แชร์

บทที่ 255

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
เมื่อสิ้นเสียงหัวเราะที่มีความหมายลึกซึ้ง จ้องมองดวงตาทั้งคู่ของนางอัน ทำให้หัวใจนางอันสั่นสะท้าน หลบเลี่ยงโดยไม่รู้ตัว

และก็เพราะปฏิกิริยาเล็กๆ น้อยๆ ที่ละเอียดอ่อนนี้ ทุกอย่างอยู่นอกเหนือคำพูด

ฉู่เชียนหลีหมดความอดทน ยื่นมือออกไปโดยตรง

“ของที่ข้าต้องการ”

ก่อนหน้านี้ นางตอบตกลงช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉู่เจียวเจียว ส่วนนางอันจะมอบอยากถอนพิษปานบนใบหน้าให้นาง

นางอันกุมแขนเสื้อข้างซ้าย สองเท้าเดินถอยหลังหนึ่งก้าวเล็ก มีท่าทีของการกลับคำอย่างคลุมเครือ

“ยา ยานั่น…มันใช่ว่าวันสองวันก็สามารถปรุงเสร็จได้เสียที่ไหน? ปานนี้อยู่กับเจ้ามาสิบกว่าปีแล้ว หากมันสามารถขจัดออกไปง่ายเช่นนั้น มีหรือที่ข้าจะไม่ให้เจ้า? ทั่วหล้ามีแม่คนไหนบ้างที่ไม่อยากให้ลูกของตัวเองได้ดี?”

คำพูดเหล่านี้พูดได้สวยงามมาก แสดงถึงความห่วงใยที่แม่คนหนึ่งมีต่อลูกได้อย่างเปี่ยมล้น

แต่เมื่อเข้าหูฉู่เชียนหลี คำแปลที่ได้รับ :

ฉู่เจียวเจียวเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนข้าไม่รักษาคำพูด ไม่อยากมอบยาถอนพิษให้เจ้าแล้ว

ข้ายืนกรานไม่ให้ เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้

ข้าเป็นแม่ของเจ้า เจ้าคงไม่เอามีดมาจี้คอบีบคั้นข้ากระมัง

แววตาของฉู่เชียนหลี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 256

    นางอันเบิกตากว้าง ดวงตาแทบหลุดออกมาแล้ว ตกใจจนเกือบหายใจไม่ออกกลิ่นอายอันน่ายำเกรงที่ส่งมาจากตัวนาง ความรุนแรงที่บอกไม่ถูกตรงหว่างคิ้วนั่น น้ำเสียงที่เย็นชาจนถึงขีดสุดนั่น ราวกับนำความหวาดกลัวไปให้จิตวิญญาณที่อยู่ในส่วนลึกของนางนางรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…ใบมีดบางแต่เย็นเฉียบจ่ออยู่ตรงคอ นางรู้สึกเพียงมือเท้าเย็นวูบ ร่างกายสั่นสะท้าน ราวกับถูกแขวนอยู่กลางอากาศ สามารถตกลงมาตายได้ทุกเมื่อ“เออ…เออ…” ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกฉู่เชียนหลีเหลือบมองนาง “ข้าจะนับถึงสาม เจ้าให้หรือไม่ให้?”เมื่อสิ้นเสียง ก็อ้าปากทันที“สาม!”พริบตานั้น นางกำมีดผ่าตัดแน่น จ่อไปที่กระเดือกของนางอัน นางอันส่งเสียงที่เหมือนดิ้นรนก่อนตายออกมา“ให้เจ้า!”กึก…นางเข่าอ่อนล้มคุกเข่าลงพื้น ขวดยาสีขาวกลิ้งออกมาจากแขนเสื้อ คลานอยู่บนพื้นอย่างอ่อนระทวย กุมหน้าอก หอบหายใจอย่างแรง สีหน้าซีดขาวราวกับคนตายฉู่เชียนหลีก้มลงไปเก็บขวดยา จากนั้นเปิดออกลองดมดมแค่ทีเดียว ก็รู้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอมนางอันตกใจจนไม่เหลือสภาพชิ้นดีก็ไหนว่านับสามไม่ใช่หรือ?หนึ่งกับสองล่ะ?เมื่อครู่ นางไม่มีโอกาสแม้แต่จ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 257

    “ท่านอ๋อง รายชื่อของขวัญอวยพรจัดแจงออกมาเรียบร้อยแล้วขอรับ พูดถึงก็แปลก จวนอ๋องเฉินส่งของขวัญอวยพรมาสองส่วน” พ่อบ้านถือสมุดพับประทับร้อนสีทองหนึ่งเล่มเดินเข้ามาเขาเปิดไปที่หน้าหนึ่ง ชี้บันทึกการมอบของขวัญด้านบน ครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจ“ตามหลักแล้วจวนอ๋องเฉินมอบหนึ่งส่วนก็พอแล้ว แต่อ๋องเฉินหนึ่งส่วน พระชายาอ๋องเฉินหนึ่งส่วน มีที่ไหนสามีภรรยาแยกกันมอบ น่าแปลก…”แววตาเฟิงเจิ้งหลีเป็นประกายเล็กน้อย รีบกล่าว“นำของขวัญอวยพรที่พระชายาอ๋องเฉินมอบมาให้ข้า!”งานแต่งอ๋องหลี คึกคักต่อเนื่องจนถึงช่วงเย็นยามราตรีมาเยือน แขกเหรื่อแยกย้าย รถม้าสีดำที่เรียบง่ายค่อยๆ ขับมาจอดนอกจวนอ๋องเฉินฉู่เชียนหลีกระโดดลงมาคนแรก ดื่มเหล้าไปเล็กน้อย นางบิดขี้เกียจด้วยอาการมึนเมา จากนั้นก็เดินเข้าจวนไปอย่างสบายใจเซียวจือฮว่าที่ลงมาคนที่สองเห็นแล้ว กล่าวอย่างเอาใจใส่แต่รู้ความ“เฉิน ท่านยังไม่ได้เข้าจวนเลย พี่หญิงกลับมองข้ามท่าน เดินเข้าไปเองแล้ว ไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาเกินไปแล้วกระมัง?”เฟิงเย่เสวียนกระโดดลงพื้นอย่างนุ่มนวล ยืนมือไขว้หลัง กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ในบ้านไม่จำเป็นต้องเคร่งเรื่องพิธีการ”

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 258

    เรือนข้าง“พระชายา ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ!”เมื่อเห็นฉู่เชียนหลี เยว่เอ๋อร์กับเจ้าดำน้อยกระโจนเข้าไปพลันคิ้วของเยว่เอ๋อร์ขมวดทันที “ท่านเป็นผู้หญิง ดื่มเหล้าได้อย่างไร…และยังดื่มมากเช่นนี้ เหม็นจังเลย!”เจ้าดำน้อยแลบลิ้นแฮ่ๆ เลียใบหน้าฉู่เชียนหลีหนามบนลิ้นของมัน แทงฉู่เชียนหลีจนเจ็บ ทำให้สร่างเมาไปหกเจ็ดส่วน พลันนางกดหัวของเจ้าดำน้อย ก็เริ่มจิกมั่วทันที“หมาป่าตัวผู้ ห้ามลวนลามข้า!”สองมือกดหัวหมาป่าไว้ ตะโกนคำว่าม้าหนึ่งคำ ก็กระโดดขึ้นคร่อมนั่งบนหลังหมาป่า แล้วดึงหูทั้งสองข้างของมัน ไม่ว่าเจ้าดำสะบัดอย่างไรก็สะบัดไม่หลุดเยว่เอ๋อร์หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก รีบไปเตรียมเตาเล็กจุดไฟ ต้มน้ำแกงสร่างเมาทันทีด้านข้าง หนึ่งคนหนึ่งหมาป่าเล่นกันพอประมาณแล้ว ก็พากันเข้าไปผิงไฟกลางคืน ลมเย็นเล็กน้อยฉู่เชียนหลียกก้นนั่งลงบนหางหมาป่าที่มีขนปุกปุย มือเท้าคาง มองดูเปลวไฟที่สั่นไหว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่“พระชายา ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”เยว่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะถาม“กำลังคิดเรื่องเสน่ห์ของตัวบุคคลกับการสืบพันธุ์ของมนุษย์”เยว่เอ๋อร์ “?”ที่จริงก็คือเรื่องของหานมู่ซีคนคนนี

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 259

    ล่าสัตว์ครั้งแรก ฉู่เชียนหลีคาดหวังเล็กน้อย นางได้เตรียมมีดสั้น เชือก เสื้อผ้าและสิ่งต่างๆ แล้วก็จะพาเยว่เอ๋อร์กับเจ้าดำน้อยไปด้วย และ…ทว่าวันต่อมามีหมอมอเฒ่าคนหนึ่งมาจากในวัง “พระชายาอ๋องเฉิน ถงเฟยเรียกพบเจ้าค่ะ”ฉู่เชียนหลีตะลึงงันโดยตรงเยว่เอ๋อร์รีบเข้าไปกระซิบข้างหูเบาๆ “พระชายา ถงเฟยเป็นแม่เลี้ยงที่ดูแลอ๋องเฉินโต และเป็นสาวใช้คนสนิทที่รับใช้เซียวกุ้ยเฟยในตอนนั้น หลังจากเซียวกุ้ยเฟยตาย เนื่องจากนางมีความดีความชอบเลี้ยงดูอ๋องเฉิน จึงถูกฝ่าบาทแต่งตั้งเป็นถงเฟยโดยเฉพาะ”ถงเฟยนับว่าเป็นแม่ครึ่งหนึ่งของอ๋องเฉิน มีพระคุณในการเลี้ยงดูอย่างใหญ่หลวงฉู่เชียนหลีเข้าใจอย่างคร่าวๆ ในคืนงานเลี้ยงฉลองชัย เฟิงเย่เสวียนบอกจะไปเยี่ยมเสด็จแม่ น่าจะเป็นถงเฟยท่านนี้กระมังเพียงแต่นางกับถงเฟยไม่เคยพบกัน และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ เหตุใดจู่ๆ จึงเรียกนาง?หมอมอแก่ก้มเอวอย่างนอบน้อม “พระชายาอ๋องเฉิน เกี้ยวที่เข้าวังรออยู่นอกจวนแล้ว บ่าวไปรอท่านข้างนอกเจ้าค่ะ”พูดจบก็เดินออกไปแล้วฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว “ถงเฟยเรียกข้ากะทันหัน ต้องมีเรื่องแน่ ยิ่งกว่านั้นไม่ใช่เรื่องดีอะไร ไม่ไปได้หรือไม่?”เยว่เอ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 260

    เมื่อน้ำเสียงที่มาพร้อมกับเสียงสะอื้นลอยออกมา ถงเฟยหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กออกมาเช็ดน้ำตาให้เซียวจือฮว่า “ไอ้หยา โตจนป่านนี้แล้ว ยังร้องไห้อีก ไม่อายหรือ?”“ฮือ…”เมื่อได้ยินคำนี้ เซียวจือฮว่ายิ่งร้องไห้หนักพลันอ้าปาก เสียง ‘แง’ ดังเป็นพิเศษ น้ำตาเม็ดใหญ่ราวกับลูกปัดยิ่งไหลลงอย่างต่อเนื่อง“เอาละๆๆ ไม่ร้องแล้ว”“แง!”ฉู่เชียนหลี “...”เซียวจือฮว่าน้อยใจจนเหมือนเด็กที่มีน้ำหนักสามร้อยชั่ง และฉู่เชียนหลีก็คือคนที่รังแกนาง เป็นผู้ก่อเหตุที่ชั่วร้ายถงเฟยปลอบสองสามคำ สุดท้ายปลอบไม่ไหวแล้วจริงๆ หมดหนทางแล้ว จึงมองไปทางฉู่เชียนหลีอย่างช่วยไม่ได้“เด็กคนนี้ ส่งหนังสือเข้าวังตั้งแต่เช้าตรู่ บอกว่าอ๋องเฉินจะไล่นางไปอยู่สวนชานเมือง ไม่อนุญาตให้นางกลับจวนอ๋องเฉินอีก นี่ก็เลยมางอแงกับข้าแล้ว”ฉู่เชียนหลีได้ยินแล้วตะลึงงันเฟิงเย่เสวียนถึงกับยอมไล่เซียวจือฮว่า?ข้างหู เสียงของเขาดังสะท้อนกะทันหัน——‘ให้เวลาข้าหน่อย ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย’นั่นเขาพูดเล่นไม่ใช่หรือ?เขาถึงกับจะไล่เซียวจือฮว่าจริงๆ?!พริบตานั้น มีความรู้สึกที่แปลกประหลาดเสี้ยวหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในใจฉู่เชียนหลี

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 261

    เซียวจือฮว่า “?”ชาติกำเนิดถงเฟยเป็นสามัญชน เนื่องจากเลี้ยงดูอ๋องเฉินมีความดีความชอบ จึงถูกแต่งตั้งเป็นนางสนม อาศัยอยู่ในวัง แต่ว่าความเจริญรุ่งเรืองในวังหลวงไม่ได้บั่นทอนเนื้อแท้ของนาง นางกระทำการอย่างถ่อมตนมาโดยตลอด ใช้ชีวิตเพียงลำพัง น้อยครั้งจะออกจากตำหนัก ปกติเมื่อมีเวลาว่างก็จะสวดมนต์ภาวนาอยู่ในห้องเซียวจือฮว่าไม่พอใจแล้ว “เสด็จแม่…”นางเม้มปาก ท่าทางน้อยใจ “จือฮว่าจะถูกไล่ออกจากจวนอ๋องเฉินอยู่แล้ว…”ถงเฟยตบหลังมือเซียวจือฮว่า กล่าวปลอบอย่างมีความอดทน “จือฮว่า เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจ เมื่อครู่ข้าเพิ่งสั่งสอนพระชายา พระชายานางรู้ว่าควรจะทำอย่างไร”“เสด็จแม่ แต่ว่า…”ถงเฟยพูดขัดทันที“หมอมอ เตรียมน้ำ ล้างมือ! พวกเจ้าสองคนตามข้าไปสวดมนต์ จิตใจสงบแล้ว ปัญหามากมายก็จะคิดได้เอง เมื่อคิดได้แล้ว ก็จะไม่ทะเลาะกันอีก”ชีวิตที่แสนสั้นสามหมื่นกว่าวันของมนุษย์ มีความสุขก็หนึ่งวัน ไม่มีความสุขก็หนึ่งวันเช่นกัน เหตุใดจึงไม่เปิดใจ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเล่า?มักจะถือสาข้อเท็จจริงบนปาก ชนะหรือพ่ายแพ้ในไม่กี่คำ ทำตัวเองโมโห สร้างบาปปาก มีความหมายอะไร?ฉู่เชียนหลีพยักหน้าอย่างเป็นเด็กดี “เจ้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 262

    เซียวจือฮว่า “แบๆๆๆๆ”ฉู่เชียนหลี “นำมอฮอลตันนอตอลาเยเย นำมอออลีเย พอลูกิดตีชอปอลาแย…”ทั้งสองนั่งอยู่ข้างหลังถงเฟย สวดมนต์ตามนาง เสียงที่แผ่วเบามากล่องลอยอยู่ในห้องทำสมาธิ กลิ่นธูปเทียนลอยเตะจมูก ทำให้จิตใจสงบเป็นพิเศษไม่มีการทะเลาะไม่มีการโต้เถียงไม่มีการใช้งอแงใช้อุบายปล่อยวางทุกสิ่งในโลกนี้ นอกจากความเป็นความตาย เรื่องอื่นก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ทันใดนั้น จิตใจของฉู่เชียนหลีราวกับเปิดกว้างขึ้นมากหลังจากนั้นครึ่งชั่วยามบทพระสูตรสิ้นสุดหนึ่งจบถงเฟยค่อยๆ ปิดหนังสือสวดมนต์ ว่างลงข้างๆ บักฮื้อ หันมามองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม “ทั่วหล้า มีข้อพิพาท การแก่งแย่ง คดีความเป็นความตายมากมาย ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ”“แต่เมื่อใจเย็นลง พิจารณาอย่างละเอียด หลายสิ่งหลายอย่างไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง พลังชีวิตของมนุษย์มีขีดจำกัด นำหัวใจไปวางไว้ในตำแหน่งที่ควรจะวาง จึงจะเปลืองแรงน้อยแต่ได้ผลกำไลมาก”นางสั่งสอนด้วยเสียงที่อ่อนโยนฉู่เชียนหลีรับคำสอนอย่างจริงใจ “เสด็จแม่ ท่านพูดถูก เปิดใจให้กว้าง สามารถรองรับแม่น้ำร้อยสาย เมื่อยืนอยู่บนที่สูง สามารถมองได้ไกล จึงเห็นเรื่องราวมาก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 263

    “อ่า!”เสียงนี่ไม่ใช่เสียงกำไลแตก แต่เป็นเสียงฝ่ามือที่ดังชัดเจนเสียงร้องนี่ไม่ใช่ปวดใจที่กำไลตกแตก แต่เป็นเสียงกรีดร้องที่เหมือนฆ่าหมูของเซียวจือฮว่าเห็นเพียง เซียวจือฮว่าโดนตบจนหมุนอยู่ตรงที่เดิมสองรอบ สุดท้ายเซล้มลงพื้น ศีรษะเอียงไปด้านหนึ่ง มวยผมเบี้ยว ปิ่นระย้าทองห้อยตกมาอยู่ที่ข้างหู บนใบหน้ายิ่งมีรอยฝ่ามือสีแดงปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อหันไปมองอีกด้าน ฉู่เชียนหลีสวมกำไลเฉียนคุนเข้าข้อมืออย่างใจเย็น จากนั้นนวดฝ่ามือที่เริ่มแดงอย่างเกียจคร้าน ท่าทางสูงศักดิ์ที่เกียจคร้านเหมือนแมวนั่น ราวกับคนที่ลงมือเมื่อครู่ไม่ใช่นางหมอมอเฒ่าสะดุ้งตกใจ แต่เมื่อตั้งสติได้ รีบทำสัญญามือ สั่งให้นางกำนัลหลายคนถอยออกไป ส่วนตนเองก็รีบเข้าไปในห้องทำสมาธิเช่นกัน นางไม่เห็นอะไรเลย…ผ่านไปสักพักเซียวจือฮว่าลูบแก้มที่เจ็บจนชา หันคอที่แข็งทื่อมา เงยหน้ามองไปทางฉู่เชียนหลีที่อยู่เบื้องสูง ตะลึงงันอยู่นาน“เจ้า…เจ้าตบข้า…”เหอะฉู่เชียนหลีหัวเราะอย่างเย็นชา “ข้าเป็นชายาเอก ส่วนเจ้าเป็นอนุ หรือนายหญิงของครอบครัวจัดการอนุเล็กๆ คนหนึ่ง ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าก่อน?”กล้าแตะต้องกำไลเฉียนคุนของนาง

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1270

    อันธพาลเจ็บจนกรีดร้องเหมือนหมูโดนเชือด “อ๊ะๆ!”ยังไม่ทันได้พักหายใจ ก็โดนถีบจนไปกลิ้งอยู่บนพื้น รองเท้าปักลายดอกไม้เหยียบลงบนหน้าอก หนักจนทำให้เขาหายใจไม่ออก กระอักเลือดออกมา“พู่!”เขากอดต้นขาของอวิ๋นอิง อยากดิ้นให้หลุด แต่หาของอวิ๋นอิงกดทับอยู่บนร่างกายของเขาเหมือนเหล็กกล้า และเขาก็เหมือนกับปลาตัวหนึ่งที่ถูกตอกตะปูอยู่บนเขียง พยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ก็ดิ้นไม่หลุดเจอผีแล้ว!ทั้งที่นางผอมเช่นนี้ เหตุใดจึงมีแรงมากเช่นนี้?ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือ?ชาวบ้านก็ตะลึงเช่นกันอวิ๋นอิงอุ้มลูกสาวไว้ด้วยมือข้างเดียว ค่อยๆ ก้มลง ยกฝ่ามืออีกข้าง เหวี่ยงไปที่ใบหน้าของอันธพาลโดยตรง“ข้าสั่งให้เจ้าเก็บ”เพียะ!“ไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”เพียะ!“หูหนวกหรือ?”เพียะ!หนึ่งประโยค หนึ่งฝ่ามือ ตบจนอันธพาลหันซ้ายหันขวา มุมปากแตกมีเลือดไหล หูอื้อ สะบักสะบอมเหมือนสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ไม่หลงเหลือความฮึกเหิมของก่อนหน้านี้เลย“ลูกพี่!”ลิ่วล้อสามคนคว้าโต๊ะเก้าอี้และท่อนไม้ที่อยู่ข้างๆ ฟาดไปทางอวิ๋นอิงอย่างแรงอวิ๋นอิงกระโดนหมุนตัวเตะพวกเขาสามคนจนลอยกระเด็นออกไปไกลเจ็ดแปดเมตร โดยไม่หั

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1269

    ตงหลิงเจียงหนาน ทำเนียบสามเดือนที่พระชายาจากไป อ๋องเฉินเอาแต่เก็บตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก หานเฟิงต้องรับผิดชอบงานแทนทุกอย่าง เมื่อนานวันเข้า โลกภายนอกต่างกำลังคาดเดา จิตใจของอ๋องเฉินได้รับกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ล้มแล้วลุกไม่ขึ้น เกรงว่าเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วช่วงนี้ ในที่สุดอาการบาดเจ็บของจิ่งอี้ก็ดีขึ้นแล้วอาการบาดเจ็บทางกระดูกหรือเส้นเอ็น ต้องรักษาอย่างน้อยหนึ่งร้อยวันในที่สุดกระดูกซี่โครงที่หักสองซี่ก็หายดีแล้ว สามารถขี่ม้าได้แล้ว ตอนนั้นเขาบอกว่าจะนำทัพกลับแคว้นซีอวี้ทันทีแต่ก่อนไป เขาถามเหมือนไม่ใส่ใจ“เหตุใดไม่เจอแม่นางอวิ๋นอิงเลย?”จ้านหูจริงจังขึ้นมาทันที เขาตอบ“องค์ชายใหญ่ ข้าจะส่งคนไปสืบเดี๋ยวนี้!”“ไม่ต้อง”หลังจากปฏิเสธอย่างเฉยเมย ปีนขึ้นหลังม้า ขี่ออกไปคนเดียวแล้วจ้านหู “?”หมายความว่าอย่างไร?ตอนที่องค์ชายใหญ่หมดสติ แม้อวิ๋นอิงบอกว่าไม่สนใจ แต่แอบมาเยี่ยมองค์ชายใหญ่ตอนดึกดื่นเวลาที่ไม่มีคนองค์ชายใหญ่ก็อีกคน ทั้งที่คิดถึงอวิ๋นอิง แต่ไม่ยอมรับในใจของพวกเขาสองคนล้วนมีอีกฝ่าย ลูกสาวก็อายุเกือบครึ่งขวบแล้ว เหตุใดไม่ลองเปิดใจสักนิดแล้วอยู่ด้วยกันเลย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1268

    คืนแรกที่มาถึงต่างโลก ฉู่เชียนหลีฝันในความฝัน นางอยู่บนสนามรบ สู้จนตัวตาย เลือดไหลเป็นแม่น้ำ น่าสลดใจนัก…ในความฝัน นางได้ต่อสู้ร่วมกับชายคนหนึ่งที่มองไม่เห็นใบหน้า ร่วมเป็นร่วมตาย และยังมีเสียงที่นุ่มนิ่มของเด็ก เรียก ‘ท่านแม่’ ครั้งแล้วครั้งเล่าในความฝัน ราวกับนางได้รับความอยุติธรรมครั้งใหญ่ หัวใจเจ็บปวด และพยายามอธิบายสุดชีวิต แต่พวกคนที่เรียกตัวเองว่า ‘ครอบครัว’ ไม่เชื่อนาง และยังบีบคั้นนางสู่เส้นทางที่สิ้นหวังในความฝัน…มีคนกำลังเรียกนาง‘เชียนหลี…เชียนหลี…’ฉึก!ฉู่เชียนหลีลืมตาฉับพลัน ท้องฟ้าข้างนอกสว่างแล้ว แสงแดดอุ่นๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามา สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของอากาศ สงบมากนางรู้สึกเวียนศีรษะ และแน่นหน้าอกราวกับนางอยู่ในความฝันอันยาวนานจริงๆนางได้รับความอยุติธรรมนางถูกคนในครอบครัวฆ่าตายแต่เหตุใดนางจำผู้ชายที่เรียกนาง และภาพที่เรียกนางว่า ‘ท่านแม่’ ไม่ได้เลย“องค์หญิง ท่านตื่นแล้ว”เมื่ออ้ายอ้ายได้ยินเสียง ถือกะละมังน้ำอุ่นกับเครื่องใช้เข้ามาปรนนิบัติฉู่เชียนหลีนวดขมับ อยู่ในอาการเหม่อลอย แขนขาอ่อนแรง ไม่มีแรงขยับ ดึงผ้าห่มออก ลงจากเตียง สวมรองเท้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1267

    สาวใช้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รีบฝนหมึกอย่างเชื่อฟังมองดูองค์หญิงรีบหยิบพู่กัน เขียนอะไรบางอย่าง ท่าทางที่รีบร้อนนั่น เมื่อก่อนเวลาที่นังเป็นห่วงคุณชายเซิ่น ยังไม่รีบร้อนเช่นนี้เลยองค์หญิงกระโดดสระน้ำ หมดสติไปสามวัน หลังจากฟื้น ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย?นิสัยเปลี่ยนไปน้ำเสียงเปลี่ยนไปแต่เมื่อลองตั้งใจมอง องค์หญิงยังคงเป็นองค์หญิง ยังคงเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยฉู่เชียนหลีเขียนอย่างรวดเร็ว…อ๋องเฉินเป็นอย่างไรบ้าง ข้าอยู่แคว้นหนานยวน…พลางเขียน พลางกล่าวอย่างรีบร้อน “รีบไปหาคน ช่วยข้าส่งจดหมายฉบับนี้ไปให้อ๋องเฉินที่ตงหลิงเจียงหนาน”นางอยากบอกความจริงกับเฟิงเย่เสวียน ต่อให้ตนลืมแล้ว แต่เฟิงเย่เสวียนจำนางได้เขาจะต้องมาหานางแน่นอนไม่ช้าก็เร็วสักวัน พวกเขาครอบครัวสี่คนจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา“อ๋องเฉินแห่งตงหลิงเจียงหนาน?”สาวใช้เกาศีรษะด้วยความสงสัย “องค์หญิง ท่านส่งจดหมายให้อ๋องเฉินทำไม? ท่านรู้จักอ๋องเฉินตั้งแต่เมื่อไร?”ฉู่เชียนหลีรีบกล่าว“อธิบายกับเจ้าไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ของข้ากับอ๋องเฉินไม่ธรรมดา…อ๋องเฉิน? อ๋องเฉินตงหลิง?”เงยหน้าฉับพลัน“ข้ารู้จักอ๋องเฉ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1266

    ทุกคน “...”สีหน้าฮ่องเต้หนานยวนดูไม่ดีนัก เซิ่ยซือเฉินเป็นแค่บัณฑิตคนหนึ่ง เพื่อบัณฑิตคนหนึ่ง ต้องทุ่มสุดตัวเช่นนี้เลย ต้องตื่นเต้นเช่นนี้เลย?ในฐานะองค์หญิง ไม่ควรมองให้ไกลกว่านี้หน่อยหรือ?เพื่อป้องกันจวินลั่วยวนทำร้ายตัวเอง เขาออกคำสั่ง มัดมือและเท้าของนางโดยตรงจวินลั่วยวนขยับไม่ได้แล้วเห็นท่าทางที่จะยิ้มไม่ยิ้มของฉู่เชียนหลี และยังเลิกคิ้วอย่างยั่วยุ นางโมโหจนแทบกัดลิ้นฆ่าตัวตายหลังจากเหตุการณ์ที่วุ่นวาย ไปจากตำหนักองค์หญิงฉู่เชียนหลีกับหลิงอี้ซิงเดินเคียงข้างกันจากไป เมื่ออารมณ์ดี จังหวะการเดินก็ผ่อนคลายเป็นพิเศษ อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเบาๆฮัมไปฮัมมา จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าหลิงอี้ซิงเป็นผู้มีจิตใจเมตตา อุทิศตนให้กับความดีและคุณธรรมหยุดฝีเท้าหันไปถาม “ท่านพี่ ท่านน่าจะเห็นกระมัง ว่าข้าจงใจรังแกจวินลั่วยวน?”หลิงอี้ซิงเดินตามปกติ สายตามองไปข้างหน้า พยักหน้าอย่างเกียจคร้าน ตอบสั้นๆ เพียงคำเดียว“อืม”“ท่านไม่รู้สึกว่าข้านิสัยไม่ดีหรือ?”เขาหยุดเดินหันมามองนาง กล่าวอย่างจริงจัง “ที่เจ้ารังแกนาง นั่นก็ต้องเป็นเพราะนางล่วงเกินเจ้าก่อนแน่นอน ล้วนเป็นความผิดของนาง”เขาไ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1265

    “ยวนเอ๋อร์! ยวนเอ๋อร์!” ฮ่องเต้หนานยวนร้อนใจจนหน้าถอดสี “ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว ยวนเอ๋อร์เสียเลือดมากเกินไป หมดสติไปแล้ว!”จวินลั่วยวนที่ ‘เสียเลือดมากเกินไปจนหมดสติ’ “...”เจ้าน่ะสิที่เสียเลือดมากเกินไปเจ้าเสียเลือดมากเกินไปทั้งครอบครัว!หมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว หลังจากทำแผลให้จวินลั่วยวนเสร็จ ถอนหายใจด้วยความกังวล “สามเดือนแล้ว ในที่สุดเอ็นขององค์หญิงก็เชื่อมต่อกัน คิดไม่ถึงว่าขาดอีกแล้ว ความพยายามในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาล้วนสูญเปล่า” ต่อจากนี้ก็ต้องใช้เวลาอีกสามเดือน เปิดบาดแผล บำรุงเอ็นทุกวันเมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินคำนี้ เบ้าตาแดงฉับพลัน“ล้วนเป็นความผิดของข้า…”นางดึงชายเสื้อของหลิงอี้ซิง กล่าวเสียงสะอึก“ท่านพี่ ข้ามันไม่ดี ต้องเป็นเพราะเรื่องของคุณชายเซิ่นแน่ องค์โกรธข้า ไม่ชอบข้า จึงฟาดมือของตัวเองใส่เสา เพื่อเป็นการแสดงความรังเกียจต่อข้า”“ข้าทำร้ายนาง ฮือๆ…”หลิงอี้ซิงรักน้องสาว ทุกคนในแคว้นหนานยวนรู้เรื่องนี้แล้วฮ่องเต้หนานยวนกล่าวโทษนางได้อย่างไร?กลับกัน เขายังต้องขอร้องหลิงอี้ซิงทักษะการทำนายของหลิงอี้ซิงมีเพียงหนึ่งเดียวในใต้ฟ้า ตลอดหลายปีที่เขานั่งตำแหน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1264

    ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน นางค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียง จวินลั่วยวนนอนหลับแล้ว ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน หน้าซีดซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกฉู่เชียนหลีเหลือบมองแวบหนึ่ง“เหตุใดข้อมือของนางยังมีเลือด?”สามเดือนแล้ว แผลยังไม่หาย?นางกำนัลที่อยู่ข้างๆ ตอบ“หมอหลวงบอกว่า จะใช้ยาพิเศษรักษาเอ็นมือและเท้าที่ขาดขององค์หญิง จำเป็นต้องเปิดแผล ขยับเอ็นที่ขาดไปรวมกันทุกวัน จนกระทั่งเชื่อมต่อกัน”“ฮืม?”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วด้วยความสนใจเช่นนี้ก็เท่ากับว่า จวินลั่วยวนต้องทนกับความเจ็บปวดที่ใช้มีดเปิดปากแผลทุกวันติดต่อกันสามเดือนเต็มๆ น่าสังเวชน่าจะเจ็บมากกระมัง?นางค่อยๆ นั่งลง จับข้อมือของจวินลั่วยวนเบาๆ มองผ้าพันแผลที่ถูกพันห้าหกรอบอย่างครุ่นคิดทันใดนั้นออกแรงกดที่นิ้ว“ซี้ด…!”จวินลั่วยวนเจ็บจนตื่น ลืมตาทันทีฉู่เชียนหลีรีบปล่อยมือ “โอ๊ย…ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจแตะตัวท่าน ดูท่านเจ็บมากเลยนะ ขอโทษจริงๆ”“!”หลินเหยี่ยมาอยู่ในตำหนักของนางได้อย่างไร?นางรังเกียจผู้หญิงคนนี้ที่สุด!อาศัยที่พี่ชายของตัวเองเป็นราชครู แสร้งทำเป็นช่วยเหลือชาวบ้าน ทำแต่ความดีทุกวัน มีแต่คนบอกว่าองค์หญ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1263

    เซิ่นสือเฉิน “?”เหตุใดวันนี้รู้สึกว่าหลิงเหยี่ยแปลกๆ?เมื่อก่อนนางชอบเขามากเลยไม่ใช่หรือ? เวลาที่เขาอ่านหนังสือ นางชอบมาอยู่ข้างๆ ฝนหมึกพัดลมให้เขา เวลาที่เขาเขียนหนังสือ นางชอบแอบที่นอกหน้าต่าง จับจิ้งหรีดเล่น เวลาที่เขางีบหลับ นางมักจะชงชาหิมะชั้นดีมาให้เขานางยังบอกว่าจะแต่งงานกับเขาคนเดียวเหตุใดแค่วันเดียว ก็ปล่อยวางได้แล้ว?“องค์หญิงหลิง ข้าขอโทษ” เขากล่าวอย่างรู้สึกผิดที่จริงเขาก็ชอบหลิงเหยี่ยเช่นกัน แต่องค์หญิงยวนบอกเขาว่าหลิงเหยี่ยนิสัยไม่ดี ชอบรังแกคนรับใช้ หาเรื่องชาวบ้าน ใส่ร้ายโยนความผิดให้ผู้อื่นด้วยวิธีที่น่ารังเกียจ และทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายเขาเป็นคนเรียนหนังสือ นิสัยซื่อตรง ไม่สามารถยอมรับคนที่จิตใจอำมหิตอย่างหลิงเหยี่ยเมื่อเปรียบเทียบกัน เขาชอบจวินลั่วยวนที่ไร้เดียงสา จิตใจดี และร่าเริงมากกว่า“เมื่อก่อนท่านส่งข้าเรียนหนังสือ ช่วยข้าหาอาจารย์ ใช้เส้นสาย ทำให้ข้าสอบติดขุนนาง…บุญคุณส่วนนี้ ข้า ข้าทำได้เพียงตอบแทนท่านชาติหน้าแล้ว…”ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างอ่อนโยน“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”“ได้ยินมาว่าองค์หญิงยวนได้รับบาดเจ็บ พวกเราเข้าวังไปดูนางกันเ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1262

    องค์หญิง?คุณชายเซิ่น?ฉู่เชียนหลีไม่ได้รับความทรงจำใดๆ เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก สับสนและงงงวยเล็กน้อยยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเสียงฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงและเสียงต่อต้านดังมาจากนอกประตู “ใต้เท้าหลิง! ใต้เท้าหลิง ต่อให้ท่านบีบคั้นข้าจนตาย ข้าก็ไม่แต่งงานกับนาง!”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ในใจข้ามีเพียงองค์หญิงยวนเอ๋อร์เท่านั้น!”ยวนเอ๋อร์?องค์หญิง?ฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองไป เห็นชายหนุ่มสวมชุดเพ้าสีขาวและที่ครอบผมหยก กำลังลากผู้ชายที่ท่าทางสุภาพเหมือนคนเรียนหนังสือเข้ามานางตระหนักถึงบางอย่าง รีบดึงสาวใช้ที่อยู่ข้างกายมาถามเบาๆ“ที่นี่คือแคว้นหนานยวน?”สาวใช้ “?”องค์หญิงเป็นอะไรไป?เหตุใดถามคำถามเช่นนี้?“องค์หญิง ท่าน…”“อย่าพูดไร้สาระ ตอบข้า!”สาวใช้ตกใจ รีบกล่าว “ท่านคือหลิงเหยี่ย องค์หญิงต่างแซ่ของแคว้นหนานยวน ใต้เท้าคือมหาราชครูของแคว้นหนวนยวน เป็นพี่ชายแท้ๆ ของท่าน เพราะใต้เท้าชำนาญการทำนาย เคยช่วยแคว้นสามครั้ง สร้างคุณประโยชน์มากมาย ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงต่างแซ่…”คำพูดที่เหลือ ฉู่เชียนหลีมองข้ามโดยตรงสิ่งเดียวที่นางคิดคือ นางถูกส่งมาเป็นองค์หญิงต่างแซ่ อีกท

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status