นางเงยหน้าขึ้น ไล่สายตามองใบหน้าหมดจดจากล่างขึ้นบนของเขา แล้วเขย่งปลายเท้าขึ้น ใช้ศีรษะโขกกับปลายคางของเขา “ปล่อยหม่อมฉัน”“ข้าขอปฏิเสธ”“ฮึ่ม ท่านเพิ่งจะตอบตกลงกับหม่อมฉันแล้ว กลับคำเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือเพคะ?”ตงฟางหลีมิได้เอื้อนเอ่ยอันใด เพียงแต่ใช้ท่อนแขนรัดให้แน่นยิ่งกว่าเดิมขึ้นเล็กน้อยแทนฉ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา ในใจไร้ซึ่งความผันผวนใด ๆ เรื่องอย่างการทรยศ ก็เสมือนกับความรุนแรงภายในบ้าน มีแค่ไม่มีเลยหรือมีนับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นเช่นไร นางล้วนไม่เก็บไว้ข้างกายอีกต่อไป“ข้าไม่ต้องการการชดใช้จากเจ้า และยิ่งไม่ต้องการความซาบซึ้งของเจ้า ข้าช่วยเจ้าไว้เป็นเพร
“ข้าไม่รังเกียจ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้นชื่อเสียงของนางถูกแผนที่ฮูหยินรองและฉินเสวี่ยเย่ว์จงใจวางขึ้นมาทำลายจนย่อยยับไปตั้งนานแล้วในเมืองเหวินจิงแห่งนี้ เกรงว่าจะหาบุตรสาวตระกูลขุนนางที่ชื่อเสียงเลวร้ายกว่านางไม่เจอแล้วเพิ่มขึ้นมาอีกไม่กี่ข้อก็มิเป็นอันใด“ขอบพระทัยพระชายาเพคะ” หู่พั่วพูดพลางสะอื้
“เจ้าเบื่อชีวิตแล้วใช่หรือไม่?” ตงฟางหลียิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งดำทะมึน“ก่อนหน้านี้บอกว่าข้าเป็นคนเลวที่ไม่รู้จักคิด ทั้งยังบอกอีกว่าข้ามากตัณหา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ในสายตาของเจ้า ข้าเป็นคนเช่นไรกันแน่?”“ละทิ้งโลกไว้เบื้องหลังโบยบินไปอย่างเดียวดาย เหินหาวเป็นเทพเซียน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แบมือ “พอใจหรือยัง?”“ห
“ผู้ใจบุญที่รับเลี้ยงบอกกับบ่าวว่า บ่าวเกือบจะตายแล้วเพคะ แต่โชคดีถึงมีชีวิตรอดมาได้ พระชายาอ๋องสาม บ่าวหมดหนทางไปแล้ว เห็นแก่ความสัมพันธ์นายบ่าวของพวกเรา รับบ่าวไว้ด้วยเถอะเพคะ”หู่พั่วโขกศีรษะกับพื้นอย่างแรงฉินเสวี่ยนเย่ว์ขมวดคิ้วแน่นเป็นเพราะบาดเจ็บสาหัสจึงทำให้สูญเสียความจำไป นี่ก็อาจเป็นไปได้
ขณะเดียวกันบนชั้นบนสุดของหอเฉินเซียง ฉินเยี่ยนเย่ว์เห็นกระบวนการทั้งหมดด้วยตาตนเอง“ท่านช่างร้ายกาจเสียจริง” นางอดอุทานออกมาไม่ได้ “ทั้งหมดล้วนอยู่ในการคำนวณของท่าน ฉินเสวี่ยเย่ว์จึงทำได้แค่ถูกท่านจูงจมูกเดินเท่านั้น”“โชคดีที่หม่อมฉันมิได้เป็นศัตรูกับท่าน”ไม่ระวังเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้สุนัขจิ
“เจ้าสั่งทำสิ่งใดให้ข้า?”“ความลับ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ชี้ไปร้านเครื่องประดับที่อยู่ไม่ไกล “ทำจากร้านนั้นเองเพคะ”“โอ้?”“น่าจะทำเสร็จแล้วนะเพคะ” นางหาอักษรแกะสลักออกมาหนึ่งแผ่น จากนั้นก็เดินเข้าไปยังด้านในร้านเครื่องประดับร้านเทียบอักษรแกะสลักแล้ว เมื่อนำกล่องมาส่งให้กับนาง พลันถูกตงฟางหลีแย่งไปในกล่
วันแต่งงานของเย่ว์ลู่ยังไม่ถึงยามเฉิน ตงฟางหลีก็พานางมาถึงจวนอ๋องสาม นั่งในตำแหน่งที่ได้ระบุเอาไว้แล้วเหล่าผู้มีอำนาจและผู้สูงศักดิ์ในเมืองเหวินจิงต่างรู้สึกประหลาดใจกับงานแต่งอย่างกะทันหันนี้ยิ่งนักทว่า งานแต่งระหว่างท่านหญิงจากจวนหลูหยางอ๋องและจวนอ๋องสาม ทั้งยังเป็นงานแต่งที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทาน