ฉินเหยี่ยนเย่ว์คว้าข้อมือของตงฟางหลีมาตรวจดู ชีพจรของเขายุ่งเหยิงมากนางตรวจสอบตรงหน้าผากของเขาอีกครั้ง มันยังคงร้อนจี๋อยู่“ลดไข้เสียก่อน” นางหยิบนิมีซูไลด์ออกมา ขอน้ำอุ่นหนึ่งชาม และป้อนยาให้ตงฟางหลีเหมือนอย่างเคยหมอหลวงหลินและตู้เหิงหน้าแดงก่ำทันที พลันหันหลังกลับไป“ตู้เหิง เตรียมหม้อไฟ หัวเป็ด
“มีข่าวอันใดหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เลิกคิ้ว “รีบบอกมาเร็วเข้า”นางยังพูดไม่ทันจบคำ ท้องของนางก็ส่งเสียงคำรามขึ้นมาเสียก่อน“มิอย่างนั้น ทานข้าวก่อนดีหรือไม่?” แก้มของตู้เหิงเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย“ได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มีอาการภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หากไม่กินอาหารเป็นเวลานานจะมีอาการใจสั่น ในกรณีที่ร้าย
ตลอดเวลามานี้ นางตกอยู่ในความเข้าใจผิดครั้งใหญ่นางเข้าใจอย่างมีอคติไปก่อน ว่าผู้วางยาพิษใช้ร่างกายของตงฟางหลีเพื่อบรรลุจุดวิกฤติกระตุ้นพิษทว่าในความเป็นจริงแล้ว เงื่อนไขร่างกายของตงฟางหลีเป็นเพียงเงื่อนไขเพียงพอ มิใช่เงื่อนไขจำเป็นท้ายที่สุด นอกจากคนที่ใกล้ชิดที่สุด ก็ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากที่ป่วย
ตงฟางหลีตกตะลึง และในที่สุดก็ตระหนักได้ว่าเมื่อครู่มันน่าอับอายแค่ไหนดวงตาของเขาดำมืด หันหน้าไปด้านข้าง ส่งเสียงคำรามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธ “ไสหัวออกไป”“เรื่องมาถึงตอนนี้ ข้าก็จะไม่ซ่อนท่านแล้ว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลิกตัวเขากลับมา และเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง “ก่อนหน้านี้ ตอนที่ท่านกินยาไม่ได้ ล้วนเป
ครั้นตงฟางหลีเห็นนางเขย่าถุงหอมออกมา สีหน้าก็เปลี่ยนไป และอยากจะแย่งมันมาฉินเหยี่ยนเย่ว์เบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงเขา หยิบมันขึ้นมาดมกลิ่น ไม่มีกลิ่นแปลกปลอมใด ๆ บนถุง มันเป็นเพียงกลิ่นผงผัดแก้มสีชาดที่ติดตัวสตรีและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเสื้อผ้าเท่านั้นตงฟางหลีรู้สึกหนาวจัด เขาขมวดคิ้
“ท่านหมอหลวงหลิน เป็นผ้าปักรูปผีเสื้อสองตัวเท่านั้น คุ้มกับที่ท่านต้องมาตื่นตระหนกถึงเพียงนี้หรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “หรือ ท่านคิดว่าถุงหอมนี้ผิดปกติ?”หมอหลวงหลินโบกมือ “ถุงหอมถุงนี้มีปัญหาหรือไม่กระหม่อมมิอาจทราบได้ แต่ว่า กระหม่อมเคยได้ยินเทพพิษกล่าวถึงเป็นบางครั้ง ว่าผีเสื้อไร้กลิ่นที่ดูเหมื
ฉินเหยี่ยนเย่ว์หมุนกายกำลังจะโยนถุงหอมใส่เตาไฟตงฟางหลีตกใจสุดตัว “ตู้เหิง”“ตู้เหิง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คว้าชายเสื้อของตู้เหิงไว้ “เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่า ถุงหอมถุงนี้คือยันต์สาปแช่งของตงฟางหลี? เจ้าอยากจะเห็นเขาตายเช่นนั้นหรือ?”ตู้เหิงลำคอแข็งเกร็งเขาเหลือบมองตงฟางหลีด้วยสีหน้าสับสน แล้วก้มหน้าลงต่ำ“ท
”กระหม่อมมีอยู่พ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหลินไม่ทราบว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์ต้องการจะทำสิ่งใด จึงเอ่ยดักไว้ก่อน “พระชายา อาการของท่านอ๋องมิสู้ดีมาก ๆ มิอาจทนพิษได้ซ้ำ ๆ โดยเฉพาะแมลงป่องงามที่มีพิษร้ายแรงพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าจักมีขอบเขตของข้า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เขียนเทียบยาให้หมอหลวงหลินหนึ่งแผ่น และเขียนสิ่งที่จำเป็นต้องใ