ข้างๆ ซากปรักหักพัง เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนสิบกว่าคนยืนอยู่ข้างๆ ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง ไม่กล้าพูดมาก ได้แต่มองดูทั้งเช่นนี้…ฉู่เชียนหลีระบายความโกรธในใจ แทบอยากตีท่านรองกู้ให้ตายทั้งเป็นเสียเดี๋ยวนี้ แต่อารมณ์พลุ่งพล่านเกินไป ส่งผลให้ปวดท้องเฟิงเย่เสวียนโยนกู้ชิงชิงทิ้งทันที รีบเดินเข้าไป “เชียนหลี!”เขาประคองตัวนางไว้ “ระวังสุขภาพ เจ้าใจเย็นๆ ก่อน ค่อยๆ จัดการทีละเรื่อง”เขาเหลือบมองศพที่อยู่ไม่ไกลแวบหนึ่งลักษณะการตายเลือดอาบ น่าสังเวชจนทนดูไม่ได้…ที่แท้ ศพที่ไม่เหลือสภาพเดิมนี้คือจางเฟย ถึงว่านางโกรธเช่นนี้เขาเม้มปาก กล่าวเสียงเบา “หานอิ๋ง ช่วยคุณชายจิ่ง ทำพิธีศพจางเฟยอย่างมีเกียรติ”หานอิ๋งรับคำสั่ง ไปจัดการทันทีฉู่เชียนหลีประคองท้องที่ปวดเป็นระยะ กัดริมฝีปากล่าง ดวงตาที่แดงก่ำจ้องท่านรองกู้ที่มีบาดแผลเต็มตัว กล่าวอย่างเย็นชา“เรื่องนี้ไม่จบแค่นี้! หัวหน้าตระกูลกู้ เจ้ารอก่อนเถอะ!”เฟิงเย่เสวียนห่วงสุขภาพของนาง จึงพานางกลับจวนก่อนแล้วเมื่อทั้งสองไปแล้ว เหล่าคนรับใช้จึงกล้าขยับตัว รีบเข้าไปห่วงใย “นายท่าน ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง?”“นายท่าน…”“ไสหัวไป!”ท
สายตาที่เขาหันไปมองนาง...หมองหม่นมากบรรยากาศบนตัวของเขาเหมือนกับจมดิ่งลงมาจนถึงจุดต่ำสุด ไม่มีความอบอุ่น ไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่นิดเดียว สายตาที่เย็นยะเยือกนั่นเหมือนกับกำลังจ้องมองศพ ทำให้อวิ๋นอิงลนลานโดยไม่มีสาเหตุเขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเสื้อปลิวไสวตามสายลมที่พัดมา ความหนาวเย็นบนร่างกายปะทะเข้าที่ใบหน้าของนาง เกือบจะทำให้นางแข็งตายอวิ๋นอิงลำคอตีบตัน ถอยไปข้างหลังเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว“คะ คุณชายจิ่ง ข้ารู้ว่าการตายของจางเฟยทำให้ท่านเป็นทุกข์มาก แต่นี่ก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่พวกข้าอยากเห็นเช่นกัน ตระกูลกู้จะต้องชดใช้ ได้โปรดระงับความเศร้าด้วย...”ชายหนุ่มมองตรงไปที่นาง ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ก้าวไปข้างหน้าอีกร่างกายที่แข็งแกร่งทอดเงาดำทะมึน ปกคลุมบนร่างกายของนาง บรรยากาศที่กดดันโชยเข้าไปในรูจมูกของนาง เหมือนกับตาข่ายใหญ่ที่ไร้รูปร่าง ปกคลุมนางเอาไว้ ทำให้นางไม่สามารถขยับหนีได้ยามราตรี บนถนน ไร้ซึ่งผู้คนลมพัดโชยมา ทำให้เงาเทียนสั่นไหว แผ่นหลังเย็นวาบ อวิ๋นอิงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยอย่างไม่มีสาเหตุ...นางเดินโซเซถอยหลังไปหลายก้าว จิตใต้สำนึกอยากจะวิ่งหนี แต่ฝ่ามือใหญ่ข
ตอนนั้น การระเบิดครั้งนั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหันมากเกินไป ถ้าหากไม่ใช่เพราะท่านโหวน้อยช่วยนางเอาไว้ได้ทันเวลา นางก็คงจะตายไม่ก็พิการนางคิดว่าจางเฟยบาดเจ็บความประมาท กลับคิดไม่ถึงว่าจะตายเพราะช่วยชีวิตนาง...ภายในชั่วพริบตา บนบ่าของนางก็มีภาระอันหนักอึ้งกดทับเอาไว้นางนึกถึงท่าทางตอนที่จางเฟยตาย ลำคอของนางตีบตัน หายใจหอบถี่ สะอึกจนพูดไม่ออก น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลพราก“ข้าไม่รู้ว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้ ข้าไม่ได้อยากให้จางเฟยเป็นอะไรเช่นกัน...โอ๊ย!”ทันใดนั้นคางก็ถูกบีบเอาไว้เจ็บปวดรุนแรง ราวกับกระดูกถูกบีบจนแหลกละเอียด!นางถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น สบตาแดงก่ำของชายหนุ่ม เพลิงโทสะราวกับสัตว์ป่านั่นราวกับจะจับนางกลืนลงไปทั้งเป็นชายหนุ่มกัดฟันกรอด“เจ้าไม่รู้หรือ?”น้ำเสียงเย็นชาขั้นสุด “คำว่าไม่รู้เพียงคำเดียวก็สามารถปัดความรับผิดชอบทั้งหมดได้อย่างนั้นหรือ? เจ้าไม่รู้สึกละอายใจเลยหรือ ไม่มีความรู้สึกตำหนิตนเอง คำว่าไม่รู้คำเดียว ก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเจ้าได้อย่างนั้นหรือ?”แต่จางเฟยต้องตายไปอย่างเสียเปล่า? ก็สมควรแล้วอย่างนั้นหรือ?คำตอบของอวิ๋นอิงได้ทำให้จิ่งอี้โกรธจัด
ค่ำคืนนี้ ยาวนานเป็นพิเศษตอนเช้า บรรดาชาวบ้านต่างพากันวิจารณ์ถึงเสียงระเบิดเมื่อคืนนี้ อานุภาพของแรงระเบิดไม่เบา คนมากมายต่างก็ได้ยิน แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่างกำลังพากันคาดเดาจวนโหวติ้งกว๋อหลิงเชียนอี้ตื่นขึ้นมาจากการสลบ อย่างแรกก็คือพยายามลงจากเตียง จะไปหาอวิ๋นอิงองค์หญิงใหญ่รีบกดเขาเอาไว้ “เจ้าลูกคนนี้ รู้หรือไหมว่าตนเองบาดเจ็บสาหัสเพียงใด? จะพักฟื้นให้ร่างกายของตนเองหายดีก่อนไม่ได้หรือ?”ภายใต้แรงระเบิด ทั่วทั้งแผ่นหลังของเขาถูกระเบิดจนเละ เนื้อแหลกละเอียดหลิงเชียนอี้ทนเจ็บ “ข้าจะไปรักษาตัวที่เรือนข้างท่านน้า!”องค์หญิงใหญ่ “...”โหวติ้งกว๋อ “...”คำพูดประโยคนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะคิดถึงนังหนูอวิ๋นอิงนั่นหรอกหรือ?องค์หญิงใหญ่เองก็จนปัญญาเช่นกัน “เจ้าลูกบ้าคนนี้นี่ แม่รู้ว่าเจ้าชื่นชอบอวิ๋นอิง แต่อวิ๋นอิงก็อยู่ที่ในจวนอ๋องเฉิน หนีไปไหนไม่ได้หรอก เจ้าวางใจเถอะ”“ดูสภาพที่หมดอนาคตของเจ้านั่น” โหวติ้งกว๋อเอามือไพล่หลังยืนอยู่ที่บริเวณปลายเตียง กล่าวอย่างเยาะหยัน “ทำอย่างกับไม่เคยเห็นผู้หญิงมาก่อน”หลิงเชียนอี้ถลึงตา “ท่านไม่ต้องยุ่ง! ฮึ! ก็ข้าชอบพออว
นายท่านรองกู้เข้าวังหลวง ตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อมาถึงด้านหน้าห้องทรงพระอักษร ก็ลากขาที่เป๋ข้างหนึ่ง แบกหน้าที่เขียวช้ำ ‘โอ๊ย’ ‘โอ๊ย’ เดินเข้าไปด้วยร้องเสียงเวทนาเมื่อฝ่าบาทเห็นสภาพจนตรอกใบหน้าบวมช้ำของเขา ก็หรี่ตาลงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตระกูลกู้เมื่อคืนนี้ เขาได้ยินมาคร่าว ๆ แล้วแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีร้อนใจเล็กน้อย ถามด้วยความห่วงใย “หัวหน้าตระกูลกู้เหตุใดจึงมีสภาพเช่นนี้? นี่เจ้า...”“ฝ่าบาท ท่านต้องช่วยทวงความยุติธรรมให้กระหม่อมด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ!”ทันทีที่นายท่านรองกู้ ก็ร้องเสียงเวทนาเมื่อนึกถึงการที่เขาใช้อำนาจบาตรใหญ่ โอ้อวดอานุภาพตลอดหลายปีมานี้ แม้แต่ฝ่าบาทยังต้องเคารพเขา แต่กลับถูกฉู่เชียนหลีทำร้ายจนน่วมช้ำ ปวดกระดูกไปทั้งตัว น่าอนาถราวลูกหมาตกน้ำความแค้นนี้ เขาไม่มีทางยอมแน่!เขาคุกเข่าลงไป เอามือกุมเบ้าตาที่บวมช้ำ กล่าวอย่างน้อยใจ“เมื่อคืนนี้ กระหม่อมจัดงานเลี้ยงที่เรือน ได้เชื้อเชิญท่านโหวน้อยและคนอื่น ๆ คิดไม่ถึงว่าเด็กรับใช้ที่จวนจะทำงานไม่ได้เรื่อง ทำให้ห้องครัวไฟไหม้ ทำให้ดินปืนลุกไหม้ จนเกิดการระเบิด พระชายาอ๋องเฉินที่แยกแยะผิดชอบชั่วดี
ฉู่เชียนหลีมาแล้ว!นางสวมชุดสีขาวที่เรียบง่ายและสง่างาม มือข้างหนึ่งประคองท้องที่กลมป๊อก สาวเท้ายาวเดินเข้ามาด้านใน เดินอย่างว่องไว สายตาที่เฉียบแหลมเย็นชามองตรงไปยังนายท่านรองกู้ไอ้คนชั่วขี้ฟ้องตัวดี!ถ้าหากไม่ใช่เพราะเฟิงเย่เสวียนได้รับข่าว บอกว่านายท่านรองกู้เข้าวัง นางก็คงไม่รู้ถึงความคิดบิดเบี้ยวของเขาติดค้างหนึ่งชีวิต จะให้จบไปง่าย ๆแบบนี้ได้อย่างไร?สายตาของนายท่านรองกู้เปล่งประกาย วิเคราะห์ในใจตอนนี้ ทักษะการสำรวจของตระกูลกู้ได้รับภัยคุกคาม ไม่ใช่สิ่งที่มั่นคงอีกต่อไป ทั้งฉู่เชียนหลีเป็นสะใภ้ของราชวงศ์ ถ้าหากทะเลาะกันขึ้นมา ฝ่าบาทจะต้องช่วยฉู่เชียนหลีแน่เพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ เขาจงใจทำท่าทางทุกข์ใจ“พระชายาอ๋องเฉิน นี่คือพระประสงค์ของฝ่าบาท ท่านมีความผิด ข้าเองก็มีความผิดเช่นกัน พวกเราถอยกันคนละก้าว ทะเลท้องฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล ทุกคนล้วนอยู่ในเมืองหลวง จะต้องเจอหน้ากันบ่อย ๆ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทะเลาะกันจนมองหน้ากันไม่ติด”“อีกอย่าง นี่ก็เป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น”เป็นเพียง?อุบัติเหตุ?ฉู่เชียนหลีแสยะยิ้ม “คำพูดที่น่าฝืนใจเช่นนี้เจ้าพูดออกมาได้อย่างไร?
เสียงที่ดุดันดังลั่นไปทั่วทั้งห้องทรงพระอักษร เหล่าขันทีทุกคนตกใจจนก้มหน้า ฮ่องเต้ก็ประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกันเหตุการณ์ระเบิดครั้งเดียว ก็ทำให้ฉู่เชียนหลีโมโหถึงขั้นนี้เลย?หรือเป็นเพราะเรื่องอื่น?แต่ว่าเวลาที่นางคำราม ความน่าเกรงขามมาเต็มจริงๆ ท่าทางนั่น ความเด็ดเดี่ยวนั่น แม้แต่ผู้ชายหลายคนก็เทียบไม่ติด เฟิงเย่เสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ถูกราศีนางกลบไปด้วยนายท่านรองกู้โมโหแล้ว “เจ้า! เจ้าๆ…”เดิมพันก็ส่วนเดิมพัน ขายลูกสาวมีที่ไหนกัน!หันไปก็ฟ้องฮ่องเต้ทันที “ฝ่าบาท ต้องออกหน้าแทนกระหม่อมนะพ่ะย่ะค่ะ พระชายาอ๋องเฉินนางไร้เหตุผลสิ้นดี!”ฮ่องเต้กะพริบตา“หัวหน้าตระกูลกู้ ด้วยมิตรภาพระหว่างตระกูลกู้กับราชวงศ์ เราจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแน่นอน”“แต่เราขอพูดอย่างเป็นธรรมก่อน ท่านเป็นคนยอมรับการเดิมพันครั้งนี้ด้วยตัวเอง ตอนนั้นไม่มีใครเอามีดมาจี้คอบังคับท่าน เหตุใดจึงกลายเป็นฉู่เชียนหลีไร้เหตุผลได้?”คำถามประโยคเดียว ทำเอานายท่านรองกู้พูดไม่ออก“นี่…”เขาชะงักครู่หนึ่ง“ข้าตอบตกลงจะให้หลังจากนี้ครึ่งเดือน พระชายาอ๋องเฉินก็จะให้ขายลูกสาวของข้า!”“เช่นนั้นท่านเดิมพันแพ้แล้ว ย่อ
กรมคลังมีหน้าที่ดูแลด้านทะเบียนบ้าน โฉนดบ้าน โฉนดที่ดิน สัญญาและเรื่องอื่นๆ ทั่วทั้งแคว้น เจ้ากรมคลังเข้าวัง ค้นม้วนเอกสารออกมา หาโฉนดที่ดินและโฉนดร้านค้าของตระกูลกู้จนเจอซ่าๆๆในเวลาครึ่งเค่อสั้นๆ ร้านค้าหลายสิบแห่งถูกโอนไปอยู่ภายใต้ชื่อฉู่เชียนหลีนายท่านรองกู้โมโหจนกระอักเลือดต่อมา ฉู่เชียนหลีเอ่ยปากกล่าวอีกหนึ่งประโยค : รายได้ทั้งหมดก่อนที่นางจะรับช่วงร้านค้าเหล่านี้ต่อ บริจาคให้ท้องพระคลังทั้งหมดไม่เพียงเอาร้านค้าไปสิบกว่าแห่ง และยังแย่งกำไรของปีนี้ไปด้วยพลันนายท่านรองกู้หายใจไม่ทัน โมโหจนเป็นลมโดยตรง…“หัวหน้าตระกูลกู้เป็นลมไปแล้ว รีบเรียกหมอหลวงมาช่วยด่วน!”“...”จวนอ๋องเฉินหลิงเชียนอี้แบกร่างกายที่บาดเจ็บสาหัส ไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดตรงแผ่นหลัง แม้มีเลือดออกแล้ว ก็ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด ความตื่นเต้นและความสุขกลบความเจ็บปวดไว้อย่างสิ้นเชิงวิ่งมาถึงจวนอ๋องเฉิน กลับไม่เจออวิ๋นอิงหาอยู่หนึ่งรอบก็ไม่เจอ“อวิ๋นอิง?”“อวิ๋นอิง!”“เยว่เอ๋อร์ เจ้าเห็นอวิ๋นอิงหรือไม่” เขาเข้าไปในเรือนหานเฟิง ถามเยว่เอ๋อร์ที่กำลังกวาดใบไม้เยว่เอ๋อร์ส่ายศีรษะ“เจ้าก็ไม่รู้ว่านางไปไ