ณ โรงพยาบาลรัฐเมืองริเวอร์เดล“ขอโทษนะครับ ช่วยหลีกทางหน่อย!” ฟิลิป คลาร์ค ที่กำลังอุ้มร่างที่ไม่ได้สติของเด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาล ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “คุณหมอ! คุณหมอ! เร็วเข้า! ช่วยลูกสาวของผมด้วย!”เหล่าพยาบาลและหมอที่รีบวิ่งออกมารับร่างของเด็กสาวจากอ้อมแขนของฟิลิป และนำตัวเด็กเข้าห้องฉุกเฉินไป“โอ้! คุณเข้าไปไม่ได้นะคะ!” นางพยาบาลในชุดสีฟ้าครามสวมหน้ากากอนามัยห้ามฟิลิปที่กำลังจะเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ในขณะนั้นเอง เสียงส้นสูงที่กระทบพื้นเซรามิคดังขึ้นมาถี่ ๆ จากทางด้านหลัง บีบเค้นหัวใจของเขาในทุกช่วงจังหวะที่ส้นสูงกระทบกับพื้นนั่น“ฟิลิป คลาร์ค!” เสียงคำรามของผู้หญิงคนนึงดังขึ้น‘เพี๊ยะ!’ฝีมือตบอันหนักหน่วงเฉียบคมกระทบลงบนแก้มของฟิลิป ที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาคือ วินน์ จอห์นสตัน ผู้มีสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธจัด น้ำตาเอ่อล้นในดวงตาคู่สวย “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของฉัน ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้คุณ!” น้ำเสียงของเธอเย็นชาและแฝงไปด้วยความเดือดดาลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนไข้ที่ผ่านไปผ่านมาสองสามคนและผู้คนในโรงพยาบาลต่างตกใจ ฟิลิปคอตก เขารู้สึกละอายใจ ไม่อาจที่จะอธิบายอะไรออ
สีหน้าของฟิลิปเปลี่ยนไป เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นฟิลิปที่อยู่ในชุดพนักงานส่งของ ท่าทางดูมอมแมม ลิลี่ชี้นิ้วไปที่ประตูก่อนจะพูดขึ้น “ออกไปเดี๋ยวนี้! เราไม่อนุญาตให้พนักงานส่งของเข้ามาในนี้”“ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อส่งของ” ฟิลิปอธิบายลิลี่จัดผมหน้าม้าของเธอก่อนจะกอดอกแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเย็น “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้ยินเรื่องนี้ ทุกคนที่เข้ามาที่นี่ต่างก็บอกว่าพวกเขาไม่ใช่พนักงานส่งของ ขอร้องล่ะ!”“ผมไม่ใช่ ผมมาที่นี่เพื่อพบกับจอร์จ โธมัส” เมื่อรู้สึกฉุนเฉียวขึ้นมา ฟิลิปเดินตรงจะเข้าไปด้านในหลังพูดจบ “บ้าเอ๊ย! นี่คุณเสียสติงั้นเหรอ? ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง?” ลิลี่โกรธจัด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคนส่งของที่หน้าไม่อายขนาดนี้ที่พยายามจะเข้าไปด้านในให้ได้และตอนนั้นเอง ผู้จัดการแผนกได้ยินเสียงโต้แย้งนี้จึงเดินเข้ามาสอบถามด้วยสีหน้าไม่ยินดี “เกิดอะไรขึ้น?”“ผู้จัดการสจ๊วต คนส่งของคนนี้พยามที่จะเข้าไปในห้องตึกของพวกเราค่ะ!” ลิลี่ชี้ไปที่ฟิลิป ก่อนจะพูดต่ออย่างเหยียดหยาม “ฉันจะไปเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาพาตัวเขาออกไปเดี๋ยวนี้”ผู้จัดการขมวดคิ้ว มองฟิลิปตั้งแต่หัวจรดเท้า ก
“มันก็แค่เงิน แล้วใครบอกว่าผมหายืมไม่ได้กัน?” ฟิลิปจ้องฆวนอย่างรังเกียจฆวนตกตะลึงจนพูดไม่ออก สีหน้าของเขาแข็งทื่อไป ด้วยเหตุการณ์ที่น่าแปลกใจเกิดขึ้นตรงหน้าเขา ฟิลิปโยนถุงพลาสติกในมือเขาลงตรงหน้าชายหนุ่มและวินน์ถุงพลาสติกหล่นลงพื้นดังตุ๊ป ก่อนที่เงินเป็นฟ่อน ๆ จะปรากฏให้เห็นตรงหน้าพวกเขาหางตาของฆวนกระตุกเล็กน้อย ริมฝีปากสั่นเทิม มือของเขากำแน่นอย่างไม่ได้ตั้งใจวินน์รู้สึกประหลาดใจ เธอจ้องไปที่เงินที่ฟิลิปโยนลงตรงหน้าพวกเขา รู้สึกสับสน แต่ไม่นานสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาพร้อมกับความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นมาในแววตาฟิลิปไปเอาเงินนี่มาจากไหน? ถ้าเขามีเงินทำไมถึงไม่เอาออกมาตั้งแต่แรก? ทำให้ฉันต้องมาคอยนั่งคุยเอาอกเอาใจผู้ชายคนอื่นอยู่ได้! ไม่รู้รึยังไงว่ามันเหนื่อย? ”นี่เป็นเงินหนึ่งแสน ฉันจ่ายในคืนภายในครั้งเดียวรวมกับของเก่าที่เคยยืมไว้ด้วย! แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก” ฟิลิปพูดขึ้นฆวนไม่ได้หยิบเงินขึ้นมา พูดตามจริง เงินจำนวนหนึ่งแสนนี่ไม่ได้มีค่าอะไรกับเขามากนัก เขาแค่คิดเสียว่าเหมือนการบริจาคให้กับผู้คนยากไร้ก็เท่านั้นแหละ“ทำได้ดีนี่ ฟิลิป นายหาเงินจำนวนมากขนาดนี้มาได้
วิลสันเดือดดาลด้วยความโกรธ! เจ้าคนเสียสตินั่นไปจอดขวางหน้ารถเบนท์ลีย์ของเจ้านายคนใหม่ได้ยังไงกัน! นี่เขาอยากมีปัญหารึอย่างไรนะ? “ฟิลิป คลาร์ค แกยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นอยู่อีก? รีบหลบไปได้แล้ว!” วิลสันชี้หน้าฟิลิป และตะโกนใส่เขาฟิลิปเพิ่งจะจอดสกู๊ตเตอร์ของเขาเสร็จ เมื่อได้ยินเสียงด่าของวิลสันดังมาอีกระลอกนึง “แย่ละ! ฟิลิปตายแน่คราวนี้ พี่วิลจะได้ออกหมัดเสียที”“สิบสายร้องเรียน แต่เจ้าหนุ่มเสียสตินี่ยังกล้าจะกลับมาที่นี่อีก!”“จะต้องโดนหักเงินอย่างน้อยสองร้อยแน่ ๆ นั่นมันต้องทำงานทั้งวันเลยนะ!”พนักงานสองสามคนแอบนินทากันเงียบ ๆ และบางคนก็สนุกกับการได้ดูการแสดงนี้ ท่ามกลางพนักงานเหล่านี้มีบางคนที่เป็นพนักงานเก่าที่เคยทำงานกับฟิลิป เมื่อพวกเขาเห็นว่าฟิลิปถูกลดระดับลงมาทำงานเป็นพนักงานส่งของเหมือนกันกับพวกเขา ต่างก็พากันดูถูกเขายิ่งกว่าเดิม ฟิลิปชินชาไปเสียแล้ว ตอนนั้นเอง มิสเตอร์แทงค์จ้องไปทางฟิลิปอย่างเย็นชา เขาดูหงุดหงิดก่อนจะถามขึ้น “ผู้จัดการ ยัง นี่ลูกน้องของคุณงั้นเหรอ?”วิลสันรีบตอบกลับในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยคำถากถาง “เจ้านายครับ คุณไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก ผมจึงลืมแนะนำคุณ
“คุณมาทำอะไรที่นี่?” วินน์ขมวดคิ้วก่อนจะจ้องไปที่เบนท์ลีย์ที่จอดอยู่ข้างฟิลิป นี่เขาเพิ่งจะออกมาจากรถคันนั้นงั้นเหรอ? นี่มันสามีที่ไม่ได้เรื่องของฉันจริง ๆ งั้นเหรอ? หรือเดี๋ยวนี้บริษัทส่งของเขาส่งอาหารด้วยรถเบนท์ลีย์กันแล้ว? “ผม…คือผม…” ฟิลิปพูดตะกุกตะกักก่อนจะเหลือบมองไปทางจอร์จที่กำลังยิ้มหน้าบานผ่านกระจกชายสูงวัยรีบยื่นมือเข้ามาช่วยก่อนจะพูดขึ้น “พ่อหนุ่มขอบคุณมาก ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ ที่ช่วยให้ฉันหาที่นี่เจอ ไว้ให้ตาแก่คนนี้เลี้ยงอาหารเธอสักมื้อเพื่อแสดงความขอบคุณนะ” ฟิลิปยิ้มก่อนจะพยักหน้าอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไรครับท่าน กรุณากลับดี ๆ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกเป็นนัยว่าให้ชายสูงวัยรีบกลับไปได้แล้วจอร์จไม่ได้พูดอะไรอีกยิ้มและพยักหน้าให้กับวินน์ ก่อนจะบอกให้คนขับรถเคลื่อนรถออกไปวินน์ตัวแข่งทื่อไปด้วยความตกตะลึง นั่นไม่ใช่...นั่นไม่ใช่ประธานของ เอเปก กรุ๊ป ประธานโทมัส หรอกเหรอ? คนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองนี้! และฟิลิปเพิ่งจะนั่งรถคันเดียวกันกับเขามา“นี่คุณรู้จักจอร์จ โธมัส ด้วยเหรอ?” วินน์หันไปทางฟิลิป รู้สึกประหลาดใจฟิลิปยักไหล่ “ไม่ ไม่รู้จัก ตาแก่นั่นก็แค่หลงทาง ผมแค่ช่วยนำทาง
ฟิลิปกดโทรออกหาจอร์จ โทมัส “จอร์จ คุณช่วยผมตรวจสอบโครงการล่าสุดที่วินน์ จอห์นสตัน ต้องดูแลของบริษัทเภสัชกรรม บีคอน หน่อย ว่ามีมูลค่าการลงทุนคือ หนึ่งล้านดอลล่าร์จริงหรือเปล่า? แล้วใครกันที่เป็นลูกค้าและบุคคลที่รับผิดชอบโครงการนี้”น้ำเสียงที่นอบน้อมของจอร์จลอดผ่านปลายสายออกมาเขาพูดขึ้น “นายน้อย กลุ่มบริษัทเภสัชกรรม บีคอน เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลคลาร์คของเราร่วมลงทุนผมจะให้ประธานบริษัทของบีคอนไปพบกับคุณด้วยตัวเขาเอง”หืม? บริษัทเภสัชกรรม บีคอน ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลเราลงทุนไว้งั้นเหรอ พ่อของฉันนี่เยี่ยมยอดจริง ๆ!ฟิลิปรู้สึกเสียดายขึ้นมาทันทีที่ไม่รับมรดกของตระกูลให้เร็วกว่านี้“ไม่จำเป็นหรอก รีบตรวจสอบโดยเร็วและทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนซะเพื่อที่วินน์จะได้ไม่ต้องลำบากมาก” ฟิลิปพูดขึ้นอย่างใจเย็น“นายน้อย ผมแนะนำให้คุณซื้อบริษัทของลูกค้านั่นซะ คุณมีเงินมากพออยู่แล้ว” จอร์จแนะนำอะไรกันวะเนี่ย! ซื้อบริษัทงั้นเหรอ? อย่างที่คาดไว้ในฐานะพ่อบ้านจากตระกูลร่ำรวย ตาเฒ่าจอร์จ นี่คุณเป็นคนขี้อวดขนาดนี้แล้วเหรอ? “มันเรียกว่าการทำตัวให้ไม่เป็นจุดสนใจ เข้าใจรึเปล่า? ถ้าผมอยา
ในที่สุดรถเบนท์ลีย์ก็มาหยุดที่ ริเวอร์เดล เวอร์เทียส คอร์ท ร้านอาหารที่ดังที่สุดในเมือง สถานที่ที่มีเฉพาะเหล่าเศรษฐีแหละคนดังถึงจะมารับประทานอาหารที่นี่ได้ เวอร์เทียส คอร์ท กำหนดให้ผู้ที่จะมาทำการจองร้านจะต้องเป็นสมาชิกที่มีการใช้จ่ายขั้นต่ำอย่างน้อยหนึ่งล้าน เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์การเป็นสมาชิกเอาไว้ได้และที่นั่น ผู้ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าของ เวอร์เทียส คอร์ท คือนักธุรกิจชื่อดัง ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้ง กรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์ บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและส่งออกโดยจะเน้นที่ผลงานศิลปะ ในฐานะผู้บริหารของบริษัท แค่ตัวรัสเซลเองก็ร่ำรวยมีทรัพย์สินถึงสามพันล้าน และเขายังเป็นนักสะสมชื่อดังที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย คนดังที่มาอยู่ในชุมชนของนักสะสมท้องถิ่น รัสเซลได้พาเหล่าผู้บริหารระดับสูงอีกกว่าสิบคน มายืนรอด้วยความเคารพที่ด้านหน้าทางเข้าร้าน เวอร์เทียส คอร์ท กับเขาด้วย เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้เหล่าผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านไม่น้อย บางส่วนถึงกับอุทานออกมา“นั่นไม่ใช่ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้งกรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์หรอกเหรอ? เขามายืนรอใครกัน มากันเยอะแยะ อลังการขนาดนี้?”“ช่างเป
เสียงที่พูดขึ้นมาไม่น่าพิศมัยนัก ฟิลิปเงยหน้าขึ้นมาเจอเข้ากับชายที่พุงยื่นพลุ้ย จ้องมาที่เขาด้วยสายตาเยาะเย้ยแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก? ฉันจะเป็นแมงดาหรือไม่แล้วยังไง? ฉันไม่รู้จักแกด้วยซ้ำ ฟิลิปทำปากเบะ ตั้งใจจะไม่สนใจเขา ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินออกไปแต่เจ้าอ้วนนั่นไม่ปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ เขาเดินไปขวางทางฟิลิป และพูดจาถากถางเขาต่อหน้าเขาตรง ๆ “ทำเป็นเมินผมงั้นเหรอ? นิสัยดีเยี่ยมไปเลย! ผมได้ยินมาว่าธุรกิจของคุณพังไม่เป็นท่า และตอนนี้รองผู้จัดการจอห์นสตันของเราก็เป็นคนหาเลี้ยงปากท้องครอบครัวแทน ชายหนุ่มอย่างคุณฉันนี่ช่างกล้าที่จะเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินนะ”ฟิลิปขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจำชายคนนี้ได้เขาคือ เกวิน แซค ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทที่วินน์ทำงานอยู่ ชายคนนี้เคยพยายามที่จะข่มขู่วินน์ แล้วฟิลิปก็เคยมอบบทเรียนให้กับเขา แต่ในตอนนี้เค้ามองฟิลิปว่าอยู่ต่ำกว่าเขา ชายหนุ่มจึงดูถูกเหยียดหยามเขาไม่หยุดหย่อนเพื่อนร่วมงานคนอื่นของวินน์ต่างก็มองฟิลิปด้วยสายตาแปลกประหลาด พวกเขารู้เรื่องของฟิลิปเพียงเล็กน้อย รู้เพียงแค่ว่าเขาเคยเป็นนักลงทุนที่มุ่งมั่น แต่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ในสถานะขอ
นั่นคือธีโอ แซนเดอร์!ฟิลิปไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัวเขา เขากล้าดียังไงถึงไม่แสดงความเคารพ?บ๊อบเป็นคนแรกที่โกรธ เขาตะโกนใส่ฟิลิปว่า “ฟิลิป เมื่อมิสเตอร์แซนเดอร์มาที่นี่เพราะนาย ทำไมนายถึงยังนั่งอยู่? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายไม่มีมารยาททางสัมคมเหรอ?”หลังจากที่บ๊อบตะโกนอย่างโกรธจัด เอริค อารอน และคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าเขาเช่นกัน“ฟิลิป ยืนขึ้นและขอโทษมิสเตอร์แซนเดอร์เดี๋ยวนี้!”“ไอ้ขยะคนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ”พวกเขากำลังพูดถึงฟิลิปมากขึ้นและมากขึ้นคนเหล่านี้ไม่ชอบฟิลิปมานานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดสอดถ้าธีโอโกรธ ฟิลิปคงเสร็จแน่!อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและมองทุกคน จากนั้นเขาก็คว้าทัพพีและตักซุปให้วินน์ เขากล่าวว่า “นี่ไม่เลว มันดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรดื่มอีก”เวรเถอะ!บ๊อบ เดือดพลาด!ไอ้ขยะคนนี้ดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง!เมื่อบ๊อบกำลังจะตะโกนใส่เขาอีกครั้ง ฟิลิปจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่ง”“ได้ครับ!”ธีโอถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงอย่างมีความสุข เขานั่งถัดจากรัสเซลและพวกเขาก็พยักหน้าเมื่อสบตากันบ้าอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น? นี้เริ่มแปลกมากไปแล้วทุ
“ธีโอ แซนเดอร์? ธีโอ แซนเดอร์คนไหน?”"มิสเตอร์ธีโอ แซนเดอร์ จากองค์กรการกุศลธีโอดอร์?”“ราชาโลกของใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล ธีโอ แซนเดอร์ เหรอ? เขามาที่นี่ทำไม”ก่อนที่ญาติพี่น้องและรุ่นลูกหลานของครอบครัวเยทส์ที่อยู่ในลานบ้านจะฟื้นคืนสติ ทุกคนในห้องโถงเริ่มวิตกกังวลเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการและนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างรัสเซล ธีโอได้โด่งดังในเมืองริเวอร์เดลเนื่องจากเขามีอำนาจทางด้านมืดหากผู้มีอำนาจเช่นนั้นไม่ได้มาที่นี่อย่างจริงใจ อาจกล่าวได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อปลิดชีพใครบางคนเป็นเรื่องธรรมดาที่บ๊อบจะประหม่าไม่ใช่ทุกคนที่จะติดต่อกับชายผู้มีอำนาจอย่างธีโอได้ อีกอย่างคือไม่มีบุคคลธรรมดาคนไหนที่จะเชิญเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง ธีโอก็เดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ชุดสูทสีขาวและหมวกทรงฟีโดราของเขาเปล่งประกายไปทั่วอาณาเขต ใครบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดขยี้ด้วยการปรากฏตัวของเขาแน่นอนว่านั่นคือธีโอ แซนเดอร์ ราชาของโลกใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล!การปรากฏตัวของเขามีอำนาจเหนือทั้งงานฉลองเจสตกใจมาก นี่คือชายผู้ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมากในเมืองริ
'จอร์จ โธมัส คุณมันโคตรจะทำลายชีวิตฉัน!'ฟิลิปไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและเดินผ่านหน้าทุกคน โดยมีวินน์อยู่ข้าง ๆ เขาเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาที่หลังของเขามากกว่าสิบครั้ง พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับลูกศรพันดอกเมื่อพวกเขาอยู่ในลานบ้าน ทุกคนก็นั่งลง แน่นอนว่ารัสเซลนั่งอยู่ในห้องโถง หลังจากที่บ๊อบนั่งลงก่อนเมื่อเอริคเห็นว่าทุกคนอยู่ในห้องโถงและลานทางเดินกลาง เขาจึงตัดสินใจที่อยู่ตรงลานด้านนอก เขาเยาะเย้ยในขณะที่รู้สึกพอใจกับตัวเองว่า “ฟิลิป ไม่คิดว่าขยะอย่างนายจะรู้จักผู้ประกอบการและนักสะสมอย่างรัสเซล ช่างโชคดีเสียนี่กระไร!”แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ทุกคนก็บอกได้เลยว่ามันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ฟิลิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ความทุกข์ในใจเริ่มรุนแรงขึ้นเอริคเป็นตัวเคราะห์ร้ายของครอบครัวเยทส์ถึงกระนั้นฟิลิปก็ยังเพิกเฉยต่อเขา เขาเป็นแค่คนโง่ที่ไร้ค่า แล้วทำไมเขาต้องไปยุ่งกับเอริคด้วย?อีกด้านหนึ่ง รัสเซลเพิ่งนั่งลง เมื่อเขาเห็นฟิลิปที่มุมของลานด้านนอก กำลังถูกดูถูกโดยเอริคด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจคนฉ
บ๊อบรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้รัสเซลอยู่ที่นี่และให้ของขวัญเป็นภาพ 'กุ้ง' โดยฉี ไป่ซี่ นี่เป็นของขวัญล้ำค่า!ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถให้ของขวัญที่หรูหราเช่นนี้ได้ทุกคนเดินตามบ๊อบและออกมาที่ลานด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็มาถึงทางเข้าคฤหาสน์เอริคเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ขยับตัวตามมา เขาก็พูดอย่างเกลียดชังว่า “เป็นอะไรไป? คนสำคัญอย่างรัสเซล ฟิลด์ อยู่ที่นี่ นายไม่อยากไปต้อนรับเขาเหรอ?”ผู้ชายคนนี้มีตะปูที่ก้นของเขาเหรอ?เขายังนั่งอยู่กับที่ได้อย่างไร?หลังจากเสียงเตือนของเอริค ฟิลิปครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าคำพูดของเอริคนั้นสมเหตุสมผล เขาลุกขึ้นและตามวินน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนห่างจากฝูงชนเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่ต้องการที่จะไปอยู่ด้านหน้า ฟิลิปไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ทุกคนยืนที่ประตูด้วยความเคารพ รถมายบัคสีดำหยุดอยู่ที่ทางเข้าทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและรัสเซลก็ลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มบ๊อบเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากางมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า “มิสเตอร์ฟิลด์ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคนสำคัญเช่นคุณจะมาที่
ปังประตูห้องน้ำเปิดออก และเจสก็เข้ามาเมื่อนางเห็นภาพตรงหน้าเธอจึงหันหลังเดินจากไป ก่อนที่เธอจะจากไป อย่างไรก็ตามเธอหันกลับมาและพูดว่า “พวกนายแต่งงานมานานแล้ว หาที่ที่ดีกว่านี้ ถ้าพวกนายอยากลึกซึ้งระหว่างกัน”หลังจากที่เจสจากไป ฟิลิปพูดด้วยความรำคาญว่า “ต้องมีอะไรผิดปกติกับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เธอทนไม่ได้ที่เห็นสามีและภรรยามีความสุขกัน”วินน์กลอกตามองเขาและเดินเข้ามาหาเขา เธอยืดหลังให้ตรงและติดกระดุมเสื้อให้เขาฟิลิปอยากจะสานต่อแต่วินน์ปัดมือของเขาออก “หยุด หาเศษหาเลย ไปกันเถอะ."ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เขาบ่นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เธอกลัวอะไร?"วินน์หันกลับมาและแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ เธอดูเย้ายวนภายใต้แสงแดดเมื่อพวกเขากลับมาที่งานเลี้ยง ก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้วฟิลิปเพิ่งนั่งลงได้หนึ่งนาทีเมื่อได้รับข้อความจากจอร์จ'นายน้อยพร้อมแล้ว รอการเซอร์ไพรส์ก่อนนะครับ'แปลกมันหมายความว่าอย่างไร?ฟิลิปตอบอย่างรวดเร็วว่า 'จอร์จ คุณหมายความว่าอย่างไร?'ในขณะนี้ จอร์จนั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์และกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเยทส์เขาตอบว่า 'นายน้อย คุณเป็นตัวละครหลักของฉลองของคร
เอริคอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาชี้ไปที่ฟิลิปและพูดว่า “เวรเถอะ! นายพูดว่าอะไรนะฟิลิป? นายกำลังจะพาวินน์ไปที่นั่นเหรอ? นายจะพาเธอไปที่นั่นได้อย่างไร? นายมันก็แค่เศษขยะ!“นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์เซอร์รัสเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นคฤหาสน์ที่ลึกลับที่สุดในเมืองริเวอร์เดล! เจ้าของใช้เงินหนึ่งพันล้านในการสร้าง!“นายกำลังจะบอกว่านายมีคุณสมบัติที่จะได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”เอริคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพูดคำพูดที่เลวร้ายและคำเหน็บแนมทุกประเภทเขาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาเริ่มหัวเราะเยาะฟิลิปเช่นกันฟิลิปเพิ่งทำให้ตัวเองอับอาย!เขายังคงพยายามโอ้อวดแม้ว่าทุกสิ่งจะมาถึงจุดนี้แล้วใบหน้าของวินน์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยความอับอายเช่นกัน เธอเตะฟิลิปใต้โต๊ะเพื่อบอกให้เขาหยุดพูดเธออายเป็นอย่างมากแล้ว แต่ฟิลิปไม่ยอมหยุดพูด!เขาจะหยุดหลังจากที่เขามีปัญหากับทุกคนเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ วินน์ก็เริ่มโกรธอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพอทนกับฟิลิปได้ เธอพูดเบา ๆ ว่า “พอแล้ว หยุดพูด นายอยากให้เราดูโง่เหรอ?”ฟิลิปพูดไม่ออก เขาจับจมูกของเขาและพยักหน้า
บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก
ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค
'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้