ฮูหยินรองกำลังเดินไปมาในห้องโถงจิ่นซื่อนางกลัวจะถูกปล่อยให้รอครึ่งชั่วยามเฉกเช่นครั้งที่แล้ว จึงเตรียมท่าจะบุกเข้าไปด้วยเมื่อเห็นว่าไม่นานนักฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็มาแล้ว จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรีบเข้าไปหา “เหยี่ยนเย่ว์ เจ้ามาแล้ว”“ท่านแม่รองเป็นอะไรไปหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
ฮูหยินรองขมวดคิ้วเล็กน้อยครั้นเห็นอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเสวี่ยเอ๋อร์นั้น แม้ว่าปากจะปฏิเสธการหย่าของลูกสาว แต่ในใจกลับเห็นชอบฟังคำพูดของฉินเหยี่ยนเย่ว์ หัวใจก็เต้นรัวลังเลอีกครั้งหากองค์ฮ่องเต้ตำหนิลงมา เรื่องนี้คงไม่มีบุรุษคนไหนในเมืองหลวงกล้าแต่งงานกับเสวี่ยเอ๋อร์อีกอย่าง ในใต้หล้านี้ก็ไม่มี
ใบหน้าตงฟางหลีแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อยสายตาของเขาทอดมองไกลออกไป ก่อนจะแค่นเสียงเย็นออกมา “เห็นแก่ความจริงใจของเจ้า ข้าก็จะฝืนอภัยให้เจ้าได้ ห้ามมีครั้งต่อไปอีก”“อา ข้าก็อยากให้สตรีจุมพิตข้าเหมือนกันนะ” ตงฟางอิงที่ซ่อนตัวอยู่ไกลออกไปเห็นท่าทางหวานชื่นของพวกเขาแล้ว ก็รู้สึกอิจฉาเป็นยิ่งนักตอนที่สตรีช
นางเงยหน้าขึ้น ไล่สายตามองใบหน้าหมดจดจากล่างขึ้นบนของเขา แล้วเขย่งปลายเท้าขึ้น ใช้ศีรษะโขกกับปลายคางของเขา “ปล่อยหม่อมฉัน”“ข้าขอปฏิเสธ”“ฮึ่ม ท่านเพิ่งจะตอบตกลงกับหม่อมฉันแล้ว กลับคำเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือเพคะ?”ตงฟางหลีมิได้เอื้อนเอ่ยอันใด เพียงแต่ใช้ท่อนแขนรัดให้แน่นยิ่งกว่าเดิมขึ้นเล็กน้อยแทนฉ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา ในใจไร้ซึ่งความผันผวนใด ๆ เรื่องอย่างการทรยศ ก็เสมือนกับความรุนแรงภายในบ้าน มีแค่ไม่มีเลยหรือมีนับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นเช่นไร นางล้วนไม่เก็บไว้ข้างกายอีกต่อไป“ข้าไม่ต้องการการชดใช้จากเจ้า และยิ่งไม่ต้องการความซาบซึ้งของเจ้า ข้าช่วยเจ้าไว้เป็นเพร
“ข้าไม่รังเกียจ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้นชื่อเสียงของนางถูกแผนที่ฮูหยินรองและฉินเสวี่ยเย่ว์จงใจวางขึ้นมาทำลายจนย่อยยับไปตั้งนานแล้วในเมืองเหวินจิงแห่งนี้ เกรงว่าจะหาบุตรสาวตระกูลขุนนางที่ชื่อเสียงเลวร้ายกว่านางไม่เจอแล้วเพิ่มขึ้นมาอีกไม่กี่ข้อก็มิเป็นอันใด“ขอบพระทัยพระชายาเพคะ” หู่พั่วพูดพลางสะอื้
“เจ้าเบื่อชีวิตแล้วใช่หรือไม่?” ตงฟางหลียิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งดำทะมึน“ก่อนหน้านี้บอกว่าข้าเป็นคนเลวที่ไม่รู้จักคิด ทั้งยังบอกอีกว่าข้ามากตัณหา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ในสายตาของเจ้า ข้าเป็นคนเช่นไรกันแน่?”“ละทิ้งโลกไว้เบื้องหลังโบยบินไปอย่างเดียวดาย เหินหาวเป็นเทพเซียน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แบมือ “พอใจหรือยัง?”“ห
“ผู้ใจบุญที่รับเลี้ยงบอกกับบ่าวว่า บ่าวเกือบจะตายแล้วเพคะ แต่โชคดีถึงมีชีวิตรอดมาได้ พระชายาอ๋องสาม บ่าวหมดหนทางไปแล้ว เห็นแก่ความสัมพันธ์นายบ่าวของพวกเรา รับบ่าวไว้ด้วยเถอะเพคะ”หู่พั่วโขกศีรษะกับพื้นอย่างแรงฉินเสวี่ยนเย่ว์ขมวดคิ้วแน่นเป็นเพราะบาดเจ็บสาหัสจึงทำให้สูญเสียความจำไป นี่ก็อาจเป็นไปได้