“เอาผักมานี่!”ลูกกระจ๊อกคนหนึ่งตะคอก ฉู่เชียนหลีรีบเรียกสายตากลับคืนมา ยกตะกร้าผักเดินไปที่ข้างเตา ก้มหน้าก้มตาเป็นลูกมือเงียบ ๆในเวลาเดียวกันก็ได้ยินพวกลูกกระจ๊อกคุยกัน“ปล้นตัวมาได้อีกชุด ได้ข่าวมาว่าเป็นพ่อค้ารวย มีเงินค่อนข้างมาก ยังมีผู้หญิงสาวที่สวยมากอีกคนด้วย...”“ขนาดอ๋องเฉินยังทำอะไรพวกเราไม่ได้ ยังมีใครหน้าไหนกล้าก้าวก่ายเรื่องของภูเขากว่างหนิงของพวกเราอีก?”“ก็ใช่นะสิ!”ฉู่เชียนหลีหูผึ่ง แอบฟังพวกเขาคุยกันเงียบๆ ได้ข้อมูลจากบทสนทนาของพวกเขาไม่น้อยฟังไปฟังมาก็เหลือบเห็นร่างที่ซูบผอมแวบหนึ่งอย่างบังเอิญเป็นหนุ่มน้อยคนหนึ่งเขาสวมเสื้อผ้าบาง ๆ ยืนหั่นผักอยู่ตรงมุมเงียบ ๆ บนร่างกายสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งตัวหนึ่ง ผิวที่เผยให้เห็นมีลักษณะบวมแดง เต็มไปด้วยบาดแผล มุมปากมีสีม่วงปื้นใหญ่ฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วเล็กน้อย อาศัยตอนที่ล้างผัก ขยับเข้าไปใกล้หนุ่มน้อยแบบเนียน ๆ“ข้าช่วยเจ้า...”“อย่าตีข้า!”ทันทีที่เข้าใกล้ หนุ่มน้อยก็ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นราวกับลูกนกที่ตกใจ ป้องกันศีรษะของตนเองเอาไว้ ตกใจไม่น้อย“ไม่ต้องกลัว”เมื่อฉู่เชียนหลีเห็นมือที่ค่อนข้างนุ่มนวลของเขา ท่าท
ทันทีที่พูดจบ ก็ถูกชายหนุ่มดึงหูเอาไว้“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” ชายหนุ่มหรี่ดวงตาดำขลับ น้ำเสียงเบาไหลล้นออกมาจากในลำคอของเขา เจืออันตรายที่เย็นยะเยือกฉู่เชียนหลี “เจ็บ...”ติ่งหูของนางแดงหมดแล้วชายหนุ่มเหลือบตามองแวบหนึ่ง ติ่งหูแดงก่ำ สัมผัสลื่นมือ ทันใดนั้นสายตาก็เคร่งขรึมขึ้น ตอนที่เอ่ยปากกล่าวขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงจริงจังขึ้นไม่น้อย“จะให้ข้าใส่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้”เขาบีบติ่งหูอันนุ่มนิ่มของนางอีกครั้ง ถึงคลายมือออกฉู่เชียนหลีดวงตาเปล่งประกายทันทีชายหนุ่ม “แต่ว่าไม่ใช่วันนี้”“...”—— ‘เชอะ ก็แค่พูดอย่างนั้นแหละ เสแสร้งแกล้งทำ แค่ดูก็รู้ว่าขู่’เฟิงเย่เสวียนเม้มริมฝีปาก “ตอนนี้เป็นเวลาอาหารเช้า แล้วก็เป็นเวลาที่คนพวกนี้เปลี่ยนเวรกัน จำนวนคนค่อนข้างมาก เคลื่อนไหวให้เหมาะสมจะไม่เป็นที่สังเกต”“เพื่อประหยัดเวลา เริ่มดำเนินการตอนนี้เลย”“ได้”นี่เป็นครั้งแรกที่ทำ ‘ภารกิจ’ ที่ชอบธรรม กระตือรือร้น แสวงหาความเจริญก้าวหน้า และยังแฝงไปด้วยอันตรายและตื่นเต้น นับตั้งแต่ฉู่เชียนหลีทะลุมิติมา ก่อนหน้านี้เพียงแค่เห็นในโทรทัศน์ ตอนนี้มาสัมผัสกับสถานการณ์จริง อดไม่ได้ที่จะเกิดอารมณ์อยา
หลังจากฉู่เชียนหลีรับมา ถึงพบว่าไม่รู้ที่อยู่ของพี่หู่ กำแส้สีดำในมือเอาไว้แล้วกระซิบถามเฟิงเย่เสวียน“ในฐานะที่เป็นโจรภูเขา หากไม่รู้แม้กระทั่งที่อยู่ของลูกพี่ จะมีพิรุธหรือไม่?”ชายหนุ่มอื่มเสียงหนัก อารมณ์ชะงักไปเล็กน้อยผ่านไปครู่หนึ่ง ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง“ไปทางด้านนี้ สามสิบเมตร หลังที่สองของทางทิศตะวันออก”“ท่านรู้ได้อย่างไร?”“เมื่อครู่พวกเราเดินวนรอบหนึ่ง การป้องกันรักษาของที่นั่นเข้มงวดที่สุด เวลาไม่คอยท่า ข้าจะไปที่นั่นกับเจ้า”ฉู่เชียนหลีพยักหน้า สาวเท้าเดินไปทางด้านนั้น ยังไม่ลืมที่จะกล่าวชม “ท่านฉลาดจริง ๆ”“...”เห็นได้ชัดว่าเจ้าสะเพร่าแม้แต่ภาพแผนที่เจ้ายังวาดออกมาได้ เพียงแค่นำห้องครัว ห้อง ห้องเก็บของ ที่อาศัยของพวกลูกกระจ๊อกต่าง ๆ ตัดทิ้งทีละหนึ่ง ก็จะเจอที่อยู่คร่าว ๆ ของพี่หู่ได้ไม่ยากมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ชายหนุ่มชี้ ก็เป็นที่อยู่อาศัยของหัวหน้าโจรภูเขาจริง ๆที่นี่ลูกกระจ๊อกค่อนข้างเยอะ แต่ว่าทั้งสองคนมี ‘ป้ายคำสั่งพิเศษ’ จึงราบรื่นมาตลอดทาง เพียงแต่ ทันทีที่เข้าใกล้บ้านไม้หลังหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาทันที“ขอร้องเจ้าปล่อยข้าไป...อ๊
“อึก!”ดวงตาทั้งสองข้างของผู้ชายเบิกกว้าง ฝ่ามือใหญ่อันหยาบกร้านจับหัวไหล่ของฉู่เชียนหลีเอาไว้ พยายามดึงข้ามหัวไหล่แล้วทุ่มลงไปฉู่เชียนหลีใช้ปลายรองเท้าเกี่ยวข้อเท้าของผู้ชายเอาไว้ อาศัยแรงค้ำยันร่างกายของตนเองเอาไว้ แล้วใช้มือข้างที่ว่าง คลำกระดูกสันหลังท่อนที่บริเวณแผ่นหลังของเขาอย่างรวดเร็วจับเอาไว้ แล้วกดลงไป แล้วยกขึ้นอย่างแรงกร๊อบ!“โอ๊ย!”ร่างกายอันกำยำของผู้ชายสั่นเทาอย่างรุนแรง ทันในนั้นก็ล้มลงไปบนพื้นราวกับกระดูกทั้งร่างกายถูกดึงออกไปหมด แล้วหมดสติไปกระดูกชิ้นนี้ของร่างกายมนุษย์เป็นบริเวณที่เชื่อมต่อกับเส้นประสาทมากที่สุด และไวต่อความรู้สึกที่สุด กดบริเวณจุดนี้ กดเบาก็แค่เป็นลม กดแรงก็เป็นอัมพาตฉู่เชียนหลีโยนแส้ยาวทิ้ง วิ่งเข้าไปข้างกายของหญิงสาวคนนั้นอย่างรวดเร็ว“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เมื่อประคองนางขึ้นมา ถึงพบว่าบนแขน แผ่นหลัง หัวไหล่และขาของนาง ราวกับว่าทุกตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ ทั้งหมดเต็มไปด้วยรอยแผลสีม่วงเขียว คราบเลือดเต็มไปทั่วทุกที่โดยเฉพาะคางของนาง คิดไม่ถึงว่าจะถูกบีบแตกทั้งเป็นดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้างของหญิงสาวมีน้ำตาไหลออกมา ไม่กล้าเชื
เป็นชายวัยกลางคนคนนั้น!คิดไม่ถึงว่าเขาไม่ได้หมดสติ?!ในระหว่างที่ฉู่เชียนหลีตื่นตะลึง เมื่อชายหนุ่มตบมือ ลูกกระจ๊อกที่กำลังถืออาวุธจำนวนมากก็พุ่งเข้ามา สายตาเคร่งขรึมขึ้นไม่น้อยทันทีติดกับเข้าแล้ว!“ลูกพี่ เจ้าสองคนนี้มันปะปนเข้ามาได้อย่างไร?”พวกลูกกระจ๊อกแกว่งมีดร่ายกระบอง สีหน้าโหดเหี้ยม “ฆ่าพวกมันเลย ลูกพี่!”“ฆ่าเลย!”เฟิงเย่เสวียนเดินไปที่ด้านหน้าของฉู่เชียนหลี ใช้แผ่นหลังบังนางเอาไว้ฉู่เชียนหลีเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ต่อให้แย่กว่านี้ก็ทำได้แค่เพียงมองไปข้างหน้า จึงฉวยโอกาสนี้ นำเส้นทางลงเขาบอกแก่ท่านลุงชาวนาที่ยอมตายดีกว่ายอมแพ้คนนั้นเมื่อครู่นี้พี่หู่หรี่ดวงตาน่ากลัวคู่นั้นลง สายตาที่ชั่วร้ายมองไปยังทั้งสองคน เอ่ยปากพูดอย่างเยาะเย้ย“คิดไม่ถึงว่าเป็นถึงอ๋องจะยอมปลอมตัวจนอัปลักษณ์เช่นนี้ หากเรียกให้คนอื่นดู เกรงว่าจะขำจนฟันร่วง”คิดไม่ถึงว่าเขามองแวบเดียวก็จำตัวตนของเฟิงเย่เสวียน!โจรภูเขาคนนี้ไม่ธรรมดาเลยฉู่เชียนหลีลุกขึ้น พี่หู่หรี่ดวงตาลงทันที “คิดไม่ถึงว่ายังพาผู้หญิงมาอีกด้วย”ฉู่เชียนหลีชะงักฝีเท้า คนคนนี้สายตาแหลมคมเหลือเกิน!นางเอ่ยปาก “พี่หู่กล่า
ผงพิษสัมผัสโดนตัวของลูกกระจ๊อก เจ็บปวดจนลงไปกลิ้งบนพื้นกรรมนั้นคืนสนอง!สมน้ำหน้า!ฉู่เชียนหลีนำร่มโยนเข้าไปในมือของเฟิงเย่เสวียน แล้วก็หยิบหนังสติ๊กอันหนึ่งออกมา หนีบยาลูกกลอนสีดำเม็ดหนึ่งเอาไว้ เล็งเป้าไปที่พี่หู่เมื่อคลายมือออกฟิ้ว...พี่หู่ยกมือขึ้นคว้าเอาไว้อย่างว่องไว ดวงตาที่น่ากลัวคู่นั้นมองตรงมายังฉู่เชียนหลี “คิดไม่ถึงว่าน้องสาวจะกล้าวางแผนทำร้ายข้า รอให้ข้าจับตัวเจ้าได้ จะทำให้เจ้าได้รู้ว่าอะไรคือมีความสุขสุดขั้ว!”ทันทีที่พูดจบ ฝ่ามือก็ระเบิดทันทีตูม!เป็นระเบิดขนาดจิ๋วลูกหนึ่งทันใดนั้น เนื้อที่ฝ่ามือของเขาเละ นิ้วก้อยถูกแรงระเบิดจนลอยกระเด็น ส่งเสียงร้องอันน่าเวทนาออกมาราวกับหมูที่ถูกเชือด“นังแพศยา!”“โอ๊ย! รีบจับตัวนังแพศยาคนนี้เอาไว้!”แค่นี้ก็รู้สึกเจ็บแล้วงั้นเหรอ? ตอนที่เขาข่มเหงหญิงสาว ตอนที่หญิงสาวอ้อนวอน ทำไมเขาถึงไม่มีความเมตตา?ฉู่เชียนหลีแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชา จับยาสลบแล้วสาดออกไปหากทั้งสองฝ่ายสู้กันอีกครั้งมีฉู่เชียนหลีอยู่ อันตรายจากพิษของพวกโจรภูเขาถูกลดลงถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เฟิงเย่เสวียนมีพื้นที่อันยอดเยี่ยมที่จะแสดงความสามารถแ
ด้านหน้าเป็นโจรภูเขาที่ปิดล้อมจำนวนมาก ส่วนด้านหลังเป็นหน้าผาลึกที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง คนทั้งสองติดอยู่ตรงกลาง จะเดินหน้าหรือถอยหลังก็ยากเปลวไฟลามมาทางนี้แล้ว แม้ไม่ถูกฆ่าตาย ก็ต้องถูกไฟคลอกตายหรือสำลักควันตาย“กลัวหรือไม่?” เฟิงเย่เสวียนถามฉู่เชียนหลีกะทันหันพลันฉู่เชียนหลีอยากร้องไห้ อยากด่าแม่พระเอกในละครทีวีเจ๋งสุดๆ หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ปราบรังโจรภูเขา สร้างผลงานครั้งใหญ่ เป็นที่ประทับใจของผู้คนโกหกโกหกทั้งเพมีเพียงตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ จึงจะสามารถสัมผัสถึงวิธีการที่โหดร้ายของโจรภูเขาเหล่านี้ ความอันตรายของการปราบปรามโจร รวมถึงอาการขาอ่อนในเวลานี้“ข้า ข้า…ข้ายังมีเงินอีกมากมายที่ยังใช้ไม่หมด…”ขาทั้งสองข้างสั่นระริก“มีข้าอยู่ กลัวอะไร?” เสียงที่ทุ้มต่ำของเฟิงเย่เสวียนราวกับสามารถปลอบใจคนในระหว่างความว่างเปล่าทว่าแม้ฉู่เชียนหลีมีคนอยู่เป็นเพื่อน อุ่นใจขึ้นหลายส่วน แต่ขาก็ยังคงสั่นไม่หยุด“หากเจ้าเดินตลาด กินข้าว และนอนเป็นเพื่อนข้า ข้ากลับยินดี แต่เจ้าตายเป็นเพื่อนข้า ข้าไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความสุขเช่นนี้จริงๆ”“เหอะ” เฟิงเย่เสวียนโอบเอวของนาง ดึงนางที่ขาอ่อนแรงเข
ไฟครั้งนี้ลุกไหม้เป็นนานมาก ควันไฟที่หนาทึบปกคลุมทั่วทั้งยอดภูเขาเป็นเวลานานไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร…หน้าผาที่ลับตาและเงียบสงบ บนหินก้อนหนึ่งที่ยื่นออกมา มีเงาสองร่างนอนทับกันอยู่ตรงนั้น“ซี้ด…”เจ็บตรงอกและหน้าท้องเหมือนถูกกระแทกอย่างรุนแรง ปวดอย่างจุกแน่นฉู่เชียนหลีค่อยๆ ฟื้นคืนสติ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้น ยกศีรษะที่หนักหน่วง ปลายเท้าลื่นไปที่ขอบหินโดยไม่ได้ตั้งใจลมเย็นสายหนึ่งพัดเข้าไปในปลายกางเกง“แม่เจ้า!”พลันฉู่เชียนหลีตื่นตัวทันทีใต้เท้า เหวลึกหมื่นจั้งเหนือศีรษะ ผาหินแหลมคมนางติดอยู่ตรงกลาง!“เฟิงเย่เสวียน!” เฟิงเย่เสวียนนอนอยู่ใต้ร่างนาง อยู่ในอาการหมดสติ สีหน้าซีดขาว ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นตอนร่วงลงมา เขาปกป้องนางไว้อย่างดีมาโดยตลอด…หัวใจของฉู่เชียนหลีหนักอึ้งลงหลายส่วนตั้งแต่เมื่อไรกันแน่ พวกเขาพัฒนามาถึงระดับที่สามารถตายแทนกันได้…“เฟิงเย่เสวียน ฟื้นสิ” นางตบหน้าเขา พลางเรียกเขา พลางกวาดมองโดยรอบหน้าผาแห่งนี้ลึกมาก มีต้นหญ้าและต้นไม้ขึ้นตามผาตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย หินที่ยื่นออกมาก้อนนี้ ‘รับ’ พวกเขาไว้โดยบังเอิญไม่เช่นนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะ