ตึงกันเอ้อเย๋กระอักเลือดออกมาเปื้อนลงบนเสื้อคลุมสีขาว!ตู้ม!ตึงตู้ม!ตึงหลังจากรัวหมัดสามครั้งติดต่อกัน เลือดก็เปื้อนกระเซ็นไปทั่วเสื้อคลุมสีขาว กันเอ้อเย๋หายใจรวยริน!ถังหม่างหันกลับมาแล้วยื่นเสื้อคลุมให้หวังหยวน: "พี่ชาย ถ้าไอคนแซ่เป่ยส่งคนมาที่นี่ เจ้าเอาเสื้อคลุมตัวนี้คลุมไว้แล้วแกล้งหลับ หากเห็นเลือดมากมายบนเสื้อคลุม ทุกคนจะคิดว่าเจ้าถูกกระทืบเกือบตาย!”"...พรสวรรค์แท้ ๆ!"...เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทหารหนึ่งพันนายก็มาที่หมู่บ้านเยี่ยเจีย โดยมีเว่ยเฉิงเป็นผู้นำอยู่ด้านหลังสุดมีทหารกลุ่มหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเขา แต่ละคนถือโล่อยู่ในมือป้องกันที่ด้านหน้าเขา!นี่เป็นการป้องกันหน้าไม้ยักษ์ที่หวังหยวนสร้างขึ้นมา!ทั้งผู้นำและทหารที่อยู่แนวหน้าก็ตัวสั่นงกงั่กด้วยความกลัวเช่นกันแม่ทัพที่สวมชุดเกราะโลหะยังกลัวจนเป็นแบบนี้ แล้วเกราะหนังจะไม่กลัวได้อย่างไรเมื่อมาถึงนอกหมู่บ้านเยี่ยเจีย เว่ยเฉิงจ้องมองอยู่นาน: "เจ้าแน่ใจรึว่า ในช่วงไม่กี่วันผ่านมาไม่มีบุคคลภายนอกเข้าออกหมู่บ้านเยี่ยเจียเลย!"ช่วงหลายวันมานี้ เขาส่งคนไปเฝ่าจับตาดูที่หมู่บ้านเยี่ยเจีย กลัวว่าคนของหวังหยวนจะหน
“จับพวกมันไว้!”เว่ยเฉิงตะโกนเสียงดัง!ทหารสองร้อยนายกัดฟันรีบเข้าไปหาทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ และในไม่ช้าพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าเขานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน!ทหารผ่านศึกเกราะทมิฬเป็นเหมือนกับเหล็กกล้าที่สามารถบดขยี้ทหารที่มีชุดเกราะบาง ๆ แค่นั้นได้ในทันทีขุนพลเว่ยเฉิงหันหลังกลับจะวิ่งหนี แต่กลับถูกถีบเข้าที่หลังอย่างจัง ทันทีที่เขาลุกขึ้นก็มีดาบยาวจ่อที่คอ และเผลอพูดออกไปว่า: "เจ้าเป็นใคร"คนเหล่านี้มีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย และทหารที่อยู่ข้างหน้าไม่ใช่คู่มือด้วยซ้ำ"องค์รักษ์ส่วนตัวลำดับที่หกของแม่ทัพใหญ่มู่!""องค์รักษ์ส่วนตัวลำดับที่สิบแปดของแม่ทัพใหญ่มู่!""องค์รักษ์ส่วนตัวลำดับที่สามสิบแปดของแม่ทัพใหญ่มู่!"...อดีตทหารผ่านศึกเกราะทมิฬแต่ละคนประกาศชื่อลำดับของเขา!“อดีตทหารผ่านศึกเกราะทมิฬ!”เว่ยเฉิงตัวสั่น รู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง: "เจ้าจะทำอะไร? ข้าเป็นเจ้าหน้าที่ขุนนางของราชสำนัก เจ้าจะฆ่าขุนนางและกบฏรึ ... โอ้ย!"เพี้ยะ เพี้ยะ เพี้ยะ...ฉางเซิ่งตบหน้าเขาซ้ายขวารัว ๆ: "ไอขุนนางชาติชั่ว ขอบอกเจ้าไว้เลยนะว่าถ้าครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นกับท่านเสนาธิการทหารล่ะก็ พวกข้านี่แหละจะก่อกบ
หลายคนกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจ้องมองด้วยสายตาดุร้ายไปทางเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยนั้นอย่างไร้ความเมตตาเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยตัวอ้วนกลมเมื่อเห็นดังนั้น เขาก็รีบวิ่งหนีทันที วิ่งไปด่าไปด้วยว่า “ไอพวกสารเลวชาติชั่ว ไม่กล้าฟังคำสั่งของข้า เจ้าคิดจะกบฏงั้นหรือ?”ทันทีที่พวกเขาได้ยินคำว่า "กบฏ" แล้วเห็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยนั้นวิ่งหนีไป หลายคนก็ตกใจจนได้สติขึ้นมา และยืนล้อมรูปปั้นนั้นไว้ จะอยู่จะไปก็ไม่ได้ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยกับทหารหลายคนถือดาบยาวเข้ามาพร้อมจิตสังหารเหล่าคนทำเหมืองต่างตกใจและรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยคนหนึ่งใช้ดาบฟันรูปปั้นและอดด่าออกมาไม่ได้: "ทองแดง ไอ้เวรพวกนี้บอกว่าทองคำ ทำให้ข้ามาเสียเที่ยวแล้ว!"แม้ว่าทองแดงชิ้นใหญ่ขนาดนี้จะขายแลกเงินได้นิดหน่อย แต่จะเอาอะไรไปเทียบกับทองคำได้หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนทยอยตรวจสอบ และพบว่าเป็นทองแดงจริง ๆ พวกเขาก็ห่อเหี่ยวใจเล็กน้อย“เฮ้ย รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ตัวนี้ดูแปลกอยู่นะ ทำไมถึงมีตาข้างเดียวเองล่ะ?”"มีข้อความอยู่ด้านหลังรูปปั้นทองสัมฤทธิ์นี้ด้วย!"“คำว่าอะไร?”“ให้ตายเถอะ ข้
สือเหยาเฉียน เสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า "ฝ่าบาท รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ทั้งสามนี้ เมื่อพิจารณาจากคราบ และร่องรอยความสึกกร่อนแล้ว พวกมันถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนเป็นอย่างน้อย ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ"จักรพรรดิซิงหลงขมวดคิ้วหากรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ถูกฝังเมื่อหลายร้อยปีก่อนจริง ๆ หากคำทำนายทั้งสามนั้นที่ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางในทั้งสองเมือง ก็เป็นไปได้ที่เผยเซียนเจิงจะมีโชคชะตาก่อกบฏจริง ในฐานะจักรพรรดิเขาไม่กลัวกบฏ มีคนก่อกบฏทุกปี ไม่เห็นจะมีอะไรเลย!แต่หากมีหลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอันเกี่ยวกับลิขิตจากสวรรค์เช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าต้าเย่จะถูกโค่นล้ม!กู้จี๋เต้า เสนาบดีกรมการคลังกำมือและทูลไปว่า: "ฝ่าบาท เท่าที่กระหม่อมทราบ หลังจากที่เจ้าเมืองหลงหนาน เผยเซียนเจิ้งจับกุมหวังหยวนที่เมืองฝูแล้ว ก็มีคำทำนายเหล่านี้แพร่กระจายไปทั้งสองเมือง นี่มันบังเอิญเกินไปหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ ต้องเป็นเล่ห์กลของหวังหยวนที่กำลังแพร่ข่าวลือใส่ร้ายเผยเซียนเจิ้ง!”เดิมทีเขาไม่คิดที่จะเสี่ยงที่จะแก้ตัวใครสักคนที่ก่อกบฏ แต่เมื่อวานนี้คนของเผยเซียนเจิ้งมามอบเงินให้เขาตั้งห้าหมื่นตำล
โหรหลวงหมอบลงและตอบไปว่า: "ทูลฝ่าบาท เมื่อสามวันก่อนดาวไท่ส่วยเคลื่อนมาจากทางตะวันตกเฉียงเหนือ และเคลื่อนล้ำทับเข้าดิถีดาวจักรพรรดิ ตามหลักโหราศาสตร์ ปีนี้ต้าเยี่ยอาจเกิดเรื่องทหารขึ้น กระหม่อมเกรงว่าจะมีคนก่อกบฏ!”เปรี้ยง!ทุกคนในห้องทรงพระอักษรตกใจเหมือนโดนฟ้าผ่าเสนาบดีกรมการคลัง กู้จี๋เต้าเหงื่อออกชุ่มหน้าผาก เขาไม่กล้าแก้ตัวเผยเซียนเจิ้งอีกต่อไป!รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่สร้างขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน ตอนนี้มีดาวไท่ส่วยเคลื่อนทับเข้าดิถีดาวจักรพรรดิ เป็นข้อหลักฐาน!เผยเซียนเจิ้งจะกบฏจริง ๆ งั้นเหรอ?"..."เสนาบดีฝ่ายขวา หยางเฟิ๋งกั๋วเจ้ากระทรวงกรมกลาโหม ฉินจ้านและเจ้ากระทรวงกรมพิธีการ โจวจิงเหย่มองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก!พูดตามตรง หลังจากหวังหยวนถูกจับ มีคำทำนายออกมาก่อน แล้วตามด้วยหลักฐานของการทำนายนั้น พวกเขาต่างจึงรู้สึกสงสัย!พวกเขาสงสัยว่าทั้งหมดนี้ท่านหมิงถานเป็นคนทำขึ้นเพื่อตอบโต้การใส่ร้ายของเผยเซียนเจิ้ง!แต่เมื่อได้เห็นลำนำแห่งความชอบธรรม ก็ต่างรู้สึกซาบซึ้งนัก!ช่างเป็นผลงานชั้นยอดที่สง่างาม จงรักภักดี และกล้าหาญ คู่ควรต่อการบูชา!ถ้าไม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้
ด้วยวิธีการนี้ ไม่เพียงสามารถขู่คนแซ่หวังให้ยอมจำนน แต่ยังบังคับให้พวกเขาเอาเงินมาช่วยคนได้ด้วย!...วันรุ่งขึ้น ในโถงของศาล!เผยเซียนเจิ้งแต่งกายด้วยเครื่องแบบทางการสีแดงเข้ม นั่งอยู่ใต้แผ่นป้ายสะอาดเป็นประกายที่แขวนเอาไว้ เหล่าทหารของศาลที่ยืนเรียงทั้งสองฝั่งด้านล่างถือไม้ทาสีแดงเสียงไม้ตบโต๊ะดังขึ้น เผยเซียนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา: "พาตัวนักโทษหวังหยวนมา!"เหล่าทหารของศาลส่งเสียงออกมาว่า: "เว่ยหวู่!"เสียงที่ดังก้องของคำว่า "หวู่" เจ้าหน้าที่ศาลสองคนพาหวังหยวนไปในโถงของศาล!ในตอนนี้ สภาพหวังหยวนดูกระเซอะกระเซิง เสื้อคลุมสีขาวของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด ยกเว้นแววตาของเขาที่ยังคงสดใส ส่วนอย่างอื่นดูน่าอนาถนัก!พวกเขาสบตากัน พวกเขาต่างก็ไม่ปิดบังจิตสังหารอันเหี้ยมเกรียมในแววตาของพวกเขา!เผยเซียนเจิ้งตะคอกอย่างเย็นชา: "หวังหยวน เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงพาตัวเจ้ามานี่?""รู้สิ!"หวังหยวนเลิกคิ้วหาวออกมาและพูดว่า: "เจ้ากำลังดิ้นรนก่อนตายอย่างไรเล่า!"เพราะหลี่จ้าวหลินไปติดสินบนอย่างดีมาแล้วทั้งคุก เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บเลยในช่วงเจ็ดแปดวันที่ผ่านมา!นอกจากนี้เขายังรู้สถานการณ์ภายนอกเป็
เผยเจิ้งเซียนถลึงตาอย่างโกรธแค้น เขาหันกลับมาตะโกนว่า: "เผยเหวิน เผยหวู่ พวกเจ้ามาโบยมันซะ!"ชายหนุ่มสองคนที่อยู่นอกศาลรีบเข้ามาทันที คว้าไม้กำลังจะโบยหวังหยวนเขาเกิดมาในตระกูลเผยร่วมกับนายท่าน จึงรู้สึกเป็นเกียรติและขุ่นเคืองเมื่อนายท่านถูกลบหลู่!เผยเซียนเจิ้งมองดูอย่างพึงพอใจ: "ไอคนโอหังอย่างเจ้า ข้าจะโบยเจ้าจนกระดูกแหลกก่อน จากนั้นค่อยใช้เครื่องมือทรมานต่าง ๆ ทรมานเจ้า วันนี้เจ้าจะต้องยอมแพ้และรับข้อกล่าวหานี่ซะ!"ปัง!ในตอนนั้นเอง ประตูศาลที่ปิดอยู่เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!เสียงที่ดังขึ้นนี้ทำให้ทั้งสองคนที่ถือไม้อยู่ตกใจ!ปัง ปัง ปัง...เสียงทุบประตูอย่างรุนแรงยังคงดังต่อไป ราวกับว่ามีคนจะพังประตูเมืองเข้ามา!เผยเซียนเจิ้งมองอย่างเคร่งเครียด: "ออกไปดูสิว่าใครบังอาจมาบุกมาทุบประตูศาล!"วันนี้นำตัวหวังหยวนขึ้นศาล เพราะเตรียมโบยเขาจึงปิดประตูใหญ่ศาล!เจ้าหน้าที่ศาลทั้งสองวิ่งออกไป ก่อนที่พวกเขาจะมองไปที่ประตู ประตูสีแดงชาดก็ถูกพังจนเปิดออกเมื่อมองไปที่ผู้นำขบวน เผยเซียนก็หน้าซีดจนทรงตัวไม่อยู่!หวังหยวนหันกลับมาและหัวเราะ!ท่ามกลางซากประตูที่แตกหัก มีคนเกือบร้อยค
ผั้วะ!เขาต่อยเข้าเบ้าตาซ้ายเผยเซียนเจิ้งอย่างแรง วังไห่เทียนด่าเสียงดังลั่น: "เชื่อก็โง่แล้ว การพิจารณาคดีงี่เง่าพรรค์นี้ เจ้าทำท่าทีลับ ๆ ล่อ ๆ คิดจะทำอะไรกันแน่? เจ้าจะใส่ร้ายยัดข้อหาให้เขา ให้เขารับผิดใช่ไหม?”ทุกคนในที่นี้ทั้งหมดต่างตกใจ!ไม่มีใครคาดคิดว่าวังไห่เทียนจะชกหน้าผู้พิพากษาจริง ๆแต่อารมณ์ของท่านไห่เทียนตอนนี้พอคิดดูแล้วก็ไม่แปลก!เผยเซียนเจิ้งถลึงตาด้วยความโกรธ: "เจ้า เจ้ากล้าชกข้า ข้าเป็นผู้พิพากษาศาล เป็นหน้าตาของศาล... โอ๊ย!"ผั้วะ!อีกหมัดเข้าที่ตาขวาของเขา วังไห่เทียนก็ด่าไปเหยียดหยาม: "ไอคนปลิ้นปล่อนอย่างเจ้า ใช้อำนาจรังแกผู้อื่น ใช้กฎหมายผิด ๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว อย่างเจ้าไม่คู่ควรเป็นพิพากษาศาลหรอก วันนี้ข้าเป็นตัวแทนความยุติธรรมของศาล สั่งสอนบทเรียนให้กับขุนนางชั่วช้าอย่างเจ้าเอง!”ชกไปสองทีไม่พอหรอก ดังนั้นวังไห่เทียนจึงยกเท้าขึ้นถีบเผยเซียนเจิ้งอีกที“หนูโสโครกกัดกินชาติบ้านเมือง จะเก็บไว้ทำไม? กระทืบมันให้ตายไปเลย!”เหล่าถงเซินและบัณฑิตซิ่วไฉ่บางคนตื่นเต้นมากจนอดไม่ได้ที่จะลงไม้ลงมือด้วยหนูโสโครกกัดกินชาติบ้านเมือง กล้าใส่ร้ายท่านหมิงถัน ไว้ช