เป็นชายวัยกลางคนคนนั้น!คิดไม่ถึงว่าเขาไม่ได้หมดสติ?!ในระหว่างที่ฉู่เชียนหลีตื่นตะลึง เมื่อชายหนุ่มตบมือ ลูกกระจ๊อกที่กำลังถืออาวุธจำนวนมากก็พุ่งเข้ามา สายตาเคร่งขรึมขึ้นไม่น้อยทันทีติดกับเข้าแล้ว!“ลูกพี่ เจ้าสองคนนี้มันปะปนเข้ามาได้อย่างไร?”พวกลูกกระจ๊อกแกว่งมีดร่ายกระบอง สีหน้าโหดเหี้ยม “ฆ่าพวกมันเลย ลูกพี่!”“ฆ่าเลย!”เฟิงเย่เสวียนเดินไปที่ด้านหน้าของฉู่เชียนหลี ใช้แผ่นหลังบังนางเอาไว้ฉู่เชียนหลีเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ต่อให้แย่กว่านี้ก็ทำได้แค่เพียงมองไปข้างหน้า จึงฉวยโอกาสนี้ นำเส้นทางลงเขาบอกแก่ท่านลุงชาวนาที่ยอมตายดีกว่ายอมแพ้คนนั้นเมื่อครู่นี้พี่หู่หรี่ดวงตาน่ากลัวคู่นั้นลง สายตาที่ชั่วร้ายมองไปยังทั้งสองคน เอ่ยปากพูดอย่างเยาะเย้ย“คิดไม่ถึงว่าเป็นถึงอ๋องจะยอมปลอมตัวจนอัปลักษณ์เช่นนี้ หากเรียกให้คนอื่นดู เกรงว่าจะขำจนฟันร่วง”คิดไม่ถึงว่าเขามองแวบเดียวก็จำตัวตนของเฟิงเย่เสวียน!โจรภูเขาคนนี้ไม่ธรรมดาเลยฉู่เชียนหลีลุกขึ้น พี่หู่หรี่ดวงตาลงทันที “คิดไม่ถึงว่ายังพาผู้หญิงมาอีกด้วย”ฉู่เชียนหลีชะงักฝีเท้า คนคนนี้สายตาแหลมคมเหลือเกิน!นางเอ่ยปาก “พี่หู่กล่า
ผงพิษสัมผัสโดนตัวของลูกกระจ๊อก เจ็บปวดจนลงไปกลิ้งบนพื้นกรรมนั้นคืนสนอง!สมน้ำหน้า!ฉู่เชียนหลีนำร่มโยนเข้าไปในมือของเฟิงเย่เสวียน แล้วก็หยิบหนังสติ๊กอันหนึ่งออกมา หนีบยาลูกกลอนสีดำเม็ดหนึ่งเอาไว้ เล็งเป้าไปที่พี่หู่เมื่อคลายมือออกฟิ้ว...พี่หู่ยกมือขึ้นคว้าเอาไว้อย่างว่องไว ดวงตาที่น่ากลัวคู่นั้นมองตรงมายังฉู่เชียนหลี “คิดไม่ถึงว่าน้องสาวจะกล้าวางแผนทำร้ายข้า รอให้ข้าจับตัวเจ้าได้ จะทำให้เจ้าได้รู้ว่าอะไรคือมีความสุขสุดขั้ว!”ทันทีที่พูดจบ ฝ่ามือก็ระเบิดทันทีตูม!เป็นระเบิดขนาดจิ๋วลูกหนึ่งทันใดนั้น เนื้อที่ฝ่ามือของเขาเละ นิ้วก้อยถูกแรงระเบิดจนลอยกระเด็น ส่งเสียงร้องอันน่าเวทนาออกมาราวกับหมูที่ถูกเชือด“นังแพศยา!”“โอ๊ย! รีบจับตัวนังแพศยาคนนี้เอาไว้!”แค่นี้ก็รู้สึกเจ็บแล้วงั้นเหรอ? ตอนที่เขาข่มเหงหญิงสาว ตอนที่หญิงสาวอ้อนวอน ทำไมเขาถึงไม่มีความเมตตา?ฉู่เชียนหลีแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชา จับยาสลบแล้วสาดออกไปหากทั้งสองฝ่ายสู้กันอีกครั้งมีฉู่เชียนหลีอยู่ อันตรายจากพิษของพวกโจรภูเขาถูกลดลงถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เฟิงเย่เสวียนมีพื้นที่อันยอดเยี่ยมที่จะแสดงความสามารถแ
ด้านหน้าเป็นโจรภูเขาที่ปิดล้อมจำนวนมาก ส่วนด้านหลังเป็นหน้าผาลึกที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง คนทั้งสองติดอยู่ตรงกลาง จะเดินหน้าหรือถอยหลังก็ยากเปลวไฟลามมาทางนี้แล้ว แม้ไม่ถูกฆ่าตาย ก็ต้องถูกไฟคลอกตายหรือสำลักควันตาย“กลัวหรือไม่?” เฟิงเย่เสวียนถามฉู่เชียนหลีกะทันหันพลันฉู่เชียนหลีอยากร้องไห้ อยากด่าแม่พระเอกในละครทีวีเจ๋งสุดๆ หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ปราบรังโจรภูเขา สร้างผลงานครั้งใหญ่ เป็นที่ประทับใจของผู้คนโกหกโกหกทั้งเพมีเพียงตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ จึงจะสามารถสัมผัสถึงวิธีการที่โหดร้ายของโจรภูเขาเหล่านี้ ความอันตรายของการปราบปรามโจร รวมถึงอาการขาอ่อนในเวลานี้“ข้า ข้า…ข้ายังมีเงินอีกมากมายที่ยังใช้ไม่หมด…”ขาทั้งสองข้างสั่นระริก“มีข้าอยู่ กลัวอะไร?” เสียงที่ทุ้มต่ำของเฟิงเย่เสวียนราวกับสามารถปลอบใจคนในระหว่างความว่างเปล่าทว่าแม้ฉู่เชียนหลีมีคนอยู่เป็นเพื่อน อุ่นใจขึ้นหลายส่วน แต่ขาก็ยังคงสั่นไม่หยุด“หากเจ้าเดินตลาด กินข้าว และนอนเป็นเพื่อนข้า ข้ากลับยินดี แต่เจ้าตายเป็นเพื่อนข้า ข้าไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความสุขเช่นนี้จริงๆ”“เหอะ” เฟิงเย่เสวียนโอบเอวของนาง ดึงนางที่ขาอ่อนแรงเข
ไฟครั้งนี้ลุกไหม้เป็นนานมาก ควันไฟที่หนาทึบปกคลุมทั่วทั้งยอดภูเขาเป็นเวลานานไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร…หน้าผาที่ลับตาและเงียบสงบ บนหินก้อนหนึ่งที่ยื่นออกมา มีเงาสองร่างนอนทับกันอยู่ตรงนั้น“ซี้ด…”เจ็บตรงอกและหน้าท้องเหมือนถูกกระแทกอย่างรุนแรง ปวดอย่างจุกแน่นฉู่เชียนหลีค่อยๆ ฟื้นคืนสติ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้น ยกศีรษะที่หนักหน่วง ปลายเท้าลื่นไปที่ขอบหินโดยไม่ได้ตั้งใจลมเย็นสายหนึ่งพัดเข้าไปในปลายกางเกง“แม่เจ้า!”พลันฉู่เชียนหลีตื่นตัวทันทีใต้เท้า เหวลึกหมื่นจั้งเหนือศีรษะ ผาหินแหลมคมนางติดอยู่ตรงกลาง!“เฟิงเย่เสวียน!” เฟิงเย่เสวียนนอนอยู่ใต้ร่างนาง อยู่ในอาการหมดสติ สีหน้าซีดขาว ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นตอนร่วงลงมา เขาปกป้องนางไว้อย่างดีมาโดยตลอด…หัวใจของฉู่เชียนหลีหนักอึ้งลงหลายส่วนตั้งแต่เมื่อไรกันแน่ พวกเขาพัฒนามาถึงระดับที่สามารถตายแทนกันได้…“เฟิงเย่เสวียน ฟื้นสิ” นางตบหน้าเขา พลางเรียกเขา พลางกวาดมองโดยรอบหน้าผาแห่งนี้ลึกมาก มีต้นหญ้าและต้นไม้ขึ้นตามผาตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย หินที่ยื่นออกมาก้อนนี้ ‘รับ’ พวกเขาไว้โดยบังเอิญไม่เช่นนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะ
“!”ที่แท้คือความฝัน!นางพูดละเมอแล้ว!ฉู่เชียนหลีรีบลุกขึ้นนั่ง และเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง? ร่างกายเจ็บหรือไม่ มีที่ไหนไม่สบายหรือไม่?”เฟิงเย่เสวียนเม้มริมฝีปากบางเล็กน้อย พยักหน้าอย่างค่อยยังชั่ว “ยังไหว”ตกลงมาจากที่ที่สูงเช่นนั้น กลับโชคดีสามารถรอดมาได้ นับว่าสวรรค์คุ้มครองแล้ว“แค่รู้สึกขมปากเล็กน้อย”“มันเป็นดีงู” ฉู่เชียนหลีเก็บ ‘ศพ’ งูที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา “น้ำดีของงูตัวนี้มีฤทธิ์ห้ามเลือดที่ได้ผลดีมาก สามารถใช้เป็นยา”แต่ที่นี่ไม่มีสมุนไพร ก็เลยหยดเข้าปากของเขาโดยตรงเฟิงเย่เสวียนกวาดมองนางด้วยสายตาที่ซับซ้อนแวบหนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงมองนางอย่างเงียบๆบรรยากาศตกอยู่ในความเงียบงัน เปลวไฟวูบไหวเล็กน้อย สะท้อนลงบนใบหน้าของคนทั้งสอง ช่วยเคลือบแสงที่อ่อนโยนลงบนโครงหน้าหนึ่งชั้น กลิ่นอายของเฟิงเย่เสวียนเหมือนมุมหนึ่งของภูเขาน้ำแข็งที่นุ่มนวล ให้ความรู้สึกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ฉู่เชียนหลีก็อ่อนโยนว่าง่าย เหมือนภรรยาตัวน้อยที่ว่านอนสอนง่ายเหมือนว่านางไม่ได้อัปลักษณ์และยังดูรื่นหูรื่นตาเล็กน้อยทันใดนั้น เขายื่นฝ่ามือใหญ่ออกไป “มานี่”ริม
“...”เชี่ย!คำพูดนี้พูดเหมือนว่านางไปทำเรื่องน่าละอายใจอะไรมา หากไม่ใช่เพราะเขากระโดดหน้าผาสุ่มสี่สุ่มห้า นางจะรู้สึกเสียใจเช่นนี้ได้อย่างไรฉู่เชียนหลียืนตัวตรง เชิดหน้าขึ้นอธิบาย“ถ้ำแห่งนี้มืดมาก มองเห็นทางไม่ชัดเจน ระวังมีพวกงูกับแมลง”ความหมายนอกเหนือคำพูด : ยืนไม่มั่นคงเพราะมืดเกินไป ไม่ได้ลนลานนางที่มีชีวิตอยู่มาถึงสองชาติ มีเรื่องอะไรบ้างที่ไม่เคยพบเจอ? ก็แค่ผู้ชายไม่ใช่หรือ? เป้าหมายในชีวิตของนาง : นอนยี่สิบคนเฟิงเย่เสวียนกวาดมองกองไฟที่ปากถ้ำแวบหนึ่งกองไฟส่องมา สะท้อนพื้นที่ภายในถ้ำให้สว่าง และสะท้อนลงบนใบหน้าของนางด้วย ทำให้มองเห็นรูปโฉมและโครงหน้าของนางอย่างชัดเจน“อืม” เขาพยักหน้า “ถ้ำแห่งนี้มืดเกินไปจริงๆ ให้ข้าเดินสำรวจทางอยู่ข้างหน้า หากมีงูแมลงผีปีศาจ พระชายาจะได้วิ่งหนีง่ายขึ้น”พูดจบ ก็ก้าวเท้ายาวเดินนำหน้าฉู่เชียนหลีกัดริมฝีปาก ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับเขา สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือรีบหนีออกจากที่นี่ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่กลางหน้าผา ผ่านลมผ่านฝนผ่านแดดมานับหมื่นปี หินผาถูกกัดเซาะ กลายเป็นถ้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จะว่าลึกก็ไม่ลึก จะว่าตื้นก็ไม่ตื้นเดิ
ฝ่ามือใหญ่กำกิ่งไม้แน่นขึ้นหลายส่วน งูที่เสียบอยู่ข้างบนสั่นสองที ริมฝีปากบางของเขาเผยอยิ้ม“เหอะๆ พระชายาช่างเลื่อมใสข้ายิ่งนัก”“ท่านอ๋องเป็นสวรรค์ของข้า ข้าไม่เลื่อมใสท่านจะให้เลื่อมใสใครเล่า? ข้าพ่ายแพ้ใต้เสื้อผาวสีหมึกของท่านนานแล้ว เป็นบริวารใต้เสื้อผาวของท่าน”ฉู่เชียนหลีหัวเราะเหอะๆความตายอยู่ตรงหน้า ได้แต่สนองความอยากของปากแล้ว“หืม?” เฟิงเย่เสวียนเลิกคิ้ว “หากจะว่าไป ข้าก็มีสิ่งหนึ่งที่ยังรู้สึกเสียดาย”ฉู่เชียนหลี : ฉันใช้นิ้วเท้าคิดยังคิดได้เลย ความเสียดายของนายก็คือเซียวจือฮว่าไม่ใช่เหรอ?ดอกบัวขาวที่อ้อนแอ้นอรชรดอกนั้น ท่าทางที่อ่อนแอจนแค่ลมพัดก็สามารถไอครึ่งชั่วยาม ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ และแค่สัมผัสก็ล้มลงทันที ไม่ว่าผู้ชายคนใดก็วางไม่ลง!ถุย!นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะห่วงผู้หญิงอีก ผู้ชายเป็นสัตว์ที่คิดแต่เรื่องช่วงล่างของร่างกายจริงๆ!เฟิงเย่เสวียนพลิกงูที่อยู่ในมือ กล่าวอย่างเชื่องช้า“หากสามารถออกไปได้ ข้าจะมอบคืนแต่งงานที่สมบูรณ์แบบให้พระชายา”ฉู่เชียนหลีตะลึงงันเขา…ในเวลาแบบนี้ คนที่เขายังห่วงคือนาง…“แต่งงานจะสี่เดือนแล้ว ข้าทำสงครามอยู่ข้างนอกมาโดยตล
สัมผัสถูกความอุ่นเมื่อยกมือขึ้นมาดู เลือด…ฉู่เชียนหลียิ่งรู้สึกตัวแล้ว เมื่อก้มหน้าดู นางได้สติแบบขนลุกซู่ฉับพลัน เขินอายจนหน้าแดง พลันรีบดึงกางเกงขึ้น จัดแจงเสื้อให้เรียบร้อยบ้าจริง!เมนส์มา!เมื่อครู่นางกำลังทำอะไรกับผู้ชายคนนี้?หากไม่ใช่เพราะเมนส์มาเยี่ยมกะทันหัน นางก็อาจจะ…อืมๆ อ้าๆ โอ๊ยๆเฟิงเย่เสวียนรีบระงับความปรารถนาในร่างกายทันที เขาถอดผาวตัวนอกคลุมลงบนร่างกายของนาง ถือโอกาสดึงคนเข้ามาไว้ในอ้อมแขน และเอื้อมฝ่ามือข้างหนึ่งออกไปหยิบเนื้องูที่ย่างเสร็จแล้วลอกเปลือกที่ไหม้จนเกรียม เผยให้เห็นเนื้ออันละเอียดอ่อนที่มีไอร้อนลอยออกมาเอากระดูกออก หยิบมาหนึ่งชิ้น “อ้าปาก”“ข้ากินเอง…อื้อ”เพิ่งอ้าปาก เนื้องูหนึ่งชิ้นถูกป้อนเข้าปาก“ข้ากิน…” ฉู่เชียนหลีเพิ่งคิดจะลุกขึ้น ก็ถูกข้อพับแขนที่มีพละกำลังของเฟิงเย่เสวียนดึงกลับไป ฝ่ามือนั้นเหมือนเหล็กกล้า กอดนางไว้ในอ้อมแขนแน่นกลิ่นบนตัวเขาหอมมาก เป็นกลิ่นปอเหอเย็นๆอ้อมแขนของเฟิงเย่เสวียนอบอุ่นมาก อุณหภูมิร่างกายของเขาส่งไปยังร่างกายของนางผ่านเสื้อบางๆเขาใส่ใจรายละเอียดมาก ตอนป้อนนาง แม้แต่กระดูกก็ถูกเอาออกเกลี้ยง และถึงขั