เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ ประโยคเดียวก็ทำให้หัวใจของหวังหยวนรู้สึกอบอุ่นในใจแล้ว จากนั้นเขาก็ยิ้มตอบนางทั้งสองยืนยิ้มให้กันท่ามกลางแสงแดด ขณะที่นักพรตชิงอียืนอยู่ข้าง ๆ และแทบจะทนมองต่อไปไม่ไหว“ข้ายังยืนอยู่ตรงนี้ พวกเจ้าทั้งสองช่วยทำเรื่องเหล่านี้ในที่ลับไม่ได้หรือ”หลังจากได้ยินคำพูดของนักพรตชิงอี ใบหน้าของเสวี่ยเชียนหลงก็แดงก่ำขึ้นมาอีกครั้งช่วงหลังมานี้เหมือนว่านางจะหน้าแดงบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ“ท่านอาจารย์ ท่านพูดอะไรเจ้าคะ ข้าไม่ได้...”เสียงของเสวี่ยเชียนหลงค่อย ๆ เบาลง จนในที่สุดก็ไม่มีเสียงใดเหลือเลยทั้งสามกำลังพูดคุยกันอยู่ ทันใดนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงห้าว“น้องสาว เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”ผู้มาเยือนคือพี่ชายของเสวี่ยเชียนหลง เขาหมกมุ่นอยู่กับการฝึกเคล็ดวิชาจนแทบไม่ได้กลับบ้าน วันนี้ที่กลับมาก็เพราะได้ยินข่าวว่าผู้ที่สามารถช่วยชีวิตเสวี่ยเชียนหลงได้ ถูกนักพรตชิงอีพากลับมาด้วย เขาจึงมาดูจากที่ได้ยินมาจากข้างนอก เขาได้ยินเรื่องราวมากมาย แต่ก็ต้องรอจนได้พบตัวจริงถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไรเขาได้สอบถามที่อยู่ของหวังหยวนจากคนรับใช้ จากนั้นก็รีบตรงมาทันทีผลก็คือ
“วางใจเถิด พี่ใหญ่เสวี่ย ข้าจะไม่ยกเชียนหลงให้กับชายอื่นอย่างง่ายดายแน่นอน และพวกเขาก็ช่วยเชียนหลงไม่ได้ด้วย แม้ว่าจะแต่งงานกันแล้วก็จะทำให้เชียนหลงต้องสูญเสียชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์ แม้ว่าในที่สุดข้าจะไม่ชนะการประลองยุทธ์เพื่อหาคู่ ข้าก็จะคิดหาวิธีพาเชียนหลงหนีไปอย่างแน่นอน จะไม่ปล่อยให้นางต้องจบชีวิตลงตรงนี้เป็นแน่!”เมื่อหวังหยวนพูดถ้อยคำเหล่านี้ ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นพี่ใหญ่เสวี่ยรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น แม้ว่าหวังหยวนจะไม่ชนะการประลองยุทธ์เพื่อหาคู่ เขาก็ยังจะพาเชียนหลงหนีไปนี่ก็เป็นสิ่งที่พี่ใหญ่เสวี่ยอยากเห็นเช่นกัน คงเป็นไปตามที่บิดาวางแผนไว้จึงได้ส่งองครักษ์ไปช่วยเหลือหวังหยวนในที่ลับ“ดี ข้าชอบนิสัยเช่นนี้ของเจ้า ข้ารับเจ้าเป็นน้องเขยของข้าแล้ว”พี่ใหญ่เสวี่ยหัวเราะด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็โอบไหล่หวังหยวนแรงขึ้นอีกเล็กน้อยหวังหยวนไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพี่ใหญ่เสวี่ยคิดอย่างไรเมื่อครู่นี้ยังบอกว่าจะไม่ยอมรับเขาเป็นน้องเขย แต่ตอนนี้จู่ ๆ ก็ยอมรับเสียอย่างนั้น“มีอีกเรื่องหนึ่ง ข้ารู้ว่าเจ้ามีภรรยาสามคน ภรรยาสามคนของเจ้าอนุญาตให้เจ้าแต่งงานอีกครั้งได้หรือไม่?”
เสวี่ยเชียนหลงไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะเข้ากันได้ดีกับพี่ชายของตนเองเช่นนี้ ทว่าเป็นเช่นนี้ก็ช่วยให้สถานการณ์ราบรื่นดีมากในอีกไม่กี่วันต่อมา หวังหยวนก็ได้เดินเที่ยวไปทั่วเทียนไว่เทียนพร้อมกับพี่ชิงอีแท้จริงแล้วศิษย์ของเทียนไว่เทียนแบ่งออกเป็นศิษย์ภายในและศิษย์ภายนอก“พวกเจ้าดูสิ นั่นน่าจะเป็นหวังหยวนผู้ชนะการทดสอบทั้งสามครั้งไม่ใช่หรือ?”“ดูเหมือนเช่นนั้นกระมัง บุรุษข้างกายเขาคือนักพรตชิงอีไม่ใช่หรือ? ได้ยินมาว่าหวังหยวนผู้นั้นเป็นศิษย์ของนักพรตชิงอี แน่นอนว่าต้องเป็นเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!”“ข้ายังนึกว่าเขาจะเป็นบุรุษหน้าตาหยาบกระด้าง ไม่คิดว่าจะอ่อนโยนสง่างามเช่นนี้ ช่างดูหล่อเหลาเสียจริง!”“พวกผู้หญิงทั้งหลายช่างตื้นเขินนัก พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าเขาผู้นั้นเอาชนะคนที่แปดตระกูลใหญ่ส่งไปสู้ถึงสิบคนด้วยตัวคนเดียวได้? นับว่าเก่งกาจยิ่งนัก พวกเราศิษย์ภายในและศิษย์ภายนอกรวมตัวกันจะมีผู้ใดทำได้เช่นนี้บ้าง?” ขณะที่หวังหยวนและนักพรตชิงอีเดินผ่านลานบ้านของศิษย์ภายใน เหล่าศิษย์ก็มารวมตัวกันทันที แล้วพากันพูดคุยเรื่องราวของหวังหยวนอย่างออกรสหวังหยวนไม่คาดคิดว่าตนเองจะเป็นที่สนใจของผู้คนมากม
คนเหล่านี้รีบแก้ตัวรวดเร็วเสียจริงนักพรตชิงอีไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระเหล่านี้จึงพยักหน้าแล้วเตรียมพาหวังหยวนจากไป ทว่าศิษย์ผู้นั้นที่วิ่งมาหลบเมื่อสักครู่นี้กลับดึงแขนของหวังหยวนไว้“เอ่อ หวังหยวน ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับเจ้าสักเล็กน้อย ให้ข้าไปด้วยได้หรือไม่?”หลงชิงจับมือของหวังหยวนด้วยมือสั่นเทา ดูเหมือนจะหวาดกลัวมากแม้หวังหยวนจะไม่อยากยุ่งเรื่องของผู้อื่น แต่สุดท้ายก็ตอบตกลงเหล่าศิษย์เห็นหลงชิงและหวังหยวน รวมถึงนักพรตชิงอีดูเหมือนสนิทสนมกันก็ตกใจไม่น้อยพวกเขาไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยว่าหลงชิงจะรู้จักกับนักพรตชิงอี“พวกเจ้าดูสิ นั่นไม่ใช่หลงชิงที่เป็นศิษย์ภายในหรอกหรือ? เขาไปยืนอยู่กับหวังหยวนได้อย่างไร ทั้งสองคนนี้รู้จักกันมาก่อนหรือ? ดูเหมือนจะไม่ใช่เลยสักนิด หวังหยวนเก่งกาจถึงเพียงนี้ แต่หลงชิงกลับมีความสามารถธรรมดามาก”“หรือว่าจะเป็นเพราะหวังหยวนมีจิตใจดีจึงได้ช่วยเหลือเขาเป็นพิเศษ หลงชิงถูกศิษย์ภายนอกเหล่านั้นกลั่นแกล้งมาหลายครั้งแล้ว”“ช่างน่าขันเสียจริง ตัวเองเป็นศิษย์ภายในแท้ ๆ กลับถูกศิษย์ภายนอกกลั่นแกล้ง หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ศิษย์ภายในอย่างพวกเราจะเ
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังหยวน พี่ชิงอีก็ค่อยวางใจได้ จากนั้นทั้งสองก็เดินทางกลับไปด้วยกันวันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มนามว่าหลงชิงตรงดิ่งมายังจวนเสวี่ย“พี่ใหญ่ซู ข้ามาหาท่านแล้ว วันนี้ข้าไม่มีธุระใดที่สำนักชั้นใน ข้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับเคล็ดวิชากำลังภายในอยู่พอดี จึงตั้งใจมาขอคำแนะนำจากท่าน!”เมื่อได้ยินเสียงของหลงชิง หวังหยวนนึกว่าตนเองหูฝาด แต่ไม่คาดคิดว่าสาวใช้จะพาเขาเข้ามาแล้วในเมื่อเป็นสิ่งที่ตนเองรับปากไว้แล้ว หวังหยวนก็จำต้องดูแล แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม“เจ้ามีข้อสงสัยใดก็ถามมาได้เลย แต่เจ้าควรรีบมารีบกลับจะดีกว่า เพราะที่นี่ไม่ใช่สำนักชั้นใน หากเจ้าอยู่ข้างนอกนานเกินไปแล้วถูกคนอื่นพบเห็นเข้าก็จะถูกตำหนิได้”หวังหยวนสามารถเข้าออกสำนักชั้นในและสำนักชั้นนอกได้ตามใจชอบ เนื่องจากเป็นศิษย์ของนักพรตชิงอีแต่หลงชิงไม่ใช่เช่นนั้น เขาเป็นศิษย์ภายในจึงจำเป็นต้องอยู่ในสำนักชั้นในตลอดเวลาหากถูกจับได้ว่าแอบหนีออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอาจารย์ก็จะถูกลงโทษได้ ซึ่งคาดว่าคราวนี้คงแอบหนีออกมา“ไม่เป็นอะไรหรอก มีพี่ใหญ่ซูคอยหนุนหลังข้าอยู่แล้วนี่นา แม้จะถูกพบเห็นเข้า พี่ใหญ่ซูก็ช่วยข้าได้อยู่แล้วใช่ห
หลงชิงกลอกตาไปมา สุดท้ายก็เปลี่ยนคำพูด“อาจเป็นเพราะข้าเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้เร็วกว่าคนอื่น จึงเรียนรู้เรื่องเหล่านั้นเสร็จสิ้นไปนานแล้ว พี่ใหญ่ซูอย่าคิดมากเลย เรื่องไม่กี่วันก่อนที่ข้าพูดไป พี่ใหญ่ซูคิดอย่างไร? มีคนมาด้วยไม่เยอะนัก มีเพียงศิษย์สำนักชั้นในไม่กี่คน รวมถึงพี่ใหญ่ซูด้วย พวกเราจะดื่มสุรากัน!”หลงชิงพูดจาวกวนไปมา สุดท้ายก็หวนกลับมาพูดเรื่องการร่วมรับประทานอาหารและดื่มสุราอีกครั้งหวังหยวนไตร่ตรองอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้หลงชิงรบเร้าอีกจึงยอมตอบตกลง หลงชิงดีใจจนแทบจะกระโดดตัวลอย“ดีมาก พี่ใหญ่ซูตกลงแล้ว ข้าจะรีบกลับไปเตรียมตัว เรานัดกันคืนพรุ่งนี้นะ!”“ก็ได้”หลังจากกลับไปแล้ว หลงชิงก็กระโดดโลดเต้นออกไปหวังหยวนรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ดูเหมือนหลงชิงจะไม่ใช่คนที่มีเจตนาดี คาดว่าในภายหลังคงจะก่อเรื่องให้เขาเป็นแน่แต่ไม่เป็นอะไร ตราบใดที่ระมัดระวังตัวตลอดเวลา เขาก็ไม่กลัวว่าชายผู้นั้นจะใช้กลอุบายอะไรเพราะในสำนักชั้นในและสำนักชั้นนอกนี้ จะมีคนแอบมาหาเขาได้ทุกวันได้อย่างไร?แม้หวังหยวนจะรู้สึกดีใจที่มีคนมาเป็นสหายเพิ่มอีกหนึ่งคนเพราะคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่กล้าพูดคุยก
“เจ้าเอามาสุรามาเยอะเกินไปหรือเปล่า? ไหใหญ่ถึงเพียงนี้ พวกเราที่นี่มีเพียงสี่คน จะดื่มหมดได้อย่างไร?”ไหสุราใบใหญ่ใบนี้ น้อยที่สุดก็ต้องหนักห้าถึงหกจินกระมัง?มองแล้วหากหนักสุดก็คงจะสิบจิน พวกเขามีเพียงสี่คน หากดื่มหมดนี่ พรุ่งนี้จะยังลืมตาตื่นได้หรือไม่?“แท้จริงแล้วไม่ได้มีมากมายนักหรอก อย่าได้ดูที่ไหใบใหญ่เลย เพราะสุราข้างในไม่ได้มีมากมายเช่นนั้น และอีกอย่างคือวันนี้ไม่ใช่หรือที่เราควรจะรื่นเริงกันให้เต็มที่? โอกาสที่พี่ใหญ่ซูจะยินยอมดื่มสุราร่วมกับพวกเรานั้นหาได้ยากยิ่งนัก นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง จึงได้นำมาเสียมากมายเช่นนี้ ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร แม้จะดื่มไม่หมดก็วางทิ้งไว้เช่นนี้ได้”หลงชิงตอบอย่างสบาย ๆ ก่อนจะวางไหสุราใบใหญ่ใบนั้นลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงหยิบถ้วยสี่ใบมาถ้วยสี่ใบวางอยู่ตรงหน้าของแต่ละคน เมื่อมองดูกับแกล้มเหล่านี้แล้วก็ดูดีไม่น้อยหวังหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาชิมจึงรู้ว่ารสชาติดีเยี่ยมเมื่อเห็นหวังหยวนกินกับแกล้มแล้ว หลงชิงก็รินสุราใส่ถ้วยให้หวังหยวนอย่างให้เกียรติหวังหยวนจิบดู สุราแรงมาก ทันทีที่ดื่มลงคอไปก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง“พี่
หลงชิงวางถ้วยสุราลงแล้วแสร้งถามหวังหยวนหวังหยวนวางแผนไว้แล้ว เขาล้มลงบนโต๊ะในทันทีแล้วปัดมือไปมา ทำให้กับแกล้มและถ้วยสุราบนโต๊ะหล่นกระจาย“โอ้โห! เจ้าบ้านี่ดื่มจนเมาแล้วก็เมาไปเถิด แต่อย่าได้ทำลายของเช่นนี้เลย กับแกล้มเหล่านี้ กว่าข้าจะหามาได้ช่างยากเย็นแสนเข็ญ และสุราก็เป็นสุราที่ข้าอุตส่าห์เตรียมไว้ด้วยความตั้งใจ!”หลงชิงเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของตนในตอนนี้ เขาเป็นคนชั่วร้ายอยู่แล้ว หากจะให้เสแสร้งต่อไปก็ยากเกินไปสำหรับเขา“พี่ใหญ่หลง ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี?”“พี่ใหญ่หลง ต่อไปหากท่านร่ำรวยแล้วก็อย่าลืมพี่น้องอย่างพวกข้าล่ะ!”“วางใจได้ ถ้าข้าร่ำรวยขึ้นมาแล้วจะไม่ลืมพวกเจ้าอย่างแน่นอน เอาล่ะ รีบช่วยข้าพาเจ้าบ้านี่ออกไปข้างนอกเถิด!”เมื่อได้รับเงินจากผู้ว่าจ้างมาแล้ว หลงชิงก็ต้องทำให้เรื่องนี้สำเร็จลุล่วงด้วยวิธีเท่านั้นที่จะทำให้เขาได้ก้าวขึ้นเป็นแปดตระกูลใหญ่ได้อย่างแท้จริงและได้เชิดหน้าชูตาในอนาคต!เมื่อได้ยินคำพูดของหลงชิงแล้ว เหล่าศิษย์ภายในอีกสองคนก็รีบจับหัวและเท้าของหวังหยวน จากนั้นก็ช่วยกันแบกเขาออกไปข้างนอก“พี่ใหญ่หลง พวกเราจะรอท่านอยู่ข้างนอก รีบกลับมาเร็ว ๆ นะ!
นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต
หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่
“ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า
แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้
“ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”
“ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล
ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด
“ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น