พูดจบ เขาก็ก้มลงไปอุ้มนางขึ้นเตียง ลูบแล้วลูบใบหน้าเล็กๆ ที่ซีดเซียวของนางอย่างอ่อนโยน จากนั้นจัดแจงเสื้อเพ้าสีขาวเสี้ยวจันทร์อันหรูหราครู่หนึ่ง ก็จากไปอย่างอารมณ์ดีแล้วสีหน้าของฉู่เชียนหลีน่าเกลียดมากตอนที่เยว่เอ๋อร์กับอวิ๋นอิงเข้ามาเก็บโต๊ะ รู้สึกถึงความผิดปกติ รู้ได้ในทันทีว่าเกี่ยวข้องกับอ๋องหลีมองสีหน้าที่มืดสลัวของพระชายา ทั้งสองปวดใจนัก“พระชายา ท่านไม่ต้องกังวล ในมือท่านอ๋องมีทหารองครักษ์เงาแปดหมื่นนาย อีกทั้งยังมีประสบการณ์ทำสงครามมากมาย เขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอนเจ้าค่ะ!” เยว่เอ๋อร์กล่าวอวิ๋นอิงพยักหน้า“ทุกคนรู้จักความสามารถของท่านอ๋องดี อ๋องหลีอยากทำร้ายเขา หาใช่เรื่องง่าย หานอิ๋งกับคนของสำนักอู๋จี๋ได้เดินทางไปรวมกลุ่มกับท่านอ๋องที่เป่ยเจียงอย่างเร่งด่วนแล้ว”“รอท่านอ๋องกลับเมือง ก็คือวันตายของอ๋องหลี!”ฉู่เชียนหลีเชื่อในความสามารถของเฟิงเย่เสวียน แต่ก็กลัวเฟิงเจิ้งหลีเล่นสกปรกไม่เจอเฟิงเย่เสวียนหนึ่งวัน นางก็ไม่สบายใจหนึ่งวันเยว่เอ๋อร์กล่าวเกลี้ยกล่อม“คุณชายจิ่งกำลังจับตาดูทางฝั่งของฝ่าบาท ขอแค่หาเบาะแสให้เจอ ก็สามารถจัดการอ๋องหลี แต่ก่อนหน้านี้ ท่
หัวข้อสนทนานี้จบลงฉู่เชียนหลีมองอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ ไม่มีความอยากอาหารแม้แต่น้อย “ต่อไป ปิดประตูใหญ่ของจวนอ๋องให้หมด ไม่รับแขกใดๆ ทั้งสิ้น แล้วก็เพิ่มทหารยามอีกหนึ่งเท่า”นางไม่อยากเจอเฟิงเจิ้งหลีอีก“เจ้าค่ะ”เยว่เอ๋อร์ขานรับคำหนึ่ง ใช้มือจับเอวที่ยังเจ็บเป็นระยะ เดินออกไปถ่ายทอดคำสั่งของพระชายา“เหตุใดไม่เห็นเสด็จแม่?”คราวนี้ ฉู่เชียนหลีจึงจะสังเกตเห็นเรื่องนี้นางคิดในใจ เหมือนว่าวันนี้ไม่เจอถงเฟยเลยอวิ๋นอิงกล่าว “พระสนมถงเฟยเข้าวังตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนนี้ยังไม่กลับมาเจ้าค่ะ”ถงเฟยรับพระบัญชาดูแลฉู่เชียนหลี ไม่มีทางกลับตำหนัก ดูเหมือนนางเข้าวังเพราะเรื่องของอ๋องหลี แต่นี่ก็ทั้งวันแล้วยังไม่มีข่าวคราวอีกดูเหมือนไม่ราบรื่นฉู่เชียนหลีลูบท้องพลางกล่าวเสียงเบา“ฝ่าบาทไม่ยอมพบถงเฟย ถ้าหากข้าขอเข้าเฝ้า อวิ๋นอิง เจ้าว่าเขาจะยอมพบข้าหรือไม่?”อวิ๋นอิงเงียบนางไม่กล้าพูดปัจจุบันฮ่องเต้กับอ๋องหลีใกล้ชิดกัน ถ้าหากเขาไม่อยากตอบคำถามของพระชายา ก็ย่อมไม่พบพระชายาเช่นกัน ท่านอ๋องไม่อยู่บ้าน จวนอ๋องเฉินอยู่ในสถานะที่ตกเป็นเป้าไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่มีความมั่นใจและเอิกเกริกเหม
วันรุ่งขึ้น พระชายาอ๋องติ้งมาอย่างร้อนอกใจร้อนใจแต่เช้า“เสียวฉู่!”สีหน้านางดูเร่งรีบ เหมือนกับเกิดเรื่องใหญ่ “เสียวฉู่!”ฉู่เชียนหลีรีบออกไปต้อนรับ “นี่พี่อวี๋เป็นอะไร?”“เสียวฉู่ เข้าไปคุยข้างใน!”พระชายาอ๋องติ้งจูงมือของนาง เรื่องที่อ๋องหลีเข้าจวนเฟิงเหรินแล้วถูกปล่อยออกมานั้น เป็นที่ทราบกันดี นางรู้เรื่องสมคบคิดกับศัตรู ทรยศชาติจากปากของอ๋องติ้ง จึงเดาได้ว่าอ๋องหลีกำลังก่อเรื่อง อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อจวนอ๋องเฉินนางกับฉู่เชียนหลีมีความสัมพันธ์ที่ดี ย่อมต้องใส่ใจเป็นพิเศษ“ช่วงนี้อ๋องหลีได้สร้างผลงานมากมาย วันนี้ก็สร้างซุ้มแจกข้าวต้ม ช่วยเหลือขอทานทั้งเมืองหลวง ได้รับคำชื่นชมมากมาย ราษฎรชมไม่หยุดปาก”“จุดประสงค์ของเขานั้นชัดเจนมาก แต่ข้าจะบอกอะไรเจ้า ข้ากลับพบเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจมากหนึ่งเรื่อง!”ฉู่เชียนหลีขยับหูเข้าไปพระชายาอ๋องติ้งกระซิบข้างหูนางด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ“ดูผิวเผินอ๋องหลีเป็นคนอ่อนโยนและจิตใจดี แต่ตามที่สายของข้ามารายงาน เขากลับกักขังพระชายาของตัวเองนานถึงสี่เดือน!”“อะไรนะ?!”ฉู่เชียนหลีตะลึงงันมีเรื่องเช่นนี้ด้วย?“นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเห็นฉู่เชียนหลี อาการของนางดูแย่ขึ้นมาทันทีนางคิดว่าเพราะฉู่เชียนหลียั่วยวนอ๋องหลี นางจึงถูกขังอยู่ที่นี่นานเช่นนี้ ล้วนเป็นเพราะฉู่เชียนหลี!ฉู่เชียนหลีมองนาง อธิบายไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไรผมของนางยุ่งเหยิง สีหน้าซีดเซียวไร้ร่องรอยของเลือด เหมือนขาดสารอาหารเป็นเวลานาน แม้แต่ท้องที่ตั้งครรภ์เจ็ดเดือนกว่าก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก สภาพตกอับและสะบักสะบอมมาก“เขาปฏิบัติกับเจ้าเช่นนี้ได้อย่างไร…”“เพราะเหตุใดท่านอ๋องจึงปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้ เจ้าไม่ได้รู้ดีอยู่แก่ใจหรอกหรือ!” ฉู่เจียวเจียวเย็นชาจนถึงขีดสุดมันคือความโกรธมันคือความเกลียดแทบอยากจะฉีกร่างฉู่เชียนหลีเสียเดี๋ยวนี้“เจ้ายังกล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกหรือ ฉู่เชียนหลี ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า! เพราะเจ้า!”นางคำรามด้วยความโกรธ ก็จะเข้าไปผลักฉู่เชียนหลีฉู่เชียนหลียืนเท้าให้มั่นคง คว้าสองมือของนาง นางถูกสยบแล้ว “เรื่องที่เฟิงเจิ้งหลีทำกับเจ้า เกี่ยวอะไรกับข้า? หรือมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังรักเขาอยู่?” “รัก…”ฉู่เจียวเจียวชะงักแล้วรัก…หรือ?ใช่แล้วนางรักเขา รักมาตั้งหลายปี หนึ่งจิตหนึ่งใจ ยินดีทำเพื่อเขาทุกอย่าง แต่
เมื่อชาวบ้านเห็นและได้ยินเสียงตะโกน จับใจความจากคำพูดที่ไม่ปะติดปะต่อ ต่างก็ตกใจฉับพลันอ๋องหลีกักขังพระชายาอ๋องหลี?!เกิดอะไรขึ้น?“พวกเจ้าดูสิ ผู้หญิงที่ผมกระเซิงนั่นเหมือนเป็นพระชายาอ๋องหลีจริงด้วย! เมื่อก่อนข้าเคยเห็นนาง นางกำลังตั้งครรภ์ สภาพกลับสะบักสะบอมและผอมเช่นนี้!”ชายวัยกลางคนคนหนึ่งอุทานทันใดนั้นเหมือนก้อนหินถูกโยนลงน้ำจนเกิดระลอกคลื่น ชาวบ้านพาวิพากษ์วิจารณ์“นางบำรุงครรภ์อยู่ที่บ้านไม่ใช่หรือ? อ๋องหลีจะขังนางได้อย่างไร?”“ดูผิวเผินเขาอ่อนโยนและจิตใจดีมาก คิดไม่ถึงว่าจะปฏิบัติต่อพระชายาของตัวเองเช่นนี้?”“สามารถลงมืออย่างโหดร้ายกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์เช่นนี้ ยังมีเรื่องอะไรที่เขาทำไม่ได้อีก?”“โหดร้ายมาก…”สายตาของชาวบ้านที่ตื้นตันใจก่อนหน้านี้ มองอ๋องหลีเปลี่ยนทันทีประหลาดใจวิเคราะห์เหยียดหยามโกรธแค้นและอยุติธรรม…สายตาที่เป็นปรปักษ์มองไปทางอ๋องหลีจากสี่ด้านแปดทิศ “ท่านอ๋อง! ท่านอ๋อง…”ฉู่เจียวเจียววิ่งเข้ามาเหมือนคนบ้า นางคว้าชายเสื้อของอ๋องหลีอย่างลนลาน ปากก็พูดพล่ามไปด้วย“ท่านอ๋อง ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบข้า แต่ได้โปรดท่านช่วยเห็นแก่ลูก พวกเราอย
“อ๊ะ! ท่านอ๋อง ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ!”เฟิงเจิ้งหลีเพิ่งเอ่ยปาก ฉู่เจียวเจียวก็เหมือนสะเทือนใจอย่างรุนแรง นางกอดศีรษะ จิกผม กรีดร้องเสียงดัง“เจียวเจียว…”“ช่วยด้วย ช่วยด้วย! อย่าขังข้าเลย! ท่านอ๋อง ข้าขอร้อง! ลูกของพวกเราใกล้จะคลอดแล้ว ท่านปล่อยข้าออกไปเถอะ!”ฉู่เจียวเจียวจับท้อง คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอ๋องหลีอย่างโซซัดโซเซในแววตาที่ขุ่นมัวเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเฟิงเจิ้งหลีกวาดมองชาวบ้านที่วิพากษ์วิจารณ์โดยรอบแวบหนึ่ง เสียงดังเกินไป จึงดึงดูดผู้คนไม่น้อยมา คนที่มามุงดูเยอะขึ้นเรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าคนทั้งเมืองหลวงต้องรู้แน่…แววตาของเขาขรึมลง“เจียวเจียว ฟังข้า…”“เหอะ! ไม่ฟัง! ไม่ฟัง! อย่าเข้ามา อย่าจับข้า!”“เจียวเจียว!”เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของนาง เขย่าแรงๆ ทีหนึ่ง แต่ก็ไม่มีประโยชน์ นางก็เหมือนกับอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง ในสมองมีเพียงความคิดเดียวอ้อนวอนอ๋องหลีให้ปล่อยตัวเองออกไปชาวบ้านที่วิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นเรื่อยๆฉู่เชียนหลียืนอยู่ตรงจุดที่ไม่ไกล สองมือกอดอก มองดูภาพนี้อย่างเย็นชาเฟิงเจิ้งหลี เจ้าวางแผนไปวางแผนมา สุดท้ายกรรมก็มาตกที่
น้ำเสียงที่อ่อนโยน กับท่าทางที่อดทนนั่น ชั่วขณะทำให้นางเกิดความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเกิดอันอบอุ่นแม้แต่อากาศและลมหายใจก็หวานไปด้วย“ท่านอ๋อง…”“ท่านอ๋อง ข้าคิดว่าท่านไม่ชอบข้า…”“จะเป็นไปได้อย่างไร?” เฟิงเจิ้งหลีประคองฉู่เจียวเจียวลุกขึ้นจากพื้น “เจ้าดูฉู่เชียนหลี ตั้งแต่ตั้งครรภ์ก็ถูกปองร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า เจตนาของคนร้ายคืออยากฆ่าลูกในท้องของนาง ถ้าหากข้าไม่ปกป้องเจ้าให้ดี ลูกจะอยู่รอดได้อย่างไร?”“เหตุใดเจ้าไม่ลองคิดเรื่องนี้ดู?”เรื่องของลูก สะกิดโดนตำแหน่งที่เปราะบางที่สุดในก้นบึ้งหัวใจของฉู่เจียวเจียวความหวาดระแวงและความเกลียดชังของนาง พังทลายลงในพริบตา“ท่านอ๋อง เมื่อก่อนข้าเลอะเลือน และยังเข้าใจท่านผิด…ข้า…ข้า…”“เด็กโง่ ข้าไม่ถือสาหรอก”สองสามีภรรยาหน้าผากชนหน้าผาก กระซิบคุยกันเบาๆ ไม่มีใครได้ยิน กลับกันเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านโดยรอบดังขึ้นเรื่อยๆ และเดือดขึ้นเรื่อยๆฉู่เชียนหลียืนค่อนข้างไกล ไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันแต่ กลับเกิดความคิดที่ไม่ดีอย่างหนึ่ง…เป็นอย่างที่คิดฉู่เจียวเจียวเรียกนาง“พระชายาอ๋องเฉิน!”เสียงเรียกนี้ ทำให้ทุกคนสังเกตเห็นว่าพระช
“พอแล้ว ทุกคนไม่ต้องมามุ่งอยู่ที่ตรงนี้แล้ว ควรจะไปทำอะไรก็ไปทำ พระชายาอ๋องเฉินกับพระชายาอ๋องหลีเพียงแค่เข้าใจผิดกันเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่นำไปพูดต่อตามคนอื่น”เฟิงเจิ้งหลีกล่าวอย่างอ่อนโยนท่าทางที่สงบเสงี่ยมและใจกว้างของ ในสายตาของบรรดาชาวบ้าน ทำให้ได้รับคำชมเชยไปในทางเดียวกันฉู่เชียนหลีรู้สึกสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง...คิดไม่ถึงเลยว่าฉู่เจียวเจียวจะตกหลุมพรางนี้ของอ๋องหลีเรื่องนี้ ถือว่านางคิดผิดพลาด!สีหน้าของนางเย็นยะเยือก ตอนที่กำลังจะหันหลังกลับเดินออกไป ด้านหลัง ชายหนุ่มเอ่ยปากพูดอีกครั้ง“พระชายาอ๋องเฉินไม่สบาย ทั้งที่นี่ยังอยู่ไกลจากจวนอ๋องหลี มิสู้โดยสารรถม้าคันเดียวกันกับเจียวเจียว กลับไปพร้อมกันดีหรือไม่?”เขาโบกมืออย่างมีน้ำใจ รถมาของจวนอ๋องหลีเคลื่อนเข้ามาหาฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว“ไม่ต้องการน้ำใจจอมปลอมของเจ้า”สาวเท้ากำลังจะเดินออกไปชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ กล่าวเสียงเบา“เจ้าไม่กลับด้วยกันกับเจียวเจียว ก็จะเป็นการยืนยันว่าความสัมพันธ์พี่น้องระหว่างเจ้ากับเจียวเจียวไม่ปรองดองกันไม่ใช่หรือ? แล้วก็จะเป็นการยืนยันว่าเรื่องที่เจ้าชักนำเจียวเจียว ใส่ร้ายป้ายสีข้าเป็น