Share

บทที่ 17

“ใช้น้ำล้างอย่างเดียวล้างไม่ออกหรอก กลับมา”

ลู่เจาหลิงเรียกให้ชิงอินหยุด

ชิงอินจึงทำได้เพียงเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง

“ยื่นมือออกมา”

ชิงอินยื่นมือขวาไปตรงหน้านาง และมองนางอย่างไม่เข้าใจ

เห็นมือของลู่เจาหลิงคลุมอยู่บนมือของนางเบา ๆ

ทันใดนั้นชิงอินก็รู้สึกว่ามือของตัวเองเย็นเล็กน้อย

ลู่เจาหลิงเคลื่อนมือออก และสะบัดมันเบา ๆ

ชิงอินมองมือของตน รูม่านตาก็หดตัวลง เพราะในเวลานี้ นางเห็นชั้นฝุ่นสีดำเทาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือและนิ้วมือของตนเองอย่างชัดเจน

ราวกับบนมือที่เปื้อนเถ้าถ่านจากหม้อก็มิปาน

แต่ก่อนหน้านี้มือของนางล้างสะอาดแล้วชัด ๆ!

แถมนางยังเบิกตาโพลงและเห็นชั้นสีเทาดำนี้ซึมออกมาจากผิว!

“เอาอ้ายเฉ่ากับใบทับทิมไปแช่น้ำ และล้างสามรอบ” ลู่เจาหลิงเอ่ย

ชิงอินรีบหมุนกายและวิ่งออกไปในทันที

เป็นเพราะรีบมาก จนตอนที่ออกไปเกือบจะชนเข้ากับชิงหลิงแล้ว

“ชิงอิน เหตุใดถึงบุ่มบ่ามเยี่ยงนี้เล่า?” ชิงหลิงตกใจ พวกนางได้รับการสั่งสอนมาจากชิ่งหมัวมัว และไม่เคยบุ่มบ่ามเยี่ยงนี้มาก่อน เกิดอะไรขึ้นกับชิงอิน?

นางเห็นมือที่ชิงอินยกขึ้นอีกครั้ง “เหตุใดมือของเข้าถึงสกปรกเยี่ยงนี้?”

น้ำเสียงของชิงอินสั่นเล็กน้อย “ข้า...ข้าไปล้างมือก่อนนะ!”

นางยกมือขึ้น หากตอนนี้นางไม่ล้างมือให้สะอาด ตัวนางเองคงทำอะไรไม่ได้แล้ว!

ชิงหลิงเห็นนางวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน และเดินเข้ามาด้วยความงุนงง

“คุณหนูลู่เจ้าคะ ชิงอินนาง...”

“แค่มือสกปรกเท่านั้นเอง” ลู่เจาหลิงเอนตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง “มีอะไรหรือ?”

“ข้าน้อยเตรียมน้ำร้อนไว้เรียบร้อยแล้ว คุณหนูลู่ต้องการจะอาบเลยหรือไม่เจ้าคะ?”

ลู่เจาหลิงรีบลุกขึ้นนั่งในทันที

“ต้องการอยู่แล้ว”

ชิงหลิงพยุงนางไปอาบน้ำ

ส่วนชิงอินไปที่ห้องครัวเพื่อจะขออ้ายเฉ่าและใบทับทิมกลับเจอเข้ากับปัญหา

สาวใช้ในครัวกรอกตาใส่นางติดต่อกันอยู่หลายครั้ง

“ตอนนี้ใครมีเวลามาหาของเล่นนี่ให้เจ้ากัน? พวกข้ายุ่งจะตาย!”

เมื่อหันหน้าไป นางก็หัวเราะเยาะพลางเอ่ยกับคนที่อยู่ด้านข้าง “ไม่รู้ว่าทาสป่าสองนางนี้มาจากที่ใด ตนเองเป็นข้ารับใช้เหมือนกัน และยังจะวิ่งมาอวดดีต่อหน้าพวกเราอีก เมื่อกี้คนนั้นเพิ่งจะมาต้มน้ำร้อนหม้อใหญ่ไป คนนี้ก็มาหาใบทับทิมอะไรนั่นอีก”

“จริงด้วย พวกเรารับใช้เจ้านายที่แท้จริงก็ยุ่งจะแย่ และยังจะต้องมาทำงานให้พวกนางสองคนนี้อีก ถุย”

ชิงอินสีหน้าดูเย็นชาในทันที

ตอนชิงเฟิงส่งพวกนางเข้ามา เขาชี้ทางให้พวกนางตรงไปยังหอทิงหน่วนเลย ส่วนพ่อบ้านของจวนสกุลลู่รู้แค่ว่าชิงเฟิงเป็นองค์รักษ์ของจิ้นอ๋อง แต่สาวใช้สองนางนี้ เขาก็ไม่ค่อยรู้เท่าใดนัก ว่าจิ้นอ๋องส่งมาสอดส่องลู่เจาหลิงหรือว่ามาดูแลนางชั่วคราวกันแน่

ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้เอ่ยอะไรกับเหล่าคนใช้เท่าใดนัก เพียงแค่บอกว่ามีสาวใช้จากด้านนอกมาที่หอทิงหน่วนสองนางเท่านั้น

คนที่อยู่หลังครัวพวกนี้ จึงไม่รู้จริง ๆ ว่าพวกนางเป็นคนที่จิ้นอ๋องส่งมา

“พวกเจ้าก็บอกข้ามาสิว่าไปเด็ดใบทับทิมได้จากที่ใด ข้าจะไปเด็ดเอง” ชิงอินเอ่ย

ผู้คนในเมืองหลวงต้าโจวนิยมปลูกทับทิม เพราะทับทิมมีความหมายว่ายิ่งมีบุตรมากยิ่งมีความสุขมาก โดยเฉพาะบ้านที่มีฐานะดี บ้านของขุนนางหรือผู้ที่มีอำนาจ ยิ่งไม่ขาดแคลนเลย

ส่วนสิ่งของอย่างอ้ายเฉ่านี้ ปกติในจวนมักจะมีเตรียมไว้บ้าง เพราะในหน้าร้อนทุกคนจะเอามาสุมไฟเพื่อไล่ยุง หากในจวนมีฮูหยินและผู้หญิงที่เป็นหวัดก็จะสามารถนำมาต้มน้ำเช็ดตัวได้

ดังนั้นของทั้งสองอย่างนี้จึงหาได้ไม่ยาก

“จวนออกจะใหญ่ขนาดนี้ ก็ไปหาเอาเองสิ หรือว่ายังต้องการให้พวกข้าวางงานที่อยู่ในมือและไปเด็ดให้เจ้ากัน?” สาวใช้เอ่ย

ฮูหยินและคุณหนูเห็นได้ชัดว่าไม่ชอบคุณหนูรอง คนที่มาจากนอกเมืองหลวงนั่น จะมีสถานะอะไรได้? ยิ่งไปกว่านั้นสองนางนี้แค่มาปรนนิบัตินางชั่วคราวเท่านั้น

“ใบทับทิมข้าเด็ดเองก็ได้ งั้นอ้ายเฉ่าอยู่ที่ใดเล่า?” ชิงอินระงับความโกรธเอาไว้

ที่นี่คือจวนสกุลลู่

ความจริงพวกนางเองก็ยังไม่รู้ ว่าท่านอ๋องให้พวกนางติดตามลู่เจาหลิงตลอดไปเลย หรือว่าแค่ดูแลนางช่วงที่นางได้รับบาดเจ็บนี้เท่านั้น และพอถึงตอนนั้นก็ยังจะสามารถกลับจวนจิ้นอ๋องได้

“อ้ายเฉามีกลิ่นไม่ใช่หรือ? เจ้าลองดมดู กลิ่นอยู่ที่ใดอ้ายเฉ่าก็อยู่ที่นั่น” สาวใช้ผลักนางออก “หลีกไป ฮูหยินและคุณหนูของพวกข้าต้องการจะกินรังนก อย่าทำให้เสียเรื่อง!”

ได้ยินมาว่าคุณหนูใหญ่ถูกคุณหนูรองตบไปหนึ่งที โกรธจนร้องไห้ กินอะไรไม่ลงเลยทั้งวัน น่าสงสารเสียจริง

ชิงอินกัดฟันกรอด

นางหมุนกายไปที่สวนดอกไม้ ไม่นานก็เจอต้นทับทิม นางจึงเด็ดกิ่งและใบมานิดหน่อย ส่วนอ้ายเฉ่านางหาเอาก็ได้แล้ว!

ด้วยประสบการณ์ ปกติจะอยู่ในห้องเก็บอุปกรณ์ที่ติดกับห้องครัว

เมื่อนางพบอ้ายเฉ่าแล้ว ก็กลับมาที่หอทิงหน่วน ใช้ทั้งสองอย่างแช่น้ำ ล้างไปรอบหนึ่งแล้ว ชั้นสีดำเทานั่นก็ยังล้างไม่หมด

ต้องล้างสามรอบถึงจะถือว่าล้างสะอาดแล้ว

ชิงอินตกใจมาก ต้องล้างสามรอบจริง ๆ ด้วย!

ก่อนหน้านี้นางลองใช้น้ำสะอาดล้างหนึ่งรอบแล้ว ก็ยังล้างไม่ออก

เมื่อรอให้ลู่เจาหลิงอาบน้ำเสร็จ ชิงอินก็เข้าไปช่วยเช็ดผม อารมณ์ซับซ้อนมาก หลายครั้งแล้วที่ปากขยับแต่ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรดี

บาดแผลที่ด้านหลังศีรษะของนาง ตอนที่นางเช็ดผมก็พบว่าดีขึ้นมาแล้ว

เดิมทีพวกนางคิดว่านางบาดเจ็บหนักขนาดนี้ คงไม่สะดวกสระผม แต่ลู่เจาหลิงยืนกราน ชิงหลิงจึงทำได้เพียงสระผมให้นางด้วยความระมัดระวังจนสะอาดเท่านั้น

อีกด้านนั้น จิ้นอ๋องนำป้ายวิญญาณของไท่ซ่างหวงไปวางไว้บนโต๊ะบูชาในวิหารบรรพบุรุษ

เขาคุกเข่าลงและกระแทกศีรษะ มองไปที่ป้ายวิญญาณนั่น ก็นึกถึงลู่เจาหลิงอีกครั้ง เขาทนไม่ได้จจึงเอ่ยเสียงเบาออกมา

“เสด็จพ่อ แม่นางที่ท่านเห็นเมื่อครั้งก่อนชื่อว่าลู่เจาหลิง ลูกต้องการหมั้นหมายกับนาง ท่านเห็นด้วยใช่หรือไม่พะยะค่ะ?”

เมื่อสิ้นสุดเสียง ก็เห็นป้ายวิญญาณชิ้นนั่นจู่ ๆ มีเสียงดังกุกกัก และตกลงมา

จิ้นอ๋องตกตะลึง

ในนี้ไม่มีลมนี่

เขาลุกขึ้นยืนและประคองป้ายวิญญาณให้เข้าที่

“ป้ายวิญญาณของท่านนับว่าลูกสะใภ้ช่วยเขียนให้ และวางมันไว้ที่นี่ ซึ่งใกล้กับพระราชวังและจวนจิ้นอ๋องมาก ท่านดีใจหรือไม่พะยะค่ะ?”

กุกกัก!

ป้ายวิญญาณชิ้นนั้นตกลงมาอีกครั้ง

จิ้นอ๋องขมวดคิ้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เขาให้คนสร้างฐานไว้แล้ว และตอนที่วางมันลงบนโต๊ะบูชาก็มั่นคงมากอย่างเห็นได้ชัด!

เขาประคองป้ายวิญญาณขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้ยังลองขยับดู มันมั่นคงจริง ๆ

“ท่านอยากให้ข้าแต่งงานกับบุตรสาวของเสนาบดีเสิ่น แต่ข้าไม่ได้สนใจแม่นางนั่น ไม่แต่งแล้ว ร่างกายนี้ของข้าท่านก็รู้ดี แค่เกรงว่าจะไม่มีทายาท ดังนั้นจะสนมหรือภรรยารองอะไรก็ช่าง ข้าไม่อยากได้ทั้งนั้น”

เขายังไม่ทันได้เอ่ยจบเลย ครั้งที่สาม กุกกัก!

ป้ายวิญญาณนั่นตกลงมาอีกครั้ง และกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง

จิ้นอ๋องชาไปทั้งตัวแล้ว

เขาประคองป้ายวิญญาณขึ้นมา ครั้งนี้ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก หมุนกายและเดินออกไปจากวิหารบรรพบุรุษแล้ว

ภายหลัง ท่ามกลางกลิ่นหอมของธูป ป้ายวิญญาณของไท่ซ่างหวงก็อยู่บนนั้นอย่างเงียบสงบ

จวนชิงฝูโหว

ซื่อจื่อจูหมิงเฮ่าเพิ่งฟื้นขึ้นมาก็ตะโกนร้องเสียงดัง

“นางชั้นต่ำนั่น! กล้าดีอย่างไรมาตีซื่อจื่ออย่างข้า โอ๊ย ๆ ๆ เจ็บ!”

ชิงฝูโหวกับฮูหยินล้วนอยู่หน้าเตียง และมองดูเขาด้วยความสงสาร

“ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าขยับ เพิ่งใส่ยาไปนะ อย่าถูมันสิ”

“คนชั้นต่ำน้อยนั่น จับนางกลับมาให้ข้า ข้ายากจะเฆี่ยนนางร้อยแปดสิบแส้ เปลืองผ้านางออกแล้วเฆี่ยน!”

จูหมิงเฮ่ายิ่งร้องก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว เจ็บจนเขาร้องออกมา แต่ภายในใจกลับเกลียดชังลู่เจาหลิงแล้ว

“ยังมีจิ้นอ๋อง!” เขาหันหน้ามองชิงฝูโหว “ท่านพ่อ ท่านช่วยพาข้าเข้าวังไปหาไทเฮาที บอกนางว่าข้าถูกจิ้นอ๋องรังแก และขอให้นางช่วยเป็นผู้ตัดสินใจให้ข้า!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status