หลงชิงกลอกตาไปมา สุดท้ายก็เปลี่ยนคำพูด“อาจเป็นเพราะข้าเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้เร็วกว่าคนอื่น จึงเรียนรู้เรื่องเหล่านั้นเสร็จสิ้นไปนานแล้ว พี่ใหญ่ซูอย่าคิดมากเลย เรื่องไม่กี่วันก่อนที่ข้าพูดไป พี่ใหญ่ซูคิดอย่างไร? มีคนมาด้วยไม่เยอะนัก มีเพียงศิษย์สำนักชั้นในไม่กี่คน รวมถึงพี่ใหญ่ซูด้วย พวกเราจะดื่มสุรากัน!”หลงชิงพูดจาวกวนไปมา สุดท้ายก็หวนกลับมาพูดเรื่องการร่วมรับประทานอาหารและดื่มสุราอีกครั้งหวังหยวนไตร่ตรองอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้หลงชิงรบเร้าอีกจึงยอมตอบตกลง หลงชิงดีใจจนแทบจะกระโดดตัวลอย“ดีมาก พี่ใหญ่ซูตกลงแล้ว ข้าจะรีบกลับไปเตรียมตัว เรานัดกันคืนพรุ่งนี้นะ!”“ก็ได้”หลังจากกลับไปแล้ว หลงชิงก็กระโดดโลดเต้นออกไปหวังหยวนรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ดูเหมือนหลงชิงจะไม่ใช่คนที่มีเจตนาดี คาดว่าในภายหลังคงจะก่อเรื่องให้เขาเป็นแน่แต่ไม่เป็นอะไร ตราบใดที่ระมัดระวังตัวตลอดเวลา เขาก็ไม่กลัวว่าชายผู้นั้นจะใช้กลอุบายอะไรเพราะในสำนักชั้นในและสำนักชั้นนอกนี้ จะมีคนแอบมาหาเขาได้ทุกวันได้อย่างไร?แม้หวังหยวนจะรู้สึกดีใจที่มีคนมาเป็นสหายเพิ่มอีกหนึ่งคนเพราะคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่กล้าพูดคุยก
“เจ้าเอามาสุรามาเยอะเกินไปหรือเปล่า? ไหใหญ่ถึงเพียงนี้ พวกเราที่นี่มีเพียงสี่คน จะดื่มหมดได้อย่างไร?”ไหสุราใบใหญ่ใบนี้ น้อยที่สุดก็ต้องหนักห้าถึงหกจินกระมัง?มองแล้วหากหนักสุดก็คงจะสิบจิน พวกเขามีเพียงสี่คน หากดื่มหมดนี่ พรุ่งนี้จะยังลืมตาตื่นได้หรือไม่?“แท้จริงแล้วไม่ได้มีมากมายนักหรอก อย่าได้ดูที่ไหใบใหญ่เลย เพราะสุราข้างในไม่ได้มีมากมายเช่นนั้น และอีกอย่างคือวันนี้ไม่ใช่หรือที่เราควรจะรื่นเริงกันให้เต็มที่? โอกาสที่พี่ใหญ่ซูจะยินยอมดื่มสุราร่วมกับพวกเรานั้นหาได้ยากยิ่งนัก นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง จึงได้นำมาเสียมากมายเช่นนี้ ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร แม้จะดื่มไม่หมดก็วางทิ้งไว้เช่นนี้ได้”หลงชิงตอบอย่างสบาย ๆ ก่อนจะวางไหสุราใบใหญ่ใบนั้นลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงหยิบถ้วยสี่ใบมาถ้วยสี่ใบวางอยู่ตรงหน้าของแต่ละคน เมื่อมองดูกับแกล้มเหล่านี้แล้วก็ดูดีไม่น้อยหวังหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาชิมจึงรู้ว่ารสชาติดีเยี่ยมเมื่อเห็นหวังหยวนกินกับแกล้มแล้ว หลงชิงก็รินสุราใส่ถ้วยให้หวังหยวนอย่างให้เกียรติหวังหยวนจิบดู สุราแรงมาก ทันทีที่ดื่มลงคอไปก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง“พี่
หลงชิงวางถ้วยสุราลงแล้วแสร้งถามหวังหยวนหวังหยวนวางแผนไว้แล้ว เขาล้มลงบนโต๊ะในทันทีแล้วปัดมือไปมา ทำให้กับแกล้มและถ้วยสุราบนโต๊ะหล่นกระจาย“โอ้โห! เจ้าบ้านี่ดื่มจนเมาแล้วก็เมาไปเถิด แต่อย่าได้ทำลายของเช่นนี้เลย กับแกล้มเหล่านี้ กว่าข้าจะหามาได้ช่างยากเย็นแสนเข็ญ และสุราก็เป็นสุราที่ข้าอุตส่าห์เตรียมไว้ด้วยความตั้งใจ!”หลงชิงเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของตนในตอนนี้ เขาเป็นคนชั่วร้ายอยู่แล้ว หากจะให้เสแสร้งต่อไปก็ยากเกินไปสำหรับเขา“พี่ใหญ่หลง ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี?”“พี่ใหญ่หลง ต่อไปหากท่านร่ำรวยแล้วก็อย่าลืมพี่น้องอย่างพวกข้าล่ะ!”“วางใจได้ ถ้าข้าร่ำรวยขึ้นมาแล้วจะไม่ลืมพวกเจ้าอย่างแน่นอน เอาล่ะ รีบช่วยข้าพาเจ้าบ้านี่ออกไปข้างนอกเถิด!”เมื่อได้รับเงินจากผู้ว่าจ้างมาแล้ว หลงชิงก็ต้องทำให้เรื่องนี้สำเร็จลุล่วงด้วยวิธีเท่านั้นที่จะทำให้เขาได้ก้าวขึ้นเป็นแปดตระกูลใหญ่ได้อย่างแท้จริงและได้เชิดหน้าชูตาในอนาคต!เมื่อได้ยินคำพูดของหลงชิงแล้ว เหล่าศิษย์ภายในอีกสองคนก็รีบจับหัวและเท้าของหวังหยวน จากนั้นก็ช่วยกันแบกเขาออกไปข้างนอก“พี่ใหญ่หลง พวกเราจะรอท่านอยู่ข้างนอก รีบกลับมาเร็ว ๆ นะ!
คราวนี้แย่แล้ว คนที่นอนอยู่ในห้องต้องเป็นหวังหยวนไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงกลายเป็นตัวเขาเองไปได้?คราวนี้จบสิ้นแล้ว!ห้ามเปิดเผยตัวเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเขาต้องตายแน่!ก่อนจะจากไป เขาได้ทิ้งของชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับหวังหยวนไว้ในห้องเมื่อหญิงสาวคนนั้นตื่นขึ้นมาจะได้รู้ว่าใครเป็นคนล่วงละเมิดนางหลังจากหลงชิงจากไปแล้ว หญิงสาวในห้องก็ตื่นขึ้นมาเมื่อมองดูสภาพตัวเองก็พอจะเดาได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนางยังเป็นสาวพรหมจารีอยู่ แต่พอถึงเช้าวันนี้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่ถูกพรากความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว“กรี๊ด! เป็นใคร? เป็นใครกัน? ที่กล้าทำเรื่องสกปรกโสมมเช่นนี้กับข้า อย่าให้ข้าจับตัวเจ้าได้นะ ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”หญิงสาวในห้องโวยวายเสียงดัง เสียงของนางเรียกความสนใจจากผู้คนมากมาย เรื่องของนางคงจะปิดไม่มิดแล้วเมื่อนางแต่งตัวเสร็จก็เตรียมจะถือดาบออกไปตามหาชายคนนั้น แต่แล้วก็เหยียบของชิ้นหนึ่งบนพื้น มันเป็นกระดาษแผ่นหนึ่งเมื่อนางหยิบขึ้นมาดูก็พบว่ามีข้อความดูถูกเหยียดหยามนาง และลงท้ายด้วยชื่อหวังหยวน!“หวังหยวน หวังหยวนที่เป็นคนโด่งดังเมื่อไม่นานมานี้หรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะ
“หวังหยวนไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้นนะ หรือว่าจะมีอะไรเข้าใจผิดกัน?”“เข้าใจผิดหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราคนธรรมดา พวกเราแค่ดูละครดี ๆ ตรงนี้ก็พอแล้ว ดูว่าใครผิดใครถูก!”เสียงของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ดังมากจนดึงดูดความสนใจของเสวี่ยเชียนหลงเสวี่ยเชียนหลงใจหายแวบหนึ่ง หรือว่าเมื่อคืนหวังหยวนทำอะไรกับเสี่ยวอวี๋เอ้อร์จริง ๆ?เมื่อคืนตอนที่หวังหยวนกลับมา เชียนหลงก็เห็นเขาหวังหยวนกลับมาดึกมาก และยังมีกลิ่นสุราแรงมากด้วยเสวี่ยเชียนหลงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ นางต้องเชื่อใจหวังหยวน!นางกับเขาผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายแล้ว จะมาสงสัยเขาเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร?ควรรอให้หวังหยวนมาแล้วค่อยตัดสินเสวี่ยเชียนหลงขมวดคิ้ว จากนั้นก็สั่งให้สาวใช้ข้างกายไปบอกหวังหยวนให้รีบมาที่ประตู และจัดการเรื่องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ให้เรียบร้อยเมื่อคืนดื่มสุรามากเกินไป หวังหยวนจึงนอนหลับจนถึงตอนนี้ แม้แต่เสียงตะโกนของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ข้างนอก เขาก็ยังไม่ได้ยินจนกระทั่งสาวใช้มาบอก เขาจึงรู้เรื่องเพื่อไม่ให้เสวี่ยเชียนหลงเข้าใจผิด เขาจึงรีบเปลี่ยนชุดแล้วมาที่ประตู จากนั้นจึงพบว่าเสี่ยวอวี๋เอ้อร์กำลังโ
หวังหยวนสิ้นหวัง ไม่ว่าเขาจะอธิบายอย่างไร พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ก็ไม่ฟังเหตุใดนางจึงเชื่อสนิทใจว่าเขาคือชายที่ล่วงเกินนางเมื่อคืน?หรือว่าหลงชิงได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ก่อนจากไป?“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าออกไปเมื่อใด แต่ข้ามีกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีลายมือชื่อของเจ้าอยู่!”เสี่ยวอวี๋เอ้อร์หยุดโจมตีขณะพูด แล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาจากกระเป๋าหวังหยวนรับกระดาษมาอ่านอย่างละเอียดลายมือไม่เหมือนเขาเลย มีเพียงลายมือชื่อเท่านั้นที่เป็นชื่อของเขา“พี่เสี่ยวอวี๋เอ้อร์เข้าใจผิดแล้ว ลายมือนี้ไม่ใช่ข้าเขียน ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ข้าเขียนให้ดูตรงนี้ได้เลยว่าไม่ใช่ลายมือข้า!”ขณะที่หวังหยวนกำลังจะโน้มน้าวเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ให้ปล่อยเขาไป หลงชิงก็วิ่งมาพร้อมคนอื่น ๆ“พี่ใหญ่หวังอยู่นี่เอง ขอโทษด้วย! เรื่องเมื่อคืน พวกเราไม่คิดว่าจะกลายเป็นเช่นนี้!”หลงชิงและศิษย์สำนักชั้นในสองคนนั้นมาทำอะไรที่นี่?หวังหยวนขมวดคิ้วมองพวกเขาดูเหมือนว่าคนทั้งสามตั้งใจมาตัดสินความผิดของเขาเรื่องราวใหญ่โตจนนักพรตชิงอีมาดูด้วย เสวี่ยเชียนหลงก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งออกมาจากห้อง“วันนี้คึกคักดีจริง ๆ เสี่ยวอวี๋เอ้อร์ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ แทน
สามคนนี้พูดแต่ละอย่างราวกับว่าหวังหยวนรับสารภาพความผิดแล้วหวังหยวนหยุดเดิน สายตาที่มองพวกเขาสามคนดุร้ายสายตานั้นทำให้หลงชิงตกใจจนเกือบจะเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้าสามคนย่อมรู้ดีกว่าข้า เมื่อคืนพวกเจ้ากรอกสุราให้ข้าอย่างบ้าคลั่ง เพื่อให้เกิดเรื่องวันนี้ใช่หรือไม่?”หลังจากได้ยินคำถามของหวังหยวน หลงชิงก็รีบตอบ“พี่ใหญ่หวัง ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร? เมื่อคืนพวกเราอยากขอบคุณมิตรไมตรีของท่านจริง ๆ ถึงได้จัดงานเลี้ยง ท่านเป็นคนก่อเรื่องลามกอนาจารเอง แล้วจะมาโทษพวกเราได้อย่างไร?”หลงชิงแสดงท่าทีราวกับถูกหวังหยวนใส่ร้าย ทำแม้กระทั่งจะบีบน้ำตาให้ไหลออกมาหวังหยวนไม่ต้องการพูดคุยกับเขาอีก ถึงตอนนั้นนักพรตชิงอีก็จะมีวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เขาอยู่แล้วในไม่ช้าพวกเขาก็ตามนักพรตชิงอีมาถึงหอประชุมใหญ่ตอนนี้เสวี่ยโส่วจุนไม่อยู่ที่นี่ ผู้อาวุโสสูงสุดจึงเป็นนักพรตชิงอี เขาจึงมีสิทธิ์นั่งบนเก้าอี้หลัก“เชียนหลง เจ้ามานั่งข้างข้าก่อนแล้วสังเกตการณ์เรื่องนี้ ถ้ามีอะไรผิดแปลก เจ้าก็พูดออกมาได้เลย”นักพรตชิงอีเรียกชื่อเสวี่ยเชียนหลงให้มานั่งข้างเขาเสวี่ยเชียนหลงรั
“พวกเจ้าทั้งสามยังมัวยืนเฉยอยู่เพื่ออะไร? รีบเล่าเรื่องที่รู้เมื่อคืนมาให้หมดสิ้น จะรอให้ท่านนักพรตชิงอีถามพวกเจ้าก่อนหรืออย่างไร?”หลังจากได้ยินเสียงของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ หลงชิงจึงเพิ่งจะตอบสนองตอนนี้รัศมีอำมหิตของท่านนักพรตชิงอีรุนแรงมาก ทำให้เขาตกใจจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ“เรียนท่านนักพรตชิงอี เมื่อคืนพวกเราสามคนดื่มสุรากินอาหารกับพี่ใหญ่หวัง เนื่องจากได้พบสหายคนใหม่ จึงได้เชิญพี่ใหญ่หวังมาด้วยความยินดี แต่ไม่คาดคิดว่าพี่ใหญ่หวังจะดื่มได้ไม่เก่ง หลังจากเมาแล้วก็จะพาพวกเราสามคนไปที่หน้าห้องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ เราเห็นพี่ใหญ่หวังเข้าไปในห้องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์ด้วยตาของเราเองขอรับ!”หลงชิงพูดคำโกหกที่เตรียมไว้ทั้งหมดออกมาหวังหยวนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ชายผู้นี้ช่างพูดโกหกได้หน้าตาเฉยราวกับไม่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า“พวกเจ้าทั้งสองเห็นจริงหรือ?”ท่านนักพรตชิงอีไม่ได้สนใจหลงชิง แต่กลับจับจ้องไปที่คนทั้งสองข้าง ๆศิษย์ในสำนักทั้งสองไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง เพียงแค่พยักหน้าซ้ำ ๆ“พวกเจ้าทั้งสามเห็นข้าเข้าไปในห้องของเสี่ยวอวี๋เอ้อร์เมื่อใด?”“พี่ใหญ่หวัง ท่านก็ยอมรับเสียเถิด เรื่องนี้ไม่ใช่
นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต
หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่
“ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า
แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้
“ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”
“ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล
ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด
“ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น