Share

บทที่ 255

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
เมื่อสิ้นเสียงหัวเราะที่มีความหมายลึกซึ้ง จ้องมองดวงตาทั้งคู่ของนางอัน ทำให้หัวใจนางอันสั่นสะท้าน หลบเลี่ยงโดยไม่รู้ตัว

และก็เพราะปฏิกิริยาเล็กๆ น้อยๆ ที่ละเอียดอ่อนนี้ ทุกอย่างอยู่นอกเหนือคำพูด

ฉู่เชียนหลีหมดความอดทน ยื่นมือออกไปโดยตรง

“ของที่ข้าต้องการ”

ก่อนหน้านี้ นางตอบตกลงช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉู่เจียวเจียว ส่วนนางอันจะมอบอยากถอนพิษปานบนใบหน้าให้นาง

นางอันกุมแขนเสื้อข้างซ้าย สองเท้าเดินถอยหลังหนึ่งก้าวเล็ก มีท่าทีของการกลับคำอย่างคลุมเครือ

“ยา ยานั่น…มันใช่ว่าวันสองวันก็สามารถปรุงเสร็จได้เสียที่ไหน? ปานนี้อยู่กับเจ้ามาสิบกว่าปีแล้ว หากมันสามารถขจัดออกไปง่ายเช่นนั้น มีหรือที่ข้าจะไม่ให้เจ้า? ทั่วหล้ามีแม่คนไหนบ้างที่ไม่อยากให้ลูกของตัวเองได้ดี?”

คำพูดเหล่านี้พูดได้สวยงามมาก แสดงถึงความห่วงใยที่แม่คนหนึ่งมีต่อลูกได้อย่างเปี่ยมล้น

แต่เมื่อเข้าหูฉู่เชียนหลี คำแปลที่ได้รับ :

ฉู่เจียวเจียวเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนข้าไม่รักษาคำพูด ไม่อยากมอบยาถอนพิษให้เจ้าแล้ว

ข้ายืนกรานไม่ให้ เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้

ข้าเป็นแม่ของเจ้า เจ้าคงไม่เอามีดมาจี้คอบีบคั้นข้ากระมัง

แววตาของฉู่เชียนหลี
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 256

    นางอันเบิกตากว้าง ดวงตาแทบหลุดออกมาแล้ว ตกใจจนเกือบหายใจไม่ออกกลิ่นอายอันน่ายำเกรงที่ส่งมาจากตัวนาง ความรุนแรงที่บอกไม่ถูกตรงหว่างคิ้วนั่น น้ำเสียงที่เย็นชาจนถึงขีดสุดนั่น ราวกับนำความหวาดกลัวไปให้จิตวิญญาณที่อยู่ในส่วนลึกของนางนางรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…ใบมีดบางแต่เย็นเฉียบจ่ออยู่ตรงคอ นางรู้สึกเพียงมือเท้าเย็นวูบ ร่างกายสั่นสะท้าน ราวกับถูกแขวนอยู่กลางอากาศ สามารถตกลงมาตายได้ทุกเมื่อ“เออ…เออ…” ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกฉู่เชียนหลีเหลือบมองนาง “ข้าจะนับถึงสาม เจ้าให้หรือไม่ให้?”เมื่อสิ้นเสียง ก็อ้าปากทันที“สาม!”พริบตานั้น นางกำมีดผ่าตัดแน่น จ่อไปที่กระเดือกของนางอัน นางอันส่งเสียงที่เหมือนดิ้นรนก่อนตายออกมา“ให้เจ้า!”กึก…นางเข่าอ่อนล้มคุกเข่าลงพื้น ขวดยาสีขาวกลิ้งออกมาจากแขนเสื้อ คลานอยู่บนพื้นอย่างอ่อนระทวย กุมหน้าอก หอบหายใจอย่างแรง สีหน้าซีดขาวราวกับคนตายฉู่เชียนหลีก้มลงไปเก็บขวดยา จากนั้นเปิดออกลองดมดมแค่ทีเดียว ก็รู้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอมนางอันตกใจจนไม่เหลือสภาพชิ้นดีก็ไหนว่านับสามไม่ใช่หรือ?หนึ่งกับสองล่ะ?เมื่อครู่ นางไม่มีโอกาสแม้แต่จ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 257

    “ท่านอ๋อง รายชื่อของขวัญอวยพรจัดแจงออกมาเรียบร้อยแล้วขอรับ พูดถึงก็แปลก จวนอ๋องเฉินส่งของขวัญอวยพรมาสองส่วน” พ่อบ้านถือสมุดพับประทับร้อนสีทองหนึ่งเล่มเดินเข้ามาเขาเปิดไปที่หน้าหนึ่ง ชี้บันทึกการมอบของขวัญด้านบน ครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจ“ตามหลักแล้วจวนอ๋องเฉินมอบหนึ่งส่วนก็พอแล้ว แต่อ๋องเฉินหนึ่งส่วน พระชายาอ๋องเฉินหนึ่งส่วน มีที่ไหนสามีภรรยาแยกกันมอบ น่าแปลก…”แววตาเฟิงเจิ้งหลีเป็นประกายเล็กน้อย รีบกล่าว“นำของขวัญอวยพรที่พระชายาอ๋องเฉินมอบมาให้ข้า!”งานแต่งอ๋องหลี คึกคักต่อเนื่องจนถึงช่วงเย็นยามราตรีมาเยือน แขกเหรื่อแยกย้าย รถม้าสีดำที่เรียบง่ายค่อยๆ ขับมาจอดนอกจวนอ๋องเฉินฉู่เชียนหลีกระโดดลงมาคนแรก ดื่มเหล้าไปเล็กน้อย นางบิดขี้เกียจด้วยอาการมึนเมา จากนั้นก็เดินเข้าจวนไปอย่างสบายใจเซียวจือฮว่าที่ลงมาคนที่สองเห็นแล้ว กล่าวอย่างเอาใจใส่แต่รู้ความ“เฉิน ท่านยังไม่ได้เข้าจวนเลย พี่หญิงกลับมองข้ามท่าน เดินเข้าไปเองแล้ว ไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาเกินไปแล้วกระมัง?”เฟิงเย่เสวียนกระโดดลงพื้นอย่างนุ่มนวล ยืนมือไขว้หลัง กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ในบ้านไม่จำเป็นต้องเคร่งเรื่องพิธีการ”

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 258

    เรือนข้าง“พระชายา ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ!”เมื่อเห็นฉู่เชียนหลี เยว่เอ๋อร์กับเจ้าดำน้อยกระโจนเข้าไปพลันคิ้วของเยว่เอ๋อร์ขมวดทันที “ท่านเป็นผู้หญิง ดื่มเหล้าได้อย่างไร…และยังดื่มมากเช่นนี้ เหม็นจังเลย!”เจ้าดำน้อยแลบลิ้นแฮ่ๆ เลียใบหน้าฉู่เชียนหลีหนามบนลิ้นของมัน แทงฉู่เชียนหลีจนเจ็บ ทำให้สร่างเมาไปหกเจ็ดส่วน พลันนางกดหัวของเจ้าดำน้อย ก็เริ่มจิกมั่วทันที“หมาป่าตัวผู้ ห้ามลวนลามข้า!”สองมือกดหัวหมาป่าไว้ ตะโกนคำว่าม้าหนึ่งคำ ก็กระโดดขึ้นคร่อมนั่งบนหลังหมาป่า แล้วดึงหูทั้งสองข้างของมัน ไม่ว่าเจ้าดำสะบัดอย่างไรก็สะบัดไม่หลุดเยว่เอ๋อร์หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก รีบไปเตรียมเตาเล็กจุดไฟ ต้มน้ำแกงสร่างเมาทันทีด้านข้าง หนึ่งคนหนึ่งหมาป่าเล่นกันพอประมาณแล้ว ก็พากันเข้าไปผิงไฟกลางคืน ลมเย็นเล็กน้อยฉู่เชียนหลียกก้นนั่งลงบนหางหมาป่าที่มีขนปุกปุย มือเท้าคาง มองดูเปลวไฟที่สั่นไหว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่“พระชายา ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”เยว่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะถาม“กำลังคิดเรื่องเสน่ห์ของตัวบุคคลกับการสืบพันธุ์ของมนุษย์”เยว่เอ๋อร์ “?”ที่จริงก็คือเรื่องของหานมู่ซีคนคนนี

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 259

    ล่าสัตว์ครั้งแรก ฉู่เชียนหลีคาดหวังเล็กน้อย นางได้เตรียมมีดสั้น เชือก เสื้อผ้าและสิ่งต่างๆ แล้วก็จะพาเยว่เอ๋อร์กับเจ้าดำน้อยไปด้วย และ…ทว่าวันต่อมามีหมอมอเฒ่าคนหนึ่งมาจากในวัง “พระชายาอ๋องเฉิน ถงเฟยเรียกพบเจ้าค่ะ”ฉู่เชียนหลีตะลึงงันโดยตรงเยว่เอ๋อร์รีบเข้าไปกระซิบข้างหูเบาๆ “พระชายา ถงเฟยเป็นแม่เลี้ยงที่ดูแลอ๋องเฉินโต และเป็นสาวใช้คนสนิทที่รับใช้เซียวกุ้ยเฟยในตอนนั้น หลังจากเซียวกุ้ยเฟยตาย เนื่องจากนางมีความดีความชอบเลี้ยงดูอ๋องเฉิน จึงถูกฝ่าบาทแต่งตั้งเป็นถงเฟยโดยเฉพาะ”ถงเฟยนับว่าเป็นแม่ครึ่งหนึ่งของอ๋องเฉิน มีพระคุณในการเลี้ยงดูอย่างใหญ่หลวงฉู่เชียนหลีเข้าใจอย่างคร่าวๆ ในคืนงานเลี้ยงฉลองชัย เฟิงเย่เสวียนบอกจะไปเยี่ยมเสด็จแม่ น่าจะเป็นถงเฟยท่านนี้กระมังเพียงแต่นางกับถงเฟยไม่เคยพบกัน และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ เหตุใดจู่ๆ จึงเรียกนาง?หมอมอแก่ก้มเอวอย่างนอบน้อม “พระชายาอ๋องเฉิน เกี้ยวที่เข้าวังรออยู่นอกจวนแล้ว บ่าวไปรอท่านข้างนอกเจ้าค่ะ”พูดจบก็เดินออกไปแล้วฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว “ถงเฟยเรียกข้ากะทันหัน ต้องมีเรื่องแน่ ยิ่งกว่านั้นไม่ใช่เรื่องดีอะไร ไม่ไปได้หรือไม่?”เยว่เอ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 260

    เมื่อน้ำเสียงที่มาพร้อมกับเสียงสะอื้นลอยออกมา ถงเฟยหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กออกมาเช็ดน้ำตาให้เซียวจือฮว่า “ไอ้หยา โตจนป่านนี้แล้ว ยังร้องไห้อีก ไม่อายหรือ?”“ฮือ…”เมื่อได้ยินคำนี้ เซียวจือฮว่ายิ่งร้องไห้หนักพลันอ้าปาก เสียง ‘แง’ ดังเป็นพิเศษ น้ำตาเม็ดใหญ่ราวกับลูกปัดยิ่งไหลลงอย่างต่อเนื่อง“เอาละๆๆ ไม่ร้องแล้ว”“แง!”ฉู่เชียนหลี “...”เซียวจือฮว่าน้อยใจจนเหมือนเด็กที่มีน้ำหนักสามร้อยชั่ง และฉู่เชียนหลีก็คือคนที่รังแกนาง เป็นผู้ก่อเหตุที่ชั่วร้ายถงเฟยปลอบสองสามคำ สุดท้ายปลอบไม่ไหวแล้วจริงๆ หมดหนทางแล้ว จึงมองไปทางฉู่เชียนหลีอย่างช่วยไม่ได้“เด็กคนนี้ ส่งหนังสือเข้าวังตั้งแต่เช้าตรู่ บอกว่าอ๋องเฉินจะไล่นางไปอยู่สวนชานเมือง ไม่อนุญาตให้นางกลับจวนอ๋องเฉินอีก นี่ก็เลยมางอแงกับข้าแล้ว”ฉู่เชียนหลีได้ยินแล้วตะลึงงันเฟิงเย่เสวียนถึงกับยอมไล่เซียวจือฮว่า?ข้างหู เสียงของเขาดังสะท้อนกะทันหัน——‘ให้เวลาข้าหน่อย ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย’นั่นเขาพูดเล่นไม่ใช่หรือ?เขาถึงกับจะไล่เซียวจือฮว่าจริงๆ?!พริบตานั้น มีความรู้สึกที่แปลกประหลาดเสี้ยวหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในใจฉู่เชียนหลี

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 261

    เซียวจือฮว่า “?”ชาติกำเนิดถงเฟยเป็นสามัญชน เนื่องจากเลี้ยงดูอ๋องเฉินมีความดีความชอบ จึงถูกแต่งตั้งเป็นนางสนม อาศัยอยู่ในวัง แต่ว่าความเจริญรุ่งเรืองในวังหลวงไม่ได้บั่นทอนเนื้อแท้ของนาง นางกระทำการอย่างถ่อมตนมาโดยตลอด ใช้ชีวิตเพียงลำพัง น้อยครั้งจะออกจากตำหนัก ปกติเมื่อมีเวลาว่างก็จะสวดมนต์ภาวนาอยู่ในห้องเซียวจือฮว่าไม่พอใจแล้ว “เสด็จแม่…”นางเม้มปาก ท่าทางน้อยใจ “จือฮว่าจะถูกไล่ออกจากจวนอ๋องเฉินอยู่แล้ว…”ถงเฟยตบหลังมือเซียวจือฮว่า กล่าวปลอบอย่างมีความอดทน “จือฮว่า เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจ เมื่อครู่ข้าเพิ่งสั่งสอนพระชายา พระชายานางรู้ว่าควรจะทำอย่างไร”“เสด็จแม่ แต่ว่า…”ถงเฟยพูดขัดทันที“หมอมอ เตรียมน้ำ ล้างมือ! พวกเจ้าสองคนตามข้าไปสวดมนต์ จิตใจสงบแล้ว ปัญหามากมายก็จะคิดได้เอง เมื่อคิดได้แล้ว ก็จะไม่ทะเลาะกันอีก”ชีวิตที่แสนสั้นสามหมื่นกว่าวันของมนุษย์ มีความสุขก็หนึ่งวัน ไม่มีความสุขก็หนึ่งวันเช่นกัน เหตุใดจึงไม่เปิดใจ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเล่า?มักจะถือสาข้อเท็จจริงบนปาก ชนะหรือพ่ายแพ้ในไม่กี่คำ ทำตัวเองโมโห สร้างบาปปาก มีความหมายอะไร?ฉู่เชียนหลีพยักหน้าอย่างเป็นเด็กดี “เจ้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 262

    เซียวจือฮว่า “แบๆๆๆๆ”ฉู่เชียนหลี “นำมอฮอลตันนอตอลาเยเย นำมอออลีเย พอลูกิดตีชอปอลาแย…”ทั้งสองนั่งอยู่ข้างหลังถงเฟย สวดมนต์ตามนาง เสียงที่แผ่วเบามากล่องลอยอยู่ในห้องทำสมาธิ กลิ่นธูปเทียนลอยเตะจมูก ทำให้จิตใจสงบเป็นพิเศษไม่มีการทะเลาะไม่มีการโต้เถียงไม่มีการใช้งอแงใช้อุบายปล่อยวางทุกสิ่งในโลกนี้ นอกจากความเป็นความตาย เรื่องอื่นก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ทันใดนั้น จิตใจของฉู่เชียนหลีราวกับเปิดกว้างขึ้นมากหลังจากนั้นครึ่งชั่วยามบทพระสูตรสิ้นสุดหนึ่งจบถงเฟยค่อยๆ ปิดหนังสือสวดมนต์ ว่างลงข้างๆ บักฮื้อ หันมามองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม “ทั่วหล้า มีข้อพิพาท การแก่งแย่ง คดีความเป็นความตายมากมาย ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ”“แต่เมื่อใจเย็นลง พิจารณาอย่างละเอียด หลายสิ่งหลายอย่างไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง พลังชีวิตของมนุษย์มีขีดจำกัด นำหัวใจไปวางไว้ในตำแหน่งที่ควรจะวาง จึงจะเปลืองแรงน้อยแต่ได้ผลกำไลมาก”นางสั่งสอนด้วยเสียงที่อ่อนโยนฉู่เชียนหลีรับคำสอนอย่างจริงใจ “เสด็จแม่ ท่านพูดถูก เปิดใจให้กว้าง สามารถรองรับแม่น้ำร้อยสาย เมื่อยืนอยู่บนที่สูง สามารถมองได้ไกล จึงเห็นเรื่องราวมาก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 263

    “อ่า!”เสียงนี่ไม่ใช่เสียงกำไลแตก แต่เป็นเสียงฝ่ามือที่ดังชัดเจนเสียงร้องนี่ไม่ใช่ปวดใจที่กำไลตกแตก แต่เป็นเสียงกรีดร้องที่เหมือนฆ่าหมูของเซียวจือฮว่าเห็นเพียง เซียวจือฮว่าโดนตบจนหมุนอยู่ตรงที่เดิมสองรอบ สุดท้ายเซล้มลงพื้น ศีรษะเอียงไปด้านหนึ่ง มวยผมเบี้ยว ปิ่นระย้าทองห้อยตกมาอยู่ที่ข้างหู บนใบหน้ายิ่งมีรอยฝ่ามือสีแดงปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อหันไปมองอีกด้าน ฉู่เชียนหลีสวมกำไลเฉียนคุนเข้าข้อมืออย่างใจเย็น จากนั้นนวดฝ่ามือที่เริ่มแดงอย่างเกียจคร้าน ท่าทางสูงศักดิ์ที่เกียจคร้านเหมือนแมวนั่น ราวกับคนที่ลงมือเมื่อครู่ไม่ใช่นางหมอมอเฒ่าสะดุ้งตกใจ แต่เมื่อตั้งสติได้ รีบทำสัญญามือ สั่งให้นางกำนัลหลายคนถอยออกไป ส่วนตนเองก็รีบเข้าไปในห้องทำสมาธิเช่นกัน นางไม่เห็นอะไรเลย…ผ่านไปสักพักเซียวจือฮว่าลูบแก้มที่เจ็บจนชา หันคอที่แข็งทื่อมา เงยหน้ามองไปทางฉู่เชียนหลีที่อยู่เบื้องสูง ตะลึงงันอยู่นาน“เจ้า…เจ้าตบข้า…”เหอะฉู่เชียนหลีหัวเราะอย่างเย็นชา “ข้าเป็นชายาเอก ส่วนเจ้าเป็นอนุ หรือนายหญิงของครอบครัวจัดการอนุเล็กๆ คนหนึ่ง ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าก่อน?”กล้าแตะต้องกำไลเฉียนคุนของนาง

Latest chapter

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1174

    อวิ๋นอิงรีบปิดปากวิ่งหนี ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย ทุกวินาทีที่อยู่ในทำเนียบ รู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองตัวเองอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะท้องเด็กคนนี้ยังไม่ทันเกิด ก็ตกไปอยู่ในแผนของผู้อื่นแล้วนางนอนไม่หลับทั้งคืนรอจนรุ่งสาง นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ถ้าหากฝืนยื้อ นางยื้อจิ่งอี้ไม่ไหว หลังจากคิดซ้ำๆ ทิ้งจดหมายไว้หนึ่งฉบับ จากไปเงียบๆ แล้วนางอยากไปจากเจียงหนานหาสถานที่ที่เงียบสงบและไม่มีใครรู้จักนาง คลอดเด็กคนนี้ออกมา และเลี้ยงดูเขาไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางโลก ไม่อยากสนใจอะไรทั้งสิ้น ไปอยู่สถานที่ใหม่ เริ่มต้นใหม่จากไปอย่างเร่งด่วน พกเพียงเงินมือข้างหนึ่งจับท้อง ฝีเท้าเร่งรีบ เตรียมไปเช่ารถม้าหนึ่งคัน แต่ตอนเดินไปถึงตรงหัวมุม ไม่ระวังถูกเด็กที่เล่นอยู่ตรงนั้นชนท้อง“ซี้ด!”ความเจ็บแล่นไปทั่วร่างมีกระแสอุ่นๆ สายหนึ่งไหลออกจากร่างกายช่วงล่างสีหน้าอวิ๋นอิงเปลี่ยนฉับพลัน มือจับเสื้อผ้าตรงท้องตามสัญชาตญาณ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ตกวูบ เจ็บจนจับกำแพง ทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างเข่าอ่อนชาวบ้านที่เดินผ่านมาเห็น กล่าวด้วยความตกใจ“แม่นาง เจ้าไม่เป็นอะไรกระมัง?”“ข้างล

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1173 

    เสียงของเขาทุ้มและเหนื่อยมาก ทั้งที่เพิ่งอายุยี่สิบหกปี แต่ดวงตาที่เต็มไปด้วยความผันผวน เหมือนชายชราใกล้ตายที่ผ่านอะไรมามากมาย นั่งอยู่บนบันได มองดวงอาทิตย์ที่ค่อยๆ ลับขอบฟ้า รอคอยความตายที่จะมาถึงเฟิ่งหรานรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งความรัก เป็นสิ่งที่อันตรายจริงๆชาตินี้เขายอมไม่แตะต้องผู้หญิงเลย“เช่นนั้นก็ไปเถอะ” เขากล่าว “อวิ๋นอิงเกลียดเจ้า เจ้าฝืนอยู่ข้างกายนาง มีแต่จะคอยย้ำเตือนความเจ็บปวดที่นางเคยได้หลับ เกรงว่ามีแต่จะยิ่งเกลียดเจ้า”“พวกเรากลับแคว้นกันเถอะ”กลับแคว้นซีอวี้กลับไปในที่ที่ควรกลับ กลับไปทำสิ่งที่ควรทำ ลืม…คนที่ควรลืมเฟิ่งหรานกล่าว “บางทีไปจากนาง จึงจะสามารถทำให้นางสบายใจจริงๆ ชีวิตจึงจะนับว่าดีขึ้นจริงๆ เจ้าก็ควรกลับแคว้น ทวงคืนสิ่งที่เป็นของเจ้าคืนแล้ว”“ข้าไปหาพระชายา ขอให้นางช่วยรักษากล่องเสียงของเจ้า”“ไม่ต้องแล้ว” จิ่งอี้ปฏิเสธอย่างเรียบเฉยกล่องเสียงที่พังแล้ว เขาไม่อยากรักษายาพิษที่อวิ๋นอิงป้อนเองกับมือ มันหวานเหมือนน้ำผึ้ง ชาตินี้เขาจะไม่รักษา“อวิ๋นอิงเกลียดข้า ก็ให้พิษนี่อยู่ในร่างกายข้า ให้ความเกลียดของนางมีที่ระบาย เช่นนี้จึงจะสามารถทำใ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1172

    จิ่งอี้ค่อยๆ หลุบตาลง ความดีใจเมื่อครู่หายไป เหลือเพียงความเศร้าในแววตาของเขา…เขากล้าขอให้อวิ๋นอิงให้อภัยได้อย่างไร?เขาทำกับอวิ๋นอิงเช่นนั้น ทำร้ายนางเช่นนั้น เปลี่ยนเป็นเขา ก็ไม่มีทางให้อภัยตัวเองอวิ๋นอิงเกลียดเขา มันก็สมควรแล้วอวิ๋นอิงวางยาเขา ทำลายกล่องเสียงของเขา เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาเคยทำ มันต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเขาแค่สูญเสียกล่องเสียงแต่ความเจ็บปวดทางจิตใจและจิตวิญญาณที่อวิ๋นอิงได้รับ ไม่สามารถลบเลือนได้ทั้งชีวิต“เป็นความผิดของข้า ล้วนเป็นความผิดของข้า…”ไม่ว่าอวิ๋นอิงทำอะไร เขาก็พร้อมรับทุกอย่างนี่คือผลลัพธ์ที่เขาควรได้รับ“ไม่เป็นไร…สมควรแล้ว…อวิ๋นอิงทำถูก…ข้าไม่โทษนาง นางรังเกียจข้า นางเกลียดข้า นางอยากเอาชีวิตข้า ข้ารู้ ข้ารู้ทุกอย่าง…เฟิ่งหราน ข้าไม่เกลียดนาง จริงนะ…ข้า…”เสียงของเขาแข็งขึ้นเรื่อยๆ เบ้าตาก็แดงอย่างรวดเร็วมีหมอกปกคลุมพร่ามัวน้ำตาไหลออกมาพลันเฟิ่งหรานแน่นหน้าอกรู้จักกันนานเช่นนี้ เคยเห็นจิ่งอี้หลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียวตั้งแต่เมื่อไร? ถูกพ่อแท้ๆ ทิ้ง เขาไม่ร้องไห้ จางเฟยตา เขาก็ไม่ร้องไห้ตอนนี้ เวลานี้ น้ำตาตกเหมือนสายฝน!ผู้ชา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1171

    “อ๋อ อวิ๋นอิง”เฟิ่งหรานรู้ว่าเขาเป็นห่วง จึงกล่าวโดยไม่อ้อมค้อมแล้ว“เดิมทีนางหนูนั่นเกลียดเจ้ามาก พูดอะไรก็ไม่ยอมให้อภัยเจ้า แต่ข้าพบว่าเมื่อคืนนางแอบมาเยี่ยมเจ้า ตอนที่จากไป ตาแดงเหมือนเคยร้องไห้”อวิ๋นอิงเอาหน้า ดังนั้นจึงแอบมาตอนกลางคืนเขาหยอกล้อด้วยรอยยิ้ม“ข้าว่าแปดส่วนพวกเจ้าไปกันรอด”“นี่ก็ถือว่าเจ้ายอมเสียสละชีวิต ใช้ความรักของตัวเองทำให้นางหวั่นไหว ตอนนี้ก็ใกล้จะคลอดแล้ว ถ้าหากพวกเจ้าสามารถคืนดีกันได้ เมื่อเด็กคนนี้เกิดมา พ่อเอ็นดู แม่รักใคร่ ไม่ต้องพูดถึงว่ามีความสุขเพียงใดแล้ว”“จึงมอบครอบครัวที่สมบูรณ์ให้เด็ก อย่าให้เด็กเดินตามรอยพวกเรา…”พวกเขาล้วนเป็นคนโชคร้าย รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดของครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์อย่าปล่อยให้ความโชคร้ายของตัวเอง ต้องไปเกิดขึ้นกับเด็กมีประกายความตื่นเต้นฉายในแววตาจิ่งอี้นางมาเยี่ยมเขาแล้ว!ในที่สุดนางก็ยอมให้อภัยเขาแล้วหรือ!เขาตื่นเต้นจนไม่สามารถระงับอารมณ์ ดึงผ้าห่มออกก็จะลุกขึ้นเฟิ่งหรานรีบกดเขาไว้ “เจ้าเพิ่งฟื้น ร่างกายยังอ่อนแอมาก อย่าขยับส่งเดช เจ้าอยากตายหรือ?”จิ่งอี้กล่าว “ดี ใจ…”เสียงยังคงแหบแห้ง “ต่อให้ดีใจ ก็ไม

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1170

    ช้อนแล้วช้อนแล้ว กระทั่งเห็นก้นถ้วยหลังจากป้อนหมดแล้ว อวิ๋นอิงวางถ้วยยา เช็ดมุมปากของเขา ตอนที่นิ้วสัมผัสโดนผิวหนัง เย็นเหมือนน้ำแข็ง…นี่ไม่ใช่อุณหภูมิร่างกายของคนปกติบางทีเขาอาจจะไม่มีวันฟื้นแล้วจริงๆรู้สึกแสบจมูกเล็กน้อย“เพราะเหตุใดเจ้าต้องใช้เลือดหัวใจของตัวเอง เลี้ยงกู่แพทย์เพื่อข้า? เพราะเหตุใดต้องดื่มยาพิษขวดนั้น ความเป็นความตายของข้าเกี่ยวอะไรกับเจ้า? ทั้งๆ ที่เจ้าไม่ต้องทำเช่นนั้น”“ความโอ่อ่าในอดีตของเจ้าล่ะ? ความเฉียบคมของเจ้าล่ะ? ความแข็งแกร่งของเจ้าล่ะ? ความเด็ดขาดที่หนึ่งหนึ่งไม่เป็นสองของเจ้าล่ะ? ถ้าหากข้าตายแล้ว ก็เป็นไปตามที่เจ้าต้องการไม่ใช่หรือ? เหตุใดเจ้าต้องสนใจข้า?”“จิ่งอี้ ถ้าหากเจ้ายังทำกับข้าเหมือนเมื่อก่อน ข้าจะเกลียดเจ้าไปตลอดชีวิตจริงๆ เกลียดเจ้าจนตาย แต่ต่อมาเจ้าเปลี่ยนไปแล้ว…”“พอเจ้าดีกับข้า ข้าก็…ใจอ่อนแล้ว…”อวิ๋นอิงหลุบตา พูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่แข็งเล็กน้อยตัวตนของนาง เป็นเด็กผู้หญิงที่ไร้เดียงสาและตรงไปตรงมา!ใครดีกับนาง นางก็ดีกับคนนั้นท้องใกล้จะเก้าเดือนแล้ว อีกประมาณครึ่งเดือนก็น่าจะคลอดแล้ว นางไม่สามารถลบเลือนความจริงที่จิ่งอี้เ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1169

    เฟิงเจิ้งลู่ฉินกลับแคว้นวันที่สามฉู่เชียนหลียังไม่ค่อยชิน ตอนที่ดูจื่อเยี่ยกับเว่ยซีเล่นด้วยกัน มักจะนึกถึงร่างเงาน้อยๆ ที่สามวันที่สี่ เกิดสงครามขึ้นที่ริมแม่น้ำอูหลานอีกครั้ง เฟิงเย่เสวียนยุ่งจนไม่ได้พักทุกวัน นอกจากเวลานอน เวลาอื่นไม่เห็นแม้แต่เงา ส่วนนางก็อยู่บ้านเลี้ยงลูก และคอยเฝ้าดูอาการบาดเจ็บของจิ่งอี้จวินลั่วยวนก็หาโอกาสทุกวัน…แต่น่าเสียดาย เกิดสงครามขึ้น อ๋องเฉินยุ่งมาก นางไม่มีโอกาสเข้าใกล้เลยเป็นเช่นนี้ติดต่อกันหลายวัน รอจนรู้สึกเบื่อ นางกลับเริ่มหันมาสนใจฉู่เชียนหลีแทน พบว่าหลายวันนี้ ฉู่เชียนหลีมักจะไปที่เรือนหลังหนึ่งเกิดความอยากรู้อยากเห็นจึงฉวยโอกาสตอนที่ฉู่เชียนหลีไม่อยู่ แอบเข้าไปในเรือนทันทีที่เข้าไป ก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง“เอ๋?”ฉู่เชียนหลีเฝ้าผู้ชายคนนี้ทุกวัน คนคนนี้น่าจะสำคัญกับนางมากกระมัง?เดินเข้าไปดูอย่างละเอียดใกล้ๆหน้าตาไม่เลว แต่หน้าซีดไปหน่อย ถ้าหากไม่ใช่เพราะหน้าอกของเขายังมีการกระพือขึ้นลงเบาๆ นางเกือบคิดว่าเป็นศพนอนอยู่บนเตียง“บาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ เหตุใดยังไม่ตาย?”นางชะโงกศีรษะด้วยความอยากรู้อยากเห็น

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1168

    นางกำนัลรีบอุ้มเด็กเดินเข้าไปฉู่เจียวเจียวรับมาเบาๆ “ฉินเอ๋อร์เป็นเด็กดีนะ ไม่ร้องแล้ว เสด็จแม่อยู่นี่”ตบหลังปลอบใจนางเบาๆทว่าลู่ฉินยิ่งร้องไห้หนักแล้ว“อุแว้!”อ้าปาก เสียงร้องไห้ดังเป็นพิเศษ น้ำตาร่วงเป็นเม็ดๆ ราวกับลูกปัดที่เชือกขาดแก้มทั้งสองข้างแดงก่ำ“อุแว้! ฮือๆ…”นางสะอึกสะอื้น นางกระสับกระส่ายจู่ๆ ก็มาถึงสภาพแวดล้อมที่ไม่รู้จัก รู้สึกไม่ปลอดภัย นางไม่อยากอยู่ที่นี่ นางอยากกลับไปหาท่านแม่“ไม่ร้อง เป็นเด็กดีนะ” ฉู่เจียวเจียวกล่อมนาง “เจ้าเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของแคว้นตงหลิง เรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ฝน น้ำตาก็เหมือนกับเมล็ดถั่วทองคำ จะร้องไห้ส่งเดชได้อย่างไร?”“เจ้าเลิกร้องได้แล้ว เสด็จแม่ซื้อเครื่องประดับให้เจ้าสองชุด เป็นอย่างไร?”เฟิงเจิ้งลู่ฉิน “อุแว้!”นางกำนัลที่อยู่ข้างๆ “...”อยากพูดแต่ก็ลังเลเห็นได้ชัดว่าฉู่เจียวเจียวเลี้ยงลูกไม่เป็น ไม่มีประสบการณ์ และกล่อมไม่เป็น แม้แต่ท่าอุ้มของนางก็ดูแข็งมาก“ถ้ายังไม่พอ ซื้อบ้านในเมืองหลวงให้เจ้าสองหลัง? ถ้าหากเจ้ารู้สึกเหงา ข้าก็ให้ลูกๆ ของขุนนางเข้าวังมาเล่นกับเจ้า”ฉู่เจียวเจียวกล่อมนาง“วันนี้เป็นวันด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1167

    ขบวนของอ๋องหลีลงจากสะพาน ถอนกำลังอย่างรวดเร็ว พวกเขามาอย่างเร่งรีบ และจากไปอย่างเร่งรีบ หายไปในความมืดอย่างว่องไวฉู่เชียนหลียืนอยู่ตรงที่เดิมบนสะพานลมแรง อากาศเย็นในยามค่ำคืนลมหนาวลอยมา พัดชายเสื้อของนางปลิวขึ้น ความเย็นปะทะใบหน้า ไร้ซึ่งความอบอุ่น ระหว่างคิ้วของนางเต็มไปด้วยความกังวลนางไม่ต้องการให้เกิดสงครามและยิ่งไม่ต้องการให้นางเป็น…ต้นเหตุของสงคราม“เชียนหลี”เฟิงเย่เสวียนเดินมา ดึงกระชับเสื้อให้นางจากข้างหลัง อุ้มนางขึ้นม้า หมุนกายกลับเจียงหนาน“เลิกห่วงลู่ฉินได้แล้ว หลังจากนางกลับไป ชีวิตไม่แย่ไปกว่าตอนนี้แน่นอน”ด้านหนึ่งฉู่เชียนหลีเป็นห่วงเฟิงเจิ้งลู่ฉิน อีกด้านหนึ่งคือกังวลคำพูดที่เฟิงเจิ้งหลีพูดทิ้งท้านก่อนไปเป็นอย่างที่คิดความกังวลกลายเป็นจริงวันถัดมาเกิดสงครามขึ้นในเมืองแห่งหนึ่งแถบชายแดนเจียงหนานตอนกลางคืนกะทันหัน เนื่องจากไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนใดๆ เมืองจึงถูกยึดโดยไม่ทันตั้งตัวในชั่วข้ามคืน และมีการปักธงของฮ่องเต้หลีบนกำแพงเมืองเมืองถูกยึดครอง ราษฎรอพยพมีการส่งข่าวกลับเจียงหนานอย่างเร่งด่วน เฟิงเย่เสวียนจัดการเรื่องนี้ทันทีตอนที่ฉู่เชียนหลีรู้ ก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1166

    ถึงกำหนดเวลาสามวันแล้วทางอ๋องเฉินตกลงที่จะส่งองค์หญิงลู่ฉินคืน เฟิงเจิ้งหลีมารับด้วยตัวเอง กองทัพทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันที่บนสะพานแม่น้ำอูหลานฝั่งนี้ของแม่น้ำคืออ๋องเฉินพร้อมด้วยกองทัพที่อาวุธครบมือ เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินตลอดเวลาอีกฟากของแม่น้ำคือคนของอ๋องหลี ซึ่งมีทหารมายมากราวกับคลื่นสีดำเช่นเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายแข็งแกร่งพอกันฉู่เชียนหลีอุ้มเฟิงเจิ้งลู่ฉินที่ยังเด็ก เดินขึ้นสะพานภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์ลับเฟิงเจิ้งหลีขี่ม้าขึ้นไป ทั้งสองสบตาห่างกันเจ็ดแปดเมตรเมื่อเจ็ดวันก่อน เขายืนอยู่ที่ริมแม่น้ำ มองดูนางจากไปต่อหน้าต่อตาเจ็ดวันต่อมา พบกันใหม่อีกครั้งนางยังคงเป็นนาง“แม่” ลู่ฉินน้อยใช้ดวงตาที่รู้ความและบริสุทธิ์กวาดมองสภาพแวดล้อมที่ไม่รู้จักด้วยความสงสัย กอดคอและมุดเข้าไปในอ้อมแขนของมารดาอย่างกระสับกระส่ายฉู่เชียนหลีหลุบตา“ข้าไม่ใช่แม่เจ้า…”เสียงเบามากๆ มีเพียงนางที่ได้ยิน“แม่?”ลู่ฉินเงยหน้ามองมารดาอย่างไร้เดียงสา กล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนิ่ม “กลับ กลับบ้าน…กลับ”มือน้อยๆ จับเสื้อของนางทันใดนั้น ฉู่เชียนหลีแน่นหน้า อยากเด็ดขาด แต่ทำไม่ลงแล้ว ทั้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status