Share

บทที่ 6

Author: ปรมาจารย์ยูผู้เล่นควัน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ฟิลิปกดโทรออกหาจอร์จ โทมัส “จอร์จ คุณช่วยผมตรวจสอบโครงการล่าสุดที่วินน์ จอห์นสตัน ต้องดูแลของบริษัทเภสัชกรรม บีคอน หน่อย ว่ามีมูลค่าการลงทุนคือ หนึ่งล้านดอลล่าร์จริงหรือเปล่า? แล้วใครกันที่เป็นลูกค้าและบุคคลที่รับผิดชอบโครงการนี้”

น้ำเสียงที่นอบน้อมของจอร์จลอดผ่านปลายสายออกมาเขาพูดขึ้น “นายน้อย กลุ่มบริษัทเภสัชกรรม บีคอน เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลคลาร์คของเราร่วมลงทุนผมจะให้ประธานบริษัทของบีคอนไปพบกับคุณด้วยตัวเขาเอง”

หืม? บริษัทเภสัชกรรม บีคอน ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลเราลงทุนไว้งั้นเหรอ พ่อของฉันนี่เยี่ยมยอดจริง ๆ!

ฟิลิปรู้สึกเสียดายขึ้นมาทันทีที่ไม่รับมรดกของตระกูลให้เร็วกว่านี้

“ไม่จำเป็นหรอก รีบตรวจสอบโดยเร็วและทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนซะเพื่อที่วินน์จะได้ไม่ต้องลำบากมาก” ฟิลิปพูดขึ้นอย่างใจเย็น

“นายน้อย ผมแนะนำให้คุณซื้อบริษัทของลูกค้านั่นซะ คุณมีเงินมากพออยู่แล้ว” จอร์จแนะนำ

อะไรกันวะเนี่ย! ซื้อบริษัทงั้นเหรอ? อย่างที่คาดไว้ในฐานะพ่อบ้านจากตระกูลร่ำรวย ตาเฒ่าจอร์จ นี่คุณเป็นคนขี้อวดขนาดนี้แล้วเหรอ?

“มันเรียกว่าการทำตัวให้ไม่เป็นจุดสนใจ เข้าใจรึเปล่า? ถ้าผมอยากจะซื้อมันจริง ผมก็คงจะทำไปนานแล้วสิ?” ฟิลิปตอบกลับอย่างขุ่นเคือง

“ถ้าเช่นนั้นก็ได้ครับนายน้อย ผมขอเวลาสิบนาที” จอร์จตอบรับอย่างว่าง่าย

หลังจากวางสาย จอร์จก็ให้เลขาของเขาติดต่อไปยังแดริค ฮอลล์ ผู้บริหารของเภสัชกรรม บีคอน ทันที

เมื่อแดริครับสายเลขาของจอร์จ เขาสั่นไปทั้งตัวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น “ท่านประธานโทมัส คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรเหรอครับ?” นี่เป็นสายจากชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองริเวอร์เดล ประธานของ เอเปก กรุ๊ป! ผู้คนต่างปรารถนาที่จะได้ทานข้าวกับเขาสักมื้อ

“ประธานฮอลล์ ไม่ใช่ผมหรอกที่อยากให้คุณช่วยแต่เป็นนายน้อยของผม” น้ำเสียงของจอร์จ ที่ผ่านปลายสายไปนั้นราบเรียบแต่กลับแฝงความน่ากลัวอยู่ เขาเป็นถึงชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองริเวอร์เดลแห่งนี้ เขาเคารพและนอบน้อมต่อนายน้อยของเขาแต่กับคนอื่น ๆ เขาคือเจ้านาย! ดังนั้นเขาก็ต้องแสดงท่าทีให้ผู้คนยำเกรง

“นาย...นายน้อย?” แดริคนั่งอยู่ในห้องของผู้บริหารที่ตึกบีคอนถึงกับตกตะลึงไป เหงื่อเย็นเรื่มผุดขึ้นมา

นายน้อยของประธานโทมัสอย่างนั้นเหรอ? ชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองมีนายน้อยอย่างนั้นเหรอ? นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้วนะ!

“เช่นนั้นแล้ว นายน้อยของคุณมีอะไรให้ผมรับใช้งั้นเหรอครับ?” แดริคถามขึ้นอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะทำให้จอร์จโมโห ถ้าเขาไม่ระวังคำพูด

“มีพนักงานคนนึงชื่อวินน์ จอห์นสตัน ในบริษัทของคุณ ใครคือลูกค้าที่เธอต้องติดต่อด้วยช่วงนี้?” จอร์จถาม

แดริครู้จักวินน์ จอห์นสตัน เธอเป็นรองผู้จัดการของแผนกการตลาด เธอเป็นหญิงแกร่ง เขาชอบเธอมาเป็นเวลานานแต่เสียดายที่เธอแต่งงานแล้ว ถึงนั่นจะไม่ใช่เรื่องสำคัญก็เถอะ

แดริคกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่แผนกการตลาด เหงื่อเปียกชุ่มหัว เมื่อพนักงานในแผนกการตลาดของบริษัทเภสัชกรรม บีคอน เห็นแดริคเข้า พวกเขาก็ต่างพากันเงียบกริบ

“รองผู้จัดการจอห์นสตันอยู่ที่ไหน?” แดริคถามขึ้น

“เธอออกไปเจรจาธุรกิจค่ะ” พนักงานคนนึงตอบกลับมา

“ใครคือลูกค้าคนนั้น?” แดริคถาม

“ผู้จัดการมอรี่ วอร์เรน แห่งเภสัชกรรมวิคตอรี่ค่ะ” พนักงานคนเดิมตอบ

ฟิลิปยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา หันหลังกลับ ก่อนจะรายงานอย่างนอบน้อม “ท่านประธานโทมัส ลูกค้าคนนั้นคือมอรี่ วอร์เรน จากเภสัชกรรมวิคตอรี่ครับ”

“ดีมาก เข้าใจแล้ว” จอร์จกดตัดสายไปทันที จากนั้นจอร์จก็ใช้อำนาจของเขาตักเตือนบริษัท เภสัชกรรมวิคตอรี่ ด้วยความที่รับใช้ตระกูลนี้มาเป็นเวลานานทำให้เขาเข้าใจความคิดความอ่านของนายน้อยได้เป็นอย่างดี มอรี่ วอร์เรน จากบริษัทเภสัชกรรมวิคตอรี่ คนนี้ต้องทำในสิ่งนายน้อยไม่พอใจเป็นแน่

6 นาทีหลังจากนั้น ฟิลิปที่กำลังเดินทางไปโรงพยาบาลได้รับโทรศัพท์จากจอร์จ “นายน้อย ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ”

“ดีมาก อย่าบอกวินน์เรื่องนี้ แล้วก็บอกทุกคนให้เงียบไว้ซะ ผมไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปที่ไหนเด็ดขาด” ฟิลิปพูด

“เข้าใจแล้วครับน้อย ไม่เป็นที่สนใจ” จอร์จหัวเราะเสียงต่ำออกมา

หลังจากวางสาย ฟิลิปยืนจ้องตึกของโรงพยาบาลที่อยู่ตรงหน้า เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่น โอ้ วินน์ คุณพูดอยู่เสมอว่าผมไม่สามารถช่วยคุณได้ ผมจะบอกคุณให้นะว่าตอนนี้ ผมสามารถช่วยคุณได้เพียงแค่เอ่ยปากพูดออกมาหนึ่งประโยคเท่านั้น ถ้าวันนึงคุณรู้ว่าผมเป็นคนช่วยเหลือคุณ คุณจะมีท่าทียังไงนะ?

กลับมาที่ร้านอาหารเวสเทิร์น ชั้นหก มอรี่ วอร์เรน ดื่มไปหลายแก้วและตอนนี้มือไม้ของเขาก็เริ่มอยู่ไม่สุข

“รองผู้จัดการจอห์นสตัน คุณทานอาหารอย่างเดียวเลยไม่แตะไวน์ของคุณเลยสักนิด คุณดูถูกผมอย่างนั้นเหรอ?” มอรี่แสร้งทำสีหน้าเป็นทุกข์ พูดด้วยเสียงเข้ม

วินน์ยิ้มออกมาอย่างขอโทษก่อนจะอธิบาย “ผู้จัดการมอรี่ คุณเข้าใจผิดแล้วฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยดีช่วงสองสามวันมานี้ฉันก็เลยดื่มไม่ได้ค่ะ” เจ้าอ้วนน่ารังเกียจนี่คอยแต่จะมาแตะตัวฉัน น่ารำคาญที่สุด!

“เฮ้อ ในเมื่อคุณพูดอย่างนั้นผมก็คิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องคุยกันอีกต่อไป” บอรี่พ่นลมหายใจออกมาก่อนจะข่มขู่วินน์ “รองผู้จัดการจอห์นสตัน คุณก็คงจะรู้ดีว่าไม่ใช่แค่เภสัชกรรมบีคอนเท่านั้นที่พยายามจะร่วมมือกับเรา มีคนอีกมากมายที่มาขอร้องให้ได้เข้าพบผม”

ด้วยคำพูดของเขา วินน์ขมวดคิ้วจ้องมองไปที่แก้วไวน์บนโต๊ะอย่างชั่งใจ “ก็ได้ค่ะฉันจะดื่มหนึ่งแก้ว” วิน์นพูด เธอหยิบขวดไวน์ขึ้นมาก่อนจะรินใส่แก้วของตัวเอง

โมรี่ยิ้มออกมาก่อนจะมองไปที่วินน์ หญิงสาวคนนี้ช่างงดงามภายใต้แสงไฟสลัวเสียจริง

วินน์ดื่มหมดแก้วภายในครั้งเดียว “ผู้จัดการวอร์เรนฉันหวังว่าคุณจะพอใจแล้ว ทีนี้เรามาคุยเรื่องความร่วมมือระหว่าง…”

“รองผู้จัดการจอห์นสตันอย่ารีบไปสิ ทำไมเราไม่ค่อยขึ้นไปคุยกันช้า ๆ ด้านบนล่ะ” มอรี่ วอร์เรน เผยเป้าหมายที่แท้จริงของเขาออกมาเมื่อพูดจบ เขาก็วางมือลงบนต้นขาของวินน์และพยามที่จะล้วงลึกเข้าไปมากกว่านั้น

‘เพี๊ยะ!’

วินน์ลุกขึ้นยืนก่อนจะตบลงไปที่แก้มของชายหนุ่มอย่างโกรธจัด “ผู้จัดการวอร์เรน พอได้แล้ว!”

“นังแพศยา! กล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน!” มอรี่คำรามอย่างเดือดดาลและยืนขึ้น เขายกแขนขึ้นและกำลังจะตบหน้าวินน์

“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!”

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะเขา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นว่าวินน์เดินหนีไปแล้ว เขาส่งเสียงคำรามลอดผ่านโทรศัพท์ไป “นี่ใครโทรมาวะ?”

“มอรี่ วอร์เรน! นี่แกควรพูดกับฉันแบบนี้งั้นเหรอ?” จากปลายสาย น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวอันคุ้นเคยคำรามออกมา

“ท่านประธานลูวอิส ผมขอโทษครับ ขอโทษจริง ๆ พวกพนักงานส่งเสริมการขายชอบโทรมาหาผมช่วงนี้น่ะครับ ว่าแต่ท่านมีอะไรให้ผมช่วยอย่างนั้นเหรอ?” มอรี่รีบปรับเสียงให้นอบน้อมราวกับเด็กเล็ก ๆ ที่ว่าง่าย ชายคนนี้คือ ประธานลูวอิส ผู้บริหารของเภสัชกรรมวิคตอรี่ เจ้านายของเขา! เขาโทรมาทำไมกันนะ? ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะทำแผนการของเขาพังแต่มอรี่ก็ไม่กล้าปริปากบ่น

“นายถามฉันอย่างนั้นเหรอ? นี่นายตั้งใจจะก่อกวน รองผู้จัดการจอห์นสตัน ในโครงการร่วมมือของพวกเราอย่างนั้นเหรอ?” ประธานลูวอิส ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เขาได้รับสายจากชายที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองริเวอร์เดล จอร์จ โธมัส คำพูดของชายผู้นั้นเต็มไปด้วยคำข่มขู่ บ้าเอ๊ย ไอ้เจ้ามอรี่ วอร์เรน นี่ช่างกล้าไปแหยมกับคนมีอำนาจขนาดนั้น นี่มันอยากมีเรื่องรึไงกัน?

“ท่านประธานลูวอิส คุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?” มอรี่ตกตะลึง หรือว่าวินน์จะบอกเขาเรื่องนี้ แต่เธอเป็นแค่รองผู้จัดการของแผนกการตลาดไม่มีทางที่เธอจะมีเบอร์ติดต่อกับท่านประธานลูวอิสได้

“นี่นายยังมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอ? อยากจะถูกไล่ออกหรือยังไง?” ประธานลูวอิสโกรธจัด ส่งเสียงคำรามออกมา “การร่วมมือกันของเรากับเภสัชกรรมบีคอนได้รับการอนุมัติแล้ว และนายต้องไปขอโทษรองผู้จัดการจอห์นสตันเดี๋ยวนี้ ด้วยตัวของนายเอง! ถ้าเธอไม่ยกโทษให้ ก็อย่าคิดจะกลับมาที่บริษัทนี้อีก! ไสหัวไปที่อื่นได้เลย!”

‘ตุ๊บ!’

สายตัดไป มอรี่ วอร์เรน ประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาสามารถบอกได้เลยว่าท่านประธานโกรธจัด

ไม่รอช้า เขารีบพุ่งตัวตามวินน์ออกไป “รองผู้จัดการจอห์นสตัน กรุณารอก่อน”

มอรี่ทำตัวราวกับเด็กที่ว่านอนสอนง่าย เขาก้มหัวของเขาลง โค้งตัวลงเล็กน้อย กุมมือของเขาไว้ด้านหน้าเพื่อแสดงถึงความขอโทษ “รองผู้จัดการจอห์นสตัน ผมขอโทษจริง ๆ ที่ผมทำตัวรุ่มร่ามก่อนหน้านี้ ผมจะเซ็นสัญญาข้อตกลงความร่วมมือระหว่างเราให้เร็วที่สุด ผมหวังว่ารองผู้จัดการจอห์นสตัน จะยกโทษให้ผมที่หน้ามืดตามัวไปกับความลุ่มหลงได้”

วินน์ตกตะลึงเธอจ้องไปที่มอรี่ด้วยความงุนงงและสับสน “ผู้จัดการวอร์เรน คุณหมายความว่าอย่างนั้นจริง ๆ เหรอคะ?” นี่เป็นคำสั่งที่เธอได้รับมอบหมายให้ทำมาร่วมเดือน เงินหนึ่งแสน! แค่ค่านายหน้าที่เธอจะได้ก็มีมูลค่ากว่าหลายหมื่นแล้ว! ในที่สุดพวกเขาก็จะสามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลของมิล่าได้เสียที

ภายใน 10 นาที มอรี่และวินน์เซ็นสัญญาข้อตกลงกันเรียบร้อย ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วินน์ยังคงตกตะลึงอยู่

“ผู้จัดการวอร์เรน คุณบอกว่าผู้บริหารของคุณอนุมัติเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเองใช่ไหมคะ?” วินน์ถามยังคงรู้สึกสับสน

มอรี่ยิ้มให้เธออย่างประจบประแจงตลอดเวลาที่เซ็นสัญญากัน “ใช่แล้วครับ รองผู้จัดการจอห์นสตัน คุณน่าจะบอกผมว่าคุณเป็นคนรู้จักของท่านประธานหลุยส์ พวกเราเกือบจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันซะแล้ว”

วินน์พยักหน้ายังคงแปลกใจ เธอจะเป็นคนรู้จักของประธานลูวอิสแห่งเภสัชกรรมวิคตอรี่ได้ยังไง? ต้องมีใครเป็นคนช่วยเธอไว้แน่ หรือจะเป็นฆวน ปาร์คเกอร์? เธอพูดเรื่องนี้กับเขาเมื่อเช้านี้

‘ฉันจะต้องถามเขา’ วินน์คิด เธออดไม่ได้ที่เปรียบเทียบฟิลิปและฆวนในใจความรู้สึกดูแคลนฟิลิป เพิ่มมากขึ้น สามีของเธอไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ!

อีกด้านหนึ่งฟิลิปไม่ได้รับรู้เลยว่าหลังจากที่เขาช่วยวินน์แก้ปัญหานี้ได้อีกฝ่ายกลับเข้าใจผิดคิดว่าศัตรูของเขา ฆวน คือคนที่ช่วยเธอ ถ้าเขารู้เรื่องนี้เข้า คงจะกระอักเลือดตายเป็นแน่

บ่ายวันถัดมา ฟิลิปเดินขึ้นรถเบนท์ลีย์ไป หลังจากออกมาจากโรงพยาบาล เขามีนัดไปเจอใครบางคนกับจอร์จในวันนี้

หลังจากฟิลิปออกจากรถมาหญิงสาวที่ยืนอยู่ห่างออกไปบ่นพึมพำ “ทำไมด้านหลังของผู้ชายคนนั้นเหมือนฟิลิป…”

ลินน์ จอห์นสตัน อยู่ที่โรงพยาบาลวันนี้เพื่อมาเยี่ยมลูกสาวของลูกพี่ลูกน้องของเธอ เธอไม่ได้เต็มใจที่จะมาแต่พ่อแม่ของเธอบอกว่ามันจะเป็นการเสียมารยาท ถ้าเธอไม่มาเยี่ยมสมาชิกในตระกูลจอห์นสตัน

อย่างไรก็ตามเมื่อมาถึงทางเข้าโรงพยาบาล ลินน์ก็บังเอิญเจอฟิลิปที่ก้าวขึ้นรถไป แต่เธอก็คิดได้ว่าพี่เขยลูกพี่ลูกน้องที่ไร้ค่าของเธอไม่สามารถไม่มีปัญญาที่จะมีรถหรูหราอย่างเบนท์ลีย์ได้แน่นอน ดังนั้น ลินน์จึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจและเดินเข้าตึกผู้ป่วยของโรงพยาบาลไป

ด้านในรถเบนท์ลีย์ที่กำลังเคลื่อนตัวไป ฟิลิปถามขึ้นอย่างเกียจคร้าน “จอร์จ เราจะไปเจอใครงั้นเหรอวันนี้ พวกเขาจะสร้างปัญหาหรือเปล่า?”

จอร์จตอบกลับอย่างนอบน้อม “นายน้อย เขาไม่ใช่ตัวสร้างปัญหาแน่นอน เขาเป็นนักสะสมในประเทศของเรา คิดซะว่าเขาเป็นเพื่อนของผม”

“แล้วทำไมผมต้องไปพบเพื่อนของคุณ?” ฟิลิปถามขึ้น สหายรักจอร์จ หรือนี่จะเป็นการซ้ำรอยของหนังเรื่องหุบเขาเร้นรัก? คุณอายุขนาดนี้แต่ยังยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่อีกเหรอ?

จอร์จ ได้แต่นั่งยิ้ม “นายน้อย นี่เป็นเพียงการพบกันทางธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีมูลค่าพันล้าน คุณต้องเรียนรู้จากประสบการณ์เพื่อที่คุณจะได้สืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูลได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้”

คำตอบนี้ทำให้ฟิลิปถึงกับเงยหน้าขึ้นมองจอร์จ ธุรกิจที่มีมูลค่าพันล้านคือธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนั้นเหรอ? เขาพยายามฝืนตัวเองไม่ให้ด่าออกไป ก่อนจะพูดขึ้น “ จอร์จ คุณรู้หรือเปล่าว่าวัวตายยังไง?”

โธ่ ๆ หลังจากไม่ได้พบกันมาเจ็ดปี ชายแก่คนนี้ยิ่งอวดดีมากขึ้นทุกวันทุกวัน ในฐานะทายาทของตระกูลสูงศักดิ์ ฟิลิปรู้สึกถึงความน่ากลัวในอีกรูปแบบนึง

Related chapters

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 7

    ในที่สุดรถเบนท์ลีย์ก็มาหยุดที่ ริเวอร์เดล เวอร์เทียส คอร์ท ร้านอาหารที่ดังที่สุดในเมือง สถานที่ที่มีเฉพาะเหล่าเศรษฐีแหละคนดังถึงจะมารับประทานอาหารที่นี่ได้ เวอร์เทียส คอร์ท กำหนดให้ผู้ที่จะมาทำการจองร้านจะต้องเป็นสมาชิกที่มีการใช้จ่ายขั้นต่ำอย่างน้อยหนึ่งล้าน เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์การเป็นสมาชิกเอาไว้ได้และที่นั่น ผู้ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าของ เวอร์เทียส คอร์ท คือนักธุรกิจชื่อดัง ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้ง กรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์ บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและส่งออกโดยจะเน้นที่ผลงานศิลปะ ในฐานะผู้บริหารของบริษัท แค่ตัวรัสเซลเองก็ร่ำรวยมีทรัพย์สินถึงสามพันล้าน และเขายังเป็นนักสะสมชื่อดังที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย คนดังที่มาอยู่ในชุมชนของนักสะสมท้องถิ่น รัสเซลได้พาเหล่าผู้บริหารระดับสูงอีกกว่าสิบคน มายืนรอด้วยความเคารพที่ด้านหน้าทางเข้าร้าน เวอร์เทียส คอร์ท กับเขาด้วย เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้เหล่าผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านไม่น้อย บางส่วนถึงกับอุทานออกมา“นั่นไม่ใช่ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้งกรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์หรอกเหรอ? เขามายืนรอใครกัน มากันเยอะแยะ อลังการขนาดนี้?”“ช่างเป

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 8

    เสียงที่พูดขึ้นมาไม่น่าพิศมัยนัก ฟิลิปเงยหน้าขึ้นมาเจอเข้ากับชายที่พุงยื่นพลุ้ย จ้องมาที่เขาด้วยสายตาเยาะเย้ยแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก? ฉันจะเป็นแมงดาหรือไม่แล้วยังไง? ฉันไม่รู้จักแกด้วยซ้ำ ฟิลิปทำปากเบะ ตั้งใจจะไม่สนใจเขา ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินออกไปแต่เจ้าอ้วนนั่นไม่ปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ เขาเดินไปขวางทางฟิลิป และพูดจาถากถางเขาต่อหน้าเขาตรง ๆ “ทำเป็นเมินผมงั้นเหรอ? นิสัยดีเยี่ยมไปเลย! ผมได้ยินมาว่าธุรกิจของคุณพังไม่เป็นท่า และตอนนี้รองผู้จัดการจอห์นสตันของเราก็เป็นคนหาเลี้ยงปากท้องครอบครัวแทน ชายหนุ่มอย่างคุณฉันนี่ช่างกล้าที่จะเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินนะ”ฟิลิปขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจำชายคนนี้ได้เขาคือ เกวิน แซค ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทที่วินน์ทำงานอยู่ ชายคนนี้เคยพยายามที่จะข่มขู่วินน์ แล้วฟิลิปก็เคยมอบบทเรียนให้กับเขา แต่ในตอนนี้เค้ามองฟิลิปว่าอยู่ต่ำกว่าเขา ชายหนุ่มจึงดูถูกเหยียดหยามเขาไม่หยุดหย่อนเพื่อนร่วมงานคนอื่นของวินน์ต่างก็มองฟิลิปด้วยสายตาแปลกประหลาด พวกเขารู้เรื่องของฟิลิปเพียงเล็กน้อย รู้เพียงแค่ว่าเขาเคยเป็นนักลงทุนที่มุ่งมั่น แต่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ในสถานะขอ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 9

    ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ โรสโบกบัตรไปมาก่อนจะชำเลืองมองไปทางฟิลิป อย่างเย่อหยิ่งและพูดขึ้น “ช่วยตรวจสอบที ว่าบัตรใบนี้สามารถจองห้องอาหารส่วนตัวได้หรือเปล่า”ทุกคนกลั้นหายใจรอคอยที่จะได้เห็นฟิลิปขายหน้าหญิงสาวที่อยู่ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ รับบัตรไปรูดที่เครื่องและทันทีสีหน้าของเธอก็เป็นกังวลขึ้นมา เธอถามขึ้น “คุณผู้หญิงคะ นี่นี่บัตรของคุณงั้นเหรอ?”เมื่อโรสเห็นดังนั้นเธอก็ส่ายหน้า ยื่นมือของเธอที่ทาเล็บสีแดงก่ำออกมา ชี้ไปที่ฟิลิปที่ถูกยืนห้อมล้อมและโดนหัวเราะเยาะอยู่ “ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นของเขา” ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องเหลวไหลสิ้นดี! ฟิลิปทำให้ตัวเองต้องขายหน้า และวินน์ก็จะเสียหน้าไปด้วยเช่นกัน นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ! นี่มีชายที่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าอยู่ตลอดจริง ๆ งั้นเหรอ?โรสมีความสุขเป็นอย่างมาก เธอจ้องมองไปที่วินน์ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อย่างมีความสุข ก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้น “รองผู้จัดการจอห์นสตัน สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”วินน์รู้สึกขายหน้าเป็นที่สุด เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างขุ่นเคือง เตรียมตัวที่จะตำหนิเขาแต่หญิงสาวที่อยู่แผนกต้อนรับก็เข้ามาขัดเสียก่อน เธอลุกขึ้นยืน

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 10

    ฟิลิปจ้องไปทางพวกเขาอย่างใจเย็น สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกไคล์มองมาที่ฟิลิปด้วยความไม่พอใจ ชายคนนี้ดูธรรมดามาก และเขายังใจเย็นขนาดนี้ได้ยังไงกัน? “น่าสนใจดีนี่!”“พี่ชาย คุณสามารถจ่ายเงินสามแสนได้ไหม?” ไคล์ไม่ใช่พวกนักเลงที่จะได้เริ่มลงมือต่อยตีโดยที่ไม่ถามหาเหตุผล สามแสนเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนทั่วไป ไคล์รู้สึกว่าชายหนุ่มอย่างฟิลิป ไม่สามารถจ่ายเงินจำนวนนี้ได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังต้องถาม ต้องมีศิลปะทางการทูตเสียก่อนที่จะลงมือรุนแรง“ฉันขอโทษด้วยนะ แต่เขาเป็นคนที่ฝ่าไฟแดงมา อย่างนั้นแล้วเขาก็ควรจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด อีกอย่างเราก็ไม่ได้ชนกันเสียหน่อย” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็นเจคอปชี้หน้าฟิลิป ก่อนจะคำรามออกมาด้วยความโกรธ “หมายความว่าแกจะไม่จ่ายยังงั้นเหรอ?”ฟิลิปจ้องไปที่เขา เงียบไม่ตอบรับไคล์ขมวดคิ้วเล็กน้อย หันหน้าไปมองทางรถฮาร์ลีย์ที่พังยับเยินอยู่บนพื้นถนนก่อนจะพูดขึ้น “พี่ชายสามแสนไม่มากเท่าไหร่หรอกนะ ก็แค่ขาข้างหนึ่ง”นี่เป็นคำขู่ สายตาของฟิลิปเปลี่ยนเป็นเย็นชา แววตาของเขาส่องประกายวิบวับในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลที่มั่งคั่ง เงินสามแสนเป็นปัญหาสำหรับเขาไหม? ก็ไม่เลย แต่เ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 11

    เฮ้อ! ภรรยาของเขาสวยเกินไปทำให้ผู้คนมากหน้าหลายตามาตามจีบเธอ มันทำให้ฟิลิปปวดหัว“เฮ้ เอเดนมาถึงแล้ว! เข้ามาสิ มานั่งลงข้างลุงจอห์นสตัน” มาร์ธาตื่นเต้นดีใจ เธอออกไปต้อนรับเขา “เธอเอาของขวัญมาด้วยทำไม? ไม่จำเป็นเลย เธอใจดีเกินไปแล้วแค่เธอมาที่นี่ก็ดีมากแล้ว”“แต่นี่เป็นงานวันเกิดของลุงจอห์นสตันนี่ครับ” เอเดนยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งด้านข้างชาร์ลส์ในตอนนี้เองก็ผู้คนต่างพากันจ้องมองมาที่ฟิลิปด้วยสายตาเยาะเย้ย ลูกเขยของตระกูลจอห์นสตัน คนนี้ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี! แม้แต่คนนอกยังได้นั่งข้างชาร์ลส์ จอห์นสตัน แต่ในฐานะลูกเขยเขากลับได้นั่งใกล้ประตู การปฏิบัติที่แตกต่างนี้แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดมาร์ธายิ้มอย่างจริงใจในขณะที่เธอจ้องมองไปที่เอเดนราวกับว่าเธอกำลังจ้องมองลูกเขยในอนาคตอยู่ “ต้องขอบคุณเอเดน ที่ช่วยจองห้องรับรองส่วนตัวนี้ ทำให้พวกเราได้มาทานอาหารที่เวอร์เทียส คอร์ทในวันนี้”ผู้คนต่างมองไปที่เอเดนด้วยด้วยความเอ็นดู การที่จะจองห้องจัดเลี้ยงรับรองส่วนตัวที่ เวอร์เทียส คอร์ทได้นั้นจะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นและการที่จะเป็นสมาชิกที่นี่ได้ ก็จะต้องมียอดใช้จ่ายอย่างน้อยหนึ่งล้านต่อปี เขาช่างเ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 12

    มองดูผู้คนที่ส่งเสียงเกรียวกราว วินน์รู้สึกราวกับนั่งอยู่บนเข็ม ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าฟิลิปเตรียมอะไรมา แต่เขาก็บอกกับเธอว่ามันคือภาพวาดฟิลิปไม่ใช่คนโง่ดังนั้นเขาจึงเตรียมภาพวาดที่ได้มาจากรัสเซล แต่น่าเสียดายที่วินน์ไม่ได้รู้ เธอคิดว่าฟิลิปคงซื้อภาพวาดทั่ว ๆ ไปมาเท่านั้น แต่ตอนนี้ เอเดนได้มอบภาพวาดของศิลปินที่มีชื่อเสียงชาวจีน และได้รับคำชมมากมายจากทุกคน ภาพวาดของ ฟิลิป เมื่อเทียบกับของหายากเช่นนั้น รั้งแต่จะเป็นการทำให้เขาโดนดูถูก ถ้าเขาเอามันออกมา“มันก็แค่ของขวัญธรรมดา ไม่มีอะไรให้ดูหรอก” วินน์พูดขึ้นแทนฟิลิป เธอจ้องเขาด้วยสายตาพิฆาต ถ้าเขาทำให้ตัวเองต้องอับอายต่อหน้าทุกคนวันนี้เธอจะเกลียดเขาตลอดไป! เธอคงจะไม่มีวันเชิดหน้าชูตาต่อหน้าเอเดนได้อีก“พี่ ทำไมพี่หยาบคายอย่างนั้นล่ะ พี่จะเมินเฉยต่อน้ำใจของพี่เขยลูกพี่ลูกน้องอย่างนั้นเหรอ?” ลินน์หัวเราะคิกคักในขณะที่พูด เธอเดินเข้ามาและดึงกล่องของขวัญกล่องยาวที่อยู่ใต้โต๊ะที่ฟิลิปแอบซ่อนไว้ออกไป“ดูสิมันเป็นกล่องของขวัญกล่องยาวเหมือนกันเลยจะเป็นภาพวาดเหมือนกันไหมนะ?” ลินน์จงใจลากเสียงของเธอที่เต็มไปด้วยคำถากถางฟิลิปไม่รู้จะพูดอะไรเขาจึ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 13

    “ในเมื่อมิสเตอร์คลาร์กไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมก็จะไม่รบกวนพวกคุณต่อขอให้สนุกให้เต็มที่นะครับ” จู่ ๆ คาเวียร์ก็เข้ามาพร้อมกับของขวัญแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้ทุกคนตกตะลึงชาลส์กระแอมขึ้นมา ในมือยังคงถือถือบัตรแล้วถามขึ้น “มีใครในนี้ที่รู้จักมิสเตอร์คลาร์กบ้าง?”ทุกคนส่ายหน้า คน ๆ นั้นจะต้องมีอำนาจถึงขนาดที่ทำให้เจ้าของร้านเวอร์เทียส คอร์ท นำอาหารหน้าตาน่ากินและไวน์ชั้นเลิศมาให้ด้วยตัวของเขาเอง เขาจะต้องไม่ใช่คนที่ใครก็จะเข้าถึงได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน“จะเป็นไปได้ไหมที่จะเป็นฟิลิป?”ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนพูดติดตลกขึ้น แต่ทุกคนในห้องก็ส่งเสียงหัวเราะลั่นออกมา“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว! มันจะมีจะไปใช่เจ้าเศษขยะนั่นได้ยังไง? ถ้าเป็นเขาจริง ฉันจะกินไวน์ทั้งขวดนี้ไปเลย”“นอกเสียจากนามสกุลที่เหมือนกัน มีอะไรอีกที่พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของเราจะเอาออกมาให้พวกเราดูได้?”กลุ่มเด็กวัยรุ่นสองสามคนพูดดูถูกเขาอย่างไม่ไว้หน้าวินน์ทนต่อไปอีกไม่ไหวเธอตำหนิขึ้นมาอย่างโกรธจัด “พอได้แล้วพวกนายพูดอะไรกันอยู่? ถึงยังไงซะเขาก็ยังเป็นพี่เขยลูกพี่ลูกน้องของพวกเธอ!”ชิ! กลุ่มเด็กวัยรุ่นเลิกคิ้วขึ้นอย่างหยิ่งยโ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 14

    ฟิลิปนิ่งคิดก่อนที่จะพูดขึ้น “ผมจะยังไม่เจอเขาตอนนี้ ไว้ค่อยคุยกันโอกาสหน้าแล้วกัน”แอนนาตอบกลับ “เข้าใจแล้วค่ะมิสเตอร์คลาร์ก” หลังจากวางสาย ฟิลิปนั่งลงที่โถงทางเดินและผล็อยหลับไปเช้าวันถัดมา วินน์พูดกับเขาอย่างเย็นชา “ฉันจะพามิล่ากลับบ้านบ่ายนี้ คุณจะไปกับฉันไหม?”ฟิลิปพยักหน้า ยิ้มให้เธออย่างขมขื่น “ผมจะไปขอโทษคุณพ่อ”หัวใจของวินน์เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น แต่เธอยังคงวางหน้าเฉย และพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรในตอนบ่าย ฟิลิปและวินน์พามิล่ามาที่บ้านตระกูลจอห์นสตัน บรรยากาศในบ้านเย็นยะเยือกขึ้นในทันทีเมื่อพวกเขามาถึง“พ่อคะ หนูกลับมาแล้ว” วินน์แกล้งพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีไม่มีใครออกมาต้อนรับพวกเขา ชาร์ลส์นั่งอยู่ที่โซฟาสวมแว่นตาอ่านหนังสือในขณะที่เขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์ส่วนมาร์ธากำลังยุ่งอยู่ในครัวฟิลิปวางมิล่าลง เด็กหญิงตัวน้อยรีบไปหลบที่ระหว่างขาด้านหลังพ่อของเธอ สวมกอดขาของฟิลิปไว้แน่น เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตากลมโตใสซื่อของเธอ และบ่นพึมพำด้วยเสียงเล็ก “พ่อคะ คุณตากับคุณยายไม่ชอบหนูเหรอคะ?”ฟิลิปย่อตัวลงก่อนจะลูบหัวเล็กของมิล่าด้วยความรักใคร่ เขาส่ายหน้าก่อนจะ

Latest chapter

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 200

    นั่นคือธีโอ แซนเดอร์!ฟิลิปไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัวเขา เขากล้าดียังไงถึงไม่แสดงความเคารพ?บ๊อบเป็นคนแรกที่โกรธ เขาตะโกนใส่ฟิลิปว่า “ฟิลิป เมื่อมิสเตอร์แซนเดอร์มาที่นี่เพราะนาย ทำไมนายถึงยังนั่งอยู่? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายไม่มีมารยาททางสัมคมเหรอ?”หลังจากที่บ๊อบตะโกนอย่างโกรธจัด เอริค อารอน และคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าเขาเช่นกัน“ฟิลิป ยืนขึ้นและขอโทษมิสเตอร์แซนเดอร์เดี๋ยวนี้!”“ไอ้ขยะคนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ”พวกเขากำลังพูดถึงฟิลิปมากขึ้นและมากขึ้นคนเหล่านี้ไม่ชอบฟิลิปมานานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดสอดถ้าธีโอโกรธ ฟิลิปคงเสร็จแน่!อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและมองทุกคน จากนั้นเขาก็คว้าทัพพีและตักซุปให้วินน์ เขากล่าวว่า “นี่ไม่เลว มันดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรดื่มอีก”เวรเถอะ!บ๊อบ เดือดพลาด!ไอ้ขยะคนนี้ดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง!เมื่อบ๊อบกำลังจะตะโกนใส่เขาอีกครั้ง ฟิลิปจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่ง”“ได้ครับ!”ธีโอถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงอย่างมีความสุข เขานั่งถัดจากรัสเซลและพวกเขาก็พยักหน้าเมื่อสบตากันบ้าอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น? นี้เริ่มแปลกมากไปแล้วทุ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 199

    “ธีโอ แซนเดอร์? ธีโอ แซนเดอร์คนไหน?”"มิสเตอร์ธีโอ แซนเดอร์ จากองค์กรการกุศลธีโอดอร์?”“ราชาโลกของใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล ธีโอ แซนเดอร์ เหรอ? เขามาที่นี่ทำไม”ก่อนที่ญาติพี่น้องและรุ่นลูกหลานของครอบครัวเยทส์ที่อยู่ในลานบ้านจะฟื้นคืนสติ ทุกคนในห้องโถงเริ่มวิตกกังวลเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการและนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างรัสเซล ธีโอได้โด่งดังในเมืองริเวอร์เดลเนื่องจากเขามีอำนาจทางด้านมืดหากผู้มีอำนาจเช่นนั้นไม่ได้มาที่นี่อย่างจริงใจ อาจกล่าวได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อปลิดชีพใครบางคนเป็นเรื่องธรรมดาที่บ๊อบจะประหม่าไม่ใช่ทุกคนที่จะติดต่อกับชายผู้มีอำนาจอย่างธีโอได้ อีกอย่างคือไม่มีบุคคลธรรมดาคนไหนที่จะเชิญเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง ธีโอก็เดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ชุดสูทสีขาวและหมวกทรงฟีโดราของเขาเปล่งประกายไปทั่วอาณาเขต ใครบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดขยี้ด้วยการปรากฏตัวของเขาแน่นอนว่านั่นคือธีโอ แซนเดอร์ ราชาของโลกใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล!การปรากฏตัวของเขามีอำนาจเหนือทั้งงานฉลองเจสตกใจมาก นี่คือชายผู้ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมากในเมืองริ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 198

    'จอร์จ โธมัส คุณมันโคตรจะทำลายชีวิตฉัน!'ฟิลิปไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและเดินผ่านหน้าทุกคน โดยมีวินน์อยู่ข้าง ๆ เขาเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาที่หลังของเขามากกว่าสิบครั้ง พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับลูกศรพันดอกเมื่อพวกเขาอยู่ในลานบ้าน ทุกคนก็นั่งลง แน่นอนว่ารัสเซลนั่งอยู่ในห้องโถง หลังจากที่บ๊อบนั่งลงก่อนเมื่อเอริคเห็นว่าทุกคนอยู่ในห้องโถงและลานทางเดินกลาง เขาจึงตัดสินใจที่อยู่ตรงลานด้านนอก เขาเยาะเย้ยในขณะที่รู้สึกพอใจกับตัวเองว่า “ฟิลิป ไม่คิดว่าขยะอย่างนายจะรู้จักผู้ประกอบการและนักสะสมอย่างรัสเซล ช่างโชคดีเสียนี่กระไร!”แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ทุกคนก็บอกได้เลยว่ามันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ฟิลิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ความทุกข์ในใจเริ่มรุนแรงขึ้นเอริคเป็นตัวเคราะห์ร้ายของครอบครัวเยทส์ถึงกระนั้นฟิลิปก็ยังเพิกเฉยต่อเขา เขาเป็นแค่คนโง่ที่ไร้ค่า แล้วทำไมเขาต้องไปยุ่งกับเอริคด้วย?อีกด้านหนึ่ง รัสเซลเพิ่งนั่งลง เมื่อเขาเห็นฟิลิปที่มุมของลานด้านนอก กำลังถูกดูถูกโดยเอริคด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจคนฉ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 197

    บ๊อบรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้รัสเซลอยู่ที่นี่และให้ของขวัญเป็นภาพ 'กุ้ง' โดยฉี ไป่ซี่ นี่เป็นของขวัญล้ำค่า!ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถให้ของขวัญที่หรูหราเช่นนี้ได้ทุกคนเดินตามบ๊อบและออกมาที่ลานด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็มาถึงทางเข้าคฤหาสน์เอริคเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ขยับตัวตามมา เขาก็พูดอย่างเกลียดชังว่า “เป็นอะไรไป? คนสำคัญอย่างรัสเซล ฟิลด์ อยู่ที่นี่ นายไม่อยากไปต้อนรับเขาเหรอ?”ผู้ชายคนนี้มีตะปูที่ก้นของเขาเหรอ?เขายังนั่งอยู่กับที่ได้อย่างไร?หลังจากเสียงเตือนของเอริค ฟิลิปครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าคำพูดของเอริคนั้นสมเหตุสมผล เขาลุกขึ้นและตามวินน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนห่างจากฝูงชนเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่ต้องการที่จะไปอยู่ด้านหน้า ฟิลิปไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ทุกคนยืนที่ประตูด้วยความเคารพ รถมายบัคสีดำหยุดอยู่ที่ทางเข้าทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและรัสเซลก็ลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มบ๊อบเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากางมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า “มิสเตอร์ฟิลด์ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคนสำคัญเช่นคุณจะมาที่

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 196

    ปังประตูห้องน้ำเปิดออก และเจสก็เข้ามาเมื่อนางเห็นภาพตรงหน้าเธอจึงหันหลังเดินจากไป ก่อนที่เธอจะจากไป อย่างไรก็ตามเธอหันกลับมาและพูดว่า “พวกนายแต่งงานมานานแล้ว หาที่ที่ดีกว่านี้ ถ้าพวกนายอยากลึกซึ้งระหว่างกัน”หลังจากที่เจสจากไป ฟิลิปพูดด้วยความรำคาญว่า “ต้องมีอะไรผิดปกติกับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เธอทนไม่ได้ที่เห็นสามีและภรรยามีความสุขกัน”วินน์กลอกตามองเขาและเดินเข้ามาหาเขา เธอยืดหลังให้ตรงและติดกระดุมเสื้อให้เขาฟิลิปอยากจะสานต่อแต่วินน์ปัดมือของเขาออก “หยุด หาเศษหาเลย ไปกันเถอะ."ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เขาบ่นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เธอกลัวอะไร?"วินน์หันกลับมาและแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ เธอดูเย้ายวนภายใต้แสงแดดเมื่อพวกเขากลับมาที่งานเลี้ยง ก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้วฟิลิปเพิ่งนั่งลงได้หนึ่งนาทีเมื่อได้รับข้อความจากจอร์จ'นายน้อยพร้อมแล้ว รอการเซอร์ไพรส์ก่อนนะครับ'แปลกมันหมายความว่าอย่างไร?ฟิลิปตอบอย่างรวดเร็วว่า 'จอร์จ คุณหมายความว่าอย่างไร?'ในขณะนี้ จอร์จนั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์และกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเยทส์เขาตอบว่า 'นายน้อย คุณเป็นตัวละครหลักของฉลองของคร

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 195

    เอริคอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาชี้ไปที่ฟิลิปและพูดว่า “เวรเถอะ! นายพูดว่าอะไรนะฟิลิป? นายกำลังจะพาวินน์ไปที่นั่นเหรอ? นายจะพาเธอไปที่นั่นได้อย่างไร? นายมันก็แค่เศษขยะ!“นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์เซอร์รัสเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นคฤหาสน์ที่ลึกลับที่สุดในเมืองริเวอร์เดล! เจ้าของใช้เงินหนึ่งพันล้านในการสร้าง!“นายกำลังจะบอกว่านายมีคุณสมบัติที่จะได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”เอริคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพูดคำพูดที่เลวร้ายและคำเหน็บแนมทุกประเภทเขาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาเริ่มหัวเราะเยาะฟิลิปเช่นกันฟิลิปเพิ่งทำให้ตัวเองอับอาย!เขายังคงพยายามโอ้อวดแม้ว่าทุกสิ่งจะมาถึงจุดนี้แล้วใบหน้าของวินน์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยความอับอายเช่นกัน เธอเตะฟิลิปใต้โต๊ะเพื่อบอกให้เขาหยุดพูดเธออายเป็นอย่างมากแล้ว แต่ฟิลิปไม่ยอมหยุดพูด!เขาจะหยุดหลังจากที่เขามีปัญหากับทุกคนเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ วินน์ก็เริ่มโกรธอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพอทนกับฟิลิปได้ เธอพูดเบา ๆ ว่า “พอแล้ว หยุดพูด นายอยากให้เราดูโง่เหรอ?”ฟิลิปพูดไม่ออก เขาจับจมูกของเขาและพยักหน้า

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 194

    บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 193

    ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 192

    'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้

DMCA.com Protection Status