ทุกครั้งที่เขามาถึงฐานที่มั่นของค่ายภูเขา เขาจะริเริ่มจ่ายเงิน 'ค่าผ่านทาง' หัวหน้าโจรเก็บเงินและพูดด้วยสีหน้านิ่งว่า “รหัสที่จะผ่านทาง!” “อา?” พ่อค้าเกลือผู้นำประหลาดใจและพูดว่า “ท่านวีรบุรุษ เราเพิ่งผ่านมาทางนี้เมื่อไม่กี่วันที่แล้ว ไม่มีรหัสที่จะผ่านทางเสียหน่อยนะ?” “ตอนนี้มีแล้ว!” หัวหน้าโจรภูเขาตัวน้อยพูดด้วยสีหน้านิ่งว่า “อย่าพูดว่ารูปปั้นทองสัมฤทธิ์มีตาข้างเดียว เมื่อรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ปรากฏ ทุกอย่างจะกลับตาลปัตร หากจำรหัสที่จะผ่านทางไม่ได้ ในอนาคตจะต้องเสียค่าผ่านทางสองเท่า!” “เราจะจำไว้อย่างแน่นอน!” พ่อค้าเกลือโบกมือ “พวกเจ้าแต่ละคนจงจำรหัสที่จะผ่านทางให้ดี!” คนขับรถและผู้คุ้มกันกลุ่มหนึ่งตะโกนซ้ำแล้วซ้ำอีก “รูปปั้นทองสัมฤทธิ์มีตาข้างเดียว เมื่อรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ปรากฏ ทุกอย่างจะกลับตาลปัตร!” ขบวนขนส่งเกลือจากไปแล้ว! หัวหน้าตัวน้อยพึมพำในใจ “นายท่านใหญ่คิดจะทำอะไรกัน จะเก็บค่าผ่านทางก็เก็บไปซิ ตะโกนรหัสผ่านนี้จะไปมีประโยชน์อันใดกัน!” อย่างไรก็ตาม แม้จะกระซิบพูด แต่ทุกคนที่ผ่านอีเซี่ยนเทียนจะต้องจำรหัสผ่านนี้ วันรุ่งขึ้น ขบวนขนส่งเกลือเดินทางผ่านหุบเขาต้าช
ขอทานต่างพยักหน้าอย่างสงสัย! บัณฑิตหลังค่อมพูดทวนหลายครั้ง และให้ขอทานพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้นเขาก็จากไปหลังจากที่พวกเขาจดจำได้แล้ว ในไม่ช้าขอทานพวกนี้ก็ไปขออาหาร ไปถึงหน้าบ้านของเหล่าตระกูลเศรษฐี แล้วตะโกนสุดเสียงว่า “อย่าพูดว่ารูปปั้นทองสัมฤทธิ์ตาเดียว เมื่อรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ปรากฏ องค์หญิงจีร้องไห้ จักรพรรดิเผยจงออกมา หลงหนานจะกลายเป็นสนามรบ จักรพรรดิจะปรากฏ!” มีบัณฑิตคนหนึ่งในชุดคลุมซึ่งมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาโยนเหรียญทองแดงจำนวนหนึ่งแล้วพูดว่า “รับเงินไป แล้วไปตะโกนบ้านคนอื่น หากกลับมาอีก ข้าจะหักขาของพวกเจ้า!” “มันได้ผลจริง ๆ!” หลังจากได้รับเงินแล้ว กลุ่มขอทานก็จากไปอย่างมีความสุข! บัณฑิตในชุดคลุมยาวขมวดคิ้ว “ขอทานเหล่านี้เรียนรู้คำทำนายมาจากที่ไหน เป็นไปได้ไหมว่ามีคนกำลังเตรียมกบฏในหลงหนาน และสร้างแรงผลักดันล่วงหน้า เฮ้อ บทกวีต่อต้านทั้งสามประโยคนี้ ดูเหมือนจะเปิดเผยชื่อของพวกกบฏ!” คำทำนายทั้งสามนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วเมืองจิ่วซาน เมืองหลงหนาน และอีกสิบแปดเมือง! ... “คุณชายหยวน ท่านเจ้าเมืองรอท่านอยู่ข้างใน สีหน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก!” ทหารสอง
ทหารสองนายพาหวังหยวนออกไป! ดวงตาของเผยเซียนเจิ้งมืดลง “นายพลเว่ย นำกองทหารไปยังหมู่บ้านเยี่ยเจีย จับคนของเขาไว้ และปิดปากพยานทั้งหมดในหมู่บ้าน!” เว่ยเฉิงชารู้สึกหวาดกลัวและพูดว่า “ใต้เท้า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะฆ่าคนไปมากมายนะขอรับ!” หากในอดีต ท่านใต้เท้าเจ้าเมืองออกคำสั่งให้เขาทำเช่นนั้น เขาก็คงทำไปโดยไม่ลังเล! แต่ตอนนี้เมื่อเห็นกลยุทธ์ที่ไม่มีข้อจำกัดของหวังหยวน ท่านเจ้าเมืองอาจไม่สามารถปกป้องเขาได้อีกต่อไป! เมื่อถึงเวลานั้นแล้วเขาจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร “เรามาถึงจุดนี้แล้ว เจ้ายังกังวลว่าฆ่าคนไปเท่าไหร่อีก หากจัดการไม่ดีเจ้า และข้าอาจจะไม่ปลอดภัย!” เผยเซียนเจิ้งพูดด้วยท่าทางเศร้าหมอง “ไม่สำคัญว่าจะฆ่าคนไปกี่คน แค่ใส่ร้ายพวกเขาได้เท่านั้นก็พอแล้ว” เว่ยเฉิงพูดด้วยใบหน้าโศกเศร้า “ท่านใต้เท้า มันเป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่าคนไม่กี่คนแล้วใส่ร้ายพวกเขา แต่ตอนนี้ข่าวลือในทั้งสองเมืองนั้นทรงพลังมาก จนเราไม่สามารถปกปิดพวกเขาได้!” “ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สำคัญ มันก็แค่แพร่กระจายท่ามกลางประชาชนทั่วไป ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกลัว!” เผยเซียนเจิ้งตะคอกอย่างเย็นชา “คนที่จะตัดสิ
หวังหยวนถอนหายใจยาว ในช่วงสี่เดือนนับตั้งแต่ที่เขาเดินทางข้ามเวลา เขายืนอยู่ที่กองปืนโดยไม่หยุดเลยแม้แต่วันเดียว เขาเพิ่งเริ่มฝึกต่อสู้เตะต่อยเมื่อเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม เขาคุ้นเคยกับการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายเป็นอย่างดี! ทักษะศิลปะการต่อสู้ลับของตระกูลอู่ มีบันทึกทักษะการชกมวย ทักษะดาบ ทักษะหอก และท่าสังหารที่โหดร้ายทุกชนิด! นอกจากนี้ยังมีทหารผ่านศึกในชุดเกราะทมิฬที่มีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยครั้ง และปีนขึ้นมาจากความตาย พวกเขาหลีกเลี่ยงเมื่อต้องฝึกท่าสังหาร แต่กลับกันจะอธิบายให้เขาฟังแทน ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาที่จะต่อสู้กับคนโกงโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แน่นอนว่าเขาจะไม่สามารถสู้ได้หลังจากสู้กับคนสามสี่คน ยังมีหนทางอีกยาวไกลก่อนที่เขาจะพัฒนากังฟูที่แท้จริงได้! “ให้ตายเถอะ เจ้ากล้าโจมตีกันเอ้อเย๋ เจ้ารนหาที่ตาย!” เมื่อเช็ดเลือดที่เปื้อนจมูกและปาก กันเอ้อเย๋มองไปที่นักโทษคนอื่น ๆ และพูดอย่างเคร่งขรึม “พวกเจ้านี่มันโง่เขลายิ่งนัก ยังไม่รีบบุกเข้าไปโจมตีอีก ฆ่าไอ้ไก่อ่อนนี้ให้ตายซะ!” ชายหนุ่มที่เย่อหยิ่งเจ็ดถึงแปดคนยืนขึ้นและรวมตัวกันรอบตัวเขา! หวังหยวนกำลังจะพูด
ตึงกันเอ้อเย๋กระอักเลือดออกมาเปื้อนลงบนเสื้อคลุมสีขาว!ตู้ม!ตึงตู้ม!ตึงหลังจากรัวหมัดสามครั้งติดต่อกัน เลือดก็เปื้อนกระเซ็นไปทั่วเสื้อคลุมสีขาว กันเอ้อเย๋หายใจรวยริน!ถังหม่างหันกลับมาแล้วยื่นเสื้อคลุมให้หวังหยวน: "พี่ชาย ถ้าไอคนแซ่เป่ยส่งคนมาที่นี่ เจ้าเอาเสื้อคลุมตัวนี้คลุมไว้แล้วแกล้งหลับ หากเห็นเลือดมากมายบนเสื้อคลุม ทุกคนจะคิดว่าเจ้าถูกกระทืบเกือบตาย!”"...พรสวรรค์แท้ ๆ!"...เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทหารหนึ่งพันนายก็มาที่หมู่บ้านเยี่ยเจีย โดยมีเว่ยเฉิงเป็นผู้นำอยู่ด้านหลังสุดมีทหารกลุ่มหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเขา แต่ละคนถือโล่อยู่ในมือป้องกันที่ด้านหน้าเขา!นี่เป็นการป้องกันหน้าไม้ยักษ์ที่หวังหยวนสร้างขึ้นมา!ทั้งผู้นำและทหารที่อยู่แนวหน้าก็ตัวสั่นงกงั่กด้วยความกลัวเช่นกันแม่ทัพที่สวมชุดเกราะโลหะยังกลัวจนเป็นแบบนี้ แล้วเกราะหนังจะไม่กลัวได้อย่างไรเมื่อมาถึงนอกหมู่บ้านเยี่ยเจีย เว่ยเฉิงจ้องมองอยู่นาน: "เจ้าแน่ใจรึว่า ในช่วงไม่กี่วันผ่านมาไม่มีบุคคลภายนอกเข้าออกหมู่บ้านเยี่ยเจียเลย!"ช่วงหลายวันมานี้ เขาส่งคนไปเฝ่าจับตาดูที่หมู่บ้านเยี่ยเจีย กลัวว่าคนของหวังหยวนจะหน
“จับพวกมันไว้!”เว่ยเฉิงตะโกนเสียงดัง!ทหารสองร้อยนายกัดฟันรีบเข้าไปหาทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ และในไม่ช้าพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าเขานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน!ทหารผ่านศึกเกราะทมิฬเป็นเหมือนกับเหล็กกล้าที่สามารถบดขยี้ทหารที่มีชุดเกราะบาง ๆ แค่นั้นได้ในทันทีขุนพลเว่ยเฉิงหันหลังกลับจะวิ่งหนี แต่กลับถูกถีบเข้าที่หลังอย่างจัง ทันทีที่เขาลุกขึ้นก็มีดาบยาวจ่อที่คอ และเผลอพูดออกไปว่า: "เจ้าเป็นใคร"คนเหล่านี้มีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย และทหารที่อยู่ข้างหน้าไม่ใช่คู่มือด้วยซ้ำ"องค์รักษ์ส่วนตัวลำดับที่หกของแม่ทัพใหญ่มู่!""องค์รักษ์ส่วนตัวลำดับที่สิบแปดของแม่ทัพใหญ่มู่!""องค์รักษ์ส่วนตัวลำดับที่สามสิบแปดของแม่ทัพใหญ่มู่!"...อดีตทหารผ่านศึกเกราะทมิฬแต่ละคนประกาศชื่อลำดับของเขา!“อดีตทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”เว่ยเฉิงตัวสั่น รู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง: "เจ้าจะทำอะไร? ข้าเป็นเจ้าหน้าที่ขุนนางของราชสำนัก เจ้าจะฆ่าขุนนางและกบฏรึ ... โอ้ย!"เพี้ยะ เพี้ยะ เพี้ยะ...ฉางเซิ่งตบหน้าเขาซ้ายขวารัว ๆ: "ไอขุนนางชาติชั่ว ขอบอกเจ้าไว้เลยนะว่าถ้าครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นกับท่านเสนาธิการทหารล่ะก็ พวกข้านี่แหละจะก่อกบ
หลายคนกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจ้องมองด้วยสายตาดุร้ายไปทางเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยนั้นอย่างไร้ความเมตตาเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยตัวอ้วนกลมเมื่อเห็นดังนั้น เขาก็รีบวิ่งหนีทันที วิ่งไปด่าไปด้วยว่า “ไอพวกสารเลวชาติชั่ว ไม่กล้าฟังคำสั่งของข้า เจ้าคิดจะกบฏงั้นหรือ?”ทันทีที่พวกเขาได้ยินคำว่า "กบฏ" แล้วเห็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยนั้นวิ่งหนีไป หลายคนก็ตกใจจนได้สติขึ้นมา และยืนล้อมรูปปั้นนั้นไว้ จะอยู่จะไปก็ไม่ได้ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยกับทหารหลายคนถือดาบยาวเข้ามาพร้อมจิตสังหารเหล่าคนทำเหมืองต่างตกใจและรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยคนหนึ่งใช้ดาบฟันรูปปั้นและอดด่าออกมาไม่ได้: "ทองแดง ไอ้เวรพวกนี้บอกว่าทองคำ ทำให้ข้ามาเสียเที่ยวแล้ว!"แม้ว่าทองแดงชิ้นใหญ่ขนาดนี้จะขายแลกเงินได้นิดหน่อย แต่จะเอาอะไรไปเทียบกับทองคำได้หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนทยอยตรวจสอบ และพบว่าเป็นทองแดงจริง ๆ พวกเขาก็ห่อเหี่ยวใจเล็กน้อย“เฮ้ย รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ตัวนี้ดูแปลกอยู่นะ ทำไมถึงมีตาข้างเดียวเองล่ะ?”"มีข้อความอยู่ด้านหลังรูปปั้นทองสัมฤทธิ์นี้ด้วย!"“คำว่าอะไร?”“ให้ตายเถอะ ข้
สือเหยาเฉียน เสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า "ฝ่าบาท รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ทั้งสามนี้ เมื่อพิจารณาจากคราบ และร่องรอยความสึกกร่อนแล้ว พวกมันถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนเป็นอย่างน้อย ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ"จักรพรรดิซิงหลงขมวดคิ้วหากรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ถูกฝังเมื่อหลายร้อยปีก่อนจริง ๆ หากคำทำนายทั้งสามนั้นที่ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางในทั้งสองเมือง ก็เป็นไปได้ที่เผยเซียนเจิงจะมีโชคชะตาก่อกบฏจริง ในฐานะจักรพรรดิเขาไม่กลัวกบฏ มีคนก่อกบฏทุกปี ไม่เห็นจะมีอะไรเลย!แต่หากมีหลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอันเกี่ยวกับลิขิตจากสวรรค์เช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าต้าเย่จะถูกโค่นล้ม!กู้จี๋เต้า เสนาบดีกรมการคลังกำมือและทูลไปว่า: "ฝ่าบาท เท่าที่กระหม่อมทราบ หลังจากที่เจ้าเมืองหลงหนาน เผยเซียนเจิ้งจับกุมหวังหยวนที่เมืองฝูแล้ว ก็มีคำทำนายเหล่านี้แพร่กระจายไปทั้งสองเมือง นี่มันบังเอิญเกินไปหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ ต้องเป็นเล่ห์กลของหวังหยวนที่กำลังแพร่ข่าวลือใส่ร้ายเผยเซียนเจิ้ง!”เดิมทีเขาไม่คิดที่จะเสี่ยงที่จะแก้ตัวใครสักคนที่ก่อกบฏ แต่เมื่อวานนี้คนของเผยเซียนเจิ้งมามอบเงินให้เขาตั้งห้าหมื่นตำล
ดูเหมือนว่าเมืองหลิงจะเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในดินแดนทั้งเก้า!ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เป็นที่หมายปองของทุกคน!เมื่อทุกคนกลับถึงบ้านของหวังหยวน พวกหลี่ซื่อหานได้สั่งให้คนเตรียมอาหารไว้แล้ว เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะแล้ว หวังหยวนจึงแนะนำหลิ่วหรูเยียนให้เหล่าภรรยารู้จักพวกนางชินกับเรื่องแบบนี้แล้วบุรุษมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ไม่นานพวกนางก็สนิทสนมกันดั่งพี่สาวน้องสาวเนื่องจากไป๋ลั่วหลีอยู่ที่นี่ด้วย หวังหยวนจึงไม่อาจอยู่พูดคุยกับภรรยาได้ เพราะต้องไปดูแลไป๋ลั่วหลีก่อนเพื่อไม่ให้เสียมารยาทหวังหยวนกลับมานั่งที่โต๊ะ หลังจากดื่มกับไป๋ลั่วหลีสองสามจอกแล้วจึงกล่าวว่า “คุณหนูไป๋เดินทางมาไกล คงไม่ใช่แค่มาขอบคุณข้ากระมัง?”“ตอนนี้เราเป็นสหายกันแล้ว หากเจ้ามีเรื่องอยากปรึกษาก็บอกมาตามตรงเถิด ไม่ต้องอ้อมค้อม! ข้าไม่ใช่คนใจแคบ! หากมีสิ่งใดให้ข้าช่วย ข้าก็ยินดี”หวังหยวนเป็นคนใจกว้างไป๋ลั่วหลีได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าและถอนหายใจเป็นเช่นที่ร่ำลือกันจริง ๆ!หวังหยวนมีสายตาเฉียบแหลม แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็มองคนได้ทะลุปรุโปร่ง ไม่มีความคิดใดหลบเลี่ยงสายตาเขาไปได้!“ในเมื่อท
“ทุกท่านดื่มกันเถิด!”“ไม่ต้องสนใจข้า!”“ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ปราบพรรคทมิฬได้เท่านั้น แต่ยังทำให้เมืองอู่เจียงเจริญรุ่งเรือง เส้นทางคมนาคมทางน้ำก็เปิดใช้งานแล้วทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะความร่วมมือของพวกท่าน!”หวังหยวนยกจอกสุราขึ้นดื่มกับทุกคนวันนี้มีสุรา วันนี้ก็เมามาย ช่างรื่นรมย์ยิ่งนัก!เมื่อฟ้าสาง ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ เช้าวันรุ่งขึ้น หวังหยวนออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านต้าหวังภายในค่ำวันนั้น หวังหยวนก็กลับมาถึงหมู่บ้านต้าหวัง“ท่านหวัง! ไม่ได้พบกันนานเลยนะเจ้าคะ!”“กำลังนึกถึงท่านพอดีเลยเจ้าค่ะ!”เมื่อหวังหยวนเข้าเมืองหลิงก็เห็นไป๋ลั่วหลีเดินเข้ามาหาได้พบเพื่อนเก่า หวังหยวนรู้สึกยินดี รีบลงจากม้าเดินไปหาไป๋ลั่วหลี แล้วถามว่า “คุณหนูไป๋มาที่นี่ได้อย่างไร?”“ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อขอบคุณท่าน!”“หากไม่ใช่เพราะว่าท่านมอบปืนไรเฟิลซุ่มยิงให้ ข้าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้อย่างไร?”“ยิ่งกว่านั้น ครั้งก่อนที่เมืองอู่เจียง ท่านยังช่วยชีวิตข้าด้วย บัดนี้ข้าหายดีแล้ว จึงต้องมาขอบคุณท่านด้วยตัวเองเจ้าค่ะ!”พี่น้องต้าหู่และเอ้อหู่ได้รออยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองยืนต้อนรับอยู่ข้าง ๆ ด
ทุกคนต่างพยักหน้าแต่ในใจก็รู้สึกอาลัยการได้อยู่เคียงข้างหวังหยวนนับเป็นโชคดี ใครบ้างอยากจากเขาไป?เพราะการได้อยู่ใกล้ชิดหวังหยวนย่อมมีโอกาสก้าวหน้า!แต่น่าเสียดาย ในเมื่อหวังหยวนตัดสินใจเช่นนี้แล้ว พวกเขาได้แต่ทำตาม“ข้าจะไปล่องเรือต่อ!”“พวกท่านกลับเข้าเมืองกันก่อนเถิด!”“งานเลี้ยงเตรียมพร้อมแล้ว เมื่อขึ้นฝั่งก็ไปที่วังของข้า แล้วข้าจะรีบตามไป ไม่ต้องรอพิธีรีตอง!”ทุกคนรับคำ แล้วลงเรือเล็กมุ่งหน้ากลับเมืองอู่เจียง!ทางด้านหวังหยวนก็พาหลิ่วหรูเยียนและต่งอวี่ล่องเรือชมแม่น้ำต่อ“ลั่วเฉินเป็นอย่างไรบ้าง?”“ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ได้ยินว่าเขายังคงปากแข็งได้อีกหรือ?”หวังหยวนมองไปที่ต่งอวี่แล้วถามขึ้นดูเหมือนว่าเขาคงไม่มีวาสนาได้ทรัพย์สมบัติของพรรคทมิฬ จึงเสียเวลามากมายไปโดยเปล่าประโยชน์!“ข้าละอายใจนักขอรับ!”“ข้าตัดนิ้วเขาไปหลายนิ้ว ใช้วิธีทรมานไปมากมาย แต่เขาก็ยังไม่ยอมปริปากพูด เหมือนกับปากทำด้วยเหล็กเลยขอรับ!”“ข้าคิดว่าแม้จะให้เวลาข้าอีกหนึ่งสัปดาห์ ข้าก็คงเปิดปากเขาไม่ได้...”“คนผู้นี้ช่างดื้อรั้นนัก!”ต่งอวี่ถอนหายใจ แต่ก็อดชื่นชมไม่ได้!แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู
“ไม่ใช่เช่นนั้น!”หลิ่วหรูเยียนส่ายหน้า ในเมื่อหวังหยวนซื่อสัตย์กับนาง นางก็ไม่ควรปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองนางจึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้ามีใจให้ท่านมานานแล้ว แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่ข้าเริ่มหลงรักท่าน!”“ข้าแค่กลัวว่าคนรอบข้างท่านจะรับข้าไม่ได้!”“เพราะก่อนหน้านี้ข้าทำเรื่องไม่ดีกับท่านไว้มากมาย...”“ซ้ำยังเกือบฆ่าท่านด้วย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวจากใจจริง นี่คือสิ่งที่นางกังวลหวังหยวนหัวเราะ ก่อนส่ายหน้ากล่าวว่า “เจ้าพูดผิดแล้ว! คนรอบข้างข้าล้วนเชื่อฟังข้า จะน่ากลัวอย่างที่เจ้าคิดได้อย่างไร?”“ส่วนภรรยาของข้าไม่ใช่คนชอบสร้างปัญหา ไม่เช่นนั้นข้าจะวางใจปล่อยให้พวกนางอยู่ข้างหลังได้อย่างไร?”“บ้านของข้าจะสงบสุขได้อย่างไร?”หลิ่วหรูเยียนตกตะลึง แต่ก็เป็นเช่นนั้นจริง!หวังหยวนเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก การมีสตรีอยู่รอบกายหลายคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก!ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าหวังหยวนจะไม่ได้เป็นฮ่องเต้ แต่เขาก็มีคุณสมบัติของผู้นำเทียบเท่าฮ่องเต้ทั้งสาม!การมีภรรยาหลายคนจะเป็นอะไรไป?“ในเมื่อท่านไม่รังเกียจ ข้าก็ยินดีอยู่เคียงข้างท่าน!”“เป็นผู้หญิงของท่าน!”หลิ่วหรูเยียนกล่า
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม
“อะแฮ่ม”หวังหยวนกระแอม แล้วรีบแต่งตัว ไม่ได้ตอบคำถามของหลิ่วหรูเยียนจะให้เขาตอบเช่นไร?หรือว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ?แต่เมื่อนึกถึงภรรยาหลายคนที่บ้านก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งจะแต่งงานกับเสวี่ยเชียนหลงยังไม่ถึงปี ก็มีหญิงงามมาเพิ่มอีกคน แล้วจะอธิบายกับภรรยาอย่างไร!แต่จะเดินจากไปง่าย ๆ เลยก็คงไม่ดีหรือไม่?หวังหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงต้องตัดสินใจในภายหลัง“จริงสิ”“ข้าต้องไปที่คุก เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”หวังหยวนมองหลิ่วหรูเยียน แล้วเอ่ยถาม“แน่นอน!”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าอยากเห็นลั่วเฉินถูกทรมานเพื่อระบายความแค้น!”ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคุกต่งอวี่รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นหวังหยวนก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวว่า“ท่านผู้นำ!”“เมื่อคืนข้าอยู่ที่นี่ตลอด ใช้บทลงโทษต่าง ๆ นานากับลั่วเฉินจนเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับปากแข็งไม่ยอมปริปากเลยขอรับ!”“หากไม่ใช่เพราะเขาใกล้จะตายเต็มทน เราคงไม่ปล่อยให้เขาพักหรอกขอรับ”ต่งอวี่กล่าวด้วยความโกรธช่างน่าโมโหนัก!เขาใช้ความอำมหิตไปเกือบหมดแล้ว แต่ลั่วเฉินก็ยังปากแข็ง!ปากอย่างกับแม่กุญแจ!ยากที่จะแงะออกจริงๆ!เขารู้สึกหนัก
ต่งอวี่รับคำแล้วพาลั่วเฉินไปที่คุกก็แค่พวกกระดูกแข็งเท่านั้น!หากใช้การทรมานเข้าช่วยก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครทนได้ กระดูกจะแข็งเพียงใดกัน?หากทนได้ แสดงว่าแค่ทรมานไม่มากพอ!“ข้าคิดว่าเขาคงไม่ยอมเปิดปาก”“แม้ว่าท่านจะฆ่าเขา เขาก็คงไม่บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ”หลิ่วหรูเยียนเดินไปข้างหวังหยวน มองคนพาตัวลั่วเฉินออกไป แล้วกล่าวต่อว่า “เขาไม่ใช่คนอย่างโอวหยางอวี่ นับว่าเป็นขุนพลที่กล้าหาญและซื่อสัตย์“หวังหยวนพยักหน้า เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แต่จำต้องลองดูสักครั้ง“เจ้าจัดการโอวหยางอวี่ไปแล้วหรือ?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่แล้ว”“เขายังหวังจะให้นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต ใช้คำพูดโน้มน้าวข้า แต่น่าเสียดายตอนนี้ใจข้าแข็งดั่งหิน ต้องการแค่ล้างแค้นให้บิดามารดา ทวงความยุติธรรมให้พวกท่านเท่านั้น!”“ในสายตาข้า ชีวิตคนของพรรคทมิฬไร้ค่า!”“ไม่ต้องพูดถึงโอวหยางอวี่ แม้แต่ตานสยงเฟย ข้าก็จะฆ่าเขา!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่นความแค้นในการฆ่าบิดาไม่อาจลืมเลือน จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?หวังหยวนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”“แต่หล
“เพียะ เพียะ เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นตบหน้าโอวหยางอวี่หลายครั้งจนหน้าบวมปูด!ทหารหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างมองโอวหยางอวี่ด้วยสายตาเย็นชาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเอง!แต่ต้องยอมรับว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ควรไปยั่วยุนาง!“เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจึงจะให้เจ้าตายอย่างสงบ!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้การมีชีวิตยังดีกว่าตาย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยความโกรธแค้นคนของพรรคทมิฬล้วนไม่ใช่คนดีสักคน ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!ตอนนี้นางแค่อยากฆ่าคนระดับสูงของพรรคทมิฬให้หมด!“น้องหรูเยียน...”โอวหยางอวี่ตะโกนอีกครั้ง แต่หลิ่วหรูเยียนลงดาบตัดหัวเขาขาดในดาบเดียว!คนชั่วช้าคนหนึ่งจบชีวิตลง!“หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งจากในสี่คน! ก็แค่นี้!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ ไม่เอ่ยคำใด นางโยนดาบทิ้ง แล้วเดินไปหาหวังหยวนตอนนี้หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับลั่วเฉิน“หรูเยียนกลับมาแล้ว โอวหยางอวี่คงตายแล้ว”“คนเช่นนั้น ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”หวังหยวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลั่วเฉินหัวเราะลั่น แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว! คนทรยศ ขี้ขลาดเช่นนั้น ไม่ฆ่าเขา แล้วจะฆ่าใคร?”“เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ