คราวนี้แย่แล้ว คนที่นอนอยู่ในห้องต้องเป็นหวังหยวนไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงกลายเป็นตัวเขาเองไปได้?คราวนี้จบสิ้นแล้ว!ห้ามเปิดเผยตัวเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเขาต้องตายแน่!ก่อนจะจากไป เขาได้ทิ้งของชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับหวังหยวนไว้ในห้องเมื่อหญิงสาวคนนั้นตื่นขึ้นมาจะได้รู้ว่าใครเป็นคนล่วงละเมิดนางหลังจากหลงชิงจากไปแล้ว หญิงสาวในห้องก็ตื่นขึ้นมาเมื่อมองดูสภาพตัวเองก็พอจะเดาได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนางยังเป็นสาวพรหมจารีอยู่ แต่พอถึงเช้าวันนี้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่ถูกพรากความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว“กรี๊ด! เป็นใคร? เป็นใครกัน? ที่กล้าทำเรื่องสกปรกโสมมเช่นนี้กับข้า อย่าให้ข้าจับตัวเจ้าได้นะ ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”หญิงสาวในห้องโวยวายเสียงดัง เสียงของนางเรียกความสนใจจากผู้คนมากมาย เรื่องของนางคงจะปิดไม่มิดแล้วเมื่อนางแต่งตัวเสร็จก็เตรียมจะถือดาบออกไปตามหาชายคนนั้น แต่แล้วก็เหยียบของชิ้นหนึ่งบนพื้น มันเป็นกระดาษแผ่นหนึ่งเมื่อนางหยิบขึ้นมาดูก็พบว่ามีข้อความดูถูกเหยียดหยามนาง และลงท้ายด้วยชื่อหวังหยวน!“หวังหยวน หวังหยวนที่เป็นคนโด่งดังเมื่อไม่นานมานี้หรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะ
“หวังหยวนไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้นนะ หรือว่าจะมีอะไรเข้าใจผิดกัน?”“เข้าใจผิดหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราคนธรรมดา พวกเราแค่ดูละครดี ๆ ตรงนี้ก็พอแล้ว ดูว่าใครผิดใครถูก!”เสียงของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ดังมากจนดึงดูดความสนใจของเสวี่ยเชียนหลงเสวี่ยเชียนหลงใจหายแวบหนึ่ง หรือว่าเมื่อคืนหวังหยวนทำอะไรกับเสี่ยวอวี๋เอ้อร์จริง ๆ?เมื่อคืนตอนที่หวังหยวนกลับมา เชียนหลงก็เห็นเขาหวังหยวนกลับมาดึกมาก และยังมีกลิ่นสุราแรงมากด้วยเสวี่ยเชียนหลงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ นางต้องเชื่อใจหวังหยวน!นางกับเขาผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายแล้ว จะมาสงสัยเขาเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร?ควรรอให้หวังหยวนมาแล้วค่อยตัดสินเสวี่ยเชียนหลงขมวดคิ้ว จากนั้นก็สั่งให้สาวใช้ข้างกายไปบอกหวังหยวนให้รีบมาที่ประตู และจัดการเรื่องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ให้เรียบร้อยเมื่อคืนดื่มสุรามากเกินไป หวังหยวนจึงนอนหลับจนถึงตอนนี้ แม้แต่เสียงตะโกนของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ข้างนอก เขาก็ยังไม่ได้ยินจนกระทั่งสาวใช้มาบอก เขาจึงรู้เรื่องเพื่อไม่ให้เสวี่ยเชียนหลงเข้าใจผิด เขาจึงรีบเปลี่ยนชุดแล้วมาที่ประตู จากนั้นจึงพบว่าเสี่ยวอวี๋เอ้อร์กำลังโ
หวังหยวนสิ้นหวัง ไม่ว่าเขาจะอธิบายอย่างไร พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ก็ไม่ฟังเหตุใดนางจึงเชื่อสนิทใจว่าเขาคือชายที่ล่วงเกินนางเมื่อคืน?หรือว่าหลงชิงได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ก่อนจากไป?“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าออกไปเมื่อใด แต่ข้ามีกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีลายมือชื่อของเจ้าอยู่!”เสี่ยวอวี๋เอ้อร์หยุดโจมตีขณะพูด แล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาจากกระเป๋าหวังหยวนรับกระดาษมาอ่านอย่างละเอียดลายมือไม่เหมือนเขาเลย มีเพียงลายมือชื่อเท่านั้นที่เป็นชื่อของเขา“พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์เข้าใจผิดแล้ว ลายมือนี้ไม่ใช่ข้าเขียน ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ข้าเขียนให้ดูตรงนี้ได้เลยว่าไม่ใช่ลายมือข้า!”ขณะที่หวังหยวนกำลังจะโน้มน้าวเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ให้ปล่อยเขาไป หลงชิงก็วิ่งมาพร้อมคนอื่น ๆ“พี่ใหญ่หวังอยู่นี่เอง ขอโทษด้วย! เรื่องเมื่อคืน พวกเราไม่คิดว่าจะกลายเป็นเช่นนี้!”หลงชิงและศิษย์สำนักชั้นในสองคนนั้นมาทำอะไรที่นี่?หวังหยวนขมวดคิ้วมองพวกเขาดูเหมือนว่าคนทั้งสามตั้งใจมาตัดสินความผิดของเขาเรื่องราวใหญ่โตจนนักพรตชิงอีมาดูด้วย เสวี่ยเชียนหลงก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งออกมาจากห้อง“วันนี้คึกคักดีจริง ๆ เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ แทน
สามคนนี้พูดแต่ละอย่างราวกับว่าหวังหยวนรับสารภาพความผิดแล้วหวังหยวนหยุดเดิน สายตาที่มองพวกเขาสามคนดุร้ายสายตานั้นทำให้หลงชิงตกใจจนเกือบจะเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้าสามคนย่อมรู้ดีกว่าข้า เมื่อคืนพวกเจ้ากรอกสุราให้ข้าอย่างบ้าคลั่ง เพื่อให้เกิดเรื่องวันนี้ใช่หรือไม่?”หลังจากได้ยินคำถามของหวังหยวน หลงชิงก็รีบตอบ“พี่ใหญ่หวัง ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร? เมื่อคืนพวกเราอยากขอบคุณมิตรไมตรีของท่านจริง ๆ ถึงได้จัดงานเลี้ยง ท่านเป็นคนก่อเรื่องลามกอนาจารเอง แล้วจะมาโทษพวกเราได้อย่างไร?”หลงชิงแสดงท่าทีราวกับถูกหวังหยวนใส่ร้าย ทำแม้กระทั่งจะบีบน้ำตาให้ไหลออกมาหวังหยวนไม่ต้องการพูดคุยกับเขาอีก ถึงตอนนั้นนักพรตชิงอีก็จะมีวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เขาอยู่แล้วในไม่ช้าพวกเขาก็ตามนักพรตชิงอีมาถึงหอประชุมใหญ่ตอนนี้เสวี่ยโส่วจุนไม่อยู่ที่นี่ ผู้อาวุโสสูงสุดจึงเป็นนักพรตชิงอี เขาจึงมีสิทธิ์นั่งบนเก้าอี้หลัก“เชียนหลง เจ้ามานั่งข้างข้าก่อนแล้วสังเกตการณ์เรื่องนี้ ถ้ามีอะไรผิดแปลก เจ้าก็พูดออกมาได้เลย”นักพรตชิงอีเรียกชื่อเสวี่ยเชียนหลงให้มานั่งข้างเขาเสวี่ยเชียนหลงรั
“พวกเจ้าทั้งสามยังมัวยืนเฉยอยู่เพื่ออะไร? รีบเล่าเรื่องที่รู้เมื่อคืนมาให้หมดสิ้น จะรอให้ท่านนักพรตชิงอีถามพวกเจ้าก่อนหรืออย่างไร?”หลังจากได้ยินเสียงของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ หลงชิงจึงเพิ่งจะตอบสนองตอนนี้รัศมีอำมหิตของท่านนักพรตชิงอีรุนแรงมาก ทำให้เขาตกใจจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ“เรียนท่านนักพรตชิงอี เมื่อคืนพวกเราสามคนดื่มสุรากินอาหารกับพี่ใหญ่หวัง เนื่องจากได้พบสหายคนใหม่ จึงได้เชิญพี่ใหญ่หวังมาด้วยความยินดี แต่ไม่คาดคิดว่าพี่ใหญ่หวังจะดื่มได้ไม่เก่ง หลังจากเมาแล้วก็จะพาพวกเราสามคนไปที่หน้าห้องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ เราเห็นพี่ใหญ่หวังเข้าไปในห้องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ด้วยตาของเราเองขอรับ!”หลงชิงพูดคำโกหกที่เตรียมไว้ทั้งหมดออกมาหวังหยวนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ชายผู้นี้ช่างพูดโกหกได้หน้าตาเฉยราวกับไม่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า“พวกเจ้าทั้งสองเห็นจริงหรือ?”ท่านนักพรตชิงอีไม่ได้สนใจหลงชิง แต่กลับจับจ้องไปที่คนทั้งสองข้าง ๆศิษย์ในสำนักทั้งสองไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง เพียงแค่พยักหน้าซ้ำ ๆ“พวกเจ้าทั้งสามเห็นข้าเข้าไปในห้องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์เมื่อใด?”“พี่ใหญ่หวัง ท่านก็ยอมรับเสียเถิด เรื่องนี้ไม่ใช่
“ข้านึกออกแล้ว บนไหล่ซ้ายของชายผู้นั้นเมื่อคืนมีปานสีแดงเข้ม ขอให้พวกเจ้าทั้งสี่ถอดเสื้อที่ไหล่ซ้ายออกด้วย!”หลังจากเสี่ยวอวี๋เอ้อร์พูดจบก็หันกลับมามองหวังหยวน หลงชิงและศิษย์ภายในอีกสองคน ตอนนี้พวกเขาทั้งสี่เป็นผู้ต้องสงสัยหลงชิงตกใจจนนิ่งอึ้งไปไม่คิดว่าเสี่ยวอวี๋เอ้อร์จะจำเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้ ตอนนี้แย่แล้ว!เหงื่อเย็นหยดเล็ก ๆ ไหลซึมออกมาจากหน้าผากของเขา ร่างกายสั่นระริกไม่หยุด หวังหยวนสังเกตเห็นความผิดปกติของเขาเมื่อคืนคนที่ทำเรื่องนั้นกับเสี่ยวอวี๋เอ้อร์คือหลงชิงจริง ๆ ตอนนี้ถือว่าเขาจะได้รับผลกรรมแล้ว!“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอถอดเสื้อตรงไหล่ซ้ายให้พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ตรวจดู!”หลังจากพูดจบ หวังหยวนก็ดึงเสื้อของตนเองลง แผ่นหลังของเขาเรียบเนียนขาวใส ไม่มีปานสีแดงเข้มเลยศิษย์ในสำนักทั้งสองก็ถอดเสื้อของตนออกเช่นกัน และก็ไม่มีปานสีแดงเข้มเช่นเดียวกับหวังหยวน ตอนนี้เหลือเพียงหลงชิงคนเดียว“หลงชิง เหตุใดเจ้ายังไม่ถอดเสื้อของเจ้าออกอีก?”ท่านนักพรตชิงอีมองหลงชิงด้วยสายตาเฉียบคม ทันใดนั้นก็พอจะเข้าใจเงื่อนงำของเรื่องนี้แล้วหลงชิงหวาดกลัวจนตัวสั่นไปทั้งตัวแล้ว จะยังสนใ
“เจ้าเป็นอะไรไป? หวังหยวน เหตุใดยังยืนงงอยู่อีกเล่า? รีบถอดเสื้อของเขาออกเดี๋ยวนี้ แล้วดูให้ชัด!”ในจวนเสวี่ยและเทียนไว่เทียนกลับเกิดเรื่องอุกอาจเช่นนี้ขึ้น แม้แต่นักพรตชิงอีก็ยังไม่อาจละเว้นได้หวังหยวนฟังแล้วจึงค่อย ๆ เดินเข้าหาหลงชิง ชายผู้นั้นเริ่มถอยหลังกรูด แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวหวังหยวน“อย่าเข้ามานะ! ออกไปซะ!”หากถูกจับได้ว่าเป็นผู้กระทำการในครั้งนี้ พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์จะต้องสับเขาเป็นชิ้น ๆ อย่างแน่นอน ทั้งเสวี่ยโส่วจุนและนักพรตชิงอีก็จะไม่ปล่อยเขาไว้เช่นกัน“เจ้าเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าไม่มีใครหนีพ้นผลของกรรมชั่วของตนได้หรือไม่”หวังหยวนก้าวเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าหลงชิงจากนั้นคว้าคอเสื้อของเขาขึ้นมาฉีกออก แล้วรอยปานสีแดงเข้มก็ปรากฏอยู่บนไหล่ซ้าย“ประเสริฐนัก เจ้าเป็นคนทำจริง ๆ! ในฐานะศิษย์ภายใน กลับกล้ากระทำการชั่วช้าเช่นนี้กับสหายร่วมสำนัก ทั้งยังวางยาผู้อื่นด้วย เจ้าช่างมีเล่ห์เหลี่ยมนัก! เรื่องนี้ข้าจะแจ้งให้เสวี่ยโส่วจุนทราบ และเจ้าจะไม่ได้อยู่ในเทียนไว่เทียนแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว!”นักพรตชิงอีสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไปเห็นได้ชัดว่าอนุญาตให้พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ลงโ
“เมื่อครู่ข้าคิดจริง ๆ ว่าท่านกับพี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์มีอะไรกัน เพราะเมื่อคืนข้าเห็นท่านกลับมาพร้อมกลิ่นสุราเต็มตัว แล้ววันนี้พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ก็มาอาละวาด ดังนั้น...”เสวี่ยเชียนหลงไม่ได้พูดจบ แต่ความหมายของนางชัดเจนแล้ว นางหึงหวง“เมื่อคืนข้ารู้ทันแผนการของพวกเขา จึงใช้แผนตบตา โยนหลงชิงเข้าไป แม้ว่าข้าจะถูกหลอกจริง ๆ ข้าก็ไม่มีทางแตะต้องพี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์อยู่แล้ว เพราะข้าไม่เคยเห็นหน้านางมาก่อนด้วยซ้ำ”หวังหยวนลูบศีรษะเสวี่ยเชียนหลงเบา ๆ คำพูดเหล่านี้ก็เป็นการอธิบายให้เสวี่ยเชียนหลงฟังเสวี่ยเชียนหลงพอใจกับคำตอบนี้เป็นอย่างมากทั้งสองยืนอยู่ในห้องโถงเช่นนั้นพลางสบตากันอย่างอ่อนโยนขณะที่อีกด้านหนึ่งในลานสำนักชั้นในกลับมีเสียงร้องโหยหวนแปลก ๆ ดังขึ้นตลอดทั้งวันวันต่อมาร่างของหลงชิงก็ถูกโยนออกมา ไม่มีผู้ใดสนใจเขาเลย เพราะเป็นสิ่งที่นักพรตชิงอีได้ตักเตือนไว้ก่อนแล้วอีกด้านหนึ่งในตระกูลเจิ้งมีผู้คนหลายคนนั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังปรึกษาหารือกันว่าจะจัดการกับหวังหยวนอย่างไร“ไม่คิดเลยว่าหวังหยวนจะรู้ทันแผนการของเรา และยังทำให้เราเสียหมากไปเสียเปล่าอีกด้วย!”“เด็กคนนั้นฉลาดใช้ได้ เรา