หลิงเชียนอี้ยืนกรานหนักแน่นมาก อวิ๋นอิงเถียงไม่ไหว ได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจในเรือนหานเฟิงฉู่เชียนหลียังคงกังวลเล็กน้อย นางรู้สึกว่าตระกูลกู้ไม่ได้คุยง่ายเช่นนั้น ไม่วางใจปล่อยให้หลิงเชียนอี้กับอวิ๋นอิงไปกันสองคน นางก็เตรียมตัวไปด้วยเฟิงเย่เสวียนคิดว่านางกังวลมากเกินไป“เชียนหลีคิดมากเกินไปหรือไม่? ปัจจุบัน ตระกูลกู้ไม่สามารถอาศัยกิจการเหล็กอวดอ้างบารมีอีกแล้ว ถ้าหากพวกเขากล้าเล่นสกปรกในงานเลี้ยง ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับราชวงศ์ นอกเสียจากนายท่านรองกู้นั่นอยากถูกประหารเก้าชั่วโคตร”เหตุและผลน่ะเป็นเช่นนี้ แต่ไม่มีอะไรที่แน่นอนถ้าเกิดล่ะ?“ข้าก็ไปตระกูลกู้ด้วย ตระกูลกู้สัญญาว่าจะมอบกิจการครอบครัวให้ข้าสี่ส่วน ข้าแวะไปรับด้วยเลย”“เช่นนั้นข้าก็ไป”“เจ้ามีเวลาหรือ?”“เจ้าอยู่ที่ไหน ข้าก็อยู่ที่นั่น”“ก็ดี หานเฟิงไม่อยู่ หานอิ๋งก็มีงานติดตัว ข้าเรียกจิ่งอี้ไปด้วย วรยุทธ์ของเขาไม่เลว มีเขาอยู่ ไม่น่าเกิดปัญหาอะไร”ทั้งสองหารือกันครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเกือบได้เวลาแล้ว จึงจะออกจากเรือนหานเฟิงเรือนที่อยู่ข้างๆ หลิงเชียนอี้จูงมืออวิ๋นอิงออกมาทันใดนั้น ตาเป็นป
“นี่ จิ่งอี้ เจ้าดู ท่านโหวน้อยตามกู้ชิงชิงเข้าไปแล้ว เหตุใดมีเพียงอวิ๋นอิงยืนอยู่ข้างนอกคนเดียว?”จางเฟยเพิ่งพูดคำนี้จบ จิ่งอี้เงยหน้าขึ้นทันทีจุดที่ไม่ไกลนัก อวิ๋นอิงยืนอยู่ที่หน้าประตูเพียงลำพัง ไม่ได้เข้าไป แต่ก็ไม่ได้จากไป ก้มหน้าเล็กน้อย มองเห็นสีหน้าไม่ชัด ร่างเงาที่เพรียวบางนั่นดูแล้วให้ความรู้สึกบอบบางหลายส่วน งานเลี้ยงอาหารค่ำเริ่มแล้ว นางกลับไม่เข้าไป?เขาขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืน“เอ๋? จิ่งอี้ เจ้าจะไปไหน? จิ่ง…”จางเฟยพูดไม่ทันจบ จิ่งอี้ได้เดินไปทางอวิ๋นอิงแล้วสองตาของเขาเบิกกว้างทันทีเชี่ย!งานเลี้ยงอาหารค่ำวันนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องของกู้ชิงชิง ท่านโหวน้อย และอวิ๋นอิงสามคน เจ้าจิ่งอี้นี่ไปยุ่งอะไร!“เหตุใดไม่เข้าไป?”ยามราตรีที่เงียบสงบ เสียงที่ทุ้มต่ำของเขาไพเราะมากอวิ๋นอิงเงยหน้าขึ้น มองเห็นเขา ประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่ส่ายศีรษะ “ข้ารอพระชายา”“คุณหนูกู้หาเรื่องเจ้า ไม่ให้เจ้าเข้าไปใช่หรือไม่?” จิ่งอี้มองตาของนาง ดวงตาที่เฉียบคมและลึกล้ำนั่น ราวกับสามารถมองทะลุทุกสิ่งแววตาอวิ๋นอิงสั่นไหวทีหนึ่งถูกมองความจริงออก นางกระอักกระอ่ว
จิ่งอี้หมุนกายก็จะไป เยว่เอ๋อร์เอ่ยปากโดยไม่รู้ตัว“คุณชายจิ่ง!”พอพูดออกไป ก็แน่นหน้าอกฉับพลัน และประหม่าขึ้นมาทันที เมื่อเขาหันมามองนาง หัวใจยิ่งเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากลำคอ ใบหน้าก็อดไม่ได้ที่จะแดงความวู่วามที่รุนแรงสายหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในจิตใจ… นางจับสองมือแน่น พยายามกลืนน้ำลาย รวบรวมความกล้า ในที่สุดคำพูดที่ถูกซ่อนไว้ในก้นบึ้งของหัวใจนานมากก็ถูกพูดออกมา“คุณชายจิ่ง ข้า…ข้าชอบท่าน…”ก้มหน้าต่ำอย่างเขินอาย ใบหน้าแดงเหมือนกุ้งที่ต้มจนสุก ประหม่าจนร่างกายหดเกร็ง รอคำตอบของเขาอย่างคาดหวังจิ่งอี้ขมวดคิ้วนาง?ชอบเขา?อะไรกัน?“ข้านิสัยจืดชืด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง ขอบคุณความรักของแม่นางเยว่เอ๋อร์” เขาปฏิเสธอย่างเฉยเมย ยกเท้าเดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรมากอีกเยว่เอ๋อร์เหมือนถูกน้ำเย็นกะละมังหนึ่งรดใส่ศีรษะ เย็นวูบตั้งแต่หัวจรดเท้ารอยยิ้มแข็งทื่ออยู่บนใบหน้าหัวใจทั้งดวงจมลงสู่หุบเหวในพริบตา…คุณชายจิ่งปฏิเสธนาง เขาไม่ชอบนาง และยังบอกว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอะไรอีก แต่ทั้งๆ ที่เขาดีต่ออวิ๋นอิงมากทั้งๆ ที่เขาชอบอวิ๋นอิง!เพราะเหตุใด?นางสู้อวิ๋นอิงไม่ได้ตรงไหนกันแน่?
ความคับข้องใจและความทุกข์เต็มอก ไม่มีที่ระบาย…ไม่ยุติธรรมเลย!ตอนนั้น พระชายาอยู่จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ไม่ได้รับความโปรดปราน และถูกเหยียดหยามรังแก นางเป็นคนที่เคียงข้างพระชายาเดินผ่านช่วงเวลาที่ลำบากนั้น ในที่สุดก็ได้ลืมตาอ้าปาก อวิ๋นอิงกลับเก็บเกี่ยวความสำเร็จทั้งหมดไปสิ่งนี้จะให้นางไม่โมโห ไม่เกลียดชัง ไม่หงุดหงิดได้อย่างไร?เยว่เอ๋อร์ร้องไห้นานมากนานมากท่ามกลางเสียงสะอึกสะอื้น จู่ๆ ก็มีเสียงที่ทุ้มต่ำของผู้ชายแทรกเข้ามา “รีบไปที่งานเลี้ยง พระชายามีอันตราย”เยว่เอ๋อร์ตะลึงงันครู่หนึ่งมีคนอยู่?นางรีบเช็ดน้ำตา สงบสติอารมณ์แล้วลุกขึ้นอย่างเร่งรีบ เห็นร่างเงาสายหนึ่งที่คาดคิดไม่ถึง…อ๋องหลี?!“ที่ท่านพูดเมื่อครู่หมายความว่าอย่างไร?” เสียงที่แหบแห้งของนางปนเสียงสะอื้น ดวงตาแดงก่ำเฟิ่งเจิ้งหลียืนอยู่ตรงจุดที่ย้อนแสง กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับยามราตรี น้ำเสียงเคร่งขรึมมาก“ตระกูลกู้ไม่มีทางยกเลิกสัญญาแต่งงานกับท่านโหวน้อย กลับกันจะฆ่าอวิ๋นอิงให้ตาย งานเลี้ยงของคืนนี้จัดขึ้นที่ห้องเก็บของ ในห้องเก็บของมีดินปืนกองเต็มไปหมด ตระกูลกู้เตรียมตัวใช้ข้ออ้าง ‘ไม่ระวังเกิดเพลิงไหม้’ จุด
ในงานเลี้ยง สองสามีภรรยาอ๋องเฉินจากไป ท่านรองกู้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก คำพูดคำจาก็องอาจขึ้น เขาชวนท่านโหวน้อยดื่มไม่หยุดหลิงเชียนอี้เพราะอารมณ์ดี จึงไม่ระวังดื่มเยอะไปหน่อย มึนเมาเล็กน้อย ถูกคนรับใช้พาไปพักผ่อนที่ห้องข้างๆตรงที่นั่ง เหลืออวิ๋นอิงคนเดียวทันทีท่านรองกู้กับกู้ชิงชิงสบตากันแวบหนึ่ง สองพ่อลูกใช้สายตาสื่อสารอะไรบางอย่าง…ข้างนอกฉู่เชียนหลีประคองเยว่เอ๋อร์ มาถึงสถานที่เงียบสงบและโล่งกว้าง นั่งลงพักผ่อนครู่หนึ่ง ตรวจชีพจรของนางยังคงเป็นปกติ“ยังปวดหรือไม่?” นางถามเยว่เอ๋อร์กุมท้องหลังงอ เบ้าตาแดง หางตามีน้ำตา กัดริมฝีปากแน่น“อืม…”ท่าทางที่สะอึกสะอื้นของนาง ไม่เหมือนเสแสร้งฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว ครุ่นคิดสองวินาทีแล้วกล่าว “เยว่เอ๋อร์ เจ้านั่งอยู่ที่นี่ก่อน ข้าไปหาขี้เถ้าก้นหม้อที่ห้องครัว ดื่มพร้อมกับน้ำ”นี่เป็นสูตรยาพื้นบ้านก้นหม้อเป็นจุดที่ถูกเผาทุกวัน ร้อนระอุทุกวัน ส่วนขี้เถ้าที่ติดอยู่ก้นหม้อเป็นของพลังหยางที่ขจัดสิ่งชั่วร้าย ชาวบ้านมักจะใช้รักษาอาการปวดท้อง นอนไม่หลับ เด็กได้รับความตกใจ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้กับเด็กทารก และอื่นๆ“ข้าไปกับเจ้า” เฟิ่งเย่เ
นางชี้ไปทิศทางหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ“ท่านรีบลองไปดูหน่อยเถอะ ถ้าหากพวกเขามีแผนจริงๆ ก็สามารถหาหลักฐานได้ทันเวลา ลงโทษตระกูลกู้! ลุงจาง ท่านรู้สึกว่าที่ข้าพูดมีเหตุผลหรือไม่?”จางเฟยครุ่นคิดเหมือนจะเป็นเช่นนี้จับโจรจับของกลาง จับชู้จับทั้งคู่ อย่างไรก็ต้องมีหลักฐานที่แน่นอน จึงจะสามารถพิสูจน์ว่าตระกูลกู้มีเจตนาร้าย“นางหนูเยว่เอ๋อร์ เช่นนั้นข้าลองไปดูหน่อย เจ้ารีบไปบอกอวิ๋นอิงกับท่านโหวน้อยที่งานเลี้ยง พวกเราแยกกันทำงาน เป็นอย่างไร?”“ได้”จางเฟยพยักหน้า ก็เดินไปตามทิศทางที่เยว่เอ๋อร์ชี้แล้วหารู้ไม่ ทิศทางที่เขาไปเป็นโรงเก็บของของตระกูลกู้ เป็นสถานที่ที่ใช้เก็บดินปืนโดยเฉพาะเพิ่งเดินผ่าน ก็มีเสียงระเบิดที่รุนแรงดังลั่นท้องฟ้ายามค่ำคืนปัง!เสียงดังสนั่น!เหมือนกับสายฟ้าแล่นผ่านข้างหู สะเทือนจนหูอื้อ ระลอกคลื่นที่รุนแรงกระจายเป็นวงกว้าง กิ่งก้านต้นไม้ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ใบไม้ปลิวว่อน เศษหินกระจายไปทั่ว ทำเอาเหล่าคนรับใช้กรีดร้องไม่หยุด วิ่งหนีกันอย่างเตลิดเปิดเปิง หัวใจของเยว่เอ๋อร์เหมือนถูกก้อนหินทุบ สะเทือนจนหายใจไม่ออกเป็นเวลานานนางกุมหน้าอก วิ่งเข้าไปดูห้องจัดเ
หลังจากทำเสร็จ เยว่เอ๋อร์รีบถอยออกไปไกลเล็กน้อย มองห้องจัดเลี้ยงที่มีควันปกคลุม และยุ่งเหยิงไปหมดแวบหนึ่ง แสร้งทำทีตื่นตระหนก พลางวิ่งเหยาะๆ พลางตะโกนไปด้วย“พระชายา! ท่านอ๋อง พวกท่านอยู่ที่ไหน? อวิ๋นอิง ท่านโหวน้อย พวกเจ้าไม่เป็นอะไรกระมัง!”เหล่าคนรับใช้วุ่นวายไปหมด“ไฟไหม้ห้องเก็บของ!”“รีบไปตักน้ำ!”“ปกป้องนายท่านกับคุณหนู…”เวลานี้เอง ฉู่เชียนหลีที่อยู่ทางห้องครัวเพิ่งมาถึง มองเห็นที่เกิดเหตุ สีหน้าขรึมลงแล้ว รีบเดินเข้าไปคว้ามือเยว่เอ๋อร์“เกิดอะไรขึ้น!”เยว่เอ๋อร์ร้องไห้ “พระชายา ท่านไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!”นางตกใจมาก “ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้านั่งอยู่บนบันไดตรงข้างนอก จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังสนั่น ก็กลายเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่รู้ว่าอวิ๋นอิงกับเยว่เอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว ข้าหาพวกเขาไม่เจอ หวังว่าจะไม่เป็นอะไรนะ!”ดินปืนของตระกูลกู้ ใช้เพื่อระเบิดภูเขาเปิดเหมือง อานุภาพรุนแรงมากดินปืนถูกจุดชนวน ห้องเก็บของโดนระเบิดเสียหายทั้งหลัง แม้แต่ห้องจัดเลี้ยงที่อยู่ข้างๆ ก็ถูกระเบิดจนกำแพงล้ม หลังคาปลิวว่อน และยังเกิดไฟไหม้ ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ทั้งสำลัก และบดบังทัศนวิสัย
ฉู่เชียนหลีจ้องท่านรองกู้อย่างเย็นชา “มีเรื่องอะไรที่ท่านทำไม่ลงบ้าง?”“ท่าน!”ท่านรองกู้ชะงักพลันนางยกมือขึ้น กระชากคอเสื้อของท่านรองกู้ ดึงเขาเข้ามาที่ตรงหน้า “ข้าขอบอกท่าน เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่นอน ในเมื่อท่านเปิดฉากเรื่องนี้ กล้าลงมือเช่นนี้ ก็รอ ‘คำทักทาย’ ของจวนอ๋องเฉินกับจวนโหวติ้งกว๋อเถอะ!”ผลักเขาออกไปอย่างเย็นชาท่านรองกู้ที่ขาบาดเจ็บยืนไม่มั่นคง เซล้มลงบนพื้น เขามองไปทางฉู่เชียนหลีที่สีหน้าเย็นชา ถึงกับรู้สึกว่าท่าทางที่เคร่งขรึมของนาง น่าเกรงขามมากท่านรองกู้ขมวดคิ้วเขารู้สึกว่าบนตัวฉู่เชียนหลีมีกลิ่นอายที่น่าเกรงขาม?เขาอยู่มาครึ่งชีวิตแล้ว ท่องยุทธภพ ขึ้นเหนือลงใต้ คนอย่างไรที่ไม่เคยเจอ จะกลัวเด็กผู้หญิงอายุสิบกว่าปีได้อย่างไร?ทั้งตระกูลกู้วุ่นวายไปหมดผ่านไปนานมาก ผลพวงจากการระเบิดจึงจะสงบลง รอฝุ่นควันที่กระจายไปทั่วจางลงเล็กน้อย ในซากปรักหักพังที่ยับเยิน ร่างเงาหลายสายค่อยๆ เดินออกมา“อวิ๋นอิง!”มือซ้ายเฟิงเย่เสวียนประคองอวิ๋นอิง มือขวาประคองท่านโหวน้อย เดินออกมาอย่างไวทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บตอนระเบิด หลิงเชียนอี้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขากดอวิ๋นอิงไว้ใต้ร
“เช่นนั้นพวกเราเหมือนเดิมพันกัน”“เดิมพันก็เดิมพัน!”นอกหอน้ำชาจวินลั่วยวนมาถึง หลังจากสอบถามข้อมูลคร่าวๆ จากเด็กในร้าน ก็ย่องขึ้นไปบนชั้นสอง เข้าใกล้ห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง เพิ่งแนบหูเข้าไป ก็ได้ยินเสียงสนทนาข้างในเสียงของฉู่เชียนหลี“โรคร้อนอันตรายมาก แค่ไม่ระวังเล็กน้อยก็จะกำเริบ ตอนที่ข้ารักษาเจ้า ต้องเปิดจุดชีพจร กรีดเปิดแผลบนมือและเท้าสี่จุด ใช้เลือดของข้าแลกกับเจ้าครึ่งหนึ่ง ในระหว่างนี้ห้ามถูกรบกวนเด็ดขาด”ลดเสียงกล่าวอย่างจริงจัง“ไม่เช่นนั้น กำลังภายในจะย้อนกลับ ห้ามเลือดไม่ได้ ถึงเวลา ข้าจะตาย เจ้าก็เจ้าตาย”จวินลั่วยวนประหลาดใจฉู่เชียนหลีสามารถรักษาโรคร้อน?ยิ่งกว่านั้น!ประเด็นสำคัญคือ!ห้ามถูกขัดจังหวะกลางคันเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นฉู่เชียนหลีกับองค์ชายสามล้วนจะตาย!ฉู่เชียนหลีตายแล้ว ตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉินก็ว่าง อยากได้อ๋องเฉิน ก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือแล้วไม่ใช่หรือ?ทันใดนั้น แววตาเร่าร้อนทันทีตื่นเต้นคาดหวังแทบรอไม่ไหวนางกำลังจะเป็นพระชายาอ๋องเฉินแล้ว!การสนทนาภายในห้องกินเวลานานหนึ่งเค่อ ก่อนจะจบลง จวินลั่วยวนรีบวิ่งไปซ่อนตัวที่หัวมุม ประตูห้องเปิดออ
จวินลั่วยวนยกมือทั้งสองข้างขึ้น วางลงไปที่คอของฮองเฮาทันใดนั้น ร่างกายของฮองเฮาหนานยวนขยับเล็กน้อย นางรีบดึงมือกลับ ลุกขึ้นยืน และกลับมาดูเป็นเด็กดีอีกครั้ง“ซวงซวง ทางเสด็จพี่สามของข้าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”ซวงซวงวิ่งเข้ามา“เมื่อครู่ทางองครักษ์มารายงาน หลังจากเสด็จพี่สามออกไป เจอสามีภรรยาอ๋องเฉิน ตอนนี้พวกเขาเข้าไปในหอน้ำชาแล้ว ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันลับๆ เจ้าค่ะ”“?”พวกเขายังมีเรื่องให้คุยกันอีกหรือ?เสด็จพี่สามไม่ได้ไปสืบเรื่องของคนร้าย?เหตุใดยังสามารถคุยกับสามีภรรยาอ๋องเฉินดีๆ อีก?คุยอะไรกัน?หรือเป็นความลับที่นางไม่รู้?จวินลั่วยวนไม่อนุญาตให้มีเรื่องที่อยู่เหนือกันควบคุมของนาง กล่าวทันที “ซวงซวง เจ้าเฝ้าเสด็จแม่ไว้ ข้าลองไปดูหน่อย!”“เจ้าค่ะ องค์หญิง!”หอน้ำชาห้องส่วนตัวจวินชิงอวี่นั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ สีหน้าดูไม่ดีนัก และยังบึ้งตึงเหมือนจะกินคน กัดฟันจนดังก๊อกๆ“ท่านกล้าบอกว่ายวนเอ๋อร์เป็นคนวางยา!”จ้องฉู่เชียนหลีด้วยความโกรธโมโหมากถ้าหากไม่ใช่เพราะอ๋องเฉินนั่งอยู่ที่ข้างๆ เกรงว่าเขาลงมือโดยตรงแล้วฉู่เชียนหลีกล่าว“ตอนที่พวกเราออกจากศาลาพักม้า องครักษ์ลับ
ฉู่เชียนหลี “องค์หญิงมั่นใจในตัวเองจริงๆ เหมือนจะลืมไปแล้วว่าผู้หญิงที่ถูกอ๋องเฉินโยนออกไปเป็นใคร?”“...”รออ๋องเฉินถีบฉู่เชียนหลีทิ้ง นางจะจับฉู่เชียนหลีมาขังไว้ ทรมานทุกวัน ทำให้นางทรมานยิ่งกว่าตายจวินลั่วยวนเถียงไม่ไหว พลันเบ้าตาแดงก็กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของจวินชิงอวี่ หาที่ปลอบใจตัวเองจวินชิงอวี่ย่อมเข้าข้างน้องสาว“ฉู่เชียนหลี ดูจากพฤติกรรมที่ชอบบีบคั้นคนของเจ้า มันก็ไม่แปลกอะไรที่เจ้าจะสามารถวางยาพิษ”อาศัยเพียงแค่การคาดเดา ก็ตัดสินโทษของนางแล้ว?น่าขำ!พี่น้องคู่นี้ คนหนึ่งหน้าไหว้หลังหลอก อีกคนความรักบังตา ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ“มันน่าอัศจรรย์จริงๆ ที่แคว้นหนานยวนของพวกท่านสามารถพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน”จวินชิงอวี่หน้าบึ้งทันที “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ปัญหาส่วนตัว ตอนนี้จะลามปามไปถึงบ้านเมืองแล้ว?“ตามที่พูด”“เจ้า!”เขาโมโหจนจะเดินเข้าไปหานางพลันเฟิงเย่เสวียนยกฝ่ามือใหญ่ ดึงนางมาที่ข้างกาย “ข้าตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกอะไร”ทุกคนรีบหันไปมอง รอคอยคำพูดต่อจากนี้เฟิงเย่เสวียนกล่าวอย่างใจเย็น“แคว้นหนานยวนต่ำช้าเช่นนี้ ต่อให้ข้าแพ้ศึกครั้งนี้ ก็ไม่ร่วม
วันนี้ อย่างไรนางก็จะบีบคั้นฉู่เชียนหลีจนตาย!เหล่าคนรับใช้พากันก้มหน้า หายใจแรง ไม่มีใครกล้าพูดอะไร พระชายาอ๋องเฉินช่วยฮองเฮา เหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ได้ร้ายแรงจนถึงขั้นต้องฆ่าตัวตายกระมั้ง?“องค์ชายสามก็คิดเช่นนี้หรือ?” เฟิงเย่เสวียนถามจวินชิงอวี่เงียบไปครู่หนึ่งคนตัดฟืนถูกฆ่าตายแล้ว ในศาลาพักม้ายังมีหนอนบ่อนไส้คนอื่น บางทีอาจจะไม่ใช่ฝีมือของฉู่เชียนหลีจริงๆ รอตรวจสอบเรื่องนี้จนชัดเจน ค่อยว่ากันก็ยังไม่สาย“ยวนเอ๋อร์”เขาเอ่ยปาก “รอเสด็จแม่ฟื้นแล้ว ดูว่าอาการของเสด็จแม่เป็นอย่างไรบ้าง เรื่องของคนร้าย ข้าให้คนไปสืบแล้ว”เขาอยากพักเรื่องนี้ชั่วคราวแต่จวินลั่วยวนไม่ยอม“เสด็จพี่สาม ท่านเลอะเลือนหรือ? คนร้ายก็อยู่ตรงหน้าแล้ว ท่านยังจะสืบอะไรอีก? ท่านทำเช่นนี้ ไม่เท่ากับเปิดโอกาสให้คนร้ายหนีหรอกหรือ?”ฉู่เชียนหลีหัวเราะคำก็คนร้าย สองคำก็คนร้าย ทุกคำพูดล้วนอยากให้นางตาย ไม่ชอบหน้านางเช่นนี้เลย?“องค์หญิง เจ้าอยากได้ผู้ชายของข้า และยังทำทุกวิถีทางเพื่ออยากบีบให้ข้าตาย เสด็จพี่สามของเจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าเป็นคนชอบแย่งของคนอื่นเช่นนี้?”“!”สีหน้าจวินลั่วยวนเปลี่ยนฉับพลันอยู่ต
สีหน้าของจวินชิงอวี่ดูน่าเกลียดทันที การทำร้ายผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจอะไรจริงๆ แต่เขาสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องน้องสาว“ถ้าหากฉู่เชียนหลีไม่รังแกยวนเอ๋อร์ แล้วข้าจะทำร้ายนางได้อย่างไร”“ฉู่เชียนหลีรังแกคนก่อน การโดนมีดแทงก็คือผลที่นางสมควรได้รับ?”เมื่อเฟิงเย่เสวียนได้ยิน แหงนหน้าหัวเราะ“เหอะ ฮ่าๆๆ!”ฉู่เชียนหลีผิด?“คิดไม่ถึงว่าองค์ชายสามหนานยวน จะรักน้องสาวจนถึงขั้นใจบอด แค่ท่านลองสืบดูดีๆ ก็จะรู้เรื่องที่จวินลั่วยวนเคยยั่วยวนข้า และสืบเจอเรื่องที่ฉู่เชียนหลีจะช่วยท่านตอนที่อาการกำเริบกลางถนน”“น้องสาวคนดีของเจ้า ก็ทำได้แค่หลอกท่านคนเดียวเท่านั้นแหละ”“หุบปาก!”จวินชิงอวี่เสียงดังกะทันหัน กลิ่นอายรอบตัวขรึมลง ดูน่ากลัวเป็นพิเศษเขาไม่อนุญาตให้ใครก็ตามนินทายวนเอ๋อร์!ดูหมิ่นยวนเอ๋อร์ เท่ากับดูหมิ่นเขา ดูหมิ่นแคว้นหนานยวนยวนเอ๋อร์คือองค์หญิงเพียงคนเดียวของราชวงศ์หนานยวนในตลอดสามร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ใครบ้างไม่เห็นนางเป็นแก้วตาดวงใจ?“อ๋องเฉิน ข้าเห็นแก่ความร่วมมือระหว่างสองแคว้น ไม่ถือสาท่าน แต่ถ้าหากท่าน ยังกล้าว่าร้ายยวนเอ๋อร์ ข้าไม่ปรานีแน่!”“ท่าน!”“
พลันจวินชิงอวี่ยื่นกระบี่ไปขวางทางของนางไว้ กล่าวเสียงเย็น“เจ้าอยากไปดูว่านางตายหรือไม่ เจ้าทำสำเร็จหรือไม่?”ความอาฆาตแค้นของพี่น้องคู่นี้แรงจริงๆ“เจ้าว่าข้าวางยาพิษหรือ?” ฉู่เชียนหลีถาม“ข้าจับคนรับใช้ได้หนึ่งคน เขาสารภาพหมดแล้วว่าเจ้าเป็นคนทำ เจ้ายังคิดจะปฏิเสธอีกหรือ?”สีหน้าฉู่เชียนหลีสงบ“อืม เช่นนั้นตอนนี้ข้าก็ไปติดสินบนคนคนหนึ่ง ให้เขามาบอกกับเจ้าว่าข้าไม่เกี่ยว ที่จริงเขาจึงจะเป็นคนร้าย”“เอาล่ะ ตอนนี้ข้าไม่มีความผิดแล้ว เจ้าไม่ต้องหาเรื่องข้าอีกแล้ว”จวินชิงอวี่พูดอะไรไม่ออกทันที“เจ้า!”ปากเก่งจริงๆ!เถียงข้างๆ คูๆ!ฉู่เชียนหลีมองเขาแวบหนึ่ง เดินเข้าไปโดยไม่พูดอะไรมากอีกตอนที่จวินชิงอวี่จะขวางอีกครั้ง หมอคนที่อยู่ในห้องกล่าวเสียงอ่อน“องค์ชายสาม ทางที่ดีท่านให้พระชายาอ๋องเฉินดูเถอะ…ท่านไม่รู้หรอกว่าในแคว้นตงหลิงของเรา ไม่มีใครไม่รู้เรื่องที่ทักษะการแพทย์ของพระชายาอ๋องเฉินเลิศล้ำ เมื่อก่อนนางยังเคยรักษาโรคระบาด ช่วยชีวิตคนหลายแสนคน…”“ข้าน้อยไร้ความสามารถ รักษาไม่ได้จริงๆ พระชายาอ๋องเฉินอาจจะสามารถลองดู…”หมอเป็นคนเจียงหนานเมื่อจวินชิงอวี่ได้ยินคำพูดนี้ ข
จวินลั่วยวนหลั่งน้ำตาเหมือนสายฝน ร้องไห้จนใจแทบสลาย กรีดร้องจนเสียงแหบแล้ว“อ๊ะ!”สีหน้าที่เศร้าโศกเกินจะบรรยายด้วยคำพูดภายในห้อง หมอ องครักษ์ และคนรับใช้เห็นแล้ว ต่างก็ตื้นตันจนตาแดงแล้วองค์หญิงช่างน่าสงสารจริงๆองค์หญิงรักฮองเฮาจริงๆ!ฮองเฮาเป็นคนดี อ่อนโยน มีเมตตา ใจกว้าง เหตุใดต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ เช่นนี้?เฮ้อ!“รักษานาง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีอะไร ก็ต้องรักษานางให้หายดี! ไม่เช่นนั้น ข้าก็เอาชีวิตสุนัขของพวกเจ้า!” จวินชิงอวี่ตวาดเสียงเบา ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ แทบจะคลั่งแล้วหมอตกใจจนหน้าซีด“องค์ชายสามโปรดไว้ชีวิต โปรดไว้ชีวิต!”“ทักษะการแพทย์ของข้าน้อยยังไม่ดีพอ โปรดไว้ชีวิต…”“ข้าให้เจ้ารักษา!”จวินชิงอวี่คว้าคอเสื้อของเขา จ้องด้วยความโกรธ แล้วเหวี่ยงไปที่หน้าเตียง “รักษา!”หมอสั่นไปทั้งร่าง ริมฝีปากก็กำลังสั่น พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว ยกมือขึ้นรักษาด้วยอาการสั่นเทา…วันนี้ ต่อให้ฮัวถวอกลับชาติมาเกิด ก็รักษากล่องเสียงของฮองเฮาไม่ได้เกรงว่าเขา…ไม่รอดแล้ว“เสด็จแม่…เสด็จแม่! ต้องรักษาหายแน่นอน ท่านต้องอดทนเอาไว้นะ!”จวินลั่วยวนจับมือฮองเฮาแน่น น้ำตาไหลออกมาเป็นเ
ฮองเฮาหนานยวนเบิกตากว้าง ไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรงในลำคอ หลังจากกระอักเลือด ก็ล้มลงกับพื้น เจ็บจนหมดสติ“เสด็จแม่!”“หมอ!”“ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว!”ทันใดนั้น ทั้งศาลาพักม้าเริ่มวุ่นวาย คนที่วิ่งก็วิ่ง คนที่ตะโกนก็ตะโกน คนที่หาคนก็หาคน ทุกคนล้วนประหม่าและตื่นตระหนกจวินชิงอวี่รู้ว่าปลากะพงขาวจานนี้มีพิษ เขาโกรธมาก“พ่อครัวอยู่ไหน!”“ทุกคนที่เคยเข้าใกล้ปลาตัวนี้ เรียกมาให้หมด!”ถึงขั้นกล้าวางยาพิษภายใต้จมูกของเขา มีเช่นนี้ที่ไหนกัน!ไม่นาน เด็กรับใช้สีผิวเข้มคนหนึ่งก็ถูกกระชากออกมา เขาก็คือคนตัดฟืนคนนั้นเขาแสร้งทำเป็นดิ้นรนก่อน หลังจากนั้น ‘สารภาพความจริง’ ภายใต้สถานการณ์ยอมจำนนต่อหลักฐาน“ใช่! ข้าเป็นคนทำเอง!”“พวกเจ้ากล้าทำร้ายพระชายา พวกเจ้าสมควรตาย! ใครก็ตามที่ทำร้ายพระชายาล้วนต้องตาย!”พระชายาที่เขาพูดถึง ย่อมหมายถึงฉู่เชียนหลีจวินชิงอวี่นับว่าเข้าใจแล้วฉู่เชียนหลี!เขาก็แค่เอามีดแทงฉู่เชียนหลีทีเดียว ฉู่เชียนหลีถึงขั้นอยากฆ่าพวกเขาทั้งครอบครัวนางผู้หญิงอำมหิต!เขาตะคอกด้วยความโกรธ “ใครก็ได้! ไปเชิญพระชายาอ๋องเฉินกับอ๋องเฉินมา ถ้าหากเสด็จแม่เป็นอะ
ภายในห้องที่ไม่คุ้นเคยคนตัดฟืนนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างกระสับกระส่าย ห่อไหล่ สีหน้าตื่นตระหนก เดิมทีเขาควรถูกโบยจนตาย กลับถูกช่วยเอาไว้และพามาที่นี่ เขาที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ รู้สึกประหม่ามากหลังจากนั้นหนึ่งเค่อจวินลั่วยวนมาแล้ว“เจ้าก็คือคนที่จะฆ่าลูกของฉู่เชียนหลี?”คนตัดฟืนเห็นผู้มาแต่งกายหรูหรา คนรับใช้รายล้อม กลัวจนตัวสั่น“ข้า…ข้าไม่ได้ตั้งใจ…ข้าก็ถูกบีบบังคับ…”“ไม่ต้องกลัว” จวินลั่วยวนปลอบใจเขาด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าเล็กที่งดงามดูอ่อนโยนไร้พิษสง “ข้ากับฉู่เชียนหลีเป็นศัตรูกัน เจ้าอยากทำร้ายนาง ก็คือกำลังช่วยข้า ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก”เมื่อคนตัดฟืนได้ยินคำพูดนี้ รู้สึกประหลาดใจมากที่แท้กำลังช่วยเขา!“ใครให้เจ้าทำร้ายฝาแฝดคู่นั้น?” จวินลั่วยวนถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเมื่อคนตัดฟืนได้ยิน ประหม่าจนจิกแขนเสื้อแล้วคลายออกเป็นระยะ เขาพยายามกลืนน้ำลายแล้วกล่าว“ข้า…ข้าไม่รู้…”จวินลั่วยวนเหลือบมองเขาด้วยท่าทางจะยิ้มไม่ยิ้ม“ข้าช่วยเจ้าไว้ ให้โอกาสเจ้า ทางที่ดีคิดให้ดีก่อนตอบ ถ้าหากเจ้าอยากตาย ข้าไม่ถือสาที่จะส่งเจ้ากลับไป”โบยจนตายไม่ง่ายเลยที่คนตัดฟืนจะรอดมาได้ เขาย่อมไม่กล้