กู้อวิ๋นซีลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปน้ำหมึกที่ปลายพู่กันถึงได้กระเด็นโดนกระโปรงของนางอย่างไม่ทันระวังแต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจเลย เพียงแค่จ้องมองไปที่เงาร่างที่อยู่หลังม่านอย่างไม่กระพริบตาจนเกือบที่จะอดไม่ได้ต้องไปเปิดม่านแล้วบุกเข้าไปมองเขาให้ชัดๆเหตุใดเขาถึงรู้เรื่องความรู้ในยุคปัจจุบัน? ผู้ชายคนนี้ หรือว่า เขาก็ย้อนเวลามาเหมือนกัน?แต่บนโลกนี้จะมีเรื่องประหลาดอะไรเกิดขึ้นมากมายกัน?จะเป็นไปได้อย่างไร?"เหตุใดพระชายาถึงได้ตื่นเต้นปานนี้? ข้าพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ?" น้ำเสียงของผู้ชายคนนั้น ยังคงเย็นชาและไว้ท่าเช่นเดิมกู้อวิ๋นซีถอนหายใจออกมาหนึ่งที ก่อนจะถามว่า "เหตุใดคุณชายถึงรู้จักวิธีการใช้เครื่องมือของข้าพวกนี้ได้?""เพียงแค่สมัยเด็ก เคยเห็นจากท่านอาจารย์มา ก็เลยรู้ว่าคือสิ่งใด ใช้ทำอะไรก็เท่านั้น""ไม่ทราบว่าอาจารย์ของคุณชายคือผู้ใดกัน? สามารถแนะนำ...""ขออภัย" สีหน้าของคุณชายผู้นั้น ถึงกู้อวิ๋นซีจะมองไม่ชัด แต่ก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังไม่พอใจกู้อวิ๋นซีรู้ตัวทันทีว่าตัวเองใจร้อนเกินไปนางพยายามสงบอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นก็ค่อยๆ นั่งลงช้าๆ แต่ก็ยังคงมองไปที่เงาร่างหลังม
อันเซี่ยมองเห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงสีเขียวนางหนึ่งเดินเข้าประตูมาพร้อมกับจวินเย่เสวียนนางมีหน้าตาสวยงาม โดนเฉพาะกริยาท่าทางช่างดูสง่างามมีมารยาทแบบหาตัวจับยากถึงแม้จะไม่ได้สวยเท่ากับคุณหนูของพวกนาง แต่ความสวยของผู้หญิงคนนั้น ก็เป็นความสวยในอีกรูปแบบหนึ่งมีความเป็นผู้ใหญ่ สุขุม สง่างามก็คือคุณหนูจวนเสนาฉินโหรวที่เคยมาที่จวนหลายรอบแล้วคนนั้นนั่นเองตอนที่กู้อวิ๋นซีเดินลงจากม้า ฉินโหรวก็มองเห็นนางแล้วด้วยเช่นกันนางหยุดเดินทันที แต่ก็ไม่ได้ขยับออกห่างจากข้างกายของจวินเย่เสวียนเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่พยักหน้าให้กับกู้อวิ๋นซีจากไกลๆ "พระชายาหลีอ๋อง"กู้อวิ๋นซีที่เดินมากับอันเซี่ย คารวะให้กับจวินเย่เสวียนก่อน "องค์ชายสี่"จากนั้นก็ค่อยหันไปยิ้มให้กับฉินโหรว "คุณหนูฉิน"นี่เป็นครั้งแรกที่กู้อวิ๋นซีได้เจอกับจวินเย่เสวียนหลังจากที่นางฟื้นตัวจากการถูกวางยาพิษเขาก็ยังคงเหมือนเดิม เย็นชา เฉยเมย ทั้งตัวแผ่ซ่านพลังของความเป็นผู้ยิ่งใหญ่ สูงส่ง เย็นชาจนยากที่จะเข้าใกล้เพียงแต่สายตาที่มองนางในวันนี้ ดูจะขาดความซับซ้อน แต่เพิ่มความเย็นชามากกว่าปกติไม่น้อยเกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ ขนาดแม่เ
"ก่อนหน้านี้พระชายาหลีอ๋องป่วยอยู่นานหลายวัน เนื่องจากข้าต้องคอยอยู่เป็นเพื่อนพระสนมหรง ก็เลยไม่ว่างมาเยี่ยมท่านเลย ขอพระชายาโปรดอภัยด้วย"ไม่ว่าจะคำพูดหรือกริยาท่าทางของฉินโหรวก็ล้วนดูสง่างามเหลือเกินตอนนี้กู้อวิ๋นซีมองนาง ก็รู้สึกว่าการกระทำทุกอย่างของนางช่างดูคล้ายกับพระสนมหรงเหลือเกินแล้วฉินโหรวพูดยิ้มๆ "พวกนี้คือสมุนไพรชั้นดีที่ข้าเลือกออกมาจากคลังยาในจวนอ๋อง พระชายาหลีอ๋องต้องอย่าลืมให้บ่าวรับใช้ไปต้มให้ดื่มเยอะหน่อยล่ะ จะได้ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง""อายุของท่านอ๋องทั้งสองคนในจวนเสวียนอ๋องก็ไม่น้อยแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีทายาทสืบสกุลเลย คนข้างนอกต่างพากับซุบซิบนินทา""ดังนั้น พระชายาจะต้องบำรุงร่างกายตัวเองให้ดี จะได้มีท่านอ๋องน้อยตัวอ้วนๆ ขาวๆ กับหลีอ๋องเร็วๆ"กู้อวิ๋นซีมองสมุนไพรที่ถูกตั้งอยู่บนโต๊ะอย่างสงบถึงแม้จะไม่ได้เปิดออกมาดู แต่แค่ดมกลิ่นก็รู้แล้วว่าเป็นสมุนไพรชั้นดีจริงๆ"ขอบคุณแม่นางฉินที่เป็นห่วง""ต่อไปเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ย่อมต้องรักใคร่ปรองดองกันเป็นธรรมดา" ฉินโหรวพูดอย่างยิ้มๆแววตาของกู้อวิ๋นซีสั่นไหวน้อยๆ ฉับพลัน ก็รู้สึกไม่อยากจะพูดอะ
กู้อวิ๋นซีเข้าใจแล้ว นี่สิคือจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ฉินโหรวมาหานางนางไม่ได้พูดอะไรแต่ในคืนนี้ฉินโหรวกลับพูดไม่น้อยเลย "ถึงเย่เสวียนจะดูเหมือนเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่เขากลับให้ความสำคัญกับคนสองคนในบ้านของเขายิ่งกว่าชีวิตตัวเอง""คนหนึ่งก็คือหลีอ๋อง อีกคนหนึ่งก็คือแม่ของเขา พระสนมหรง""คืนนั้นเย่เสวียนโมโหจนขาดสติไปจริงๆ ถึงได้สั่งลงโทษแม่เฒ่าชิงจนต้องตายไปเช่นนั้น แต่เกรงว่าเขาเองก็คงคิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะทำร้ายจิตใจของพระสนมหรงมากถึงเพียงนี้""เย่เสวียนเคารพรักพระสนมหรง แน่นอนว่าย่อมไม่อยากทำร้ายจิตใจของพระสนมหรง หลายวันมานี้เขาก็สำนึกผิดแล้ว""ส่วนความอาลัยอาวรณ์ที่เย่เสวียนมีต่อท่าน..."เมื่อพูดมาจนถึงตอนนี้ รอยยิ้มที่มุมปากของฉินโหรวก็ได้หายไปแล้ว นางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง"พระชายาหลีอ๋อง ท่านเกิดมามีหน้าตางดงามที่ทำให้คนหลงไหลจริงๆ จิตใจของผู้ชายก็เป็นแบบนี้ มักหลงไหลไปกับรูปลักษณ์เปลือกนอกที่สวยงามเสมอ""แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเสวียนอ๋องเทพสงครามแห่งหนานหลิ่งของพวกเรา เขาใจเย็น สุขุม มีความเป็นผู้ใหญ่ จิตใจของเขาอาจจะเตลิดไขว่เขวไปบ้าง แต่ก็แค่บ้างเท่านั้น""ความหมา
เงาสีดำนั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมาก เห็นชัดว่าวิชาตัวเบาแข็งแกร่งขนาดไหนเขาเองก็คงคิดไม่ถึงว่าจะมีคนอยู่บนเส้นทางเล็กๆ ไม่ทันระวังจึงชนปะทะเข้ากับกู้อวิ๋นซีอย่างจังเงาสีดำนั้นยกมือขึ้น กำลังจะออกฝ่ามือใส่คนที่ขวางทางแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นใบหน้าคนที่ยืนขวางทางอยู่ชัดแล้วเขาก็หยุดการกระทำทั้งหมดลงแต่กู้อวิ๋นซีกลับลงมือเร็วกว่า นางดึงเอาผ้าสีดำที่ปิดหน้าของเขาอยู่ออกชายชุดดำคนนั้นตกใจ ผ้าปิดหน้าสีดำถูกกู้อวิ๋นซีดึงออกมาแล้วใบหน้าที่ถูกเปิดเผยภายใต้แสงของพระจันทร์ชัดเจนเพียงนี้!"ท่าน!" กู้อวิ๋นซีตกใจจนดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง ตกตะลึงพูดไม่ออกทำไมถึง...ทำไมถึงเป็นเขาไปได้?ชายชุดดำได้สติในฉับพลัน รู้สึกถึงว่าเยี่ยนอีกำลังไล่ตามมาข้างหลังอย่างรวดเร็วจู่ๆ เขาก็คว้าตัวกู้อวิ๋นซีแล้วโยนออกไปทางเยี่ยนอีเยี่ยนอีตกใจจนรีบกระโดดขึ้นไปรับตัวกู้อวิ๋นซีที่ถูกโยนขึ้นไปลอยอยู่กลางอากาศทั้งสองคนลงถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย"พระชายา ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?" เยี่ยนอีถามอย่างจริงจังกู้อวิ๋นซียังคงรู้สึกตระหนกตกใจอยู่ รีบส่ายหัวออกไปอย่างรวดเร็ว"รีบตามไป!" เยี่ยนอีออกคำสั่งเสียงเ
"ลีกเลี่ยง?" คำครหา จวินเย่เสวียนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา "ข้ากับเจ้ามีเรื่องอะไรให้ต้องหลีกเลี่ยงกัน?"กู้อวิ๋นซีไม่พูดอะไร เพียงแค่มองเขาอย่างเงียบๆจวินเย่เสวียนมาถึงตรงหน้านางแล้ว เขาก้มหน้าจ้องมองนาง ถึงแม้จะดีขึ้นมากแล้ว แต่ใบหน้าก็ยังดูซีดขาวอยู่บ้างครั้งนี้น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบจนถึงขีดสุด "ข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง คนร้าย เป็นใครกันแน่?"กู้อวิ๋นซีไม่ตอบไม่อยากโกหกเขา แต่ก็ไม่อาจบอกความจริงกับเขาได้"คิดจริงๆ เหรอว่าข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้?"ฉับพลันเขาโบกมือ พลิกตัวนางให้หันหลังแล้วกดลงไปกับโต๊ะกู้อวิ๋นซีรู้สึกเจ็บที่แขน การกระทำของเขาหยาบคายเกินไปนางกัดริมฝีปากขมวดคิ้วแล้วพูดออกไปเบาๆ "ถึงข้าจะดึงผ้าปิดหน้าของเขาออกได้ก็จริง แต่มันก็มืดมาก แสงจันทร์ถูกเงาของต้นไม้บดบัง ข้ามองใบหน้าของเขาไม่ชัดจริงๆ"จวินเย่เสวียนไม่ได้กำลังล้อเล่นกับนาง คนร้ายในคืนนี้ไม่รู้ว่าทำเรื่องอะไรลงไปบ้าง ไม่รู้ว่าได้ทำร้ายใครบ้างหรือเปล่า ยิ่งไม่รู้เลยว่าแอบสืบความลับที่ไม่อาจให้ใครล่วงรู้ไปได้ไหมสรุปคือคนร้ายคนนี้มีเจตนาไม่ดี เห็นได้ชัดว่าจวินเย่เสวียนยังคงมีคำสั่งให้คนตามจับตัวมาอยู่สามารถ
สุดท้ายจวินเย่เสวียนก็ยอมปล่อยกู้อวิ๋นซีไปกู้อวิ๋นซีรู้ดีว่าครั้งนี้เขาก็แค่เห็นแก่หน้าของอาหลีเท่านั้นคืนนี้ที่เขาทำกับนางก็ไร้เยื่อใยมากพอแล้วลากนางออกไปเพื่อจะโบยนางอย่างนั้นเหรอ?หากว่านางไม่ยอมพูดจริงๆ เขาก็คิดจะทำแบบที่ทำกับแม่เฒ่าชิง สั่งโบยนางจนตายเลยอย่างนั้นเหรอ?"ตกใจมากใช่ไหม?"จวินฉู่หลีช่วยประคองนางไปนั่งที่ข้างเตียงเขารินน้ำอุ่นมาจอกหนึ่งแล้วยื่นเข้าไปใกล้ริมฝีปากของกู้อวิ๋นซีน้ำเสียงที่พูดก็ยังอ่อนโยนเช่นเดิมไม่เปลี่ยน"คนร้ายในคืนนี้ แอบบุกเข้าไปในห้องลับของหออวิ๋นหลี ไม่มีใครรู้ว่าเขาเห็นอะไรไปบ้าง ท่านพี่สี่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก"กู้อวิ๋นซีรู้สึกเกร็งเครียดในใจฉับพลันนี่เขาแอบเข้าไปในห้องลับของหออวิ๋นหลีเชียวเหรอ?นางรู้ว่าในหออวิ๋นหลีจะต้องแอบซ่อนความลับอะไรไว้มากมาย ต้องเป็นพวกความลับที่สำคัญมากๆครั้งก่อนที่นางบุกเข้าไป อย่าว่าแต่บุกเข้าห้องลับอะไรเลย แค่แอบอยู่บนหลังคาเท่านั้นก็เกือบจะถูกแม่เฒ่าชิงลากออกไปฆ่าตายแล้วนางยังแอบสงสัยอยู่เลย หากว่าวันนั้นถูกจับได้ว่าคนที่แอบบุกเข้าไปคือตัวเอง พระสนมหรงจะฆ่านางจริงๆแบบไม่ปรานีเลยไหมจวนอ๋อ
คนของเจิ้งอ๋องมารับตัวพี่ใหญ่ไปแล้ว!ในใจของกู้อวิ๋นซีรู้สึกเป็นกังวลทำไมถึงต้องเป็นช่วงจังหวะเวลานี้ด้วย?"ท่านพ่อ ก่อนที่พี่ใหญ่จะออกไปได้สั่งความอะไรไว้หรือไม่?" กู้อวิ๋นซีรีบถามทันทีกู้เฉาหรานส่ายหน้า "หมู่นี้มีบางเรื่องของหนานฟงที่พ่อเองก็มองไม่ออกเหมือนกัน กระทั่งไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ด้วยซ้ำ"มีเพียงอยู่ต่อหน้าบุตรสาว กู้เฉาหรานถึงกล้าพูดคำพวกนี้ออกไป"ซีเออร์ ด้านเสวียนอ๋อง ช่วงนี้คิดอย่างไรกับจวนแม่ทัพของเราบ้าง? หากว่าเสวียนอ๋องคิดอะไรเจ้าจะต้องบอกให้พ่อรู้นะ"กู้อวิ๋นซีรีบตอบ "ถึงตัวข้าจะอยู่ในจวนเสวียนอ๋อง แต่องค์ชายสี่มีภารกิจมากมาย ข้าเองก็มีโอกาสเจอตัวเขาน้อยมากเช่นกัน"กู้เฉาหรานพยักหน้าไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน"ท่านพ่อ ข้าจะไปหาเฟยหย่าสักหน่อย" กู้อวิ๋นซีลุกยืนขึ้นแต่สีหน้าของกู้เฉาหรานกลับไม่ค่อยดีสักเท่าไร"ท่านพ่อ ใช่หรือไม่ว่าท่านยังสงสัยในฐานะของเฟยหย่าอยู่?" ถึงอย่างไรมู่เฟยหย่าก็เป็นคนจากอูฉงในสถานการณ์ตอนนี้ ควรหลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่จำเป็นในบ้านมีคนจากอูฉงอยู่ คนทั้งจวนแม่ทัพต่างย่อมรู้สึกกังวลเป็นธรรมดากู้เฉาหรานพูดว่า "เด็กคนนั้น ข้าเห็นว