ฮูหยินรองขมวดคิ้วเล็กน้อยครั้นเห็นอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเสวี่ยเอ๋อร์นั้น แม้ว่าปากจะปฏิเสธการหย่าของลูกสาว แต่ในใจกลับเห็นชอบฟังคำพูดของฉินเหยี่ยนเย่ว์ หัวใจก็เต้นรัวลังเลอีกครั้งหากองค์ฮ่องเต้ตำหนิลงมา เรื่องนี้คงไม่มีบุรุษคนไหนในเมืองหลวงกล้าแต่งงานกับเสวี่ยเอ๋อร์อีกอย่าง ในใต้หล้านี้ก็ไม่มี
ใบหน้าตงฟางหลีแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อยสายตาของเขาทอดมองไกลออกไป ก่อนจะแค่นเสียงเย็นออกมา “เห็นแก่ความจริงใจของเจ้า ข้าก็จะฝืนอภัยให้เจ้าได้ ห้ามมีครั้งต่อไปอีก”“อา ข้าก็อยากให้สตรีจุมพิตข้าเหมือนกันนะ” ตงฟางอิงที่ซ่อนตัวอยู่ไกลออกไปเห็นท่าทางหวานชื่นของพวกเขาแล้ว ก็รู้สึกอิจฉาเป็นยิ่งนักตอนที่สตรีช
นางเงยหน้าขึ้น ไล่สายตามองใบหน้าหมดจดจากล่างขึ้นบนของเขา แล้วเขย่งปลายเท้าขึ้น ใช้ศีรษะโขกกับปลายคางของเขา “ปล่อยหม่อมฉัน”“ข้าขอปฏิเสธ”“ฮึ่ม ท่านเพิ่งจะตอบตกลงกับหม่อมฉันแล้ว กลับคำเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือเพคะ?”ตงฟางหลีมิได้เอื้อนเอ่ยอันใด เพียงแต่ใช้ท่อนแขนรัดให้แน่นยิ่งกว่าเดิมขึ้นเล็กน้อยแทนฉ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา ในใจไร้ซึ่งความผันผวนใด ๆ เรื่องอย่างการทรยศ ก็เสมือนกับความรุนแรงภายในบ้าน มีแค่ไม่มีเลยหรือมีนับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นเช่นไร นางล้วนไม่เก็บไว้ข้างกายอีกต่อไป“ข้าไม่ต้องการการชดใช้จากเจ้า และยิ่งไม่ต้องการความซาบซึ้งของเจ้า ข้าช่วยเจ้าไว้เป็นเพร
“ข้าไม่รังเกียจ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้นชื่อเสียงของนางถูกแผนที่ฮูหยินรองและฉินเสวี่ยเย่ว์จงใจวางขึ้นมาทำลายจนย่อยยับไปตั้งนานแล้วในเมืองเหวินจิงแห่งนี้ เกรงว่าจะหาบุตรสาวตระกูลขุนนางที่ชื่อเสียงเลวร้ายกว่านางไม่เจอแล้วเพิ่มขึ้นมาอีกไม่กี่ข้อก็มิเป็นอันใด“ขอบพระทัยพระชายาเพคะ” หู่พั่วพูดพลางสะอื้
“เจ้าเบื่อชีวิตแล้วใช่หรือไม่?” ตงฟางหลียิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งดำทะมึน“ก่อนหน้านี้บอกว่าข้าเป็นคนเลวที่ไม่รู้จักคิด ทั้งยังบอกอีกว่าข้ามากตัณหา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ในสายตาของเจ้า ข้าเป็นคนเช่นไรกันแน่?”“ละทิ้งโลกไว้เบื้องหลังโบยบินไปอย่างเดียวดาย เหินหาวเป็นเทพเซียน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แบมือ “พอใจหรือยัง?”“ห
“ผู้ใจบุญที่รับเลี้ยงบอกกับบ่าวว่า บ่าวเกือบจะตายแล้วเพคะ แต่โชคดีถึงมีชีวิตรอดมาได้ พระชายาอ๋องสาม บ่าวหมดหนทางไปแล้ว เห็นแก่ความสัมพันธ์นายบ่าวของพวกเรา รับบ่าวไว้ด้วยเถอะเพคะ”หู่พั่วโขกศีรษะกับพื้นอย่างแรงฉินเสวี่ยนเย่ว์ขมวดคิ้วแน่นเป็นเพราะบาดเจ็บสาหัสจึงทำให้สูญเสียความจำไป นี่ก็อาจเป็นไปได้
ขณะเดียวกันบนชั้นบนสุดของหอเฉินเซียง ฉินเยี่ยนเย่ว์เห็นกระบวนการทั้งหมดด้วยตาตนเอง“ท่านช่างร้ายกาจเสียจริง” นางอดอุทานออกมาไม่ได้ “ทั้งหมดล้วนอยู่ในการคำนวณของท่าน ฉินเสวี่ยเย่ว์จึงทำได้แค่ถูกท่านจูงจมูกเดินเท่านั้น”“โชคดีที่หม่อมฉันมิได้เป็นศัตรูกับท่าน”ไม่ระวังเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้สุนัขจิ
เป็นอย่างที่เหล่ามือปราบได้ว่าเอาไว้ ภายในห้องนี้เต็มไปด้วยสิ่งของที่ทำให้ผู้ต้องขนลุกตุ๊กตาน่าสงสัยแถวหนึ่งจัดวางเรียงรายไว้ด้านบน ตุ๊กตานั้นราวกับกำลังยิ้มแย้ม ทั้งยังเหมือนกับกำลังร้องไห้ มองจากที่ไกล ๆ นั้นดูเหมือนเป็นของจริงบนผนังฝั่งตรงข้าม ใช้เลือดเขียนอักษรคำว่า “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไปตายเสีย”
เมื่อหลี่ชิงอวิ๋นได้ยินว่ามีศพ พลันตกตะลึงไปทันทีมิน่าเล่าพระชายาอ๋องเจ็ดถึงได้พูดคำพูดเหล่านั้น ภายในจวนแห่งนี้ เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นดั่งคาดพบศพเป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบเขตการรับผิดชอบของเขาเช่นกันหลี่ชิงอวิ๋นเหยียดเอวตรงทันที“ฮูหยินท่านนี้ อีกประเดี๋ยวท่านโปรดอธิบายให้ชัดเจนด้วย
หลังจากอาการไอที่ยากจะต้านทานได้ผ่านพ้นไป นางจึงดื่มยาลงไปด้วยความยากลำบากยาฝืนระงับอาการไอลงไปได้“ฉินเสวี่ยเย่ว์หาเรื่องใส่ตัวเอง จึงถูกแมลงพิษกู่กลืนกิน ตายอยู่ในห้องมืดแล้วเพคะ” หมิ่นจูสงบนิ่งพักใหญ่ ถึงกล่าวขึ้น “ท่านอ๋องเจ็ดและพระชายาอ๋องเจ็ดคงจะมาเพราะเรื่องนางเป็นแน่ องค์ชายหกอย่าได้กังวลไป
“ท่านอ๋อง พวกเราออกไปไม่ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ หลี่ชิงอวิ๋นนำคนมาล้อมจวนไว้แล้ว ขอเพียงพวกเราออกไป จะต้องถูกคนจับตัวได้แน่นอน” องครักษ์กล่าวสีหน้าขององค์ชายหกย่ำแย่กว่าเดิมหลี่ชิงอวิ๋นเห็นได้ชัดว่าเป็นการมาโดยที่มีการเตรียมตัวมาก่อน จึงจงใจเลือกที่จะบุกเข้ามาในเวลานี้ ชัดเจนว่าเป็นการมาจับชู้คาเตียงคนบ
“ใต้เท้าหลี่วางใจได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้น “พวกเราเพียงเข้าไปตรวจสอบฮูหยินของหลิงอวิ๋นจวินเท่านั้น หาได้เกี่ยวข้องกับองค์ชายหกไม่ พวกเราไม่รู้ว่าองค์ชายหกจะมาอยู่ที่นี่ และองค์ชายหกคงไม่ออกมาพบพวกเราเช่นกัน มิใช่หรือ?”หลี่ชิงอวิ๋นชะงักงันไปชั่วขณะ “พระชายาอ๋องเจ็ดหมายความว่า...”ฉินเหยี่ยนเย่ว์หั
“เจ็บ” ตงฟางหลีเจ็บจนลมหายใจสะดุด สีหน้าซีดขาว“ยัยหนู เจ้าคิดจะลอบสังหารสามีหรือ?”“ก่อนหน้านี้ก็ชนกระดูกซี่โครงของข้าจนหัก ยังมาซวยซ้ำซวยซ้อนอีก เจ้าใจกล้ามากแล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงนึกขึ้นได้ว่าคนผู้นี้เพิ่งถูกนางวิ่งชนจนกระดูกซี่โครงหักไปถึงสามท่อนเคราะห์ยังดี ที่เป็นเพียงกระดูกหักธรรมดา มิได้ม
รูปลักษณ์นั้นอย่างมากที่สุดคือเกินระดับมาตรฐานดูย่ำแย่กว่าหรูอวิ๋นเหม่ยเหรินที่อยู่ข้างกายองค์ชายหกอยู่มากโขหากพูดว่ารักแท้คือการอยู่เคียงข้างกัน ไม่ว่าจะอายุเท่าไร รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ผู้ที่มีความรักท้ายที่สุดก็จะได้ครองคู่กัน นี่คือคำพูดสวยหรูหากแต่สตรีในยุคนี้ สถานภาพดีกว่าที่นางรู้มาเล็ก
สถานที่ที่สายตาของตงฟางหลีมองเห็นก็คือจวนของหลิงอวิ๋นจวินหน้าจวนมีรถม้าหนึ่งคันจอดอยู่อ๋องหกกระโดดลงจากรถม้า ก่อนจะเดินเข้าไปในลานจวนอย่างเปิดเผยและรู้ลู่ทางดี“อ๋องหกเป็นชายรูปงาม ว่ากันว่าสตรีนับไม่ถ้วนในเมืองเหวินจิงต่างหลงใหล มีสตรีข้างกายไม่ขาดสาย เขาสามารถรับมือได้อย่างชำนาญ นับเป็นเรื่องที่
“นางสิสมควรตาย ไม่ใช่ข้า พวกท่านจับคนผิดแล้ว”ฉินเสวี่ยเย่ว์ไม่สามารถส่งเสียงใด ๆ ออกมาได้อีกแล้ว ได้แต่ตะโกนอยู่ในใจเท่านั้นเลือดสาดกระจายเต็มพื้น ย้อมทั้งห้องกลายเป็นสีแดงฉานนางล้มจมกองโลหิต ยืดคอไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวัง ก่อนเสียชีวิตยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กระทั่งตายนางก็ยังไม่เข้าใจ เ