‘จิ่งอี้ เจ้าได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่? เหตุใดเจ้าถึงใจร้อนเช่นนี้?’‘ข้าล้างขี้หลังเยี่ยว เลี้ยงเจ้าโตมากับมือเลยนะ ข้ามีประสบการณ์ด้านเลี้ยงเด็กมาก ต่อไปข้าเลี้ยงลูกให้เจ้า’‘นึกถึงปีนั้น ตอนที่ข้าเก็บเจ้าได้ เจ้ามีบาดแผลทั่วตัว ข้าคิดว่าเจ้าไม่รอดแล้วเสียอีก…’เสียงที่อารมณ์ดีของจางเฟยสะท้อนอยู่ในหูคำพูดที่หัวเราะ องอาจ ซุบซิบเรื่องชาวบ้าน สนใจ และที่ตบหน้าอกอย่างมั่นใจ…ใบหน้าเหลี่ยมของเขาสะท้อนอยู่ตรงหน้า คิ้วดกตาโต เหมือนคนใจกว้างที่ท่องยุทธภพตอนนี้ ใบหน้าเหลี่ยมที่องอาจนี้ ค่อยๆ ซ้อนทับกับศพที่ร่างกายเละไปหมด…เป็นเขา!กระบี่ในมือจิ่งอี้ร่วงลงพื้น พริบตานั้น ราวกับฟ้าดินเหลือเพียงเขากับศพร่างนั้นทั้งๆ ที่ใกล้เช่นนั้น เขากลับไม่กล้าเข้าใกล้ระหว่างทั้งสอง อยู่กันคนละภพภูมิแล้ว…เลือดคำหนึ่งติดอยู่ในลำคอของเขา หน้าอกพลุ่งพล่าน กระอักออกมาฉับพลัน ร่างกายกระโจนเข้าไปอย่างอ่อนปวกเปียก สองเข่ากระแทกลงพื้นอย่างแรง มือที่สั่นเทาทั้งสองข้าง ไม่รู้จะเริ่มลงมือจากที่ใดเลือดเลือดเต็มไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างกายเละไปหมด ไม่หลงเหลือสภาพเดิม ไม่มีจุดไหนที่ยังสมบูรณ์ กระดูกที่
“นายท่าน คนที่เฝ้าห้องเก็บของในคืนนี้คือเสียวจาง หาเจอแล้วขอรับ!”หลังจากความวุ่นวายทั้งหมดสงบลง คนรับใช้สองคนหิ้วปีกเสียวจางที่หายใจรวยริน และเต็มไปด้วยเลือดทั้งตัวเข้ามา โยนลงบนพื้นตอนระเบิด เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกันท่านรองกู้เดินเข้าไป กระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมา ตวาดด้วยความโกรธ“ไอ้เจ้าคนเลี้ยงเสียข้าวสุก! จู่ๆ ดินปืนที่อยู่ในห้องเก็บของระเบิดได้อย่างไร! เจ้าเฝ้าอย่างไร! ถ้าหากสองสามีภรรยาอ๋องเฉินกับท่านโหวน้อยได้รับบาดเจ็บ ชีวิตทั้งครอบครัวของเจ้าก็ไม่พอชดใช้!”เสียวจางสาหัสมาก แต่ก็กลัวเช่นกัน เขาขอความเมตตาอย่างหอบเหนื่อย“นายท่านโปรดให้อภัย โปรดให้อภัย! ชั่วขณะบ่าวเลอะเลือน ตอนเดินตรวจห้องเก็บของ เห็นว่าห้องเก็บของมืดเกินไป มองอะไรไม่ชัด ก็เลยจุดเทียนหนึ่งเล่ม…”“เจ้าไม่รู้หรือว่าดินปืนเจอไฟไม่ได้!”เมื่อเจอก็ระเบิด!ท่านรองกู้โยนเขาลงพื้น แล้วเตะออกไปหนึ่งทีด้วยความโกรธ “ไร้ประโยชน์! เลี้ยงเสียข้าวสุก! เรื่องเล็กแค่นี้ก็ทำไม่ได้ ข้าเลี้ยงเจ้าไว้มีประโยชน์อะไร!”“ใครก็ได้ ลากไอ้คนไร้ประโยชน์นี่ไปทุบตีให้ตาย!”พลันเผยอมุมปาก เจตนายิ้มที่คลุมเครือแลบผ่านแววตาเส
ฉู่เชียนหลีเงยหน้า สายตาที่ดุร้ายจ้องท่านรองกู้ เดินเข้าไปหาเขาทีละก้าว“เจ้าไม่อยากยกเลิกสัญญาแต่งงานของหลิงกู้สองตระกูลแต่แรก ยิ่งไม่มีทางทำตามสัญญาการเดิมพันของเจ้ากับข้า เจ้าคำพูดไม่เป็นคำพูด หวังใช้แผนนี้ลอบฆ่าอวิ๋นอิง!”คำพูดที่เย็นชา เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของสองพ่อลูกตระกูลกู้โดยตรงพลันท่านรองกู้ถลนตา “ท่านพูดเหลวไหล!”ประหนึ่งเขาถูกปรักปรำครั้งใหญ่ โต้เถียงเสียงดัง “ข้าท่านรองกู้ทำอะไรตรงไปตรงมาและเปิดเผย เรื่องที่ไม่เคยทำไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด!”เขาเชิดคางขึ้น ท่าทางราวกับเป็นผู้มีความชอบธรรมกู้ชิงชิงก็ก้าวออกมา แก้ต่างให้บิดา “พระชายาอ๋องเฉิน ท่านบอกว่าพวกเราจะฆ่าอวิ๋นอิง แต่อวิ๋นอิงตายหรือยัง? นางไม่ตาย กลับกัน พวกเราทุกคนได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดครั้งนี้ พ่อข้าถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสกว่าอวิ๋นอิงด้วยซ้ำ!”“ถ้าหากจะฆ่าอวิ๋นอิงจริงๆ มีวิธีเยอะแยะ เหตุใดต้องเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงด้วย?”ความจริงที่ฉู่เชียนหลีมั่นใจ ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆจางเฟยตายเปล่าไม่ได้!“ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับ ข้าก็ตีจนเจ้ายอมรับ!” สิ้นเสียงที่เย็นชา พลันพลิกข้อมือ กระบองที่ถูกแกะสลักอย่างประณีตท่
ข้างๆ ซากปรักหักพัง เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนสิบกว่าคนยืนอยู่ข้างๆ ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง ไม่กล้าพูดมาก ได้แต่มองดูทั้งเช่นนี้…ฉู่เชียนหลีระบายความโกรธในใจ แทบอยากตีท่านรองกู้ให้ตายทั้งเป็นเสียเดี๋ยวนี้ แต่อารมณ์พลุ่งพล่านเกินไป ส่งผลให้ปวดท้องเฟิงเย่เสวียนโยนกู้ชิงชิงทิ้งทันที รีบเดินเข้าไป “เชียนหลี!”เขาประคองตัวนางไว้ “ระวังสุขภาพ เจ้าใจเย็นๆ ก่อน ค่อยๆ จัดการทีละเรื่อง”เขาเหลือบมองศพที่อยู่ไม่ไกลแวบหนึ่งลักษณะการตายเลือดอาบ น่าสังเวชจนทนดูไม่ได้…ที่แท้ ศพที่ไม่เหลือสภาพเดิมนี้คือจางเฟย ถึงว่านางโกรธเช่นนี้เขาเม้มปาก กล่าวเสียงเบา “หานอิ๋ง ช่วยคุณชายจิ่ง ทำพิธีศพจางเฟยอย่างมีเกียรติ”หานอิ๋งรับคำสั่ง ไปจัดการทันทีฉู่เชียนหลีประคองท้องที่ปวดเป็นระยะ กัดริมฝีปากล่าง ดวงตาที่แดงก่ำจ้องท่านรองกู้ที่มีบาดแผลเต็มตัว กล่าวอย่างเย็นชา“เรื่องนี้ไม่จบแค่นี้! หัวหน้าตระกูลกู้ เจ้ารอก่อนเถอะ!”เฟิงเย่เสวียนห่วงสุขภาพของนาง จึงพานางกลับจวนก่อนแล้วเมื่อทั้งสองไปแล้ว เหล่าคนรับใช้จึงกล้าขยับตัว รีบเข้าไปห่วงใย “นายท่าน ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง?”“นายท่าน…”“ไสหัวไป!”ท
สายตาที่เขาหันไปมองนาง...หมองหม่นมากบรรยากาศบนตัวของเขาเหมือนกับจมดิ่งลงมาจนถึงจุดต่ำสุด ไม่มีความอบอุ่น ไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่นิดเดียว สายตาที่เย็นยะเยือกนั่นเหมือนกับกำลังจ้องมองศพ ทำให้อวิ๋นอิงลนลานโดยไม่มีสาเหตุเขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเสื้อปลิวไสวตามสายลมที่พัดมา ความหนาวเย็นบนร่างกายปะทะเข้าที่ใบหน้าของนาง เกือบจะทำให้นางแข็งตายอวิ๋นอิงลำคอตีบตัน ถอยไปข้างหลังเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว“คะ คุณชายจิ่ง ข้ารู้ว่าการตายของจางเฟยทำให้ท่านเป็นทุกข์มาก แต่นี่ก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่พวกข้าอยากเห็นเช่นกัน ตระกูลกู้จะต้องชดใช้ ได้โปรดระงับความเศร้าด้วย...”ชายหนุ่มมองตรงไปที่นาง ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ก้าวไปข้างหน้าอีกร่างกายที่แข็งแกร่งทอดเงาดำทะมึน ปกคลุมบนร่างกายของนาง บรรยากาศที่กดดันโชยเข้าไปในรูจมูกของนาง เหมือนกับตาข่ายใหญ่ที่ไร้รูปร่าง ปกคลุมนางเอาไว้ ทำให้นางไม่สามารถขยับหนีได้ยามราตรี บนถนน ไร้ซึ่งผู้คนลมพัดโชยมา ทำให้เงาเทียนสั่นไหว แผ่นหลังเย็นวาบ อวิ๋นอิงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยอย่างไม่มีสาเหตุ...นางเดินโซเซถอยหลังไปหลายก้าว จิตใต้สำนึกอยากจะวิ่งหนี แต่ฝ่ามือใหญ่ข
ตอนนั้น การระเบิดครั้งนั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหันมากเกินไป ถ้าหากไม่ใช่เพราะท่านโหวน้อยช่วยนางเอาไว้ได้ทันเวลา นางก็คงจะตายไม่ก็พิการนางคิดว่าจางเฟยบาดเจ็บความประมาท กลับคิดไม่ถึงว่าจะตายเพราะช่วยชีวิตนาง...ภายในชั่วพริบตา บนบ่าของนางก็มีภาระอันหนักอึ้งกดทับเอาไว้นางนึกถึงท่าทางตอนที่จางเฟยตาย ลำคอของนางตีบตัน หายใจหอบถี่ สะอึกจนพูดไม่ออก น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลพราก“ข้าไม่รู้ว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้ ข้าไม่ได้อยากให้จางเฟยเป็นอะไรเช่นกัน...โอ๊ย!”ทันใดนั้นคางก็ถูกบีบเอาไว้เจ็บปวดรุนแรง ราวกับกระดูกถูกบีบจนแหลกละเอียด!นางถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น สบตาแดงก่ำของชายหนุ่ม เพลิงโทสะราวกับสัตว์ป่านั่นราวกับจะจับนางกลืนลงไปทั้งเป็นชายหนุ่มกัดฟันกรอด“เจ้าไม่รู้หรือ?”น้ำเสียงเย็นชาขั้นสุด “คำว่าไม่รู้เพียงคำเดียวก็สามารถปัดความรับผิดชอบทั้งหมดได้อย่างนั้นหรือ? เจ้าไม่รู้สึกละอายใจเลยหรือ ไม่มีความรู้สึกตำหนิตนเอง คำว่าไม่รู้คำเดียว ก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเจ้าได้อย่างนั้นหรือ?”แต่จางเฟยต้องตายไปอย่างเสียเปล่า? ก็สมควรแล้วอย่างนั้นหรือ?คำตอบของอวิ๋นอิงได้ทำให้จิ่งอี้โกรธจัด
ค่ำคืนนี้ ยาวนานเป็นพิเศษตอนเช้า บรรดาชาวบ้านต่างพากันวิจารณ์ถึงเสียงระเบิดเมื่อคืนนี้ อานุภาพของแรงระเบิดไม่เบา คนมากมายต่างก็ได้ยิน แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่างกำลังพากันคาดเดาจวนโหวติ้งกว๋อหลิงเชียนอี้ตื่นขึ้นมาจากการสลบ อย่างแรกก็คือพยายามลงจากเตียง จะไปหาอวิ๋นอิงองค์หญิงใหญ่รีบกดเขาเอาไว้ “เจ้าลูกคนนี้ รู้หรือไหมว่าตนเองบาดเจ็บสาหัสเพียงใด? จะพักฟื้นให้ร่างกายของตนเองหายดีก่อนไม่ได้หรือ?”ภายใต้แรงระเบิด ทั่วทั้งแผ่นหลังของเขาถูกระเบิดจนเละ เนื้อแหลกละเอียดหลิงเชียนอี้ทนเจ็บ “ข้าจะไปรักษาตัวที่เรือนข้างท่านน้า!”องค์หญิงใหญ่ “...”โหวติ้งกว๋อ “...”คำพูดประโยคนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะคิดถึงนังหนูอวิ๋นอิงนั่นหรอกหรือ?องค์หญิงใหญ่เองก็จนปัญญาเช่นกัน “เจ้าลูกบ้าคนนี้นี่ แม่รู้ว่าเจ้าชื่นชอบอวิ๋นอิง แต่อวิ๋นอิงก็อยู่ที่ในจวนอ๋องเฉิน หนีไปไหนไม่ได้หรอก เจ้าวางใจเถอะ”“ดูสภาพที่หมดอนาคตของเจ้านั่น” โหวติ้งกว๋อเอามือไพล่หลังยืนอยู่ที่บริเวณปลายเตียง กล่าวอย่างเยาะหยัน “ทำอย่างกับไม่เคยเห็นผู้หญิงมาก่อน”หลิงเชียนอี้ถลึงตา “ท่านไม่ต้องยุ่ง! ฮึ! ก็ข้าชอบพออว
นายท่านรองกู้เข้าวังหลวง ตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อมาถึงด้านหน้าห้องทรงพระอักษร ก็ลากขาที่เป๋ข้างหนึ่ง แบกหน้าที่เขียวช้ำ ‘โอ๊ย’ ‘โอ๊ย’ เดินเข้าไปด้วยร้องเสียงเวทนาเมื่อฝ่าบาทเห็นสภาพจนตรอกใบหน้าบวมช้ำของเขา ก็หรี่ตาลงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตระกูลกู้เมื่อคืนนี้ เขาได้ยินมาคร่าว ๆ แล้วแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีร้อนใจเล็กน้อย ถามด้วยความห่วงใย “หัวหน้าตระกูลกู้เหตุใดจึงมีสภาพเช่นนี้? นี่เจ้า...”“ฝ่าบาท ท่านต้องช่วยทวงความยุติธรรมให้กระหม่อมด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ!”ทันทีที่นายท่านรองกู้ ก็ร้องเสียงเวทนาเมื่อนึกถึงการที่เขาใช้อำนาจบาตรใหญ่ โอ้อวดอานุภาพตลอดหลายปีมานี้ แม้แต่ฝ่าบาทยังต้องเคารพเขา แต่กลับถูกฉู่เชียนหลีทำร้ายจนน่วมช้ำ ปวดกระดูกไปทั้งตัว น่าอนาถราวลูกหมาตกน้ำความแค้นนี้ เขาไม่มีทางยอมแน่!เขาคุกเข่าลงไป เอามือกุมเบ้าตาที่บวมช้ำ กล่าวอย่างน้อยใจ“เมื่อคืนนี้ กระหม่อมจัดงานเลี้ยงที่เรือน ได้เชื้อเชิญท่านโหวน้อยและคนอื่น ๆ คิดไม่ถึงว่าเด็กรับใช้ที่จวนจะทำงานไม่ได้เรื่อง ทำให้ห้องครัวไฟไหม้ ทำให้ดินปืนลุกไหม้ จนเกิดการระเบิด พระชายาอ๋องเฉินที่แยกแยะผิดชอบชั่วดี
“เช่นนั้นพวกเราเหมือนเดิมพันกัน”“เดิมพันก็เดิมพัน!”นอกหอน้ำชาจวินลั่วยวนมาถึง หลังจากสอบถามข้อมูลคร่าวๆ จากเด็กในร้าน ก็ย่องขึ้นไปบนชั้นสอง เข้าใกล้ห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง เพิ่งแนบหูเข้าไป ก็ได้ยินเสียงสนทนาข้างในเสียงของฉู่เชียนหลี“โรคร้อนอันตรายมาก แค่ไม่ระวังเล็กน้อยก็จะกำเริบ ตอนที่ข้ารักษาเจ้า ต้องเปิดจุดชีพจร กรีดเปิดแผลบนมือและเท้าสี่จุด ใช้เลือดของข้าแลกกับเจ้าครึ่งหนึ่ง ในระหว่างนี้ห้ามถูกรบกวนเด็ดขาด”ลดเสียงกล่าวอย่างจริงจัง“ไม่เช่นนั้น กำลังภายในจะย้อนกลับ ห้ามเลือดไม่ได้ ถึงเวลา ข้าจะตาย เจ้าก็เจ้าตาย”จวินลั่วยวนประหลาดใจฉู่เชียนหลีสามารถรักษาโรคร้อน?ยิ่งกว่านั้น!ประเด็นสำคัญคือ!ห้ามถูกขัดจังหวะกลางคันเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นฉู่เชียนหลีกับองค์ชายสามล้วนจะตาย!ฉู่เชียนหลีตายแล้ว ตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉินก็ว่าง อยากได้อ๋องเฉิน ก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือแล้วไม่ใช่หรือ?ทันใดนั้น แววตาเร่าร้อนทันทีตื่นเต้นคาดหวังแทบรอไม่ไหวนางกำลังจะเป็นพระชายาอ๋องเฉินแล้ว!การสนทนาภายในห้องกินเวลานานหนึ่งเค่อ ก่อนจะจบลง จวินลั่วยวนรีบวิ่งไปซ่อนตัวที่หัวมุม ประตูห้องเปิดออ
จวินลั่วยวนยกมือทั้งสองข้างขึ้น วางลงไปที่คอของฮองเฮาทันใดนั้น ร่างกายของฮองเฮาหนานยวนขยับเล็กน้อย นางรีบดึงมือกลับ ลุกขึ้นยืน และกลับมาดูเป็นเด็กดีอีกครั้ง“ซวงซวง ทางเสด็จพี่สามของข้าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”ซวงซวงวิ่งเข้ามา“เมื่อครู่ทางองครักษ์มารายงาน หลังจากเสด็จพี่สามออกไป เจอสามีภรรยาอ๋องเฉิน ตอนนี้พวกเขาเข้าไปในหอน้ำชาแล้ว ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันลับๆ เจ้าค่ะ”“?”พวกเขายังมีเรื่องให้คุยกันอีกหรือ?เสด็จพี่สามไม่ได้ไปสืบเรื่องของคนร้าย?เหตุใดยังสามารถคุยกับสามีภรรยาอ๋องเฉินดีๆ อีก?คุยอะไรกัน?หรือเป็นความลับที่นางไม่รู้?จวินลั่วยวนไม่อนุญาตให้มีเรื่องที่อยู่เหนือกันควบคุมของนาง กล่าวทันที “ซวงซวง เจ้าเฝ้าเสด็จแม่ไว้ ข้าลองไปดูหน่อย!”“เจ้าค่ะ องค์หญิง!”หอน้ำชาห้องส่วนตัวจวินชิงอวี่นั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ สีหน้าดูไม่ดีนัก และยังบึ้งตึงเหมือนจะกินคน กัดฟันจนดังก๊อกๆ“ท่านกล้าบอกว่ายวนเอ๋อร์เป็นคนวางยา!”จ้องฉู่เชียนหลีด้วยความโกรธโมโหมากถ้าหากไม่ใช่เพราะอ๋องเฉินนั่งอยู่ที่ข้างๆ เกรงว่าเขาลงมือโดยตรงแล้วฉู่เชียนหลีกล่าว“ตอนที่พวกเราออกจากศาลาพักม้า องครักษ์ลับ
ฉู่เชียนหลี “องค์หญิงมั่นใจในตัวเองจริงๆ เหมือนจะลืมไปแล้วว่าผู้หญิงที่ถูกอ๋องเฉินโยนออกไปเป็นใคร?”“...”รออ๋องเฉินถีบฉู่เชียนหลีทิ้ง นางจะจับฉู่เชียนหลีมาขังไว้ ทรมานทุกวัน ทำให้นางทรมานยิ่งกว่าตายจวินลั่วยวนเถียงไม่ไหว พลันเบ้าตาแดงก็กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของจวินชิงอวี่ หาที่ปลอบใจตัวเองจวินชิงอวี่ย่อมเข้าข้างน้องสาว“ฉู่เชียนหลี ดูจากพฤติกรรมที่ชอบบีบคั้นคนของเจ้า มันก็ไม่แปลกอะไรที่เจ้าจะสามารถวางยาพิษ”อาศัยเพียงแค่การคาดเดา ก็ตัดสินโทษของนางแล้ว?น่าขำ!พี่น้องคู่นี้ คนหนึ่งหน้าไหว้หลังหลอก อีกคนความรักบังตา ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ“มันน่าอัศจรรย์จริงๆ ที่แคว้นหนานยวนของพวกท่านสามารถพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน”จวินชิงอวี่หน้าบึ้งทันที “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ปัญหาส่วนตัว ตอนนี้จะลามปามไปถึงบ้านเมืองแล้ว?“ตามที่พูด”“เจ้า!”เขาโมโหจนจะเดินเข้าไปหานางพลันเฟิงเย่เสวียนยกฝ่ามือใหญ่ ดึงนางมาที่ข้างกาย “ข้าตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกอะไร”ทุกคนรีบหันไปมอง รอคอยคำพูดต่อจากนี้เฟิงเย่เสวียนกล่าวอย่างใจเย็น“แคว้นหนานยวนต่ำช้าเช่นนี้ ต่อให้ข้าแพ้ศึกครั้งนี้ ก็ไม่ร่วม
วันนี้ อย่างไรนางก็จะบีบคั้นฉู่เชียนหลีจนตาย!เหล่าคนรับใช้พากันก้มหน้า หายใจแรง ไม่มีใครกล้าพูดอะไร พระชายาอ๋องเฉินช่วยฮองเฮา เหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ได้ร้ายแรงจนถึงขั้นต้องฆ่าตัวตายกระมั้ง?“องค์ชายสามก็คิดเช่นนี้หรือ?” เฟิงเย่เสวียนถามจวินชิงอวี่เงียบไปครู่หนึ่งคนตัดฟืนถูกฆ่าตายแล้ว ในศาลาพักม้ายังมีหนอนบ่อนไส้คนอื่น บางทีอาจจะไม่ใช่ฝีมือของฉู่เชียนหลีจริงๆ รอตรวจสอบเรื่องนี้จนชัดเจน ค่อยว่ากันก็ยังไม่สาย“ยวนเอ๋อร์”เขาเอ่ยปาก “รอเสด็จแม่ฟื้นแล้ว ดูว่าอาการของเสด็จแม่เป็นอย่างไรบ้าง เรื่องของคนร้าย ข้าให้คนไปสืบแล้ว”เขาอยากพักเรื่องนี้ชั่วคราวแต่จวินลั่วยวนไม่ยอม“เสด็จพี่สาม ท่านเลอะเลือนหรือ? คนร้ายก็อยู่ตรงหน้าแล้ว ท่านยังจะสืบอะไรอีก? ท่านทำเช่นนี้ ไม่เท่ากับเปิดโอกาสให้คนร้ายหนีหรอกหรือ?”ฉู่เชียนหลีหัวเราะคำก็คนร้าย สองคำก็คนร้าย ทุกคำพูดล้วนอยากให้นางตาย ไม่ชอบหน้านางเช่นนี้เลย?“องค์หญิง เจ้าอยากได้ผู้ชายของข้า และยังทำทุกวิถีทางเพื่ออยากบีบให้ข้าตาย เสด็จพี่สามของเจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าเป็นคนชอบแย่งของคนอื่นเช่นนี้?”“!”สีหน้าจวินลั่วยวนเปลี่ยนฉับพลันอยู่ต
สีหน้าของจวินชิงอวี่ดูน่าเกลียดทันที การทำร้ายผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจอะไรจริงๆ แต่เขาสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องน้องสาว“ถ้าหากฉู่เชียนหลีไม่รังแกยวนเอ๋อร์ แล้วข้าจะทำร้ายนางได้อย่างไร”“ฉู่เชียนหลีรังแกคนก่อน การโดนมีดแทงก็คือผลที่นางสมควรได้รับ?”เมื่อเฟิงเย่เสวียนได้ยิน แหงนหน้าหัวเราะ“เหอะ ฮ่าๆๆ!”ฉู่เชียนหลีผิด?“คิดไม่ถึงว่าองค์ชายสามหนานยวน จะรักน้องสาวจนถึงขั้นใจบอด แค่ท่านลองสืบดูดีๆ ก็จะรู้เรื่องที่จวินลั่วยวนเคยยั่วยวนข้า และสืบเจอเรื่องที่ฉู่เชียนหลีจะช่วยท่านตอนที่อาการกำเริบกลางถนน”“น้องสาวคนดีของเจ้า ก็ทำได้แค่หลอกท่านคนเดียวเท่านั้นแหละ”“หุบปาก!”จวินชิงอวี่เสียงดังกะทันหัน กลิ่นอายรอบตัวขรึมลง ดูน่ากลัวเป็นพิเศษเขาไม่อนุญาตให้ใครก็ตามนินทายวนเอ๋อร์!ดูหมิ่นยวนเอ๋อร์ เท่ากับดูหมิ่นเขา ดูหมิ่นแคว้นหนานยวนยวนเอ๋อร์คือองค์หญิงเพียงคนเดียวของราชวงศ์หนานยวนในตลอดสามร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ใครบ้างไม่เห็นนางเป็นแก้วตาดวงใจ?“อ๋องเฉิน ข้าเห็นแก่ความร่วมมือระหว่างสองแคว้น ไม่ถือสาท่าน แต่ถ้าหากท่าน ยังกล้าว่าร้ายยวนเอ๋อร์ ข้าไม่ปรานีแน่!”“ท่าน!”“
พลันจวินชิงอวี่ยื่นกระบี่ไปขวางทางของนางไว้ กล่าวเสียงเย็น“เจ้าอยากไปดูว่านางตายหรือไม่ เจ้าทำสำเร็จหรือไม่?”ความอาฆาตแค้นของพี่น้องคู่นี้แรงจริงๆ“เจ้าว่าข้าวางยาพิษหรือ?” ฉู่เชียนหลีถาม“ข้าจับคนรับใช้ได้หนึ่งคน เขาสารภาพหมดแล้วว่าเจ้าเป็นคนทำ เจ้ายังคิดจะปฏิเสธอีกหรือ?”สีหน้าฉู่เชียนหลีสงบ“อืม เช่นนั้นตอนนี้ข้าก็ไปติดสินบนคนคนหนึ่ง ให้เขามาบอกกับเจ้าว่าข้าไม่เกี่ยว ที่จริงเขาจึงจะเป็นคนร้าย”“เอาล่ะ ตอนนี้ข้าไม่มีความผิดแล้ว เจ้าไม่ต้องหาเรื่องข้าอีกแล้ว”จวินชิงอวี่พูดอะไรไม่ออกทันที“เจ้า!”ปากเก่งจริงๆ!เถียงข้างๆ คูๆ!ฉู่เชียนหลีมองเขาแวบหนึ่ง เดินเข้าไปโดยไม่พูดอะไรมากอีกตอนที่จวินชิงอวี่จะขวางอีกครั้ง หมอคนที่อยู่ในห้องกล่าวเสียงอ่อน“องค์ชายสาม ทางที่ดีท่านให้พระชายาอ๋องเฉินดูเถอะ…ท่านไม่รู้หรอกว่าในแคว้นตงหลิงของเรา ไม่มีใครไม่รู้เรื่องที่ทักษะการแพทย์ของพระชายาอ๋องเฉินเลิศล้ำ เมื่อก่อนนางยังเคยรักษาโรคระบาด ช่วยชีวิตคนหลายแสนคน…”“ข้าน้อยไร้ความสามารถ รักษาไม่ได้จริงๆ พระชายาอ๋องเฉินอาจจะสามารถลองดู…”หมอเป็นคนเจียงหนานเมื่อจวินชิงอวี่ได้ยินคำพูดนี้ ข
จวินลั่วยวนหลั่งน้ำตาเหมือนสายฝน ร้องไห้จนใจแทบสลาย กรีดร้องจนเสียงแหบแล้ว“อ๊ะ!”สีหน้าที่เศร้าโศกเกินจะบรรยายด้วยคำพูดภายในห้อง หมอ องครักษ์ และคนรับใช้เห็นแล้ว ต่างก็ตื้นตันจนตาแดงแล้วองค์หญิงช่างน่าสงสารจริงๆองค์หญิงรักฮองเฮาจริงๆ!ฮองเฮาเป็นคนดี อ่อนโยน มีเมตตา ใจกว้าง เหตุใดต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ เช่นนี้?เฮ้อ!“รักษานาง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีอะไร ก็ต้องรักษานางให้หายดี! ไม่เช่นนั้น ข้าก็เอาชีวิตสุนัขของพวกเจ้า!” จวินชิงอวี่ตวาดเสียงเบา ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ แทบจะคลั่งแล้วหมอตกใจจนหน้าซีด“องค์ชายสามโปรดไว้ชีวิต โปรดไว้ชีวิต!”“ทักษะการแพทย์ของข้าน้อยยังไม่ดีพอ โปรดไว้ชีวิต…”“ข้าให้เจ้ารักษา!”จวินชิงอวี่คว้าคอเสื้อของเขา จ้องด้วยความโกรธ แล้วเหวี่ยงไปที่หน้าเตียง “รักษา!”หมอสั่นไปทั้งร่าง ริมฝีปากก็กำลังสั่น พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว ยกมือขึ้นรักษาด้วยอาการสั่นเทา…วันนี้ ต่อให้ฮัวถวอกลับชาติมาเกิด ก็รักษากล่องเสียงของฮองเฮาไม่ได้เกรงว่าเขา…ไม่รอดแล้ว“เสด็จแม่…เสด็จแม่! ต้องรักษาหายแน่นอน ท่านต้องอดทนเอาไว้นะ!”จวินลั่วยวนจับมือฮองเฮาแน่น น้ำตาไหลออกมาเป็นเ
ฮองเฮาหนานยวนเบิกตากว้าง ไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรงในลำคอ หลังจากกระอักเลือด ก็ล้มลงกับพื้น เจ็บจนหมดสติ“เสด็จแม่!”“หมอ!”“ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว!”ทันใดนั้น ทั้งศาลาพักม้าเริ่มวุ่นวาย คนที่วิ่งก็วิ่ง คนที่ตะโกนก็ตะโกน คนที่หาคนก็หาคน ทุกคนล้วนประหม่าและตื่นตระหนกจวินชิงอวี่รู้ว่าปลากะพงขาวจานนี้มีพิษ เขาโกรธมาก“พ่อครัวอยู่ไหน!”“ทุกคนที่เคยเข้าใกล้ปลาตัวนี้ เรียกมาให้หมด!”ถึงขั้นกล้าวางยาพิษภายใต้จมูกของเขา มีเช่นนี้ที่ไหนกัน!ไม่นาน เด็กรับใช้สีผิวเข้มคนหนึ่งก็ถูกกระชากออกมา เขาก็คือคนตัดฟืนคนนั้นเขาแสร้งทำเป็นดิ้นรนก่อน หลังจากนั้น ‘สารภาพความจริง’ ภายใต้สถานการณ์ยอมจำนนต่อหลักฐาน“ใช่! ข้าเป็นคนทำเอง!”“พวกเจ้ากล้าทำร้ายพระชายา พวกเจ้าสมควรตาย! ใครก็ตามที่ทำร้ายพระชายาล้วนต้องตาย!”พระชายาที่เขาพูดถึง ย่อมหมายถึงฉู่เชียนหลีจวินชิงอวี่นับว่าเข้าใจแล้วฉู่เชียนหลี!เขาก็แค่เอามีดแทงฉู่เชียนหลีทีเดียว ฉู่เชียนหลีถึงขั้นอยากฆ่าพวกเขาทั้งครอบครัวนางผู้หญิงอำมหิต!เขาตะคอกด้วยความโกรธ “ใครก็ได้! ไปเชิญพระชายาอ๋องเฉินกับอ๋องเฉินมา ถ้าหากเสด็จแม่เป็นอะ
ภายในห้องที่ไม่คุ้นเคยคนตัดฟืนนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างกระสับกระส่าย ห่อไหล่ สีหน้าตื่นตระหนก เดิมทีเขาควรถูกโบยจนตาย กลับถูกช่วยเอาไว้และพามาที่นี่ เขาที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ รู้สึกประหม่ามากหลังจากนั้นหนึ่งเค่อจวินลั่วยวนมาแล้ว“เจ้าก็คือคนที่จะฆ่าลูกของฉู่เชียนหลี?”คนตัดฟืนเห็นผู้มาแต่งกายหรูหรา คนรับใช้รายล้อม กลัวจนตัวสั่น“ข้า…ข้าไม่ได้ตั้งใจ…ข้าก็ถูกบีบบังคับ…”“ไม่ต้องกลัว” จวินลั่วยวนปลอบใจเขาด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าเล็กที่งดงามดูอ่อนโยนไร้พิษสง “ข้ากับฉู่เชียนหลีเป็นศัตรูกัน เจ้าอยากทำร้ายนาง ก็คือกำลังช่วยข้า ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก”เมื่อคนตัดฟืนได้ยินคำพูดนี้ รู้สึกประหลาดใจมากที่แท้กำลังช่วยเขา!“ใครให้เจ้าทำร้ายฝาแฝดคู่นั้น?” จวินลั่วยวนถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเมื่อคนตัดฟืนได้ยิน ประหม่าจนจิกแขนเสื้อแล้วคลายออกเป็นระยะ เขาพยายามกลืนน้ำลายแล้วกล่าว“ข้า…ข้าไม่รู้…”จวินลั่วยวนเหลือบมองเขาด้วยท่าทางจะยิ้มไม่ยิ้ม“ข้าช่วยเจ้าไว้ ให้โอกาสเจ้า ทางที่ดีคิดให้ดีก่อนตอบ ถ้าหากเจ้าอยากตาย ข้าไม่ถือสาที่จะส่งเจ้ากลับไป”โบยจนตายไม่ง่ายเลยที่คนตัดฟืนจะรอดมาได้ เขาย่อมไม่กล้