ฉู่เชียนหลีเป็นคนที่เข้าข้าง ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ นางจะต้องปกป้องคนของตัวเองเอาไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเยว่เอ๋อร์ที่ร่วมเป็นร่วมตายร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนางมาแต่ว่า สำหรับเฟิงเย่เสวียน หานอิ๋งที่ติดตามเขามาเป็นเวลาสิบห้าปี ยิ่งกว่าเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายเฟิงเย่เสวียนเห็นแก่หน้าของนาง รู้สึกลำบากใจที่จะลงโทษคนของนาง ถึงได้ลงโทษหานอิ๋งแต่สีหน้าที่ลำพองใจของเยว่เอ๋อร์นี้...ท่ามกลางความคลุมเครือ นางรู้สึกว่าเยว่เอ๋อร์เปลี่ยนไปแล้วกลายเป็นคนแปลกหน้า ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนอีกต่อไปทันใดนั้น ฉู่เชียนหลีก็เอ่ยปาก“พ่อบ้าน”“พระชายา เชิญรับสั่ง” พ่อบ้านก้าวมาข้างหน้า“เจ้าไปตักถั่วออกมาสองชั่ง เทลงไปในขี้เถ้า ใช้ให้คนไปจับตาดูเอาไว้ เมื่อใดที่เยว่เอ๋อร์เลือกออกมาได้หมดเมื่อไหร่ ค่อยให้ไปนอนตอนนั้น”“พระชายา!?” ดวงตาทั้งสองข้างของเยว่เอ๋อร์เบิกกว้างทันทีถั่วสองชั่ง!อย่าว่าแต่ถั่วไปคลุกอยู่ในขี้เถ้าเลยว่า จะหายากขนาดไหน ประกอบกับตอนนี้เป็นตอนกลางคืน สายตาไม่ดี ตาอาจจะบอดเอาได้ ถั่วสองชั่งนี้มากพอที่จะทำให้นางต้องเก็บทั้งคืนนางไม่ได้ทำผิดอะไร เหตุใดถึงต้องโดนลงโทษ?นางไม่ยอม!“พระ
เฟิงเย่เสวียนไม่ออกความเห็น“การอยู่ร่วมกันกับคนไม่ใช่เรื่องง่าย ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับวิธีการ ถ้าหากนางมีสติปัญญา จะต้องเข้าใจความลำบากใจของเจ้า”การเลือกเมล็ดถั่วจากขี้เถ้า เป็นการฝึกความอดทนของคนที่ดีที่สุดในเวลาเดียวกัน วิธีการนี้ทำให้คนจิตใจสงบ ทำให้คนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ได้ครุ่นคิดเงียบ ๆ จะทำให้สุขุมเยือกเย็นขึ้นฉู่เชียนหลีพลิกตัว ยื่นหัวออกไปมองความมืดมิดยามราตรีด้านนอก ในดวงตามีความกังวลนางทำใจลงโทษเยว่เอ๋อร์ได้จริง ๆเสียที่ไหนกัน แต่ว่าแค่อยากจะระงับอารมณ์ของนางเท่านั้นเอง“วันพรุ่งนี้ตระกูลกู้จะไปขุดแร่ที่เทือกเขาอวี้หลง ข้าได้เรียกกำลังคนฝีมือมือดีมา วันพรุ่งนี้พวกเราก็จะไปด้วยเช่นกัน” เฟิงเย่เสวียนกล่าว“ดี”“รีบพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ” เขาห่มผ้าให้นางเรียบร้อย ก็กอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น“วันนี้ไปจวนอ๋องหลี เรื่องทางนั้นจัดการเป็นอย่างไรบ้าง?”“ก็ตามนั้นเถอะ...”ฉู่เชียนหลีไม่อยากจะเอ่ยถึงหัวข้อนี้สักเท่าไหร่ พึมพำสองสามคำ แล้วก็ผละตัวออก แสร้งทำเป็นว่าจะนอนผลปรากฏว่า พลิกตัวไปมาอยู่หนึ่งชั่วยาม ก็นอนไม่หลับภายในใจยังมีเรื่องบางอย่าง ทำให้หล
เมื่อครู่นี้เยว่เอ๋อร์ไม่มีทางพูดจาแบบนี้ ยิ่งไม่มีทางมีท่าทีที่เป็นธรรมชาติแบบนี้นางก็ยังเป็นนาง ใบหน้าที่คุ้นเคย แต่ในระหว่างช่วงกลางวันและกลางคืน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย...เยว่เอ๋อร์เผชิญกับสายตาที่ไม่พอใจนั้นของฉู่เชียนหลี ก็ตกตะลึงทันที“พระชายา!”ถึงได้สังเกตได้ว่าตนเองพูดผิดไปแล้ว“พระชายา ขออภัย เมื่อครู่นี้ข้าใจร้อนปากไวไปถึงได้พูดจาเช่นนั้น! ข้าไม่ได้มีเจตนา เป็นเพราะหานอิ๋งเยาะหยันท่าน ข้าถึงได้ร้อนใจจนพูดแบบนั้นออกไป...”นางจับมือทั้งสองข้างของฉู่เชียนหลี รีบกล่าวอธิบาย“ข้าไม่ต้องการให้ผู้ใดก็ตามใส่ร้ายท่าน ดูถูกเหยียดหยามท่าน ถึงได้พูดจารุนแรงไปหน่อย พระชายา ไม่ว่าข้าจะทำอะไร ล้วนเป็นเพราะหวังดีกับท่าน!”หานอิ๋งใส่ร้ายพระชายา นางไม่ชอบหานอิ๋งคนอื่นพุ่งเป้ามาที่พระชายา นางก็จะโต้เถียงและตอบโต้เช่นเดียวกันตั้งแต่ต้นจนจบ นางคิดแค่เพียงว่าจะปกป้องพระชายา หัวใจอุทิศให้พระชายาฉู่เชียนหลีจ้องมองนาง อ้าปากอย่างเงียบเชียบ กลายเป็นเสียงถอนหายใจเบา ๆ ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ลูบหลังมือของเยว่เอ๋อร์เบา ๆเยว่เอ๋อร์ยังไงก็คือเยว่เอ๋อร์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อครู
“พระชายาอ๋องเฉินอยากจะแย่งตำแหน่งฮูหยินท่านโหวน้อยของข้า ย่อมจะต้องลงมือบางอย่าง แต่ว่า ตอนนั้นถ้าท่านแพ้ อย่าได้อาศัยที่กำลังตั้งครรภ์เชื้อพระวงศ์ ก็อย่าร้องไห้โวยวายเล่นลูกไม้ ไม่อยากยอมรับ ใช้อำนาจคุกคามข้าละ”กู้ชิงชิงยิ้มใบหน้าเล็กที่ขาวสะอาดหมดจดที่เรียบร้อยนั้นดูดีขึ้นมาทันที แต่คำพูดที่พูดออกมากลับไม่น่าฟัง“นิสัยของคุณหนูกู้หยิ่งผยองเช่นนี้ ถ้าหากแพ้แล้ว คงจะไม่คิดไม่ตกแล้วก็จะแขวนคอตายหรอกใช่หรือไม่” คำพูดประโยคหนึ่งของเฟิงเย่เสวียนลอยมาเจ้าซิถึงต้องแขวนคอตาย!ทั้งครอบครัวเจ้าสิถึงต้องแขวนคอตาย!ฉู่เชียนหลี ท่านเถียงไม่ชนะข้า ก็เลยให้อ๋องเฉินหนุนหลัง สุดท้ายแล้ว ท่านก็ต้องอาศัยอ๋องเฉินมิใช่หรือไร?ในสายตาของกู้ชิงชิงมีความเหยียดหยามปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง กล่าว“ว่ากันตามฝีมือการสำรวจ ตระกูลกู้ของพวกเราเป็นอันดับสอง ก็ไม่มีใครกล้าเป็นอันดับหนึ่งตระกูลกู้ของนางพัฒนามาหลายร้อยปี เทคนิคและความลับที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ การตกผลึกแห่งสติปัญญาของบรรพบุรุษ ผู้ใดจะเทียบได้?พึ่งพาแค่ฉู่เชียนหลีงั้นหรือ?ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริง ๆผมยาว แต่ความรู้สั้น
กู้ชิงชิงปั้นหน้าไม่อยู่แล้ว ค้อนฉู่เชียนหลีอย่างดุร้ายแวบหนึ่ง และกลับไปนั่งบนหลังม้าอีกครั้งด้วยความโมโห ไม่มีอารมณ์จะทะเลาะด้วย สีหน้าอึมครึม เดินไปที่ข้างหน้าสุดคนเดียว“ลูกสาวสุดที่รัก~~” นายท่านรองกู้รีบไปโอ๋ลูกสาวคนของตระกูลกู้เดิมตามด้านหลัง สองกองทัพที่ยิ่งใหญ่ออกเดินทางพร้อมกันจิ่งอี้กับจางเฟยเดินตามมาด้วย ยังมีคนของสำนักอู๋จี๋อีกหลายคน“นี่” จางเฟยหนีบที่ท้องของม้าแน่น เดินตามไปที่ด้านข้างจิ่งอี้ ใช้ศอกกระแทกเขาทีหนึ่ง ท่าทางลับ ๆล่อ ๆ“จิ่งอี้ เจ้ารู้หรือไม่ การเดิมพันของคุณหนูกับตระกูลกู้ อันที่จริงน่ะ ไม่ใช่เพื่ออะไรอย่างอื่นเลย แต่เพื่ออวิ๋นอิงสาวใช้ของนาง”จิ่งอี้ชะงักไปเล็กน้อย“ข้าได้ข่าวว่า อวิ๋นอิงกับท่านโหวน้อยชอบกันและกัน แต่ว่ากู้ชิงชิงกับท่านโหวน้อยมีสัญญามั่นหมายกัน คุณหนูเพื่อทำให้อวิ๋นอิงสมปรารถนาแล้ว ถึงได้เดิมพันกับตระกูลกู้” จางเฟยกล่าวด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ท่าทางนินทานั้น เหมือนกับผู้หญิงจิ่งอี้หลุบตาลงเล็กน้อยเพื่อทำให้สาวใช้สมปรารถนา ไม่ลังเลที่จะทำสงครามใหญ่ คุณหนูปฏิบัติตัวกับสาวใช้ของตนเองดีมากจริง ๆอวิ๋นอิงกับหลิงเชียนอี้...เมื่
กู้ชิงชิงกล่าวอย่างหนักแน่น “ข้าจะต้องแต่งงานกับเจ้าโหวน้อยให้ได้ ท่านให้อวิ๋นอิงนั่นเตรียมตัวให้ดี มาเป็นสาวใช้คอยล้างเท้าให้ข้า”“ข้ากับเจ้าโหวน้อยเป็นสามีภรรยาที่รักกันมาก รักกันยืนยาว แต่นางทำได้แค่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าเตียง คอยปรนนิบัติพวกเรา ภาพนี้แค่ลองคิดดูก็ทำให้หัวใจข้าฮึกเหิม ข้ารู้สึกอดรนทนไม่ไหวแล้วนะ”นางเลียริมฝีปากเบา ๆ ความชั่วร้ายเอ่อล้นออกมาจากดวงตา“เจ้ายังเข้าไม่ได้แม้แต่ประตูของจวนโหวติ้งกว๋อ ก็ฝันหวานไปก่อนแล้วหรือ?” ฉู่เชียนหลีเงยหน้าจ้องมองความมืดยามราตรี “ก็ใช่ ดึกแล้ว ได้เวลานอนแล้ว”“ท่านเอาชนะตระกูลกู้ไม่ได้หรอก คนที่ฝันหวานคือเจ้า”“อย่างไรเสียก็ดีกว่าที่เจ้าที่ฝันว่าตนเองได้เป็นฮูหยินของเจ้าโหวน้อย โดยปกติแล้วล้วนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ถึงได้เอาแต่ปรารถนาอยู่ในความฝันเท่านั้น”“ท่าน!”กู้ชิงชิงโมโหเล็กน้อย พบว่าฝีปากของฉู่เชียนหลีคนนี้ร้ายกาจจริง ๆ นางเถียงไม่ชนะสีหน้าสงบลง “พระชายาอ๋องเฉินนอกจากจะปากกล้าแล้ว ก็ไม่มีตรงไหนที่ข้อดีแล้ว”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้ว เอาคืนนางด้วยประโยคนี้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง“เจ้าก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ?”“ข้าด
นายท่านรองกู้เอ่ยปากพูด “ไปเด็ดผลไม้ป่าประทังความหิวเถอะ”กู้ชิงชิงตะลึงงันไป ถามอย่างไม่เข้าใจ “ท่านพ่อ กินผลไม้ป่าจะอิ่มได้อย่างไร?”“ล่าสัตว์ไม่ได้แล้ว” นายท่านรองกู้แยกขาออก นั่งลงที่ข้างกองไฟ เชิดใบหน้าที่อวบอิ่มขึ้น ชี้ไปทางอ๋องเฉินและคนอื่นทางด้านนั้น“ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดละก็ หมาป่าตัวนั้นน่าจะมาจากเขาคุนหลุน”“เขาคุนหลุน? ก็คือเทือกเขาที่ลึกลับที่สุด เก่าแก่ที่สุดของแผ่นดินใหญ่? ได้ยินมาว่า หนึ่งพันปีมานี้ ไม่มีใครกล้าเข้าไปในส่วนลึกของเขาคุนหลุน ท่านพูดว่าหมาป่าตัวนั้นมีต้นกำเนิดมาจากเขาคุนหลุนหรือ?” กู้ชิงชิงประหลาดใจมาก“ถูกต้อง”วันนี้ตอนเช้า ทันทีที่หมาป่าตัวนั้นปรากฏตัว กำให้ม้าตกใจ รังสีของหมาป่าเดียวดายนั่น ไม่ใช่ที่หมาป่าธรรมดาทั่วไปจะมีประกอบกับเรื่องที่ล่าสัตว์ไม่ได้ เขาถึงได้เข้าใจมีที่ไหนบ้างที่ไม่มีสัตว์ให้ล่า เห็นได้ชัดว่าสัตว์ที่อยู่บริเวณรอบ ๆหลายลี้นี้ ทั้งหมดหนีไปเพราะตกใจหมาป่าตัวนี้สายเลือดที่บริสุทธิ์ของมัน ความน่าเกรงขามที่แฝงอยู่ในกระดูกของมัน เป็นสิ่งที่สัตว์อื่นไม่สามารถเทียบได้อย่างแน่นอน แม้ว่าสัตว์ที่ดุร้ายที่สุดในป่าจะอยู่เบื้องหน้า ก็ไม
นางขมวดคิ้ว ทัดปอยผมไว้ที่ใบหู นั่งลงอย่างสง่างาม อยากจะแสดงเสน่ห์ของตนเองสักหน่อยจิ่งอี้ “อย่ามานั่งตรงนี้ ขวางข้ากินเนื้อย่าง”กู้ชิงชิง “...”ทันทีที่ก้นหย่อนลงไป ได้เพียงครึ่งเดียว เมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็ชะงักอย่างเก้อเขิน จะนั่งลงไปก็ไม่ใช่ จะลุกขึ้นยืนก็ไม่ใช่ ค้างอยู่ท่านี้ไว้ อย่าถามว่าเก้อเขินมากแค่ไหนเมื่อเห็นชายหนุ่มเหล่านี้ห้อมล้อมฉู่เชียนหลี แต่กลับมองข้ามนางที่ความงามไม่ธรรมดานี้ไป อย่าถามว่าในใจโมโหมากแค่ไหน!นางยืดตัวตรงอย่างโมโหมาก กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว“พระชายาอ๋องเฉิน ถ้าหากท่านแพ้เดิมพันแล้ว ไม่เพียงต้องให้อวิ๋นอิงมาเป็นสาวใช้ล้างเท้าของข้าเท่านั้น ยังต้องมอบหมาป่าตัวนี้ให้ข้าด้วย ท่านกล้าหรือไม่?”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วเล็กน้อยพูดมามากมายขนาดนี้ ที่แท้ก็คืออยากได้หมาป่าของนาง?หัวของเจ้าดำน้อยเกยอยู่ที่บนรองเท้าปักลายดอกไม้ของฉู่เชียนหลี เงยหน้าขึ้นอย่างเกียจคร้าน เหลือบมองกู้ชิงชิง แล้วก็ก้มหัวลงไปอีกครั้ง พร้อมกับถอนหายใจ เป่าจนใบไม้ที่ร่วงสีเหลืองสองสามใบให้พัดขึ้น แล้วก็งีบหลับต่อฉู่เชียนหลีกัดเนื้อกระต่ายคำหนึ่ง “คุณหนูกู้ต้องการเพิ่มเดิมพันงั้นหรือ
ทุกคนรออยู่ที่นอกประตูเมือง เฟิงเย่เสวียนขี่ม้าเข้าไปใกล้ สายตาจ้องฉู่เชียนหลีอย่างลึกซึ้งหลายวินาทีฉู่เชียนหลียิ้มระหว่างทั้งสองคน คำพูดมากมายไม่จำเป็นต้องพูด แค่สบตากัน ก็สามารถเข้าใจกันแล้วผ่านไปครู่หนึ่งเขาถอนสายตากลับ กระตุกม้าให้หยุดลง โน้มกายและเอื้อมมือไปรับลูก“ส่งเขาให้ข้า”เฟิงเจิ้งหลียิ้มได้อ่อนโยนมาก ก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวอย่างเชื่อฟัง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อย ส่งเด็กที่อยู่ในมือออกไป“น้องเจ็ด เดินทางปลอดภัย”เขาเน้นเสียงคำว่า ‘ปลอดภัย’ เป็นพิเศษ เหมือนมีความหมายที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่อ๋องเฉินยื่นมือออกมาแล้ว ขณะที่กำลังจะสัมผัสโดนเด็ก เฟิงเจิ้งหลีปล่อยมือกะทันหันทันใดนั้นเด็กสูญเสียแรงยึดเหนี่ยว ร่วงลงไปโดยตรง!“จื่อเยี่ย!”พลันเฟิงเย่เสวียนแน่นหน้าอก กระโดดลงจากม้าด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด ก็เห็นอ๋องหลีรับเด็กไว้แล้ว และก็เพราะพริบตาที่เขาเผลอนี้ จึงถูกธนูลับดอกหนึ่งยิงเข้าที่สะบักฉึก…“อาเฉิน!”“ท่านอ๋อง!”เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน ไม่มีใครรับมือทันเวลาเฟิงเจิ้งหลีใช้มือซ้ายอุ้มเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ย มือขวาจับตัวฉู่เชียนหลี ถอยหลังเจ็ดแปดก้าว ขณะ
เฟิงเย่เสวียนเดินออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว “ปล่อยฉู่เชียนหลีกับเด็ก ข้าอยู่เอง เจ้าจับฉู่เชียนหลีไม่มีประโยชน์ มีเพียงจับข้าเท่านั้น เจ้าจึงจะสามารถนั่งราชบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง”เฟิงเจิ้งหลีเย้ยหยัน“อย่ามาต่อรองกับข้า ข้ายอมถอยให้แล้ว ถ้าหากยังได้คืบจะเอาศอก ข้าไม่ถือสาที่จะพินาศไปพร้อมกัน”ฉู่เชียนหลีรีบถอยกลับมาจับข้อมือเฟิงเย่เสวียน กล่าวเสียงเบา “เจ้าพาจื่อเยี่ยไป!”“เชียนหลี…”“คนที่เขาต้องการคือข้า มีเพียงเจ้าไปและมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้น จึงจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ จื่อเยี่ยไปแล้ว ข้าจึงจะวางใจ ถึงเวลานั้น เขาก็ไม่มีข้อได้เปรียบอีก และไม่จำเป็นต้องกลัวเขาอีกแล้ว” ฉู่เชียนหลีวิเคราะห์เบาๆ อย่างฉับไวเฟิงเจิ้งหลีไม่มีทางฆ่านางใช้นางคนเดียว แลกกับความปลอดภัยของจื่อเยี่ย แลกกับความปลอดภัยของทุกคน อย่างไรก็ดีกว่าสู้กันตายไปข้างหนึ่ง เลือดนองเหมือนแม่น้ำไม่ใช่ว่านางจะถูกขังอยู่ในเมืองหลวงตลอดไปตราบใดที่ยังมีชีวิต ก็มีโอกาสเฟิงเย่เสวียนรู้ผลได้ผลเสียในนี้ เด็กคนนี้อย่างไรก็ต้องช่วย แต่เขาจะทิ้งฉู่เชียนหลีไว้คนเดียวได้อย่างไร“เชียนหลี ข้ามันไร้ประโยชน์”“ข้าไม่อนุญาตให้เจ
เมื่อพรรคของอ๋องหลีได้ยินเช่นนี้ ก็กลัวทันทีดูท่าทีของพระชายาอ๋องเฉิน นี่กำลังจะเปิดฉากสังหารครั้งใหญ่ในวังชัดๆ!ฆ่าคนติดต่อกันสองคน ไม่กระพริบตาแม้แต่ทีเดียวเลือดกระเซ็นโดนใบหน้า ก็เย็นเฉียบท่าทางที่ชั่วร้ายเหมือนปีศาจนั่น ทำให้ขุนนางหลายคนเกิดความกลัว ลองถามคนทั่วหล้า จะมีสักกี่คนที่ไม่กลัว? อยู่ต่อหน้าความเป็นความตาย ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวพวกเขาไม่อยากตายขุนนางคนหนึ่งกลัวจนพูดติดอ่าง“อ๋อง อ๋องหลี…อย่างไรเด็กที่อยู่ในมือท่านก็เป็นพระนัดดาองค์โต เป็นสายเลือดของราชวงศ์ ถ้าหากฆ่าเขา ในวันข้างหน้า มลทินของท่านจะถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ เกรงว่าจะถูกคนรุ่นหลังด่าทอต่อๆ กันเป็นหมื่นปี”ขุนนางอีกคนก็กล่าวเสียงสั่น“อ๋องเฉินโปรดพิจารณา…”ถ้าหากสู้กันจริงๆ พวกเขาสู้ไม่ไหวอ๋องเฉินมีฮ่องเต้หนุนหลัง มีกองทัพ มีกำลังทหาร อ๋องเฉินเป็นฝ่ายได้เปรียบทุกด้านในมืออ๋องหลี นอกจากพระนัดดาองค์โต ก็ไม่มีเบี้ยอย่างอื่นแล้ว อีกทั้ง ทหารรักษาพระองค์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ทหารองครักษ์เงาของอ๋องเฉินเมื่อไรที่สู้กัน พวกเขาจะตายกันหมดไม่จำเป็นต้องตายไปครั้งหนึ่ง บางครั้ง เมื่อเห็นว่าพอแล้วก
เฟิงเย่เสวียนแค่ขมวดคิ้วทีหนึ่ง ก็ข่มความเจ็บปวดนี้ลงไปผู้บัญชาการจางฟาดอย่างดุร้ายลองคิดดูเขาที่เป็นขุนนางคนหนึ่ง สามารถใช้แส้ฟาดองค์ชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด นี่เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเพียงใด พูดคำนี้ออกไป เขาสามารถอวดสามสิบปียิ่งฟาดยิ่งรู้สึกสนุก ยิ่งฟาดยิ่งแรงเพี๊ยะ!เพี๊ยะๆๆ!ทุกคนร้อนใจจนกระทืบเท้า แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป อ๋องหลีบ้าไปแล้ว เขาไม่ใช่อ๋องหลีที่เข้าถึงได้ง่ายอีกแล้ว!ฉู่เชียนหลีเพิ่งคิดจะกระโจนเข้าไป ก็ถูกอ๋องหลีสั่งให้คนคุมตัวไปยืนอยู่ข้างๆ บังคับให้นางมองดูต่อหน้าต่อตา“ฉู่เชียนหลี ข้าเคยบอกแล้ว เจ้าจะต้องเสียใจ คนไร้ประโยชน์อย่างเฟิงเย่เสวียน แม้แต่ลูกชายก็ปกป้องไม่ได้ มีประโยชน์อะไร”แววตาเฟิงเจิ้งหลีเปล่งแสงที่บ้าคลั่ง“เขาเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ฝ่าบาทจะให้ความสำคัญกับคนไร้ประโยชน์เช่นนี้ได้อย่างไร? ฉู่เชียนหลี เจ้าว่าเจ้าตาบอดใช่หรือไม่? เจ้าดูสภาพที่สะบักสะบอมของเขาตอนนี้ เหมือนสุนัขตัวหนึ่ง เจ้าก็ยังชอบเขา เช่นนั้นเจ้าก็เป็นสุนัขตัวเมียที่แพศยา”เขายิ้มอย่างชั่วร้าย สิ่งที่พูดออกมายิ่งไม่น่าฟังทุกคนตาแดง อยากพุ่งเข้าไปสับอ๋องหลีเป็นชิ้นๆ เสีย
ผู้ชายที่ร่างกายสูงใหญ่งอหัวเข่า คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอ๋องหลีอย่างตั้งตรง แม้อยู่ต่ำกว่า แต่ความสูงศักดิ์ที่แผ่ซ่านออกมาจากกระดูก ไม่ลดน้อยลงเลยสักนิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากคุกเข่าให้ฮ่องเต้และบรรพชน พวกเขาไม่เคยเห็นอ๋องเฉินคุกเข่าให้ใครเฟิงเจิ้งหลีเห็นดังนี้ แหงนหน้าหัวเราะ“ฮ่าๆๆ!”คิดไม่ถึงจริงๆ เขาจะมีวันนี้ด้วยลูกชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด แพ้ให้กับลูกชายที่ไม่โปรดปรานที่สุด ไม่สะดุดตาที่สุด และยังถูกทุกคนรังแก ความรู้สึกที่อยู่เหนือกว่าเช่นนี้ ทำให้ในใจเขาสาแก่ใจจริงๆ“ฮ่าๆๆๆ เฟิงเย่เสวียน เจ้าก็มีวันนี้ด้วย!”หัวเราะเสร็จ เขารู้สึกว่าความเย่อหยิ่งของอ๋องเฉินมันขัดตาทั้งๆ ที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบจนต้องคุกเข่า เหตุใดยังอวดดีหยิ่งผยองเช่นนี้?เขาออกคำสั่ง “ก้มหัวเจ้าลงไป”เฟิงเย่เสวียนเม้มปาก ก้มศีรษะลงเขาออกคำสั่งอีกครั้ง “โขกศีรษะ!”“อ๋องหลี ท่านอย่ารังแกให้มันมากนัก! ท่านกับท่านอ๋องของเราเป็นคนรุ่นเดียวกัน ท่านรับการโขกหัวจากเขาไม่ได้! ไม่กลัวบรรพชนรู้แล้ว อายุสั้นหรือ!” พ่อบ้านหยางกล่าวด้วยความโกรธเพิ่งกล่าวจบ ก็ถูกผู้บัญชาการจางถีบจนล้มลงพื้นหลังจากล้มลง ก
“ปล่อยคนของเจ้าแล้ว เจ้าเป็นอิสระแล้ว คืนลูกให้ข้า” ฉู่เชียนหลีจ้องเขาเฟิงเจิ้งหลีเหลือบมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ท่าทางที่ร้องไห้จนหน้าแดง เห็นแล้วปวดใจนักคิดว่าแค่นี้ก็จบแล้วหรือ?เขายิ้ม“ฉู่เชียนหลี เหมือนเจ้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์นะ?”“?”“……”“เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับข้า? เด็กอยู่ในมือข้า เป็นหรือตายขึ้นอยู่กับข้า ถึงคราวที่เจ้าต้องมาสอนข้าทำงานตั้งแต่เมื่อไร?”สีหน้าฉู่เชียนหลีเคร่งขรึมทันทีเห็นได้ชัด เขาได้คืบจะเอาศอก“เจ้ายังต้องการอะไรอีก?”“ข้าหรือ” เขาเงยหน้าด้วยรอยยิ้ม กวาดมองทุกคน และตำหนักอันหรูหราหลังนี้ วังหลวงที่กว้างใหญ่แห่งนี้ แผ่นดินที่ดีเช่นนี้เขาต้องการอะไร ยังต้องให้พูดอีกหรือ?แต่ว่า มองดูท่าทางที่ร้อนใจของฉู่เชียนหลี เขาเกิดอยากสนุก ต้องการระบายความคับข้องใจที่ได้รับในสองวันนี้ออกมาให้หมดลูบแก้มของเด็กน้อยพลางกล่าว“อยากได้ลูกคืน ไม่มีปัญหา มันก็ต้องดูว่าอ๋องเฉินมีความจริงใจหรือไม่”เงียบไปครู่หนึ่ง“อืม หรือไม่อ๋องเฉินคุกเข่า โขกหัวให้ข้าสามครั้ง ข้าก็คืนลูกให้เจ้า เป็นอย่างไร?”ฉู่เชียนหลีโมโหแล้วด้วยนิสัยที่ยอมหนึ่งก้าว จะเอาสิบก้าวข
“เจ้า!”ฉู่เชียนหลีถูกความเฉยเมยของนางยั่วจนโมโหแล้ว ยิ่งคิดไม่ถึงว่าใต้ฟ้าจะมีแม่ที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้มันก็จริงฉู่เจียวเจียวกับเฟิงเจิ้งหลี ถ้าไม่เหมือนกันก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่มีอะไรที่พวกเขาสองสามีภรรยาทำไม่ลงรอหลังจากลู่ฉินเติบโต รู้ว่าตัวเองมีแม่เช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะเศร้าเพียงใด!“ฉู่เชียนหลี เฟิงเย่เสวียน พวกเจ้าเลิกพูดไร้สาระได้แล้ว รีบปล่อยตัวอ๋องหลี ความอดทนข้ามีขีดจำกัด!” ฉู่เจียวเจียวกล่าวอย่างเย็นชา“จะเอาชีวิตของลูกชาย หรือจะปล่อยคน พวกเจ้าเลือกเอง”อย่างไรนางก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วไม่ดิ้นรน ตายสถานเดียวดิ้นรน เดิมพัน ยังมีโอกาสสายตาเฟิงเย่เสวียนเคร่งขรึมมาก หางตาเหลือบมองหานเฟิง หานเฟิงเข้าใจทันที เขาซ่อนมือไว้ที่หลัง และทำท่าสัญญาณมือไปที่ด้านหลังมือธนูเตรียมพร้อมจู่ๆ ฉู่เจียวเจียวก็กล่าวเสริมอีกประโยคอย่างเย็นชา “พวกเจ้าสามารถลองดูได้ ดูสิว่าการเคลื่อนไหวของพวกเจ้าไว หรือมีดที่อยู่ในมือข้าเร็ว”“ต่อให้ข้าตาย การฆ่าเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยก็ใช้เวลาแค่พริบตาเดียว”ฉู่เชียนหลีสั่งให้มือธนูหยุดทันที “ปล่อยคน!”อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามผู้หญิงคนนี้มันเป็นผู
พลันฉู่เชียนหลีแน่นหน้าอก“หยุดนะ…”“อย่าเข้ามา!”ฉู่เจียวเจียวถอยหลังสามก้าว มือซ้ายจับเด็ก มือขวาถือมีดสั้น มีดสั้นที่แวววาวจ่ออยู่บนผิวอันบอบบางของเด็ก กรีดจนรอยเลือดออกแล้วเลือดไหลออกมาแล้ว“จู่ๆ เจ้าก็มาเป็นห่วงข้า และยังพยายามอยากอุ้มลูกทุกวิถีทาง ข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าไม่ได้มีเจตนาดี”นางยิ้มอย่างเย็นชา“เหอะ! ดูเหมือนฮ่องเต้ที่แกไม่ตายสักทีนั่นเป็นคนบอกเรื่องนี้กับเจ้าสินะ!”ไอ้แก่ เป็นอัมพาตเฉียบพลันยังไม่ยอมอยู่อย่างสงบเสงี่ยมอีกต่อให้รู้ความจริงแล้วอย่างไร?ชีวิตของเด็กคนนี้อยู่ในมือนาง“ฉู่เชียนหลีนะฉู่เชียนหลี เจ้าคิดอย่างไรก็คงคิดไม่ถึงกระมังว่า เจ้าเลี้ยงลูกสาวข้า ข้าเลี้ยงลูกชายเจ้า และก็ต้องขอบคุณลูกชายคนดีคนนี้ของเจ้า กลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญของอ๋องหลี” นางเผยอมุมปาก รอยยิ้มนั้นน่ากลัวมากฉู่เชียนหลียืนตัวแข็งอยู่ตรงที่เดิม ไม่กล้าขยับ“เจ้าต้องการอะไร?”ฉู่เชียนหลีจ้องมีดสั้นในมือนาง กลัวว่านางจะพลั้งเผลอกรีดโดนคอของเด็กตั้งครรภ์สิบเดือนลูกชายเป็นก้อนเนื้อชิ้นหนึ่งที่ตกลงมาจากร่างกายนางนางไม่กล้าเดิมพัน และเดิมพันไม่ไหวฉู่เจียวเจียวกล่าว “ข้าต้องก
กลางดึกกำลังถึงช่วงที่คนเงียบสงบ คนกลุ่มหนึ่งวิ่งไปที่ตำหนักเจาหยางราวกับคลื่นยักษ์ ตอนที่ใกล้จะถึง ฉู่เชียนหลีตวาดสั่งให้พวกเขาหยุด“พวกเจ้าอยู่ห่างๆ อยากเข้าใกล้!”พ่อบ้านหยางกล่าวด้วยความเป็นห่วง “พระชายา พวกเราต้องไปเอาพระนัดดาองค์โตกลับมา นั่นเป็นเลือดเนื้อของท่านกับท่านอ๋องนะ”“ข้ารู้!”ก็เพราะรู้ จึงไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้“ไปทำอะไรคนเยอะแยะ ถ้าหากบีบจนฉู่เจียวเจียวไม่มีทางเลือก นางทำอะไรขึ้นมา…”ฉู่เชียนหลีแทบจะเป็นบ้าแล้ว ร้อนรนเหมือนมดที่อยู่บนกระทะร้อน ทั้งร้อนใจทั้งไม่สบายใจ น้ำเสียงก็ค่อนข้างฉุนเฉียวไม่อยากพูดมาก วิ่งเข้าไปในตำหนักเจาหยางเพียงลำพัง คนอื่นรออยู่ที่ข้างนอก ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามภายในตำหนักฉู่เจียวเจียวกำลังกล่อมจื่อเยี่ย ฉู่เจียวเจียวมาแล้ว นางมองเด็กน้อยที่อ้วนสมบูรณ์ กล่าวโดยไม่เงยหน้า“พระชายาอ๋องเฉิน ลูกของข้าเพิ่งนอนหลับ ”โปรดให้อภัย ข้าอุ้มเขาไว้ ร่างกายหนัก ไม่สะดวกลุกขึ้นยืน สายตาฉู่เชียนหลีมองไปที่ตัวเด็กเด็กน้อยอ้วนสมบูรณ์ ใบหน้าจ้ำม่ำ คิ้วละเอียดอ่อน หน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดู คล้ายเฟิงเจิ้งเว่ยซีแปดส่วนเหตุใดเมื่อก่อนนางไม่สังเกต