Share

บทที่ 0018

Author: สายธารสะท้อนเงา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จิตใจไม่สงบ

นางไม่อยากทนรออีกต่อไป จึงสวมเสื้อคลุม ถือตะเกียงแล้วเดินไปทางห้องครัวใหญ่

เปลวไฟภายในห้องครัวใหญ่กำลังส่องสว่าง

ตอนนี้เป็นเวลาอาหาร คนในจวนท่านอ๋องเจ็ดไม่มาก หลังจากที่ส่งอาหารไปให้บรรดาเจ้านายแล้ว ก็เป็นเวลาที่บรรดาบ่าวรับใช้ทานอาหาร

ตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ผลักประตูเข้ามา ก็เห็นบรรดายายแก่ผู้ดูแลบ้านสิบกว่าคนนั่งล้อมวงอยู่ที่โต๊ะใหญ่ตัวหนึ่งเข้าพอดี ตรงกลางโต๊ะวางหม้อไฟหนึ่งอัน ในหม้อไฟกำลังต้มเนื้อวัวชั้นดี

ด้านข้างยังมีผักอาหารนานาชนิดจัดวางอยู่ อาหารรสเลิศครบถ้วน หลากหลายและหรูหราเสียยิ่งกว่าอาหารที่นางทานไม่น้อย

พวกเขาพลางกินเนื้อพลางดื่มเหล้า ด้านในห้องอบอุ่น แต่ละคนใบหน้าแดงก่ำ

หลังจากที่ประตูถูกฉินเหยี่ยนเย่ว์เปิดออก ลมหนาวพร้อมกับเกล็ดหิมะก็พัดเข้ามา

“ผู้ใดที่ไม่ปิดประตู? ข้าหนาวจะตายอยู่แล้ว ไม่ปิดประตูเป็นเพราะกลัวจะหนีบโดนหางหรืออย่างไร?” คนที่นั่งอยู่ริมสุดกร่นด่าพร้อมกับหันหลังกลับ

หลังจากที่เขาเห็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ หน้าถอดสีทันที “พระ พระชายา ท่านมาได้อย่างไรขอรับ?”

“เฟ่ยชุ่ยล่ะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คร้านจะอ้อมค้อม “ข้าให้นางมาขอสิ่งของบางอย่างที่ห้องครัว เหตุใดจึงไม่เห็นแม้แต่เงาละ?”

“พระนางทรงพูดจาน่าขันนะเพคะ สาวใช้ของท่านหายตัวไป เหตุใดจึงโล่มาตามหาที่ห้องครัวล่ะเพคะ” ยายแก่คนหนึ่งเอ่ย “ห้องครัวกินคนได้หรืออย่างไรเพคะ?”

“พระนางมาตามหาผิดที่แล้วเพคะ จุ๊จุ๊ แม้ว่านังหนูคนนั้นจะซูบผอมไปหน่อย แต่กลับมีเอวเล็กคอด อกผายไหล่ผึ่ง นัยน์ตายังแฝงไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวน ไม่แน่ว่าอาจจะไปแอบนัดพบกับใครก็ได้นะเพคะ ห้องครัวของพวกเราซ่อนคนไม่ได้หรอกเพคะ” ยายแก่คนนั้นกล่าวต่อ

ฉินเหยี่ยนเย่ว์เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย

หลังจากที่นางโบยหงเย้าครั้งก่อน ก็ทำให้ผู้คนจำนวนหนึ่งตกตะลึง หลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้น มีคนจำนวนน้อยมากที่กล้าทำตัวจองหองใส่นางเช่นนี้

ยายแก่ผู้นี้ดื่มสุรามากเกินไป จึงเผยสันดานออกมา

“เฟ่ยชุ่ยอยู่ที่ไหน?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์น้ำเสียงเย็นยะเยือกขึ้น “หลังจากที่นางมาที่ห้องครัว แล้วไปที่ใดต่อ?”

“พระนางทรงถามได้ประหลาดเหลือเกินเพคะ” ยายแก่อีกคนเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “สาวใช้ของท่านไปที่ใด ท่านมาถามพวกเราไม่ได้นะเพคะ”

“นางมีมือมีเท้า ไปที่ไหนพวกเราก็คงไปยุ่งมิได้ พวกเราจะต้องมัดนางเอาไว้หรืออย่างไรเพคะ?”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำหมัดแน่น ความไม่สงบภายในจิตใจยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

เฟ่ยชุ่ยมีนิสัยขี้ขลาด ไม่ว่าจะพบเจอกับเรื่องอะไรก็ไม่มีทางขัดขืน เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับเงียบ ๆ

หลายวันมานี้ นางคิดว่าการโบยหงเย้า จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู พวกยายแก่ของห้องครัวกลุ่มนี้จะสงบปากสงบคำ เกรงใจต่อเฟ่ยชุ่ยขึ้นมาบ้าง จะไม่จงใจทำให้นางต้องรู้สึกลำบากใจ

แต่ตอนนี้ดูท่าว่า นางคงประเมินความเลวของคนพวกนี้ต่ำไป

พวกยายแก่กับผู้ดูแลบ้านพวกนี้ อาจจะทำอะไรให้เฟ่ยชุ่ยลำบากใจ ตอนที่นางมองไม่เห็นก็เป็นได้

“ข้าขอถามอีกครั้ง เฟ่ยชุ่ยอยู่ที่ไหน หลังจากที่นางออกจากห้องครัวแล้วไปที่ใดอีก?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยเสียงขรึม

“ข้าถามรอบนี้เป็นรอบที่สามแล้ว อย่าให้พูดซ้ำเกินสามครั้ง ถ้าหากพวกเจ้ายังไม่พูดจาให้รู้เรื่อง อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!” ดวงตาของนางแฝงไปด้วยความเกรี้ยวกราด

คนจิตใจดีถูกรังแก เป็นเพราะเฟ่ยชุ่ยจิตใจดีและขี้ขลาดจนเกินไป ถึงได้ถูกคนพวกนี้ข่มเหงรังแกเอา

“อีกเรื่อง ข้ายังไม่ได้ทานมื้อเย็น แต่พวกเจ้ากลับกินดื่มอย่างอิ่มหนำสำราญอยู่ที่นี่ เป็นครั้งแรกที่ข้าได้รู้ว่า กฎของจวนท่านอ๋องเจ็ดคือพวกบ่าวรับใช้ทานข้าวก่อน ค่อยนำอาหารเหลือให้เจ้านาย ข้าคงต้องมาคุยกันดี ๆ กับพวกเจ้าหน่อย”

เมื่อพวกยายแก่ได้ยินคำพูดของนาง สีหน้าก็มีความเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด

คนที่หลบอยู่ด้านหลังยายแก่คนหนึ่งบ่นพึมพำ “มาวางท่าเป็นเจ้านายตอนนี้คิดจะข่มผู้ใด? มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าตำแหน่งพระชายาของท่านได้มาได้อย่างไร? จวนท่านอ๋องเจ็ดของพวกเราไม่มีเจ้านายเช่นนี้ ก็เป็นแค่นังแพศยาคนหนึ่ง!”

“ถูกต้อง เจ้านายเป็นเช่นใดบ่าวก็เป็นเช่นนั้น หน้าไม่อาย สาวใช้จอมเจ้าเล่ห์นั่นก็ไม่ใช่คนดีอะไรเช่นเดียวกัน!”

ถึงแม้ว่าเสียงของพวกเขาจะเบา แต่ ฉินเหยี่ยนเย่ว์กลับได้ยินชัดถ้อยชัดคำ

นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

รังแกคนอ่อนแอ เป็นวิธีการที่พวกเขาใช้เป็นประจำ

เฟ่ยชุ่ยขี้ขลาด พวกเขาจึงรังแกเฟ่ยชุ่ย ครั้งแล้วครั้งเล่า

เจ้าของร่างเดิมก็ไม่ต่าง ขี้ขลาด โง่เขลา คนพวกนี้ถึงได้ไม่เห็นเจ้าของร่างเดิมอยู่ในสายตา ยังกล้าใช้คำพูดสกปรกเช่นนี้มาเหยียดหยามอีกด้วย

แต่ นางในเวลานี้ ไม่ใช่นางในเมื่อก่อนอีกแล้ว

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าก็เป็นพระชายาอ๋องเจ็ดที่ฝ่าบาททรงเป็นผู้พระราชทานการอภิเษกสมรส และเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามธรรมนองคลองธรรมของท่านอ๋องเจ็ด พวกเจ้าจะยอมก็ดี ไม่ยอมก็ชั่ง เรื่องเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่บ่าวรับใช้เช่นพวกเจ้าควรสอดปาก!”

“ข้าเคยบอกกับท่านอ๋องเจ็ดแล้ว ในเมื่อข้าได้เป็นพระชายาอ๋องเจ็ดแล้ว พวกเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์พูดจาเหลวไหล ไม่ว่าข้าจะน่ารังเกียจอย่างไร ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ต้องถูกพวกเจ้า และจวนท่านอ๋องเจ็ดข่มเหงรังแก”

“พระชายาทรงกล่าวเช่นนี้ ช่างเป็นการปรักปรำพวกบ่าวจริง ๆ นะเพคะ” เมื่อยายแก่ที่เป็นหัวหน้าเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี จึงเดินมาข้างหน้า เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “คนในห้องครัวเช่นพวกบ่าวล้วนเป็นพวกไร้การศึกษา นิสัยตรงไปตรงมา พูดจาไพเราะไม่เป็น พระนาง ท่านอย่าได้ถือสาเลยนะเพคะ”

“พระนาง ท่านตามหาสาวใช้ไม่เจอ พวกเราเองก็ทราบดีว่าท่านร้อนใจเพคะ” นางกล่าว “แต่พระนาง ท่านจะทรงปรักปรำพวกบ่าวมิได้นะเพคะ”

“พวกบ่าวนำอาหารไปถวายบรรดาเจ้านายก่อนมาตลอดถึงกล้ากินข้าวเพคะ นี่คือกฎของจวนอ๋อง พวกบ่าวได้นำสิ่งของที่พระนางต้องการมอบให้แก่แม่นางเฟ่ยชุ่ยแล้ว ผู้ใดจะทราบว่าแม่นางเฟ่ยชุ่ยไม่ได้ยกอาหารกลับไป สรุปแล้วว่า เป็นแม่นางเฟ่ยชุ่ยที่ทำให้อาหารเย็นของพระนางล่าช้า ไม่เกี่ยวข้องกับพวกบ่าวเพคะ”

“พระนาง ท่านว่าแบบนี้ดีหรือไม่ พวกเราจะทำอาหารใหม่อีกครั้งแล้วส่งไปให้ท่าน ส่วนแม่นางเฟ่ยชุ่ย พวกเราจะช่วยกันตามหา จวนอ๋องใหญ่แค่นี้ ไม่เชื่อว่าจะหาไม่เจอหรอกเพคะ”

“วัตถุอาหารของวันนี้ใช้หมดไปแล้ว” ยายแก่ที่เอ่ยปากพูดตอนแรกเอ่ยด้วยความเมามาย “วัตถุดิบอาหารของวันพรุ่งนี้ก็มีจำกัด ใช้ล่วงหน้ามิได้ อีกอย่าง ทำอาหารใหม่ตอนนี้ อย่างน้อยก็ต้องรออีกหนึ่งชั่วยาม”

“ถูกต้องถูกต้อง พวกเราเลิกงานแล้ว ควรจะกลับบ้านได้แล้ว” อีกคนหนึ่งพูดจาคล้อยตาม

ยายแก่ที่เป็นหัวหน้ายิ้ม “พระนาง พวกเขาพูดจาไม่น่าฟัง แต่มีเหตุผล วัตถุดิบอาหารได้ใช้หมดแล้วเพคะ วัตถุดิบอาหารของวันพรุ่งนี้ก็ใช้ไม่ได้ แม้จะใช้ได้ ก็ต้องรอนานกว่าจะปรุงเสร็จ ยังมีอาหารเหลืออยู่นิดหน่อย ถ้าหากท่านไม่รังเกียจ...”

“รังเกียจ!” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตัดบทนาง ยิ้มด้วยความโมโห

คนพวกนี้ รังแกผู้อื่นจนติดเป็นนิสัย

เรื่องที่เกี่ยวกับเฟ่ยชุ่ยกลับปิดปากเงียบ ทั้งยังพูดจาไร้สาระ ยังคิดจะให้นางกินอาหารเหลือของพวกเขาอีก

นางยิ้มเยาะ เดินไปข้างหน้าสองก้าว

ยายแก่ผู้เป็นหัวหน้าเห็นท่าไม่ดี คิดจะลากนางเอาไว้

“หากมือขวาของเจ้าสัมผัสข้า ข้าก็จะตัดมือข้างขวาของเจ้าทิ้ง หากมือซ้ายของเจ้าสัมผัสข้า ข้าก็จะตัดมือข้างซ้ายของเจ้าทิ้ง ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ก็ลองดู!” ในน้ำเสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์แฝงไปด้วยความน่ากลัว

ยายแก่ที่เป็นหัวหน้าคนนั้นตกใจจนหัวหด ไม่กล้าขัดขวางอีก

ฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินไปถึงที่ด้านหน้าโต๊ะใหญ่ กวาดสายตามองคนที่นั่งอยู่บริเวณรอบ ๆ ด้วยสายตาเย็นเยือก ทันทีที่ยกมือขึ้น ก็คว่ำโต๊ะทันที!

เสียงดังโครม!

หม้อไฟเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะถูกปัดจนคว่ำลงไปบนพื้น ถ่านสีแดงฉ่ากระจัดกระจายไปทั่ว กระเด็นไปโดนตัว ไฟถ่านติดเสื้อผ้า พวกเขาตกใจ จนกลิ้งไปกลิ้งลงที่พื้นหลายรอบเพื่อดับไฟ

น้ำแกงในหม้อไฟเล็กที่ต้มเนื้อวัวเอาไว้ก็ถูกปัดคว่ำเช่นกัน น้ำแกงที่เดือดพล่านสาดกระเด็นไปโดนพวกยายแก่ที่พูดจาเหลวไหลพวกนั้น

ยายแก่ที่เมามายได้ที่พวกนั้น จึงมีปฏิกิริยาตอบสนองช้าไปสักหน่อย

ตอนที่พวกนางมีปฏิกิริยาตอบโต้ น้ำแกงก็ราดเต็มหน้า เต็มตัวเรียบร้อยแล้ว

“โอ๊ย! ร้อนเหลือเกิน!”

พวกนางกรีดร้องเสียงดัง มือกุมใบหน้า แล้วกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น พร้อมเสียงร้องอันน่าเวทนา
Comments (6)
goodnovel comment avatar
ออนกนก โพธิรักษ์
อ่านต่อเรื่องแม่ทัพปราบพยศฮ่องเต้ได้ที่ไหนคะ งง หมดละ เข้าในแอปก็ไม่มีให้เลือก
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
ขอบคุณครับ
goodnovel comment avatar
Sittha Thakhao
ทุเรศหลอกลวงถุย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0019

    เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วพวกเขาต่างก็คิดไม่ถึงว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ท่าทางดูอ่อนแอจะสามารถพลิกคว่ำโต๊ะได้ ยิ่งคิดไม่ถึงว่า นางจะมีกำลังมากถึงขนาดนี้หม้อไฟและหม้อน้ำแกงเนื้อวัวที่อยู่บนโต๊ะ ไม่ว่าจะตกอยู่บนตัวของผู้ใด ก็อันตรายยิ่งต่อให้เป็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำในห้องครัวหลาย ๆ คนก็ไม่กล้

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0020

    “ผู้ที่โดนน้ำร้อนลวกสองสามคนนั้น พวกเจ้าไปจัดการตนเองเสียก่อน ที่ข้ามียาสูตรลับ ทาแล้วแทบจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ หากทำตัวดีข้าจะให้ยาสูตรลับแก่พวกเจ้า หากทำตัวไม่ดี เช่นนั้นก็อย่าได้โทษข้า”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดจบ ก็พาคนไปที่ห้องเลี้ยงนกพิราบภายในห้องครัวเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง พวกเขาถูกทำให้ตกตะลึง

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0021

    “พวกเจ้าสองคน ปลุกเขาให้ตื่น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำหมัดแน่น“พระชายา เป็นไปไม่ได้หรอกพ่ะย่ะค่ะ เขาดื่มสุราจนเมามายปลุกไม่ตื่น ต้องรอให้สุราหมดฤทธิ์พ่ะย่ะค่ะ” ผู้ชายคนหนึ่งกล่าว “พวกเราไปตามหาแม่นางเฟ่ยชุ่ยกันต่อเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“พวกเข้าไปยกน้ำเย็นจัดมาหนึ่งกะละมัง เอาแบบที่มีเศษน้ำแข็งด้วย” ฉินเหยี่ยนเย่ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0022

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก้มหน้าจ้องมองเศษกระดูกที่อยู่ด้านข้าง รวมทั้งจานและกล่องอาหาร ที่ตกกระจัดกระจายอยู่ด้านข้างคิดว่าเป็นเพราะตาแก่นั่นคงมีอาการติดสุรา เมื่ออาหารเลิศรสที่อยู่ภายในกล่องอาหารก็ควบคุมตนเองไม่ได้ อยากจะลิ้มรสอาหารรสเลิศก่อน หลังจากที่กินอิ่มหนำสำราญแล้วค่อยกระทำการอันป่าเถื่อนต่อเฟ่ยชุ่ย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0023

    ยายแก่ผู้เป็นหัวหน้าพลันส่งสายตาไปให้บุรุษร่างใหญ่ทั้งสองคนในทันที บุรุษร่างใหญ่ทั้งสองมิกล้าคิดแข็งข้ออีกต่อไป พลางรีบส่งตัวตาเฒ่าหลานจอมขี้เมาไปยังห้องตอนขันทีในชั่วข้ามคืน เฟ่ยชุ่ยหาได้รับอันตรายใด ๆ ไม่ นางเพียงแต่มีอาการตกใจจนหน้าตาซีดขาวเพียงเท่านั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบหลังมือของนางเล็กน้อย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0024

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงได้แต่มองนางด้วยรอยยิ้ม จนกระทั่งยายเฒ่าตระกูลซูกินอาหารจนเกลี้ยงมิมีเหลือ “ตัวเองทำตัวเองแท้ ๆ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวออกมาลอย ๆ “นับว่าโชคดีที่เฟ่ยชุ่ยหาได้เป็นอันใดไม่ พวกเจ้าเองก็ได้รับบทเรียนกันแล้ว เช่นนั้นข้าจักไม่ติดใจเอาความอันใดอีก”“ทว่า หากยังมีครั้งต่อไปอีก” น้ำเสียงข

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0025

    ภายในบริเวณเรือนโยวหลาน ฉินเสวี่ยเย่ว์ที่สวมใส่เสื้อคลุมขนาดใหญ่ พร้อมทั้งข้ารับใช้และหญิงชรามากมายกำลังยืนอยู่บนหิมะห้องที่หู่พั่วอาศัยอยู่นั้น กำลังถูกกองเพลิงกลืนกินพร้อมทั้งควันไฟมากมายที่ลอยขโมงโฉงเฉงร่างของหู่พั่วถูกคนนำห่อด้วยผ้า ก่อนจะนำออกมาวางไว้บนหิมะ ในยามที่แสงไฟสลัว ๆ เช่นนี้ เสมือนก

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0026

    นางกำนัลพลันชะงักไปในทันที นางที่เป็นเพียงนางกำนัลตำแหน่งเล็ก ๆ นางมีหน้าที่เพียงเข้ามาส่งสารเท่านั้น หากว่าพระชายาอ๋องเจ็ดตายต่อหน้าต่อตาของนางแล้วไซร้ นางย่อมมิอาจหลีกหนีความผิดของตนเองได้พ้น “พระชายาอ๋องเจ็ดอย่าได้วู่วามนะเพคะ บ่าวเพียงแค่มาเชื้อเชิญให้ท่านไปเยือนที่กงเจิ้งซือเท่านั้น ท่านอย่าได

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1055

    “วางใจได้ ข้าจะส่งเจ้ากลับมาเร็ว ๆ ” นางเคาะจมูกแมวดำแมวดำเมินนาง ถูหัวกับตัวนาง และหาตำแหน่งที่สบายแล้วซุกตัวนอนลงไปอุ้งเท้าน้อยกดหน้าอกของนางอย่างแรง และแสดงความรังเกียจอีกครั้ง“...จึ๊ เจ้าแมว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ลูบหัวของมันแค่แมวหนึ่งตัว ทำหน้ารังเกียจก็ช่างเถอะ ยังจะเอาเปรียบคนด้วยหรือ?“เฮยตั้

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1054

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออก “ข้าไม่สนใจที่จะเอาตัวเองเป็นอาหารแลกซื้อให้โก่วตั้นกินหรอกนะ ข้าแค่อยากใช้งานมัน”ชื่อเจี้ยนยิ่งพูดไม่ออก “แม้ว่าเสือจะเป็นแมวตัวใหญ่ แต่ก็เป็นสัตว์กินเนื้อนะเพคะ พระนาง พระองค์โปรดเลิกคิดเรื่องนี้เสียเถอะ ทันทีที่พระองค์เข้าใกล้ มันจะถือว่าพระองค์เป็นของว่าง”“...มันไม่เข้

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1053

    ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา นางกลับลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในขณะเดียวกัน กลับเสมือนการตื่นรู้ คำสามคำว่าหลิ่วชีชี และน้ำเสียงกังวลยังคงก้องอยู่ในหูฉินเหยี่ยนเย่ว์ผ่อนลมหายใจออกพระสนมเหยาสามารถเอ่ยชื่อหลิ่วชีชีนี้ออกมาได้ ภาพเหมือนก็ตรงกัน ดังนั้นเรื่องนี้จึงได้สิ้นสุดลงแล้วหลังจากห่างหายกันไปนานกว่ายี่ส

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1052

    สถานการณ์วุ่นวายเหลือคณาแมวที่เชื่องในยามปกติกลับมีขนตั้งชัน พลางส่งเสียงขู่ฟ่ออย่างดุร้ายวัวที่นิสัยอ่อนไหว ก้มหัวลง ดันเขาไปข้างหน้าบางตัวกระโดดไปอยู่ข้างพระสนมเหยา และที่เหลือส่วนใหญ่ล้อมรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และชื่อเจี้ยนทั้งตัวโตตัวเล็ก ล้วนแต่มีท่าทางดุร้าย มีเสียงขู่เตือนดังออกมาจากในลำคอ“บ้

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1051

    นางมองฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างไม่อยากเชื่อ น้ำตาไหลทะลักลงมา “เหยี่ยนเย่ว์ เจ้า เจ้าหมายความว่า...”“ข้าคือพี่สาวที่เด็กคนนั้นต้องการตามหาหรือ?” นางต้องใช้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมากถึงจะพูดประโยคนี้ออกมาได้“สวรรค์ จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ได้อย่างไร” พระสนมเหยาไม่รอให้นางตอบคำถาม ก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นนางกุมใ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1050

    พระสนเหยาขวดคิ้วหากัน ที่หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเศร้าโศกนางจับจ้องภาพวาดอยู่เนิ่นนาน ถึงได้วางภาพลงข้าง ๆ ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เอ่ยถามขึ้น “คนวาดภาพนี้เป็นใคร?”“เป็นนักวาดภาพคนหนึ่งของพี่เจ็ด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดตัดบท “สนมเหยา แม้ข้าจะรู้ว่าท่านเจ็บปวดมาก ทว่า นี่เป็นเรื่องใหญ่มากจริง ๆ...”“ทั

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1049

    ครั้นเห็นนางวิ่งหอบแฮกแฮกเข้ามา พลันเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ “เหยี่ยนเย่ว์ ท่าทางเร่งรีบ เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”หลังจากฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นพระสนมเหยาที่เป็นที่โปรดปราณของสวรรค์ จิตใจพลันผ่อนคลายลงทันทีบุตรีสวรรค์อยู่ที่นี่ ของเละเทะวุ่นวายอะไรนั่นล้วนต้องถอยกลับไป“ข้ามาดูดซับโชคดีสักหน่อย” นางทรุดกา

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1048

    “ของอะไร?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว“จีอู๋เยียน?”“ท่านพูดมาให้ชัดเจนสิ”จีอู๋เยียนเดินออกไปไกลแล้ว เสียงก็เลือนหายไปด้วยเช่นเดียวกัน“บ้าจริง!” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ห่อไหล่ ลอบสบถคำหยาบออกมาหนึ่งคำจีอู๋เยียนไม่พูดคำพูดนั้นออกมายังดี หลังจากพูดออกมาแล้ว นางมักจะรู้สึกจั๊กจี้อยู่ในใจในห้องจะมีข

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1047

    จีอู๋เยียนยังคงมีกลิ่นอายสังหารลอยวนเวียนอยู่ร่างกายกลิ่นอายสังหารนั้นแตกต่างจากกลิ่นอายสังหารทั่วไป คล้ายกับว่ามีกระบี่แหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาจากร่างของเขา บริเวณโดยรอบเงียบสงัดราวกับจักจั่นในหน้าหนาวสีหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยถึงอย่างไรนี่ก็กำลังอยู่ในวังหลวงจีอู๋เยียนถึงกับปล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status