Share

บทที่ 16

Author: อันชิงซิน
last update Last Updated: 2024-10-29 11:49:10
ชิงอินและชิงหลินฝึกฝนเป็นเวลาสิบปี และรอคอยท่านอ๋องกลับมาอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อจะได้ปรนนิบัติอยู่ข้างกายเขา ผลสุดท้ายเมื่อจิ้นอ๋องกลับมา พวกนางพบหน้ากันแล้ว หลังจากนั้นก็ถูกส่งไปยังจวนสกุลลู่

หากจะบอกว่าในใจพวกนางไม่ผิดหวังเลยนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้

แต่พวกนางได้รับการสั่งสอนจากชิ่งหมัวมัว ในเมื่อมาแล้วก็ต้องทำงานให้ดี ดังนั้นเรื่องการดูแลลู่เจาหลิง พวกนางทั้งสองจึงไม่คิดจะลักไก่

ชิงหลิงไปเตรียมน้ำร้อนให้ลู่เจาหลิงอาบน้ำ

ส่วนชิงอินเป็นคนยกน้ำแกงบำรุงร่างกายเข้ามา และตอนที่ป้อนน้ำแกงให้ลู่เจาหลิงดื่มก็ระมัดระวังเช่นกัน

นางเอาแต่คิดอยู่ตลอด ว่าลู่เจาหลิงเข้ากับคนอื่นได้ง่าย หรือจะทรมานคนใช้อย่างพวกนางสองคนหรือไม่ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ ลู่เจาหลิงจะถามคำถามเช่นนี้กับนาง

ช่วงนี้เจ้าฆ่าคนหรือ?

“อย่ากังวลไป” ลู่เจาหลิงเอ่ย

หลังชิงอินวางถ้วยน้ำแกงเรียบร้อย และก็ยืนอยู่หน้าเตียง “คุณหนูลู่คิดจะลงโทษชิงอินหรือเจ้าคะ?”

ยอมรับแล้วหรือ?

ลู่เจาหลิงเลิกคิ้วขึ้น และดูเหมือนว่าสาวใช้ที่จวนจิ้นอ๋องส่งมา จะยังมีความหยิ่งเล็กน้อย...

ไม่คู่ควรแก่การโกหก

หรือจะบอกว่า การยอมรับอยู่ตรงหน้านางก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ?

“เรื่องที่เจ้าฆ่าคน จวนจิ้นอ๋องคงไม่รู้กระมัง?” ลู่เจาหลิงถามอีกครั้ง

ชิงอินมองนางด้วยความตกใจอีกครั้ง “ท่านรู้ได้อย่างไรเจ้าคะ?”

ถูกต้องแล้ว เรื่องนี้ ชิ่งหมัวมัวไม่รู้ คนในจวนอ๋องก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน และมีแค่ชิงหลิงเท่านั้นที่รู้

ในระยะนี้นางเอาแต่สับสนว่าบอกชิ่งหมัวมัวดีหรือไม่ แต่ก็กลัวว่าหลังจากชิ่งหมัวมัวรู้ จะไม่อนุญาตให้นางปรนนิบัติท่านอ๋องแล้ว

“ดูออกน่ะ” ลู่เจาหลิงเอ่ย

ดูออกได้เยี่ยงไรกัน?

ได้ยินมาว่าลู่เจาหลิงเพิ่งเข้าเมืองหลังกลับมาจากนอกเมือง...

ชิงอินมองลู่เจาหลิงไม่ออกเลย

“เดิมข้าไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเจ้า แต่ว่า มือของเจ้าล้างไม่สะอาด และมันส่งผลกระทบมายังข้าแล้ว” ลู่เจาหลิงมองไปที่มือขวาของนาง

จิ๊ เมื่อกี้นางหิวมากเกินไปหน่อย ขอดื่มน้ำแกงก่อนค่อยเอ่ยต่อแล้วกัน

แต่ถ้าชิงอินใช้มือนี้ยกอาหารให้นางกิน นางดื่ม แถมอาจจะหวีผมหรือพับเสื้อผ้าชั้นในให้นาง นางก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

เมื่อได้ยินคำที่นางเอ่ย ชิงอินก็ยกมือของตัวเองขึ้น แต่จะมองอย่างไรก็ไม่เห็นมีปัญหาตรงไหนเลย

นางกับชิงหลินเป็นคนที่ชิ่งหมัวมัวเลือกและทั้งสั่งสอนมาเป็นอย่างดี พวกนางคิดว่าหลังจากโตไปแล้วจะต้องเป็นคนในห้องของท่านอ๋อง ร่างกายจึงต้องสะอาดงดงาม และไร้ตำหนิ

มือของนางเรียวยาว ขาวราวกับต้นหอม และสะอาดเรียบร้อย จะบอกว่าไม่สะอาดได้อย่างไร?

ชิงอินมองไปทางลู่เจาหลิงด้วยความสงสัย

ลู่เจาหลิงคงไม่ได้มีอาการป่วยทางจิตอะไรหรอกกระมัง?

“คนที่เจ้าฆ่าคือคนที่ชั่วร้ายมาก และตอนที่ฆ่าเขา เขากำลังทำเรื่องเลว ๆ อยู่ใช่หรือไม่?” ลู่เจาหลิงเอ่ยอีกครั้ง

ชิงอินเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ทำไมถึงรู้แม้แต่เรื่องนี้เล่า?

ในคืนวันนั้น นางกลับจวนหลังจากทำธุระ เดินผ่านป่าเล็ก ๆ และเห็นผู้ชายแบกสาวน้อยนางหนึ่งเข้ามาอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ

ชิงอินลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ก็ตามไป

หลังจากชายคนนั้นโยนสาวน้อยลงบนพื้น ชิงอินถึงได้เห็นว่าสาวน้อยดู ๆ ไปแล้วอายุน่าจะไม่เกินสิบเอ็ดสิบสองปี

นางถูกเศษผ้ายัดปากไว้ และหลังจากชายคนนนั้นดึงมันออก สาวน้อยสะอื้นสักพักก็เริ่มร้องไห้ออกมา

“พี่ชาย ท่านปล่อยข้าไปเถอะ ต่อไปข้าจะเชื่อฟังท่านอย่างแน่นอน เหรียญทองแดงของท่านพ่อข้าจะซื้อเหล้าให้ท่านดื่มทั้งหมดเลย...”

“ใครสนใจเหรียญทองแดงไม่กี่เหรียญของเจ้ากัน? ข้าอายุยี่สิบกว่าปีแล้วยังหาเมียไม่ได้ ต้องฟังเสียงท่านพ่อท่านแม่ทำเรื่องวุ่นวายกันอยู่ที่ห้องข้าง ๆ ทุกวันอีก และคนแก่ทั้งสองนั้นไม่อายเลย ทำเอาข้าหงุดหงิดจนทนไม่ไหวแล้ว!”

“พี่ชาย กรี๊ด!” สาวน้อยร้องไห้อย่างน่าสังเวช แต่ก็ดูออกว่าพี่ชายของตัวเองผิดปกติ และคิดไม่ถึงเลยว่าเขากำลังปลดเข็มขัดออก!

นางร้องไห้ไปด้วย ถอยไปด้านหลังไปด้วย คิดจะหนี แต่ก็ไม่มีแรง และท่าทางดูตื่นตระหนกทั้งหวาดกลัวด้วย

“เจ้าป่วยไปครึ่งเดือน และใช้เงินที่อยู่ในบ้านไปซื้อยาจนหมด ทำให้ข้าไม่มีเงินไปหาสาว ๆ ที่หออี้หง ดังนั้นต่อไปก็ใช้เจ้าระบายความใคร่ เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลออกนอกด้วย...”

ชายคนนั้นถอดเสื้อผ้าออก ยื่นมือออกไปจับข้อเท้าของสาวน้อยไว้ จากนั้นก็ดึงตัวนางเข้าหาตนเองอย่างแรง

สาวน้อยกรีดร้องเสียงหลง

ชิงอินชาไปทั้งตัวแล้ว!

นางไม่เคยคิดเลยว่าบนโลกจะยังมีคนที่น่าขยะแขยงเยี่ยงนี้อยู่ นี่เป็นพี่น้องกัน! และพี่ชายแท้ ๆ คนนี้ ถึงกับคิดจะขืนใจน้องสาวตนเอง!

แถมสาวน้อยคนนี้ยังอายุแค่สิบเอ็ดสิบสองปีเท่านั้น!

ชิงอินขอบตาแดง เพลิงโทสะแทบจะแผดเผาสติของนาง ภายในโสตก็ได้ยินสาวน้อยคนนั้นกรีดร้องเสียงหลงอย่างหวาดกลัวและสิ้นหวัง นางจึงพุ่งเข้าไปโดยไม่ทันได้คิดอะไร และเตะชายคนนั้นจนกระเด็น

สุดท้ายด้านนั้นมีต้นกล้าที่ไม่รู้ว่าหักกลางลำได้เยี่ยงไรอยู่พอดี ตรงรอยหักแหลมยาว และตอนที่ชายคนนั้นหกล้มลงไปก็กระแทกเข้าไปอย่างจัง จนถูกแทงทะลุหัวใจ

นอกป่าละเมาะมีคนตะโกนเรียกเหอยา กำลังเดินเข้ามาใกล้ ชิงอินจึงสงบสติลงในทันที และก็รีบหลบตัวก่อน

หลังจากนั้นนางเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นสาวน้อย ก็ชะงักไปเล็กน้อย และกอดนางพลางร้องไห้ออกมาเสียงดัง

นั่นคงจะเป็นมารดาของสาวน้อยคนนั้น

ชิงอินเห็นว่าหญิงสาวน่าจะดีต่อสาวน้อย ก็เลยไม่ได้ปรากฏตัว และหญิงสาวคนนั้นสายตาไม่ดี ตอนนั้นท้องฟ้าก็มืดแล้ว นางถึงกับมองไม่เห็นผู้ชายที่อยู่ไม่ไกลนัก เมื่อเห็นบุตรสาวเหมือนจะตกใจจนขวัญหาย จึงแบกนางวิ่งหนีไป

ตอนนั้นหลังจากชิงอินเตะผู้ชายคนนั้นก็สนใจมองไปที่สาวน้อยเท่านั้น หลังจากพวกนางสองแม่ลูกจากไป นางถึงไปดูผู้ชายคนนั้น ถึงได้ตกใจที่เห็นเขาแขวนอยู่บนต้นไม้ที่หัก และเสียชีวิตไปแล้ว

ตอนนี้นางนึกขึ้นได้ ว่าตอนนั้นนางใช้มือขวาดึงผู้ชายคนนั้น และคิดจะลากเขาออกมาจากต้นไม้ ด้วยเหตุนี้บนมือจึงเปื้อนเลือดของเขา

แต่เห็นได้ชัดว่านางล้างสะอาดแล้ว

อยู่ด้านนอกล้างไปแล้วหนึ่งรอบ หลังจากกลับจวนสกุลลู่ยังใช้หญ้าหอมล้างอีกหลาย ๆ รอบ จนสะอาดเอี่ยมแล้ว

แถมนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วด้วย

ชิงอินมองลู่เจาหลิงด้วยความตกใจ

แม้ลู่เจาหลิงจะเอ่ยถูกต้องแล้ว แต่นางก็ยังคงไม่เชื่อว่ามือของตัวเองจะสกปรกอยู่

“คุณหนูลู่ มือของข้าล้างสะอาดแล้วนะเจ้าคะ”

ลู่เจาหลิงมองมือของนาง และเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นเจ้ารู้สึกหรือไม่ว่า มือมักจะมีกลิ่น แถมยังเรียกแมลงอีก?”

เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออกมา ใบหน้าของชิงอินก็เปลี่ยนไปในทันที

มือของนางล้างสะอาดแล้ว แต่ตอนที่ทาเครื่องประทินผิว นางมักจะได้กลิ่นคาวที่มีก็เหมือนไม่มีอยู่จริง ๆ

ยังมีช่วงนอนหลับในตอนกลางคืน มีสองครั้งที่จู่ ๆ นิ้วมือของนางก็เกิดอาการคัน พอตื่นขึ้นมาจุดตะเกียง คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีแมลงตัวเล็ก ๆ ไต่อยู่บนนิ้วมือของตนเอง

นางนอนกับชิงหลิง คืนนั้นนางทั้งสองเปลี่ยนผ้านนวม และทำความสะอาดห้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ยังหาแมลงชนิดอื่นไม่เจอ

ชิงอินร้องออกมาไร้เสียง “หรือว่านี้จะเป็นผลกรรมที่ข้าฆ่าคน?”

“ไม่ใช่” ลู่เจาหลิงส่ายหน้า “คนผู้นั้นสมควรตาย แค่เขาเป็นคนที่ชั่วร้ายมาก ในขณะที่กำลังทำเรื่องไม่ดีแล้วถูกเจ้าขัดจังหวะ ความอาฆาตจึงระเบิดออกมา และในตอนนั้นเจ้าก็เปื้อนเลือดของเขาด้วย ดังนั้นนิ้วมือของเจ้าถึงได้สกปรก”

ชิงอินมองมือของตัวเองอีกครั้ง

“แต่ข้าไม่เห็นอะไรเลยนะเจ้าคะ”

“เจ้าอยากเห็นหรือไม่?” ลู่เจาหลิงเอียงศีรษะและคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตอนนี้ข้าอ่อนแอ จึงทำให้เจ้าหูตาสว่างไม่ได้ แต่มือของเจ้าต้องล้างให้สะอาด มิเช่นนั้นก็กลับจวนจิ้นอ๋องไปเสีย”

นางไม่ได้รังเกียจชิงอิน แต่รังเกียจความสกปรกที่อยู่บนมือนี่ต่างหาก

“เช่นนั้นข้าจะไปล้างอีกหลาย ๆ รอบนะเจ้าคะ” ชิงอินเม้มริมฝีปาก หมุนตัวและเดินจากไป

Related chapters

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 17

    “ใช้น้ำล้างอย่างเดียวล้างไม่ออกหรอก กลับมา”ลู่เจาหลิงเรียกให้ชิงอินหยุดชิงอินจึงทำได้เพียงเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง“ยื่นมือออกมา”ชิงอินยื่นมือขวาไปตรงหน้านาง และมองนางอย่างไม่เข้าใจเห็นมือของลู่เจาหลิงคลุมอยู่บนมือของนางเบา ๆ ทันใดนั้นชิงอินก็รู้สึกว่ามือของตัวเองเย็นเล็กน้อยลู่เจาหลิงเคลื่อนมือออก และสะบัดมันเบา ๆ ชิงอินมองมือของตน รูม่านตาก็หดตัวลง เพราะในเวลานี้ นางเห็นชั้นฝุ่นสีดำเทาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือและนิ้วมือของตนเองอย่างชัดเจนราวกับบนมือที่เปื้อนเถ้าถ่านจากหม้อก็มิปานแต่ก่อนหน้านี้มือของนางล้างสะอาดแล้วชัด ๆ!แถมนางยังเบิกตาโพลงและเห็นชั้นสีเทาดำนี้ซึมออกมาจากผิว!“เอาอ้ายเฉ่ากับใบทับทิมไปแช่น้ำ และล้างสามรอบ” ลู่เจาหลิงเอ่ยชิงอินรีบหมุนกายและวิ่งออกไปในทันทีเป็นเพราะรีบมาก จนตอนที่ออกไปเกือบจะชนเข้ากับชิงหลิงแล้ว“ชิงอิน เหตุใดถึงบุ่มบ่ามเยี่ยงนี้เล่า?” ชิงหลิงตกใจ พวกนางได้รับการสั่งสอนมาจากชิ่งหมัวมัว และไม่เคยบุ่มบ่ามเยี่ยงนี้มาก่อน เกิดอะไรขึ้นกับชิงอิน?นางเห็นมือที่ชิงอินยกขึ้นอีกครั้ง “เหตุใดมือของเข้าถึงสกปรกเยี่ยงนี้?”น้ำเสียงของชิงอินส

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 18

    ไทเฮาทรงเอ็นดูเขามาแต่ไหนแต่ไร!“จิ้นอ๋องรังแกคนอื่นมากเกินไปแล้ว คนชั้นต่ำน้อยนั่นเป็นอนุของข้า และคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแย่งไปแล้ว!”จูหมิงเฮ่ายิ่งคิดก็ยิ่งน่าโมโห เป็นถึงท่านอ๋องแท้ ๆ เหตุใดถึงได้แย่งผู้หญิงกับซื่อจื่อจวนโหวอย่างเขากัน?ชิงฝูโหวฮูหยินสงสารจนน้ำตาไหล เมื่อได้ยินก็เอ่ยโดยไม่คิดอะไร “ท่านโหว ดูสิเจ้าคะว่าเฮ่าเอ๋อร์ของพวกเราถูกรังแกจนมีสภาพเป็นเยี่ยงไรแล้ว? ท่านในฐานะที่เป็นพ่อหากไม่หนุนหลังเขา พวกเราแม่ลูกจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?”แม้ชิงฝูโหวจะสงสารบุตรชาย แต่ก็ยังคงสับสนอยู่“หมิงเฮ่าไปแย่งผู้หญิงกลางถนนมาเป็นอนุ แบบนี้จะมีหน้ามีตาได้เยี่ยงไร? ยังหนุ่มอยู่แท้ ๆ แต่คนก็รู้จักกันหมดแล้วว่าเขาเอาอนุเข้ามาในจวน จนชื่อเสียงเสียหายหมดแล้ว!”อีกอย่างยังคงคิดจะไปแย่งกลับบ้านมาอย่างไร้ยางอายเช่นนั้น ได้ยินมาว่าแม่นางนั่นวิ่งหนีแล้ว เจ้าเด็กบ้านี่ยังพาคนไล่ล่าและสกัดกั้นไว้อีกนี่หมายความว่าเยี่ยงไร?หมายความว่าแม่นางนั่นเขาเป็นคนบังคับมา!เมื่อคิดถึงตรงนี้ ชิงฝูโหวก็หายใจเข้าลึก ๆ “เฮ่าเอ๋อร์ เจ้าบอกพ่อมาตามตรง แม่นางนั่นเจ้าไปแย่งมากจากที่ใด? นางเต็มใจที่จะกลับจวนโหวกับเจ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 19

    ชิงอินชิงหลิงกำลังคิดจะพยุงลู่เจาหลิง แต่กลับได้ยินนางเอ่ย “กงกง ข้าบาดเจ็บสาหัส วิงเวียนศีรษะ หากคุกเข่าอาจเป็นลมได้ ขอยืนรับพระราชโองการแล้วกัน”“บังอาจ!” ลู่หมิงโมโหขึ้นมาในทันทีลู่เจาหลิงไม่มองเขาด้วยซ้ำ“หากเป็นลมแล้วคงรับพระราชโองการได้ไม่ดีนะเจ้าคะ” นางเอ่ยอย่างราบเรียบขุนนางถ่ายทอดพระราชโองการมองดูศีรษะที่พันไว้ของนาง จึงทำได้เพียงตอบตกลงแล้ว“เช่นนั้นคุณหนูรองลู่ก็ยืนรับพระราชโองการเถิด”เขาคลี่พระราชโองการสีทองอร่าม และอ่านออกมา“ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชา ได้ยินมาว่าบุตรสาวสายตรงคนที่สองของลู่หมิง ลู่เจาหลิง มีทั้งความประพฤติดีและรูปร่างหน้าตาที่งดงาม อีกทั้งยังสุภาพอ่อนโยน มีน้ำใจและจริงใจ... จึงอนุญาตให้พระอนุชาของข้า พระราชทานให้เป็นพระชายาจิ้นอ๋อง และเลือกวันมงคลเพื่อทำพิธีอภิเษกสมรส จบพระราชโองการ”เสียงของขุนนางถ่ายทอดพระราชโองการแหลมสูง น้ำเสียงก็ราบเรียบ และกำลังอ่านเนื้อหาของพระราชโองการต่อหน้าทุกคนในจวนสกุลลู่ทุกคนในจวนสกุลลู่ต่างตะลึงงันยิ่งลู่หมิงเกือบจะกระโดดขึ้นมาแล้วใบหน้าของลู่ฮูหยินบิดเบี้ยว ดวงตาลุกเป็นไฟ จ้องพระราชโองการนั้น

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 20

    คนตระกูลลู่หน้าตาโดดเด่นกันทุกคน และแต่ละคนล้วนดูดีมากหนึ่งในนั้น ลู่เจาอวิ๋นเป็นคนที่สวยที่สุดนอกจากไม่กี่คนนี้ ยังมีหญิงสาวอีกสองนาง นางหนึ่งสง่างาม อีกนางหนึ่งมีเสน่ห์ ทั้งสองน่าจะเป็นอนุภรรยาของลู่หมิงได้ยินมาว่า ลู่หมิงยังมีบุตรชายอีกสองคน แต่ไปเรียนหนังสือที่สำนักบัณฑิตแล้วตอนที่จู่เลาหลิงมองพวกเขา พวกเขาก็มองลู่เจาหลิงเช่นกัน“นี่ ข้าคุยกับเจ้าอยู่นะ เจ้าหูหนวกหรือไง?” ลู่เจาเยว่เห็นว่าลู่เจาหลิงไม่สนใจนาง จึงโมโหจนหน้าแดงไปหมดลู่หมิงใบหน้าบูดบึ้งไม่พูดอะไร ดูแล้วเหมือนกำลังรอฟังอยู่ว่าลู่เจาหลิงจะตอบกลับเยี่ยงไรเขาตกใจแทบแย่!เดิมทีคิดว่าจิ้นอ๋องจะหาวิธีมาเล่นงานลู่เจาหลิง สุดท้ายกลับเป็นการพระราชทานสมรสเสียนี่!“เจ้าเป็นใคร?”ลู่เจาหลิงเหลือบมองไปทางลู่เจาเยว่“หากเจ้าไม่กลับมา ข้าก็ได้เป็นคุณหนูรองของตระกูลลู่ ข้าชื่อลู่เจาเยว่! พี่สาวข้าคือเมฆ ข้าคือพระจันทร์ พวกเราล้วนเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุดบนฟากฟ้า และเจ้านับว่าเป็นอะไร?”เมื่อหนึ่งชั่วยามก่อนลู่เจาเยว่เพิ่งได้รับการแจ้งว่า ต่อไปนางจะเป็นคุณหนูสามแล้ว ทำเอาโมโหแทบระเบิดเด็กบ้าที่มาจากนอกเมืองมีสิทธ์อ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 21

    ลู่เจาหลิงจะเป็นอาสะใภ้ของนาง?!พอลู่เจาอวิ๋นได้ยินที่นางเอ่ย ก็แทบจะเป็นลม“น้องรอง เจ้าไม่รู้สึกว่าแบบนี้มันวุ่นวายหรอกหรือ? ราชวงศ์ยิ่งให้ความสำคัญกับกฎระเบียบและสายเลือด จ้ากับข้าเป็นพี่น้องกัน แล้วจะแต่งงานกับลุงหลานได้เยี่ยงไร?”ลู่เจาอวิ๋นทบทวนตนเองอย่างรอบคอบในช่วงบ่ายเดิมทีชื่อเสียงในเมืองหลวงของนางคืออ่อนโยน สง่างาม สุภาพเรียบร้อย แถมยังดีดผีผาได้ไพเราะจับใจ งานเย็บปักถักร้อยก็ทำได้ดีเยี่ยมทว่าตั้งแต่ได้ยินข่าวว่าลู่เจาหลิงจะกลับมายังเมืองหลวง นางไม่รู้เพราะเหตุใดถึงรู้สึกตื่นตระหนก จนหลุดจากขอบเขต และคิดแค่จะขัดขวางไม่ให้ลู่เจาหลิงกลับมายังตระกูลลู่หากไม่ใช่เพราะนางเสียสติ และแสดงพฤติกรรมที่แย่ออกมา ก็คงไม่ถึงกับถูกลู่เจาหลิงตบหน้าลู่เจาหลิงกลับมายังตระกูลลู่ และจะขัดขวางไม่ได้แล้ว เช่นนั้นนางจะต้องใจเย็นลง แล้วค่อยวางแผนให้ดีในภายหลังเมื่อคิดในใจแบบนี้ ลู่เจาอวิ๋นก็ปรากฏรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมานางเอ่ยกับลู่เจาหลิง “เจ้าบอกว่าเจ้าไม่เคยรู้จักจิ้นอ๋องมาก่อน คิดดูแล้วก็คงไม่มีความรู้สึกต่อกัน ตอนนี้พระราชโองการให้พระราชทานสมรสเพิ่งออกมา ถือโอกาสตอนที่ยังไม่มีใครรู

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 22

    “พี่สาม ท่านหยุดพูดได้แล้วเจ้าค่ะ” เด็กสาวที่อยู่ข้างกายดึงแขนเสื้อของลู่เจาเยว่เบา ๆ นางมองใบหน้าสง่างามที่มีความกังวลอยู่เล็กน้อย แต่คำพูดของนางกลับทำให้ลู่เจาเยว่ยิ่งโมโหมากขึ้นเดิมทีเมื่อก่อนเรียกนางว่าพี่รอง แต่ตอนนี้กลับปรับตัวได้ไวมาก และเริ่มเรียกนางว่าพี่สามแล้ว! อีกอย่าง ต่อจากนี้ในบ้านจะมีคนที่กดอยู่บนศีรษะเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแล้ว แถมคนคนนี้ยังมาจากนอกเมืองเสียด้วย!นี่ทำให้ลู่เจาเยว่ที่เดิมทีชอบโจมตีและชอบเอาชนะใจคนอื่นมาโดยตลอดโกรธมาก“เสี่ยวเยว่!” ลู่ฮูหยินจ้องไปที่นาง นายท่านเพิ่งบอกไปหยก ๆ ว่าไม่ควรเอ่ยถึงคุณหนูเสิ่นอีก และเหตุใดยังเอ่ยอีก?“ข้าอยู่ด้านนอกไม่เอ่ยถึงก็ได้แล้ว ตอนนี้ในบ้านไม่มีคนนอกเสียหน่อย นอกจากนาง!”ลุ่เจาเยว่ชี้นิ้วมาที่ลู่เจาหลิงลู่เจาหลิงมองนิ้วมือนั่นของนาง และมองดูกลุ่มควันสีเทาที่ลอยอยู่รอบใบหน้าของนางอีกครั้ง จากนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย“เห็นพวกเจ้าเอะอะอะไรก็บอกว่าข้ามาจากบ้านนอก ไม่เคยเรียนรู้มารยาท แต่การใช้นิ้วชี้ใส่พี่สาว ถือเป็นการสั่งสอนแบบใดหรือ?”คำพูดนี้ ทำให้ใบหน้าของลู่หมิงดำทะมึนแล้ว“เจาหลิง เจาอวิ๋นอายุมากกว่าเจ้า นางต่างหา

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 23

    ความโมโหในอกของลู่หมิงแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้วนี่เขาไปรับตัวมารผจญอะไรกลับมาเนี่ย!ท่าทางแบบนี้จะใช้ใจแลกใจ ใช้เหตุผลแลกเหตุผลได้อย่างไร? เหตุผลก็บ้าแล้ว!ลู่หมิงกระทืบเท้า“ข้าคือพ่อเจ้า และเจ้าจะต้องเชื่อฟังข้า ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าจะแต่งงานกับจิ้นอ๋องไม่ได้!”ก่อนหน้านี้เขาหวั่นไหวเล็กน้อย แต่ตอนนี้คิดได้แล้ว ว่าเขาจะต้องยืนหยัดยืนอยู่ข้างองค์ชายรองกับฮ่องเต้ และไม่สามารถเข้าข้างจิ้นอ๋องได้!อีกอย่าง ลู่เจาหลิงแสดงท่าทีเช่นนี้ออกมา ก็เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นคนที่รับมือได้ยาก และยากจะควบคุม หากได้รับผลประโยชน์อันใดจริง ๆ นางจะต้องไม่คำนึงถึงตระกูลลู่อย่างแน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาก็ไม่สามารถให้ลู่เจาหลิงปีนต้นไม้ใหญ่ และหลีกหนีจากการควบคุมได้เช่นกัน“ลู่เจาอวิ๋นกับองค์ชายรองกำหนดวันแต่งงานแล้วหรือเจ้าคะ?” ทันใดนั้นลู่เจาหลิงก็เอ่ยถามลู่หมิงตอบออกไปโดยไม่รู้ตัว “ยัง...”“เช่นนั้นพวกท่านสามารถไตร่ตรองให้นางยกเลิกงานแต่งได้เลย เพราะถึงอย่างไรข้าก็รับพระราชโองการมาแล้ว”เมื่อนางเอ่ยคำพูดนี้ก็ทำท่าให้ชิงอินและชิงหลิงมาพยุงนางให้ลูกขึ้นนางอยากจะกลับไปพักผ่อนแล้ว นางปวดหั

    Last Updated : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 24

    ลู่เจาหลิงนอนหลับจนถึงตะวันโด่งฟ้าเมื่อนางตื่นขึ้นมา ก็มีห่อผ้าชิ้นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันสกปรก ด้านล่างจึงปูด้วยผ้าผืนหนึ่งไว้ก่อนด้วยนางรู้สึกคุ้นตาอยู่เล็กน้อย และนึกอยู่ครู่หนึ่งจึงจะคิดขึ้นมาได้ ว่านี้คือห่อผ้าที่ ‘นาง’ พกกลับมาจากบ้านนอกเมื่อตระกูลลู่ส่งคนไปรับที่นอกเมือง ลู่ผู้น่าสงสารจึงเก็บข้าวของได้เพียงห่อผ้าชิ้นเดียว แถมยังต้องปิดบังคนในตระกูลลู่จากนอกเมืองพวกนั้นและซ่อนมันไว้อีกแต่ตอนที่กลับมายังเมืองหลวงและเจอโจรปล้น ห่อผ้านี้ก็หายไปแล้ว“คุณหนู ห่อผ้านี้ท่านอ๋องเป็นคนให้ข้านำกลับมาเจ้าค่ะ” ชิงอินเอ่ยลู่เจาหลิงประหลาดใจ “เขาถึงกับยังมีเวลาว่างไปช่วยข้าเก็บห่อผ้าอย่างนั้นหรือ?”อีกอย่าง หาเจอได้อย่างไรกัน? เพราะแม้แต่นางเองยังคิดไม่ออกเลยว่าห่อผ้านี้หายไปอยู่ที่ใดทว่าเมื่อวานนางคิดไว้แล้ว ว่ารอให้ร่างกายดีขึ้นอีกสักหนึ่งค่อยคำนวณหาตำแหน่งของห่อผ้านั้น แต่ตอนนี้กลับไม่ต้องเสียแรงทำเรื่องนั้นแล้ว“ท่านอ๋องบอกว่า ห่อผ้านี้ถูกนำกลับมาจากเส้นทางในภูเขาที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนักเจ้าค่ะ” ชิงอินเอ่ยลู่เจาหลิงลุกขึ้นยืนและเดินมาที่โต๊ะ พลางแก

    Last Updated : 2024-10-29

Latest chapter

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 100

    ลู่เจาอวิ๋นถูกพวกนางเยาะเย้ยจนหน้าแดง เบ้าตาก็เริ่มแดงแล้วฐานะของคนเหล่านี้ล้วนสูงกว่านาง และดูถูกนางมาโดยตลอด ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางเอาอกเอาใจท่านหญิงฉางหนิงกับเหอเหลียนซิน พวกนางล้วนไม่พอใจนางทั้งๆ ที่นางงดงามกว่าพวกนาง ความสามารถก็เหนือกว่าพวกนาง ชื่อเสียงก็ดีกว่าพวกนาง พวกนางกลับไม่ยอมดีกับนางล้วนเป็นผู้หญิงขึ้ริษยา!แต่ลู่เจาอวิ๋นก็ตีหน้าเศร้าเก่งต่อหน้าคนนอกนางสูดจมูกดังฟืด การแสดงออกบนใบหน้าทั้งน้อยใจและรู้สึกผิด โค้งคำนับพวกนางทีหนึ่ง“เจาอวิ๋นขออภัยทุกท่าน ณ ที่นี้ เพราะน้องหญิงคนนี้ของข้าเพิ่งกลับจากบ้านนอกจริงๆ ท่านพ่อท่านแม่อยากให้นางได้พบกับคุณหนูทุกท่านด้วยความรักและความตั้งใจ เพื่อที่นางจะได้เรียนรู้เรื่องมารยาทและทางโลกบ้าง ข้าจึงพานางมาด้วย”“แต่ข้าก็กลัวดูแลไม่ทั่วถึง จนปล่อยนางไปล่วงเกินทุกท่าน ดังนั้นจึงพาเจาหัวมาด้วยอีกคน ข้าคิดไม่ถึงว่านิสัยของนางจะเถื่อนเช่นนี้ กลับไปข้าจะรายงานท่านพ่อท่านแม่ ให้ท่านพ่อท่านแม่สั่งสอนให้ดีแน่นอน เจาอวิ๋นขอโทษทุกท่านอีกครั้ง”นางลดตัวเช่นนี้ และยังพูดได้ค่อนข้างจริงใจ ประกอบกับไม่ได้ล่วงเกินพวกนาง ต่อไปยังไม่รู้ว่าเหอเหลี

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 99

    เหอเหลียนซินเคยเจอสตรีที่ใจกล้าเช่นนี้และยังอวดดีกว่านางเสียเมื่อไร?ในสมองนางเต็มไปด้วยคำพูดเมื่อครู่ของนางนางถูกฮ่องเต้รับแล้วสกุลเหอสูงส่งกว่าราชวงศ์เหอเหลียนซินรู้แล้ว ถ้าหากคำพูดสองประโยคนี้ถูกเผยแพร่ออกไป นางเสียหน้าไม่ว่า พ่อนางต้องลงโทษนางคุกเข่าในศาลบรรพชนแน่!นางโมโหจนร่างกายสั่น พลันเลือดพลุ่งพล่าน ภาพตรงหน้ามืดดับ เป็นลมไปแล้ว“พี่เหอ!”เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ควงแขนของนางไว้ จึงรีบพยุงนางขึ้นอย่างตื่นตระหนกเด็กรับใช้ทั้งสองของสกุลเหอเพิ่งหายตาลาย ก็มองเห็นคุณหนูของพวกนางเป็นลม จึงรีบเข้าไปพยุงเหอเหลียนซินโดยไม่มีเวลาสนใจลู่เจาหลิงแล้วกู้ฉิงเบิกตากว้าง ฝ่ามือมีเหงื่อเล็กน้อย นางมองไปทางลู่เจาหลิงมีคนตะโกนสิ่งที่นางคิดในใจออกมา…“นางยั่วคุณหนูเหอโมโหจนเป็นลมไปแล้ว!”ลู่เจาหลิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนางถอนใจเบาๆ กล่าวชัดถ้อยชัดคำ “โทษข้าไม่ได้นะ คุณหนูเหอท่านนี้มีไฟในตับ ความชื้นหนัก มีอาการคลุ้มคลั่งเล็กน้อย วู่วามได้ง่าย อีกทั้งวันนี้หน้าผากนางหมองคล้ำ เห็นได้ชัดว่าตอนออกจากบ้านไปติดไออัปมงคลมา เดิมทีวันนี้ก็จะดวงซวยอยู่แล้ว”ปากที่เพิ่งหุบลงของทุกคน อ้ากว้า

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 98

    เดิมทีพ่อก็เป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหม ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ ประกอบกับมีการแต่งงานนี้ เป็นการรวมกันของผู้มีอิทธิพลชัดๆในมุมมองของเหอเหลียนซิน แม้แต่ท่านหญิงฉางหนิงก็ต้องให้เกียรตินางสามส่วน นับประสาอะไรกับกู้ฉิงที่อยู่ตรงหน้า?“คุณหนูเหอ เกิดอะไรขึ้น?” มีคนก้าวออกมาอยากเป็นคนกลาง “เมื่อครู่ท่านหญิงกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแล้ว ถ้าหากนางออกมาพบว่าวุ่นวายเช่นนี้…”เมื่อได้ยินอีกฝ่ายยกเอาท่านหญิงฉางหนิงมาพูด ในที่สุดเหอเหลียนซินก็ไม่ได้หาเรื่องกู้ฉิงอีกนางถลึงตาใส่ลู่เจาหัวแวบหนึ่ง ปล่อยนางไปก่อนชั่วคราว อย่างไรเสียคนที่นางรังเกียจที่สุดในตอนนี้คือลู่เจาหลิง!นางเรียกเด็กรับใช้ทั้งสองของตัวเอง “พวกเจ้าไป ให้นางมาคุกเข่าขอโทษข้า!”“เจ้าค่ะ!”เด็กรับใช้ทั้งสองของนางพุ่งพรวดเข้าไปหาลู่เจาหลิงทันทีลู่เจาหัวอุทานอย่างขี้ขลาดทีหนึ่ง และกล่าวเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง “พี่หญิงรอง ท่านรีบหนีไป”ลู่เจาอวิ๋นรีบคว้ามือของเหอเหลียนซิน แสร้งห้ามปราม “พี่เหอ ท่านอย่าไปถือสานางเลย…” แต่ก็ไม่เห็นนางไปห้ามเด็กรับใช้สองคนนั้นแม้คนอื่นก็ไม่ชอบพฤติกรรมที่อวดดีของเหอเหลียนซิน แต่พวกนางไม่รู้จักลู่

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 97

    พวกลู่เจาหลิงไม่ถือว่ามาเร็วตอนนี้ในสวนมีคนไม่น้อยแล้วช่วงนี้เป็นปลายฤดูใบไม้ผลิ ไม่ร้อน เย็นสบาย สวนของจวนท่านหญิงปลูกดอกไม้มากมาย บานสะพรั่งสีสันงดงามแต่ตอนนี้ บนพุ่มดอกไม้ถูกประดับด้วยดอกผ้าไหมที่ผูกจากผ้าขาว  และต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ มีผ้าโปร่งสีขาวห้อยอยู่ ลอยไปตามสายลมเบาๆสีขาวเหล่านี้ บดบังความงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่งเหล่านี้ นี่น่าจะเป็นเจตนาของท่านหญิงฉางหนิง อย่างไรเสีย ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ตรงพื้นที่โล่งกลางสวน มีโต๊ะยาวหลายตัวแบ่งตั้งเป็นสองฝั่ง บนโต๊ะมีพู่กัน น้ำหมึก และกระดาษวางอยู่ถัดจากต้นกล้วยหลายพุ่ม มีศาลาหนึ่งหลัง บนโต๊ะในศาลามีน้ำชาและผลไม้วางอยู่พื้นที่นี้มีเงาจากภูเขาจำลองและต้นไม้ที่อยู่ข้างหน้าสะท้อนลงมาพอดี แต่ยังพอมีช่องว่างให้แสงแดดเล็ดลอดเข้ามาอยู่บ้าง แสงสว่างเพียงพอ และไม่เย็นเกินไปข้างภูเขาจำลองมีถนนเล็กๆ หนึ่งเส้น เดินไปมีบ่อน้ำเล็กๆ ตอนนี้บนผิวของบ่อน้ำมีใบบัวที่เพิ่งงอกออกมาอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีกิ่งก้านของดอกยื่นโผล่พ้นผิวน้ำเหล่าคุณหนูที่มาถึงก่อน จับกลุ่มกันตรงนี้สามตรงนั้นสอง มีคนกำลังชมดอกไม้ มีคนกำลังดื่มชา มีคนกำลังอ่านหนังส

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 96

    ลู่เจาหลิงไม่ทน หันไปพูดกับลู่เจาอวิ๋นอย่างเย็นชา “ลู่เจาอวิ๋น ถ้าไม่เข้าไปข้าจะไปแล้วนะ”“มาแล้ว” เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ค่อยสังเกตการเคลื่อนไหวที่ประตูอยู่แล้ว เมื่อเห็นพวกนางสองคนถูกเด็กรับใช้ขวางไว้ นางยิ้มในใจ แต่เมื่อได้ยินว่าลู่เจาหลิงจะไปนางก็รีบมาทันที จะปล่อยให้ลู่เจาหลิงไปได้อย่างไร?“พี่เหอ นี่คือเจาหลิงน้องรองของข้า”นางควงแขนของเหอเหลียนซินไว้ พลางหันไปกล่าวกับลู่เจาหลิง “น้องรอง รีบเรียกพี่เหอเร็ว”เหอเหลียนซินมองไปทางลู่เจาหลิง สายตาเย็นชาเล็กน้อย“ข้าไม่กล้าให้ว่าที่พระชายาจิ้นอ๋องเรียกพี่หรอก”จิ้นอ๋องกลับเมืองหลวง ได้รับพระราชทานสมรส อีกฝ่ายเป็นเด็กบ้านนอกที่ถูกรับกลับมาจากชนบทข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงแล้วทุกคนต่างตกใจมาก ไม่มีใครอยากเชื่อ ขณะเดียวกันก็อยากรู้มาก คุณหนูรองกู้เป็นคนอย่างไร โชคอะไรหล่นทับกันแน่ จึงได้รับความสนใจจากจิ้นอ๋องเหอเหลียนซินก็อยากรู้มากเช่นกันและตอนนี้นางได้เจอลู่เจาหลิงแล้ว หน้าตาเหมือนนางจิ้งจอกอย่างที่คิด เอาเป็นว่านางเห็นแล้วก็รังเกียจเลยลู่เจาเหลียงย่อมมองเจตนาร้ายที่เหอเหลียนซินมีต่อตัวเองออกนางก็ตอบกลับไปอย่างเร

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 95

    ชิวจวี๋ประคองลู่เจาอวิ๋นลงรถม้า ไม่ได้สนใจลู่เจาหัวกับลู่เจาหลิงอีกเลยหลังจากลู่เจาหัวลงรถม้า นางคิดแล้วคิดอีก ยื่นมือไปหาลู่เจาหลิง “พี่หญิงรอง ข้าประคองท่าน”“ไม่ต้อง”ลู่เจาหลิงกลับเลี่ยงผ่านมือของนาง ลงจากรถม้าเองลู่เจาหัวทำท่าเสียใจเล็กน้อย หลุบตาปกปิดสายตา“เจาอวิ๋น”มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากข้างหน้า แค่ฟังจากเสียงก็เต็มไปด้วยความมั่นใจลู่เจาอวิ๋นประหลาดใจมาก รีบเดินเข้าไปหา“พี่เหอ!”ลู่เจาหัวเห็นผู้มา สีหน้ากลับเปลี่ยนไป ร่างกายสั่นเล็กน้อย นางลืมไปได้อย่างไร ในโอกาสเช่นนี้ เหอเหลียนซินก็มาเช่นกันลู่เจาหลิงเหลือบมองนางแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรนางมองไปทางผู้มาเห็นรถม้าของอีกฝ่ายก่อน รถม้าคันนั้นดูหรูหรากว่าของสกุลลู่มาก สตรีที่กำลังทักทายลู่เจาอวิ๋นอย่างอย่างสนิทสนม อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด ใบหน้าทรงไข่ห่าน คางแหลม หน้าตาค่อนข้างงามเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ การแต่งกายของนางก็เรียบๆ เช่นกัน สีขาวทั้งชุด มีเพียงปิ่นหยกกับดอกไม้ผ้าเล็กๆ ที่ประณีตไม่กี่ชิ้น สง่างามดั่งดอกบัวที่บริสุทธิ์นางพาเด็กรับใช้มาด้วยสองคน เสื้อของเด็กรับใช้เป็นสีขาวมีกิ่งดอกไม้สีน้ำตาลเล

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 94

    นางข่มความโกรธ “น้องหญิงรองหยุดได้แล้ว นี่เป็นถุงหอมที่ผู้อื่นมอบให้ข้า มันมีค่ามาก เครื่องหอมที่อยู่ข้างในก็หาซื้อตามข้างนอกไม่ได้”เครื่องหอมที่อยู่ข้างใน ท่านหญิงฉางหนิงเป็นคนให้นาง เป็นของขวัญที่ทูตต่างแดนนำมาถวายให้ท่านหญิงและองค์หญิงต่างๆ ในวังลู่เจาอวิ๋นได้เครื่องหอมมาแค่นี้ นางก็ภาคภูมิใจมาก ปกติแทบไม่เอาออกมาใช้ ในโอกาสอย่างวันนี้จึงจะยอมนำออกมาใช้ ลู่เจาหลิงกลับให้นางทิ้ง?“กลิ่นเหม็นมาก”ลู่เจาอวิ๋นอดกลั้นความโกรธ และยังคงฝืนยิ้ม คิดใจปลอบนาง “คนทั่วไปอาจจะไม่ชินกับกลิ่นเช่นนี้จริงๆ แต่นี่เป็นเครื่องบรรณาการจากทูตต่างแดน เป็นเครื่องหอมที่มีราคาแพงและหรูหรามาก น้องหญิงรอง ในเมื่อเจ้ามาถึงเมืองหลวงแล้ว เจ้าต้องพยายามปรับรสนิยมให้สูงขึ้น จะชอบแต่พวกเครื่องหอมคุณภาพต่ำไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกหัวเราะเยาะ”“ไร้สาระ”พลันลู่เจาหลิงยื่นมือออกไป กระชากถุงหอมบนกายนางลงมาฉับพลัน เลิกม่านรถก็โยนมันไปที่ข้างคนขับ“ไว้ตรงนั้นก่อน อีกเดี๋ยวเจ้าจะห้อยค่อยห้อย”นางทนไม่ไหวแน่ ถ้าต้องทนดมอยู่ในรถม้าที่แคบเล็กเช่นนี้ตลอดอีกทั้งเกรงว่าส่วนผสมของเครื่องหอมเหล่านี้ค่อนข้างแปลก มีผงกระดู

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 93

    ชิงเป่าร้อนใจแล้ว“พวกเราต้องตามคุณหนูไป คุณหนูของพวกเรายังบาดเจ็บอยู่!”ก่อนหน้านี้พวกนางเคยได้ยินท่านหมอฝู่กล่าว คุณหนูได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ที่จริงนับว่าอันตรายถึงชีวิต แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางยังสามารถรอดมาได้ชิงเป่าชิงอินก็เป็นคนฝึกยุทธ์เช่นกัน และเคยเห็นบาดแผลของลู่เจาอิง ย่อมรู้ว่าบาดแผลนั่นสาหัสเพียงใด“ข้าอยากพาเจ้าไปด้วยจริงๆ แต่รถม้าไม่พอนั่งแล้ว” ลู่เจาอวิ๋นก็หมดหนทาง นางกล่าวเหมือนเยาะเย้ยตัวเอง “ไม่ใช่ข้าหาเรื่องพวกเจ้า แต่รถม้าจวนเรามันไม่ใหญ่”ชิงเป่ากล่าวทันที “พวกเราเดินไปก็ได้”พวกนางสามารถใช้วิชาตัวเบา“พวกเจ้ามาจากจวนจิ้นอ๋อง น่าจะรู้จักท่านหญิงฉางหนิง ดังนั้นก็น่าจะรู้ว่าจวนท่านหญิงอยู่ที่ไหน ห่างจากที่นี่ไกลมาก ถ้าหากพวกเจ้าเดิน อย่างน้อยก็ต้องเดินครึ่งชั่วยาม”ลู่เจาอวิ๋นกล่าว “ถึงเวลาพวกเจ้ากับน้องหญิงรองไม่ได้เข้าจวนพร้อมกัน ผู้อื่นก็จะหัวเราะเยาะเช่นกัน”เช่นนั้นไม่เท่ากับทำให้ผู้อื่นรู้ว่า รถม้าของสกุลลู่เล็กมาก แม้แต่สาวใช้ก็ไม่พอเบียดหรือ?ชิงอินใจเย็นกว่า คิดวิธีที่เหมาะสมกว่าออก “พวกเราไปเช่ารถม้าไป”“รอพวกเจ้าหารถม้าได้มันก็ไม่ทันแล้ว แต่ว่าถ

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 92

    เที่ยวนี้เขาได้เห็นความสามารถของลู่เจาหลิงอีกครั้งชิงอินกอดกล่องในอ้อมแขนไว้ ยังรู้สึกเหมือนนี่ไม่ใช่เรื่องจริงเล็กน้อย ออกจากจวนเที่ยวเดียว คุณหนูก็หาเงินได้อีกห้าพันตำลึงแล้ว ห้าพันตำลึงเลยนะ!สกุลลู่นำเงินออกมาสามร้อยตำลึง ก็ปวดใจเหมือนถูกเฉือนเนื้อ พวกเขาจะคาดคิดได้อย่างไร คุณหนูอาศัยความสามารถของตัวเอง ก็สามารถหาเงินได้ห้าพันตำลึงแล้วนอกจากนี้ยังมีจี้หยกหนึ่งชิ้นกับโสมหนึ่งต้นด้วย แค่ของเหล่านี้ก็มีค่าหลายร้อยตำลึงตกลงสุกุลลู่รู้หรือไม่ว่าคุณหนูเป็นสมบัติลับอย่างไรครั้งนี้ชิงเป่าไม่ได้ตามออกมาด้วย แต่เฝ้าอยู่ที่หอทิงหน่วน นางดูจากเวลา ได้ไปนำอาหารเย็นกลับมาแล้ว ลู่เจาหลิงกลับมาก็ได้กินข้าวเลย“ชิงเป่าคำนวณเวลาได้พอดีเป๊ะ” นางชมไปประโยคหนึ่ง หลังจากนั้นกล่าว “ให้พวกเจ้าคนละห้าตำลึง กลับไปซื้อของที่ตัวเองชอบกิน”ให้เงินพวกนางอีกแล้ว!ชิงเป่าเบิกตากว้าง มองไปทางชิงอินด้วยสายตาตั้งคำถามชิงอินเงียบ แต่เปิดกล่องเหล่านั้นให้นางดู“คุณหนูเก่งจัง…” แม้แต่เสียงตกใจของชิงเป่าก็ลอยเล็กน้อยลู่เจาหลิงยิ้มแล้วยิ้มอีก “พอแล้ว กินข้าวเถอะ”หลังกินข้าว อาบน้ำเสร็จ นางก็กลับมาท

DMCA.com Protection Status