คราวนี้แย่แล้ว คนที่นอนอยู่ในห้องต้องเป็นหวังหยวนไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงกลายเป็นตัวเขาเองไปได้?คราวนี้จบสิ้นแล้ว!ห้ามเปิดเผยตัวเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเขาต้องตายแน่!ก่อนจะจากไป เขาได้ทิ้งของชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับหวังหยวนไว้ในห้องเมื่อหญิงสาวคนนั้นตื่นขึ้นมาจะได้รู้ว่าใครเป็นคนล่วงละเมิดนางหลังจากหลงชิงจากไปแล้ว หญิงสาวในห้องก็ตื่นขึ้นมาเมื่อมองดูสภาพตัวเองก็พอจะเดาได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนางยังเป็นสาวพรหมจารีอยู่ แต่พอถึงเช้าวันนี้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่ถูกพรากความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว“กรี๊ด! เป็นใคร? เป็นใครกัน? ที่กล้าทำเรื่องสกปรกโสมมเช่นนี้กับข้า อย่าให้ข้าจับตัวเจ้าได้นะ ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”หญิงสาวในห้องโวยวายเสียงดัง เสียงของนางเรียกความสนใจจากผู้คนมากมาย เรื่องของนางคงจะปิดไม่มิดแล้วเมื่อนางแต่งตัวเสร็จก็เตรียมจะถือดาบออกไปตามหาชายคนนั้น แต่แล้วก็เหยียบของชิ้นหนึ่งบนพื้น มันเป็นกระดาษแผ่นหนึ่งเมื่อนางหยิบขึ้นมาดูก็พบว่ามีข้อความดูถูกเหยียดหยามนาง และลงท้ายด้วยชื่อหวังหยวน!“หวังหยวน หวังหยวนที่เป็นคนโด่งดังเมื่อไม่นานมานี้หรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะ
“หวังหยวนไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้นนะ หรือว่าจะมีอะไรเข้าใจผิดกัน?”“เข้าใจผิดหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราคนธรรมดา พวกเราแค่ดูละครดี ๆ ตรงนี้ก็พอแล้ว ดูว่าใครผิดใครถูก!”เสียงของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ดังมากจนดึงดูดความสนใจของเสวี่ยเชียนหลงเสวี่ยเชียนหลงใจหายแวบหนึ่ง หรือว่าเมื่อคืนหวังหยวนทำอะไรกับเสี่ยวอวี๋เอ้อร์จริง ๆ?เมื่อคืนตอนที่หวังหยวนกลับมา เชียนหลงก็เห็นเขาหวังหยวนกลับมาดึกมาก และยังมีกลิ่นสุราแรงมากด้วยเสวี่ยเชียนหลงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ นางต้องเชื่อใจหวังหยวน!นางกับเขาผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายแล้ว จะมาสงสัยเขาเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร?ควรรอให้หวังหยวนมาแล้วค่อยตัดสินเสวี่ยเชียนหลงขมวดคิ้ว จากนั้นก็สั่งให้สาวใช้ข้างกายไปบอกหวังหยวนให้รีบมาที่ประตู และจัดการเรื่องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ให้เรียบร้อยเมื่อคืนดื่มสุรามากเกินไป หวังหยวนจึงนอนหลับจนถึงตอนนี้ แม้แต่เสียงตะโกนของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ข้างนอก เขาก็ยังไม่ได้ยินจนกระทั่งสาวใช้มาบอก เขาจึงรู้เรื่องเพื่อไม่ให้เสวี่ยเชียนหลงเข้าใจผิด เขาจึงรีบเปลี่ยนชุดแล้วมาที่ประตู จากนั้นจึงพบว่าเสี่ยวอวี๋เอ้อร์กำลังโ
หวังหยวนสิ้นหวัง ไม่ว่าเขาจะอธิบายอย่างไร พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ก็ไม่ฟังเหตุใดนางจึงเชื่อสนิทใจว่าเขาคือชายที่ล่วงเกินนางเมื่อคืน?หรือว่าหลงชิงได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ก่อนจากไป?“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าออกไปเมื่อใด แต่ข้ามีกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีลายมือชื่อของเจ้าอยู่!”เสี่ยวอวี๋เอ้อร์หยุดโจมตีขณะพูด แล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาจากกระเป๋าหวังหยวนรับกระดาษมาอ่านอย่างละเอียดลายมือไม่เหมือนเขาเลย มีเพียงลายมือชื่อเท่านั้นที่เป็นชื่อของเขา“พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์เข้าใจผิดแล้ว ลายมือนี้ไม่ใช่ข้าเขียน ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ข้าเขียนให้ดูตรงนี้ได้เลยว่าไม่ใช่ลายมือข้า!”ขณะที่หวังหยวนกำลังจะโน้มน้าวเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ให้ปล่อยเขาไป หลงชิงก็วิ่งมาพร้อมคนอื่น ๆ“พี่ใหญ่หวังอยู่นี่เอง ขอโทษด้วย! เรื่องเมื่อคืน พวกเราไม่คิดว่าจะกลายเป็นเช่นนี้!”หลงชิงและศิษย์สำนักชั้นในสองคนนั้นมาทำอะไรที่นี่?หวังหยวนขมวดคิ้วมองพวกเขาดูเหมือนว่าคนทั้งสามตั้งใจมาตัดสินความผิดของเขาเรื่องราวใหญ่โตจนนักพรตชิงอีมาดูด้วย เสวี่ยเชียนหลงก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งออกมาจากห้อง“วันนี้คึกคักดีจริง ๆ เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ แทน
สามคนนี้พูดแต่ละอย่างราวกับว่าหวังหยวนรับสารภาพความผิดแล้วหวังหยวนหยุดเดิน สายตาที่มองพวกเขาสามคนดุร้ายสายตานั้นทำให้หลงชิงตกใจจนเกือบจะเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้าสามคนย่อมรู้ดีกว่าข้า เมื่อคืนพวกเจ้ากรอกสุราให้ข้าอย่างบ้าคลั่ง เพื่อให้เกิดเรื่องวันนี้ใช่หรือไม่?”หลังจากได้ยินคำถามของหวังหยวน หลงชิงก็รีบตอบ“พี่ใหญ่หวัง ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร? เมื่อคืนพวกเราอยากขอบคุณมิตรไมตรีของท่านจริง ๆ ถึงได้จัดงานเลี้ยง ท่านเป็นคนก่อเรื่องลามกอนาจารเอง แล้วจะมาโทษพวกเราได้อย่างไร?”หลงชิงแสดงท่าทีราวกับถูกหวังหยวนใส่ร้าย ทำแม้กระทั่งจะบีบน้ำตาให้ไหลออกมาหวังหยวนไม่ต้องการพูดคุยกับเขาอีก ถึงตอนนั้นนักพรตชิงอีก็จะมีวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เขาอยู่แล้วในไม่ช้าพวกเขาก็ตามนักพรตชิงอีมาถึงหอประชุมใหญ่ตอนนี้เสวี่ยโส่วจุนไม่อยู่ที่นี่ ผู้อาวุโสสูงสุดจึงเป็นนักพรตชิงอี เขาจึงมีสิทธิ์นั่งบนเก้าอี้หลัก“เชียนหลง เจ้ามานั่งข้างข้าก่อนแล้วสังเกตการณ์เรื่องนี้ ถ้ามีอะไรผิดแปลก เจ้าก็พูดออกมาได้เลย”นักพรตชิงอีเรียกชื่อเสวี่ยเชียนหลงให้มานั่งข้างเขาเสวี่ยเชียนหลงรั
“พวกเจ้าทั้งสามยังมัวยืนเฉยอยู่เพื่ออะไร? รีบเล่าเรื่องที่รู้เมื่อคืนมาให้หมดสิ้น จะรอให้ท่านนักพรตชิงอีถามพวกเจ้าก่อนหรืออย่างไร?”หลังจากได้ยินเสียงของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ หลงชิงจึงเพิ่งจะตอบสนองตอนนี้รัศมีอำมหิตของท่านนักพรตชิงอีรุนแรงมาก ทำให้เขาตกใจจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ“เรียนท่านนักพรตชิงอี เมื่อคืนพวกเราสามคนดื่มสุรากินอาหารกับพี่ใหญ่หวัง เนื่องจากได้พบสหายคนใหม่ จึงได้เชิญพี่ใหญ่หวังมาด้วยความยินดี แต่ไม่คาดคิดว่าพี่ใหญ่หวังจะดื่มได้ไม่เก่ง หลังจากเมาแล้วก็จะพาพวกเราสามคนไปที่หน้าห้องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ เราเห็นพี่ใหญ่หวังเข้าไปในห้องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ด้วยตาของเราเองขอรับ!”หลงชิงพูดคำโกหกที่เตรียมไว้ทั้งหมดออกมาหวังหยวนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ชายผู้นี้ช่างพูดโกหกได้หน้าตาเฉยราวกับไม่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า“พวกเจ้าทั้งสองเห็นจริงหรือ?”ท่านนักพรตชิงอีไม่ได้สนใจหลงชิง แต่กลับจับจ้องไปที่คนทั้งสองข้าง ๆศิษย์ในสำนักทั้งสองไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง เพียงแค่พยักหน้าซ้ำ ๆ“พวกเจ้าทั้งสามเห็นข้าเข้าไปในห้องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์เมื่อใด?”“พี่ใหญ่หวัง ท่านก็ยอมรับเสียเถิด เรื่องนี้ไม่ใช่
“ข้านึกออกแล้ว บนไหล่ซ้ายของชายผู้นั้นเมื่อคืนมีปานสีแดงเข้ม ขอให้พวกเจ้าทั้งสี่ถอดเสื้อที่ไหล่ซ้ายออกด้วย!”หลังจากเสี่ยวอวี๋เอ้อร์พูดจบก็หันกลับมามองหวังหยวน หลงชิงและศิษย์ภายในอีกสองคน ตอนนี้พวกเขาทั้งสี่เป็นผู้ต้องสงสัยหลงชิงตกใจจนนิ่งอึ้งไปไม่คิดว่าเสี่ยวอวี๋เอ้อร์จะจำเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้ ตอนนี้แย่แล้ว!เหงื่อเย็นหยดเล็ก ๆ ไหลซึมออกมาจากหน้าผากของเขา ร่างกายสั่นระริกไม่หยุด หวังหยวนสังเกตเห็นความผิดปกติของเขาเมื่อคืนคนที่ทำเรื่องนั้นกับเสี่ยวอวี๋เอ้อร์คือหลงชิงจริง ๆ ตอนนี้ถือว่าเขาจะได้รับผลกรรมแล้ว!“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอถอดเสื้อตรงไหล่ซ้ายให้พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ตรวจดู!”หลังจากพูดจบ หวังหยวนก็ดึงเสื้อของตนเองลง แผ่นหลังของเขาเรียบเนียนขาวใส ไม่มีปานสีแดงเข้มเลยศิษย์ในสำนักทั้งสองก็ถอดเสื้อของตนออกเช่นกัน และก็ไม่มีปานสีแดงเข้มเช่นเดียวกับหวังหยวน ตอนนี้เหลือเพียงหลงชิงคนเดียว“หลงชิง เหตุใดเจ้ายังไม่ถอดเสื้อของเจ้าออกอีก?”ท่านนักพรตชิงอีมองหลงชิงด้วยสายตาเฉียบคม ทันใดนั้นก็พอจะเข้าใจเงื่อนงำของเรื่องนี้แล้วหลงชิงหวาดกลัวจนตัวสั่นไปทั้งตัวแล้ว จะยังสนใ
“เจ้าเป็นอะไรไป? หวังหยวน เหตุใดยังยืนงงอยู่อีกเล่า? รีบถอดเสื้อของเขาออกเดี๋ยวนี้ แล้วดูให้ชัด!”ในจวนเสวี่ยและเทียนไว่เทียนกลับเกิดเรื่องอุกอาจเช่นนี้ขึ้น แม้แต่นักพรตชิงอีก็ยังไม่อาจละเว้นได้หวังหยวนฟังแล้วจึงค่อย ๆ เดินเข้าหาหลงชิง ชายผู้นั้นเริ่มถอยหลังกรูด แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวหวังหยวน“อย่าเข้ามานะ! ออกไปซะ!”หากถูกจับได้ว่าเป็นผู้กระทำการในครั้งนี้ พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์จะต้องสับเขาเป็นชิ้น ๆ อย่างแน่นอน ทั้งเสวี่ยโส่วจุนและนักพรตชิงอีก็จะไม่ปล่อยเขาไว้เช่นกัน“เจ้าเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าไม่มีใครหนีพ้นผลของกรรมชั่วของตนได้หรือไม่”หวังหยวนก้าวเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าหลงชิงจากนั้นคว้าคอเสื้อของเขาขึ้นมาฉีกออก แล้วรอยปานสีแดงเข้มก็ปรากฏอยู่บนไหล่ซ้าย“ประเสริฐนัก เจ้าเป็นคนทำจริง ๆ! ในฐานะศิษย์ภายใน กลับกล้ากระทำการชั่วช้าเช่นนี้กับสหายร่วมสำนัก ทั้งยังวางยาผู้อื่นด้วย เจ้าช่างมีเล่ห์เหลี่ยมนัก! เรื่องนี้ข้าจะแจ้งให้เสวี่ยโส่วจุนทราบ และเจ้าจะไม่ได้อยู่ในเทียนไว่เทียนแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว!”นักพรตชิงอีสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไปเห็นได้ชัดว่าอนุญาตให้พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ลงโ
“เมื่อครู่ข้าคิดจริง ๆ ว่าท่านกับพี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์มีอะไรกัน เพราะเมื่อคืนข้าเห็นท่านกลับมาพร้อมกลิ่นสุราเต็มตัว แล้ววันนี้พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ก็มาอาละวาด ดังนั้น...”เสวี่ยเชียนหลงไม่ได้พูดจบ แต่ความหมายของนางชัดเจนแล้ว นางหึงหวง“เมื่อคืนข้ารู้ทันแผนการของพวกเขา จึงใช้แผนตบตา โยนหลงชิงเข้าไป แม้ว่าข้าจะถูกหลอกจริง ๆ ข้าก็ไม่มีทางแตะต้องพี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์อยู่แล้ว เพราะข้าไม่เคยเห็นหน้านางมาก่อนด้วยซ้ำ”หวังหยวนลูบศีรษะเสวี่ยเชียนหลงเบา ๆ คำพูดเหล่านี้ก็เป็นการอธิบายให้เสวี่ยเชียนหลงฟังเสวี่ยเชียนหลงพอใจกับคำตอบนี้เป็นอย่างมากทั้งสองยืนอยู่ในห้องโถงเช่นนั้นพลางสบตากันอย่างอ่อนโยนขณะที่อีกด้านหนึ่งในลานสำนักชั้นในกลับมีเสียงร้องโหยหวนแปลก ๆ ดังขึ้นตลอดทั้งวันวันต่อมาร่างของหลงชิงก็ถูกโยนออกมา ไม่มีผู้ใดสนใจเขาเลย เพราะเป็นสิ่งที่นักพรตชิงอีได้ตักเตือนไว้ก่อนแล้วอีกด้านหนึ่งในตระกูลเจิ้งมีผู้คนหลายคนนั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังปรึกษาหารือกันว่าจะจัดการกับหวังหยวนอย่างไร“ไม่คิดเลยว่าหวังหยวนจะรู้ทันแผนการของเรา และยังทำให้เราเสียหมากไปเสียเปล่าอีกด้วย!”“เด็กคนนั้นฉลาดใช้ได้ เรา
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม
“อะแฮ่ม”หวังหยวนกระแอม แล้วรีบแต่งตัว ไม่ได้ตอบคำถามของหลิ่วหรูเยียนจะให้เขาตอบเช่นไร?หรือว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ?แต่เมื่อนึกถึงภรรยาหลายคนที่บ้านก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งจะแต่งงานกับเสวี่ยเชียนหลงยังไม่ถึงปี ก็มีหญิงงามมาเพิ่มอีกคน แล้วจะอธิบายกับภรรยาอย่างไร!แต่จะเดินจากไปง่าย ๆ เลยก็คงไม่ดีหรือไม่?หวังหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงต้องตัดสินใจในภายหลัง“จริงสิ”“ข้าต้องไปที่คุก เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”หวังหยวนมองหลิ่วหรูเยียน แล้วเอ่ยถาม“แน่นอน!”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าอยากเห็นลั่วเฉินถูกทรมานเพื่อระบายความแค้น!”ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคุกต่งอวี่รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นหวังหยวนก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวว่า“ท่านผู้นำ!”“เมื่อคืนข้าอยู่ที่นี่ตลอด ใช้บทลงโทษต่าง ๆ นานากับลั่วเฉินจนเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับปากแข็งไม่ยอมปริปากเลยขอรับ!”“หากไม่ใช่เพราะเขาใกล้จะตายเต็มทน เราคงไม่ปล่อยให้เขาพักหรอกขอรับ”ต่งอวี่กล่าวด้วยความโกรธช่างน่าโมโหนัก!เขาใช้ความอำมหิตไปเกือบหมดแล้ว แต่ลั่วเฉินก็ยังปากแข็ง!ปากอย่างกับแม่กุญแจ!ยากที่จะแงะออกจริงๆ!เขารู้สึกหนัก
ต่งอวี่รับคำแล้วพาลั่วเฉินไปที่คุกก็แค่พวกกระดูกแข็งเท่านั้น!หากใช้การทรมานเข้าช่วยก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครทนได้ กระดูกจะแข็งเพียงใดกัน?หากทนได้ แสดงว่าแค่ทรมานไม่มากพอ!“ข้าคิดว่าเขาคงไม่ยอมเปิดปาก”“แม้ว่าท่านจะฆ่าเขา เขาก็คงไม่บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ”หลิ่วหรูเยียนเดินไปข้างหวังหยวน มองคนพาตัวลั่วเฉินออกไป แล้วกล่าวต่อว่า “เขาไม่ใช่คนอย่างโอวหยางอวี่ นับว่าเป็นขุนพลที่กล้าหาญและซื่อสัตย์“หวังหยวนพยักหน้า เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แต่จำต้องลองดูสักครั้ง“เจ้าจัดการโอวหยางอวี่ไปแล้วหรือ?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่แล้ว”“เขายังหวังจะให้นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต ใช้คำพูดโน้มน้าวข้า แต่น่าเสียดายตอนนี้ใจข้าแข็งดั่งหิน ต้องการแค่ล้างแค้นให้บิดามารดา ทวงความยุติธรรมให้พวกท่านเท่านั้น!”“ในสายตาข้า ชีวิตคนของพรรคทมิฬไร้ค่า!”“ไม่ต้องพูดถึงโอวหยางอวี่ แม้แต่ตานสยงเฟย ข้าก็จะฆ่าเขา!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่นความแค้นในการฆ่าบิดาไม่อาจลืมเลือน จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?หวังหยวนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”“แต่หล
“เพียะ เพียะ เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นตบหน้าโอวหยางอวี่หลายครั้งจนหน้าบวมปูด!ทหารหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างมองโอวหยางอวี่ด้วยสายตาเย็นชาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเอง!แต่ต้องยอมรับว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ควรไปยั่วยุนาง!“เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจึงจะให้เจ้าตายอย่างสงบ!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้การมีชีวิตยังดีกว่าตาย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยความโกรธแค้นคนของพรรคทมิฬล้วนไม่ใช่คนดีสักคน ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!ตอนนี้นางแค่อยากฆ่าคนระดับสูงของพรรคทมิฬให้หมด!“น้องหรูเยียน...”โอวหยางอวี่ตะโกนอีกครั้ง แต่หลิ่วหรูเยียนลงดาบตัดหัวเขาขาดในดาบเดียว!คนชั่วช้าคนหนึ่งจบชีวิตลง!“หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งจากในสี่คน! ก็แค่นี้!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ ไม่เอ่ยคำใด นางโยนดาบทิ้ง แล้วเดินไปหาหวังหยวนตอนนี้หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับลั่วเฉิน“หรูเยียนกลับมาแล้ว โอวหยางอวี่คงตายแล้ว”“คนเช่นนั้น ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”หวังหยวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลั่วเฉินหัวเราะลั่น แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว! คนทรยศ ขี้ขลาดเช่นนั้น ไม่ฆ่าเขา แล้วจะฆ่าใคร?”“เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“