กู้ชิงชิงกล่าวอย่างหนักแน่น “ข้าจะต้องแต่งงานกับเจ้าโหวน้อยให้ได้ ท่านให้อวิ๋นอิงนั่นเตรียมตัวให้ดี มาเป็นสาวใช้คอยล้างเท้าให้ข้า”“ข้ากับเจ้าโหวน้อยเป็นสามีภรรยาที่รักกันมาก รักกันยืนยาว แต่นางทำได้แค่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าเตียง คอยปรนนิบัติพวกเรา ภาพนี้แค่ลองคิดดูก็ทำให้หัวใจข้าฮึกเหิม ข้ารู้สึกอดรนทนไม่ไหวแล้วนะ”นางเลียริมฝีปากเบา ๆ ความชั่วร้ายเอ่อล้นออกมาจากดวงตา“เจ้ายังเข้าไม่ได้แม้แต่ประตูของจวนโหวติ้งกว๋อ ก็ฝันหวานไปก่อนแล้วหรือ?” ฉู่เชียนหลีเงยหน้าจ้องมองความมืดยามราตรี “ก็ใช่ ดึกแล้ว ได้เวลานอนแล้ว”“ท่านเอาชนะตระกูลกู้ไม่ได้หรอก คนที่ฝันหวานคือเจ้า”“อย่างไรเสียก็ดีกว่าที่เจ้าที่ฝันว่าตนเองได้เป็นฮูหยินของเจ้าโหวน้อย โดยปกติแล้วล้วนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ถึงได้เอาแต่ปรารถนาอยู่ในความฝันเท่านั้น”“ท่าน!”กู้ชิงชิงโมโหเล็กน้อย พบว่าฝีปากของฉู่เชียนหลีคนนี้ร้ายกาจจริง ๆ นางเถียงไม่ชนะสีหน้าสงบลง “พระชายาอ๋องเฉินนอกจากจะปากกล้าแล้ว ก็ไม่มีตรงไหนที่ข้อดีแล้ว”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้ว เอาคืนนางด้วยประโยคนี้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง“เจ้าก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ?”“ข้าด
นายท่านรองกู้เอ่ยปากพูด “ไปเด็ดผลไม้ป่าประทังความหิวเถอะ”กู้ชิงชิงตะลึงงันไป ถามอย่างไม่เข้าใจ “ท่านพ่อ กินผลไม้ป่าจะอิ่มได้อย่างไร?”“ล่าสัตว์ไม่ได้แล้ว” นายท่านรองกู้แยกขาออก นั่งลงที่ข้างกองไฟ เชิดใบหน้าที่อวบอิ่มขึ้น ชี้ไปทางอ๋องเฉินและคนอื่นทางด้านนั้น“ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดละก็ หมาป่าตัวนั้นน่าจะมาจากเขาคุนหลุน”“เขาคุนหลุน? ก็คือเทือกเขาที่ลึกลับที่สุด เก่าแก่ที่สุดของแผ่นดินใหญ่? ได้ยินมาว่า หนึ่งพันปีมานี้ ไม่มีใครกล้าเข้าไปในส่วนลึกของเขาคุนหลุน ท่านพูดว่าหมาป่าตัวนั้นมีต้นกำเนิดมาจากเขาคุนหลุนหรือ?” กู้ชิงชิงประหลาดใจมาก“ถูกต้อง”วันนี้ตอนเช้า ทันทีที่หมาป่าตัวนั้นปรากฏตัว กำให้ม้าตกใจ รังสีของหมาป่าเดียวดายนั่น ไม่ใช่ที่หมาป่าธรรมดาทั่วไปจะมีประกอบกับเรื่องที่ล่าสัตว์ไม่ได้ เขาถึงได้เข้าใจมีที่ไหนบ้างที่ไม่มีสัตว์ให้ล่า เห็นได้ชัดว่าสัตว์ที่อยู่บริเวณรอบ ๆหลายลี้นี้ ทั้งหมดหนีไปเพราะตกใจหมาป่าตัวนี้สายเลือดที่บริสุทธิ์ของมัน ความน่าเกรงขามที่แฝงอยู่ในกระดูกของมัน เป็นสิ่งที่สัตว์อื่นไม่สามารถเทียบได้อย่างแน่นอน แม้ว่าสัตว์ที่ดุร้ายที่สุดในป่าจะอยู่เบื้องหน้า ก็ไม
นางขมวดคิ้ว ทัดปอยผมไว้ที่ใบหู นั่งลงอย่างสง่างาม อยากจะแสดงเสน่ห์ของตนเองสักหน่อยจิ่งอี้ “อย่ามานั่งตรงนี้ ขวางข้ากินเนื้อย่าง”กู้ชิงชิง “...”ทันทีที่ก้นหย่อนลงไป ได้เพียงครึ่งเดียว เมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็ชะงักอย่างเก้อเขิน จะนั่งลงไปก็ไม่ใช่ จะลุกขึ้นยืนก็ไม่ใช่ ค้างอยู่ท่านี้ไว้ อย่าถามว่าเก้อเขินมากแค่ไหนเมื่อเห็นชายหนุ่มเหล่านี้ห้อมล้อมฉู่เชียนหลี แต่กลับมองข้ามนางที่ความงามไม่ธรรมดานี้ไป อย่าถามว่าในใจโมโหมากแค่ไหน!นางยืดตัวตรงอย่างโมโหมาก กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว“พระชายาอ๋องเฉิน ถ้าหากท่านแพ้เดิมพันแล้ว ไม่เพียงต้องให้อวิ๋นอิงมาเป็นสาวใช้ล้างเท้าของข้าเท่านั้น ยังต้องมอบหมาป่าตัวนี้ให้ข้าด้วย ท่านกล้าหรือไม่?”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วเล็กน้อยพูดมามากมายขนาดนี้ ที่แท้ก็คืออยากได้หมาป่าของนาง?หัวของเจ้าดำน้อยเกยอยู่ที่บนรองเท้าปักลายดอกไม้ของฉู่เชียนหลี เงยหน้าขึ้นอย่างเกียจคร้าน เหลือบมองกู้ชิงชิง แล้วก็ก้มหัวลงไปอีกครั้ง พร้อมกับถอนหายใจ เป่าจนใบไม้ที่ร่วงสีเหลืองสองสามใบให้พัดขึ้น แล้วก็งีบหลับต่อฉู่เชียนหลีกัดเนื้อกระต่ายคำหนึ่ง “คุณหนูกู้ต้องการเพิ่มเดิมพันงั้นหรือ
ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นตลอดคืนเช้าวันรุ่งขึ้น แต่เช้าตรู่ หลังจากกินอาหารเช้าง่าย ๆ ทั้งสองกองทัพก็เดินเข้าไปในป่าต่อ หลังจากเดินไปประมาณหนึ่งชั่วยามกว่า ๆ หน่วยสำรวจของตระกูลกู้ก็เริ่มลงมือนี่คือหนึ่งกองทัพที่ประกอบไปด้วยคนสิบแปดคน มีทั้งคนแก่ เด็ก ทั้งหมดเป็นผู้ชาย ในมือพวกเขาถืออุปกรณ์ต่างกัน แต่ละคนมีความสามารถของตน กำลังสำรวจตำแหน่งของเหมืองคนที่ถือเข็มทิศ เดินหาตำแหน่งไปทั่วทุกสารทิศผู้ที่สังเกตฮวงจุ้ย จะคำนวณนับนิ้วตามตำแหน่งยังมีด้านวิชาฟิสิกส์อีกด้วย ขุดดินขึ้นมาก้อนหนึ่งแล้วดม ก็สามารถจำแนกได้คร่าว ๆ พากองทัพเดินไปยังอีกทิศทางหนึ่งยังมีความสามารถด้านอื่น ๆ อีก...เมื่อฉู่เชียนหลีเห็นดังนั้น ก็ประหลาดใจเล็กน้อย พูดตามตรง มีชีวิตอยู่มาสองภพ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นวิธีการหาเหมืองของคนโบราณเนื่องจากสงสัย อดไม่ได้ที่จะมองอยู่พักหนึ่ง“มองอะไรกัน?”ทางด้านนั้น กู้ชิงชิงสายตาเย็นชา “ต่อให้ท่านมองจนตาถลนออกมา ท่านก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้หรอก?”“ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเรียนเช่นกัน” ฉู่เชียนหลีเพียงแค่สงสัยเท่านั้น“ข้าว่าพวกท่านคงอยากจะลักวิชา” กู้ชิงชิงกอดอก “ตั้งแต่ออ
กู้ชิงชิงถามจบ ก็รู้สึกเสียใจ เห็นได้ชัดว่าตนเองโง่เขลา“ของที่เก็บมาได้” ฉู่เชียนหลีพูดอย่างสบาย ๆ “จิ่งอี้ เจ้าเอามันไปสำรวจดูทุกที่เลย ถ้าหากมันส่งเสียงร้องตรงไหน ก็ขุดตรงนั้น”ทุกคน “?”เจ้าของสิ่งนี้ยังส่งเสียงได้อีกด้วยเหรอ?พวกเขาคนแก่สุดอายุหกสิบกว่าปี เด็กสุดอายุสิบเจ็ดสิบแปดปี มีชีวิตอยู่มานานขนาดนี้ ไม่เคยเห็นสิ่งของหน้าตาแปลกประหลาดนี้มาก่อนเลยจิ่งอี้ตอบ ถือเครื่องตรวจจับโลหะ แล้วเดินไปเขาเดินไปทั่วบริเวณหนึ่งรอบใหญ่ สุดท้าย ที่ภูเขาลูกนั้นตรงหน้ากับภูเขาแร่ของตระกูลกู้ ก็ตามหาตำแหน่งที่เหมาะสมจนเจอเครื่องตรวจจับดังขึ้นแล้ว ก็ขุดภูเขาลูกนี้เริ่มลงมือทำงานทั้งสองกองทัพต่างฝ่ายต่างขุดภูเขาแร่ ภูเขาทั้งสองลูกมีระยะห่างกันประมาณยี่สิบสามสิบเมตร ไม่ไกล แล้วก็ไม่ใกล้ แค่เงยหน้าก็มองเห็นในขณะที่กำลังยุ่งกู้ชิงชิงกับบิดากำลังนั่งพักผ่อนอยู่ใต้ร่มไม้ นางนั่งพิงต้นไม้ ในมือถือผลไม้ป่าไว้ลูกหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเปรี้ยวมาก แต่เมื่อคืนไม่ได้กินอิ่ม ตอนเช้าก็ไม่ได้กินดี จึงจำใจต้องยอมกิน“ท่านพ่อ ท่านว่าฉู่เชียนหลีนั่นกำลังทำบ้าอะไรอยู่?” นางกำลังกัดผลไม้ป่าทางด้านนั้น อ
“อะไรนะ?!”สองพ่อลูกตกใจเป็นอย่างมาก ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินองครักษ์กล่าวอย่างร้อนใจ “เป็นความจริง! นายท่าน อ๋องเฉินออกคำสั่งห้ามแพร่ข่าว พวกเขาปิดข่าวเอาไว้เป็นอย่างดี เป็นเพราะข้าปลอมตัว ปะปนเข้าไปในคนของพวกเขา ถึงได้ล้วงข่าวออกมาได้”กู้ชิงชิงตกตะลึงเป็นอย่างมาก “เป็นไปได้อย่างไร...”ถ้ำเหมืองของพวกเขายังขุดแร่เหล็กออกมาไม่ได้ ฉู่เชียนหลีจะขุดออกมาก่อนได้อย่างไร?ฉู่เชียนหลีเก่งกว่าตระกูลกู้ของพวกเขาได้อย่างไร?เป็นไปไม่ได้!หรือว่าสิ่งของหน้าตาแปลกประหลาดนั่นในมือของนาง จะมีพลังเวทมนตร์จริง ๆ?“ท่านพ่อ ข้าไม่เชื่อ! นางเป็นมือสมัครเล่นคนหนึ่ง จะต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่นอน ถึงได้ขุดเจอแร่เหล็ก เป็นเพราะนางโชคดี ถ้ำเหมืองของพวกเรายังไม่มีอะไรออกมาเลย นางจะเร็วกว่าพวกเราไปได้อย่างไร?”เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด!นายท่านรองกู้ขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม สีหน้าหนักใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเขาประมาทศัตรูเกินไปในเมื่อพระชายาอ๋องเฉินกล้าเดิมพันกับเขา จะต้องซ่อนลูกไม้เอาไว้แน่นอน เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าประสิทธิภาพของพระชายาอ๋องเฉินจะสูงขนาดนั้น ใช้เวลาแค่เพียงวันเดียว ก็สามารถขุดแ
“ถูกต้อง ไม่ขโมยไก่ ไม่ขโมยหมา แต่ขโมยเหล็ก” คำพูดที่เย็นชาประโยคหนึ่งของเฟิงเย่เสวียนลอยเข้ามา“...”นายท่านรองกู้ข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่ โมโหจนหน้าดำขโมยเหล็ก?เอาเหล็กที่ไหนมาให้เขาขโมย?“พระชายาอ๋องเฉินจงใจกระมัง!” เขากล่าวเสียงเย็นชา “ท่านไม่ได้ขุดได้แร่เหล็กอะไรหรอก ยังจงใจปล่อยข่าวออกไป บอกว่าขุดได้เยอะมาก ๆ ก็เพื่อต้องการดึงดูดให้ข้าติดกับ จากนั้นค่อยแว้งกัดข้า หาว่าข้าขโมยเหล็ก”“พฤติกรรมหลอกลวงของท่าน แตกต่างจากพฤติกรรมคนชั่วอย่างไร? วันนี้นับว่าข้าได้เห็นแล้ว!”ด้วยคำพูดที่เฉียบคมของเขา ตำหนิว่าเป็นความผิดของฉู่เชียนหลีทันทีฉู่เชียนหลีไม่ได้ผิดอะไรเลย ทั้งยังกระทำความผิดใหญ่หลวงอีกหรือ?แต่นายท่านรองกู้ที่ฉวยโอกาสขโมยของยามค่ำคืน ก็คือบริสุทธิ์สุด ๆ เลยหรือ?นี่มันเหตุผลอะไรกัน?“จงใจดึงดูดให้เจ้าติดกับ?” ฉู่เชียนหลีย้อนหลัง “ได้ฟังความหมายของเจ้า เจ้ามาเพื่อขโมยเหล็กจริง ๆ อย่างนั้นสินะ?”ใช่!ข้ามาเพื่อขโมย!แต่ท่านมีเหล็กให้ข้าขโมยหรือไม่? ท่านไม่มีถ้าอย่างนั้นจะยอมรับหรือ? ข้าไม่“พระชายาอ๋องเฉินพูดจาน่าขันยิ่งนัก ข้าไม่ระวังเดินผิดถ้ำแร่ ที่นี่ของท่านไม่ม
ถ้ำเหมืองของตระกูลกู้ยังขุดไม่พบ พระชายาก็ขุดได้เยอะขนาดนี้ก่อนแล้วงั้นหรือ?ถ้าหากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ก็คงจะไม่เชื่อเลยสักนิดนายท่านรองกู้จ้องมองอย่างตื่นตะลึง ตกตะลึงอยู่ครู่ใหญ่ ถึงได้สติกลับคืนมา “พระชายาจะดวงดีเกินไปแล้วกระมัง?”เมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกน่าขันยิ่งนักดวง?“ดวงไม่ดีไม่ใช่เหตุผลที่จะเบี้ยวหนี้ การเดิมพันของพวกเรายังคงดำเนินต่อไป”“...”สีหน้าของนายท่านรองกู้หมองคล้ำให้ตายเถอะ!เขาอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว ใบหน้าแก่ชราเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป กลับไปที่ค่ายของตนเอง เมื่อเห็นบรรดาคนงานพวกนั้นนอนหลับสบาย กำลังส่งเสียงกรน ก็กระทืบเท้าด้วยความโมโห“กี่โมงกี่ยามแล้ว ยังนอนหลับกันอยู่ได้! ตื่นมาทำงานได้แล้ว!”เหนื่อยมาทั้งวัน คนงานที่กำลังนอนหลับอย่างสุขสบาย “?”ฟ้ายังไม่สว่างเลย?แต่ว่า นายท่านรองกู้ที่ระงับโทสะเอาไว้ไม่อยู่ พวกเขาจึงต้องรีบลุกขึ้น แบกพลั่ว แบกจอบและเครื่องมืออื่น ๆ ออกเดินทางทันที เพื่อเข้าไปขุดถ้ำเหมืองการขุด ดำเนินไปตลอดทั้งคืนจนกระทั่งยามฟ้าสาง นอกจากขุดได้เหล็กจำนวนน้อยนิดแล้ว ก็ไม่ได้อย่างอื่นอีก
ทุกคนรออยู่ที่นอกประตูเมือง เฟิงเย่เสวียนขี่ม้าเข้าไปใกล้ สายตาจ้องฉู่เชียนหลีอย่างลึกซึ้งหลายวินาทีฉู่เชียนหลียิ้มระหว่างทั้งสองคน คำพูดมากมายไม่จำเป็นต้องพูด แค่สบตากัน ก็สามารถเข้าใจกันแล้วผ่านไปครู่หนึ่งเขาถอนสายตากลับ กระตุกม้าให้หยุดลง โน้มกายและเอื้อมมือไปรับลูก“ส่งเขาให้ข้า”เฟิงเจิ้งหลียิ้มได้อ่อนโยนมาก ก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวอย่างเชื่อฟัง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อย ส่งเด็กที่อยู่ในมือออกไป“น้องเจ็ด เดินทางปลอดภัย”เขาเน้นเสียงคำว่า ‘ปลอดภัย’ เป็นพิเศษ เหมือนมีความหมายที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่อ๋องเฉินยื่นมือออกมาแล้ว ขณะที่กำลังจะสัมผัสโดนเด็ก เฟิงเจิ้งหลีปล่อยมือกะทันหันทันใดนั้นเด็กสูญเสียแรงยึดเหนี่ยว ร่วงลงไปโดยตรง!“จื่อเยี่ย!”พลันเฟิงเย่เสวียนแน่นหน้าอก กระโดดลงจากม้าด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด ก็เห็นอ๋องหลีรับเด็กไว้แล้ว และก็เพราะพริบตาที่เขาเผลอนี้ จึงถูกธนูลับดอกหนึ่งยิงเข้าที่สะบักฉึก…“อาเฉิน!”“ท่านอ๋อง!”เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน ไม่มีใครรับมือทันเวลาเฟิงเจิ้งหลีใช้มือซ้ายอุ้มเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ย มือขวาจับตัวฉู่เชียนหลี ถอยหลังเจ็ดแปดก้าว ขณะ
เฟิงเย่เสวียนเดินออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว “ปล่อยฉู่เชียนหลีกับเด็ก ข้าอยู่เอง เจ้าจับฉู่เชียนหลีไม่มีประโยชน์ มีเพียงจับข้าเท่านั้น เจ้าจึงจะสามารถนั่งราชบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง”เฟิงเจิ้งหลีเย้ยหยัน“อย่ามาต่อรองกับข้า ข้ายอมถอยให้แล้ว ถ้าหากยังได้คืบจะเอาศอก ข้าไม่ถือสาที่จะพินาศไปพร้อมกัน”ฉู่เชียนหลีรีบถอยกลับมาจับข้อมือเฟิงเย่เสวียน กล่าวเสียงเบา “เจ้าพาจื่อเยี่ยไป!”“เชียนหลี…”“คนที่เขาต้องการคือข้า มีเพียงเจ้าไปและมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้น จึงจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ จื่อเยี่ยไปแล้ว ข้าจึงจะวางใจ ถึงเวลานั้น เขาก็ไม่มีข้อได้เปรียบอีก และไม่จำเป็นต้องกลัวเขาอีกแล้ว” ฉู่เชียนหลีวิเคราะห์เบาๆ อย่างฉับไวเฟิงเจิ้งหลีไม่มีทางฆ่านางใช้นางคนเดียว แลกกับความปลอดภัยของจื่อเยี่ย แลกกับความปลอดภัยของทุกคน อย่างไรก็ดีกว่าสู้กันตายไปข้างหนึ่ง เลือดนองเหมือนแม่น้ำไม่ใช่ว่านางจะถูกขังอยู่ในเมืองหลวงตลอดไปตราบใดที่ยังมีชีวิต ก็มีโอกาสเฟิงเย่เสวียนรู้ผลได้ผลเสียในนี้ เด็กคนนี้อย่างไรก็ต้องช่วย แต่เขาจะทิ้งฉู่เชียนหลีไว้คนเดียวได้อย่างไร“เชียนหลี ข้ามันไร้ประโยชน์”“ข้าไม่อนุญาตให้เจ
เมื่อพรรคของอ๋องหลีได้ยินเช่นนี้ ก็กลัวทันทีดูท่าทีของพระชายาอ๋องเฉิน นี่กำลังจะเปิดฉากสังหารครั้งใหญ่ในวังชัดๆ!ฆ่าคนติดต่อกันสองคน ไม่กระพริบตาแม้แต่ทีเดียวเลือดกระเซ็นโดนใบหน้า ก็เย็นเฉียบท่าทางที่ชั่วร้ายเหมือนปีศาจนั่น ทำให้ขุนนางหลายคนเกิดความกลัว ลองถามคนทั่วหล้า จะมีสักกี่คนที่ไม่กลัว? อยู่ต่อหน้าความเป็นความตาย ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวพวกเขาไม่อยากตายขุนนางคนหนึ่งกลัวจนพูดติดอ่าง“อ๋อง อ๋องหลี…อย่างไรเด็กที่อยู่ในมือท่านก็เป็นพระนัดดาองค์โต เป็นสายเลือดของราชวงศ์ ถ้าหากฆ่าเขา ในวันข้างหน้า มลทินของท่านจะถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ เกรงว่าจะถูกคนรุ่นหลังด่าทอต่อๆ กันเป็นหมื่นปี”ขุนนางอีกคนก็กล่าวเสียงสั่น“อ๋องเฉินโปรดพิจารณา…”ถ้าหากสู้กันจริงๆ พวกเขาสู้ไม่ไหวอ๋องเฉินมีฮ่องเต้หนุนหลัง มีกองทัพ มีกำลังทหาร อ๋องเฉินเป็นฝ่ายได้เปรียบทุกด้านในมืออ๋องหลี นอกจากพระนัดดาองค์โต ก็ไม่มีเบี้ยอย่างอื่นแล้ว อีกทั้ง ทหารรักษาพระองค์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ทหารองครักษ์เงาของอ๋องเฉินเมื่อไรที่สู้กัน พวกเขาจะตายกันหมดไม่จำเป็นต้องตายไปครั้งหนึ่ง บางครั้ง เมื่อเห็นว่าพอแล้วก
เฟิงเย่เสวียนแค่ขมวดคิ้วทีหนึ่ง ก็ข่มความเจ็บปวดนี้ลงไปผู้บัญชาการจางฟาดอย่างดุร้ายลองคิดดูเขาที่เป็นขุนนางคนหนึ่ง สามารถใช้แส้ฟาดองค์ชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด นี่เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเพียงใด พูดคำนี้ออกไป เขาสามารถอวดสามสิบปียิ่งฟาดยิ่งรู้สึกสนุก ยิ่งฟาดยิ่งแรงเพี๊ยะ!เพี๊ยะๆๆ!ทุกคนร้อนใจจนกระทืบเท้า แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป อ๋องหลีบ้าไปแล้ว เขาไม่ใช่อ๋องหลีที่เข้าถึงได้ง่ายอีกแล้ว!ฉู่เชียนหลีเพิ่งคิดจะกระโจนเข้าไป ก็ถูกอ๋องหลีสั่งให้คนคุมตัวไปยืนอยู่ข้างๆ บังคับให้นางมองดูต่อหน้าต่อตา“ฉู่เชียนหลี ข้าเคยบอกแล้ว เจ้าจะต้องเสียใจ คนไร้ประโยชน์อย่างเฟิงเย่เสวียน แม้แต่ลูกชายก็ปกป้องไม่ได้ มีประโยชน์อะไร”แววตาเฟิงเจิ้งหลีเปล่งแสงที่บ้าคลั่ง“เขาเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ฝ่าบาทจะให้ความสำคัญกับคนไร้ประโยชน์เช่นนี้ได้อย่างไร? ฉู่เชียนหลี เจ้าว่าเจ้าตาบอดใช่หรือไม่? เจ้าดูสภาพที่สะบักสะบอมของเขาตอนนี้ เหมือนสุนัขตัวหนึ่ง เจ้าก็ยังชอบเขา เช่นนั้นเจ้าก็เป็นสุนัขตัวเมียที่แพศยา”เขายิ้มอย่างชั่วร้าย สิ่งที่พูดออกมายิ่งไม่น่าฟังทุกคนตาแดง อยากพุ่งเข้าไปสับอ๋องหลีเป็นชิ้นๆ เสีย
ผู้ชายที่ร่างกายสูงใหญ่งอหัวเข่า คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอ๋องหลีอย่างตั้งตรง แม้อยู่ต่ำกว่า แต่ความสูงศักดิ์ที่แผ่ซ่านออกมาจากกระดูก ไม่ลดน้อยลงเลยสักนิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากคุกเข่าให้ฮ่องเต้และบรรพชน พวกเขาไม่เคยเห็นอ๋องเฉินคุกเข่าให้ใครเฟิงเจิ้งหลีเห็นดังนี้ แหงนหน้าหัวเราะ“ฮ่าๆๆ!”คิดไม่ถึงจริงๆ เขาจะมีวันนี้ด้วยลูกชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด แพ้ให้กับลูกชายที่ไม่โปรดปรานที่สุด ไม่สะดุดตาที่สุด และยังถูกทุกคนรังแก ความรู้สึกที่อยู่เหนือกว่าเช่นนี้ ทำให้ในใจเขาสาแก่ใจจริงๆ“ฮ่าๆๆๆ เฟิงเย่เสวียน เจ้าก็มีวันนี้ด้วย!”หัวเราะเสร็จ เขารู้สึกว่าความเย่อหยิ่งของอ๋องเฉินมันขัดตาทั้งๆ ที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบจนต้องคุกเข่า เหตุใดยังอวดดีหยิ่งผยองเช่นนี้?เขาออกคำสั่ง “ก้มหัวเจ้าลงไป”เฟิงเย่เสวียนเม้มปาก ก้มศีรษะลงเขาออกคำสั่งอีกครั้ง “โขกศีรษะ!”“อ๋องหลี ท่านอย่ารังแกให้มันมากนัก! ท่านกับท่านอ๋องของเราเป็นคนรุ่นเดียวกัน ท่านรับการโขกหัวจากเขาไม่ได้! ไม่กลัวบรรพชนรู้แล้ว อายุสั้นหรือ!” พ่อบ้านหยางกล่าวด้วยความโกรธเพิ่งกล่าวจบ ก็ถูกผู้บัญชาการจางถีบจนล้มลงพื้นหลังจากล้มลง ก
“ปล่อยคนของเจ้าแล้ว เจ้าเป็นอิสระแล้ว คืนลูกให้ข้า” ฉู่เชียนหลีจ้องเขาเฟิงเจิ้งหลีเหลือบมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ท่าทางที่ร้องไห้จนหน้าแดง เห็นแล้วปวดใจนักคิดว่าแค่นี้ก็จบแล้วหรือ?เขายิ้ม“ฉู่เชียนหลี เหมือนเจ้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์นะ?”“?”“……”“เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับข้า? เด็กอยู่ในมือข้า เป็นหรือตายขึ้นอยู่กับข้า ถึงคราวที่เจ้าต้องมาสอนข้าทำงานตั้งแต่เมื่อไร?”สีหน้าฉู่เชียนหลีเคร่งขรึมทันทีเห็นได้ชัด เขาได้คืบจะเอาศอก“เจ้ายังต้องการอะไรอีก?”“ข้าหรือ” เขาเงยหน้าด้วยรอยยิ้ม กวาดมองทุกคน และตำหนักอันหรูหราหลังนี้ วังหลวงที่กว้างใหญ่แห่งนี้ แผ่นดินที่ดีเช่นนี้เขาต้องการอะไร ยังต้องให้พูดอีกหรือ?แต่ว่า มองดูท่าทางที่ร้อนใจของฉู่เชียนหลี เขาเกิดอยากสนุก ต้องการระบายความคับข้องใจที่ได้รับในสองวันนี้ออกมาให้หมดลูบแก้มของเด็กน้อยพลางกล่าว“อยากได้ลูกคืน ไม่มีปัญหา มันก็ต้องดูว่าอ๋องเฉินมีความจริงใจหรือไม่”เงียบไปครู่หนึ่ง“อืม หรือไม่อ๋องเฉินคุกเข่า โขกหัวให้ข้าสามครั้ง ข้าก็คืนลูกให้เจ้า เป็นอย่างไร?”ฉู่เชียนหลีโมโหแล้วด้วยนิสัยที่ยอมหนึ่งก้าว จะเอาสิบก้าวข
“เจ้า!”ฉู่เชียนหลีถูกความเฉยเมยของนางยั่วจนโมโหแล้ว ยิ่งคิดไม่ถึงว่าใต้ฟ้าจะมีแม่ที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้มันก็จริงฉู่เจียวเจียวกับเฟิงเจิ้งหลี ถ้าไม่เหมือนกันก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่มีอะไรที่พวกเขาสองสามีภรรยาทำไม่ลงรอหลังจากลู่ฉินเติบโต รู้ว่าตัวเองมีแม่เช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะเศร้าเพียงใด!“ฉู่เชียนหลี เฟิงเย่เสวียน พวกเจ้าเลิกพูดไร้สาระได้แล้ว รีบปล่อยตัวอ๋องหลี ความอดทนข้ามีขีดจำกัด!” ฉู่เจียวเจียวกล่าวอย่างเย็นชา“จะเอาชีวิตของลูกชาย หรือจะปล่อยคน พวกเจ้าเลือกเอง”อย่างไรนางก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วไม่ดิ้นรน ตายสถานเดียวดิ้นรน เดิมพัน ยังมีโอกาสสายตาเฟิงเย่เสวียนเคร่งขรึมมาก หางตาเหลือบมองหานเฟิง หานเฟิงเข้าใจทันที เขาซ่อนมือไว้ที่หลัง และทำท่าสัญญาณมือไปที่ด้านหลังมือธนูเตรียมพร้อมจู่ๆ ฉู่เจียวเจียวก็กล่าวเสริมอีกประโยคอย่างเย็นชา “พวกเจ้าสามารถลองดูได้ ดูสิว่าการเคลื่อนไหวของพวกเจ้าไว หรือมีดที่อยู่ในมือข้าเร็ว”“ต่อให้ข้าตาย การฆ่าเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยก็ใช้เวลาแค่พริบตาเดียว”ฉู่เชียนหลีสั่งให้มือธนูหยุดทันที “ปล่อยคน!”อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามผู้หญิงคนนี้มันเป็นผู
พลันฉู่เชียนหลีแน่นหน้าอก“หยุดนะ…”“อย่าเข้ามา!”ฉู่เจียวเจียวถอยหลังสามก้าว มือซ้ายจับเด็ก มือขวาถือมีดสั้น มีดสั้นที่แวววาวจ่ออยู่บนผิวอันบอบบางของเด็ก กรีดจนรอยเลือดออกแล้วเลือดไหลออกมาแล้ว“จู่ๆ เจ้าก็มาเป็นห่วงข้า และยังพยายามอยากอุ้มลูกทุกวิถีทาง ข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าไม่ได้มีเจตนาดี”นางยิ้มอย่างเย็นชา“เหอะ! ดูเหมือนฮ่องเต้ที่แกไม่ตายสักทีนั่นเป็นคนบอกเรื่องนี้กับเจ้าสินะ!”ไอ้แก่ เป็นอัมพาตเฉียบพลันยังไม่ยอมอยู่อย่างสงบเสงี่ยมอีกต่อให้รู้ความจริงแล้วอย่างไร?ชีวิตของเด็กคนนี้อยู่ในมือนาง“ฉู่เชียนหลีนะฉู่เชียนหลี เจ้าคิดอย่างไรก็คงคิดไม่ถึงกระมังว่า เจ้าเลี้ยงลูกสาวข้า ข้าเลี้ยงลูกชายเจ้า และก็ต้องขอบคุณลูกชายคนดีคนนี้ของเจ้า กลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญของอ๋องหลี” นางเผยอมุมปาก รอยยิ้มนั้นน่ากลัวมากฉู่เชียนหลียืนตัวแข็งอยู่ตรงที่เดิม ไม่กล้าขยับ“เจ้าต้องการอะไร?”ฉู่เชียนหลีจ้องมีดสั้นในมือนาง กลัวว่านางจะพลั้งเผลอกรีดโดนคอของเด็กตั้งครรภ์สิบเดือนลูกชายเป็นก้อนเนื้อชิ้นหนึ่งที่ตกลงมาจากร่างกายนางนางไม่กล้าเดิมพัน และเดิมพันไม่ไหวฉู่เจียวเจียวกล่าว “ข้าต้องก
กลางดึกกำลังถึงช่วงที่คนเงียบสงบ คนกลุ่มหนึ่งวิ่งไปที่ตำหนักเจาหยางราวกับคลื่นยักษ์ ตอนที่ใกล้จะถึง ฉู่เชียนหลีตวาดสั่งให้พวกเขาหยุด“พวกเจ้าอยู่ห่างๆ อยากเข้าใกล้!”พ่อบ้านหยางกล่าวด้วยความเป็นห่วง “พระชายา พวกเราต้องไปเอาพระนัดดาองค์โตกลับมา นั่นเป็นเลือดเนื้อของท่านกับท่านอ๋องนะ”“ข้ารู้!”ก็เพราะรู้ จึงไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้“ไปทำอะไรคนเยอะแยะ ถ้าหากบีบจนฉู่เจียวเจียวไม่มีทางเลือก นางทำอะไรขึ้นมา…”ฉู่เชียนหลีแทบจะเป็นบ้าแล้ว ร้อนรนเหมือนมดที่อยู่บนกระทะร้อน ทั้งร้อนใจทั้งไม่สบายใจ น้ำเสียงก็ค่อนข้างฉุนเฉียวไม่อยากพูดมาก วิ่งเข้าไปในตำหนักเจาหยางเพียงลำพัง คนอื่นรออยู่ที่ข้างนอก ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามภายในตำหนักฉู่เจียวเจียวกำลังกล่อมจื่อเยี่ย ฉู่เจียวเจียวมาแล้ว นางมองเด็กน้อยที่อ้วนสมบูรณ์ กล่าวโดยไม่เงยหน้า“พระชายาอ๋องเฉิน ลูกของข้าเพิ่งนอนหลับ ”โปรดให้อภัย ข้าอุ้มเขาไว้ ร่างกายหนัก ไม่สะดวกลุกขึ้นยืน สายตาฉู่เชียนหลีมองไปที่ตัวเด็กเด็กน้อยอ้วนสมบูรณ์ ใบหน้าจ้ำม่ำ คิ้วละเอียดอ่อน หน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดู คล้ายเฟิงเจิ้งเว่ยซีแปดส่วนเหตุใดเมื่อก่อนนางไม่สังเกต