Share

บทที่ 263

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
“อ่า!”

เสียงนี่ไม่ใช่เสียงกำไลแตก แต่เป็นเสียงฝ่ามือที่ดังชัดเจน

เสียงร้องนี่ไม่ใช่ปวดใจที่กำไลตกแตก แต่เป็นเสียงกรีดร้องที่เหมือนฆ่าหมูของเซียวจือฮว่า

เห็นเพียง เซียวจือฮว่าโดนตบจนหมุนอยู่ตรงที่เดิมสองรอบ สุดท้ายเซล้มลงพื้น ศีรษะเอียงไปด้านหนึ่ง มวยผมเบี้ยว ปิ่นระย้าทองห้อยตกมาอยู่ที่ข้างหู บนใบหน้ายิ่งมีรอยฝ่ามือสีแดงปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อหันไปมองอีกด้าน ฉู่เชียนหลีสวมกำไลเฉียนคุนเข้าข้อมืออย่างใจเย็น จากนั้นนวดฝ่ามือที่เริ่มแดงอย่างเกียจคร้าน ท่าทางสูงศักดิ์ที่เกียจคร้านเหมือนแมวนั่น ราวกับคนที่ลงมือเมื่อครู่ไม่ใช่นาง

หมอมอเฒ่าสะดุ้งตกใจ แต่เมื่อตั้งสติได้ รีบทำสัญญามือ สั่งให้นางกำนัลหลายคนถอยออกไป ส่วนตนเองก็รีบเข้าไปในห้องทำสมาธิเช่นกัน

นางไม่เห็นอะไรเลย…

ผ่านไปสักพัก

เซียวจือฮว่าลูบแก้มที่เจ็บจนชา หันคอที่แข็งทื่อมา เงยหน้ามองไปทางฉู่เชียนหลีที่อยู่เบื้องสูง ตะลึงงันอยู่นาน

“เจ้า…เจ้าตบข้า…”

เหอะ

ฉู่เชียนหลีหัวเราะอย่างเย็นชา “ข้าเป็นชายาเอก ส่วนเจ้าเป็นอนุ หรือนายหญิงของครอบครัวจัดการอนุเล็กๆ คนหนึ่ง ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าก่อน?”

กล้าแตะต้องกำไลเฉียนคุนของนาง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 264

    ฉู่เชียนหลีครุ่นคิดสองวินาที ยกเท้ากำลังจะไป นอกตำหนัก มีเสียงรายงานลากยาวดังขึ้น“อ๋องเฉินเสด็จ…”“ท่านอ๋อง!”พลันสีหน้าเซียวจือฮว่าดีใจ จากนั้นเบ้าตาแดงก่ำ กุมหน้าอก รีบวิ่งออกไปข้างนอก“ท่านอ๋อง ท่านต้องออกหน้าแทนฮว่าเอ๋อร์นะ…”เฟิงเย่เสวียนเพิ่งเลิกว่าราชกิจ เมื่อได้ยินเรื่องที่ฉู่เชียนหลีเข้าวัง กลัวว่านางจะรับมือไม่ไหว จึงรีบมาที่ตำหนักกว่างอันทันที ใครจะรู้ว่าเซียวจือฮว่าก็อยู่ด้วยเช่นกันเขาขมวดคิ้ว “เจ้าไปสวนชานเมืองแล้วไม่ใช่หรือ?”พลันเซียวจือฮว่าปวดใจ ยิ่งน้อยใจแล้วแทบรอไม่ไหวที่จะไล่นางไปถึงเช่นนี้เลยหรือ?นางเอียงศีรษะเล็กน้อย แสดงใบหน้าครึ่งที่ได้รับบาดเจ็บของตนเองต่อหน้าเฟิงเย่เสวียน “เดิมทีฮว่าเอ๋อร์อยากเข้าวังเยี่ยมเสด็จแม่ แต่ใครจะรู้ว่าพระชายาคุยไม่ถูกกัน ก็ลงมือกับข้าเลย ข้า…”“ลูกแม่!”พูดไม่ทันจบ ถงเฟยวิ่งออกจากห้องทำสมาธิ กอดเฟิงเย่เสวียนก็เริ่มร้องไห้“ลูกแม่ แม่ไร้ประโยชน์ แม่ทำอะไรไม่ได้จริงๆ พวกนางทะเลาะกันหนักมาก แม่พูดแทรกไม่ได้แม้แต่คำเดียว ห้ามปรามจนเสียงแหบก็ไม่มีประโยชน์ พวกนางสองคนทะเลาะกันในตำหนักกว่างอันถึงขั้นนี้ ไม่สู้ยกตำหนักกว่างอัน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 265

    ฉู่เชียนหลี “เจ้าฝันไปเถอะ!”——จะไปล่าสัตว์หรือไม่ไปมีแค่สองอย่าง ตะกร้าธนูเหรอ? ฉันอูลาร่านา·ฉู่เชียนหลีไม่มีทางแบก!เฟิงเย่เสวียน “...”ขันทีที่อยู่ด้านข้างกลับถลนตาทั้งคู่อ๋องเฉินจับก้นพระชายาอ๋องเฉินกลางวันแสกๆ ในวังหลวง… เฟิงเย่เสวียนหันไปมองฉับพลัน เขาด่าทอ “มองอะไร ตาเฒ่า!”“!”เบญจมาศขันทีหดเกร็ง รีบก้มศีรษะลง ไม่กล้าพูดมากแม้แต่คำเดียว เดินนำทางอยู่ด้านหน้าอย่างนอบน้อมอุทยานดอกไม้ฉู่เชียนหลีเดินเข้าไป ตอนที่เฟิงเย่เสวียนจะเดินตาม ขันทีเข้ามาขวางไว้“อ๋องเฉินโปรดหยุดก่อน ฝ่าบาทบอกว่าต้องการพบพระชายาอ๋องเฉิน ไม่ได้บอกว่าจะเรียกท่าน”เขา “...”มีเรื่องอะไรที่ลูกชายแท้ๆ อย่างเขาฟังไม่ได้?ภายในอุทยานดอกไม้ ทิวทัศน์รื่นรมย์ โครงสร้าง การตกแต่ง ฮวงจุ้ยล้วนเป็นเลิศ ภูเขาจำลองตั้งตระหง่าน สายน้ำไหลริน ดอกไม้เบ่งบาน แสงแดดอบอุ่นอีกด้านหนึ่งของทางเดินที่ปูด้วยหินกรวด ร่างเงาสีเหลืองสว่างสายหนึ่งนั่งอย่างสุขุมอยู่ตรงนั้นฉู่เชียนหลีรีบเดินเข้าไป“ถวายพระพรฝ่าบาท ขอฝ่าบาทอายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”ฮ่องเต้เงยหน้าขึ้น ม้วนเก็บหนังสือที่อยู่ในมือ จากนั้นวางลง ถามด้วยร

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 266

    ฉู่เชียนหลี “...”อยากได้แต่กลับแสดงออกอย่างอ้อมค้อนเช่นนี้? เพียงแต่ จะเอาของของนางก็ต้องมีอะไรมาแลกฉู่เชียนหลีกลอกตาเบาๆ ทันใดนั้นก็ถอนสายบัว กล่าวอย่างจริงใจ“แค่เสด็จพ่อทรงเกษมสำราญ ก็คือวาสนาขอหม่อมฉันแล้วเพคะ แม้นาฬิกาพกเรือนนี้จะเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของท่านแม่ มีความหมายที่สำคัญมาก แต่ขอแค่เสด็จพ่อพอพระทัย หม่อมฉันยินดีถวายทุกอย่างเพคะ!”เมื่อฮ่องเต้ได้ยินคำพูดนี้ นาฬิกาพกเรือนเล็กๆ หนักพันชั่งขึ้นมาทันทีมันคือมรดกตกทอดของตระกูลสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ เขาจะมีหน้าไปรับไว้ได้อย่างไร?รีบคืนกลับไปทันที “เมียเจ้าเจ็ด ในเมื่อมารดาของเจ้าเป็นคนมอบให้ เจ้าก็รีบเอากลับไปเก็บไว้เถอะ เราไม่เอา!”“การได้รับการโปรดปรานจากเสด็จพ่อ ก็คือความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการดำรงอยู่ของนาฬิกาพกเรือนนี้เพคะ”ฉู่เชียนหลีใช้สองมือดันนาฬิกาพกกลับไป กล่าวอย่างรู้ความมาก“ทรงเป็นถึงโอรสสวรรค์ ทุกสิ่งบนแคว้นตงหลิงล้วนเป็นของพระองค์ หม่อมฉันจะกล้าผูกขาดไว้เพียงคนเดียวได้อย่างไร? ต่อให้เป็นของดีแค่ไหน มีเพียงอยู่บนมือของคนมีความสามารถ จึงจะดึงประโยชน์ออกมาได้มากที่สุด”“เสด็จพ่อ ท่านโปรดรับไว

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 267

    หลังจากฉู่เชียนหลีคุกเข่าทูลลา ก็หมุนกายเดินจากไป ฮ่องเต้เล่นนาฬิกาพกด้วยความสนใจ พลิกขึ้นพลิกลงและซ้ายขวา เต๋อฝูยืนอยู่ด้านข้าง สีหน้าตระหนกตกใจเป็นพิเศษเขาอ้าปาก อยากพูดแต่ก็ลังเล“ฝ่า ฝ่าบาท…ความหมายของพระองค์คือ พระชายาอ๋องเฉินจะเอาไม้นั่นไปตี ตี…ตี…”คำพูดที่เหลือ เขาตกใจจนไม่กล้าพูดออกมาฮ่องเต้พ่นลมออกจากจมูกอย่างไม่สบอารมณ์ “นางกล้าโกหกแม้แต่เรา ยังมีอะไรที่นางไม่กล้าทำอีก?” “หา!” เต๋อฝูยิ่งกลัวแล้ว “นาง นางโกหกอะไรพระองค์หรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “ว่าเจ้าโง่เขลา เจ้าก็โง่เขลาจริงๆ แม่ฉู่เชียนหลีไม่รักนางตั้งแต่เด็ก แต่ชอบพี่สาวคนโต หากแม่นางมีมรดกตกทอดอะไรจริงๆ ก็คงให้ฉู่เจียวเจียวนานแล้ว ยังจะถึงคราวของฉู่เชียนหลีหรือ?”ดังนั้น คำพูดเมื่อครู่ของฉู่เชียนหลีคือกำลังโกหกเขานางหนูน้อย อายุแค่นี้ แต่กลับรู้จักใช้ประโยชน์ความปรารถนาของเขา แสวงหาผลประโยชน์สูงสุดให้ตนเอง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ใครก็กล้าทำเหอะๆ!นิสัยนี่ ไม่รู้ว่าเก่งกว่าขุนนางในราชสำนักกี่คน เขาชอบเต๋อฝู “...”ยอมรับความโง่เขลาของตนเองแต่เหตุใดฝ่าบาทจึงไม่เปิดโปงพระชายาอ๋องเฉิน ทั้งๆ ท

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 268

    เฟิงเย่เสวียน “...”เขายืนตัวตรง เห็นนางกุมท้องหัวเราะเสียงดัง ท่าทางที่หัวเราะจนฟันทั้งสองแถวยื่นออกมา เกิดความรู้สึกอยากบีบคอนางให้ตายกะทันหันกล้าหลอกเขา!โมโหจนกัดฟัน “เดิมทีตั้งใจจะพาเจ้าไปล่าสัตว์ที่ชานเมือง แต่ดูจากการแสดงออกของพระชายา ดูเหมือนไม่อยากไปล่าสัตว์มากนัก”ฉู่เชียนหลียิ้มแย้ม ทั้งซนทั้งร้าย“เช่นนั้นไม่ไปก็แล้วกัน เพราะอย่างไรข้าก็ไม่ชอบล่าสัตว์ ข้าเป็นผู้หญิงนะ ผู้หญิง ข้ากลับไปเย็บปักถักร้อยที่จวนดีกว่า”พูดจบก็ไปแล้ว“?”ไปทั้งเช่นนี้แล้ว?ไปแล้ว?ไร้ความเมตตา!เฟิงเย่เสวียนหน้าบึ้งอยู่ห้านาที กัดฟันกรามดังกรอดช่างเถอะ ลูกผู้ชายอกสามศอก ไม่ถือสาผู้หญิง!เขาก้าวเท้ายาวไล่ตามออกไป หิ้วคอเสื้อหลังฉู่เชียนหลี “ไปล่าสัตว์กัน”“เอ๋? ท่านบอกไม่ไปไม่ใช่หรือ? เหตุใดจู่ๆ ก็จะไป? ท่านมันเหมือนยายแก่ขี้งอน…”“หุบปาก!”“...”หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยามจูงม้า พาผู้ติดตามไปด้วยหลายคน ขบวนที่เรียบง่ายกลุ่มหนึ่งออกจากเมือง ไปตามถนนเส้นเล็กเข้าสู่เขตป่าชานเมือง ดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าลอดผ่านช่องว่างระหว่างใบไม้ สาดส่องลงบนพื้น สะท้อนแสงและเงาสีสันหลากหลาย อ่อนโยนและสบา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 269

    โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงขี่ม้าไม่เป็น และยิ่งขี่ม้ายิงธนูไม่เป็น การล่าสัตว์มักจะเป็นเวลาที่ผู้ชายแสดงเสน่ห์ ความสามารถ และความกล้าหาญส่วนตัวเขายังไม่ทันง้างธนู ฉู่เชียนหลีก็ผ่านไปแล้วห้าด่าน ล่าไปแล้วหกตัว ไม่เพียงทักษะการขี่ม้าดี ทักษะธนูยิ่งดีเหตุใดเมื่อก่อนเขาจึงไม่รู้ว่านางขี่ม้ายิงธนูเป็น?หานเฟิงกับเยว่เอ๋อร์ และยังมีเจ้าดำน้อย ล้วนไปตามอยู่ข้างหลังฉู่เชียนหลี ปรบมือดังเพียะๆ กลายเป็นกองให้กำลังใจ ส่วนเขาโดดเดี่ยวเพียงลำพัง ไม่มีใครเหลียวแลเขากระตุกบังเหียนแน่น ไล่ตามออกไป“อากาศดีมาก เหมาะแก่การล่าสัตว์ พวกเรามาแข่งกัน เป็นอย่างไร?”“หือ?” ฉู่เชียนหลีลดมือที่กำลังง้างธนูลง มีประกายแห่งความสนใจปรากฏขึ้นในแววตาหลายส่วน “แข่งอย่างไร?” “ใครยิงเหยื่อได้มากกว่าใครชนะ ผู้ชนะสามารถเรียกร้องจากอีกฝ่ายได้หนึ่งข้อ และอีกฝ่ายต้องตอบตกลงอย่างไม่มีเงื่อนไข กล้าแข่งหรือไม่?”สี่คำสุดท้าย มันคือกลยุทธ์ยั่วยุฉู่เชียนหลีไม่ใช่คุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูในเรือนส่วนหลัง ความปรารถนาของแพ้ชนะถูกกระตุ้นทันที คันธนูยาวเคาะหน้าผาก ยิ้มอย่างยั่วยุ“ยินดีอย่างยิ่ง”เมื่อสิ้นเสียง ก็กระตุกม้าวิ่งไป

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 270

    “ไม่เป็นไรกระมัง” เฟิงเย่เสวียนเงยหน้า ในแววตาเต็มไปด้วยความร้อนรน “มีตรงไหนได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”เขารีบจับไหล่นาง จับแขนนาง ตรวจดูตั้งแต่หัวจรดเท้า“ข้าสบายดี” โชคดีที่หลบได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นโดนงูพิษกัดแน่เฟิงเย่เสวียนเห็นว่านางไม่เป็นอะไร ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ จึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก คลายร่างที่ทับอยู่บนร่างกายฉู่เชียนหลี ฉู่เชียนหลีเพิ่งจะมารู้สึกถึงความหนักทีหลังผู้ชายคนนี้ต้องหนักห้าร้อยชั่งแน่เลย!สองมือฉู่เชียนหลียันหน้าอกเขา “ท่านลุกก่อน…อ่า!”เพิ่งดันขึ้นห้าเซนติเมตร ก็หมดแรงแล้ว ร่างกายของเฟิงเย่เสวียนทับลงไปอีกครั้งใบหน้าที่หล่อเหลาจนมนุษย์และเทพโกรธเคืองขยายใหญ่ต่อหน้า!ละเอียดอ่อนจนสามารถมองเห็นแม้แต่รูขุมขน!จากดวงตาสีหมึกของเขา นางมองเห็นตนเองอย่างชัดเจน…ร่างกายสองร่างแนบชิดติดกันแน่นจนแยกไม่ออก ห่างกันใกล้มาก ปลายจมูกของเฟิงเย่เสวียนชิดปลายจมูกฉู่เชียนหลี ริมฝีปากทั้งสองห่างกันแค่เส้นผมเส้นเดียวพริบตานั้น ราวกับอากาศหยุดนิ่ง…ลมหายใจที่นุ่มนวลพ่นใส่ใบหน้าของอีกฝ่าย อุ่นๆ จางๆ ทว่าอุณหภูมิกับพุ่งสูงขึ้นในพริบตา ราวกับเปลวไฟอันร้อนแรง จุดประก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 271

    กลางวันแสก ๆ ท้องฟ้าสดใส บนสวรรค์มีเทพคอยดูแล ใต้พิภพมียมบาลบัญชา ยังมีเจ้าที่เจ้าทางคอยจับตาดู คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้...คิดไม่ถึงว่าเขา...เล่นสกปรกอย่างโจ่งแจ้ง!เป็นเพราะเมื่อครู่นี้จะโถมตัวใส่นางให้ล้ม แต่ไม่สำเร็จ อยากจะลงมือกับนางเป็นครั้งที่สอง?พระเจ้า!สวรรค์!ผู้ชายคนนี้ทะยานอยากระดับไหนกันแน่เนี่ย?เฟิงเย่เสวียนอยากจะแบ่งปันสิ่งของที่สวยงามให้กับฉู่เชียนหลีอย่างอดรนทนไม่ไหว ทิ้งม้าสองตัวไว้ด้านข้าง กุมเสื้อผ้าบริเวณท้องน้อย สาวเท้ายาวมาข้างหน้า“เชียนหลี รีบดูเร็วเข้าสิ เจ้ามีทางผิด...” หวังอย่างแน่นอน“อย่าเข้ามานะ!”ฉู่เชียนหลีรีบถอยหลังไปสามก้าว ยื่นมือทั้งสองข้างออกมาอย่างระวังตัว ทำท่าทางพร้อมจะต่อสู้ กล่าวเสียงสั่นเครือ“เฟิงเย่เสวียน เดิมทีคิดว่าหลังจากที่ร่วมปราบโจรที่ภูเขากว่างหนิง และร่วมกันลาดตระเวนทางใต้ด้วยกันแล้ว ท่านจะเป็นท่านอ๋องที่ดีที่ทำเพื่อประชาชน แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้!”นางรู้สึกไร้ยางอายเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตำหนิเขาเฟิงเย่เสวียน “?”“การพูดจาแทะโลมหญิงสาวจากตระกูลที่ดีสนุกมากงั้นหรือ? หนังสือนักปราชญ์ราชบัณฑิตตลอดหลาย

Latest chapter

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1120

    แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่นวันรุ่งขึ้น ตอนเย็น ทหารรักษาพระองค์ที่เฝ้าอยู่นอกตำหนักเจาหยางถอนกำลังจริงๆ ฉู่เชียนหลีอุ้มลูกไปถึงสถานที่นัดหมายกับฉู่เจียวเจียว ขึ้นรถม้าคันหนึ่งที่ออกจากวังเพื่อไปซื้อวัตถุดิบอาหารด่านตรวจประตูวังทหารรักษาพระองค์จะตรวจสอบ แต่ขันทีที่ขับรถม้ามีสิทธิพิเศษผ่านทาง จึงสามารถออกจากวังหลวงอย่างราบรื่นรถม้าแล่นไปถึงตรอกแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีรถม้าจอดอยู่หนึ่งคันรถม้าสองคันแล่นขนานกัน และตอนที่ไม่มีคนสังเกต คนบนรถม้ากระโดดจากรถม้าคันนี้ ไปยังรถม้าคันนั้นเวลานี้ รถม้าแยกทางกันที่ปลายถนนคันหนึ่งแล่นไปทางซ้าย คันหนึ่งแล่นไปทางขวาฉู่เจียวเจียวยืนอยู่บนหอคอยสูง มองดูจากระยะไกล เมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว เผยอมุมปากอย่างเย็นชาฉู่เชียนหลี เจ้ารนหาที่ตายเอง!“ลงมือ!”ทหารรักษาพระองค์เคลื่อนไหวทันที!ในเมืองหลวง ผู้คนสัญจรไปมา ใกล้จะปีใหม่แล้ว พ่อค้าขายของปีใหม่เยอะเป็นพิเศษ ถนนทั้งสายทั้งคึกคักทั้งเบียดเสียด“หยุดรถ”รถม้าจอดตรงหน้าตรอกแห่งหนึ่งที่มีคนค่อนข้างน้อย ฉู่เชียนหลีอุ้มลูกลงจากรถม้า วิ่งเข้าไปในตรอก หาร้านค้าร้านหนึ่งที่ไม่สะดุดตาป้ายหน้าประตูร้า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1119

    ฉู่เชียนหลีประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดนี้เฟิงเจิ้งหลีกักตัวนางนานเช่นนี้ ก็เพื่อใช้ประโยชน์จากนางกับจื่อเยี่ย ควบคุมเฟิงเย่เสวียนในวันข้างหน้า ฉู่เจียวเจียวกลับยินดีปล่อยนาง?“ข้าจริงจัง”น้ำเสียงฉู่เจียวเจียวเย็นชา“เจ้าเดินเตร่ไปเตร่มาใต้จมูกข้าทุกวัน มันขัดตาข้า มันกวนใจข้า ชีวิตเจ้าไม่มีความสุข ชีวิตข้าก็ไม่มีความสุข เหตุใดไม่สงเคราะห์กันและกันล่ะ?”นางส่งเขาออกไปนางคืนฝ่าบาทให้เขา“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่?” ฉู่เชียนหลีถาม “เมื่อฝ่าบาทรู้เรื่องนี้ เจ้าจะดับความโกรธของเขาอย่างไร?”“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสนใจ ข้ามีวิธีของข้า ไม่เช่นนั้น ข้าก็ไม่ต้องเป็นฮองเฮาแล้ว”ส่งฉู่เชียนหลีออกวัง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้นางยังทำได้“ฉู่เชียนหลี เจ้าลองคิดดูดีๆ”“ครึ่งปีมานี้ สถานการณ์สงครามคับขัน เพื่อที่จะช่วยเจ้า เฟิงเย่เสวียนยอมหันกระบี่ใส่ฝ่าบาท ถ้าหากเจ้ากลับไปอยู่ข้างกายเฟิงเย่เสวียน สองกองทัพสงบ เจ้ากับข้าก็จะมีชีวิตที่ดี”“เหตุใดเจ้าต้องจับฝ่าบาทไม่ยอมปล่อย?”ฉู่เจียวเจียววิเคราะห์เสียงเย็นนางทนไม่ไหวกับชีวิตแม่หม้ายเช่นนี้แล้ว มีเพียงฉู่เชียนหลัไ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1118

    เพียะ!ก่อนที่ฝ่ามือจะตบลงมา ฉู่เชียนหลีคว้าข้อมือของนางไว้อย่างแม่นยำ “ดูผู้ชายของตัวเองไม่ดีเอง ไม่ควรทบทวนปัญหาของตัวเองก่อนหรือ?”นางยิ้มอย่างเย้ยหยัน“ฉู่เจียวเจียว เจ้านี่มันไม่ไหวจริงๆ รู้จักแต่ระบายความโกรธใส่ข้า มัดใจของผู้ชายไม่ได้ ต่อให้ข้าไปแล้ว ก็ยังมีข้าอีกเป็นหมื่นเป็นพัน”สีหน้าฉู่เจียวเจียวน่าเกลียดมาก“ฉู่เชียนหลี!”นางพูดเรื่องที่ไร้ยางอายเช่นนี้อย่างมั่นใจได้อย่างไร? น่ายกย่องมากเลย?นางยั่วยวนฝ่าบาทโดยที่หน้าไม่แดง ไม่รู้สึกผิด หน้าตายเช่นนี้ได้อย่างไร?ใต้ฟ้า เหตุใดจึงมีคนที่ไร้ยางอายเช่นนี้?ฉู่เชียนหลียิ้ม “อีกอย่างนะ เขาเป็นฮ่องเต้ สามตำหนักหกเรือน เจ็ดสิบสองสนม ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ? เจ้าในฐานะฮองเฮา จิตใจคับแคบเช่นนี้ได้อย่างไร?”“กรี๊ดๆ!”ฉู่เจียวเจียวโมโหจนกรีดร้อง ยกมืออีกข้างก็เหวี่ยงออกไปทันทีฉู่เชียนหลีเอี้ยวตัวไปด้านข้าง หลบพร้อมกับคว้ามือของนางไว้“ฉู่เชียนหลี เจ้ามันหน้าไม่อาย! เจ้ามันเป็นของเก่าที่เคยหลับนอนกับเฟิงเย่เสวียน มีสิทธิ์อะไรมาเข้าใกล้ฝ่าบาท! ต่อให้ฝ่าบาทมีสามตำหนักหกเรือน นั่นก็ล้วนเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์!”“ใช่สิ ฝ่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1117

    “นม!”เจ้าหนูน้อยโบกมืออย่างจริงจังและดื้อรั้น เหมือนกำลังเป็นปรปักษ์กับนาง ใบหน้าน้อยๆ มุดเข้าไปในอก สองมือก็ดึงทั้งๆ ที่กินอิ่มแล้ว ยังจะมุดเข้าไปในอกนางอีกเมื่อนางกำนัลที่อยู่ข้างๆ เห็น อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ“แม่นางฉู่ พระนัดดาองค์โตติดท่านจัง เหมือนท่านจึงจะเป็นแม่แท้ๆ ของเขา…”กล่าวจบ รู้ตัวว่าพลั้งปาก นางตกใจจนหน้าซีด รีบหุบปากทันที มีข่าวลือจากโลกภายนอกเกี่ยวกับตัวตนของพระนัดดาองค์โตราษฎรวิภากษ์วิจารณ์ มารดาบังเกิดเกล้าของพระนัดดาองค์โตคือฉู่เชียนหลี ไม่ใช่ฉู่เจียวเจียว และก็มีคนคิดว่าคือฉู่เจียวเจียวเช่นกัน แต่สำหรับสถานการณ์โดยรวม ทุกคนถกเถียงกันเงียบๆ ในวังก็มีข้อกังขาเช่นกัน คนที่รู้ความจริงก็มีน้อยมากฉู่เชียนหลีเพียงแค่ยิ้มแล้วยิ้มอีก ไม่ได้ถือสาการพลั้งปากของนางกำนัล“อีอา…”เจ้าหนูน้อยมุดอยู่ในอ้อมแขนของนางครึ่งค่อนวัน ล้วงป้ายหยกมังกรชิ้นหนึ่งออกมาแกว่งเล่นฉู่เชียนหลีจับมือน้อยๆ ของเขาอย่างหมดหนทาง“ท่านบรรพบุรุษน้อย ของสิ่งนี้เล่นไม่ได้ นี่เป็นของที่ฮ่องเต้มอบให้ข้า”ป้ายหยกมังกร!เมื่อนางกำนัลอีกคนเห็นของสิ่งนี้ เบิกปากกว้างด้วยความตกใจ นี่เป็นของที่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1116

    หัวข้อสนทนาการเฉลิมฉลองปีใหม่ได้เปลี่ยนเป็นเรื่องสงคราม สีหน้าเฟิงเจิ้งหลีเคร่งขรึม“เจ้าคุยเล่นไม่เป็น”ฉู่เชียนหลียิ้มแล้วยิ้มอีก เสยผมที่ข้างหูขึ้น“เจ้าไม่คุยกับข้าก็ได้ แต่เหมือนเจ้ามักจะชอบมาหาเรื่องไม่สบอารมณ์ใส่ตัวเองที่ข้า”“...”ก็จริงทุกครั้งที่อยู่กับนาง ตอนมาอารมณ์ดี ตอนกลับยากจะควบคุมอารมณ์เฟิงเจิ้งหลีเหลือบมองท่าทางที่คิดไม่ดีไม่ร้ายของนาง รู้ว่านางจงใจ ถ้าหากโมโหจริงๆ ก็สมใจนางแล้วเขาพ่นลมออกจากจมูกอย่างไม่สบอารมณ์“ข้าชอบถูกทรมาน”คำตอบนี้พอใจแล้วกระมังฉู่เชียนหลี ‘อืม’ คำหนึ่ง ยิ้มจนคิ้วโก่ง “ถ้าหากสู้กันขึ้นมาจริงๆ ถึงเวลาเจ้าผลักพวกเราสองแม่ลูกออกไปก็พอ มีข้ากับจื่อเยี่ยอยู่ เฟิงเย่เสวียนไม่มีทางชนะ”นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม ส่วนซ่อนอารมณ์ที่แท้จริงอย่างไรไว้ในแววตา ไม่มีใครสามารถคาดเดา มองไม่ออก เดาไม่ถูกเฟิงเจิ้งหลีเงียบไปครู่หนึ่ง“ข้าไม่มีเจตนาใช้ประโยชน์จากเจ้า”ทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่แล้ว เอาคำพูดที่น่าฟังเหล่านี้ไปพูดให้ผีฟังเถอะนี่ก็นานมากแล้ว จื่อเยี่ยนอนกลางวันน่าจะตื่นแล้วฉู่เชียนหลีถือตำราแพทย์ หมุนกายเดินลงจากหอคอย มุ่งหน้าไปยังทิศทางขอ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1115

    เวลาผ่านไปเร็วมาก วันแล้ววันเล่า พริบตาเดียว ก็กลายเป็นวันที่หนาวที่สุดของฤดูหนาวปีนี้หิมะตกแล้วสภาพอากาศมืดครึ้ม มีเกล็ดหิมะตกลงมาจากบนท้องฟ้า บางคนกางร่ม บางคนดึงเสื้อให้กระชับ บางคนซุกมืออยู่ในแขนเสื้อ ต่างคนต่างเดินอย่างเร่งรีบบนหอคอยของประตูวังฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ มีตำราแพทย์เล่มหนึ่งกางอยู่บนหัวเข่า เกล็ดหิมะที่เขาบริสุทธิ์ตกลงบนผมของนาง ดวงตาที่หลุบลงนั่น ท่าทางที่ตั้งใจอ่านตำรานั่น ดูสงบเป็นพิเศษเฟิงเจิ้งหลียืนห่างออกไปห้าหกเมตร เฝ้าดูอยู่ไกลๆ ไม่อยากเข้าไปรบกวนนางนางยกมือ รับเกล็ดหิมะสองสามก้อนไม่นานก็ละลายกลายเป็นน้ำบนฝ่ามือเย็นๆเวลาผ่านไปเร็วจริงๆ พริบตาเดียวก็ปีใหม่แล้วนั่งอยู่บนหอคอยทุกวัน เฝ้าดูราษฎรที่เดินผ่านไปมา ฟังพวกเขาสนทนากัน อ่านตำราแพทย์ เลี้ยงลูก แม้ชีวิตสงบ แต่ก็ไม่น่าเบื่อนางให้ความสนใจเรื่องสงครามอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากเมืองเทียนสู่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของแคว้นตงหลิง แตะต้องส่งเดช รากฐานเสียหาย ศึกนี้ยืดเยื้อมาเป็นเวลาสองเดือนเต็มๆ ยังไม่เริ่มปะทะกันถอนสายตากลับ มองตำราแพทย์ พลิกหน้ากระดาษอย่างไม่ใส่ใจ ตอนเหลือบม

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1114

    อวิ๋นอิงหุบปาก หลุบตาลง ไม่ได้พูดอะไรต่อจิ่งอี้อุ้มเด็กไว้ สายตามองท้องที่นูนเล็กน้อยของนาง หมื่นพันคำพูดติดอยู่ในลำคอ มุมปากเผยอขึ้นอย่างขมขื่นเขาแค่อยากพูดคุยกับนางเป็นห่วงนาง มองดูนาง ต่อให้นางระบายอารมณ์ใส่เขา ในใจของเขาก็ยังรู้สึกดีขึ้น แต่ไม่ใช่ทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้าอาศัยเด็ก เขาเข้าใกล้นางอย่างระมัดระวัง“เจ้า…ช่วงนี้กินยาดีๆ หรือไม่? ร่างกายยังดีหรือไม่?”อวิ๋นอิงขมวดคิ้ว ไม่พูด ไม่ตอบ เหมือนไม่ได้ยิน“ลูกทรมานเจ้าหรือไม่?”“อวิ๋นอิง…”จู่ๆ นางก็เดินเข้าไปแย่งเด็กคืนมา หมุนกายกล่าว “ถ้าคุณชายจิ่งไม่มีธุระอะไร ก็รีบไปเถอะ ตอนนี้เหมือนทุกคนจะยุ่งมากกระมัง”นางส่งแขกอย่างห่างเหินนางยังคงไม่อยากพูดอะไรกับเขามากสีหน้าจิ่งอี้ขมขื่น มองแผ่นหลังที่ผอมบางของนาง “อวิ๋นอิง ขอบคุณมากที่เจ้ายอมเก็บเด็กคนนี้ไว้”เด็กคนนี้คือสะพานเพียงหนึ่งเดียวระหว่างพวกเขาเขาไม่กล้าคิดเลยว่านางจะยอมคลอดเด็กคนนี้ออกเขารู้ว่าความผิดที่ตัวเองทำไม่สมควรให้อภัย และไม่กล้าขอให้นางให้อภัย หวังเพียงสามารถมองดูนางกับลูกมีความสุข แม้เขาต้องสูญเสียทุกอย่างก็ยินดี“ขอบคุณมาก…”“ขอบคุณเจ้าจริงๆ…

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1113

    อวิ๋นอิงเข้าไปในเรือนอีกหลังหนึ่งมีเสียงร้องไห้ของเด็กดังออกมาจากภายในห้อง เว่ยซีนอนอยู่ในเปลโยก เพิ่งกินอิ่ม เรียบร้อยมาก ไม่ร้องไห้ไม่งอแง กำลังเล่นกระดิ่งในมืออย่างมีความสุขกลับกันเป็นลู่ฉินที่ร้องไห้ไม่หยุดเสียวอู่อุ้มนางไว้ ทั้งป้อนนม ทั้งกล่อม ทั้งเดินไปเดินมา ทั้งอุ้ม ทั้งตบ วิธีที่ใช้ได้ก็ใช้จนหมดแล้ว ก็ยังไม่สามารถกล่อมนางหยุดร้องไห้ได้ เหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัวเมื่อเห็นผู้มา ก็เหมือนเห็นผู้ช่วยชีวิต รีบกล่าว“พี่อวิ๋นอิง คุณหนูรองร้องไห้ไม่หยุดเลย ข้าไม่รู้จะกล่อมอย่างไรแล้ว ควรทำอย่างไรดี!”“เอามาให้ข้าอุ้ม”อวิ๋นอิงวางถาดลงบนโต๊ะ รับลู่ฉินน้อยมา เช็ดน้ำตาบนใบหน้าของนาง เริ่มกล่อมเบาๆ“เอายามาให้ข้า”หัวใจของลู่ฉินไม่ปกติตั้งแต่เกิด ก่อนหน้านี้คิดว่าเพราะพระชายาตั้งครรภ์ลูกฝาแฝด ลู่ฉินได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ตอนนี้มาคิดดู น่าจะเป็นเพราะตอนที่ฉู่เจียวเจียวตั้งครรภ์ ขาดความสุข อารมณ์ไม่ดี กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ ดังนั้นลูกที่เกิดมาจึงไม่แข็งแรงถูกฉู่เจียวเจียวบีบจนเป็นโรคความผิดของผู้ใหญ่ ส่งผลกระทบต่อเด็กที่ไม่รู้อะไรเสียวอู่ถือชามยาเข้ามา หลังจากเป่าจนเย็น ก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1112

    เวลานี้ห่างออกไปพันลี้ ดินแดนเจียงหนาน สี่ฤดูดั่งวสันตฤดู  สภาพอากาศอบอุ่น เป็นสถานที่อยู่อาศัยและพักผ่อนชั้นเยี่ยม เจียงหนานทำเนียบมีการเฝ้าอย่างแน่นหนา คนแปลกหน้าห้ามเข้าใกล้ เหล่าทหารสวมชุดเกราะ อาวุธครบมือ เฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา มีคนวิ่งเข้าวิ่งออกเป็นระยะ แม้แต่ในอากาศก็เต็มไปด้วยอารมณ์ของความกดดันและเคร่งขรึม ภายในห้องหนังสือภาพแผนที่แคว้นตงหลิงติดอยู่บนกำแพง บนนั้นถูกทำเครื่องหมาย วาดวงกลม ปักธงเล็กๆ และอื่นๆหลายเส้นทาง สองมือเฟิงเย่เสวียนยันอยู่บนโต๊ะ กำลังอธิบายแผนการเดินทัพครั้งต่อไปอย่างเป็นระเบียบมีคนนั่งจนเต็มทั้งสองด้านของโต๊ะยาว พวกเขาตั้งใจฟัง พยักหน้าเป็นระยะ“รวบรวมกำลังทหารพร้อมแล้ว พวกเราจะโจมตีเมืองเทียนสู่เมื่อไร?” ผู้ว่าการเจียงหนานถาม“ผู้คนในเมืองเทียนสู่ล้วนเป็นราษฎรของแคว้นเรา เพื่อลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด ข้าขอแนะนำให้เจรจาก่อน แล้วค่อยโจมตี” จิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมคนของสำนักอู๋จี๋ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน ทุกคนช่วยกันออกแรงหานอิ๋งกล่าว“ตลอดทางที่ฝ่ามา พวกเราอยากใช้วิธีที่สันติ แต่เฟิงเจิ้งหลียอมหรือ? เขาไม่เพียงไม่ยอม และยังใช

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status