บอสครับอย่าทำผม

บอสครับอย่าทำผม

last updateLast Updated : 2025-04-25
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
38Chapters
5views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

“ภัท ภากร พงศ์ธนกิจ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่เร่งรัดหนี้สิน น้องใหม่ไฟแรงปิดเคสได้ทุกเคส ผลงานติดตามทวงหนี้สามเดือนที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดี แถมยังเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ฟังดูน่าสนใจดีหนิ”

View More

Chapter 1

บทที่ 1 บอสวินน้ำแข็ง

บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ให้บริการด้านสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นรับจำนองที่ดิน บ้าน รถ เล่มทะเบียน หรือการปล่อยเงินกู้ คือที่ทำงานของผมเองครับ ผมทำงานที่นี่มาหลายเดือนแล้ว ตำแหน่งของผมคือฝ่ายติดตามสินเชื่อ หรือเรียกง่าย ๆ ก็ตามหนี้นั่นแหละครับ

เป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยมีใครสมัคร เพราะต้องออกไปหาลูกค้า ไปสอบถามเรื่องการผ่อนชำระ ไปแต่ละทีไม่เจอหมาไล่ก็โดนด่าบ้าง แต่ผมชอบนะ เพราะไม่อยากอยู่บริษัท ผมไม่ชอบการจับกลุ่มคุยกันหรือนั่งนินทาเจ้านาย ที่แม้ไม่อยากฟังก็ต้องมีเรื่องให้ได้ยินเข้าหูเสมอ

โชคดีหน่อยที่ตำแหน่งของผมกับเจ้านายไม่ต้องเจอกันบ่อย หรือจะเรียกว่าแทบไม่เจอกันเลยก็ได้ ตั้งแต่ผมทำงานที่นี่มาเราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว และหน้าหมอนั่นก็ดูไม่รับแขกเอาซะเลย เป็นไปได้ก็ขออยู่ห่าง ๆ ดีกว่า แค่ได้ยินพี่ ๆ ในที่ทำงานตั้งฉายาให้เขาว่า บอสวินน้ำแข็ง ผมก็ไม่อยากเอาตัวไปเฉียดแล้วครับ

"เลขาลาออกไปแล้ว เค้าลือกันทั้งบริษัท"

เสียงเจื้อยแจ้วของพี่ดา พี่ที่นั่งโต๊ะทำงานใกล้ผมเอ่ยคุยกับป้าแม่บ้านจนมาเข้าหูผมระหว่างที่กำลังจะเดินไปมุมกาแฟ ทำให้ผมแปลกใจเล็กน้อย เพราะเท่าที่รู้มา เลขาคนปัจจุบันของบอสวินดูจะทำงานเข้าขากันที่สุดแล้ว แต่ทำไมจู่ ๆ ถึงลาออกไปได้นะ และเพราะความอยากรู้ ผมจึงขยับเข้าไปใกล้วงสนทนา ทำทีจัดเอกสารบนโต๊ะตัวเองเพื่อจะได้รู้เรื่องราวมากขึ้น

"โอ๊ย ใครจะไปทำงานด้วยได้ เวลายอดตกทีไรก็เอาแต่หงุดหงิดใส่ลูกน้อง ยิ่งปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี ฉันว่าไม่ใช่แค่เลขาหรอกป้า พวกเราด้วยเถอะ เตรียมตัวกันให้ดี มีหวังโดนไล่ตะเพิดกันหมดแน่"

"นั่นสิคะน้องดา ป้านี่กลัวใจบอสเหลือเกิน วันไหนนึกจะดีก็ซื้อขนมซื้อน้ำมาฝากเยอะแยะ วันไหนอารมณ์ไม่ดี เอกสารในห้องนะ ถูกรื้อกระจัดกระจาย ป้านี่เบื่อจะเก็บแล้วค่ะ”

ผมเดินออกมาจากโต๊ะทำงานแล้วตรงไปยังมุมกาแฟของบริษัทตามเดิม ไม่อยากรู้เรื่องราวของบอสไปมากกว่านั้นอีกแล้ว รู้แค่ว่าถ้าเลขาคนเก่าลาออก อีกเดี๋ยวก็ต้องมีการแต่งตั้งเลขาคนใหม่ ไม่รู้ใครจะเป็นคนดวงซวยคนนั้น ส่วนผมน่ะ ขออยู่แผนกเร่งรัดหนี้สินแบบนี้แหละ สบายใจที่สุดแล้ว

“ภัท ภัท น้องภัท !!”

“อ้อ ครับ ๆ พี่ดา”

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมยืนเหม่อ รู้ตัวอีกทีพี่ดาก็มายืนข้าง ๆ ตรงมุมกาแฟแล้ว แถมยังเรียกผมซะเสียงดังจนคนที่อยู่รอบ ๆ หันมามอง

“คิดอะไรอยู่เนี่ย ใจลอยไปไหน”

“ปะ เปล่าครับ ภัทก็คิดอะไรไปเรื่อย พี่ดาจะชงกาแฟเหรอครับ เดี๋ยวภัทชงให้”

พูดจบผมก็เปิดขวดโหลสีใสที่ด้านในมีผงกาแฟยี่ห้อดังเตรียมไว้ ผมจำได้ว่าพี่ดาทานกาแฟไม่ใส่น้ำตาล การชงกาแฟจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แค่ตักกาแฟสองช้อน กดน้ำร้อนจากกาน้ำร้อนที่วางอยู่ข้าง ๆ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว ซึ่งระหว่างที่ผมกำลังเตรียมกาแฟให้พี่ดา อีกฝ่ายก็พูดเรื่องพนักงานในบริษัทไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่บอสวิน

“ภัทรู้รึยังเรื่องเลขาบอสวินที่ลาออกไปน่ะ”

“อ้อ ครับ ภัทได้ยินมาบ้างแล้ว”

“พี่ได้ข่าวมาว่าครั้งนี้บอสจะเลือกเองเลยล่ะ ว่าจะให้ใครย้ายไปทำตำแหน่งเลขาแทน พี่นะภาวนาเก้าสิบเก้าจบอย่าให้เป็นพี่เลย คนแบบบอสน่ะเดาอารมณ์ยากจะตายไป พี่ไม่อยากอยู่ใกล้”

พี่ดาพูดจบก็รับแก้วกาแฟจากมือผมไปพร้อมกล่าวขอบคุณเล็กน้อย หลังจากนั้นเราสองคนก็เอาตัวเองออกมาจากตรงนั้นเพราะมีพนักงานคนอื่นรอที่จะชงกาแฟต่อ ระหว่างเดินกลับมายังโต๊ะทำงาน พี่ดายังคงพูดเรื่องบอสไปเรื่อย ๆ เพียงแต่ลดระดับเสียงเบาลงกว่าเดิมนิดหน่อย

“เขาดุมากเลยเหรอครับ”

ผมตัดสินใจเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยมานาน เพราะได้ยินเรื่องความเย็นชาของบอสมาหนาหู ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน จนถึงขั้นที่พี่ ๆ ในที่ทำงานตั้งฉายาให้เขาว่า บอสวินน้ำแข็ง

“ยิ่งกว่าดุอีก งานต้องเนี้ยบ ทุกอย่างต้องเป๊ะ ยอดต้องได้ ผลประกอบการต้องดี ถ้ามีคะแนนเต็มร้อยสำหรับบอสต้องได้ร้อยยี่สิบ เมื่อก่อนน่ะบอสไม่ได้ประจำการที่นี่หรอก เขาอยู่บริษัทใหญ่อีกที่นึง แต่ได้ข่าวว่ามีปัญหากับคุณธงชัย พ่อเขานั่นแหละ เลยถูกส่งมาประจำการที่นี่ แล้วก็ต้องทำให้ผลประกอบการของสาขานี้เติบโตให้ได้มากที่สุดด้วย”

พี่ดานั่งลงที่โต๊ะทำงาน ส่วนผมก็เลื่อนเก้าอี้โต๊ะทำงานตัวเองออก ก่อนจะเอื้อมมือไปกดเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ รอให้มันเริ่มทำงาน และผมเองก็จะได้ทำงานตัวเองสักที

“ภัทว่าที่บอสเขาดูดุ ๆ คงเครียดเรื่องผลประกอบการด้วยมั้งครับ”

ผมหันไปคุยกับพี่ดาพร้อมกับนั่งหมุนเก้าอี้ทำงานไปด้วย ระหว่างรอคอมพิวเตอร์เปิดเครื่อง

“เรื่องนั้นพี่เข้าใจบอสนะคะน้องภัท แต่คนเรามันจะต้องปั้นหน้านิ่งตลอดเวลาเลยรึไง น้องภัทเคยเห็นเค้ายิ้มบ้างมั้ยล่ะ”

ผมนึกย้อนคำถามของพี่ดา แน่นอนว่าภาพนั้นไม่เคยเกิดขึ้นในหัวของผม

“จะว่าไปก็ไม่เลยครับ ภัทไม่เคยเห็นบอสยิ้มเลย”

“อืม นั่นแหละ พวกพี่ ๆ เลยเรียกเขาว่าบอสน้ำแข็ง แต่น้องภัทไม่ต้องกังวลหรอก พนักงานที่เพิ่งมาทำงานน่ะ ส่วนมากไม่เข้าตาบอสหรอก ไม่ต้องกังวลไปเรื่องตำแหน่งเลขา”

“ครับ ภัทเองก็ยังอยากทำตำแหน่งติดตามทวงหนี้เหมือนเดิม”

บทสนทนาของผมและพี่ดาจบลงแค่นั้น หลังจากนั้นเราสองคนก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง

ผมเปิดไฟล์ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่บันทึกข้อมูลลูกค้าที่ค้างค่างวดและเลื่อนการผ่อนชำระเอาไว้หลายราย รายชื่อที่มีแถบสีแดงกำกับไว้แผ่หลาเต็มหน้าจอ ผมกวาดสายตาไปยังรายชื่อลำดับที่หนึ่งและเริ่มทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเช่นทุกวัน

"สวัสดีครับ คุณชนัญญา ผมโทรมาจากบริษัท.."

"ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่ ชนัญญาไม่มีค่ะ บ้านนี้ไม่มีคนชื่อนี้!"

~ ตู๊ด ๆ ๆ~

ไม่ทันที่จะพูดจบประโยคปลายสายก็กดวางสายไปทันที และนี่ไม่ใช่เคสแรกที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วมากกว่า แต่เพราะมันเป็นหน้าที่ ผมก็ต้องทำงานแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทุกวันอย่างเลี่ยงไม่ได้

ช่วงนี้เศรษฐกิจซบเซา เหตุการณ์บ้านเมืองก็วุ่นวาย ทั้งภัยพิบัติ และข่าวอาชญากรรมที่มีให้เห็นแทบทุกวัน บริษัทของเราจึงพอจะเป็นที่พึ่งพายามยากให้คนกลุ่มน้อยได้บ้าง แต่ถึงแม้จะมีลูกค้ามากู้เงินและจำนำเล่มทะเบียนเพิ่มมากขึ้น ถึงอย่างนั้นลูกค้าที่ค้างค่างวด และจ่ายล่าช้าก็มีมากขึ้นตามไปด้วย แน่นอนว่ามันทำให้งานของผมเพิ่มขึ้นตาม บางทีก็แอบคิดว่า ถ้าเงินเดือนเพิ่มตามงานที่มากขึ้นก็คงดีไม่น้อย แต่ก็ได้แค่คิด

หลังจากการโทรติดตามเร่งรัดลูกค้าที่จ่ายค่างวดล่าช้าเรียบร้อยแล้ว ราว ๆ สิบโมงก็เป็นเวลาที่ผมจะต้องออกไปนอกบริษัทเพื่อลงพื้นที่ยังบ้านลูกค้าที่ค้างชำระเกินสามงวดขึ้นไป แน่นอนว่าการได้ออกไปข้างนอกคือช่วงเวลาที่ผมชอบมากที่สุด

“วันนี้กี่เคสล่ะภัท”

พี่ดาหันมาถามผม

“วันนี้สี่เคสครับพี่ดา คิดว่าไม่เกินสี่โมงผมน่าจะกลับมาถึงบริษัท”

“เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้ ลูกค้าหนี้เสียเยอะมาก อย่างว่าแหละ เศรษฐกิจไม่ดีเนอะ”

“สบายมากครับพี่ดา ผมไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอก”

“จ้า พ่อคนเก่ง งั้นไปข้างนอกก็ขับรถดี ๆ ล่ะ เอ้อ พี่ลืมบอกไปว่าบอสเค้าให้ใช้รถยนต์ของบริษัทได้แล้วนะ ภัทเอารถไปสิแล้วเดี๋ยวมาทำเบิกค่าน้ำมัน ขับมอไซต์ออกไปทุกวันเดี๋ยวก็ไหม้หรอก แดดประเทศไทยร้อนอย่างกับอะไรดี”

ผมครุ่นคิดครู่หนึ่ง ถึงแม้จะมีใบขับขี่ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซต์ แต่การจราจรในกรุงเทพคงเหมาะกับรถมอไซต์มากกว่า และการไปบ้านลูกค้าด้วยรถยนต์ก็ดูจะเป็นทางการเกินไป

“ไม่ดีกว่าครับพี่ดา ภัทสะดวกมอไซต์ ไปก่อนนะพี่”

“โอเค ๆ งั้นก็ตามใจ”

ผมโบกมือให้พี่ดาเล็กน้อยแล้วเดินออกมาจากโต๊ะทำงานพร้อมกับสะพายกระเป๋าใส่เอกสารสีดำไว้บนไหล่เช่นทุกครั้ง พร้อมแล้วสำหรับการทำงานในวันนี้

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
38 Chapters
บทที่ 1 บอสวินน้ำแข็ง
บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ให้บริการด้านสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นรับจำนองที่ดิน บ้าน รถ เล่มทะเบียน หรือการปล่อยเงินกู้ คือที่ทำงานของผมเองครับ ผมทำงานที่นี่มาหลายเดือนแล้ว ตำแหน่งของผมคือฝ่ายติดตามสินเชื่อ หรือเรียกง่าย ๆ ก็ตามหนี้นั่นแหละครับเป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยมีใครสมัคร เพราะต้องออกไปหาลูกค้า ไปสอบถามเรื่องการผ่อนชำระ ไปแต่ละทีไม่เจอหมาไล่ก็โดนด่าบ้าง แต่ผมชอบนะ เพราะไม่อยากอยู่บริษัท ผมไม่ชอบการจับกลุ่มคุยกันหรือนั่งนินทาเจ้านาย ที่แม้ไม่อยากฟังก็ต้องมีเรื่องให้ได้ยินเข้าหูเสมอโชคดีหน่อยที่ตำแหน่งของผมกับเจ้านายไม่ต้องเจอกันบ่อย หรือจะเรียกว่าแทบไม่เจอกันเลยก็ได้ ตั้งแต่ผมทำงานที่นี่มาเราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว และหน้าหมอนั่นก็ดูไม่รับแขกเอาซะเลย เป็นไปได้ก็ขออยู่ห่าง ๆ ดีกว่า แค่ได้ยินพี่ ๆ ในที่ทำงานตั้งฉายาให้เขาว่า บอสวินน้ำแข็ง ผมก็ไม่อยากเอาตัวไปเฉียดแล้วครับ"เลขาลาออกไปแล้ว เค้าลือกันทั้งบริษัท"เสียงเจื้อยแจ้วของพี่ดา พี่ที่นั่งโต๊ะทำงานใกล้ผมเอ่ยคุยกับป้าแม่บ้านจนมาเข้าหูผมระหว่างที่กำลังจะเดินไปมุมกาแฟ ทำให้ผมแปลกใจเล็กน้อย เพราะเท่าที่รู้มา เลขาคนปัจจุบันของบอสวินดูจะทำงานเ
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
บทที่ 2 ผู้ถูกเลือก
ความยากของตำแหน่งติดตามทวงหนี้ก็คือ การใช้คำพูดปลอบประโลมลูกหนี้ให้ยอมผ่อนจ่ายค่างวดที่ค้างไว้ แม้จะไม่สามารถชำระได้ทั้งหมดในคราวเดียว แต่อย่างน้อยการทำให้ลูกหนี้ยอมจ่ายได้สักหนึ่งงวดก็ถือว่าการออกมานอกพื้นที่ในวันนี้ไม่สูญเปล่าและแน่นอนว่าภารกิจวันนี้ของผมสำเร็จ เรื่องการใช้คำพูดหวาน ๆ และใช้ความใจเย็นแบบสุดขีดในการพูดคุยกับลูกค้าผมค่อนข้างถนัด คงเพราะเจอมาหลายเคสแล้วจึงค่อนข้างเข้าใจว่าจะต้องคุยกับลูกหนี้แบบไหนถึงจะปิดงานได้สำเร็จซึ่งลูกหนี้ทั้งสี่เคสของผมวันนี้สามารถจ่ายค่างวดที่ค้างชำระได้ทุกเคส ก็ถือว่าการทำงานวันนี้เสร็จสิ้น ผมกลับบริษัทได้อย่างสบายใจ และเตรียมเขียนรายงานส่งบอสอย่างที่ทำทุกวันจะว่าไป ผมไม่เคยรู้เลยว่าบอสอ่านรายงานบ้างรึเปล่า เพราะทุกครั้งที่ส่งเมลรายงานการติดตามทวงหนี้ลูกค้าไป ไม่เคยมีเมลตอบกลับมายังผมจากบอสเลย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว ผมคิดแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้นก็พอ“อ้าวภัท กลับเร็วนะวันนี้ มานั่งที่โต๊ะเร็ว มานี่ ๆ”ทันทีที่ผมผลักประตูกระจกเข้าไปในบริษัท พี่ดาที่เงยหน้ามาเจอผมก็กวักมือเรียกให้รีบกลับไปนั่งที่โต๊ะทันที เห็นท่าที
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
บทที่ 3 ได้เห็นอีกมุม
ผมเดินออกมาจากห้องของบอสด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในใจไม่น้อย คนที่ผมอยากจะอยู่ห่างมากที่สุดกลับกลายเป็นต้องมาทำงานใกล้ชิดมากที่สุด ไม่รู้เพราะอะไรบอสถึงเลือกผมทั้งที่อายุงานของผมน่าจะน้อยกว่าทุกคนในบริษัท จริงอยู่ว่ามันมาพร้อมกับเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น แต่จากเหตุการณ์วันนี้กับเวลาแค่ไม่กี่นาทีที่เราได้คุยกัน ผมรู้ได้เลยว่างานนี้ผมเจองานช้างเข้าแล้วล่ะบ้านเช่าของผมกับบริษัทไม่ได้ไกลกันมาก ที่สำคัญคือมีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้ ผมเลยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้มาก ทุกเย็นหลังเลิกงานผมมักจะแวะตลาดนัดใกล้บ้านเพื่อหามื้อเย็นง่าย ๆ ทาน และช่วงเย็นก็น่าจะเป็นเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุดแล้ว แค่ได้ไปแวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านประจำกับชาเย็นรสชาติเข้มข้นซึ่งเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรด เพียงแค่นี้ความเหนื่อยล้าที่แบกมาทั้งวันก็หายเป็นปลิดทิ้งเมื่อกลับมาถึงบ้านผมก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ และใช้เวลาช่วงเย็นไปจนถึงค่ำหมดไปกับการดูหนัง แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ผมไม่มีสมาธิกับการดูหนังเอาซะเลย เพราะภาพของบอสเข้ามารบกวนความคิดของผมอยู่ตลอดเวลา ทั้งสายตาและท่วงท่าการเดินของเขา ท่าทีนั่งไขว่ห้างแล้วมอ
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
บทที่ 4 มาอยู่ใกล้ ๆ กัน
เช้าวันนี้บริษัทของผมต่างก็พูดถึงเรื่องเลขาคนใหม่ของบอสวินกันอย่างหนาหู ทุกคนต่างให้ความสนใจและสงสัยว่าใครกันจะมาเป็นเลขาคนใหม่ เนื่องจากในกลุ่มไลน์ของบริษัท มีข้อความจากบอสวินได้แจ้งทุกคนให้มาประชุมพร้อมกันในเวลาเก้าโมงตรงเพื่อรับทราบเรื่องเลขาที่บอสเลือกไว้เรียบร้อยแล้วแน่นอนว่าข้อความเหล่านั้นผมเองก็เห็น แต่ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะผมรู้คำตอบอยู่แล้วหนิว่าเลขาคนนั้นคือใคร และทันทีที่ผมวางกระเป๋าทำงานลงบนโต๊ะ พี่ดาก็รีบก้าวยาว ๆ มาหาผมหน้าตาตื่น“ภัทเห็นข้อความในไลน์กลุ่มรึยัง ที่บอสเรียกประชุมน่ะ”พี่ดาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น มือหนึ่งถือแก้วกาแฟที่มีไอร้อนลอยขึ้นมา“เห็นแล้วครับพี่”“แกว่าใครจะมาเป็นเลขาคนใหม่ของบอส คนโชคร้ายคนนั้นจะเป็นใครกันนะ”“ก็คงหนีไม่พ้นผมหรอกครับพี่”“ถามจริง !!”พี่ดาลากเก้าอี้ทำงานโต๊ะตัวเองมานั่งใกล้ผมมากขึ้น ส่วนผมก็นั่งหมุนเก้าอี้หนังสีดำไปมา รู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องมีเรื่องคุยกับผมมากแน่ ๆ ผมเลยไม่คิดจะเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเช่นทุกวัน“ภัท เมื่อกี้แกว่าไงนะ บอสเลือกแกไปเป็นเลขาเหรอ”พี่ดาถามหน้าตาตื่นยิ่งกว่าเดิม ราวกับเรื่องที่ได้รับรู้นั้นเป็น
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
บทที่ 5 เรื่องราวของบอส
ผมไม่ชอบสายตาดุดันนั่นเลยให้ตายเถอะ ก็คนมันสงสัยก็เลยถามออกไป และสิ่งที่ตอบกลับมาก็ไม่ได้ช่วยไขข้อข้องใจให้ผมเลย หน้าที่เลขามันเกี่ยวอะไรกับการที่โต๊ะทำงานของผมต้องมาตั้งใกล้เขาขนาดนี้ แต่ก็ช่างเถอะ ผมว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับเขาอีกบอสกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานและเราไม่ได้คุยอะไรกันอีก วันนี้เขาดูเครียดกว่าทุกวัน เอกสารบนโต๊ะยังกองพะเนิน เคยได้ยินมาว่าแม้แต่แม่บ้านเขายังไม่อนุญาตให้เข้ามาห้องนี้จนกว่าจะได้รับคำสั่ง ไม่รู้ผู้ชายคนนี้ต้องแบกรับอะไรบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ควรเอาความเครียดและภาระหนักอึ้งทั้งหลายมาลงกับลูกน้อง โดยเฉพาะคนใกล้ตัวอย่างผมระหว่างที่ห้องทั้งห้องยังตกอยู่ในความเงียบ ผมใช้เวลานี้จัดวางข้าวของบนโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ เพิ่งเห็นว่าคอมพิวเตอร์ที่เขาให้ผมใช้เป็นรุ่นเดียวกับของบอส นี่น่าจะเป็นเรื่องดี ๆ เรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกดี เพราะคอมเครื่องเก่าที่ผมใช้ทำงานมันแทบจะตกรุ่นไปแล้ว เปิดเครื่องแต่ละครั้งก็ใช้เวลารอนานมาก ได้เจอเครื่องมือทันสมัยบ้างก็ดีไม่น้อยหลังจากจัดของบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ผมก็เริ่มงานที่เขามอบหมายให้ผมเมื่อครู่ แน่นอนว่าทุก
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
บทที่ 6 มื้อแรก
เที่ยงตรงวันนี้ผมกับบอสออกมาจากบริษัทด้วยกันท่ามกลางสายตาหลายคู่ของพนักงานคนอื่น ๆ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือพี่ดาที่มองผมด้วยแววตาน่าสงสาร พนักงานคนอื่นก็แทบไม่ต่างกัน ดูเหมือนทุกคนจะเอาใจช่วยผมเป็นอย่างมากกับการมารับตำแหน่งนี้ ต่างกับผมที่ตอนนี้ไม่รู้สึกเป็นกังวลอะไรอย่างก่อนหน้านี้อีกแล้ว“เดี๋ยวผมเรียกคนขับรถให้ครับ”หลังจากเราสองคนเดินออกมาหน้าบริษัทผมเห็นบอสมองซ้ายมองขวาราวกับหาอะไรบางอย่าง และผมเดาว่าคงจะเป็นคนขับรถของบริษัทแน่ ๆ เพราะปกติแล้วทุกครั้งที่บอสไปไหนก็จะมีคนขับรถติดตามไปด้วยเสมอ“ไม่ต้องเรียกหรอก ฉันแค่มองหารถตัวเองอยู่น่ะ เจอแล้ว จอดอยู่ตรงโน้น รีบตามมา”บอสเดินนำหน้าไป ผมก็รีบก้าวยาว ๆ ตามไปติด ๆรถของบอสจอดอยู่ที่จอดรถวีไอพี มันเป็นรถเก๋งสีดำยี่ห้อหรูที่ทุกคนรู้จักดี แน่นอนว่าผมเองก็ฝันอยากมีรถแพง ๆ แบบนี้ขับสักครั้ง แต่มันก็คงเป็นแค่ความฝันตลอดไป เพราะต่อให้มีเงินเยอะมากมายขนาดไหน ผมก็คงไม่เอามาซื้อรถราคาหลายสิบล้านแบบนี้“รู้ใช่ไหมว่าหนึ่งในหน้าที่สำคัญของเลขาที่ดีควรจะขับรถเป็นด้วย”จบประโยคเขาก็ยื่นกุญแจรถมาให้ผม“บอสจะให้ผมขับรถให้เหรอครับ”ผมมองกุญแจรถในมือบอส
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
บทที่ 7 คำสั่งแกมบังคับ
ใบหน้าของบอสจะเรียกว่าไร้ที่ติก็คงจะไม่เกินจริงนัก เพราะทุกอวัยวะบนใบหน้ารับกันเป็นอย่างดี ทั้งคิ้วโก่งคมเข้มที่เรียงเส้นสวย สันจมูกโด่งรับกับหน้าผากกว้าง ดวงตาคมคู่นั้นที่ผมไม่กล้าสบตาเท่าไหร่นัก ไหนจะริมฝีปากหนาอวบอิ่มที่มีสีแดงระเรื่อให้ได้เห็นชัดเจน จะว่าไปแล้ว ปากบอสก็น่าจูบไม่น้อย ให้ตายเถอะนี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ยเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องหยุดคิดฟุ้งซ่านทันที และจังหวะที่พนักงานเอาอาหารเข้ามาเสิร์ฟก็เป็นนาทีเดียวกับที่บอสลืมตาขึ้นแล้วลุกขึ้นนั่งตัวตรงผมเห็นเขามองอาหารบนโต๊ะด้วยสายตาแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรจนพนักงานเสิร์ฟอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออกไป“ฉันไม่รู้ว่านายสั่งอาหารผิดหรือพนักงานทำผิด เพราะฉันไม่กิน สปาเกตตีคาโบนาร่า ไม่ชอบอาหารพวกครีม ชีส นม ทุกอย่างทำนองนี้”“อ้าว บอสไม่ได้สั่งคาโบนาร่าเหรอครับ แต่ผมจำได้ว่าบอสให้สั่งสปาเกตตี”“ใช่ แต่ฉันให้นายสั่งผัดขี้เมา พวกครีม ชีส เนย ต้องใช้เวลาเบิร์นออกเยอะ ถ้าฉันกิน เย็นนี้ก็ต้องไปออกกำลังกายเผาผลาญแคลอรี”สายตาอำมหิตจับจ้องมายังผมอีกครั้ง ผมจึงรีบหลบสายตาลงต่ำพยายามคิดหาข้อแก้ตัว จะว่าไปผมก็สั่งไปตามใจผมนั่น
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
บทที่ 8 บอสต้องพูดดี ๆ
“ผมเป็นลูกน้องจะกล้ามีปัญหากับบอสได้ไงครับ เพียงแต่ผมไม่ชอบเข้าสังคมเท่าไหร่ เลยคิดว่าการจะต้องไปกับบอสทุกที่อาจจะทำได้ไม่ดี เผื่อบอสจะเอาเรื่องนี้ไปคิดแล้วหาคนมาแทนผมครับ”ความเงียบภายในห้องเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมเองก็ได้แต่ยืนก้มหน้า แต่มันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เพราะหากปล่อยไว้ความรู้สึกของผมคงแย่ไปกว่านี้ ถ้าต้องกลับไปทำงาน“โดนบังคับให้กินผักแค่นี้ ถอดใจแล้วรึไง ป๊อดว่ะ”จากที่ยืนก้มหน้าผมถึงกับเงยหน้ามองบอสทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น จู่ ๆ มาว่าผมป๊อดได้ยังไง ทั้งที่ผมโดนบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำต่างหาก“ผมไม่ได้ถอดใจ แต่”“ไม่ถอดใจงั้นก็ไม่ต้องมีแต่ หลังจากนี้ห้ามมีข้อโต้แย้งอะไรอีก ฉันสั่งอะไรนายก็แค่ทำ ส่วนงานเรื่องติดตามทวงหนี้นายก็ยังต้องทำอยู่ เข้าใจรึเปล่า”สุดท้ายผมเลือกอะไรไม่ได้สินะ จะกลับไปทำตำแหน่งเดิมก็ไม่ได้ จะไม่ทำงานเลขาก็ไม่ได้ จะไม่กินผักก็ไม่ได้ บ้าบอชิบ“เข้าใจแล้วครับ”“บ่ายนี้ฉันขอรายงานลูกหนี้สีแดงทั้งหมดด้วย เรียงตามยอดหนี้สูงสุดไปถึงน้อยสุด ส่วนเคสไหนที่พอจะลดหย่อนได้หรือทำส่วนลดให้ลูกค้าได้ก็จัดการซะ สิ้นปีนี้ฉันต้องปรับโครงสร้างลูกหนี้ของบริษัทให้
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
บทที่ 9 รู้จักกันมากขึ้น
เย็นวันนี้ผมและบอสออกมาจากบริษัทพร้อมกัน และขึ้นรถไปด้วยกัน แน่นอนว่ามันเป็นจุดสนใจของสายตาทุกคู่ที่ได้เห็นเราสองคน ที่สำคัญคือบอสย้ายตัวเองมานั่งข้างคนขับ แทนที่จะนั่งด้านหลังอย่างเมื่อกลางวัน มันยิ่งกลายเป็นที่จับจ้องเข้าไปใหญ่“ทำไมพี่มานั่งข้างคนขับ”ผมถามขึ้นหลังจากเคลื่อนรถออกมาจากบริษัท จุดหมายเย็นนี้คือสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใกล้ ๆ ที่พักของผม“พี่เป็นเจ้าของรถ จะนั่งตรงไหนก็ได้ไหม หื้ม”คนข้าง ๆ หันมามองหน้าผม ใบหน้าดูกวน ๆ ยังไงชอบกล ให้ตายเถอะ ตั้งแต่เขาเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเอง ดูเหมือนว่าท่าทีและการกระทำของเขาก็เปลี่ยนตามไปด้วย“ก็ใช่ แต่ผมเป็นเลขาพี่ คนในบริษัทจะมองพี่ไม่ดี”“ทำไม กลัวเค้าจะคิดว่าพี่กำลังจีบเลขาอยู่เหรอ ก็ให้เขาคิดไปสิ”“ปะ เปล่า แต่มันก็ เอ่อ”อยู่ดี ๆ ผมก็ใบ้กินขึ้นมาซะอย่างนั้น ยิ่งเขาจับจ้องสายตามาทางผมไม่ยอมละไปไหนผมก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก“เอาหน่า อย่าไปสนใจคนอื่นเลย ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว”“ครับ”ผมตอบรับสั้น ๆ แล้วตั้งใจมองถนนเส้นยาวเบื้องหน้า ช่วงเลิกงานแบบนี้การจราจรบนท้องถนนมันช่างขัดใจยิ่งกว่าอะไรดีระหว่างที่กำลังรอสัญญาณไฟแดงเกือบสองนาที ผม
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
บทที่ 10 ไปอยู่คอนโดไหม
เมื่อเห็นแววตาของบอสเปลี่ยนไปผมก็ไม่คิดจะถามอะไรอีก เรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัวคงไม่ใช่เรื่องที่เลขาอย่างผมต้องรู้ แต่สิ่งที่ผมทำได้คงเป็นการแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งบนบ่าของบอสมากกว่า“พี่วิน”“หื้ม”“หิวไหม ไปหาไรกินกันดีกว่า”“นึกอะไรถึงชวน”ใบหน้าของบอสเต็มไปด้วยความสงสัย“แถวบ้านผมมีตลาดเปิดใหม่อะ อยากไปเดินเล่นปะ ของกินก็มีของใช้ก็มี”“น่าสนใจ”“โอเค ผมถือว่านี่คือคำตอบละกัน”พูดจบผมก็ขับรถออกมาจากสวนสาธารณะทันที แล้วตรงไปยังตลาดใกล้บ้าน ที่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่ตลาดเปิดใหม่อะไรหรอก ผมแค่อยากพาพี่วินไปเปิดหูเปิดตาบ้าง เดาได้เลยว่าร้อยทั้งร้อยคนบ้างานแบบเขาคงไม่เคยมาเดินเที่ยวตลาดกลางคืนแน่ ๆใช้เวลาไม่นานเราสองคนก็มาถึงจุดหมาย ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่า บรรยากาศรอบตลาดประดับประดาไปด้วยโคมไฟสีส้ม อีกอย่างตอนนี้ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ลมหนาวที่พัดมากระทบผิวกายช่วงกลางคืนยิ่งทำให้ตลาดแห่งนี้น่าเดินมากขึ้น“พี่วินกินเตี๋ยวกันปะ”ผมหันไปถามบอสขณะที่เราทั้งคู่กำลังจะเดินเลยผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวเรือร้านหนึ่ง“อื้ม เอาดิ”ถึงแม้หน้าตาเขาจะดูงง ๆ แต่ก็ตกปากรับคำ ผมเลยรีบลากแขนพี่วินเข้ามานั่งในร้านเ
last updateLast Updated : 2025-04-25
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status