“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเช่นกัน พวกคนงานขุดภูเขาแร่ลูกนี้อยู่สี่ชั่วยามกว่า ๆ แต่ข้างในมีความผิดปกติมากมาย ข้าทำงานมาหลายปี ไม่เคยเห็นเรื่องที่ผิดปกติเช่นนี้มาก่อนเลย ถึงขนาดนี้ที่ไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดทั่วไปได้”เฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้ว สีหน้าหนักใจนายท่านรองกู้โบกมือ “อ๋องเฉินอย่าเพิ่งร้อนใจ ภายในภูเขาเต็มไปด้วยวิญญาณธรรมชาติ ห่างไกลจากความวุ่นวายของมนุษย์ ก็เหมือนว่าได้กลายเป็นวิญญาณ มีปรากฏการณ์มากมายที่ไม่สามารถอธิบายได้”“โชคดีที่ตระกูลกู้ของพวกเรามีความรู้ และประสบการณ์มากมาย ข้าขอเข้าไปดูในถ้ำก่อน แล้วค่อยว่ากันก็ยังไม่สาย”เขาอยากจะเข้าไปดูท่าทางอันน่าเวทนาของฉู่เชียนหลีอย่างอดรนทนไม่ไหวแล้วตอนเช้ายังมีท่าทีที่ลำพองใจ มั่นใจในตัวเองขนาดนี้ ตอนนี้ก็เป็นการตบหน้าตัวเองแล้วอยากจะลองถามนางดูว่า เจ็บหน้าหรือไม่?เฟิงเย่เสวียนถอนหายใจเบา ๆ “ก็ดี ก็ดี...หัวหน้าตระกูลกู้ เชิญ”เขาสาวเท้า เดินไปข้างหน้า นายท่านรองกู้กับกู้ชิงชิงตามข้างหลังไปติด ๆเมื่อเข้าไปภายในถ้ำเหมือง บรรยากาศหนาวเย็นกดดันนายท่านรองกู้พลางเดิน พลางกล่าวปลอบใจ “อ๋องเฉินอย่ากังวลใจจนเกินไป เม
นายท่านรองกู้ “...”กู้ชิงชิง “...”จู่ ๆก็อยากจะบีบคอฉู่เชียนหลีเสียให้ตาย...นี่มันเห็นผีที่ไหนกัน? เห็นชัด ๆว่ามาที่นี่เพื่อโอ้อวด!“อาจจะเป็นเพราะพวกเราดวงดีก็ได้นะ” น้ำเสียงเบา ๆของเฟิงเย่เสวียนดังขึ้น “เมื่อครู่หัวหน้าตระกูลกู้กล่าวว่า เขาขุดแร่มาหลายปี มีเรื่องแปลกประหลาดอะไรที่ไม่เคยเห็นบ้าง? การขุดภูเขาแร่สองลูกติดต่อกันแบบนี้ ก็เป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ”“ใช่หรือไม่ หัวหน้าตระกูลกู้?”สีหน้าของนายท่านรองกู้เขียวคล้ำ มีเลือดคำหนึ่งอยู่ในลำคอ คายออกมาไม่ได้ กลืนลงไปก็ไม่ได้ เกือบจะทำให้ตนเองสำลักตาย“อาเฉิน ข้าคิดว่าข้าโดนของแล้ว เหตุใดดวงของข้าถึงได้ดีขนาดนี้นะ? ข้ามันก็แค่คนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีความสามารถคนหนึ่งนี่!” ฉู่เชียนหลีเอามือกุมทรวงอก ส่ายหน้ากล่าว“เชียนหลี ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าว่าตัวเองแบบนี้” เฟิงเย่เสวียนจับมือเล็กของนางเอาไว้ “ดวงดีก็คือความสามารถอย่างหนึ่ง คนอื่นอยากได้ก็ร้องขอไม่ได้”“แต่ข้าแค่ขุดไปตามอำเภอใจเท่านั้น แค่ลองเสี่ยงดวงดู ข้าจะไปเก่งกว่าตระกูลกู้ได้อย่างไรกัน?”“เชียนหลีอย่าคิดเช่นนี้ เมื่อเช้าหัวหน้าตระกูลกู้พูดแล้วว่า ถือเป็นการตัดสินแพ้ชนะ คิดว
แบ่งผลตัดสินแพ้ชนะแล้ว โดยปล่อยให้คนในวังขุดแร่อยู่ที่นี่ ฉู่เชียนหลีและคนอื่น ๆ ยกขบวนกลับเมืองหลวงเดิมพันของทั้งสองฝ่ายแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวง ตอนกลับถึงเมืองหลวง เมื่อบรรดาชาวบ้านเห็น ก็ยิ่งวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุดหย่อนในวังหลวงฝ่าบาทได้รับข่าวคราวอย่างละเอียด ดีใจจนมารอรับทั้งสองฝ่ายอยู่ในอุทยานหลวง“ภรรยาเจ้าเจ็ด หัวหน้าตระกูลกู้ กลับมาเร็วขนาดนี้เลยหรือฮ่า ๆ!” ฝ่าบาทเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่าทางภาคภูมิ อย่าถามว่าอารมณ์ดีมากขนาดไหนเลยนายท่านรองกู้ใบหน้าอึมครึม ดูแย่มากหลังจากเสร็จสิ้นพิธี ทุกคนนั่งลง“ผลงานของพวกเจ้าเรารู้แล้ว ช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์และฝีมือจริง ๆ แต่ละรุ่นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆฮ่า ๆ ๆ! หัวหน้าตระกูลกู้เจ้าว่าใช่หรือไม่? ฮ่า ๆ ๆ!”นายท่านรองกู้สีหน้าหมองหม่นขึ้นเรื่อย ๆฝ่าบาทดีใจเป็นอย่างยิ่ง สายตาที่มองไปทางฉู่เชียนหลีด้วยความพึงพอใจมากแค่ไหน ภาคภูมิใจมากแค่ไหนหลายร้อยปีมานี้ ราชวงศ์พึ่งพาตระกูลกู้มาโดยตลอด ถึงได้มีแหล่งที่มาของเหล็กดิบได้อย่างมั่นคง ตอนนี้ดีแล้ว ตนมั่นใจในเทคนิคการสำรวจ ควบคุมกิจการเหล็กของราชวงศ์อยู่ในมือ ก็ไม่กลัวการควบคุมจากตระกู
นี่…ฮ่องเต้ก็เอ่ยปากแล้ว ฉู่เชียนหลียังจะไม่ตอบตกลงหรือ?การขุดเหมืองเป็นงานใช้กำลัง และนางก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกบ่อยนัก ของสิ่งนี้อยู่ในมือก็ไม่ได้ใช้ ตรงกันข้ามสามารถอุทิศให้บ้านเมือง มอบให้ฮ่องเต้ ยังสามารถช่วยเฟิงเย่เสวียนทำผลงานด้วย เป็นประโยชน์ต่อการแข่งขันเพื่อขึ้นครองราชย์ในวันข้างหน้านางเพิ่งจะพยักหน้า เฟิงเย่เสวียนที่อยู่ข้างกาย“จะให้ท่านก็ได้ แต่หม่อมฉันมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ”นาง “?”คุยเงื่อนไขกับฮ่องเต้?ฮ่องเต้ตะลึงงันก่อน จากนั้นก็หัวเราะ “เจ้าเด็กนี่ เจ้านี่มันไม่ยอมขาดทุนแม้แต่น้อยจริงๆ มีเงื่อนไขอะไร พูดมาเถอะ”“หากสามารถให้ได้ เราก็ให้ ถ้าหากให้ไม่ได้ เราค่อยลองคิดหาวิธี”เฟิงเย่เสวียนกวาดมองท้องฉู่เชียนหลีแวบหนึ่ง เขากล่าว“ชื่อของลูก หม่อมฉันเป็นคนตั้ง”ฮ่องเต้ “?”หรือชื่อที่เขาตั้งมันไม่เพราะ?“เจ้าเจ็ด เจ้าพูดเช่นนี้มันทำร้ายจิตใจเราไปหน่อยแล้ว เพื่อที่จะตั้งสองชื่อนี้ เราเปิดอ่านตำราโบราณ พจนานุกรมชื่อ หนังสือโบราณ หนังสือฮวงจุ้ย และหนังสือทำนายดวงมากมาย ชื่อนี้เรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมแก่นแท้ของฟ้าดิน และความรุ่งโรจน์ของสุริยาจันทราเข้าด้วยกัน เป็นชื
จวนอ๋องเฉินทั้งสองกลับมา หลิงเชียนอี้ได้รับข่าว ก็รีบวิ่งมาหาทันที“น้าสะใภ้ คิดไม่ถึงว่าท่านจะชนะตระกูลกู้! โอ้สวรรค์! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ท่านคือแบบอย่างของข้า!”พุ่งพรวดเข้ามาด้วยความตื่นเต้น ก็จะมอบกอดอันอบอุ่นให้ฉู่เชียนหลี แต่ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกเฟิงเย่เสวียนคั่นออกไปอย่างรังเกียจหลิงเชียนอี้เบะปากทีหนึ่ง แววตาเผยให้เห็นความไม่พอใจ“ข้าตื่นเต้นมาก กอดหน่อยสิ เหตุใดท่านน้าจึงขี้งกเช่นนี้ ทำเหมือนเป็นเด็กผู้หญิงไปได้”หลายวันมานี้ ทั้งเมืองหลวงมีการถกเถียง ล้วนบอกว่าพระชายาอ๋องเฉินจะแพ้ผลปรากฏว่ากลับทำให้ทุกคนตกใจจนอ้าปากค้างเฟิงเย่เสวียนยกเปลือกตา มองไปทางอวิ๋นอิงที่อยู่ข้างๆ แล้วกวักมือ “เจ้ามานี่”อวิ๋นอิงตะลึงงันไปครู่หนึ่ง มองไปทางฉู่เชียนหลีโดยไม่รู้ตัว“ทำอะไร?” หลิงเชียนอี้ถาม“ข้าเห็นว่านางหน้าตางดงาม อยากลองกอดดูเสียหน่อย”“...”หลิงเชียนอี้พูดอะไรไม่ออกทันที รีบปล่อยมือ กอดภรรยาของตนเองแน่น“ก็แค่กอดเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย เจ้าจะขี้งกเกินไปแล้วกระมัง?” เฟิงเย่เสวียนคืนคำพูดนี้กลับไปให้หลิงเชียนอี้อย่างแผ่วเบาหลิงเชียนอี้พูดอะไรไม่ออกแล้ว “...”
เฟิงเย่เสวียนรังเกียจ “เหตุใดทำเหมือนไม่เคยเจอเห็นผู้หญิง?”“ก็ข้าไม่เคยเจอ จะทำไมล่ะ!” เถียงอย่างเด็กทรพี อุ้มภรรยาที่ยังไม่ได้แต่งเข้าจวนไว้ ไม่ต้องพูดถึงว่าทะนุถนอมเพียงใดทำเอาอวิ๋นอิงเขินอายมากฉู่เชียนหลียิ้มแล้วยิ้มอีก มองดูบัตรเชิญฉบับนั้น รอยยิ้มหายไป“กลัวแต่ว่าตระกูลกู้จะไม่ยอมง่ายๆ”ตอนที่อยู่เขาอวี้หลง นายท่านรองกู้นั่นสามารถทำแม้แต่เรื่องขโมยแร่ยามวิกาล ไม่ใช่คนซื่อตรงอะไร เขายินยอมยกเลิกสัญญาแต่งงานจริงหรือ?“ท่านโหวน้อยอย่าประมาท คืนพรุ่งนี้ไปบ้านตระกูลกู้ ข้าส่งคนไปปกป้องเจ้า”ในใจหลิงเชียนอี้มีแต่อวิ๋นอิง และรวมถึงเรื่องแต่งงาน จะมีเวลาไปสนใจแผนของตระกูลกู้เสียที่ไหน?จับมือของอวิ๋นอิง มองนางอย่างจริงจัง กล่าวทีละคำ“อวิ๋นอิง พรุ่งนี้หลังพวกเรากลับจากบ้านตระกูลกู้ ข้าก็พาเจ้ากลับบ้าน กลับจวนโหวติ้งกว๋อ ไปพบพ่อแม่ข้า ดีหรือไม่?”พลันอวิ๋นอิงแน่นหน้าอก ดูอึดอัดเล็กน้อย สายตามองไปทางฉู่เชียนหลีเหมือนขอความช่วยเหลือต่อให้เป็นคนนิสัยโผงผาง แต่เวลาเผชิญหน้ากับเรื่องเช่นนี้ ก็คือกระต่ายน้อยที่ไม่มีประสบการณ์ดีๆ นี่เองฉู่เชียนหลียิ้ม บอกใบ้ให้นางสบายใจได้ก่อนห
หลิงเชียนอี้ยืนกรานหนักแน่นมาก อวิ๋นอิงเถียงไม่ไหว ได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจในเรือนหานเฟิงฉู่เชียนหลียังคงกังวลเล็กน้อย นางรู้สึกว่าตระกูลกู้ไม่ได้คุยง่ายเช่นนั้น ไม่วางใจปล่อยให้หลิงเชียนอี้กับอวิ๋นอิงไปกันสองคน นางก็เตรียมตัวไปด้วยเฟิงเย่เสวียนคิดว่านางกังวลมากเกินไป“เชียนหลีคิดมากเกินไปหรือไม่? ปัจจุบัน ตระกูลกู้ไม่สามารถอาศัยกิจการเหล็กอวดอ้างบารมีอีกแล้ว ถ้าหากพวกเขากล้าเล่นสกปรกในงานเลี้ยง ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับราชวงศ์ นอกเสียจากนายท่านรองกู้นั่นอยากถูกประหารเก้าชั่วโคตร”เหตุและผลน่ะเป็นเช่นนี้ แต่ไม่มีอะไรที่แน่นอนถ้าเกิดล่ะ?“ข้าก็ไปตระกูลกู้ด้วย ตระกูลกู้สัญญาว่าจะมอบกิจการครอบครัวให้ข้าสี่ส่วน ข้าแวะไปรับด้วยเลย”“เช่นนั้นข้าก็ไป”“เจ้ามีเวลาหรือ?”“เจ้าอยู่ที่ไหน ข้าก็อยู่ที่นั่น”“ก็ดี หานเฟิงไม่อยู่ หานอิ๋งก็มีงานติดตัว ข้าเรียกจิ่งอี้ไปด้วย วรยุทธ์ของเขาไม่เลว มีเขาอยู่ ไม่น่าเกิดปัญหาอะไร”ทั้งสองหารือกันครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเกือบได้เวลาแล้ว จึงจะออกจากเรือนหานเฟิงเรือนที่อยู่ข้างๆ หลิงเชียนอี้จูงมืออวิ๋นอิงออกมาทันใดนั้น ตาเป็นป
“นี่ จิ่งอี้ เจ้าดู ท่านโหวน้อยตามกู้ชิงชิงเข้าไปแล้ว เหตุใดมีเพียงอวิ๋นอิงยืนอยู่ข้างนอกคนเดียว?”จางเฟยเพิ่งพูดคำนี้จบ จิ่งอี้เงยหน้าขึ้นทันทีจุดที่ไม่ไกลนัก อวิ๋นอิงยืนอยู่ที่หน้าประตูเพียงลำพัง ไม่ได้เข้าไป แต่ก็ไม่ได้จากไป ก้มหน้าเล็กน้อย มองเห็นสีหน้าไม่ชัด ร่างเงาที่เพรียวบางนั่นดูแล้วให้ความรู้สึกบอบบางหลายส่วน งานเลี้ยงอาหารค่ำเริ่มแล้ว นางกลับไม่เข้าไป?เขาขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืน“เอ๋? จิ่งอี้ เจ้าจะไปไหน? จิ่ง…”จางเฟยพูดไม่ทันจบ จิ่งอี้ได้เดินไปทางอวิ๋นอิงแล้วสองตาของเขาเบิกกว้างทันทีเชี่ย!งานเลี้ยงอาหารค่ำวันนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องของกู้ชิงชิง ท่านโหวน้อย และอวิ๋นอิงสามคน เจ้าจิ่งอี้นี่ไปยุ่งอะไร!“เหตุใดไม่เข้าไป?”ยามราตรีที่เงียบสงบ เสียงที่ทุ้มต่ำของเขาไพเราะมากอวิ๋นอิงเงยหน้าขึ้น มองเห็นเขา ประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่ส่ายศีรษะ “ข้ารอพระชายา”“คุณหนูกู้หาเรื่องเจ้า ไม่ให้เจ้าเข้าไปใช่หรือไม่?” จิ่งอี้มองตาของนาง ดวงตาที่เฉียบคมและลึกล้ำนั่น ราวกับสามารถมองทะลุทุกสิ่งแววตาอวิ๋นอิงสั่นไหวทีหนึ่งถูกมองความจริงออก นางกระอักกระอ่ว