียดนางเข้ากระดูก หากว่านางกลับไปที่จวนแม่ทัพ พี่ใหญ่ก็จะต
กู้อวิ๋นซียังไม่ทันวิ่งไปได้ไกลเท่าไร จู่ๆ ม้าก็ร้องออกมาแล้วก็หยุดวิ่งเองดื้อๆมันรับรู้ได้ถึงอันตราย!กู้อวิ๋นซีรีบดึงเชือกม้าไปอีกด้านหนึ่งทันทีโดยไม่คิด อยากจะรีบออกไปให้เร็วที่สุดคิดไม่ถึงว่า เพิ่งจะกลับตัวก็มองเห็นว่าไม่ไกลมีทหารสิบกว่านายกำลังขี่ม้าพุ่งเข้ามาอย่างเร็วเมื่อหันหน้ากลับไปมองอีกครั้ง ยังทิศทางเมื่อครู่ ก็มีอีกสิบกว่าคน กำลังขวางทางเอาไว้อยู่หนีไม่รอดแล้วกู้อวิ๋นซีมองแผ่นหลังของทั้งสิบกว่าคนนั้นอย่างที่คิด ทหารสิบกว่านายค่อยๆ ขี่ม้าแหวกทางออก ด้านหลังมีคนผู้หนึ่งกำลังขี่ม้าเดินเข้ามาช้าๆเจิ้งอ๋อง!คนที่เดินตามข้างหลังเจิ้งอ๋องมา เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กู้อวิ๋นซีเคยได้พบแล้ว เป็นผู้หญิงข้างกายของเจิ้งอ๋อง จูจี้เรื่องนี้ช่างเกินคาดของกู้อวิ๋นซีเหลือเกิน"พระชายาหลีอ๋อง ไม่เจอกันนาน ยังจำข้าได้หรือไม่?" เจิ้งอ๋องหยุดท้าตรงหน้าที่ห่างจากกู้อวิ๋นซีไม่ไกลกู้อวิ๋นซีพยายามเก็บอารมณ์ ทำใจตัวเองให้สงบขึ้นนางกระโดดลงจากหลังม้า เดินขึ้นหน้าไปสองก้าว ค้อมตัวทำความเคารพไปทางจวินฉีเจิ้ง "ยินดีที่ได้พบองค์ชายใหญ่""ดึกดื่นป่านนี้ เหตุใดพระชายาหลีอ๋องถึงจะออกไปนอ
กู้อวิ๋นซีกำฝ่ามือไว้แน่นนางไม่รู้ว่าใครกันที่แอบส่งข่าวให้กับจวินฉีเจิ้ง ตัวเองเพิ่งออกนอกเมืองมาได้ เขาก็มาไล่จับด้วยตัวของตัวเองแล้วแต่ในเมื่อขนาดเจิ้งอ๋องยังมาด้วยตัวเอง วันนี้ถ้าจะคิดหนี เกรงว่าคงไม่ง่ายนางถอยร่นไปอีกสองก้าว ถอยไปยืนอยู่ข้างม้า"องค์ชายใหญ่ ข้ามีความผิดหรือไม่ ไม่ควรจะเป็นเสด็จพ่อเป็นคนตัดสินหรือ?""เจ้าอยากให้ข้าส่งตัวเจ้าให้เสด็จพ่ออย่างนั้นเหรอ?" จวินฉีเจิ้งอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ "พระชายาหลีอ๋องเอ๋ยพระชายาหลีอ๋อง เจ้าคิดว่า เสด็จพ่อจะยอมช่วยเจ้าโดยไม่สนใจชื่อเสียงของราชวงศ์อย่างนั้นเหรอ?""ขอเพียงวันนี้ข้ายืนกรานว่าพระชายาหลีอ๋องสมคบคิดกับกบฎ ใครจะช่วยเจ้าได้?"เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันไปพูดยิ้มๆ ว่า "ไม่สิ มีอยู่คนหนึ่ง ที่จะต้องมาช่วยเจ้าโดยไม่สนใจชีวิตตัวเองแน่ เจ้าลองทายดูสิว่าใคร?""อาหลีอยู่ไกลถึงภูเขาหิมะ ต่อให้เขาอยากมา..."พูดถึงตรงนี้ จู่ๆ กู้อวิ๋นซีก็ยกมือขึ้นหนึ่งทีแสงสีเงินจำนวนหนึ่ง ถูกส่งออกไปทางจวินฉีเจิ้งไม่มีใครคาดคิด! ทุกคน ไม่คาดคิดมาก่อน!"ท่านอ๋อง!""คุ้มครอง!"ทหารองครักษ์สิบกว่านายรีบวิ่งเข้าไปทันทีเพื่อปกป้องจวิ
กู้อวิ๋นซีถูกบีบไปจนถึงริมหน้าผาแล้ว。ด้านหลังเป็นหุบเหวลึกสุดหยั่งด้านหน้ากลับเป็นทหารองครักษ์สิบกว่านายของเจิ้งอ๋องหากถูกพวกเขาจับตัวกลับไป เจิ้งอ๋องจะต้องไม่ปล่อยนางไปแน่แต่ถ้าหากกระโดดลงไป...กู้อวิ๋นซีมองไปทางหุบเหวทีหนึ่ง ด้านล่างมืดมิด ลึกสุดประมาณถ้ากระโดดลงไป จะต้องตายแน่นอน"พระชายาหลีอ๋อง ท่านไม่มีทางให้หนีแล้ว ยอมกลับไปกับพวกกระหม่อมดีๆ เถิด"หนึ่งในทหารองครักษ์เดินขึ้นมา เข้ามาใกล้นางขึ้นเรื่อยๆกู้อวิ๋นซีกำฝ่ามือไว้แน่นนางไม่อยากตาย แต่ก็เกรงว่าหากถูกคนของเจิ้งอ๋องพากลับไป ถูกใส่ร้ายว่าสมคบคิดกับพวกกบฎ เช่นนั้น ทั้งจวนแม่ทัพก็จะถูกเคราะห์กรรมตามไปด้วยทหารองครักษ์คนนั้น อยู่ห่างจากนางเพียงสิบก้าวสายตาของกู้อวิ๋นซีมองเลยพวกเขาไป ก็เห็นเจิ้งอ๋องกำลังควบม้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว และคนที่ตามเจิ้งอ๋องมาด้วยก็คือจูจี้หากว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา คงจะทรมานยิ่งกว่าตายแต่หากว่ากระโดดลงไป บางที...บางทีอาจจะไม่ตายก็ได้มั้ง?จะเป็นไปได้ไหม จะมีทางรอดไหมนะ?เมื่อเห็นว่าเจิ้งอ๋องเดินมาอยู่ตรงหน้าของทหารองครักษ์แล้ว กำลังจะเดินเข้ามากู้อวิ๋นซีก็สูดลมหายใจเข้าลึ
คืนนี้เจิ้งอ๋องเชิญเสวียนอ๋องมาคำพูดของจูจี้วนอยู่ในหัวของกู้อวิ๋นซีตลอดทั้งวันตั้งแต่ถูกพาตัวกลับมาในเวลาเที่ยงคืน จนถึงตอนนี้ก็ดึกแล้วนางก็อยู่แต่ในห้อง ราวกับเป็นหุ่นกระบอกจูจี้สั่งให้คนมารับใช้นางอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง จากนั้นก็แต่งหน้าแต่งตัวกู้อวิ๋นซีไม่มีการตอบสนองใดๆแต่เมื่อจูจี้ที่ได้เห็นกู้อวิ๋นซีแต่งตัวแต่งหน้าเรียบร้อย ในแววตากลับปรากฎเป็นสายตาที่ซับซ้อน"พระชายาหลีอ๋องช่างเป็นคนที่สวยที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมาก่อนเลย มิน่า...เขาถึงชอบท่านขนาดนั้น"นางอดที่จะยกมือขึ้นมาลูบไปบนใบหน้าของกู้อวิ๋นซีเบาๆ ไม่ได้กู้อวิ๋นซีไม่ได้สนใจนางผู้หญิงส่วนมากต่างอิจฉาในใบหน้านี้ของนาง ต่างก็อยากที่จะทำลายแต่นางไม่สนใจก็แค่ใบหน้าเท่านั้น"พระชายาหลีอ๋องช่างใจเย็นเหลือเกิน ไม่กลัวว่าข้าจะทำลายใบหน้าของท่านเนื่องจากความริศยาจนเกิดเป็นความแค้นหรืออย่างไร?"จูจี้ยิ้ม ใช้นิ้วชี้เชิดคางของนางขึ้นมาให้นางได้มองเห็นใบหน้าของตัวเองในกระจกให้ชัดๆช่างเป็นใบหน้าที่งดงามยิ่ง โดยเฉพาะจูจี้มีทักษะในการแต่งหน้าดีเยี่ยมกู้อวิ๋นซีในคืนนี้ ผมยาวถูกนางจับเกล้าขึ้นอย่างเรียบง่า