Share

บทที่ 7

Author: ปรมาจารย์ยูผู้เล่นควัน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ในที่สุดรถเบนท์ลีย์ก็มาหยุดที่ ริเวอร์เดล เวอร์เทียส คอร์ท ร้านอาหารที่ดังที่สุดในเมือง สถานที่ที่มีเฉพาะเหล่าเศรษฐีแหละคนดังถึงจะมารับประทานอาหารที่นี่ได้ เวอร์เทียส คอร์ท กำหนดให้ผู้ที่จะมาทำการจองร้านจะต้องเป็นสมาชิกที่มีการใช้จ่ายขั้นต่ำอย่างน้อยหนึ่งล้าน เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์การเป็นสมาชิกเอาไว้ได้

และที่นั่น ผู้ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าของ เวอร์เทียส คอร์ท คือนักธุรกิจชื่อดัง ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้ง กรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์ บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและส่งออกโดยจะเน้นที่ผลงานศิลปะ ในฐานะผู้บริหารของบริษัท แค่ตัวรัสเซลเองก็ร่ำรวยมีทรัพย์สินถึงสามพันล้าน และเขายังเป็นนักสะสมชื่อดังที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย คนดังที่มาอยู่ในชุมชนของนักสะสมท้องถิ่น

รัสเซลได้พาเหล่าผู้บริหารระดับสูงอีกกว่าสิบคน มายืนรอด้วยความเคารพที่ด้านหน้าทางเข้าร้าน เวอร์เทียส คอร์ท กับเขาด้วย เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้เหล่าผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านไม่น้อย บางส่วนถึงกับอุทานออกมา

“นั่นไม่ใช่ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้งกรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์หรอกเหรอ? เขามายืนรอใครกัน มากันเยอะแยะ อลังการขนาดนี้?”

“ช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากนัก! นักธุรกิจพันล้านอย่างรัสเซลมายืนรออย่างนอบน้อมอยู่ที่ทางเข้าของร้าน เวอร์เทียส คอร์ท”

“จะมีคนสำคัญมาที่ร้านอย่างนั้นหรอ? เขาเป็นใครกันนะ ต้องไม่ได้มาจากริเวอร์เดลเป็นแน่”

เมื่อฟิลิปเห็นกลุ่มคนแต่งตัวดีมีชาติตระกูลยืนรอต้อนรับอยู่ที่ทางเข้าของ เวอร์เทียส คอร์ท เขานั่งขมวดคิ้วอยู่ด้านในรถเบนท์ลีย์ “ผมบอกว่าไม่ต้องการเป็นที่สนใจไม่ใช่เหรอ? การต้อนรับใหญ่โตนี่มันอะไรกัน?”

จอร์จยิ้มเจื่อนออกมา “นายน้อย ท่านประธานฟีลด์คงอยากจะสร้างความประหลาดใจให้คุณ”

“ประหลาดใจกะผีน่ะสิ! ผมไม่ชอบ” ฟิลิปพูดอย่างเย็นชา “ไปจอดรถที่ลานจอดรถแล้วบอกเพื่อนของคุณให้มาพบพวกเราเป็นการส่วนตัว”

“เข้าใจแล้วครับ นายน้อย” จอร์จพยักหน้า

รถยนต์เคลื่อนตัวออกไปยังลานจอดรถ

รัสเซลยืนรออยู่ที่ด้านหน้าเวอร์เทียส คอร์ท อย่างใจเย็นเฝ้ารอแขกคนสำคัญของเขาที่จะมาถึงในวันนี้ เขาบากหน้าไปขอร้องเพื่อนสำหรับโอกาสนี้

ด้านข้างเขาคือลูกชายของเขา ไทเลอร์ ฟีลด์ หนุ่มน้อยเอามือล้วงกระเป๋าก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “พ่อ นี่เรากำลังรอใครอยู่? พวกเขาจะหยิ่งยโสเกินไปแล้วนะ นี่มันก็ผ่านไปกว่า 20 นาทีแล้ว”

รัสเซลเหลือบมองหน้าไทเลอร์ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงเบา “ทำตัวให้ดี ถ้าพวกเขามาถึงแล้วแกสร้างความผิดพลาดอะไร ฉันจะจัดการกับแกทีหลัง”

ไทเลอร์พ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่พอใจ รู้สึกเศร้าใจขึ้นไปอีก เขาวางแผนที่จะไปคลับกับเพื่อนของเขา แต่พ่อกับลากเขามาที่นี่เพื่อมาพบกับนักลงทุนคนสำคัญ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของชายคนนั้นว่าจะโผล่มาเสียที

ในขณะนั้นเอง รัสเซลก็ได้รับโทรศัพท์ เขาหมุนตัวกลับด้วยท่าทีจริงจัง “เอาล่ะทุกคนเข้าไปด้านในกัน พวกเขามาถึงที่นี่แล้ว”

มาถึงที่นี่แล้ว? หลายหลายคนต่างรู้สึกสับสนแต่ส่วนมากพวกเขารู้สึกหงุดหงิด

ไทเลอร์รู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก เขาบ่นอุบเบา ๆ “บ้าอะไรกันวะเนี่ย? คนคนนี้เป็นใครกัน? จนถึงตอนนี้ฉันก็รอมาเกือบทั้งวันแล้วแต่ไม่ยักกะเห็นแม้แต่เงาของพวกเขา” แต่ถึงกว่านั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาต่อหน้าพ่อของเขา ทำได้แต่เพียงย่นหน้าแล้วตามรัสเซล เข้าไปในร้านอาหาร

เมื่อรัสเซลได้รับโทรศัพท์เขาก็พาลูกชายติดตามไปด้วย รีบเร่งไปที่ห้องรับรองส่วนตัวตรงหัวมุม

เมื่อประตูถูกผลักออก ไทเลอร์ก็พบเข้ากับคนสองคนที่ยืนอยู่ด้านใน แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ฟิลิป

บ้าเอ้ย? นี่น่ะเหรอนักลงทุนคนสำคัญ? พ่อจะต้องตาบอดไปแล้วแน่ ส่วนไหนของชายคนนี้กันที่ดูภูมิฐาน เขาดูเหมือนพวกผู้อพยพมาใช้แรงงานข้างถนนมากกว่า

ไทเลอร์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา ความไม่พอใจของเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก ต้องขอบคุณชายคนนี้ที่ทำให้เขาไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน

ตรงข้ามกับรัสเซลที่ยื่นมือสองมือของเขาออกไปหา จอร์จที่ยื่นอยู่โดยใช้ไม้เท้าค้ำ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ท่านประธานโทมัส ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว”

จอร์จยิ้มและพยักหน้า ยื่นมือเพียงแค่ข้างเดียวออกไปเพื่อให้ชายหนุ่มจับ

รัสเซลหันหน้าไปทางชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างจอร์จ “และนี่คือ…?”

“นี่คือนายน้อยของผม นายน้อยคลาร์ค และเขายังเป็นนักลงทุนคนนึงอีกด้วย” จอร์จแนะนำพร้อมกับรอยยิ้ม

นาย...นายน้อย? จอร์จ โทมัส นายน้อยของประธานจอร์จ?

รัสเซลเป็นประธานของบริษัท เขามีทรัพย์สินมูลค่าสามพันล้าน และเขายังเป็นคนมีชื่อเสียงในเมืองริเวอร์เดลแห่งนี้ถึงแม้เขาจะไม่สามารถสู้กับจอร์จ ผู้ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านได้ แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

เล่ากันมาว่าจอร์จ โธมัส ตั้งตัวขึ้นมาได้จากการทำงานให้กับตระกูลลึกลับที่มั่งคั่งตระกูลหนึ่ง และตระกูลนั้นก็เป็นผู้ครอบครองสินทรัพย์มากกว่าครึ่งหนึ่งในโลกนี้ นั่นก็หมายความว่านายน้อยของตระกูลคนนี้ก็เป็นคนที่น่ากลัวคนนึง เขาจะต้องเป็นคนที่น่าเกรงขามมากอย่างแน่นอน

เมื่อคิดได้ดังนั้น รัสเซลก็ยื่นมือออกไปจับมือเขาด้วยความประหม่า “ผมรัสเซล ฟีลด์ ผู้รับใช้อันต่ำต้อยคนนี้ มีตาหามีแววไม่ มองไม่ออกว่าคุณคือนายน้อยคลาร์ก ผมหวังว่านายน้อยจะยกโทษให้ผมได้นะครับ”

ฟิลิปพยักหน้าและจับมือกับเขาก่อนจะพูดขึ้น “ประธานฟีลด์ ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก เรามาเข้าเรื่องกันเลยเถอะ ผมได้ยินจากจอร์จมาว่าบริษัทของคุณต้องการเงินสนับสนุน บอกตัวเลขผมมาเลย”

รัสเซลเหลือบมองไปทางจอร์จ แต่ก็ได้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังพักสายตา รัสเซลจึงพูดขึ้น “นายน้อยคลาร์ก บริษัทของเรากำลังเตรียมการที่จะเปิดตลาดงานศิลปะเข้าสู่นานาประเทศ ช่องทางการขายในประเทศอเมริกาและอิตาลีดูจะดำเนินการไปได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจากการคาดการณ์ของเราต้องการเงินหรอเงินลงทุนประมาณหนึ่งพันล้านครับ แต่กรุณาอย่ากังวลไป เราจะแบ่งหุ้นให้คุณ 25% และยังมีโบนัสประจำปีอีกด้วย”

เงินจำนวนหนึ่งพันล้าน ไม่ใช่ตัวเลขน้อย ๆ เลยถึงแม้รัสเซล จะมีทรัพย์สินสามพันล้าน แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเอาเงินหนึ่งพันล้านไปลงทุน

พันล้าน ฟิลิปพึมพำ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาดูจะใช้ความคิดหนัก

นี่ทำให้รัสเซลรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่ข้างใน การที่จะขอเงินลงทุนหนึ่งพันล้านตั้งแต่ครั้งแรกเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่ นอกเหนือจาก เอเปก กรุ๊ป แล้วก็คงไม่มีใครในเมืองริเวอร์เดลแห่งนี้ที่จะมีความสามารถพอที่จะช่วยลงทุนให้กับเขาได้

แต่สิ่งที่ฟิลิปพูดมาถัดจากนั้นถึงกับทำให้รัสเซลตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่ไทเลอร์ ที่เคยดูถูกฟิลิปตั้งแต่ตอนเดินเข้ามาในห้องก็ยังตกตะลึงไปเช่นกัน

“ผมจะลงทุนสองพันล้านแต่ผมต้องการส่วนแบ่ง 40%” ฟิลิปยิ้มราวกับว่าเขาเพียงแค่พูดถึงเรื่องตัวเลขธรรมดาทั่วไปเท่านั้น

สองพันล้าน! นี่เขาฝันไปหรือเปล่า? รัสเซลรู้สึกราวกับว่านางฟ้าแห่งความโชคดีกำลังช่วยเขาอยู่ ช่างเป็นเรื่องน่าประหลาดใจแท้

บริษัทของเขามีสินทรัพย์ทั้งหมดรวมกันเกินสามพันล้านอยู่เล็กน้อยแต่นี่พวกเขากลับเสนอที่จะลงทุนสองพันดอลลาร์อย่างง่ายดาย ช่างน่ากลัวเสียจริง! นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว! หรือนี่คืออำนาจแห่งเงินเงินทุนของเหล่าชนชั้นสูงที่แอบซ่อนอยู่?

ส่วนแบ่ง 40% ก็ยังถือว่ารับได้สำหรับเงื่อนไขนี้ “นายน้อยครับ คุณแน่ใจหรือครับว่าจะลงทุนสองพันล้าน” รัสเซลแทบจะพูดไม่ออกเนื่องด้วยความตื่นเต้นที่มีมากเกิน แต่เขาก็สงบสติอารมณ์ของตัวเองลงเพื่อที่จะถามขึ้น

“น้อยไปอย่างนั้นเหรอ? ฉันเพิ่มให้อีกนิดก็ได้นะ” ฟิลิปพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ

อีก...อีกนิดงั้นเหรอ?!

รัสเซลแทบจะล้มทั้งยืน เขารีบตอบกลับ “ไม่ ไม่เลยครับสองพันล้านก็พอแล้ว”

แค่นี้ก็พอแล้วด้วยเงินสองพันล้าน รัสเซลมั่นใจว่าเขาจะสามารถตีตลาดทั้งอเมริกาและอิตาลีได้ และหลังจากนั้นบริษัทของเขาเองก็จะสามารถทำกำไรพุ่งขึ้นไปถึงหนึ่งพันล้านได้

รัสเซลรีบบอกให้เลขาของเขาเข้ามาด้านในพร้อมกับกล่องยาวหรูหราในมือ รัสเซลหยิบเอาม้วนกระดาษออกมาจากกล่อง คลี่ออกพร้อมกับยิ้ม “นายน้อยคลาร์ก นี่เป็นภาพเขียนของแท้โดยจิตรกรที่มีชื่อเสียง ทัง โบฮู จากประเทศจีน ผมเก็บไว้มานานหลายปีและวันนี้ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณในฐานะเหรียญรางวัลแสดงถึงความยินดียิ่งของผม”

ในฐานะนักสะสมที่มีชื่อเสียงในประเทศ ภาพวาดที่รัสเซลมอบให้เป็นของขวัญนี้เป็นของแท้อย่างแน่นอน ในตลาดภาพวาดของทางโบว์ฮูมีมูลค่ามากกว่าสิบล้าน

อย่างไรก็ตามสำหรับรัสเซลล์แล้วเปรียบเทียบกับมูลค่าที่ฟิลิปลงทุนกับเขา ภาพวาดนี้เทียบไม่ติดเลยสักนิด

ฟิลิปเพียงแค่จ้องมองไปที่ภาพนั้นและพยักหน้า “ขอบคุณมาก ท่านประธานฟีลด์” เขาม้วนภาพกลับก่อนจะสอดไว้ที่ใต้แขนและเดินออกจากห้องอาหารส่วนตัวไปกับจอร์จ

เมื่อพวกเขาออกจากห้องไป ฟิลิปมองเห็นชายวัยกลางคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ เดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “นายน้อยคลาร์ก กรุณารอก่อนครับ ผมเป็นเจ้าของร้านอาหาร เวอร์เทียส คอร์ท แห่งนี้ชื่อ คาเวียร์ มอร์ริส ครับ”

ทั้งฟิลิปและจอร์จหยุดชะงักมองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยความสับสน

เมื่อคาเวียร์เห็นจอร์จยืนนิ่งอยู่ด้านหลังฟิลิป เขาก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก มันเป็นเรื่องจริง! ประธานฟีลด์ พูดได้ถูกต้อง! ชายหนุ่มที่สามารถทำให้ชายที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองยืนอยู่ด้านหลังเขาได้ต้องเป็นคนที่พิเศษมากแน่

“นายน้อยคลาร์ก ประธานโทมัส ผมไม่ทราบว่าพวกคุณทั้งสองจะมาที่นี่จึงไม่ได้ออกมาต้อนรับคุณ นี่เป็นบัตรแพลทตินั่ม วีไอพี สำหรับห้องอาหารเวอร์เทียส คอร์ท ถ้านายน้อยคลาร์ก ไม่รังเกียจ กรุณารับไว้ด้วยเถอะครับ” คาเวียร์พูดขึ้น เขามีเป้าหมายที่จะตีสนิทกับฟิลิปในคืนนี้

ฟิลิปมองไปที่คาเวียร์ครู่นึง หยิบบัตรสมาชิกมาก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอบคุณมาก”

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มต้นเดินอีกครั้งปล่อยให้จอร์จจัดการเรื่องที่เหลือ

จอร์จยืนรอสักพักก่อนจะพูดขึ้น “มิสเตอร์คาเวียร์ นายน้อยของผมไม่ชอบเป็นที่จะเป็นจุดสนใจ ถ้าหากใครถาม…”

“เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้ว ท่านประธานโทมัส อย่าได้กังวลไป จะไม่มีใครนอกเหนือจากผมรู้ตัวตนของ นายน้อยคลาร์กเด็ดขาด” คาเวียร์ รีบรับปากยืนยันออกไปทันที

กลับมาที่ฟิลิป หลังจากออกมาจาก เวอร์เทียส คอร์ท เชาเลือกที่จะไม่นั่งรถเบนท์ลีย์ไปกับจอร์จ แต่จะเช่าจักรยานแทน อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาเพิ่งจะก้าวเท้าออกมานอกประตูร้าน เขาก็บังเอิญเจอเข้ากับวินน์ จอห์นสตัน!

ตายล่ะ! เขาจะอธิบายยังไงดีกับการที่มาเจอเธอที่นี่?

“ฟิลิป คุณมาทำอะไรที่นี่?” วินน์เดินนำกลุ่มชายหญิงที่แต่งตัวดูดีเดินเข้ามาที่ เวอร์เทียส คอร์ท

เธอยืนจ้องฟิลิปด้วยความงุนงงสงสัย อีกฝ่ายรีบอธิบายขึ้นอย่างกระวนกระวาย “ผมมาที่นี่เพื่อส่งของนะ”

ส่งของ? ส่งอาหารที่ร้านอาหารอย่างนั้นน่ะเหรอ?

วินน์ขมวดคิ้วเล็กน้อยสีหน้าของเธอเย็นชา เธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อมองเห็นร่างปวกเปียกของเขา และสิ่งที่ทำให้เธอหงุดหงิดมากที่สุดก็คือการที่เพื่อนร่วมงานของเธอต้องเจอฟิลิป

และตอนนั้นเองก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น “รองผู้จัดการ จอห์นสตัน คนส่งอาหารคนนี้เป็นสามีของคุณอย่างนั้นเหรอ? เขาดูก็งั้นงั้นแหละสำหรับแมงดาอย่างเขาน่ะนะ”

Related chapters

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 8

    เสียงที่พูดขึ้นมาไม่น่าพิศมัยนัก ฟิลิปเงยหน้าขึ้นมาเจอเข้ากับชายที่พุงยื่นพลุ้ย จ้องมาที่เขาด้วยสายตาเยาะเย้ยแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก? ฉันจะเป็นแมงดาหรือไม่แล้วยังไง? ฉันไม่รู้จักแกด้วยซ้ำ ฟิลิปทำปากเบะ ตั้งใจจะไม่สนใจเขา ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินออกไปแต่เจ้าอ้วนนั่นไม่ปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ เขาเดินไปขวางทางฟิลิป และพูดจาถากถางเขาต่อหน้าเขาตรง ๆ “ทำเป็นเมินผมงั้นเหรอ? นิสัยดีเยี่ยมไปเลย! ผมได้ยินมาว่าธุรกิจของคุณพังไม่เป็นท่า และตอนนี้รองผู้จัดการจอห์นสตันของเราก็เป็นคนหาเลี้ยงปากท้องครอบครัวแทน ชายหนุ่มอย่างคุณฉันนี่ช่างกล้าที่จะเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินนะ”ฟิลิปขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจำชายคนนี้ได้เขาคือ เกวิน แซค ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทที่วินน์ทำงานอยู่ ชายคนนี้เคยพยายามที่จะข่มขู่วินน์ แล้วฟิลิปก็เคยมอบบทเรียนให้กับเขา แต่ในตอนนี้เค้ามองฟิลิปว่าอยู่ต่ำกว่าเขา ชายหนุ่มจึงดูถูกเหยียดหยามเขาไม่หยุดหย่อนเพื่อนร่วมงานคนอื่นของวินน์ต่างก็มองฟิลิปด้วยสายตาแปลกประหลาด พวกเขารู้เรื่องของฟิลิปเพียงเล็กน้อย รู้เพียงแค่ว่าเขาเคยเป็นนักลงทุนที่มุ่งมั่น แต่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ในสถานะขอ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 9

    ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ โรสโบกบัตรไปมาก่อนจะชำเลืองมองไปทางฟิลิป อย่างเย่อหยิ่งและพูดขึ้น “ช่วยตรวจสอบที ว่าบัตรใบนี้สามารถจองห้องอาหารส่วนตัวได้หรือเปล่า”ทุกคนกลั้นหายใจรอคอยที่จะได้เห็นฟิลิปขายหน้าหญิงสาวที่อยู่ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ รับบัตรไปรูดที่เครื่องและทันทีสีหน้าของเธอก็เป็นกังวลขึ้นมา เธอถามขึ้น “คุณผู้หญิงคะ นี่นี่บัตรของคุณงั้นเหรอ?”เมื่อโรสเห็นดังนั้นเธอก็ส่ายหน้า ยื่นมือของเธอที่ทาเล็บสีแดงก่ำออกมา ชี้ไปที่ฟิลิปที่ถูกยืนห้อมล้อมและโดนหัวเราะเยาะอยู่ “ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นของเขา” ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องเหลวไหลสิ้นดี! ฟิลิปทำให้ตัวเองต้องขายหน้า และวินน์ก็จะเสียหน้าไปด้วยเช่นกัน นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ! นี่มีชายที่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าอยู่ตลอดจริง ๆ งั้นเหรอ?โรสมีความสุขเป็นอย่างมาก เธอจ้องมองไปที่วินน์ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อย่างมีความสุข ก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้น “รองผู้จัดการจอห์นสตัน สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”วินน์รู้สึกขายหน้าเป็นที่สุด เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างขุ่นเคือง เตรียมตัวที่จะตำหนิเขาแต่หญิงสาวที่อยู่แผนกต้อนรับก็เข้ามาขัดเสียก่อน เธอลุกขึ้นยืน

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 10

    ฟิลิปจ้องไปทางพวกเขาอย่างใจเย็น สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกไคล์มองมาที่ฟิลิปด้วยความไม่พอใจ ชายคนนี้ดูธรรมดามาก และเขายังใจเย็นขนาดนี้ได้ยังไงกัน? “น่าสนใจดีนี่!”“พี่ชาย คุณสามารถจ่ายเงินสามแสนได้ไหม?” ไคล์ไม่ใช่พวกนักเลงที่จะได้เริ่มลงมือต่อยตีโดยที่ไม่ถามหาเหตุผล สามแสนเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนทั่วไป ไคล์รู้สึกว่าชายหนุ่มอย่างฟิลิป ไม่สามารถจ่ายเงินจำนวนนี้ได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังต้องถาม ต้องมีศิลปะทางการทูตเสียก่อนที่จะลงมือรุนแรง“ฉันขอโทษด้วยนะ แต่เขาเป็นคนที่ฝ่าไฟแดงมา อย่างนั้นแล้วเขาก็ควรจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด อีกอย่างเราก็ไม่ได้ชนกันเสียหน่อย” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็นเจคอปชี้หน้าฟิลิป ก่อนจะคำรามออกมาด้วยความโกรธ “หมายความว่าแกจะไม่จ่ายยังงั้นเหรอ?”ฟิลิปจ้องไปที่เขา เงียบไม่ตอบรับไคล์ขมวดคิ้วเล็กน้อย หันหน้าไปมองทางรถฮาร์ลีย์ที่พังยับเยินอยู่บนพื้นถนนก่อนจะพูดขึ้น “พี่ชายสามแสนไม่มากเท่าไหร่หรอกนะ ก็แค่ขาข้างหนึ่ง”นี่เป็นคำขู่ สายตาของฟิลิปเปลี่ยนเป็นเย็นชา แววตาของเขาส่องประกายวิบวับในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลที่มั่งคั่ง เงินสามแสนเป็นปัญหาสำหรับเขาไหม? ก็ไม่เลย แต่เ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 11

    เฮ้อ! ภรรยาของเขาสวยเกินไปทำให้ผู้คนมากหน้าหลายตามาตามจีบเธอ มันทำให้ฟิลิปปวดหัว“เฮ้ เอเดนมาถึงแล้ว! เข้ามาสิ มานั่งลงข้างลุงจอห์นสตัน” มาร์ธาตื่นเต้นดีใจ เธอออกไปต้อนรับเขา “เธอเอาของขวัญมาด้วยทำไม? ไม่จำเป็นเลย เธอใจดีเกินไปแล้วแค่เธอมาที่นี่ก็ดีมากแล้ว”“แต่นี่เป็นงานวันเกิดของลุงจอห์นสตันนี่ครับ” เอเดนยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งด้านข้างชาร์ลส์ในตอนนี้เองก็ผู้คนต่างพากันจ้องมองมาที่ฟิลิปด้วยสายตาเยาะเย้ย ลูกเขยของตระกูลจอห์นสตัน คนนี้ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี! แม้แต่คนนอกยังได้นั่งข้างชาร์ลส์ จอห์นสตัน แต่ในฐานะลูกเขยเขากลับได้นั่งใกล้ประตู การปฏิบัติที่แตกต่างนี้แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดมาร์ธายิ้มอย่างจริงใจในขณะที่เธอจ้องมองไปที่เอเดนราวกับว่าเธอกำลังจ้องมองลูกเขยในอนาคตอยู่ “ต้องขอบคุณเอเดน ที่ช่วยจองห้องรับรองส่วนตัวนี้ ทำให้พวกเราได้มาทานอาหารที่เวอร์เทียส คอร์ทในวันนี้”ผู้คนต่างมองไปที่เอเดนด้วยด้วยความเอ็นดู การที่จะจองห้องจัดเลี้ยงรับรองส่วนตัวที่ เวอร์เทียส คอร์ทได้นั้นจะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นและการที่จะเป็นสมาชิกที่นี่ได้ ก็จะต้องมียอดใช้จ่ายอย่างน้อยหนึ่งล้านต่อปี เขาช่างเ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 12

    มองดูผู้คนที่ส่งเสียงเกรียวกราว วินน์รู้สึกราวกับนั่งอยู่บนเข็ม ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าฟิลิปเตรียมอะไรมา แต่เขาก็บอกกับเธอว่ามันคือภาพวาดฟิลิปไม่ใช่คนโง่ดังนั้นเขาจึงเตรียมภาพวาดที่ได้มาจากรัสเซล แต่น่าเสียดายที่วินน์ไม่ได้รู้ เธอคิดว่าฟิลิปคงซื้อภาพวาดทั่ว ๆ ไปมาเท่านั้น แต่ตอนนี้ เอเดนได้มอบภาพวาดของศิลปินที่มีชื่อเสียงชาวจีน และได้รับคำชมมากมายจากทุกคน ภาพวาดของ ฟิลิป เมื่อเทียบกับของหายากเช่นนั้น รั้งแต่จะเป็นการทำให้เขาโดนดูถูก ถ้าเขาเอามันออกมา“มันก็แค่ของขวัญธรรมดา ไม่มีอะไรให้ดูหรอก” วินน์พูดขึ้นแทนฟิลิป เธอจ้องเขาด้วยสายตาพิฆาต ถ้าเขาทำให้ตัวเองต้องอับอายต่อหน้าทุกคนวันนี้เธอจะเกลียดเขาตลอดไป! เธอคงจะไม่มีวันเชิดหน้าชูตาต่อหน้าเอเดนได้อีก“พี่ ทำไมพี่หยาบคายอย่างนั้นล่ะ พี่จะเมินเฉยต่อน้ำใจของพี่เขยลูกพี่ลูกน้องอย่างนั้นเหรอ?” ลินน์หัวเราะคิกคักในขณะที่พูด เธอเดินเข้ามาและดึงกล่องของขวัญกล่องยาวที่อยู่ใต้โต๊ะที่ฟิลิปแอบซ่อนไว้ออกไป“ดูสิมันเป็นกล่องของขวัญกล่องยาวเหมือนกันเลยจะเป็นภาพวาดเหมือนกันไหมนะ?” ลินน์จงใจลากเสียงของเธอที่เต็มไปด้วยคำถากถางฟิลิปไม่รู้จะพูดอะไรเขาจึ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 13

    “ในเมื่อมิสเตอร์คลาร์กไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมก็จะไม่รบกวนพวกคุณต่อขอให้สนุกให้เต็มที่นะครับ” จู่ ๆ คาเวียร์ก็เข้ามาพร้อมกับของขวัญแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้ทุกคนตกตะลึงชาลส์กระแอมขึ้นมา ในมือยังคงถือถือบัตรแล้วถามขึ้น “มีใครในนี้ที่รู้จักมิสเตอร์คลาร์กบ้าง?”ทุกคนส่ายหน้า คน ๆ นั้นจะต้องมีอำนาจถึงขนาดที่ทำให้เจ้าของร้านเวอร์เทียส คอร์ท นำอาหารหน้าตาน่ากินและไวน์ชั้นเลิศมาให้ด้วยตัวของเขาเอง เขาจะต้องไม่ใช่คนที่ใครก็จะเข้าถึงได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน“จะเป็นไปได้ไหมที่จะเป็นฟิลิป?”ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนพูดติดตลกขึ้น แต่ทุกคนในห้องก็ส่งเสียงหัวเราะลั่นออกมา“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว! มันจะมีจะไปใช่เจ้าเศษขยะนั่นได้ยังไง? ถ้าเป็นเขาจริง ฉันจะกินไวน์ทั้งขวดนี้ไปเลย”“นอกเสียจากนามสกุลที่เหมือนกัน มีอะไรอีกที่พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของเราจะเอาออกมาให้พวกเราดูได้?”กลุ่มเด็กวัยรุ่นสองสามคนพูดดูถูกเขาอย่างไม่ไว้หน้าวินน์ทนต่อไปอีกไม่ไหวเธอตำหนิขึ้นมาอย่างโกรธจัด “พอได้แล้วพวกนายพูดอะไรกันอยู่? ถึงยังไงซะเขาก็ยังเป็นพี่เขยลูกพี่ลูกน้องของพวกเธอ!”ชิ! กลุ่มเด็กวัยรุ่นเลิกคิ้วขึ้นอย่างหยิ่งยโ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 14

    ฟิลิปนิ่งคิดก่อนที่จะพูดขึ้น “ผมจะยังไม่เจอเขาตอนนี้ ไว้ค่อยคุยกันโอกาสหน้าแล้วกัน”แอนนาตอบกลับ “เข้าใจแล้วค่ะมิสเตอร์คลาร์ก” หลังจากวางสาย ฟิลิปนั่งลงที่โถงทางเดินและผล็อยหลับไปเช้าวันถัดมา วินน์พูดกับเขาอย่างเย็นชา “ฉันจะพามิล่ากลับบ้านบ่ายนี้ คุณจะไปกับฉันไหม?”ฟิลิปพยักหน้า ยิ้มให้เธออย่างขมขื่น “ผมจะไปขอโทษคุณพ่อ”หัวใจของวินน์เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น แต่เธอยังคงวางหน้าเฉย และพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรในตอนบ่าย ฟิลิปและวินน์พามิล่ามาที่บ้านตระกูลจอห์นสตัน บรรยากาศในบ้านเย็นยะเยือกขึ้นในทันทีเมื่อพวกเขามาถึง“พ่อคะ หนูกลับมาแล้ว” วินน์แกล้งพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีไม่มีใครออกมาต้อนรับพวกเขา ชาร์ลส์นั่งอยู่ที่โซฟาสวมแว่นตาอ่านหนังสือในขณะที่เขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์ส่วนมาร์ธากำลังยุ่งอยู่ในครัวฟิลิปวางมิล่าลง เด็กหญิงตัวน้อยรีบไปหลบที่ระหว่างขาด้านหลังพ่อของเธอ สวมกอดขาของฟิลิปไว้แน่น เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตากลมโตใสซื่อของเธอ และบ่นพึมพำด้วยเสียงเล็ก “พ่อคะ คุณตากับคุณยายไม่ชอบหนูเหรอคะ?”ฟิลิปย่อตัวลงก่อนจะลูบหัวเล็กของมิล่าด้วยความรักใคร่ เขาส่ายหน้าก่อนจะ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 15

    เอเดนที่ก่อนหน้านี้ยิ้มแก้มปริ ตอนนี้เกิดความงุนงง เกิดอะไรขึ้นกันนะ? มิสเตอร์คลาร์กไม่พอใจ ดังนั้นทางห้องจัดแสดงจึงไม่เปิดให้คนนอกเช่า จะมีเหตุผลไหนที่ดูไร้สาระขนาดนี้อีกไหม? ไม่ เขาต้องทำอะไรผิดไปเป็นแน่“มีอะไรรึเปล่าแอดดี้? มีเรื่องอะไรเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” ชาร์ลส์และมาร์ธาเห็นว่าท่าทีของเอเดนแปลกไป“โอ้ ไม่มีหรอกครับไม่มีอะไรทั้งนั้น พวกเขาแค่รายงานสถานการณ์ทางห้องจัดแสดงให้ผมรู้” เอเดนฝืนยิ้มออกมาก่อนจะพูดเสิรม “ลุงจอห์นสตันครับ ผมมีเรื่องด่วนต้องไปทำ ดังนั้นผมจึงต้องขอตัวกลับก่อน” แล้วเขาก็ยิ่งขึ้นเพื่อที่จะกลับออกไป“โอ้ แอดดี้ มันเร่งด่วนมากเลยงั้นหรือ? เธอจะไม่อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนหรือ?” มาร์ธาตามเขามาที่ประตูติด ๆ เพื่อส่งเขากลับไป“เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันครับ ลาก่อนครับคุณลุงจอห์นสตันคุณป้ามาร์ธา” เอเดนรีบพุ่งตัวไป แน่นอนว่าเขาต้องรีบ ถ้ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับการจองห้องจัดแสดง เขาต้องเสียหน้าต่อหน้าพ่อตาในอนาคตของเขาแน่ เขาจึงต้องรีบไปที่ห้องจัดแสดงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ส่งเอเดนกลับไป มาร์ธาเดินกลับเข้ามาด้านในพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าเธอ เมื่อเธอเห็นวินน์

Latest chapter

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 200

    นั่นคือธีโอ แซนเดอร์!ฟิลิปไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัวเขา เขากล้าดียังไงถึงไม่แสดงความเคารพ?บ๊อบเป็นคนแรกที่โกรธ เขาตะโกนใส่ฟิลิปว่า “ฟิลิป เมื่อมิสเตอร์แซนเดอร์มาที่นี่เพราะนาย ทำไมนายถึงยังนั่งอยู่? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายไม่มีมารยาททางสัมคมเหรอ?”หลังจากที่บ๊อบตะโกนอย่างโกรธจัด เอริค อารอน และคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าเขาเช่นกัน“ฟิลิป ยืนขึ้นและขอโทษมิสเตอร์แซนเดอร์เดี๋ยวนี้!”“ไอ้ขยะคนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ”พวกเขากำลังพูดถึงฟิลิปมากขึ้นและมากขึ้นคนเหล่านี้ไม่ชอบฟิลิปมานานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดสอดถ้าธีโอโกรธ ฟิลิปคงเสร็จแน่!อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและมองทุกคน จากนั้นเขาก็คว้าทัพพีและตักซุปให้วินน์ เขากล่าวว่า “นี่ไม่เลว มันดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรดื่มอีก”เวรเถอะ!บ๊อบ เดือดพลาด!ไอ้ขยะคนนี้ดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง!เมื่อบ๊อบกำลังจะตะโกนใส่เขาอีกครั้ง ฟิลิปจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่ง”“ได้ครับ!”ธีโอถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงอย่างมีความสุข เขานั่งถัดจากรัสเซลและพวกเขาก็พยักหน้าเมื่อสบตากันบ้าอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น? นี้เริ่มแปลกมากไปแล้วทุ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 199

    “ธีโอ แซนเดอร์? ธีโอ แซนเดอร์คนไหน?”"มิสเตอร์ธีโอ แซนเดอร์ จากองค์กรการกุศลธีโอดอร์?”“ราชาโลกของใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล ธีโอ แซนเดอร์ เหรอ? เขามาที่นี่ทำไม”ก่อนที่ญาติพี่น้องและรุ่นลูกหลานของครอบครัวเยทส์ที่อยู่ในลานบ้านจะฟื้นคืนสติ ทุกคนในห้องโถงเริ่มวิตกกังวลเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการและนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างรัสเซล ธีโอได้โด่งดังในเมืองริเวอร์เดลเนื่องจากเขามีอำนาจทางด้านมืดหากผู้มีอำนาจเช่นนั้นไม่ได้มาที่นี่อย่างจริงใจ อาจกล่าวได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อปลิดชีพใครบางคนเป็นเรื่องธรรมดาที่บ๊อบจะประหม่าไม่ใช่ทุกคนที่จะติดต่อกับชายผู้มีอำนาจอย่างธีโอได้ อีกอย่างคือไม่มีบุคคลธรรมดาคนไหนที่จะเชิญเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง ธีโอก็เดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ชุดสูทสีขาวและหมวกทรงฟีโดราของเขาเปล่งประกายไปทั่วอาณาเขต ใครบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดขยี้ด้วยการปรากฏตัวของเขาแน่นอนว่านั่นคือธีโอ แซนเดอร์ ราชาของโลกใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล!การปรากฏตัวของเขามีอำนาจเหนือทั้งงานฉลองเจสตกใจมาก นี่คือชายผู้ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมากในเมืองริ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 198

    'จอร์จ โธมัส คุณมันโคตรจะทำลายชีวิตฉัน!'ฟิลิปไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและเดินผ่านหน้าทุกคน โดยมีวินน์อยู่ข้าง ๆ เขาเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาที่หลังของเขามากกว่าสิบครั้ง พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับลูกศรพันดอกเมื่อพวกเขาอยู่ในลานบ้าน ทุกคนก็นั่งลง แน่นอนว่ารัสเซลนั่งอยู่ในห้องโถง หลังจากที่บ๊อบนั่งลงก่อนเมื่อเอริคเห็นว่าทุกคนอยู่ในห้องโถงและลานทางเดินกลาง เขาจึงตัดสินใจที่อยู่ตรงลานด้านนอก เขาเยาะเย้ยในขณะที่รู้สึกพอใจกับตัวเองว่า “ฟิลิป ไม่คิดว่าขยะอย่างนายจะรู้จักผู้ประกอบการและนักสะสมอย่างรัสเซล ช่างโชคดีเสียนี่กระไร!”แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ทุกคนก็บอกได้เลยว่ามันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ฟิลิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ความทุกข์ในใจเริ่มรุนแรงขึ้นเอริคเป็นตัวเคราะห์ร้ายของครอบครัวเยทส์ถึงกระนั้นฟิลิปก็ยังเพิกเฉยต่อเขา เขาเป็นแค่คนโง่ที่ไร้ค่า แล้วทำไมเขาต้องไปยุ่งกับเอริคด้วย?อีกด้านหนึ่ง รัสเซลเพิ่งนั่งลง เมื่อเขาเห็นฟิลิปที่มุมของลานด้านนอก กำลังถูกดูถูกโดยเอริคด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจคนฉ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 197

    บ๊อบรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้รัสเซลอยู่ที่นี่และให้ของขวัญเป็นภาพ 'กุ้ง' โดยฉี ไป่ซี่ นี่เป็นของขวัญล้ำค่า!ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถให้ของขวัญที่หรูหราเช่นนี้ได้ทุกคนเดินตามบ๊อบและออกมาที่ลานด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็มาถึงทางเข้าคฤหาสน์เอริคเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ขยับตัวตามมา เขาก็พูดอย่างเกลียดชังว่า “เป็นอะไรไป? คนสำคัญอย่างรัสเซล ฟิลด์ อยู่ที่นี่ นายไม่อยากไปต้อนรับเขาเหรอ?”ผู้ชายคนนี้มีตะปูที่ก้นของเขาเหรอ?เขายังนั่งอยู่กับที่ได้อย่างไร?หลังจากเสียงเตือนของเอริค ฟิลิปครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าคำพูดของเอริคนั้นสมเหตุสมผล เขาลุกขึ้นและตามวินน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนห่างจากฝูงชนเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่ต้องการที่จะไปอยู่ด้านหน้า ฟิลิปไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ทุกคนยืนที่ประตูด้วยความเคารพ รถมายบัคสีดำหยุดอยู่ที่ทางเข้าทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและรัสเซลก็ลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มบ๊อบเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากางมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า “มิสเตอร์ฟิลด์ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคนสำคัญเช่นคุณจะมาที่

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 196

    ปังประตูห้องน้ำเปิดออก และเจสก็เข้ามาเมื่อนางเห็นภาพตรงหน้าเธอจึงหันหลังเดินจากไป ก่อนที่เธอจะจากไป อย่างไรก็ตามเธอหันกลับมาและพูดว่า “พวกนายแต่งงานมานานแล้ว หาที่ที่ดีกว่านี้ ถ้าพวกนายอยากลึกซึ้งระหว่างกัน”หลังจากที่เจสจากไป ฟิลิปพูดด้วยความรำคาญว่า “ต้องมีอะไรผิดปกติกับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เธอทนไม่ได้ที่เห็นสามีและภรรยามีความสุขกัน”วินน์กลอกตามองเขาและเดินเข้ามาหาเขา เธอยืดหลังให้ตรงและติดกระดุมเสื้อให้เขาฟิลิปอยากจะสานต่อแต่วินน์ปัดมือของเขาออก “หยุด หาเศษหาเลย ไปกันเถอะ."ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เขาบ่นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เธอกลัวอะไร?"วินน์หันกลับมาและแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ เธอดูเย้ายวนภายใต้แสงแดดเมื่อพวกเขากลับมาที่งานเลี้ยง ก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้วฟิลิปเพิ่งนั่งลงได้หนึ่งนาทีเมื่อได้รับข้อความจากจอร์จ'นายน้อยพร้อมแล้ว รอการเซอร์ไพรส์ก่อนนะครับ'แปลกมันหมายความว่าอย่างไร?ฟิลิปตอบอย่างรวดเร็วว่า 'จอร์จ คุณหมายความว่าอย่างไร?'ในขณะนี้ จอร์จนั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์และกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเยทส์เขาตอบว่า 'นายน้อย คุณเป็นตัวละครหลักของฉลองของคร

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 195

    เอริคอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาชี้ไปที่ฟิลิปและพูดว่า “เวรเถอะ! นายพูดว่าอะไรนะฟิลิป? นายกำลังจะพาวินน์ไปที่นั่นเหรอ? นายจะพาเธอไปที่นั่นได้อย่างไร? นายมันก็แค่เศษขยะ!“นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์เซอร์รัสเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นคฤหาสน์ที่ลึกลับที่สุดในเมืองริเวอร์เดล! เจ้าของใช้เงินหนึ่งพันล้านในการสร้าง!“นายกำลังจะบอกว่านายมีคุณสมบัติที่จะได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”เอริคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพูดคำพูดที่เลวร้ายและคำเหน็บแนมทุกประเภทเขาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาเริ่มหัวเราะเยาะฟิลิปเช่นกันฟิลิปเพิ่งทำให้ตัวเองอับอาย!เขายังคงพยายามโอ้อวดแม้ว่าทุกสิ่งจะมาถึงจุดนี้แล้วใบหน้าของวินน์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยความอับอายเช่นกัน เธอเตะฟิลิปใต้โต๊ะเพื่อบอกให้เขาหยุดพูดเธออายเป็นอย่างมากแล้ว แต่ฟิลิปไม่ยอมหยุดพูด!เขาจะหยุดหลังจากที่เขามีปัญหากับทุกคนเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ วินน์ก็เริ่มโกรธอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพอทนกับฟิลิปได้ เธอพูดเบา ๆ ว่า “พอแล้ว หยุดพูด นายอยากให้เราดูโง่เหรอ?”ฟิลิปพูดไม่ออก เขาจับจมูกของเขาและพยักหน้า

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 194

    บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 193

    ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 192

    'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้

DMCA.com Protection Status