กู้อวิ๋นซีถูกบีบไปจนถึงริมหน้าผาแล้ว。ด้านหลังเป็นหุบเหวลึกสุดหยั่งด้านหน้ากลับเป็นทหารองครักษ์สิบกว่านายของเจิ้งอ๋องหากถูกพวกเขาจับตัวกลับไป เจิ้งอ๋องจะต้องไม่ปล่อยนางไปแน่แต่ถ้าหากกระโดดลงไป...กู้อวิ๋นซีมองไปทางหุบเหวทีหนึ่ง ด้านล่างมืดมิด ลึกสุดประมาณถ้ากระโดดลงไป จะต้องตายแน่นอน"พระชายาหลีอ๋อง ท่านไม่มีทางให้หนีแล้ว ยอมกลับไปกับพวกกระหม่อมดีๆ เถิด"หนึ่งในทหารองครักษ์เดินขึ้นมา เข้ามาใกล้นางขึ้นเรื่อยๆกู้อวิ๋นซีกำฝ่ามือไว้แน่นนางไม่อยากตาย แต่ก็เกรงว่าหากถูกคนของเจิ้งอ๋องพากลับไป ถูกใส่ร้ายว่าสมคบคิดกับพวกกบฎ เช่นนั้น ทั้งจวนแม่ทัพก็จะถูกเคราะห์กรรมตามไปด้วยทหารองครักษ์คนนั้น อยู่ห่างจากนางเพียงสิบก้าวสายตาของกู้อวิ๋นซีมองเลยพวกเขาไป ก็เห็นเจิ้งอ๋องกำลังควบม้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว และคนที่ตามเจิ้งอ๋องมาด้วยก็คือจูจี้หากว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา คงจะทรมานยิ่งกว่าตายแต่หากว่ากระโดดลงไป บางที...บางทีอาจจะไม่ตายก็ได้มั้ง?จะเป็นไปได้ไหม จะมีทางรอดไหมนะ?เมื่อเห็นว่าเจิ้งอ๋องเดินมาอยู่ตรงหน้าของทหารองครักษ์แล้ว กำลังจะเดินเข้ามากู้อวิ๋นซีก็สูดลมหายใจเข้าลึ
คืนนี้เจิ้งอ๋องเชิญเสวียนอ๋องมาคำพูดของจูจี้วนอยู่ในหัวของกู้อวิ๋นซีตลอดทั้งวันตั้งแต่ถูกพาตัวกลับมาในเวลาเที่ยงคืน จนถึงตอนนี้ก็ดึกแล้วนางก็อยู่แต่ในห้อง ราวกับเป็นหุ่นกระบอกจูจี้สั่งให้คนมารับใช้นางอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง จากนั้นก็แต่งหน้าแต่งตัวกู้อวิ๋นซีไม่มีการตอบสนองใดๆแต่เมื่อจูจี้ที่ได้เห็นกู้อวิ๋นซีแต่งตัวแต่งหน้าเรียบร้อย ในแววตากลับปรากฎเป็นสายตาที่ซับซ้อน"พระชายาหลีอ๋องช่างเป็นคนที่สวยที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมาก่อนเลย มิน่า...เขาถึงชอบท่านขนาดนั้น"นางอดที่จะยกมือขึ้นมาลูบไปบนใบหน้าของกู้อวิ๋นซีเบาๆ ไม่ได้กู้อวิ๋นซีไม่ได้สนใจนางผู้หญิงส่วนมากต่างอิจฉาในใบหน้านี้ของนาง ต่างก็อยากที่จะทำลายแต่นางไม่สนใจก็แค่ใบหน้าเท่านั้น"พระชายาหลีอ๋องช่างใจเย็นเหลือเกิน ไม่กลัวว่าข้าจะทำลายใบหน้าของท่านเนื่องจากความริศยาจนเกิดเป็นความแค้นหรืออย่างไร?"จูจี้ยิ้ม ใช้นิ้วชี้เชิดคางของนางขึ้นมาให้นางได้มองเห็นใบหน้าของตัวเองในกระจกให้ชัดๆช่างเป็นใบหน้าที่งดงามยิ่ง โดยเฉพาะจูจี้มีทักษะในการแต่งหน้าดีเยี่ยมกู้อวิ๋นซีในคืนนี้ ผมยาวถูกนางจับเกล้าขึ้นอย่างเรียบง่า
จวินเย่เสวียนไม่ได้แสดงอารมณ์ทางสีหน้ามากมาย กระทั่งไม่สนใจอะไรเลยด้วยซ้ำราวกับเขาก็แค่ถามเพื่อรักษามารยาทกับจวินฉีเจิ้งเท่านั้น "เห็นอะไร?""ข้าเห็น พระชายาหลีอ๋องแห่งจวนเสวียนอ๋อง กำลังนัดพบกับกบฎอย่างลับๆ"จวินฉีเจิ้งแสร้งมองไปที่จวินเย่เสวียนทีหนึ่งอย่างไม่จงใจ แต่ความจริงแล้ว เขากำลังลอบสังเกตสีหน้าของจวินเย่เสวียนอยู่อย่างละเอียดใบหน้าของเขาไม่แสดงสีหน้าที่ผิดปกติเลยแม้แต่น้อย สายตาของจวินฉีเจิ้งถึงค่อยมองไปที่กู้อวิ๋นซี"พระชายาหลีอ๋อง เจ้าแอบลักลอบนัดพบกับกบฎ ควรมีโทษสถานใด?"กู้อวิ๋นซีเงยหน้าขึ้นมามองเขา ไม่แก้ตัวใดๆ เพียงแค่พูดอย่างเสียงเรียบว่า "ถ้าอยากจะใส่ร้ายใคร จะอ้างอะไรก็ได้""ข้ากับคนของข้าล้วนเห็นกับตาตัวเอง ยังจะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร?" จวินฉีเจิ้งยิ้มเย็น "น้องสี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ชายที่ลักลอบนัดพบกับนางเป็นใคร?""เป็นใคร?" จวินเย่เสวียนถามต่อ ฟังดูก็เหมือนกับเขาแค่ถามไปงั้นๆจวินฉีเจิ้งไม่เชื่ออยู่แล้วว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องนี้น้องสี่ของเขาคนนี้ เคยยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเหลือกู้อวิ๋นซีมาแล้วก็แค่แสร้งทำเป็นใจเย็นต่อหน้าเขาก็เท่านั้น"คนที
เสียงของจวินฉีเจิ้งดังมาก จวินเย่เสวียนไม่มีทางที่จะไม่ได้ยินแต่ต่อให้เสวียนอ๋องจะได้ยิน เขาก็ไม่สนใจเลยสักนิดเมื่อเขาเดินมาถึงหน้ารถม้าเยียนเป่ยก็เปิดม่านรถม้าขึ้น จวินเย่เสวียนใช้ขายาวๆ ของเขาก้าวขึ้นไปจากนั้นร่างสูงโปร่งของเขาก็หายไปจากสายตาของทุกคน พร้อมกับม่านรถม้าที่ปิดลงจากนั้นเยียนเป่ยก็ขึ้นรถไป จากนั้นก็ควบม้าออกไปเลยรถม้าคันนั้น เพิ่งออกจากจวนเจิ้งอ๋องไปได้ไม่เท่าไรก็ขับไปไกลจนไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วผ่านไปสักพัก ทหารองครักษ์นายหนึ่งก็รีบวิ่งกลับเข้ามาหยุดตรงหน้าของจวินฉีเจิ้งแล้วกราบรายงานอย่างนอบน้อม "ท่านอ๋อง เสวียนอ๋องเขา...ออกนอกประตูไปแล้วจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ""จะเป็นไปได้อย่างไร?" จวินฉีเจิ้งโมโหจนหยิบขวดเหล้าขึ้นมาแล้วขว้างทิ้งลงไปบนพื้นอย่างแรงเพล้ง ขวดเหล้าแตกกระจายอยู่ข้างขาของกู้อวิ๋นซีจวินฉีเจิ้งใช้แรงอย่างมากในการขว้างขวดเหล้า ทำให้เศษขวดเหล้าชิ้นหนึ่งกระเด็นไปโดนตรงส่วนน่องของกู้อวิ๋นซีต่อให้จะมีผ้ากันไว้ชั้นหนึ่ง แต่น่องของนางก็ยังเป็นรอยแผลใหญ่เลือดสดๆ ไหลซึมออกมาเปื้อนที่กระโปรงแต่ราวกับนางจะไม่รู้สึกอะไรเลย ได้แต่ยืนนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น แล้วก็ไ
"พ่ะย่ะค่ะ" ทหารองครักษ์สองนายเดินเข้ามาหนึ่งในนั้นอาศัยจังหวะตอนที่กู้อวิ๋นซียังไม่ทันจะได้ลุกขึ้นมา ใช้เท้าเตะนางให้ล้มลงไปอีกครั้งกู้อวิ๋นซีรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงช่วงเอวนางกัดฟัน พยายามคิดที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้งคิดไม่ถึงว่า ทหารองครักษ์อีกนายกลับกระชากเสื้อของนางออกอย่างแรงแคว๊ก เสื้อผ้าของกู้อวิ๋นซีถูกฉีกออกเป็นทางยาวหัวไหล่กลมมน ปรากฎออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน"ข้าคือพระชายาหลีอ๋อง ใครกล้าทำกับข้าเช่นนี้! หลีอ๋องไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่!"นางกัดฟันตะโกนออกมาเสียงแหบพร่าทหารองครักษ์สองนายอึ้งไป ไม่กล้าที่จะลงมือต่อจริงๆพวกเขาก็เป็นเพียงทหารองครักษ์ ส่วนนางเป็นถึงพระชายาหลีอ๋อง เป็นพระชายาขององค์ชายตัวเองกระทำการดูหมิ่นศักดิ์ศรีนาง ต่อให้หลีอ๋องไม่ฆ่าพวกเขา คนในราชวงศ์ก็คงจะไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่จวินฉีเจิ้งมองไปที่ทหารองครักษ์สองคนนั้นแล้วพูดเสียงขรึมขึ้นว่า "นางสมคบคิดกับกบฎ ไม่นับว่าเป็นคนของราชวงศ์แล้ว หากพวกเจ้าไม่ลงมือเช่นนั้นก็ถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกับนาง! ข้าจะฆ่าพวกเจ้าเดี๋ยวนี้!""ท่านอ๋อง สำหรับเสวียนอ๋องแล้วข้าไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว ท่านทำการเหยียดหยามข้าเช่นน
"หยุดนะ หยุดนะ..."ครั้งนี้กู้อวิ๋นซีรู้สึกสิ้นหวังแล้วจริงๆจวินเย่เสวียนแค้นนางมากขนาดนี้ เขาไม่สนใจความเป็นความตายของนางเลยความรู้สึกหนึ่งปีกว่าที่สร้างกันมา มันมลายหายไปจนหมดแล้วตอนนี้ต่อให้เขาจะเห็นนางตายลงต่อหน้าตัวเอง เกรงว่าก็คงจะไม่ยอมยื่นมือออกมาช่วยเลยด้วยซ้ำกู้อวิ๋นซียกมือขึ้นมา คิดที่จะผลักทหารองครักษ์ออกแต่ทหารองครักษ์คนนั้นกลับกดมือของนางลงเขาเอื้อมมือไปดึงสายเชือกผูกผ้าปิดอกของนาง เมื่อเห็นว่าเชือกใกล้จะถูกแก้ออกแล้วท่ามกลางสายตาคนมากมายที่กำลังมองมา...ที่หางตาของกู้อวิ๋นซีก็มีหยาดน้ำตารินไหลมือข้างที่ไม่ได้ถูกจับไว้ เอื้อมไปจับเครื่องประดับผมของตัวเองที่บนหัวมีปิ้นปักผมอยู่เล่มหนึ่ง"ท่านอ๋อง นางคิดจะฆ่าตัวตายเพคะ!" จูจี้รีบพุ่งตัวเข้าไปอย่างตกใจแต่นางก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งถึงแม้ปิ่นปักผมในมือตัวเองจะถูกนางชนตกไปได้ แต่ก็ยังบาดไปบนลำคอจนเกิดเป็นรอยแผลเลือดสดๆ ไหลรินลงมาทหารองครักษ์ตกใจจนรีบหยุดการกระทำ ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวจูจี้คิดจะเข้าไป แต่กู้อวิ๋นซีก็หยิบเอาปิ่นปักผมมาจ่อที่หน้าลำคอของตัวเองตรงตำแหน่งที่ตรงกับจุดชีพจร"พระชายาหลีอ๋อง มี
ฉับพลันกลิ่นเลือดฉุดกึกก็โชยมา!"มีคนร้าย! คุ้มกันท่านอ๋อง! คุ้มกันท่านอ๋อง!"ภายในลานมีทหารองครักษ์จำนวนมากกรู่กันเข้ามาแต่จวินฉีเจิ้งกลับเห็น ด้านหลังของทหารองครักษ์ มีคนบุกเข้ามาเพิ่มอีกสิบกว่าคนแต่ละคนแต่งกายด้วยชุดออกปฏิบัติการสีดำ ว่องไวกระฉับกระเฉง ฝีเท้าพร้อมเพียงเป็นสิบแปดทหารม้าของจวนเสวียนอ๋อง!แต่ว่ามีเพียงสิบเจ็ดคน..."อ๊า!" เมื่อจูจี้หันหน้าไปมอง ก็ถูกฉากเลือดสาดตรงหน้า ทำให้ตกใจจนต้องกรีดร้องเห็นเพียงตรงประตูหน้าห้องโถงมีมือสี่ข้างตกอยู่บนพื้น เลือดอาบโชก และยังกระตุกอยู่!เห็นได้ชัดว่าเพิ่งจะถูกฟันขาด!ทหารองครักษ์สองคนล้มลงจมกองเลือด กำลังร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่"เยี่ยน...เยี่ยนอี?" ที่แท้เงาสีดำที่ผ่านหน้าของพวกเขาไปเมื่อครู่ก็คือเยี่ยนอีนี่เอง!ขนาดจวินฉีเจิ้งยังคิดไม่ถึงว่า วรยุทธ์ของเยี่ยนอีจะเก่งกาจยิ่งกว่าที่ตัวเองเคยคิดเอาไว้อีก!"เจ้า...เจ้ากล้ามาก!"เยี่ยนอีเป็นคนของจวินเย่เสวียน บังอาจมาฆ่าคนถึงในจวนอ๋องของเขา! เขาเสียสติไปแล้วเหรอ? ใครให้ความกล้านี้กับเขากัน!เยี่ยนอียืนอยู่ตรงหน้าของทหารองครักษ์ทั้งสองนาย กำลังมองมาที่จวินฉีเจิ้งด้
ฆ่าได้ไม่ละเว้น!คนผู้นี้ บ้าระห่ำเกินไปแล้ว!เจิ้งอ๋องโมโหจนตัวสั่นเทาไปทั้งตัวสมาชิกของสิบแปดทหารม้าแต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือเพียงแค่กระโดดครั้งเดียวก็ไปยืนร่วมกับเยี่ยนอีได้ทั้งหมดแล้วทหารองครักษ์ในจวนมีมากมายขนาดนี้ แต่ไม่มีใครสามารถขัดขวางพวกเขาเอาไว้ได้เลย!เยี่ยนอีทำมือเคารพเจิ้งอ๋องที่อยู่ด้านล่างทีหนึ่งก่อนจะพูดอย่างยิ้มๆ ว่า "ท่านอ๋อง แล้วเจอกันใหม่!"จากนั้นก็หมุนตัว ใช้เท้าเหยียบกระเบื้องหลังคาและยอมไม้ จากนั้นก็หายวับไปท่ามกลางความมืดส่วนอีกสิบเจ็ดคนที่เหลือ แต่ละคนวิชาตัวเบายอดเยี่ยม ไล่ตามเขาออกไปอย่างรวดเร็ว"ทะ ท่านอ๋อง ต้องตามหรือไม่?" ทหารองครักษ์คนหนึ่งถามขึ้นมาอย่างกล้าๆ กลัวๆถึงแม้คนของสิบแปดทหารม้าจะเก่งกาจมาก แต่ถ้าหากทั้งจวนอ๋องร่วมมือกันก็ใช่ว่าจะขวางพวกเขาเอาไว้ไม่ได้จูจี้กลับดึงชายเสื้อของจวินฉีเจิ้งเบาๆ แล้วพูดว่า "ท่านอ๋อง ต่อให้จะขวางไว้ได้ แต่ก็เกรงว่าจะทำให้จวนอ๋องเลืดนองเป็นสายน้ำนะเพคะ""เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตเช่นนี้ เกรงว่าเรื่องจะต้องไปถึงหูฝ่าบาทแน่นอน ถึงตอนนั้น หากว่าเสวียนอ๋องไปพูดเรื่องท่านอ๋องต่อหน้าฝ่าบาทอีก...เรื่องที่ท่านอ๋